Constantly talking isn't necessarily communicating.
Group Blog
 
<<
กันยายน 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
30 กันยายน 2549
 
All Blogs
 

Ae Fond Kiss รักนี้ไม่ได้มีแค่เราสอง

วันก่อนไป House ตั้งใจจะดูเรื่อง The Beat That My Heart Skipped ตามรีวิวของคุณ grappa ที่นี่ แต่ฟ้าไม่เป็นใจ ให้เวลาฉายใน web ไม่ตรงกับเวลาจริงที่ติดไว้ที่โรงหนัง โดนเพื่อนที่ไปถึงก่อนตำหนิเล็กน้อย เพราะขายไว้เยอะจนเขาอยากดู

เอาน่ะ บางทีหนังก็เป็นฝ่ายเลือกเรา วันนั้นเลยได้ดูเรื่อง Ae Fond Kissหรือ Just a Kiss แทน



Ae Fond Kiss เป็นเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นในเมือง Glassglow ระหว่าง Casim หนุ่มปากีฯ ซึ่งเป็นดีเจอยู่ในคลับชื่อดัง กับ Roisin ครูสอนเปียโนในโรงเรียนมัธยมที่น้องสาวของเขาเรียนอยู่

พวกเขาเจอกันด้วยความบังเอิญ เมื่อ Casim วิ่งไล่ตามน้องสาว Tahara ที่วิ่งไล่ตามเพื่อนผู้ชายที่ล้อเลียนเธออีกที ทั้งสองประทับใจกันและกันตั้งแต่แรกเจอ และพัฒนาไปเป็นความรักความผูกพันกันในที่สุด



เรื่องนี้คงจะเป็นเรื่องราวความรักที่ลงตัวและสวยงาม ถ้าไม่มีครอบครัวและศาสนาของทั้งคู่เข้ามาเกี่ยวข้อง จนทำให้เขาและเธอกลายเป็นโรเมโอ กับจูเลียต แห่งเมือง Glasglow ไป

ครอบครัวของ Casim เป็นปากีฯ มุสลิมที่เคร่งครัด ยึดถือครอบครัวและศาสนาเป็นสำคัญ พ่อแม่ของ Casim ได้กำหนดตัวคู่หมั้นของเขาไว้ให้แล้ว คือ Jasmin ซึ่ง เป็นคนปากีสถานด้วยกัน

การแต่งงานกับคนนอกศาสนาและต่างผิว ถือเป็นการทำร้ายและทำลายสถาบันครอบครัว และเป็นที่เสื่อมเสียต่อวงศ์ตระกูลอย่างใหญ่หลวง

ทางด้าน Roisin ซึ่งกำลังจะได้บรรจุเป็นอาจารย์ประจำในโรงเรียนที่เธอสอนอยู่ แต่จู่ ๆ ก็โดนแป๊กโดยสาเหตุหลักมาจากการที่เธอคบกับ Casim ซึ่งบาทหลวงในโบสถ์ประจำชุมชนของเธอบอกว่า การคบกับคนนอกศาสนาถือว่าเป็นความผิดบาป

Casim กับ Roisin จะทำอย่างไร เมื่อความรักของพวกเขาไม่ได้เป็นแค่เรื่องของคน 2 คน

ตัวหนังสือสีฟ้าอาจมีสปอยล์ปะปน เลี่ยงได้เป็นเลี่ยงจ้ะ

ทุกวันนี้ เรื่องของความรักที่ต้องเกี่ยวข้องกับครอบครัวและศาสนา เชื้อชาติ วัฒนธรรมยังมีให้เห็นอยู่ทั่วไป อย่างในสังคมเรา เราก็ยังเชื่อว่าคงมีครอบครัวคนจีนที่อยากได้ลูกเขย หรือลูกสะใภ้ที่มีเชื้อจีนมากกว่าเชื้อไทยล้วนอยู่ เพราะมองว่าคนจีนจะมีความขยันเอาการเอางานมากกว่าคนไทย

หรือความเชื่อที่ว่าให้ลูกเรียนหมอดีกว่าเรียนนิเทศ บางบ้านก็ยังคิดแบบนั้นอยู่ รวมทั้งบ้านของ Casim (พ่อแม่เราก็อยาก แต่เขาตามใจ)

Roisin เองตอนแรกก็โมโหโกรธา เห็นว่าครอบครัวของ Casim คร่ำครึและไร้สาระ ทั้ง ๆ ที่ย้ายจากปากีฯ มาอยู่ในเมืองที่ถือว่าเจริญแล้วอย่าง Glasglow ทำไมถึงไม่เปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ ไปด้วย



แต่พอเธอมาเจอเหตุการณ์คล้าย ๆ กันแต่จากสังคมรอบข้างและที่ทำงาน บาทหลวงในโบสถ์ที่เธอไปขอลายเซ็นรับรอง ไม่ยอมเซ็นให้ แถมด่าว่าต่าง ๆ กับการที่เธออยู่กับผู้ชายนอกศาสนา ทำให้เธอเริ่มรู้ซึ้งว่าความรักครั้งนี้มันไม่ง่ายเลย พวกเขาต้องใช้ทั้งความอดทนและความเข้าใจ ในการฝ่าฟันอุปสรรคครั้งนี้


หลาย ๆ ตอนดูแล้วทำให้นึกถึงคำโปรยบนโปสเตอร์หนังที่ว่า บางครั้งการค้นหารัก ก็ง่ายกว่าการรักษามันไว้ (ยกมือเห็นด้วย 100%)

หนังเรื่องนี้เป็นฝีมือการกำกับของ Ken Loach จากหนังเรื่อง The Wind That Shakes the Barley หนังที่สร้างชื่อและโกยรางวัลรวมทั้งคำสรรเสริญมากมายให้กับเขา

Ae Fon Kiss เป็นหนึ่งในหนัง 3 เรื่องของเขาที่เกี่ยวกับเมือง Glasglow (ไม่รู้ว่ามีความผูกพันอันใดนักหนากับเมืองนี้ ใครรู้ช่วยบอกที ) อีก 2 เรื่องคือ My Name is Joe (1998) และ Sweet Sixteen (2002) อ่านรีวิวหนังเรื่องนี้จาก blog คุณ renton ได้ ที่นี่

ในหนังเรื่องนี้ คุณ Loach พยายามพูดถึงการแบ่งแยกและความมีอคติต่อคนนอกกลุ่มแบบไม่เป็นธรรม ผ่านความรักของ Casim และ Roisin

ความมีอคติและการแบ่งแยกที่อาจบิดเบือนความหมายที่แท้จริงของความรักและความปรารถนาดี

ระหว่างชื่อเสียงหน้าตาของครอบครัวกับความสุขที่แท้จริงของลูก ๆ

ดูเรื่องนี้แล้วที่เคยเชื่อว่า "ความรักชนะทุกอย่าง" ก็เป็นอันสะดุดไป

ใครหนอว่ารักไม่มีพรมแดน....ยังไงซะ บางทีมันยังมีครอบครัว สังคมและศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ได้มีแค่สองเรากะสายลมซะหน่อย

หนังเรื่องนี้เพิ่งเข้าฉายที่ House ใครอยากดูควรรีบไปดู ปล่อยเลยไปจะเหมือนเรา ที่บัดนี้ยังแคล้วคลาดกับ The Beat that My Heart Skipped อยู่เลย




 

Create Date : 30 กันยายน 2549
34 comments
Last Update : 1 ตุลาคม 2549 11:06:36 น.
Counter : 1098 Pageviews.

 

ขนาดครอบครัวเคร่ง พระเอกยังไปเป็นดีเจได้เลยนิ

ถ้าไปเฮ้าส์ก็อยากได้คนเดินคุยด้วยระหว่างทางจากรถไฟฟ้าไปถึงโรงหนังค่ะ ไม่อยากนั่งแมงกะไซค์

อืมม เคยไปนอนคุยกับเพื่อนตรงเก้าอี้กลมๆ หน้าบ็อกซ์ออฟฟิศด้วยล่ะ ช่างไม่มียางอายกันเลยสองสาว

 

โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ IP: 58.9.18.173 1 ตุลาคม 2549 14:14:28 น.  

 

^
สำนวนคนข้างบนเหลือร้าย...

รีวิวของจขบ. ชวนเชิญให้อยากดูจังเลย น่าเป็นเรื่องรักที่ได้ข้อคิดสะกิดใจ แต่น่านสิ...เคร่งแล้วทำไมเป็นดีเจ--แสดงว่าตัวเอกก็ขบถนิด ๆ แหละ

 

โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ 1 ตุลาคม 2549 15:40:06 น.  

 

คุณลูกสาวมจจจ. / คุณพุดน้ำบุศย์ - อืม จริงด้วยแฮะ เรื่องเป็นดีเจ แต่ก็ไม่รู้ทำไมจริง ๆ นะคะ ทั้ง ๆ ที่ทีกับลูกสาวพ่อแม่อยากให้เป็นหมอ

 

โดย: unwell 1 ตุลาคม 2549 18:59:21 น.  

 

hmmm....no comment krub

Just saying hello!

Pai la.....

 

โดย: BloodyMonday On Da Move IP: 211.139.145.21 1 ตุลาคม 2549 19:17:44 น.  

 

House ตั้งแต่เปิดมาไปเหยียบครั้งเดียวเองครับ
อะไรๆ ก็ไม่เป็นใจเล๊ย

เรื่องนี้น่าดูครับ

 

โดย: เจ้าชายไร้เงา 1 ตุลาคม 2549 19:18:45 น.  

 

ชื่อหนังเรื่องนี้ ... Ae Fond Kiss
นี่มันชื่อเพลงรักที่แต่งโดย Robert Burns นี่นา

อืมมม เนื้อเรื่องเกิดที่ Glasgow
เป็นหนังสก็อตเหรอครับเนี่ย ...

 

โดย: สะเทื้อน 1 ตุลาคม 2549 19:33:38 น.  

 

รอดีวีดีอย่างเดียว

 

โดย: bigwores 1 ตุลาคม 2549 20:05:45 น.  

 

ชอบหนังบางเรื่องของ Ken Loach นะคะ
เรื่องนี้อ่านแล้วก็น่าดูดี (แต่อ่านแบบข้ามๆ เพราะว่ากลัวสปอยล์)

 

โดย: DropAtearInMyWineGlass 2 ตุลาคม 2549 1:09:01 น.  

 

หน้าหนังไม่เหมือนหนังของลุงเคนเลย

น่าดูครับ แต่ไม่ชอบไปเฮาส์ เคยไปครั้งเดียวเอง

 

โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ 2 ตุลาคม 2549 3:19:46 น.  

 

ยังมะอ่านนะ มะวานว่าจะดูว่าจะดู
เฮ้อ........
แค่ได้โปสการ์ดของหนังเรื่องนี้มา ก็ตื่นเต้นจะแย่อยู่แล้ว

อยากดู อยากดู

 

โดย: renton_renton 2 ตุลาคม 2549 6:53:36 น.  

 

โอ้! น่าดูมากกกกกๆๆๆๆๆๆๆ เลย

=)

 

โดย: hunjang 2 ตุลาคม 2549 8:18:17 น.  

 

หวัดดีค่า ในหนังมีเพลง Ae Fond Kiss ด้วยนะคะ ตอนที่นักเรียนกำลังซ้อมร้องเพลงนี้แหละ และนางเอกก็เป็นคนดีดเปียโนให้ แต่ไม่รู้ว่าเพลงเดียวกันหรือเปล่า

โดย: unwell


คงใช่เพลงเดียวกันแหละครับ เพราะเนื้อเรื่องในหนังเกิดขึ้นที่ Scotland แล้ว Robert Burns ก็เป็นกวีเอก ที่เป็นความภูมิใจที่สุดคนนึงของ Scotland

เมื่อคืนลองไปค้นซีดีเก่าๆ ดู ปรากฎว่าหาไม่เจอซะแล้วซิ
ไม่รู้หายไปไหน ไว้ต้องหาโอกาสไปดูเรื่องนี้บ้างแล้วครับ
อยากเห็นบรรยากาศในหนัง ว่าเป็นไงบ้างอ่ะนะ

 

โดย: สะเทื้อน 2 ตุลาคม 2549 11:08:11 น.  

 

ช่วงนี้หนังน่าสนใจเยอะแยะไปหมดเลย แต่หาเวลาไปดูไม่ได้ง่ะ



เห็นด้วยกับประโยค ง่ายกว่าที่จะหารักเจอ แต่ยากที่จะรักษามันไว้มากๆ





รีบเคลียร์หนี้เดิมไวๆ แล้วก็เตรียมรับไปอ่านต่อนะคะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 2 ตุลาคม 2549 13:41:18 น.  

 

เอ้าเจ้
อัพบล็อคแล้วจ้า มีโอกาสก้อแวะไปนา

และหนังลุงเคนเรื่องนี้ก้อไปดูมาละ อดทนรนไม่ไหว
ไม่ผิดหวังเลย หนังลุงเคน
แกทำได้ลุ่มลึกในอารมณ์จิงๆ
เผาเต่าไปหลายตัวเลยล่ะ

 

โดย: renton_renton 3 ตุลาคม 2549 1:34:53 น.  

 

แม่นาง ren - เดี๋ยวจะตามไปอ่านโดยพลัน แต่ขอเดาว่าเจ้าคง review หนังเรื่อง Death Note เป็นแน่แท้

พี่สาวไกด์ - เมื่อคืนจบไปอีกเล่มค่ะ พยายามจะเคลียร์ให้หมดก่อนสัปดาห์หนังสือจะมาเยือนด้วยล่ะ

คุณสะเทื้อน - บรรยากาศในหนังจะออกเป็นแนวชุมชนมากกว่าวิวทิวทัศน์น่ะค่ะ อยากฟังเพลงนี้แบบเต็ม ๆ เหมือนกัน น่าจะเพราะนะคะ

คุณ hunjung / คุณแค่เพียงรู้สึกสุขใจ / คุณ DropAtearInMyWineGlass / คุณ bigwores / คุณเจ้าชายไร้เงา - ถ้ามีโอกาส อย่าพลาดเรื่องนี้นะคะ

have a nice day jaaa.

 

โดย: unwell 3 ตุลาคม 2549 8:52:43 น.  

 

ยังไม่เคยไปดูหนังที่นี่เลยค่ะ โรงธรรมดายังห่างหายไปนานเลย เฮ้อ ตอนนี้ถักตุ๊กตากับอ่านหนังสือค่ะ

 

โดย: กระปุกกลิ้ง 3 ตุลาคม 2549 9:08:17 น.  

 

เสี่ยวเตี้ยนพี่ข้า

ข้าไม่ยักรู้ว่าท่านมีลางสังหอนเอ้ย หรณ์ ในการคาดเดานั่นนู่นนี่ที่ได้ทายถูกว่าข้าจะอั๊พเรื่องอะไร และข้าให้สงสัยว่า เมื่อท่านรู้ความสามารถพิเศษนี้แล้ว ท่านได้นำมันไปใช้ในการคำนวนตัวเลข แทง..........หวยใต้หวยบนบ้างหรือไม่

เสียดายเป็นยิ่งนักหากท่านไม่ใยดีในความสามารถพิเศษข้อนี้

//www.menengaiholidays.com/pics/home-pic-bird-1EE.jpg

 

โดย: renton_renton 3 ตุลาคม 2549 19:06:15 น.  

 

^
^
^
ซวยล่ะสิ ข้ามขั้นตอนไปนิด
เอาใหม่นะท่านพี่



 

โดย: renton_renton 3 ตุลาคม 2549 19:08:55 น.  

 

เรียนแม่นางเรน เรื่องหวยนั้น ข้าและเพื่อนได้แทงพลาดไปแล้วเมื่องวดล่าสุด ข้าและเพื่อนแทงมั่ว เดาตัวเลขแบบไม่มีทิศทาง ส่วนบ้านเพื่อนข้านั้น (อย่าได้สงสัย ข้าพเจ้าอยู่ในสังคมหวย) ซื้อ 91 และ 93 สุดท้ายหวยออก 92 ซึ่งเป็นอายุของดอนเมือง

ถูกกินถ้วนหน้า

ขอบใจเจ้ามากที่นำน้องนกจาบคามาฝาก ซึ้งใจยิ่งนัก

 

โดย: unwell 4 ตุลาคม 2549 16:44:13 น.  

 

เรื่องนี้ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ
ชำเลืองปฏิทินกิจกรรมชีวิต ก็เห็นแววว่าคงจะได้ดูแผ่น

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาดูหนัง 2 เรื่อง คือเดธโน้ต กับ นางมารสวมปราด้า สนุกสนานดีทั้ง 2 เรื่อง

เฮ้าส์เป็นโรงหนังที่ชอบ แต่ไม่ค่อยได้ไปค่ะ เพราะอยู่ไกลรถไฟฟ้าไปหน่อย เพิ่งไปแค่ 2 ครั้งเอง ทั้ง 2 ครั้งที่ไปก็ล่อหลอกให้คนอื่นขับรถไปส่งถึงหน้าโรง

 

โดย: rebel 4 ตุลาคม 2549 20:41:04 น.  

 

up laew up laew, gogogo watch my "another" disaster trip na haha

 

โดย: BloodyMonday On Da Move IP: 211.139.145.21 5 ตุลาคม 2549 0:50:47 น.  

 

55 ถูกหวยกิน

 

โดย: กระปุกกลิ้ง 5 ตุลาคม 2549 12:48:15 น.  

 

บางทีก็ได้ยินเค้าว่า " รักไม่มีพรมแดน รักไม่มีศาสนา " ... แต่ว่าสองประโยคนี้จะใช้ได้จริงๆ ไม๊สำหรับบางสถานการณ์ เพราะมันไม่มีอะไรยืนยันได้เลยว่า " รัก " นั้นจะเอาชนะพรมแดนที่ขีดกันขึ้นมาเองได้ ...

 

โดย: JewNid 5 ตุลาคม 2549 13:51:34 น.  

 

ดูหนังรักๆ แล้ว สนุกดี
..
..
รักของแต่ละคน ไมเหมือนกันซะที
...
มีอะไรให้ค้นให้เจอ กันทุกนาที...สนุกดี จริงๆ

 

โดย: แร้ไฟ 5 ตุลาคม 2549 22:58:29 น.  

 

"บางครั้งการค้นหารัก ก็ง่ายกว่าการรักษามันไว้"

โดนตั้งแต่หัวใจยันม้ามเลยครับ เห็นด้วยทั้งน้ำตาเลย ฮือๆ




ปล. มาชวนไปแดนซ์แกมหื่นที่บล็อกด้วยครับผม

 

โดย: เข็มขัดสั้น 6 ตุลาคม 2549 8:44:26 น.  

 



 

โดย: renton_renton 6 ตุลาคม 2549 16:35:09 น.  

 

Search เพลงนี้ไม่เจอเลยครับ (มีแต่แบบเสียตังค์)
ก็เลยเมล์ไปบอกเพื่อนชาวเอดินเบอระให้หาให้
เพื่อนส่งมาให้แล้วครับ แต่ไม่ได้เป็นเวอร์ชั่นในหนังนะ

ขออนุญาตใส่เพลงไว้ตรงนี้นะครับ



Ae Fond Kiss
by Anne Taggart and Angie Wright


 

โดย: สะเทื้อน 6 ตุลาคม 2549 18:49:26 น.  

 




Ae Fond Kiss
by Robert Burns


Ae fond kiss, and then we sever;
Ae fareweel, alas, for ever!
Deep in heart-wrung tears I'll pledge thee,
Warring sighs and groans I'll wage thee.
Who shall say that Fortune grieves him,
While the star of hope she leaves him?
Me, nae cheerful twinkle lights me;
Dark despair around benights me.

I'll ne'er blame my partial fancy,
Naething could resist my Nancy:
But to see her was to love her;
Love but her, and love for ever.
Had we never lov'd sae kindly,
Had we never lov'd sae blindly,
Never met-or never parted,
We had ne'er been broken-hearted.

Fare-thee-weel, thou first and fairest!
Fare-thee-weel, thou best and dearest!
Thine be ilka joy and treasure,
Peace, Enjoyment, Love and Pleasure!
Ae fond kiss, and then we sever!
Ae fareweeli alas, for ever!
Deep in heart-wrung tears I'll pledge thee,
Warring sighs and groans I'll wage thee.


คำที่ขีดเส้นใต้ เป็น Gaelic แปลเป็นอังกฤษได้ตามนี้ครับ

Ae = One
fareweel = farewell
nae = no
Naething = Nothing
sae = so
weel = well
ilka = every

 

โดย: สะเทื้อน 6 ตุลาคม 2549 18:59:11 น.  

 

ถ้าจะ download เวอร์ชั่นนี้แบบไม่ลดขนาดไฟล์
ตามลิงก์นี้ไปได้เลยนะครับ

//www.sky-web.net/taggartandwright/ae_fond_kiss.mp3

 

โดย: สะเทื้อน IP: 203.148.138.67 6 ตุลาคม 2549 20:53:07 น.  

 

ชื่อเรื่องอ่านว่าอะไร ผมยังอ่านไม่ออกเลยง่า แต่อ่านดูแล้วน่าสนใจนะครับ

 

โดย: Moonlight Mile 6 ตุลาคม 2549 21:22:51 น.  

 

หลับฝันดีค่ะ

 

โดย: โสมรัศมี 6 ตุลาคม 2549 23:18:33 น.  

 

แอบแวบไปทำธุระประจำเดือนที่เขาใหญ่มา อากาศดีเหมือนเดิม ทำบุญมาด้วยนิดหน่อย เอาบุญมาฝากทุกคนจ้า

คุณแม่โสม - ขอบคุณทุกคนที่แวะมานะค้า

คุณ Moonlight Mile - อืม ไม่แน่ใจอะ เราก็อ่านไปตรง ๆ ว่า เอ ฟอนด์ คิสล่ะ

คุณสะเทื้อน - ขอบคุณมาก ๆ นะคะ ชอบ ๆๆๆ เพลงเพราะมากเลยค่ะ เปิด blog ตัวเองยังงง ๆ เอ เพลงมาจากไหนว่ะ

แม่นางเรน - ขอบใจเจ้ามาก ไม่มีอะไรตอบแทน นอกจากบุญที่วันนี้ได้ทำมา จะยกให้เจ้าหมดเลย หลังจากใช้กรรมหมด (แต่คงเหลืออยู่นิดหน่อยนะ เพราะกรรมมันเยอะ ใช้ไงก็ใช้ไม่หมดซะที )

คุณเข็มขัดสั้น - เดี๋ยวตามไปจ้า

คุณแร้ไฟ - ช่ายแล้ว ความรักมันหลากหลายทั้งในหนังก็ชีวิตจริง...จริง ๆ ด้วย

คุณ JewNid - เห็นด้วยพันเปอร์เซ็นต์เลยค่ะ บางทีคนศาสนาเดียวกันก็ชอบสร้างพรมแดนบางอย่างมาปิดกั้นกันเอง เจอกับเพื่อน ๆ ใกล้ตัวเหมือนกัน

คุณกระปุกกลิ้ง - ช่ายแล้ว นี่ยังไม่เข็ดนะ ล่าสุดเมื่อวานซื้อมาอีก เห็นคนพิการอะ เลยช่วยซื้อไป (อ้างทำบุญ ) ไม่ทันได้ศึกษาเลย เลือกแบบมั่ว ๆ อีกละ

คุณ Bloody M - I saw u....5555

คุณ rebel - House สำหรับเราก็ลำบากเหมือนกันค่ะ แถมแถวนั้นไม่ค่อยมีอะไรกิน (เรื่องนี้เรื่องใหญ่ )

อยากให้วันอาทิตย์อยู่กับเราไปนาน ๆ จัง

 

โดย: unwell 8 ตุลาคม 2549 14:30:42 น.  

 

กะลังว่าจะมาตาม...
ถ้ายังไม่เจอตัววันนี้ ก็จะแจ้งตำหนวดละ

คิดอยู่ว่าไม่สบายหรือแอบหนีตามใครที่เงียบไปพักนึง หุ หุ

ดีจัง ได้ไปตากอากาศที่เขาหย่าย
อากาศคงดีอ่ะเนอะช่วงนี้ฝนพรำ เย็นชื่นใจ

ขอบคุณหลายที่ได้ทำบุญเผื่อแผ่จ่ะ


 

โดย: renton_renton 8 ตุลาคม 2549 14:58:35 น.  

 

แก้ไขครับ ...
คอมเมนต์ของผมที่มีเนื้อเพลง Ae Fond Kiss ...

ที่ขีดเส้นใต้ ไม่ใช่ภาษา Scottish Gaelic แต่เป็นภาษา Scots นะ (คนละภาษากัน)

ขอโทษครับ

 

โดย: สะเทื้อน 10 พฤศจิกายน 2549 7:55:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


unwell
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add unwell's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.