|
|
| | 1 | 2 | 3 |
| 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
| 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
| 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
| 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
Walk The Line...เดินให้ตรงเส้น
ชีวิตของคนที่เป็นตำนาน ถ้าเปรียบเป็นสี ในชีวิตคงมีแต่สีจัดจ้าน อารมณ์สีน้ำมันแบบแวนโก๊ะ ไม่ใช่สีพาสเทล แบบคนธรรมดาทั่วไป
เหมือนชีวิตของ Johny Cash ในหนังเรื่อง Walk The Line ที่ตั้งแต่เด็ก ก็มีสีดำมืดมาระบายด้วยเหตุการณ์ที่พี่ชายที่เขารักเสียชีวิต และพ่อก็โทษว่าเขาเป็นสาเหตุ...พระเจ้า (หรือซาตาน?) เลือกเด็กไปผิดคน...
หนังเรื่องนี้ สร้างจากหนังสือ Man In Black และ Cash The Autobiography ซึ่งเป็นหนังสือชีวประวัติของ Johny Cash นักร้องผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการเพลง Country Rock & Roll ของอเมริกา หลังจากดูหนังแล้วก็อยากจะลองหาหนังสือมาอ่าน
อยากดูเรื่องนี้ตั้งแต่ช่วงที่เข้าโรง แต่ด้วยภาระบางอย่าง เลยพลาดไป อยากรู้ว่า Reese Witherspoon เล่นดีขนาดไหน ถึงได้ Oscar
แล้วก็ต้องยอมรับว่าเธอ และเขาสุดยอดจริง ๆ ถึงจะไม่แน่ใจว่าสมควรได้หรือเปล่า เพราะยังไม่ได้ดูอีก 4 คน 4 เรื่องที่เหลือ (Judi Dench / Felicity Huffman / Keira Knightley / Charlize Thron ) เฮ้อ ปีที่แล้ว ช่างดูหนังน้อยจริง ๆ 
หนังบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของ Cash ตั้งแต่เด็กที่หลงรักและเรียนรู้โลกของดนตรีผ่านวิทยุทรานซิสเตอร์ ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ จนกระทั่งโตเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียง และยังต้องเผชิญกับสิ่งต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับความสำเร็จ ทั้งยาเสพติดและความรัก
หนังเน้นที่ความรักของ Cash กับ June Carter นักร้องที่เขาหลงรักแต่เด็ก ๆ (อืม เราสงสัยจริง ๆ ว่าแบบนี้อายุเขาจะต่างกันเท่าไหร่ แต่ขี้เกียจไปสืบประวัติ ไว้รออ่านหนังสืออีกทีละกัน)
ความรักมักเป็นแบบนี้ ถึงแม้ Cash จะแต่งงานมีครอบครัวที่เหมือนจะสมบูรณ์ดีแล้ว แต่คนที่เขารักจริง ๆ คือ June และ June ก็ช่างมีอิทธิพลกับชีวิตของเขามากมายเหลือ มีส่วนช่วยให้เขาประสบความสำเร็จจากเพลงที่แต่งร่วมกัน และช่วยให้เขาเลิกยาได้สำเร็จ แต่ทั้งคู่ (ส่วนใหญ่เป็น June ผู้ชายมักไม่ค่อยหักห้ามใจหรอก เชอะ  ) ก็พยายามไม่ทำอะไรที่มันนอกกรอบ นอกศีลธรรม เพราะต่างฝ่ายต่างมีครอบครัวแล้ว
เราบอกไม่ถูกอะ ใจนึงก็เห็นใจภรรยาของ Cash กรู ซวยจริง ๆ แต่งงานกับคนที่เขาไม่ได้รัก แถมมีลูกด้วยกันอีก อืม บอกไม่ถูก รักมันคงออกแบบไม่ได้เจง ๆ 
Cash ขอ June แต่งงานเป็นพันครั้ง แต่ก็ถูกปฏิเสธ เพราะไม่อยากทำผิด แต่สุดท้าย Cash และ June ก็ต้องเป็นคู่ทุกข์คู่ยากกันจริง ๆ อยู่ดี เหมือนชะตามันลิขิตไว้แล้วแบบนี้
Joaquin Phoenix และ Reese Witherspoon แสดงได้สุดยอดมาก ในฐานะที่ไม่เคยรู้จักเพลงของ Johny Cash มาก่อน เขาทำให้เราเชื่อว่าเขาเป็น Johny Cash และชอบเพลงของเขาได้
ส่วน Reese.....ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะร้องเพลงได้ดีขนาดนี้ เวลาที่ 2 คนร้องคู่กันบนเวที มันช่างเพลินตา เพลินใจดีจริง ๆ เหมือนที่ Cash บอก June ว่า 'See, June, they want to see us together.'
ดูเรื่องนี้แล้วก็ เฮ้อ...นะ ชีวิตคนเรามักจะมีอะไรมาทำให้เดินเฉไฉ ออกนอกลู่นอกทางได้เสมอ คงต้องอาศัยทั้งกำลังใจของตัวเองและคนรอบข้าง ที่จะคอยประคอง (หรือถีบ) ให้ชีวิตมันเข้าที่เข้าทางได้ในที่สุด 
Johnny Cash: You know what your problem is June Carter? You are afraid to be in love, you are afraid of loosing control, And you know what June Carter, I think you are afraid of livin' in my big fat shadow...
June Carter: Oh really? Is that what my problem is?
Johnny Cash: Yes...
June Carter: My problem is that it's 2 A.M. My problem is i'm asleep. I'm on a tour bus with eight stinkin' men. Rule number one: Don't propose to a girl on a bus, you got that? Rule number two: Don't tell her it's because you had a bad dream.
Johnny Cash: June
June Carter: What?
Johnny Cash: Marry me
[June glares at him in anger]
Johnny Cash: Ok... Ok fine... but that's the last time i'm asking...
June Carter: Good, I hate re-runs...
| Create Date : 05 มิถุนายน 2549 |
| Last Update : 5 มิถุนายน 2549 8:19:35 น. |
|
11 comments
|
| Counter : 3875 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: ดำรงเฮฮา  วันที่: 5 มิถุนายน 2549 เวลา:10:41:45 น. |
|
|
|
โดย: ป้ามด  วันที่: 5 มิถุนายน 2549 เวลา:15:40:25 น. |
|
|
|
| โดย: keyzer วันที่: 5 มิถุนายน 2549 เวลา:22:20:09 น. |
|
|
|
โดย: ป่ามืด  วันที่: 5 มิถุนายน 2549 เวลา:23:57:45 น. |
|
|
|
| โดย: hunjang วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:8:29:43 น. |
|
|
|
| โดย: unwell (unwell ) วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:16:35:16 น. |
|
|
|
| โดย: สายลมอิสระ วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:20:18:47 น. |
|
|
|
| โดย: Blomster_DK (Blomster_DK ) วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:1:45:26 น. |
|
|
|
| โดย: octavio วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:1:40:50 น. |
|
|
|
| โดย: john.ppw IP: 203.172.199.254 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:33:16 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Music
Hello Telly!
What's Up?
Between The Lines
It's Wide Wild World
Behind The Scene
When we make a Home
Enjoy Eating
Lend it Forward
) ก็พยายามไม่ทำอะไรที่มันนอกกรอบ นอกศีลธรรม เพราะต่างฝ่ายต่างมีครอบครัวแล้ว
น่าดูจังค่ะ
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [