|
|
| | 1 | 2 | 3 | 4 |
| 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
| 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
| 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
| 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
* * สลากภัต...จัดตอนเพล * *
เพิ่มมูลความรู้ (เพื่อให้เจ้าของบล็อคดูมีสติสัมปชัญญะมากขึ้น)
สลากภัต (สะ- หลาก- กะ- พัด)
น. อาหารแห้ง หรือผลไม้ถวายพระโดยวิธีจับฉลาก
เช่น สลากภัตข้าวสาร สลากภัตทุเรียน
ที่มา: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี ๒๕๔๒
หน้า ๑๑๓๙ บรรทัด ๗ ฝั่งขวา
ความเดิมตอนที่แล้ว...
ได้กล่าวถึงการทำสลากภัตไปถวายเพลพระที่วัดแถวบ้านของแม่บุษบามินตรา ที่นัดผองเพื่อนร่วมคณะว่าจะทำกับข้าวกับปลาไปถวายเพล ยังวัดที่พระหลานชายได้ไปบวชอยู่นั่นเอง
หลังตบตี กัดจิก ด่า เจ๊ยยยยย~ ไม่ใช่ๆๆ ตกลงกันด้วยมธุรสวาจากันจนเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า เมนูของพวกเรามีดังนี้...
1. ออเดิร์ฟ ขนมจีบ ฮะเก๋า หอยจ๊อ
2. ซุปหูฉลาม
3. บะหมี่เป็ดย่างแบบกวางตุ้งแท้ (เพราะมีผักกวางตุ้ง อิอิ)
4. บัวลอยไส้งาดำ และบัวลอยชาเขียวไส้ถั่วแดงในน้ำขิง
5. ข้าวเหนียวสังขยา (มาจากไหนวะ สงสัยแม่ยัยบุดให้มา)
6. ลิ้นจี่จักพรรดินี (เขียนให้เว่อร์ไปงั้น อิอิ)
7. ทับทิมจากปู่ถัวซัน (นี่ก็เว่อร์อีก ฮี่ ฮี่)
8. แตงโม ส้ม ลองกอง (อีกสำรับจัดมาใส่ทำไมก็ไม่รู้อ่ะเสียคอนเซปป์เค้าหมด)
9. น้ำเก๊กฮวย (จริงๆกะจะผสมหล่อฮังก๊วยด้วย แต่กลัวท่านฉันไม่ได้ เพราะไม่เคยต้มใส่ด้วยกัน อิอิ)
ทั้งหมดรวมแรงรวมใจจากชาวแกงค์ที่นัดกันแล้วว่า ชาติหน้าจะไปเกิดจิ่ว จ๊าย โกวกันหมด
แต่เปล่านะ พวกเราไม่ได้ทำอะไรให้มันยุ่งยาก ลำบากลำบนสักกี่มากน้อยหรอก เพราะอาหารก็เตรียมกันง่ายๆ เช่นพวกติ่มซำ ก็เป็นของอร่อยแบบแช่แข็ง พร้อมนึ่งและใส่จานถวาย เพราะถ้าให้ปั้นและจีบคงไม่ไหว และหน้าตาออกไปทางเกี๊ยวละพอได้อยู่ เอาแบบนี้และทำแค่กระเทียมเจียวนิดเดียวก็ได้ที่ ส่วนหอยจ๊อก็หั่น ทอด เน้นสีสันรูปร่างให้สวยงาม
หูฉลามก็...ง่ายสุด เพราะเป็นของสำเร็จรูปกว่า แบบเปิด อุ่น เท โลด...ประมาณนั้น (แถมเจ้าของรายการ ดันคาราโอเกะยันสว่าง เลยไม่ลุกมาอุ่นเอิ่นอะไรทั้งนั้น ปล่อยให้เพื่อนวิ่งทำโน่นนี่กันหน้ามันแผล็บ หั่นบุญมันออกครึ่งนึง)
บัวลอย... ก็เหมือนกัน มาเป็นแพ็ค น้ำขิงพร้อม แต่พวกเราก็เตรียมน้ำตาลทรายกับขิงไว้เหมือนกัน กะว่าถ้าแกะมาแล้วหน้าตาไม่ดี จะได้ต้มทัน
ยากสุดคงเป็นบะหมี่เป็ดย่าง เพราะต้องลวกกวางตุ้งให้สีสวย เคล็ดลับอยู่ที่การใส่เกลือนิดหน่อย และแช่น้ำเย็นทันทีที่สุก แถมบะหมี่ต้องใช้เส้นเมียวโจ้ต้มได้ที่ คลุกน้ำมันกระเทียมเจียวทำใหม่ๆจึงจะหอมและได้เส้นไม่ติดกัน
ดีที่ซื้อเป็ดย่างมา มีน้ำพร้อม อุ่นเป็ดอุ่นน้ำ ลวกผัก จัดจาน แยกน้ำราด ไว้ราดก่อนถวาย ก็สำเร็จ
เก๊กฮวย เอาแบบดอกแห้งของจีน ต้ม พออุ่น ใส่น้ำตาลพอหวานนิดๆ ใส่ตู้เย็นแช่ไว้ อันนี้ก็ง่าย...ปกติยศจังจะชอบ ถ้าจะให้ครบสูตรต้องเป็นน้ำตาลกรวด และใบเตยสดอีกสอง-สามใบ จะหอมเข้มยิ่งขึ้น
มาพิถีพิถันอีกหน่อยที่ผลไม้ ทับทิมนั้น แค่ผ่าสี่ แบะ ฝานเปลือกออกให้รอยผ่าดูเป็นกลีบดอกมากขึ้น (แต่จริงๆต้องแกะแกน และดึงเยื่อกั้นข้างในออก หรือผ่าเอาเนื้ออีกลูกมาโรยให้พูนจึงจะสวย แต่ทับทิมที่เรามีสองลูกสีไม่เท่ากัน และลูกหลักสุกจัดได้ที่แล้ว พอแกะก็ร่วนทำให้ไม่กล้าแกะไส้ ทำไปตามสมควร
ส่วนลิ้นจี่... อันนี้จะแกะด้วนๆ เรียงลอยหน้าลอยตาในจาน มันก็น้อยไป วิธีแกะลิ้นจี่ทำดังนี้
- คัดเอาผลโตและผลเล็กมาคู่กัน
- ปอกเปลือกผลโตค่อยๆ ไม่ให้ผิวในช้ำ คว้านเมล็ดออก
- กรีดเปลือกผลเล็ก เป็นรูปดอกไม้มีกลีบตามต้องการ ซึ่งเมื่อกรีด ผิวในมักจะขาด มีน้ำไหล ขาดความหวานฉ่ำที่ต้องการให้คงอยู่ จึงมักใช้เปลือกลูกเล็ก ใช้เนื้อลูกโตทุกครั้ง
- นำลูกเล็กที่ผิวฉีกแล้วใส่ปาก...อิอิ
- นำลูกโตที่ผ่านการคว้านเรียบร้อย ใส่ปากตามไป...เอ๊ย ใส่ในเปลือกลูกเล็ก พับเปลือกให้เป็นกลีบสวยงาม ลิ้นจี่ที่ได้ จะดูประดุจลูกโต๊โต จนเปลือกปริ ฉ่ำ และผิวสวยน่ากิน...
ว่างๆลองทำเอาใจคนที่บ้านกันนะคะ...อิอิ
ตอนแรกที่กะการไว้ คือว่าคนที่นำของมา มีหน้าที่ทำของๆตัวเองให้เรียบร้อย ใครจะสั่งอะไร ก็ทำนั่น... บุญส่วนตัวทำนองนั้น...
แต่พอเอาเข้าจริง ไอ้เจ้าของหูฉลามดันนอน ส่วนเจ้าของหอยจ๊อ ทับทิม ลิ้นจี่ ติดธุระคนมาไม่ได้...
แต่ของมาได้ (จริงๆแล้ว ขับรถมาส่ง อภัยให้ได้ อิอิ)
สามสาวที่เหลือก็วิ่งวุ่น เพราะพี่สาวของยัยมินต์ก็มาทำการอุ่นกับข้าวที่เอามาจากบ้านอีกสำรับด้วย (จองสองสลาก) เอาของออกจากตู้เย็น ตั้งลังถึง สับกระเทียมจะได้เจียว หั่นผัก ลวกผัก ลวกบะหมี่ ต้มบัวลอย อุ่นเป็ด อุ่นน้ำราดเป็ด ปอกผลไม้ ฯลฯ กันมือเป็นระวิง ชนิดใครมาเห็นตอนนี้เป็นไม่เปลี่ยนใจที่จะมาขอเป็นเจ้าสาวแน่ๆ ก็ทำกับข้าวไวว่อง สมเป็น "แม่ผีเรือน" จริงๆ
และแล้ว...ก็สำเร็จ
คณะจัดสำรับรีบอาบน้ำ หัวมีกลิ่นกระเทียมฟุ้ง เดี๋ยวแทนที่จะบุญกับของอร่อย พระท่านจะพาลฉันไม่ได้ อีกอย่างสำรับเป็นโตกไม้กับถาดนากขัดแวววาว มันก็ต้องแต่งตัวสวยสะอาดเข้ากะโตก-ถาดใช่ป่ะ อิอิ
พวกเราหิ้วของไปวัด ประคองกันเป็นอย่างดี จริงๆแล้วคนที่นี่นิยม "หาบ" ของไปวัด มีคนแก่หลายคน "หาบสำรับ" ข้างหน้าใส่สำรับคาว ข้างหลังใส่สำรับหวาน มีคนในครอบครัวอุ้มบาตรข้าวตามหลัง บ้างมีลูกจูงหลานตามเป็นพรวน แต่ปู่ย่าจะแย่งกันหาบ เพราะเชื่อว่าได้บุญแรง บ้างก็จะจัดเป็นปิ่นโตไป แล้วไปจัดขึ้นสำรับเอาที่วัด
ในศาลาคนแน่น วันนี้พระที่จะมารับสลากมีทั้งหมด 43 รูป (ห้ามแทงหวยนะ) ของคณะป้าได้องค์ที่ 38 พวกเราก็ประคองสำรับ "จิ่ว จ๊าย โกว" ไปตั้งตามเลขที่ได้ จัดน้ำท่า อาหารให้เตรียมถวาย
มองไปรอบๆ โห...อลังการงานสร้างค่ะ โตก ถาด เงิน นาก สุกปลั่ง โตกไม้แกะก็หรูอลังฯซะ...
แถมถ้วยชามในสำรับก็ประชันกันสุดฤทธิ์ ชามลายผักชีมีทั้งใหม่และเก่าลายครามแท้ ชามญี่ปุ่นแบบยุคก่อนสงครามโลกดูจะฮิตที่สุด ตามด้วยเบญจรงค์ห้าสีแต่ล้วนเป็นแบบยุคใหม่ หาที่จะเอาของเดิมแท้มายาก ที่ดูออกเพราะลายน้ำทองเป็นการเคลือบแบบใหม่วาววาม
บางเจ้าก็เป็นเครื่องแก้ว งดงามน่าใช้ บางเจ้าก็เป็นโถมีขา ทำจากกระเบื้องสีขาวล้วน มีหัวมีขามีฝาทำลวดลายเข้ากันครันครบ เรียกได้ว่านอกจากอิ่มกับข้าว ยังอิ่มตากับเหล่าบรรดาภาชนะทั้งหลายด้วย...อุอุ
หลังการชะโงกดูเหล่าถ้วยจาน ป้าตั้งใจว่า ปีหน้าจะเอาเครื่องชามชุดเวจวูดด์ลายกุหลาบที่ได้มาแต่ไม่เคยใช้ เอามาประชันกับเขาเสียที...
คอยดู ปีหน้าจะทำหน้าเชิด หาบสำรับกับข้าวหรูขึ้นศาลา อิอิ
ภาชนะหรูเลิศ ดังนั้นอาหารก็จะต้องอลังการงานสร้าง ปีหน้าเป็นแบบไทยๆ (เพราะกะแล้วว่าด่ากันเป็นภาษาจีนมันคงไม่ถึง "กึ๋น" เท่าภาษาพ่อแม่เรานี่หรอก อิอิ) ขอมาเกิดเป็นคนไทยดีกว่า ได้ร้องเพลงนี้กันอีก
"ถึงอยู่แคว้นใด... ไม่สุขสำราญ...เหมือนอยู่บ้านเราชื่นฉ่ำค่ำเช้า...สุขทวี..."
ปีหน้าเลยกะการว่า จะทำสำรับ "กุ้งแม่น้ำ" เริ่มด้วยกุ้งทอดกระเทียมพริกไท ฉู่ฉี่กุ้ง และต้มยำกุ้งน้ำใสแบบโบราณ แก้เลี่ยนด้วยยำกุ้งฟูเป็นอันดับสุดท้าย
ส่วนของหวานก็จะเป็น "สำรับราชาและราชินีผลไม้" บ้านเมืองเรามันเมืองผลไม้ จะถวายอะไรล่ะถ้าไม่ใช่ "ราชาผลไม้...ทุเรียน" ต้องเป็นทุเรียนก้านยาวลูกละ 1500 จากสวนนนทบุรีที่ต้องจองกันข้ามปีข้ามชาติ (อันนี้โม้ อิอิ เพราะคนจองไม่เจอนานแล้ว แต่ต้องเป็นทุเรียนแน่ๆ) ตามด้วยข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน ทุเรียนกวน อัดพิมพ์สวยๆ ราดกะทิ หรือทุเรียนห่ามเชื่อมแบบกล้วยไข่เนื้อแน่นเหนียวหนับราดด้วยกะทิสด ทุเรียน....ทุเรียน...
แล้วถวายมังคุด (ที่ได้ฉายาว่า "ราชินีผลไม้เมืองร้อน") กินแก้ร้อนในอีก... 3 ลูก อิอิ
(มันจะพอกลบลบกันไหมเนี่ย...หา)
รอก่อนนะ...ปีหน้า เราจะมาแบบอลัง ชามหรู... คู่กับข้าวเลิศ...ของหวานเรี่ยม... โฮะ โฮะ โฮะ...
ตอนนี้ขอตัวไปฝึกหาบก่อน เพราะท่าทางหาบไม่เก่ง ก้าวเดินทีข้าวของในหาบจะเด้งโดดออกมา เดี๋ยวนอกจากจะไม่ได้ถวายพระ ชามยังจะแตกเสียอีกแน่ะ...
นอกเรื่องไปตั้งปีหน้า กลับมาขึ้นศาลากันต่อค่ะ
พอเรานำกับข้าวไปตั้งที่เบอร์ 38 แล้ว ก็รอค่ะ มรรคทายกวัดก็กล่าวนิมนต์พระสงฆ์เข้านั่งตามที่หมายเลข (คณะของบ้านยัยมินต์โชคดี จับสลากได้หลวงน้าญาติกัน ที่เป็นเจ้าอาวาสจากอีกวัด) จากนั้นก็มีการสวดมนต์ กล่าวคำอาราธนาศีล กล่าวคำถวายภัตตาหาร พระสงฆ์สวด รับ แล้วจึงฉันอาหาร มีพวกเรานั่งอิ่มอกอิ่มใจ กับภาพตรงหน้า จิ่ว จ๊าย โกว... ขอแค่ชาตินี้ให้ได้ไปเที่ยวด้วยกันทั้งฝูงก็แล้วกันนะ อิอิ
พอพระสงฆ์เริ่มฉัน คนรอบๆข้างเริ่มคุย ป้าใจดีเบอร์ 37 เห็นป้ามองสำรับแล้วคงเหมือนคนหิว จัดแจงเปิดใต้หาบ ชี้ชวนให้เอาขนมที่เหลือจัดสำรับมากิน ป้าปฏิเสธตามมารยาท (แต่ใจจริงอยากได้วุ้นกะทิอ่ะ ใส่มะพร้าวอ่อนด้วย ...คงอร่อย) เลยเปลี่ยนเป็นนั่งยิ้มไปยิ้มมาแลกกันแทน
น้ำใจชนบทไทย อบอุ่นนะคะ ไม่ได้รู้จักกันเลย แต่แค่นั่งใกล้กันก็ชักชวนกันกินโน่นนี่อย่างยิ้มแย้ม รอบศาลอบอุ่น พวกตัวเล็กที่ชะเง้อมองพระ คงเริ่มหิว ย่า ยายก็หยิบของเหลือจัดสำรับจากในหาบมาใส่ปากให้ (อยากเป็นเด็กอ่ะ...จะเอาเม็ดขนุน)
หลังของคาวเสร็จ ก็ของหวานค่ะ พระท่านฉันบัวลอยที่เพื่อนอีกคนทำเป็นอันดับแรก หันไปเห็นแม่คนทำยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เพราะเธอคนนี้ตาชั้นเดียวค่ะ มีความทุกข์ระทมกับการกัดจิกเรื่องตากับพวกเราเล็กๆ
พอกลับบ้าน ป้าเอามาเล่าให้เพื่อนๆฟังว่า...
ตอนถวายของหวานนะ...ยัยคุณแม่บ้านอ้อเธอนั่งดูว่ะ ว่าหลวงพ่อจะฉันบัวลอยกี่ลูก ถ้าลูกเดียวละ...ตายเลย"
นังมินต์พาซื่อถาม
"ทำไมละป้า"
เปิดโอกาส...อิอิ
"ก็ถ้าฉันลูกเดียว...ตาก็โตข้างเดียวดิ...พระท่านฉันกี่ลูกอ่ะอ้อ"
แม่สาวเจ้าของบัวลอยชูนิ้วเป็นรูปตัว V ตอบเสียงแจ๋ว หน้าตาร่าเริงสุดๆ (ดีใจไปเผื่อชาติหน้าละสิยะ ช่าง...ชาติหน้าชั้นจะหาทางกัดหล่อนเรื่องอื่น)
"สองลูกค่ะป้า...เย้"
ป้าแอบคิดในใจ...
เห็นนะ (เพราะจ้องอยู่เหมือนกัน) ว่าฉันสองลูก แต่...คนละสีย่ะ ชาเขียวลูก กะแป้งขาวลูก ชาติหน้าหล่อนจะตาเขียวข้าง ขาวข้าง...ฮี่ ฮี่ (แต่โตนะ) จะแซวแหลกต่อ กร๊ากกกกกกกกกกก
สำรับของหวานก็ประสบความสำเร็จค่ะ หลวงพ่อฉันผลไม้ และขนมได้มากพอดู หลังทุกท่านฉันเสร็จก็สวดให้พร ให้ศีล (ไม่รับข้อปาณาฯ เอาไว้ฆ่า ยุง มด ปลวก หนู กับข้อมุสาฯ เดี๋ยวจะอำเพื่อนๆไม่ได้ อิอิ) เหล่าพุทธศาสนิกชนก็รับศีล และกรวดน้ำตามธรรมเนียม แล้วจึงแยกย้ายกันกลับ หาบของเดินไปบ้านกันเป็นแถวด้วยใบหน้าอิ่มเอิบ เป็นสุข
พวกเราก็ด้วย หยิบของเหลือในสำรับกินกันตลอดทาง...อิ่ม อิอิ
เอาบุญมาฝากทุกคนค่า...
| Create Date : 27 มิถุนายน 2548 |
| Last Update : 27 มิถุนายน 2548 0:41:15 น. |
|
23 comments
|
| Counter : 1484 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: rebel  วันที่: 27 มิถุนายน 2548 เวลา:5:26:14 น. |
|
|
|
| โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 27 มิถุนายน 2548 เวลา:8:18:08 น. |
|
|
|
| โดย: peppy_ant วันที่: 27 มิถุนายน 2548 เวลา:10:41:22 น. |
|
|
|
| โดย: O-HO วันที่: 27 มิถุนายน 2548 เวลา:21:31:42 น. |
|
|
|
| โดย: ป้าหนอน วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:18:32:35 น. |
|
|
|
| โดย: ป้าหนอน วันที่: 30 มิถุนายน 2548 เวลา:2:34:52 น. |
|
|
|
| โดย: ไข่หวาน (ทะเลหวาน ) วันที่: 2 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:04:48 น. |
|
|
|
| โดย: ลูกน้ำ (NaM_85_ลูกน้ำ ) วันที่: 4 กรกฎาคม 2548 เวลา:16:13:53 น. |
|
|
|
| โดย: lovekalo (lovekalo ) วันที่: 5 กรกฎาคม 2548 เวลา:18:57:20 น. |
|
|
|
| โดย: ครีเอถีบ IP: 202.44.130.21 วันที่: 7 กรกฎาคม 2548 เวลา:7:51:33 น. |
|
|
|
| โดย: ป้าหนอน วันที่: 9 กรกฎาคม 2548 เวลา:5:44:30 น. |
|
|
|
| โดย: น้องเล็ก (Unfair ) วันที่: 9 กรกฎาคม 2548 เวลา:17:55:46 น. |
|
|
|
| โดย: porpor IP: 203.156.22.33 วันที่: 9 กรกฎาคม 2548 เวลา:20:41:08 น. |
|
|
|
| โดย: ป้าหนอน วันที่: 10 กรกฎาคม 2548 เวลา:1:41:42 น. |
|
|
|
| โดย: เจแมน IP: 203.151.140.121 วันที่: 20 กันยายน 2548 เวลา:10:14:24 น. |
|
|
|
| โดย: ดนัย มาลา IP: 203.151.140.121 วันที่: 21 กันยายน 2548 เวลา:9:49:10 น. |
|
|
|
| โดย: ป้าหนอน วันที่: 1 ตุลาคม 2548 เวลา:0:47:18 น. |
|
|
|
| โดย: 555+ IP: 58.147.7.210 วันที่: 10 กันยายน 2549 เวลา:10:39:26 น. |
|
|
|
| โดย: noock_ker@hotmail.com IP: 203.113.51.164 วันที่: 17 กันยายน 2549 เวลา:9:24:28 น. |
|
|
|
| โดย: นก IP: 203.113.50.141 วันที่: 21 กันยายน 2549 เวลา:9:34:51 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
อยู่ใต้เบื้องพระยุคลบาทในหลวง Svalbard and Jan Mayen
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]
|
๐ คนข้างโลก อยู่เงียบๆ อย่างเรียบร้อย
พูดไม่น้อย จึงเขียนมาก แก้ปากหมา
สนใจสิ่ง รอบตัว ทั่วโลกา
จักสรรหา มาสัมผัส วัดด้วยตน
ขอเก็บความ-คิดไว้ ในบันทึก
สนุกนึก ย้อนมาอ่าน กันอีกหน
ได้รำลึก ความคิด ในจิตตน
คงได้ยล ยิ้มบ้าง ในบางวัน...
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เอ้ยๆๆ ไม่ใช่ๆ ต้องอย่างนี้ก่อน
