|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
มหาเทวี
พญาสุวรรณคำผง (เจ้าฟ้าหลวงโงม) มีโอรสชื่อขุนผีฟ้า (เจ้าฟ้าเงี้ยว) เป็นเจ้ามหาชีวิตลาวองค์ที่ ๒๒ เจ้าฟ้าเงี้ยวมีโอรส เป็น ชาย ๒ หญิง ๒ โอรสพระองค์สุดท้ายเป็นชายชื่อเจ้าฟ้างุ้ม
เจ้าฟ้างุ้มเมื่อแรกประสูตินั้นมีฟันมาพร้อมทั้ง ๓๓ ซี่ พวกอำมาตย์ราชมนตรีทั้งหลายทูลว่าเป็นกาลกินี ให้เอาไปลอยน้ำเสีย เจ้าฟ้าเงี้ยวขัดเสนาอำมาตย์ไม่ได้จึงนำเจ้าฟ้างุ้มพร้อมด้วยข้ารับใช้ เช่น ปู่เลี้ยง พี่เลี้ยง ข้าเลี้ยงรวม ๓๓ คน ลงแพไหลไปตามแม่น้ำโขง จนไปถึงแก่งหลี่ผี เวลานั้นมีพระภิกษุชาวเขมรจำพรรษาอยู่วัดคูหาใกล้กับหัวหาดหลี่ผี ชื่อพระมหาปาสมันต์ จึงได้นำเจ้าฟ้างุ้มมาเลี้ยงไว้และสั่งสอนศิลปวิทยาการจนพระกุมารอายุได้ ๗ พรรษา พระมหาปาสมันต์จึงนำเจ้าฟ้างุ้มไปถวายกับพระเจ้าแผ่นดินเขมรที่เมืองพระนครหลวง จนเติบใหญ่ ได้เป็นราชบุตรเขยพระเจ้าแผ่นดินเขมร
ครั้นเมื่อเจ้าฟ้าเงี้ยว สวรรคต ราชสมบัติฉัตรขาวนั้นก็ตกแก่เจ้าฟ้าคำเฮียวพระอนุชา เจ้าฟ้างุ้มทราบการดังนั้นจึงแต่งทัพมาชิงราชสมบัติ ตีบ้านเล็กเมืองน้อยรวมรวบไพร่พลได้จำนวนมากแล้วก็มายั้งทัพอยู่ที่ปากอู
ฝ่ายเจ้าฟ้าคำเฮียวผู้เป็นอาว์ ก็ได้แต่งทัพออกไปต่อสู้ถึงสามครั้ง แต่ก็ถูกกองทัพเจ้าฟ้างุ้มตีแตกกลับมาได้ถึงสามครั้ง เจ้าฟ้าคำเฮียวมีความละอายไพร่ฟ้าเป็นอันมากที่สู้หลานไม่ได้ จึงเสวยยาพิษปลงพระชนม์พระองค์เอง พร้อมทั้งมเหสี ทิ้งไว้แต่พระราชธิดาสององค์ คือ นางแก้วมหาฮี กับนางน้อยนางเฮียว
เจ้าฟ้างุ่มจึงได้เข้ามาเสวยราชสมบัติในนครเชียงทอง ทรงพระนามว่า พญาฟ้าหล้าธรณีศรีสัตนาคนหุต และตั้งบรรดาข้าหลวงเดิมที่ตามเสด็จไปเมืองพระนคร ให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ คือให้ปู่เลี้ยง เป็นแสนเมือง(มหาอุปราช) ตั้งพระนางแก้วเก็งยา ว่าราชการบ้านเมือง แล้วเสด็จตีเมืองน้อยใหญ่มาไว้ภายใต้ร่มขาวเศวตฉัตรเมืองเชียงทองศรีสัตนาคนหุต กาลต่อมาพระนางแก้วเก็งยา อัครมเหสี สิ้นพระชนม์ ตั้งแต่นั้นมา เจ้าฟ้างุ่มก็ไม่ค่อยเอาใจใส่ต่อกิจการบ้านเมืองดังแต่ก่อน พระองค์ได้มอบหมายให้แสนเมือง(ปู่เลี้ยง) ท้าวขุนทั้งหลายดูแล บ้านเมืองช่วงนี้มีการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง วุ่นวายเดือดร้อน มีความขัดแย้งระหว่างหมู่ข้าราชการเก่าของพระราชบิดาและบรรดาข้าหลวงที่ตามเสด็จมาจากเมืองพระนคร
ต่อมาเสนาอำมาตย์ทั้งหลายจึงบังคับให้พระองค์สละราชสมบัติแล้วเนรเทศให้ไปอยู่เมืองนครน่าน พระองค์อยู่นครน่านได้ ๒ ปีก็เสด็จสวรรคต
เมื่อเนรเทศเจ้าฟ้างุ่มไปยังนครน่านแล้ว เสนาอำมาตย์ถึงพร้อมกันอภิเษกท้าวอุ่นเรือน พระราชโอรส ขึ้นเสวยราชสมบัติแทนพระราชบิดา เมื่อมีพระชนมายุได้ ๑๘ ปี ทรงพระนามว่า พญาสามแสนไทไตรภูวนาถาธิปัติศรีศัตนาคนหุต อภิเษกนางน้อยนงเฮียว ขึ้นเป็นพระอัครมเหสี สถาปนาท้าวคำกองพระอนุชาเป็นแสนเมือง
หลังจากพญาสามแทนไทสวรรคต บ้านเมืองก็ตกอยู่ในกำมือของนางน้อยนงเฮียวอีกเป็นเวลานาน นางได้ประหารเจ้าชีวิตไปถึงหกพระองค์ ดังความในพื้นพงศาวดารล้านช้างกล่าวว่า
เหตุที่ชาวล้านช้างมักฆ่าท้าวพระยาราชวงษาเสียนั้น เป็นด้วยมหาเทวีผู้หนึ่ง ลุกพระยาสามแสนไทยเป็นผู้ที่มีมารยาสาไถยจรรไรร้ายนัก ท้าวพระยาผู้ใดไม่ชอบใจนางผู้นั้น นางก็ให้บ่าวคนสนิท และเสนาอำมาตย์ให้ฆ่าเสียสิ้น ต่อมาเสนาอำมาตย์ทั้งหลาย จึงพร้อมกันเอามหาเทวีผู้นั้นไปฆ่าเสียที่บ้านผาเดียว แล้วปรึกษากันว่าจะเอาใครมาเป็นพระยา มีผู้แนะนำให้ไปเอาท้าวลือไชยวัน ผู้ไปกินเมืองซ้ายมาเป็นพระยา เมื่อได้ราชาภิเศกแล้วได้ชื่อว่า พระยาไชยจักรพรรดิ์แผ่นแผ้ว
จึงเป็นที่มาแห่งละคอนเวที เข้มข้นด้วยเนื้อหา แก้แค้น แสนรัก หักบัลลังค์ ชังน้ำหน้า มารยาหญิง เรื่องยิ่งใหญ่อลังการ สถิตมโหฬารแห่งปี
มหาเทวี : อิสตรีผู้อยู่เหนือบัลลังก์ร่มขาว
Create Date : 17 กรกฎาคม 2549 |
Last Update : 17 กรกฎาคม 2549 1:35:00 น. |
|
3 comments
|
Counter : 4161 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 17 กรกฎาคม 2549 เวลา:13:35:08 น. |
|
|
|
โดย: NickyNick วันที่: 18 กรกฎาคม 2549 เวลา:15:51:16 น. |
|
|
|
โดย: ลึบบ่สูน (เขียวค้อม ) วันที่: 13 พฤศจิกายน 2553 เวลา:16:15:03 น. |
|
|
|
|
|
|
|
แอบมาอ่านบ่อยๆ โดยเฉพาะตอน "เกาะเสม็ดฯ"
และขโมย add ไว้ใน friend's list ตั้งนานแล้วด้วย