รีวิว Gla'co น้ำยาเคลือบกระจกรถยนต์ที่จะทำให้ทัศนวิสัยในการขับรถของคุณเปลี่ยนไป
สวัสดีครับ หลังจากที่เคยรีวิวในห้องรัชดามาครั้งนึงแล้วเกี่ยวกับการเคลือบแก้วรถยนต์ที่ G'zox Premium Car Coating กับรถของผมที่ใช้งานมาแล้วถึง 7 ปี
ครั้งนั้นผมเองค่อนข้างติดใจกับน้ำยาเคลือบกระจกยี่ห้อ Gla'co ซึ่งทาง G'zox เอามาเคลือบกระจกให้รถลูกค้าก็เลยถามข้อมูลของน้ำยาตัวนี้ สรุปก็เป็นน้ำยาที่ทาง Soft99 บริษัทแม่ของ G'zox นำเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทย โดยมีขายอยู่ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำเช่น สยามพารากอน เดอะมอลล์ เอ็มโพเรียม ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน ฝนเริ่มตกถี่ๆผมก็ได้ไปหาซื้อเจ้า Gla'co ตัวนี้มาเคลือบกระจกรถซะหน่อย ก็เลยทำรีวิวมาให้ดูกันด้วยอีกทีครับ
ปล.รูปเปิดเรียงซะสวยจะมีใครหาว่าผมเป็นม้ามั๊ยเนี่ย ฮ่าๆๆ
 ปกติเวลาฝนตกกระจกรถยนต์ของเราจะอมน้ำ(ไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรดี)ไว้อย่างนี้ฮะ เป็นเม็ดๆเต็มไปหมด ยิ่งเวลาขับรถกระจกหน้าจะเคลือบไปด้วยคราบน้ำทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ไม่ดี
 กระจกข้าง รวมถึงกระจกมองข้างก็มีปัญหาน้ำจับกระจกเป็นเม็ดๆแบบที่เห็นนี้เหมือนกัน
  ปัญหาเล่านี้แก้ไขได้ครับ หลายๆคนก็เอาน้ำยาเคลือบกระจกเนี่ยล่ะมาเคลือบ ส่วนตัวผมทำไมถึงเลือกใช้ตัวที่เอามารีวิวนี้เดี๋ยวบอกให้ฟังฮะ ตัวแรกที่จะแนะนำ ตัวนี้เป็นตัวที่ตั้งใจจะไปซื้อเลยครับ น้ำยาเคลือบกระจก Gla'co ตัวนี้ทาง Soft99 เคลมไว้ว่าเป็นน้ำยาสูตรพิเศษนาโนเทคโนโลยี เคลือบและกันน้ำเกาะติดกระจก รวมถึงคราบแมลงและฝุ่นละออง ส่วนตัวผมเองเคยใช้น้ำยาแบบยี่ห้อธรรมดาๆมาหลายครั้งครับ ส่วนใหญ่จะเป็นขวดแก้วแล้วก็มีฟองน้ำให้ชิ้นนึงมาทาแล้วเคลือบ ที่ผมชอบและหาซื้อเจ้าตัวนี้อย่างแรกที่ผมนึกถึงต้องยอมรับเลยว่าไม่ใช่ที่ตัวน้ำยาฮะ ผมว่ารูปร่างหน้าตาที่ใช้ง่ายของมันมากกว่าที่ทำให้ผมตัดสินใจซื้อ หัวเป็นฟองน้ำอย่างดีรูปร่างกลมแบบที่เห็นฮะ ไอ้แบบเก่าๆที่เคยใช้มันเปื้อนเปรอะมือมากฮะกว่าจะขัดเสร็จ อันนี้ได้ใจผมไปก่อนแล้ว
 วิธีใช้ก็ง่ายๆครับ เขย่าก่อนเปิดฝาเสร็จแล้วก็เอาตรงฟองน้ำคว่ำลงไปทากับกระจกเลย ทาให้ทั่วบานกระจกครับ
 ตรงกระจกไฟหน้ารถก็ทาได้เช่นกัน  และเนื่องจากมันเป็นหัวกลม มันก็เลยทาตรงจุดซ่อนเร้น .. เอ๊ะ!! ไม่ใช่สิ จุดที่โค้งมนหรือแคบๆได้สบาย  เมื่อทาเคลือบกระจกส่วนที่อยากทาหมด(ผมทาทุกจุดรอบคัน ยกเว้นกระจกมองข้าง) ปล่อยทิ้งไว้ซัก 5 นาทีครับ จะเห็นว่ากระจกมันเป็นคราบอย่างที่เห็น
 ระหว่างนั้นผมก็ไปแกะเจ้าตัว Gla'co อีกตัวที่ดันไปโดนมาด้วยกัน(ตั้งใจไปโดนอย่างเดียวแท้ๆ) ตัวนี้เรียกว่า Gla'co Zero ฮะผมว่าตัวน้ำยาก็น่าจะคล้ายๆตัวแรกที่ลงไป แต่น่าจะเข้มข้นกว่าหน่อยนึงเพราะมันใช้เฉพาะจุดครับ จุดที่ว่าคือกระจกมองข้างนั่นเอง อันนี้เห็นจากในรูปเค้าบอกน้ำจะไม่เกาะกระจกเลยแม้ว่าเราจอดรถเฉยๆ ที่สำคัญคือมันใช้ง่ายมากเพราะมันเป็นหัวสเปรย์ครับ แค่เขย่าแล้วก็ฉีดใส่กระจกมองข้างแค่นั้นเอง  ฉีดเสร็จก็ปล่อยมันไว้ก่อน เราก็กลับไปดูตรงกระจกส่วนอื่นที่เราเคลือบไว้ ตอนนี้ก็ถึงขั้นตอนทำความสะอาด ไม่ยากฮะขั้นแรกใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดน้ำยาตามกระจกก่อนรอบนึง แล้วขั้นที่ 2 เราก็เอาผ้าแห้งสะอาดๆเช็ดซ้ำอีกรอบ จบ!! ไม่มีคราบ ไม่ขึ้นฝ้า
 เรียบร้อย!! คราวนี้ได้เวลาเทส ไอ้ครั้งจะขับรถไปตอนฝนตกแล้วถ่ายก็ยังไงอยู่ กลัวจะเป็นอันตรายต่อรถรอบข้าง เอาน้ำฉัดใส่เองเลยแล้วกัน
 สังเกตดูจะเห็นว่าน้ำมันเกาะตัวเป็นเม็ดใหญ่ๆแล้วไหลออกจากกระจก  ปิดน้ำปุ๊บก็อย่างที่เห็น ... น้ำแทบไม่เกาะกระจกเหมือนตอนก่อนเคลือบเลย
 ลองไปนั่งดูจากที่นั่งคนขับบ้าง รูปนี้เป็นตอนฉีดน้ำใส่กระจก  พอปิดน้ำกระจกก็จะใสแบบนี้ล่ะฮะ
 ถ้าเราขับรถอยู่ แน่นอนว่าความเร็วจะทำให้น้ำไหลย้อนขึ้นไปด้านบน ทาง Soft99 เค้าก็เคลมว่าเพียงใช้ความเร็วแค่ 45-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงคุณก็ไม่ต้องใช้ที่ปัดน้ำฝนแล้ว ซึ่งผมก็ได้ลองขับแล้วน้ำมันก็จับตัวเป็นเม็ดแล้ววิ่งย้อนกระจกขึ้นไปทำให้การมองเห็นในเวลาขับรถตอนฝนตกดีขึ้นจริงๆ เราไม่ต้องใช้ใบปัดน้ำฝนเวลาฝนตกเลยด้วยซ้ำครับ แนะนำครับ ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาเคลือบกระจกยี่ห้อไหนมันทำให้การขับขี่ของเราดีขึ้นจริงๆ แน่นอนว่ามันคงต้องมีการเคลือบกันบ่อยหน่อยเดือนละครั้งหรือสองครั้งก็กำลังดีครับเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของน้ำยา สำหรับผมอย่างที่บอกว่า Gla'co ค่อนข้างตอบโจทย์เรื่องของความสะดวกสบายในการเคลือบผมถึงเลือกยี่ห้อนี้ครับ อ่อ .. อีกตัวที่ไปโดนมาคือเจ้านี่ครับ My And Carr ปั้มลมพร้อมน้ำยาอุดรอยรั่วมีขายอยู่ที่เคาเตอร์ Soft99 เหมือนกัน อันนี้ซื้อมาไว้เผื่อฉุกเฉินฮะ เผื่อว่าขับไปไหนแล้วยางรั่วโดนตะปูเจาะ เราอาจจะเปลี่ยนยางอะไหล่เองไม่เป็น อย่างรถผมเป็น SUV แน่นอนว่าแค่เปลี่ยนยางเส้นเดียวก็หอบแฮ่กแล้วล่ะครับ เจ้านี่ทำให้การเกิดเหตุพวกนั้นง่ายขึ้นเยอะ แต่ผมคงไม่รีวิวนะครับเพราะผมเองก็ไม่อยากเอามันมาใช้ไวๆนี้เหมือนกัน แค่เอามาบอกว่ามีติดรถไว้ก็ไม่เสียหาย ราคาก็ไม่ได้แพงอะไรนัก มีไว้อุ่นใจกว่า แต่ถ้าเป็นยางระเบิดก็ตัวใครตัวมันนะครับเจ้านี่คงช่วยไม่ได้แน่นอน
Create Date : 27 สิงหาคม 2557 |
|
0 comments |
Last Update : 27 สิงหาคม 2557 19:58:03 น. |
Counter : 4220 Pageviews. |
|
 |
|