_/|\_ ... พสกนิกรนับล้านพลัน...ผาสุก ... _/|\_
ตอนนี้งานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติยังดำเนินอยู่นะคะ ไว้ให้หมดก่อน จะเริ่มเอาภาพมาแปะ อิอิ
วันนี้จะขอพูดถึงรายการทีวี ที่จะเริ่มมีในวันพุธที่ 7 นี้ค่ะ นั่นคือสารคดี "พระเจ้าแผ่นดิน" จะฉายทางช่อง 9
จะเป็นสารคดีเกี่ยวกับผู้ใดไปไม่ได้ นอกจาก... พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
อย่าพลาดนะคะ...
ทีนี้มาว่ากันถึงภาพข้างบน ที่ทำให้เห็นว่า พระเจ้าอยู่หัวทรงใส่ใจการเกษตรอย่างมาก เพราะเล็งเห็นว่าเหมาะกับชาวบ้านในบ้านเรา จึงมีแนวพระราชดำริ ที่เรียกว่า "เกษตรแบบยั่งยืน" เกิดขึ้น
การเกษตรแบบยั่งยืน คือ ระบบการเกษตรที่เกื้อกูล ต่อสมดุลของภูมินิเวศ อันจะนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีฃ และการพึ่งพาตนเองของเกษตรกร อันอาจสรุปได้ดังนี้
จากด้านเศรษฐศาสตร์ มองว่าจะมีความยั่งยืนในการ ทำการเกษตร มีผลกำไร (Profitability) มีความมั่นคง และความปลอดภัยทางด้านอาหาร (Food securit and safaty) ((ก็ปลูกเอง ย่อมไม่มีสารพิษต่างๆ)) และมี ปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตของเกษตรกร ( Basic needs ) อย่างเพียงพอ ((อันนี้ป้าเข้าใจเองว่า อยากกินอะไร ปลูกไอ้นั่น ที่เหลือจึงขาย สนอง needs ผู้ปลูกได้บริโภคสิ่งที่ชอบ))
ด้านระบบนิเวศ การทำการเกษตรแบบยั่งยืนจะต้อง ช่วย ฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยาการธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ( Conservation of natural resources and environment ) ((ไม่ทำการใช้สารเคมี ปลูกพืชที่หน้าดินเสีย เพราะ ตนเองต้องถนอมดิน เพื่อปลูกพืชในปีต่อไป ไม่เหมือน เช่าที่ปลูกพืชที่ทำลายดินเพื่อการค้า)) ทำได้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพในไร่นา ( Biodiversity ) ตามแต่ละภูมิเวศที่เป็นอยู่ ((เพราะอย่างป้า กินครอบครัวเดียว หลักคือปลูกเพื่อ กินในครัวเรือน จึงปลูกหลายๆอย่าง และปุ๋ยที่เกิดจาก ปมราก ใบร่วง ตลอดจนค่าทางเคมีที่พืชใช้จากดิน ก็จะต่างกัน เมื่อหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ค่าทางเคมี ของดิน ก็จะเกิดความสมดุล โดยมิต้องอาศัยสารเคมี))
ด้านสังคม การเกษตรแบบยั่งยืนนอกจากจะสร้าง ความมั่นคงทางด้านอาหาร และปัจจัยพื้นฐานในการ ดำรงชีพของคนในสังคมแล้ว สิ่งที่ตามมาคือ ประชาชน จะมี ความเสมอภาค ในกระบวนการเรียนรู้ ( Equity in learning process ) เกิดชุมชนเข้มแข็ง ( Solid society ) มีการสร้างเครือข่ายรองรับ ( Networking ) ประชาชนได้รับความเป็นธรรม ( Socialjustice ) ทำให้ มีเกียรติศักดิ์ศรีเป็นที่ยอมรับในสังคม ((มองโดยรวมก็คือ ได้รับการพัฒนาความรู้ด้าน การเกษตรต่อเนื่อง จากพืชที่หมุนเวียน มีหัวข้อ แลกเปลี่ยนพูดคุยในสังคม เกิดความสนิทสนม ส่งผล ให้มีการรวมตัวกันเพื่อใช้ผลผลิต (((สหกรณ์))) ไปจน ถึงการปันส่วน มีรายได้ มีกลุ่มงานสังคมรวมที่เป็นเพื่อน กันต่อไป))
ด้านวัฒนธรรม การพัฒนาการเกษตรแบบยั่งยืน จะต้องมีความสอดคล้องเป็นที่ยอมรับกับปัจจัย วัฒนธรรม อันประกอบด้วย ภูมิปัญญา ( Wisdom ) ความเชื่อ ( Beilef ) ค่านิยม ( Value ) ศาสนา ( Religion ) และประเพณี ( Tradition ) สังคม ((หมายความว่า พืชที่ปลูกสอดคล้องกับภูมิปัญญา ท้องถิ่น เช่นทำตาล ทำหวาก ความเชื่อก็ประเภท ส้มต้องบางมด สัปปะรดต้องนางแล ประมาณนี้..(มั้ง) ค่านิยม... นี่คงเป็นเกษตรที่ได้ราคา แต่ศาสนานี่สิ... ปลูกใบหนาดส่งออก... เอ่อ...คงไม่ใช่ น่าจะเป็นพวก ปลูกแล้วได้ใช้ในงานเพื่อศาสนา อันอิงต่อไปยัง ประเพณี พวกกวนกระยาสาทร อะไรนี่แหง...))
นอกเรื่อง ((อย่างนี้การเอากล้วยเหี่ยวๆแขวนหน้าบ้าน ไล่ "ผีแม่ม่าย" ก็เข้าข่าย ภูมิปัญญา ความเชื่อ ศาสนา ประเพณี ฯลฯ อ่ะจิ อิอิ ))
การมององค์ประกอบหรือภาพองค์รวม ( Holistic approach ) การเกษตรแบบยั่งยืนจะต้องเป็นระบบ ที่มีความสัมพันธ์หลากหลายด้านสอดคล้องกัน เป็นองค์รวมในเวลาเดียวกัน ไม่แยกส่วนจากกัน ในการพิจารณา ไม่ว่าจะเป็น ลักษณะทางกายภาพ ของสิ่งมีชีวิต สิ่งไม่มีชีวิต สังคม เศรษฐกิจ และ นโยบาย เพื่อที่จะทำให้ทั้งกิจกรรมการเกษตร ภายในไร่นาและกิจกรรมอื่นๆนอกไร่นา มีความ ประสานสอดคล้องกันทุกด้าน ((อันนี้แปลง่าย คือปลูก เลี้ยง เพาะ ไม่ขัดแย้ง ไม่ก่อปัญหาไม่ว่ากับใคร เช่นพืช GMO หรือนากุ้ง กลางนาข้าว ฯลฯ นั่นเอง))
ที่มา
//elearning.spu.ac.th/allcontent/ecn384/study15.htm
ยังมีบทความดีๆ เกี่ยวกับการพัฒนาด้านการเกตร อีกเยอะเชียวค่ะ
การเกษตรแนวยั่งยืนนี้ สอดคล้องกับแนว "เกษตรทฤษฎีใหม่" ที่ให้แบ่งส่วนพื้นดิน เพื่อเก็บกักน้ำ (ไม่ขัดแย้ง แย่งชิงในชุมชน) (องค์รวม วัฒนธรรม และสังคม ) ปลูกพืชหลายชนิด (ระบบนิเวศน์และเศรษฐศาสตร์) ทำบ่อเลี้ยงปลาและหญ้าแฝก (ระบบนิเวศน์)
ปัจจุบันมีหลายคน ที่มีที่ดินทิ้งไว้ต่างจังหวัด เริ่มมอง แนวเกษตรชนิดนี้ เพื่อทำให้ตนเองได้ทดลองดูกันมาก
และพบว่าหลายคนประสบผลดีค่ะ
เมื่อปีที่แล้วโน้น ป้าไปโบกรถเที่ยวแถวสุรินทร์ ยังได้ ไปพักบ้านของคุณลุงท่านหนึ่ง ซึ่งท่านได้จัดบ้านท่าน เป็นไร่นาสวนผสมตามพระราชดำริ
บ้านสวนของคุณลุงบุญเรือง (ขอเอ่ยนาม) ร่มรื่น บริบูรณ์ (ระบบนิเวศน์) คุณลุงเต็มใจต้อนรับ มีน้ำใจมาก (สังคม- องค์รวม) พืชผลมีหลากชนิด (เศรษศาสตร์ - ระบบนิเวศน์) เก็บกิน และแจกพวกเรา ตลอดจนชาวบ้านทั่วไป
ป้ายังประทับใจจนทุกวันนี้
ไม่ว่าไปที่ไหนของเมืองไทย เรามักได้รับกุศล จากน้ำพระทัยของ "ในหลวง" เสมอ
ทรงพระเจริญ
Create Date : 05 มิถุนายน 2549 |
|
10 comments |
Last Update : 6 มิถุนายน 2549 19:30:59 น. |
Counter : 1009 Pageviews. |
|
|
|
แต่ก่อน...ก่อนที่ยังไม่มีปุ๋ยเคมี...
เราก็ทำเกษตรแบบยั่งยืนกันมาใช่มั้ยคับ..
ผมก็อยากโบกรถไปโป่งแยงแอ่งดอย ไปดูวิถีชาวบ้านที่ปลูกไม้ดอกกันข้างบน... อยากเข้าไปอาสาขอทำงานแลกกะค่าค้างคืนที่บ้านชาวบ้านเค้า... ป้าว่าเค้าจะใจดีเหมือนลุงบุญเรืองมั้ยคับ...
อยากไปลงเรือจับปลาไดหมึกด้วย.. ตั้งไว้หลายโปรเจค... ฮี่ฮี่...