วันนี้คุณ"รู้สึกตัว"แล้วหรือยัง...
Group Blog
 
<<
มกราคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
26 มกราคม 2549
 
All Blogs
 

“ถ้าดีพอไม่ต้องรอรางวัล”

บทความนี้อยู่ในหนังสือ “เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว” เล่ม 3 ของ “ดังตฤณ” เป่าจินได้มีโอกาสอ่านเมื่อวันก่อนเห็นว่าเป็นบทความที่ดีมาก จึงขออนุญาตนำมาใส่บล๊อคให้เพื่อนๆอ่านกันนะค่ะ (ขออนุญาตขีดเส้นใต้หรือเน้นคำเพื่อความเข้าใจเพิ่มขึ้นของตัวเองค่ะ)

อนุโมทนาสาธุกับท่านผู้เขียน เนื้อหาจากบทความนี้ทำให้เป่าจินเข้าใจการทำบุญ และ วิธีการทำบุญได้ดีขึ้น อีกทั้งเนื้อหาจากหนังสือของท่านทุกเล่มที่ได้อ่าน ทำให้มีกำลังใจในการต่อสู้กิเลส มีความพยายามที่จะขัดเกลาจิตใจ ท่ามกลางสภาวะโลกที่สับสนวุ่นวาย



-----------------------------

“ถ้าดีพอไม่ต้องรอรางวัล”

คนส่วนใหญ่ แม้เริ่มเชื่อกรรมวิบากแล้ว ก็ต้องการผลตอบแทนทันใจทำนองเดียวกับนักธุรกิจที่ลงทุนแล้วคาดหมายผลกำไรภายในเวลาเท่านั้นเท่านี้

พอดีแล้วไม่ได้ดีทันใจ ร้อยทั้งร้อยก็จะเริ่มสงสัย แล้วก็คิดคำอันนำไปสู่ความหลงผิด เช่น ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป นั่นก็เพราะปุถุชนทั้งหลายย่อมคาดหวังผลอันเป็นรูปธรรมภายนอก ให้ข้าวหมาแมวสองสามมื้อแล้วเอาไปบ่นกับเพื่อนว่าทำทานตั้งมากไม่เห็นรวยสักที หรือตั้งใจทำบุญวันนี้เพราะกะว่าถ้าวิบากกรรมมีจริงคงบันดาลให้ถูกหวยอาทิตย์หน้า พอไม่ถูกขึ้นมาก็โทษฟ้าโทษดิน ด่าทอเทวดาว่าไม่ยุติธรรมไปโน่น

กฎธรรมชาติตามจริง คือถ้าลงทุนน้อย แต่จะคอยผลกำไรมาก ก็ยากจะได้ผลตามปรารถนาเป็นธรรมดาครับ

แต่ถ้าเอาใหม่ เปลี่ยนมุมมองเสีย มาเน้นความสุขทางใจ คาดหมายว่าการทำดีเพื่อสละขยะส่วนเกินที่พะรุงพะรังออกจากใจ เพื่อความโปร่งเบา เพื่อความสบาย เพื่อความสะอาดหมดจด อย่างนี้คุณจะรู้สึกว่าทำดีได้ดีทันที ไม่ต้องรอ

ขอแจกแจงให้เห็นเป็นข้อๆ โดยสังเขป เริ่มต้นจากแง่ของ “การให้ทาน” ก่อน

1) ให้ทานด้วยเศษเงิน ด้วยเจตนาอนุเคราะห์ผู้ยาก ผลคือใบหน้าสว่างขึ้นทันที ความตระหนี่หวงทรัพย์ส่วนเกินถูกกระเทาะออกทันที เป็นเหตุให้สบายใจขึ้นทันที

2) ให้ทานด้วยเงินหนึ่งในสี่ของรายได้ ด้วยเจตนาปลูกสร้างหรือบูรณะถาวรวัตถุในพุทธศาสนา ผลคืออิ่มเอิบเบิกบานไปทั้งตัวทันที ความโลภอยากได้อยากมีถูกปลดทิ้ง เป็นเหตุให้ใจเบาลงทันที ( ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำบุญหนึ่งในสี่ของรายได้ทุกเดือนจึงจะเห็นผล แค่เอาครั้งเดียวก็เห็นชัดแล้ว และนี่เป็นเพียงหลักการ ขอให้คำนึงว่าตัวเองมีกำลังพอ ทำแล้วไม่เดือดร้อนกับตัวเองด้วย)

การให้ทานไม่ได้มีแต่การสละทรัพย์อย่างเดียว แต่ยังมี “การให้อภัย” ซึ่งยิ่งมีผลทางใจสูงกว่าทรัพยทานเสียอีก แจกแจงได้เช่น

1) ให้อภัยด้วยเหตุอันน่าขัดเคืองเล็กน้อย ด้วยเจตนาจะไม่ให้ตนเป็นผู้ผูกโกรธง่ายๆ แรกๆอาจมีความคาใจคุกรุ่นอยู่บ้าง แต่หลังๆเมื่อฝึกอภัยจนชำนาญแล้ว ผลเดี๋ยวนั้นคือความเย็นกายสบายใจในทันที โล่งหัวอกทันที คลายสีหน้าทันที เหมือนผ่อนคลายอิริยาบทมในท่าพัก หลังแบกของหนักขึ้นหลังมาครู่หนึ่ง

2) ให้อภัยด้วยเหตุบาดหมางควรแก่การพยาบาทแรง ด้วยเจตนาเลิกผูกพยาบาทจองเวรกันต่อไปให้ยืดเยื้อ ที่จะทำได้ต้องเคยให้อภัยทานแบบอ่อนๆไว้หลายครั้งจนชิน เมื่อสามารถทำได้จะทำให้ตัวเบาอย่างประหลาด ราวกับนักโทษที่หลุดจากการจองจำ หรือเหมือนคนไข้เพิ่งฟื้นไข้จากโรคร้ายกลับมากำลังวังชาเป็นปกติ หลังจากถูกรุมเร้าให้ร้อนรนมาช้านาน

ถัดจากการให้อภัยคือ การให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ถ้าเป็นความรู้ทางโลกเรียกว่า “วิทยาทาน”

1) ให้วิทยาทานระดับรู้วิธีคิด ด้วยเจตนาให้ผู้อื่นสามารถแก้ปัญหาที่ติดขัดได้ลุล่วง ผลคือเกิดความร่าเริงยินดี ยิ้มได้ด้วยความภูมิใจในตน

2) ให้วิทยาทานระดับรู้พอจะประกอบอาชีพ ด้วยเจตนาให้ผู้อื่นมีวิชา ตลอดจนสามารถเลี้ยงตัวต่อไป ผลคือความเต็มอิ่มให้ความมีเกียรติ ยืนอยู่ต่อหน้าศิษย์ด้วยความเป็นครูเต็มภูมิ

ต่อมาเป็นการให้ความรู้ที่ถูกที่ควร เรียกว่า “ธรรมทาน”

1) ให้ธรรมทานเป็นความรู้ความเข้าใจในเรื่องกรรมวิบาก ด้วยเจตนาให้ผู้อื่นไม่หลงเห็นผิดเป็นชอบ มุ่งแต่จะประกอบกรรมกันเป็นประโยชน์สุข เป็นที่พึ่งแก่เขาเองและคนรอบข้าง หากผู้ให้ธรรมทานรู้หลักกรรมวิบากตามพระพุทธเจ้าอย่างถูกต้อง กับทั้งประพฤติตนอยู่ในกรอบศีลธรรมด้วยตนเองแล้วจึงสอนผู้อื่น ผลคือความรู้สึกเหมือนเขตปลอดภัย เขตแห่งความเยือกเย็น เขตแห่งความสงบสุขทั้งกับตนเองและผู้อื่น ทั้งกับจะย้ำชัดกับตนเองยิ่งขึ้น ว่าต้องไม่พลาดหลงทำชั่ว และเร่งสั่งสมความดียิ่งๆขึ้น เพื่อหลีกห่างจากความประมาท

2) ให้ธรรมทานเป็นความรู้เรื่องการพ้นทุกข์ ด้วยเจตนามให้ผู้อื่นเลิกยึดมั่นถือมั่นในสิ่งไร้สาระแก่นสาร หากผู้ให้ธรรมทานมีกำลังใจพอจะปล่อยวางจริงๆแล้วจึงสอนผู้อื่น ผลคือความรู้สึกเบิกบานไม่มีประมาณกลายเป็นกำลังให้ภูมิจิตยกระดับความปล่อยวางยิ่งๆขึ้นอย่างง่ายดาย กระทั่งปล่อยวางได้ถึงขั้นละเอียดสุด

นอกจากนี้ยังมีทานประเภทอื่นๆ เช่นให้กำลังกายเป็นทาน หรือสละสิทธิ์เปิดทางให้คนอื่นก่อน ซึ่งต่างก็ต้องอาศัยกำลังใจในการเสียสละกำลังของตนหรือสิทธิ์ของตนทั้งสิ้น ยิ่งให้ทานมากเท่าไหร่ คุณจะยิ่งรู้สึกสบาย คลายความเร่าร้อนอึดอัด และอยู่ห่างจากภัยเวรทั้งปวงมากขึ้นเรื่อยๆ


ถัดจากความดีระดับทานคือความดี ระดับศีล ผลของความดีพอในระดับศีลแจกแจงได้เป็นข้อๆได้ด้วยการดู “ความสามารถงดเว้น” ดังต่อไปนี้

1) ตั้งใจงดเว้นการฆ่าสัตว์และการทำร้าย เมื่อถูกยั่วยุให้ฆ่าสัตว์หรือทำร้ายแล้วงดเว้นได้จริงๆ ผลที่เกิดขึ้นคือ ความมีอำนาจเหนือโทสะ และชัยชนะเหนือโทสะ จะทำให้รู้สึกปลอดภัยขึ้นแม้ในท่ามกลางภยันตราย ยิ่งถ้าหากยอมเสียชีวิตตนดีกว่าเอาชีวิตคนอื่นได้ล่ะก็ ระดับของเมตตาจะยิ่งท่วมใจ ราวกับนิ่งอยู่ในมหาสมุทรของความสุขทีเดียว คุณจะพบตามจริงว่ายิ่งเมตตาเท่าไหร่ ความสุขและความปลอดภัยยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

2) ตั้งใจงดเว้นการลักทรัพย์และการฉ้อโกง เมื่อถูกยั่วยุให้ขโมยหรือตุกติกแล้วงดเว้นได้จริงๆ ผลที่เกิดขึ้นคือความมีออำนาจะเหนือโลภะ และชัยชนะเหนือโลภะนั้น จะทำให้รู้สึกถูกต้องตรงทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีศรัทธาและความภูมิใจในความถูกต้อง การตัดสินใจเลือกต่างๆจะเป็นไปด้วยดียิ่งขึ้น ตั้งลำคอได้ตรงยิ่งขึ้น อกผายไหล่ผึ่งยิ่งขึ้น

3) ตั้งใจงดเว้นการประพฤติผิดในลูกเขาเมียใคร เมื่อถูกยั่วยุให้ประพฤติผิดทางกามแล้วงดเว้นได้จริงๆ ผลที่เกิดขึ้นคือความมีอำนาจเหนือราคะ และชัยชนะเหนือราคะนั้น จะทำให้รู้สึกสะอาดสะอ้าน ไม่อ่อนแอมักง่าย มีความยับยั้งชั่งใจในการเลือกคู่ครองที่เหมาะสมกับตน มีความอดทนต่อความผิดหวังในรักอันเป็นเรื่องยากสำหรับคนทั่วไป เมื่อเข้มแข็งพอจะไม่อ่อนข้อให้กับกามผิดๆ คุณย่อมอยู่ห่างจากความรู้สึกผิดและเสียงประฌามทั้งปวงเช่นกัน

4) ตั้งใจงดเว้นการพูดโกหก พูดเสียดแทงว่าร้าย พูดคำหยาบ และพูดพล่ามเพ้อเจ้อ เมื่อถูกยั่วยุให้พูดไม่จริง ไม่เป็นประโยชน์ แล้วงดเว้นได้จริงๆ ผลที่เกิดขึ้นคือความมีอำนาจเหนือปาก และความสามารถควบคุมปากตัวเองนั้น จะทำให้จิตใจหนักแน่นมั่นคง ไม่หวั่นไหวง่าย ไม่ฟุ้งซ่านง่าย รู้อะไรควรอะไรไม่ควร และมีคำพูดประกอบด้วยสติเป็นเสน่ห์

5) ตั้งใจงดเว้นการร่ำสุรายาเมา เมื่อถูกยั่วยุให้กินเหล้าเมายาแล้วงดเว้นได้จริงๆ ผลที่เกิดขึ้นคือความมีอำนาจเหนือที่พึ่งภายนอก มีตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ไม่ถูกสังคมชักพาให้หลงลงต่ำ กับทั้งไม่วิปริตผิดเพี้ยนตามคนอื่นที่เห็นยาพิษเป็นขนมหวาน

ถัดจากความดีระดับศีล คือความดี ระดับภาวนา การภาวนาคือการอบรมตนให้เกิดความสงบ (สมถะ) และเกิดความรู้ตามจริง (วิปัสสนา) ผลของความดีระดับภาวนาแจกแจงเป็นข้อๆได้ดังนี้

1) ตั้งใจระลึกรู้ว่ากำลังหายใจเข้าหรือหายใจออกอยู่เรื่อยๆเท่าที่พอจะนึกได้ ผลที่เกิดเมื่อทำได้จนเคยชินคือความสงบสุขอยู่กับปัจจุบัน ไม่เรียกร้อง ไม่แส่ส่ายไปหาอดีตที่ล่วงแล้วหรืออนาคตที่ยังไม่มาถึง นี่เรียกว่าเป็นการภาวนาระดับสมถะ

2) ตั้งใจระลึกรู้ว่าลมหายใจยาวหรือสั้น เปรียบเทียบอยู่เรื่อยๆ ว่าบางช่วงร่างกายต้องการลมยาว บางช่วงร่างกายต้องการลมสั้น ผลที่เกิดเมื่อทำได้จนเคยชินคือการรู้ตามจริงว่าลมหายใจไม่เที่ยง ยาวบ้าง สั้นบ้าง เป็นธรรมดา นี่เรียกว่าเป็นภาวนาระดับวิปัสสนา เห็นอนิจจัง

3) ตั้งใจพิจารณาว่าลมหายใจทั้งปวงเข้ามาแล้วต้องออกไปเป็นธรรมดา ควบคุมให้เข้าอย่างเดียวไม่ได้ ควบคุมให้ออกอย่างเดียวไม่ได้ ผลที่เกิดขึ้นเมื่อทำได้จนเคยชินคือรู้ตามจริงว่าลมหายใจไม่อาจคงสภาพอยู่ในสภาวะใดสภาวะหนึ่ง นี่เรียวว่าเป็น ภาวนาระดับวิปัสสนา เห็นทุกขัง

เพียงด้วยการเฝ้าดูลมหายใจด้วยมุมมองที่ถูกต้องตามพระพุทธเจ้าตรัสแนะแนวไว้ คุณจะเกิดสติชัดขึ้นเรื่อยๆและพลอยเห็นความสุขความทุกข์ในใจ และสรรพสิ่ง สรรพเหตุการณ์ที่หมุนเวียนเปลี่ยนมากระทบคุณ ต่างล้วนเป็นเหมือนลมหายใจที่ผ่านมาแล้วผ่านไป ชอบหรือชังก็ควบคุมให้อยู่กับที่คงทนไม่ได้ จนเกิดข้อสรุปว่าไม่เห็นมีอะไรเป็นตัวเป็นตนซักอย่าง นี่คือ การภาวนาระดับวิปัสสนา เห็นอนัตตา จากรางๆเป็นเห็นแจ่มแจ้ง เห็นครอบ เห็นรอบด้านทั่วถึงตลอดสาย

เมื่อเห็นชีวิตเป็นอนัตตาบริสุทธิ์ จิตคุณจะหลุดจากบาปทั้งหลาย และเป็นอิสระจากการยึดติดทั้งปวง สภาพหม่นมืดสกปรกใดๆไม่อาจแปดเปื้อนจิตได้เลย ตรงนั้นแหล่ะยอดสุดแห่งแก่นสารสาระในพระพุทธศาสนาที่ทำให้ถึงกันได้ในชาตินี้โดยไม่ต้องรอชาติหน้า


คุณจะเลือกพอใจความดีระดับใดในพุทธศาสนาก็ได้ เมื่อได้ดีทางใจทันทีในวันนี้ จะทำให้โลกภายนอกดีตอบในวันถัดๆมา และจะทราบด้วยตนเองว่าความสุขสงบในนาทีนี้คือลางบอกเหตุ หรือ นิมิตหมายอันดีที่ชี้ให้เห็นว่าต่อไปคุณจะปลอดภัย

ขอให้ลองสังเกตุตัวเองดูเถิดว่าด้วยเจตนาหนึ่งๆข้างต้น ทำๆไปแล้วเกิดผลทันใจอย่างว่าจริงไหม ถ้าจริงขอให้หมั่นทำบ่อยๆ ทำให้ต่อเนื่อง ทำให้ได้ตลอด เพราะถ้าใจอ่อน ทำแค่ทีสองทีแล้วยอมแพ้ เดี๋ยวกิเลสก็กลับมาคิดแทนคุณใหม่ เท่ากับคุณปล่อยให้กิเลสอันเป็นธรรมชาติฝ่ายต่ำมากำหนดทิศทางชีวิตคุณลงเหวได้ครับ
.........................

อนุโมทนาสาธุท่านผู้เขียน





 

Create Date : 26 มกราคม 2549
42 comments
Last Update : 10 มีนาคม 2549 9:42:50 น.
Counter : 1657 Pageviews.

 

บทความนี้ยาวหน่อยนะค่ะ

เป่าจินงานยุ่งมาก ไม่ค่อยได้อัพบล๊อค เอาเป็นว่าถ้านานๆมาอัพทีก็จะพยายามหาบทความดีๆแบบนี้มา่ถ่ายทอดนะค่ะ

ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการทำดี ที่ทำได้ตั้งหลายแบบแน่ะ...

 

โดย: เป่าจิน 26 มกราคม 2549 17:23:52 น.  

 

อนุโมทนาสาธุด้วยคนครับ

 

โดย: K.Ruan 26 มกราคม 2549 17:32:27 น.  

 

แวะมาเยี่ยมก็เลยได้ร่วมสาธุด้วยคนค่ะ

ขอบคุณที่แวะไปที่ blog นะคะ คำนั้นเคยมีผู้ใหญ่กล่าวค่ะ เราก็ชอบ จำขึ้นใจเลยค่ะ

 

โดย: Susie 26 มกราคม 2549 18:34:26 น.  

 

สาธุ!

 

โดย: ชาบุ 26 มกราคม 2549 19:05:02 น.  

 



เป่าจิน พักผ่อนเยอะๆนะคะ

แบมชอบ รูปเด็กจังเลยค่ะ น่ารัก

คิดถึงเป่าจินนะคะ

 

โดย: yadegari 26 มกราคม 2549 19:22:49 น.  

 

ผมก็ไม่ค่อยได้เข้ามาอัพบล็อกเหมือนกันครับ ไม่เป็นไรๆครับ ทราบข่าวคราวว่าคุณเป่าจินสบายดีก็โอเคครับ

วันนี้เข้ามาอ่านบทความดีๆเกี่ยวกับการให้ทานครับ ทำให้ได้เรียนรู้สิ่งดีๆมากทีเดียวครับ

ขอบคุณคุณเป่าจินที่เข้าไปทักทายกันนะครับ

 

โดย: Tempting Heart 26 มกราคม 2549 20:26:25 น.  

 

อนุโมทนาบุญค่ะน้องเป่าจินขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆนะคะ

เณรน้อยน่ารักจังเลย

 

โดย: ป่ามืด 26 มกราคม 2549 21:20:20 น.  

 

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ที่เอามาให้อ่านกันนะค่ะคุณ
เป่าจิน ... อ่านแล้วก็ได้คิดนะค่ะ

บทความของดังตฤณมีคนพูดถึงหลายคนเลย แต่ว่าก็ยัง
ไม่ได้มีเวลาเข้าไปอ่านอย่างจริงจังเลยค่ะ คิดว่ามีโอกาส
ก็น่าจะได้อ่านเอาจริงเอาจังสักทีนะค่ะ

 

โดย: JewNid 26 มกราคม 2549 21:55:06 น.  

 

ไม่ทราบว่า คุณ เป่าจินมี Clip Liverpool: One night in May รึยังครับ ถ้ายังไม่มี้เข้าไปโหลดได้นะครับที่ Blog ของผมเอง

ถ้าเป็น The Kop ต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง

 

โดย: 阮海松 (K.Ruan ) 26 มกราคม 2549 22:16:41 น.  

 

รูปน่ารักจังค่ะ

 

โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 26 มกราคม 2549 22:21:16 น.  

 

รูปเด็กน่ารักจังครับ

ทำดีได้ความดีครับ เป็นนามธรรม ซึ่งคนมักจะคิดว่าได้ดี คือรูปธรรม เช่น รวย ทำดีแล้วได้เงิน ทดีแล้วได้หน้า ปเนต้น ความชั่วทำง่ายกว่า เพราะทำแล้วเห้นเลยเป็นรูปธรรมเลย ความดีจึงทำได้ยากและเห็นผลช้ากว่า แต่ยั่งยืนกว่าครับ

คุณเป่าจินพักผ่อนเยอะๆนะครับ

 

โดย: พ่อน้องโจ 27 มกราคม 2549 1:11:29 น.  

 



ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ เฮง เฮง เฮง ค่ะ


เห็นด้วยค่ะคุณเป่าจิน
แต่ปัจจุบันทำดีได้ดี ไม่ค่อยจะเชื่อแล้วอ่ะค่ะ ^^'...

 

โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) 27 มกราคม 2549 9:32:38 น.  

 



อรุณสวัสดิ์ค่ะ..
คณะทันตแพทย์ ..... เคยนำภาพหลอดยาสีพระทนต์ที่ทรงใช้แล้วมาแสดงให้ดู ทรงรีดเสียแบนราบ เป็นแผ่นกระดาษแม้ถึงกระเปาะใกล้จุกซึ่งอย่างดีเราก็เอานิ้วกดๆ จนคิดว่าหมด แต่ของพระองค์ ทรงกดจนแบนติด เรียกว่าหมดเกลี้ยงจริงๆ มีคนมาเล่าให้ฟังว่า พอทรงกดใช้มาถึงกระเปาะ แล้ว มหาดเล็กก็เห็นทรงกดไม่สะดวกก็เชิญหลอดใหม่มาถวาย มีรับสั่งให้นำกระเปาะที่เหลือ กลับมา และรับสั่งว่าที่เหลือนั่นยังใช้ต่อได้อีกตั้งหลายวัน


:ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ เฮงๆ..อิอิ..



 

โดย: ป่ามืด 27 มกราคม 2549 9:40:03 น.  

 

恭賀新禧,新年快樂,萬事如意



Happy Chinese New Year ค่ะ



ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้



 

โดย: เป่าจิน 27 มกราคม 2549 10:14:27 น.  

 

สาธุคะ

Happy Chinese New Year naka..
รวยๆๆๆ

 

โดย: กิ่งไม้ไทย 27 มกราคม 2549 11:59:34 น.  

 

ชอบประโยคชื่อบล็อกมากครับ พี่เป่า

คุณ ดังตฤณ เนี่ย แกเขียนได้น่าอ่านดีนะครับ เข้าใจง่าย ใช้ภาษาที่ไม่ซับซ้อน

ฟังว่า คุณ ดังตฤณ จบมาทางด้านการตลาด เช่นนี้จึง สื่อสารกับคนได้เข้าใจง่าย



สวัสดี ตรุษจีน ครับ พี่เป่า

 

โดย: Nutty Professor 27 มกราคม 2549 12:09:03 น.  

 

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ
HAPPY CHINESE NEW YEAR ครับ

 

โดย: เซียวเปียกลี้ 27 มกราคม 2549 17:10:36 น.  

 

ธุค่ะ

สุขสันต์วันตรุษจีนนะคะ

 

โดย: rebel 27 มกราคม 2549 17:27:37 น.  

 

Happy Chinese New Year
พานู๋อาบิเกลมาเยี่ยมค่ะ
ฝากความคิดถึงถึงคุณมลกะน้องปันด้วยนะคะ

 

โดย: Bee1st 27 มกราคม 2549 23:32:37 น.  

 

อนุโมทนาสาธุด้วยครับพี่เป่าจิน

สุขสันต์วันตรุษจีนนะครับ

 

โดย: Due_n 28 มกราคม 2549 0:12:32 น.  

 

แวะมาดูจ้า

 

โดย: Bluejade 28 มกราคม 2549 4:33:38 น.  

 

" ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ "

Happy Chinese New Year เช่นกันครับคุณเป่าจิน

 

โดย: Tempting Heart 28 มกราคม 2549 6:30:41 น.  

 


ซินเจียยู่อี่ …. ซินนี้ฮวดใช้ …. อังเปาตั้วๆ ไกด์ …. ซินนี้ ตั่วถั่ง …..

เฮงๆๆๆๆ ร่ำรวย ๆ ๆๆๆ ยิ่งๆขื้นไป …. มั่งมีศรีสุขเงินทองไหลมาเทมา ….

ขอให้สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงค่ะ ….



 

โดย: Petit Patty 28 มกราคม 2549 15:26:13 น.  

 

อนุโมทนาบุญค่ะ

 

โดย: ปาลินารี 28 มกราคม 2549 20:44:18 น.  

 



 

โดย: >'' Comfortable ''< 28 มกราคม 2549 21:09:06 น.  

 



ร่ำรวยๆๆเฮงๆๆนะคะ คิดถึงเป่าจินนะคะ

 

โดย: yadegari 29 มกราคม 2549 18:35:13 น.  

 

ขอบคุณคำอวยพรของทุกท่านค่ะ

ขอให้พรทุกอย่างกลับไปที่เพื่อนๆทุกคนเช่นกันนะึค่ะ

(ขอแอบโฆษณาละครนิดนึงนะค่ะ อิ อิ)

"The Hospital"





Coming Soon!

 

โดย: เป่าจิน 30 มกราคม 2549 8:41:52 น.  

 

ขอบคุณบทความดีดีค่ะ
ขอบคุณคำอวยพรวันเกิดนะคะ

 

โดย: prncess 30 มกราคม 2549 11:51:46 น.  

 

มีความสุขกับเที่ยงวันจันทร์น๊า หม่ำข้าวหรือยังเอ่ย

 

โดย: แมวน้อยของเสี้ยวเทียน 30 มกราคม 2549 12:22:06 น.  

 

6288

 

โดย: เป่าจิน 31 มกราคม 2549 16:38:49 น.  

 

อังกฤษเป็นคนค้นพบ อเมริกา และแคนาดานะคะ เป่าจิน และยังมีอีกหลายอย่างที่เริ่มต้นจากเมืองที่แบมอยู่ บริสตอล Bristol ค่ะ เป่าจิน แต่แบมต้องอ่านอีกเยอะ ยังตอบเต็มปากเต็มคำไม่ได้ค่ะ

ประมาณอ่านแล้วผ่านสมองไปเลยค่ะ หุหุ เม่เข้าหัว เข้าสมองแบมเลย

คิดถึงเป่าจินนะคะ จุ๊บๆๆ 6291

 

โดย: yadegari 31 มกราคม 2549 19:33:22 น.  

 

ฮ่าๆๆๆ แวะมาเยี่ยมครับ เห็นรูปนายวิคแล้วเนี่ย ท่าทางคุณเป่าจินจะเป็นแฟนเหนียวแน่นจริงๆนะครับ


สบายดีนะครับ แวะมาเยี่ยมค้าบ

 

โดย: พ่อน้องโจ 1 กุมภาพันธ์ 2549 0:42:27 น.  

 

^
^
^
^
เอ้ย โทษครับ นายเจอร์รี่

แหะๆ ชอบลืมชื่อตัวเองทุกทีเลย อิอิอิ

 

โดย: พ่อน้องโจ 1 กุมภาพันธ์ 2549 0:43:45 น.  

 

^
^
^
ไม่เป็นไรค่า คุณพ่อน้องโจ (ตอนแรกแอบตกใจเล็กน้อย เอ๊ะ เราไม่ได้แปะรูปน้องไจ๋ (วิค) นี่นา )

ไม่เป็นไรค่ะ เจอร์รี่กะไจ่ไจ๋ ก็พี่น้องกัน

 

โดย: เป่าจิน 1 กุมภาพันธ์ 2549 8:51:15 น.  

 

ว่าแล้วก็แปะภาพประกอบซะหน่อย...

ไจ่ไจ๋กะเจอร์รี่ค่ะ

 

โดย: เป่าจิน 1 กุมภาพันธ์ 2549 8:55:01 น.  

 

ครบ 4 คนเลยค่ะ เอฟซื่อ (F4)

 

โดย: เป่าจิน 1 กุมภาพันธ์ 2549 8:59:10 น.  

 

มา add นะคะ

พร้อมตอบคำถามที่ทิ้งไว้ที่บล็อก ปาลินารี มาจากคำว่า ปาลิ แปลว่า บาลี (ภาษาบาลี) + นารี แปลว่า หญิง

ปาลินารี จึงหมายถึงหญิงที่เรียนภาษาบาลี ค่ะ

 

โดย: ปาลินารี 1 กุมภาพันธ์ 2549 16:14:36 น.  

 

ตามมาชมโฆษณาละคร The Hospital นะครับ แล้วคุณหมอเหยียนเฉิงซวี่จะมาแสดงให้ชมเมื่อไหร่อ่ะครับ

วันนี้มากันครบเอฟซื่อเลยนะครับ

ว่าแต่ว่าฝนกำลังจะมาตกที่เมืองไทยแล้วนะครับ คุณเป่าจินจะไปดูเรนใน Rainy Day in Bangkok หรือเปล่าครับ ก็มาช่วยโฆษณาให้เช่นกันครับ

ขอบคุณนะครับที่มาลงเพลงไว้ให้ที่บล็อกผมนะครับ แต่ไม่แน่ใจว่า URL ถูกต้องหรือเปล่า เพราะเอา URL ไปเปิดฟังเพลงไม่ได้น่ะครับ อยากฟังเหมือนกันครับ อยากรู้ว่าเพลงไหนเป็นเพลงชอบของคุณเป่าจินนะครับ ยังไงก็ขอบคุณๆนะครับ

 

โดย: Tempting Heart 1 กุมภาพันธ์ 2549 21:40:37 น.  

 

หวัดดีค่ะคุณเป่าจินเพื่อนคุณมล
มา add นะคะ

รูปเณรน้อยน่ารักจังเลยนะคะ นั่งดูแล้วอมยิ้มเลย
ชอบคำว่า ขอให้มีความสุขกับการทำความดีมากค่ะคุณเป่าจิน จริงๆนะคะ บางทีการได้ทำดีถึงจะเล็กน้อยแต่เรารู้ว่าสิ่งที่เราทำเป็นสิ่งดีแค่นี้ก็สุขใจค่ะ ไม่ต้องรอสุขเพราะบุญ

 

โดย: เฉลียงหน้าบ้าน 2 กุมภาพันธ์ 2549 4:54:42 น.  

 

ตอบคุณ Tempting Heart

เป่าจินไม่แน่ใจว่าจะไปดูคอนเสิร์ต เรน ได้รึเปล่าค่ะ เคยได้ดูเรนแสดงตอนที่เค้ามางาน MTV Asia Aid ตอนนั้นเป่าจินยืนเกาะขอบเวทีเลย อิ อิ เรนเต้นเก่งมากค่ะ (จริงๆไปเชียร์อาเจย์ (Jay Chou) ค่ะ อาเจย์มาเล่นเปียโนและก็ร้องเพลงให้ฟังเพราะมากๆเลย) งานนั้นเป็นครั้งแรกที่เห็น เรน ตัวเป็นๆ เป็นคนมีความสามารถมากค่ะ ถ้าคุณ Tempting Heart ได้ไปดูก็อย่าลืมเก็บบรรยากาศมาฝากกันนะค่ะ

 

โดย: เป่าจิน 2 กุมภาพันธ์ 2549 9:13:03 น.  

 

สวัสดีค่ะ พี่เป่าจิน
Happy Chinese New Year ค่ะ
ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ นะค๊า
เฮงๆ รวยๆ นะคร้าบ

คิดถึงนะคะพี่เป่าจิน รักษาสุขภาพมากๆนะคะ
ว่างๆ นุ่นจะแวะมานะคะ

 

โดย: ~* Poynune *~ IP: 203.147.33.2 2 กุมภาพันธ์ 2549 9:20:29 น.  

 

คุณเป่าจินเป็นแฟนเอฟโฟร์เหรอคะ อ่านจากข้างบนน่ะค่ะ
โอ้โห ไปอยู่ริงไซต์เวทีคอนเสิร์ตเรนด้วย
ขอบคุณที่ไปเยี่ยมที่บล็อกนะคะ คิดถึงคุณมลจังนะคะ ฝากบอกคุณมลด้วยนะคะว่าเพื่อนๆคิดถึง อยากเห็นรูปน้องปันด้วยค่ะ

 

โดย: เฉลียงหน้าบ้าน (เฉลียงหน้าบ้าน ) 3 กุมภาพันธ์ 2549 14:05:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เป่าจิน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"เป็นนักอ่าน...ไม่ใช่นักประพันธ์"
Friends' blogs
[Add เป่าจิน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.