๐ ๐ ๐ ... แม่เมือง ... ๐ ๐ ๐
วันนี้ "วันแม่" ค่ะ
ที่มีการตั้งวันนี้เป็นวันแม่ขึ้นมา ก็เพราะเป็นวันพระราชสมภพ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระราชประวัติ คงไม่ต้องกล่าวนะคะ เพราะหาได้จากหลายที่ วันนี้ ป้าจะขอกล่าวถึงสมเด็จฯ จากสายตาของพสกนิกรตัวเล็กๆคนหนึ่ง
สมเด็จฯ ในสายตาของป้าเป็นผู้หญิงที่ "งดงาม" ค่ะ งดงามในที่นี้ มิได้หมายถึงทรงพระสิริโฉมเท่านั้นนะ แม้ว่าทั่วโลกจะรู้ว่า เรามี Queen ที่ทรงพระโฉม
แต่ในสายตาของป้าแล้ว สมเด็จฯ งดงามแทบทุกอิริยาบท งามอ่อนหวาน ชื่นตาแก่ผู้ได้พบ ก่อความรู้สึกอ่อนโยน โดยเฉพาะเวลาแย้มสรวล ให้ความรู้สึกว่า "ยิ้ม" อย่างแท้จริง จากข้างใน แก่ผู้ที่ "ทรงยิ้ม" ให้
ไม่ว่าจะแย้มสรวลให้คนรอบข้าง...
หรือแย้มสรวลให้พระนัดดา (คาดว่าเป็น "องค์ติ๊ด" ค่ะ) (ป้าชอบภาพนี้นะ รู้สึกว่าสมเด็จฯ แย้มสรวลหวานมาก)
รอยยิ้มของสมเด็จฯนี้ มีเรื่องเล่ากันว่า ตอนที่เสด็จประพาส ประเทศสหรัฐฯ มีผู้ถามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า
"ทำไมพระองค์ ไม่ค่อยยิ้ม"
ในหลวงทรงผินพระพักตร์ (หันหน้า) ไปทางสมเด็จฯ แล้วตรัส
"นั่นคือรอยยิ้มของฉัน"
และตลอดเส้นทางเสด็จประพาส เชื่อว่าหลายคนคง "ชื่นใจ" กับ "ยิ้ม" ของในหลวง กันทั้งนั้น
อีกสิ่ง ในสมเด็จฯ ที่ป้าชื่นชมเหลือเกิน นั่นคือ... "ความเป็นแม่" ค่ะ
หน้าที่หลักๆของแม่ คงไม่ต้องกล่าวกัน เพราะชัดเจน หากป้าประทับใจความ "จุ๊กจิ๊ก" แบบแม่ๆ ของท่าน ที่แสดงถึงความอ่อนโยน ต่อ "ลูก" ของพระองค์
ภาพนี้ถ่ายมาจาก พิพิธภัณฑ์ ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ค่ะ ดูรอยแย้มสรวลของสมเด็จฯ พระบรมฯสิคะ ชมแล้วรู้สึกชุ่มชื่นค่ะ
ถ้าใครจำได้ว่าวันที่ออกสีหบัญชร แล้วมีภาพสมเด็จฯ แต่ง พระเกศา ให้สมเด็จฯ พระเทพฯ เป็นภาพที่ใครๆได้ชมก็แอบอมยิ้ม แต่นั่นไม่ใช่ครั้งแรก...
ไม่ว่าเมื่อใด สมเด็จฯ เป็น "แม่" ที่ดูแล "ลูก" อย่างใส่ใจเสมอ...
ในมุมหนึ่งของสตรีที่ป้าชื่นชมในความงดงามอ่อนหวานนี้ ยังมีความแข็งแกร่งผสานอยู่ภายใน...
จำปีที่แล้วนู้นได้ไหมคะ... ช่วงที่มีข่าวโจรแยกดินแดน ฆ่าตัดคอประชาชน สมเด็จฯ นี่ละค่ะ ที่ทรงมีพระราชเสาวนีย์ว่า
"เพราะฉะนั้นท่านเองก็เป็นผู้ที่มีสติปัญญา เป็นเจ้าของแผ่นดินไทย และเป็นผู้ที่ควรตอบแทนพระคุณแผ่นดินก็คงจะช่วยข้าพเจ้า ช่วยกันคิดว่าควรจะทำอย่างไรบ้างที่พยายามที่จะช่วยชีวิตคนไทย ประมาณ ๓๐๐,๐๐๐ คน ทางภาคใต้ ให้เขามีทางที่จะทำมาหากิน และได้มีชีวิตอยู่ ขอให้เขามีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่ อยากจะพูดกับพวก สิทธิมนุษยชนว่า พวกนี้ไม่ได้ทำบาปทำกรรมอะไรเลย เขาก็มีสิทธิ์ น่าจะมีสิทธิ์ที่จะมีชีวิต ทำมาหากินในประเทศของเขาอย่างสงบสุข ไม่อย่างนั้นก็โดนฆ่าไปเรื่อยๆ ตลอดเวลา ก็ขอขอบพระคุณทุกท่าน ที่อุตส่าห์มาฟังในวันนี้ และขอขอบพระคุณท่านนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐบาลนะคะ ที่ช่วยกันพยายามแก้ปัญหาอย่างยิ่ง... และข้าพเจ้าก็สัญญาว่า ข้าพเจ้า ๗๒ แล้ว จะไปหัดยิงปืนใหม่แล้ว โดยไม่ต้องใส่แว่น ก็ยิงมันไปก็แล้วกัน... ขอบพระคุณค่ะ ขอบพระคุณมาก..."
(นำมาจากท้ายพระราชดำรัส วันที่ 16 พ.ย. 2547)
นี่คือ ผู้หญิง นะคะ
ผู้หญิงที่มีหัวใจนักสู้ แฝงใต้ท่าทีอ่อนหวาน... ตอนฟังพระราชเสาวนีย์นี้ป้าขนลุกซู่ นึกว่าถ้าตัวเป็นชาวบ้านที่นั่น คงทำตามพระประสงค์ ไปหัดยิงปืน ซื้อปืนใหม่ สู้มัน อย่าให้มันยึดแผ่นดินเราโดยง่าย
เพราะในเวลาที่ภาวะรุมเร้า สมเด็จฯของเราก็บอก "จะร่วมสู้" มาแล้ว...
ในขณะที่มีข่าวสองนาวิกโยธิน สมเด็จฯของพวกเราก็ไม่ท้อถอย ยังประทับที่ภาคใต้เป็นขวัญและกำลังใจให้ประชาชน แม้จะมีผู้ทูล ให้เสด็จกลับกรุงเทพฯ แต่สมเด็จก็ไม่ถอย ประทับเป็นมิ่งขวัญของคนที่นั่น
นอกจากนั้น ยังจัดหมู่บ้านให้กับครอบครัวของผู้ประสบภัยจากผู้ก่อการร้าย สร้างที่ทำกิน อาชีพ โรงเรียน... สมเด็จฯไม่เคยดูดาย ไม่ละทิ้งรายละเอียดปลีกย่อย ทรงห่วง แม้ในจุดที่ผู้อื่นมองไม่เห็น...
ป้าหวนคิดถึงตอนที่สมเด็จฯ แต่งเส้นพระเกศาสมเด็จฯพระเทพฯ... แล้วซึ้งค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก... ใหญ่... แค่ไหน "แม่ของแผ่นดิน" ผู้นี้ ทอดพระเนตรเห็นเสมอ...
นี่เป็นความภูมิใจอย่างมาก จากคุณความดีที่ยกมาเพียง "เสี้ยวเล็กๆ" ของสมเด็จฯ
จากใจพสกนิกรตัวเล็กๆ ที่ได้อยู่บนแผ่นดิน ซึ่งมีพระราชินี เป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ...
Create Date : 12 สิงหาคม 2549 |
|
94 comments |
Last Update : 12 สิงหาคม 2549 2:36:03 น. |
Counter : 3754 Pageviews. |
|
|
|
ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ