|
_/|\_ ... เป็นพ่อแผ่นดินช้ำ ... ปรับชื้น ชุ่มเย็น ... _/|\_
วันนี้เป็นส่วนของ พระมหากรุณาธิคุณ ที่รดลงบนแผ่นดิน... ขอกล่าวถึง โครงการในพระราชดำริ ล้วนๆค่ะ (ที่ผ่านมา ถือว่าน้ำจิ้มๆ วันนี้จะเอามาว่ากันเพิ่มขึ้น)
ตั้งแต่ขึ้นครองราชย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็มีพระราชดำริจะออกเยี่ยมราษฎรให้ทั่วถึง ในช่วงปี 2496-97 เหล่าโครงการในพระราชดำริ ก็เริ่มต้น...
ซึ่งถ้าจะพูดไป ปีที่กล่าวมา ก็คือปีที่ทรงเริ่มออกเยี่ยมเยียนราษฎรนั่นแหละค่ะ
เชื่อไหมคะว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีรับสั่งกับ คนที่เข้าเฝ้า ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐานว่า โครงการหลวงเกิดเพราะท่าน...ไปเที่ยว (คัดลอกจากเวบ กาญจนภิเษก)
ทรง "เที่ยว" ได้ดีจังเลยค่ะ...
และเชื่อไหมคะว่า โครงการในพระราชดำริ เคยทำให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดนครหานินทาว่า "มีแนวคิดแบบคอมมิวนิสต์" มาแล้ว !!! ตั้งแต่เริ่มเข้าพัฒนา และจัดตั้งสหกรณ์หุบกะพง ซึ่งเป็นโครงการต้นๆ เพราะสมัยนั้นคนไทยที่มีหน้าที่ เกี่ยวกับความมั่นคงค่อนข้างบ้าจี้ อะไรที่มีการรวม กองกลาง ก็จะเหมาเป็นระบบนารวม เป็นสีแดงไปหมด...
พระองค์ท่านต้องฝ่าฟันขนาดไหน ในกระแส โคลนสีแดงไหลแรงเชี่ยวกรากเช่นนั้น...
แต่กระแสจะแรงแค่ไหน พระองค์ก็ไม่ทรงหวั่น โครงการในพระราชดำริ จึงเกิดออกมามากมายหลายที่
ทราบกันไหมเอ่ย ว่าโครงการในพระราชดำริ มีกี่แห่ง ??? อย่ามาถามป้าค่ะ ป้าไม่ทราบ... (อ้าวป้า ไหงเล่นงี้) ก็...เอ่อ อ่าน เขียน ไม่หมด เยอะจัด เยอะจริงๆ
ที่เยอะ ก็เพราะว่าโครงการเหล่านี้ เมื่อตั้งมาแล้วจะ แตกเป้าหมายออกเป็นแขนงๆ เริ่มที่ (1) การเกษตร (2)พัฒนาแหล่งน้ำ ตามด้วย (3) สิ่งแวดล้อม ควบ (4) สาธารณสุข จึงมาเป็นการ (5) ส่งเสริมอาชีพ (6) คมนาคมสื่อสาร (7) สวัสดิการสังคม และ... (8-9-10-11-12- ฯลฯ) อื่นๆ ไม่มีจบสิ้น... แฮ่กๆๆ เขียนเองยังรู้สึกว่าเยอะโคตร...
และโครงการทั้งหมด จะตั้งอยู่บนความ สมดุล ค่ะ เช่นในส่วนการเกษตร จะเห็นได้ชัดเจนจากพระราชดำรัสที่ว่า
"ไม่จำเป็นต้องส่งเสริมผลผลิตให้ ได้ปริมาณสูงสุด แต่เพียงอย่างเดียว เพราะเป็นการสิ้นเปลืองค่าโสหุ้ย และทำลายคุณภาพดิน แต่ควรศึกษาสภาวะตลาด การเกษตร ตลอดจนการควบคุมราคาผลิตผล ไม่ให้ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน"
โดยเทคนิควิธีการในการพัฒนาการเกษตรของพระองค์ อีกประการหนึ่ง คือการใช้ประโยชน์ จากธรรมชาติให้มากที่สุด เช่น การใช้ที่ดินที่ทิ้งไว้เปล่าๆ ให้เป็นประโยชน์ หรือการ มองหาประโยชน์จากธรรมชาติในสิ่งที่ผู้อื่นนึกไม่ถึง เช่น ครั้งหนึ่งทรงสนับสนุนให้มี การทำครั่ง จากต้นจามจุรีที่ขึ้นอยู่ริมทางหลวงที่จะเสด็จฯ... แค่เสด็จผ่านค่ะ... ก็มองเห็นค่ะ จะให้ใช้คำอื่นนอกจากคำว่า อัจฉริยะ ก็ยังนึกคำไหนไม่ออก...
ทรงงานมาเหนื่อยๆ ไม่ได้พักผ่อน มองไปข้างทาง... ก็คิด "หารายได้" ให้ราษฎรได้อีก...
ยังมีลักษณะสอดคล้องกับวิธีการ ที่สำคัญของพระองค์ อีกประการหนึ่งคือ การประหยัด ทรงเน้น ความจำเป็นที่จะลดค่าใช้จ่าย ในการทำมา หากินของเกษตรกรลงให้เหลือน้อยที่สุด โดยอาศัย พึ่งพิงธรรมชาติ เป็นปัจจัยสำคัญ
มีตั้งแต่การสนับสนุนให้เกษตรกร ใช้โคกระบือ มากกว่า ให้ใช้เครื่องจักร (ประหยัดน้ำมัน ได้ปุ๋ย ไร้มลภาวะ)
มีการปลูกพืชหมุนเวียน โดยเฉพาะพืชตระกูลถั่ว เพื่อ ลดค่าใช้จ่ายเรื่องปุ๋ย หรือกรณีที่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ย ก็ทรงสนับสนุนให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยธรรมชาติแทนปุ๋ยเคมี ซึ่งมีราคาแพง และมีผลกระทบต่อสภาพ และคุณภาพ ของดิน ในระยะยาว นั่นคือทรงสนับสนุนให้ทำ "การเกษตร ยั่งยืน" นั้นเอง...
นอกจากนั้นยังทรง แนะนำในเรื่องการผลิตก๊าซชีวภาพ อันจะมีผลดีทั้งในด้านเชื้อเพลิงและปุ๋ย รวมทั้งได้ทรง เน้นอยู่เสมอที่จะให้เกษตรกรมีรายได้เสริม หรือรายได้ นอกการเกษตร จากการหาวัสดุธรรมชาติในท้องถิ่น เช่น ไผ่ ย่านลิเพา ปาหนัน ฯลฯ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ในการจักสาน เพื่อเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ของตนเอง
นี่แค่ ส่วนควบ ในการเกษตรค่ะ ยังไม่ได้พูดถึง ส่วนควบน้อย เช่นการวิจัยหาพันธุ์พืช สัตว์ ฯลฯ
แฮ่กๆๆๆๆๆ... แค่ส่วนควบ ก็...หนัก แล้วค่ะ
จะแถมการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมให้หน่อย มองง่ายๆ ที่เป็นของ ไทยๆ ท่านทรงริเริ่มเอง ก็เช่น... โครงการแก้มลิง กังหันน้ำชัยพัฒนา โครงการแกล้งดิน (ให้ใช้ได้ในภายหลัง) การปรับสภาพแวดล้อมที่เสียไปของบางพื้นที่ เพราะ ไอ้เจ้าปัญหาสิ่งแวดล้อม มันมาพร้อมกับการพัฒนา ความเจริญก้าวหน้า การพัฒนายิ่งรุดหน้า ปัญหาคุณภาพสิ่งแวดล้อม และ ภาวะมลพิษก็ยิ่งก่อตัว และทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ยิ่งประเทศเรามีการนำเอาทรัพยากรมาใช้ประโยชน์ แต่ไม่ได้มีการวางแผนการจัดการที่เหมาะสม ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติที่เหลืออยู่มีสภาพเสื่อมโทรมลง โครงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ส่วนใหญ่จะเป็นวิธีการที่จะทำนุบำรุง และปรับปรุงสภาพ ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นในด้านต่างๆ จนเป็น ที่มาของเหล่าโครงการมากมายในย่อแรก
แฮ่กๆๆๆๆ (อีกรอบ) คัดไป อ่านไปก็... เหนื่อยโคตรค่ะ ไม่รู้ในหลวงทรงทำได้ไง
ดังนั้น ถ้าให้ป้าเขียนรายละเอียด สมมุตินะคะ เช่นเขียน ในส่วนศูนย์ศึกษาการพัฒนา นั่นหมายความว่า ป้าต้องเขียนไปถึง 8 ศูนย์ค่ะ !!! เช่นห้วยฮ่องไคร้ อ่าวคุ้งกระเบน เขาหินซ้อน ห้วยทราย ภูพาน พิกุลทอง ปลวกแดง ประมง(บางไทร)
ซึ่งในแต่ละศูนย์ ก็จะมีเจ้าหัวข้อ 1-12 ข้างบนนี่แหละ ให้แตกแขนงออกมา แต่นั่นแหละ เพราะความแตกแขนง ทำให้โครงการ เหล่านี้...ยั่งยืน ยังประโยชน์ประดุจสายน้ำหล่อเลี้ยง ไม่มีวันจบสิ้น (เด็กๆ ถ้าอยากทำรายงานให้ได้เยอะๆ อาจารย์อ่านจน ตาลายละก็ เลือกทำรายงาน โครงการในพระราชดำริ เถอะ ได้ A+ แน่)
เข้าใจหรือยังคะ ว่าทำไมระยะเวลาการทรงงาน ของพระองค์ท่าน จึงยาวนานกว่า 60 ปี และจะยังยาวนานต่อไป... ต่อไป...
เพราะป้าเชื่อมั่นว่า พระองค์จะทรงทำต่อไป... จนกว่าแผ่นดินช้ำนี้ จะแปรชื้น...ชุ่มเย็น... ทรงพระเจริญ...
Create Date : 15 มิถุนายน 2549 |
Last Update : 15 มิถุนายน 2549 1:07:56 น. |
|
10 comments
|
Counter : 1886 Pageviews. |
|
|
|
โดย: YUI_MUNMOO วันที่: 15 มิถุนายน 2549 เวลา:10:56:13 น. |
|
|
|
โดย: เด็กทะเล IP: 58.3.100.67 วันที่: 15 มิถุนายน 2549 เวลา:18:23:56 น. |
|
|
|
โดย: wanwitcha วันที่: 16 มิถุนายน 2549 เวลา:9:42:46 น. |
|
|
|
โดย: แก้วใส IP: 210.1.2.144 วันที่: 16 มิถุนายน 2549 เวลา:14:58:17 น. |
|
|
|
โดย: err_or วันที่: 16 มิถุนายน 2549 เวลา:23:17:30 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหนอน วันที่: 17 มิถุนายน 2549 เวลา:0:26:36 น. |
|
|
|
โดย: ต่ายเองจ้า IP: 203.107.160.177 วันที่: 19 มิถุนายน 2549 เวลา:23:48:26 น. |
|
|
|
โดย: อ้อ IP: 61.7.156.9 วันที่: 2 ตุลาคม 2549 เวลา:20:16:58 น. |
|
|
|
โดย: ปอ IP: 115.87.77.230 วันที่: 28 มิถุนายน 2553 เวลา:17:41:36 น. |
|
|
|
โดย: ตุ๊กตา IP: 110.77.152.126 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:37:42 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
อยู่ใต้เบื้องพระยุคลบาทในหลวง Svalbard and Jan Mayen
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]
|
๐ คนข้างโลก อยู่เงียบๆ อย่างเรียบร้อย พูดไม่น้อย จึงเขียนมาก แก้ปากหมา สนใจสิ่ง รอบตัว ทั่วโลกา จักสรรหา มาสัมผัส วัดด้วยตน ขอเก็บความ-คิดไว้ ในบันทึก สนุกนึก ย้อนมาอ่าน กันอีกหน ได้รำลึก ความคิด ในจิตตน คงได้ยล ยิ้มบ้าง ในบางวัน...
|
|
|
|
|
|
|
...หนูรักในหลวงค่ะ...