|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
บ่นบ้าไป ประสาไดอารี่
วันนี้ตื่นมาคึก ทำสวนตะเช้า (บ่าย) รดน้ำต้นไม้แทนสามี เหมือนจะสำนึกผิด อิอิ มองไปแล้วให้อนาถใจ เพราะสนามเล็กๆ ที่เคยมีต้นสลิด ปีบบก ผักปราบ และกำมะหยี่ขึ้นแทนหญ้า ราบเรียบราวกับมีรถมาไถเกรดปรับดิน
ไม่ใช่อะไรหรอก นอกจากนังหมาละครสัตว์ของฉันทั้งคณะ หลังเจ้าหมอนข้างมหาภัยม่องไปตามอายุแล้ว พวกมันก็ได้ออกมาครอบครองสนามหญ้า หลังบ้าน ข้างบ้าน โรงรถ...สบาย พวกมันทำตัวเป็น "พรานไพร" (อ่านเพชรพระอุมาหรือไงหา...พวกเอ็ง) ออกล่าสัตว์ พวกนก กระรอก หนู เขียด กบ กิ้งคก จิ้งเหลน งูดิน ปาด กระแต แม้แต่แมลงพวกแมงกระชอน แมงแกลบ ปลวก (บ้านฉันเหมือนสวนสัตว์ อย่าแปลกใจ) หลังล่าสัตว์ เหนื่อยก็ขุดโพรงส่วนบุคคล ตัวละโพรงๆ แถมนังสะอึกฉลาด เปิดน้ำเป็นและรอให้น้ำท่วมโพรงก่อน จึงแปลงกายเป็นควายนอนปลักอย่างเพลินใจ โอ้...หมา กรู... โอ้...สนาม กรู...เละ... ยัง...ยังไม่พอ พวกมันมีการไปขุดหลุมรุ่นพี่อีกแน่ะ... หลุมของหมอนข้างมีแปลงดาวกระจายฝรั่งอยู่ คงหอมปุ๋ยคอกกระมังเลยขุดกันใหญ่ (ไม่กลัวผีหรือไงวะ เด๋วพั่ด...ปลุกผีหมามาหลอกซะนี่)
ทำสวนตอนนี้ยากชะมัด เพิ่งสังเกตว่านอกจากเก็บใบไม้ จัดแถวกระถางใหม่ ยังต้องมาเก็บเศษดินไฮโปรตรอน กะภูไมค์ ที่เอามาปลูกรองเท้านารีด้วย พวกนี้ตอนนี้หาซื้อยาก ต้องถนอมไว้ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่ายังใช้อะไรได้หรือเปล่า เก็บๆๆ บ่นอยากเตะไอ้นกกระปูดตัวดีที่ชอบมารื้อ มาคาบเครื่องปลูกของรองเท้านารีทิ้งกระจัดกระจายเล่น ว่าไปพอสนามโกร๋น มันก็ไม่ค่อยมาเพราะไม่มีตัวอะไรให้จับกินอีกแล้ว
มองไปบนรั้ว ชามข้าวนกเขาที่เคยเติมข้าว ก็โดนกระรอกชนหล่น ไม่ได้เติมข้าวให้นกเขานานมากแล้ว ต้องเดินอ้อมรั้วไปหาชามมาใส่ไว้ที่เดิม (เป็นชามพลาสติกแข็ง ขอบตรง เจาะรูตรงก้นให้สวมกับตะปูที่ตอกไว้ กันนกจิกชามตก และระบายน้ำในชามเวลาฝนตก) เติมข้าว วางกล้วย วางหนอนให้นก เติมน้ำใส่ตามจุดต่างๆของบ้าน พวกโอ่งบัว อ่างปลา จานรองกระถางต้นไม้ รดน้ำต้นไม้และบรรดากล้วยไม้จนชุ่ม... หลังจากนั้นจึงเข้าบ้าน ต้อนคณะพรานไพรที่ตัวดำ สกปรก เหมือนหมาข้างถนนเข้าบ้านด้วย
สนามเงียบ เย็นฉ่ำ...
ไม่ถึงห้านาที สวนก็เป็นสวรรค์... นกอีแพรด กับปรอดสวนลงระเริงน้ำที่ใส่ในจานรองกระถางอย่างสุขใจ ลงจุ่มตัว กระพือปีก ก่อนสะบัดให้สะเด็ดน้ำ ขึ้นผึ่งตัว สยายปีกบนคบเชอรี่เสปน พลางส่งเสียงคุยกันจุ๊กจิ๊ก นกกาฝากจิบน้ำจากกลีบกล้วยไม้ พลางโดดหยองแหยงบนช่ออ่อนของต้นสิงโตรวงข้าว (เด๋วหัก...มีเตะนก) นกกางเขนจิกกล้วยกินอย่างสุขสม เชิดหัวดำๆเหมือนจะมองหาพวก ส่วนนังเมียคาบหนอนที่ให้จนเหมือนนกกินสปาเก็ตตี้ในปากโผขึ้นรังบนต้นมะม่วง เสียงลูกมันร้องกันเซ็งแซ่ที่แม่มีของชอบมาป้อน บนตะขบมีกระรอกที่ได้กล้วยครึ่งลูกพยายามคาบกล้วยไต่สายไฟไปฝากลูก ท่าทางกล้วยจะหนักเอาการ เพราะวิ่งๆหยุดๆ ส่วนนกเขาเล็กสุมหัวลงกินข้าวดูเหมือนพวกมันคุยกันพลางผงกหัวพลาง มีเขาใหญ่ตัวเดี่ยวที่เป็นชนกลุ่มน้อย รอเขาเล็กอิ่มก่อนค่อยกินต่อ เดินเตร่รอใกล้ๆ ปาดสีเหลืองอ่อนค่อยๆก้าวยาวขึ้นมานอนใต้ใบแคทลียา ทำตาปรือเพราะเย็นสบายจากน้ำที่เปียกชุ่มกอ เหล่าคางคก กบ ทยอยกันออกมาจากที่ซ่อน ลงแช่ตัวคลายร้อนในอ่างบัว... เฮ้อ...เย็นตาดีจัง...
Create Date : 10 มีนาคม 2548 |
Last Update : 10 มีนาคม 2548 3:29:10 น. |
|
6 comments
|
Counter : 675 Pageviews. |
|
|
|
โดย: รักดี วันที่: 10 มีนาคม 2548 เวลา:22:14:36 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหนอน วันที่: 11 มีนาคม 2548 เวลา:19:18:35 น. |
|
|
|
โดย: ant ... *-*.... IP: 61.91.46.110 วันที่: 6 เมษายน 2548 เวลา:12:58:00 น. |
|
|
|
โดย: อู๋ปังจู้ วันที่: 13 มิถุนายน 2548 เวลา:18:26:40 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหนอน วันที่: 21 มิถุนายน 2548 เวลา:17:12:31 น. |
|
|
|
โดย: nontri IP: 158.108.2.9 วันที่: 22 กันยายน 2548 เวลา:15:04:25 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
อยู่ใต้เบื้องพระยุคลบาทในหลวง Svalbard and Jan Mayen
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]
|
๐ คนข้างโลก อยู่เงียบๆ อย่างเรียบร้อย พูดไม่น้อย จึงเขียนมาก แก้ปากหมา สนใจสิ่ง รอบตัว ทั่วโลกา จักสรรหา มาสัมผัส วัดด้วยตน ขอเก็บความ-คิดไว้ ในบันทึก สนุกนึก ย้อนมาอ่าน กันอีกหน ได้รำลึก ความคิด ในจิตตน คงได้ยล ยิ้มบ้าง ในบางวัน...
|
|
|
|
|
|
|
บรรยายได้บรรยากาศจริงๆค่ะ