เพราะรักคือรัก
ค.ศ.2150 กรุงเทพมหานคร

ในยามเย็น ผู้คนต่างพากันกลับเข้าบ้านอย่างเงียบเชียบ ไม่มีการออกไปเดินซื้อของหรือชอบปิ้งตามศัพท์สมัยโลกปี2000 ซึ่งในปีนั้นเกิดเหตุการณ์บางอย่างสะเทือนจิตใจผู้คนทั้งโลก แต่เดี๋ยวนี้น่ะหรือ โลกกำลังสันติ และต่างก็แบกรับภาระปัญหาชุมชนที่ในอดีตบรรพบุรุษได้ก่อเอาไว้ โลกก็คือโลก จะดีจะร้ายอย่างไรมนุษย์ก็ยังต้องอาศัยโลกอยู่วันยังค่ำ แม้ตอนนี้จะมีนักวิทยาศาสตร์ออกมายืนยันว่าดาวอังคารสามารถไปอยู่ได้ ด้วยการอัดแก๊สชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติในการแตกตัวให้โอโซนอย่างรวดเร็ว ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือเด็ก เยาวชน…สามารถคิดค้นวิธีการปลูกป่าในบริเวณที่มีคาร์บอนไดออกไซค์มากกว่าออกซิเจนถึง10เท่า เสื้อผ้าของผู้คนยุค2150ก็เป็นการแต่งที่เน้นความสบาย ผ้าทุกชิ้นจะมีระบบป้องกันแบคทีเรีย รา รวมทั้งรังสีUV แต่แม้มีการป้องกัน มันก็เกิดขึ้นเมื่อใกล้จะสายเสียแล้ว ตอนนี้ได้เกิดโรคใหม่ๆขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน ปัญหาสุขภาพจิตที่มีมาเกือบศตวรรษเพิ่งคลี่คลายลงไป ผลพวงจากการใช้สารเคมี ทำให้เกิดวิวัฒนาการขั้นก้าวกระโดด แบคทีเรียบางสายพันธุ์เริ่มดื้อยา แล้วทวีความรุนแรงขึ้นกว่าเดิมเกือบ1000เท่า เป็นวัฎจักรวนเวียนอยู่อย่างนี้ร่ำไป

ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งของกรุงเทพ ตั้งอยู่ติดถนนชั้นสอง ชายหนุ่มผู้หนึ่งกำลังนั่งเงียบๆบนโต๊ะทำงาน สักพักก็มีเสียงดังอย่างไม่เห็นตัวตน

“จะมาอีกสักครู่ หิวมากด้วย เตรียมอาหารคอยหน่อยนะคะ”

ชายหนุ่มผู้นั้นขมวดคิ้วนิดๆ มองไปทางลูกแก้วใหญ่มุมโต๊ะ ลูกแก้วปรากฏแสงสีแดงแทนที่จะเป็นสีเงิน แสดงว่าไฟฟ้าสถิตถูกรบกวนโดยคลื่นพลังจิตอ่อนๆที่เรียกว่าโทรจิต เคยมีนักเขียนนวนิยายวิทยาศาสตร์คนหนึ่งในยุคศตวรรษที่21เขียนไว้ในหนังสือหลายเล่มว่า มนุษยชาติจะค้นพบพลังที่ยิ่งใหญ่ ไม่ผิดกับพลังของดวงอาทิตย์ ใช่…มันคือพลังจิตที่มนุษย์มีการฝึก
เริ่มแรกมาจากทิเบต ต่อมาก็มีการสอนกันทั่วไป และสุดท้ายมันคือวิวัฒนาการ พ่อแม่มีพลังจิต ลูกจะมีพลังจิตที่ดึงออกมาง่ายกว่าคนอื่น

เขาเดินไปกดรีโมทคอนโทรล สักพักหุ่นยนต์แม่บ้านก็นำอาหารมาวางบนโต๊ะ อาหารที่เคี้ยวได้ มิใช่อาหารแคปซูลทั่วไป ที่คนนิยมรับประทานเพราะความรีบเร่งของชีวิต

สภาวะเบื้องหน้าเกิดการหยุดชะงักของบรรยากาศ เขามองไปทางประตู ร่างหญิงสาวผู้หนึ่งยืนนิ่ง เป็นการเคลื่อนในช่องว่างของบรรยากาศ คล้ายกันกับนักบินอวกาศในยุคนี้ ต่างกันก็เพียงมนุษย์สามารถค้นพบว่าในโลกก็ทำได้เช่นกัน

“สวัสดีตอนเย็นตุลา”

“ทำไมต้องเรียกซะเต็มยศเชียว”

เขายิ้มกว้าง และหญิงสาวผู้มีดวงหน้าประพิมประพายลูกครึ่งก้าวออกมา ไม่น่าแปลก ยุคนี้ประชากรมีการติดต่อกันกว้างขวาง
ลูกผสมก็เกิดมากเป็นเงาตามตัว จนคนไทยแท้ๆแบบตัวเขาหายากเต็มที มนุษย์นี่ก็แปลก ยุคแรกๆก็โหยหาลูกผสม ต่อเมื่อมีเดินขวักไขว่ กลับต้องย้อนมาจุดเดิมคือไทยแท้

ตุลาจุดบุหรี่สูบ บุหรี่ยุคปัจจุบันไร้ควัน จะมีก็เพียงแค่กลิ่นกับความรู้สึกเท่านั้น ก็ผู้คนที่ให้ความสำคัญต่อสุขภาพมากขึ้น

“ทานข้าวก่อนเถอะทราย”

“ตุลนี่อนุรักษ์วัฒนธรรมไทยชะมัด แม้กระทั่งชื่อเราก็เปลี่ยนเป็นภาษาไทย”

“แซนดี้” เขาทวนชื่อจริงเธอเบาๆ “ทำไมกัน ชื่อทรายก็เพราะดีนี่นา”

“มันจะเพราะก็ต่อเมื่อคุณเรียกเท่านั้น”

ตุลาชะงัก ความรู้สึกเก่าๆเริ่มเข้ามา ในอดีตเขาสนิทกับทรายจนเคยวาดฝันชีวิตว่าเขาจะแต่งงานกับเธอ ทรายเป็นผู้หญิงน่ารัก ใครๆต่างอิจฉาเขาทั้งนั้น ผู้หญิงยุคนี้ก็เหมือนกับยุคก่อนนั้นแหละ เริ่มกลับมาสุภาพ เรียบร้อย แม้จะไม่มีใครคำนึงถึงค่านิยมของชายไทยสมัยก่อนที่ส่วนใหญ่นิยมคำว่าบริสุทธิ์ก็ตาม เขาเองก็เห็นว่ามันจะบ้าถ้าหากคนสองคนจะแต่งงานกันไม่ได้ถ้าผู้หญิงเองเคยผ่านผู้ชายมาก่อน ผู้หญิงยุคนี้ตั้งตนไว้อย่างดีเรื่องเซ็กซ์ เพราะได้บทเรียนจากโรคร้ายในอดีต

“คุณซูบลงมากนะตุล”

“งั้นหรือ” ชายหนุ่มหัวเราะ “ผมว่าผมก็เท่าเดิมนะ”

“จนบัดนี้เรายังไม่เข้าใจ เมื่อ2ปีที่แล้วคุณหายไปไหน ไปจากทุกคนโดยไม่ได้ร่ำลา พอกลับมาก็เรียนแพทย์ แทนที่จะเรียนวิทยาศาสตร์ให้จบ ทำไมกัน”

“ทราย” เขาเอ่ยขรึมๆ “คุณเคยสัญญากับผมแล้วไม่ใช่หรือว่าจะไม่พูดถึงมันอีก”

หญิงสาวนิ่งได้โดยฉับพลัน ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนช้าๆเผยเห็นร่างสูงเพรียว เข้มแข็งดังชายชาตรี ธรรมชาติย่อมมีการคัดเลือก เพื่อให้ได้สายพันธุ์ที่ดีที่สุดอยู่แล้ว สายพันธุ์ที่ด้อยกว่าจึงค่อยๆถูกคัดทิ้งจนสิ้นสายพันธุ์

“ออกไปข้างนอกกับผมมั๊ย”

หญิงสาวส่งสายตายิ้มให้แทนคำตอบ

ที่ฟากฟ้า รัตติกาลกำลังคืบคลานมา ตุลานั่งบนรถแม่เหล็ก ขับเคลื่อนตามแรงโน้มถ่วงของสนามแม่เหล็กโลก ซึ่งมันทั้งช่วยด้านมลพิษ และยังเป็นเทคโนโลยีล่าสุด ไร้เสียง ไร้ควัน ไม่ต้องใช้น้ำมันอีกด้วย

หญิงสาวหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง แม้สีหน้าจะเรียบเฉยหากเขาก็รู้สึกโดยฉับพลันว่ามีบางอย่างแอบแฝงอยู่

“โกรธผมหรือ”

“เปล่าค่ะ”

“ริตะเป็นยังไงบ้าง สบายดีหรือเปล่า”

สีหน้าหญิงสาวแดงเรื่อด้วยความเสียใจ นัยน์ตาเป็นประกายวาววับ

“ทำไมต้องพูดถึงเขาด้วย เขาก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรานี่”

“เกี่ยวสิ” เขาเอ่ยเสียงสะท้าน “ก็เขาเป็นคู่หมั้นของเพื่อนผมนี่ครับ”

“คุณตีฉันเป็นแค่เพื่อนเท่านั้นหรือ” ทรายถามเสียงเครือจัด

เขาเองก็นิ่งไป เพราะความฝังใจในอดีตนั่นเองทำให้เขาตีตัวออกห่างทราย ริตะเป็นชายหนุ่มสายเลือดญี่ปุ่น หน้าตาดี และยังแอบชอบทรายอยู่ ไม่มีใครรู้ว่าที่เขามาเรียนแพทย์เพราะบิดาเขาทดลองเชื้อโรคตัวหนึ่งไว้ ความผิดพลาดทางการทดลอง คร่าชีวิตท่านทั้งเป็น เชื้ออันตรายแพร่ไปในอากาศ เขาจำเป็นต้องรับผิดชอบ สิ่งนี้เองที่ทำให้เขาไม่กล้าบอกใคร ความผิดที่บิดาทำไว้ ถ้าแพร่ออกไป โรงพยาบาลที่พ่อสร้างต้องถูกปิด โรงพยาบาลนี้คือชีวิตของตระกูลมาหลายชั่วอายุคน รับรักษาเฉพาะคนยากจนเป็นส่วนใหญ่ ลำพังเขาลำบากไม่เป็นไร แต่ถ้าคนพวกนั้นต้องลำบากด้วย เขายอมไม่ได้เช่นกัน

ตุลากุมมือหญิงสาวไว้มั่น ยกขึ้นแตะแนบแก้มสากๆที่เริ่มมีเคราเขียวครึ้มอ่อนโยน

“คุณไม่ได้มีความหมายแค่เพื่อนหรอกนะ คุณคือทั้งชีวิตของผม แต่อนาคตมันกำหนดให้เราต้องเป็นแบบนี้ ลืมมันเสียเถอะคนดี”

“จนป่านนี้คุณยังทำร้ายจิตใจฉันอีก ทำไม ทำไมฉันต้องมารักคนอย่างคุณด้วย ทำไม”

ก่อนที่หญิงสาวจะร่ำร้องมากกว่านี้ สัญญาณอันตรายได้ดังขึ้น ฉับพลันยานแม่เหล็กก็เป็นเครื่องบินขนาดเล็ก มุ่งหน้ากลับโรงพยาบาลทันที ชายหนุ่มตรงไปยังมอนิเตอร์พร้อมกับทรายที่ก้าวตามมาติดๆ

“เกิดอะไรขึ้น”

หุ่นยนต์จากการทำงานของยานตอบกลับมาเป็นเสียงหญิงสาว

“หุ่นยนต์ผ่าตัดเรียกค่ะ มีคนไข้อาการหนักเกินกว่าที่จะรักษาได้ เขาต้องการตัวคุณหมอด่วน”

หญิงสาวขมวดคิ้ว

“เป็นไปได้ยังไง นวัตกรรมล่าสุดออกแบบหุ่นยนต์เป็นนายแพทย์ที่เที่ยงตรง ทำไมยังต้องการมนุษย์ไปผ่าตัดแบบโบราณอีก”

นายแพทย์ยุคนี้ส่วนใหญ่จบออกมาก็มีหน้าที่เพียงนั่งดูอาการของคนไข้ ก่อนส่งให้หุ่นยนต์รักษา เมื่อคนไข้จะออกจากโรงพยาบาล นายแพทย์ก็จะตรวจอาการอีกรอบ ฉะนั้นแพทย์จึงแทบจะไม่มีความหมาย อาชีพที่ยิ่งใหญ่ขณะนี้คือนักวิทยาศาสตร์ต่างหาก

การใช้โทรจิตทำให้สูญเสียพลังงานบางส่วนโดยไม่จำเป็น ตุลาจึงได้แต่รอให้รถแม่เหล็กบินผ่านตึกราบ้านช่องต่างๆ บางแหล่งสูงพอๆกับยอดเขา แทบไม่มีบ้านหลังไหนต่ำกว่า4ชั้น ยกเว้นบ้านคนจนกับบ้านที่ต้องการปลูกเป็นเรือนไทยโบราณ

ทางเข้าไปในห้องผ่าตัดฉุกเฉิน ชายหนุ่มรับเสื้อกาวน์จากหุ่นยนต์พยาบาลรีบเร่ง เขาทบทวนความรู้ที่สั่งสมมานานในตำราแพทย์ ก่อนเข้าไปในห้องผ่าตัดพร้อมหญิงสาว

คนไข้ดิ้นทุรนทุราย หุ่นยนต์แพทย์ที่มีร่างกายหรือแม้กระทั่งหน้าตาไม่ผิดจากมนุษย์ หากแต่คลื่นไฟฟ้าที่แล่นตามร่างกายด้วยวงจรกระแสสลับ ทำให้แยกออกว่าเป็นเพียงแค่หุ่นยนต์เท่านั้น

“มีอาการอะไรบ้าง”

หุ่นยนต์รุ่นใหม่ตอบเป็นน้ำเสียงมนุษย์ผู้ชาย

“ไอมากครับ ความดันต่ำมากแทบวัดไม่ขึ้น เมื่อครู่มีอาการตัวบวมคล้ายกับอาการดีซ่าน”

ตุลารับฟังอย่างเคร่งเครียด ชายที่นอนบนเตียงชัก ตาเหลือกค้าง บุรุษพยาบาลที่เป็นมนุษย์จับตัวกดไว้ทันก่อนที่หุ่นยนต์พยาบาลจะถูกโปรแกรมสั่ง คลื่นหัวใจส่งเสียงดังแสดงอัตราการเต้นอ่อนลงตามลำดับ

“เตรียมยากระตุ้นหัวใจ”

เครื่องปั้มถูกส่งมาให้แพทย์หนุ่ม เขาลงมือกระตุ้นร่างคนไข้พร้อมเหลือบสายตาดูผลลัพธ์บนจอคอมพิวเตอร์อย่างเคร่งเครียด เมื่อเห็นท่าไม่ดีก็ลงมือกระตุ้นต่อเป็นระยะ

แต่กระนั้น ภาวะหัวใจล้มเหลวก็ตามมาถึง พร้อมกับเครื่องวัดค่าความดันแสดงตัวเลขน่าตกใจ หุ่นยนต์แพทย์เอ่ยปากบอกเรียบๆ

“เหลือเวลาอีก3นาที”

ตุลาก็รู้ เขาลงมือกระตุ้นหัวใจอีกรอบ คราวนี้โดยการกรีดหน้าอกคนไข้ ใช้มือช่วยกระตุ้นโดยตรง วิธีนี้เขาไม่อยากใช้กับคนไข้เลย ร่างกายคนเจ็บจะทนรับแรงอัดไม่ไหว แต่วินาทีนี้มันคือทางเลือกที่ดีที่สุด

เลือดซึมออกจากดวงตาของชายผู้ป่วย ทั้งใบหู ปาก จมูก เล็ก รูทวาร และท่อปัสสาวะ ตุลาสั่งอัดยาอีกขนานใหญ่ ตั้งแต่เขาเรียนแพทย์มา ยังไม่เคยเห็นโรคที่ออกอาการรวดเร็วแบบนี้มาก่อน คนไข้ผู้นี้เพิ่งเข้าโรงพยาบาลมาเมื่อเช้าด้วยอาการไข้หวัดธรรมดา เขาเป็นคนเซ็นให้ออกจากโรงพยาบาลในเย็นวันนี้ด้วยซ้ำ ทำไมอาการจึงทรุดหนักเช่นนี้

คนไข้หมดสติ ไม่นานนักบุรุษพยาบาลก็เอาผ้าคลุมหน้า วินาทีนั้นทรายถลันเข้ามาจะจับศพคนตาย หากชายหนุ่มห้ามไว้

“อย่าทราย นี่เป็นเชื้อโรคตัวใหม่ อันตรายมาก”

เลือดนักทดลองแรงกล้า หญิงสาวมองดูเขาอย่างวิงวอน

“ฉันจะทดลองเชื้อตัวนี้เอง ขอร้องเถอะนะคะตุล”

ตุลามองนิ่งไปที่ศพคนป่วย เสียงกระด้างขึ้นจนทรายตกใจ

“ผมบอกว่าไม่ได้ไงทราย คุณพูดไม่รู้เรื่องหรือไง”

“ตุล ก็ได้ค่ะ ฉันมันเป็นคนนอก เข้ามายุ่มย่ามเอง”

คลื่นบรรยากาศหยุดชะงัก พร้อมๆกับร่างของทรายที่หายไปในการเดินทางตามช่องว่างอากาศ ชายหนุ่มจะเอ่ยปากขอโทษ หากคำพูดนั้นติดอยู่แค่ลำคอ สายตามองไปที่ศพพลันใจหายวูบ ศพหายไป เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าทรายจะยอมเสียพลังนำซากศพของคนป่วยไปด้วย

ที่บ้านของหญิงสาว หล่อนใช้กล้องจุลทรรศน์ขยายแสนล้านเท่า ก็ยังไม่เห็นหน่วยพันธุกรรมของเซลล์ตัวนี้ ไวรัส คำนี้ผุดขึ้นในสมอง ท่ามกลางอากาศยามดึก แต่หญิงสาวกลับร้อนรุ่ม เมื่อยังหาคำตอบไม่ได้เสียทีว่าเจ้าไวรัสตัวนี้มีโครงสร้างทางพันธุกรรมเช่นไร บางส่วนเหมือนมีมาแต่ดั้งเดิม บางส่วนเหมือนถูกตัดพันธุวิศวกรรม ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงคนๆนี้จะต้องเก่งมาก ที่สามารถวางโครงสร้างRNAได้ซับซ้อนยากต่อการหาโครงร่างเช่นนี้

หญิงสาวจะตัดสินใจกดปุ่มเรียกใครบางคน แต่พลันชะงัก

“ไม่ดีกว่า ถ้าเขารู้เขาก็คงว่าเราอีก”

ริตะเป็นคนต่อไปที่หล่อนจะเรียกแม้ว่าตอนนี้เขาจะไปอยู่ที่ท่าอากาศยานอวกาศในรัสเซีย ยังไงริตะก็เป็นนักวิทยาศาสตร์ด้านกายภาพชีววิทยา น่าจะช่วยหล่อนได้ไม่มากก็น้อย

ฉับพลัน ห้วงบรรยากาศหยุดชะงัก หญิงสางสัมผัสถึงคลื่นไฟฟ้าบางๆที่แผ่ออกมา ร่างสูงเพรียวของแพทย์หนุ่มออกมาจากห้วงว่างแห่งอากาศ ณ จุดนั้น

“คุณไม่เชื่อผมเลยนะทราย”

“ตุล ฉันอยากช่วยคุณ คุณก็รู้”

“มันเสี่ยงเกินไป ถ้าเชื้อโรคแพร่เข้ามาแล้วคุณเกิดรับเชื้อไปจะทำยังไง”

“ฉันมีเครื่องป้องกัน”

“ใช่” เขาแทบตวาดก้อง “แต่มันไม่ได้ผลหรอกนะทราย คุณไม่คิดบ้างหรือว่าที่โรงพยาบาลของผมก็มีเครื่องป้องกันตัวนี้ แต่มันใช้กับเชื้อตัวนี้ไม่ได้ มันแรงเกินไป”

ว่าแล้ว ตุลาก็ยิงรังสีครอบร่างคนตายเสีย รังสีแดงมีเสียงดังราวกับกรดที่กำลังกัดกร่อนเนื้อเยื่อ เชื้อโรคกระจายแล้ว เขาหันมาทางหญิงสาวด้วยความโกรธ

“เห็นไหม ที่นี่กำลังจะเต็มไปด้วยเชื้อมฤตยูนี่ มันกระจายในอากาศแล้วทราย”

รังสีที่เขาปล่อยเมื่อครู่เริ่มฆ่าเชื้อและฟอกอากาศให้บริสุทธิ์อีกครั้ง หญิงสาวก้มหน้านิ่งอย่างสำนึกผิด ความจริงเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะไปยุ่งวุ่นวายกับศพเลย ฉวยญาติพี่น้องคนตายมา
ถามหา ทางโรงพยาบาลจะมีความผิดหนัก

ชายหนุ่มดูเหมือนเดาความคิดหญิงสาวออก จึงเอ่ยปลอบใจ

“อย่ากังวลเลย ศพคนไข้คนนี้ญาติได้ทำสัญญามอบให้โรงพยาบาลแล้ว เพื่อเป็นประโยชน์ทางการศึกษาต่อไป”

“ฉันขอโทษค่ะ”

“ช่างมันเถอะครับ แต่ทีหลังอย่าทำอย่างนี้นะ มันไม่ใช่อะไรหรอก แต่ผมเป็นห่วงคุณ ถ้าคุณเป็นอะไรไปผมคงไม่ให้อภัยตัวเอง และก็ไม่มีหน้ากลับไปมองริตะด้วย”

“เท่านี้เองหรือคะ” ทรายเอ่ยทั้งน้ำตาคลอหน่วย “ที่คุณกลัวคือไม่มีหน้ากลับไปมองเพื่อนรักคุณคนนั้นหรือ”

“ทราย ผมขอร้องนะครับ เรื่องระหว่างเรามัน…”

เสียงหล่อนสวนขึ้นทันควัน

“จบไปแล้ว” หล่อนหัวเราะเจ็บช้ำ “เท่านี้เองสำหรับรักที่ชายคนหนึ่งบอกผู้หญิงที่เขารักมานานนับ8ปี มันเป็นเพียงคำว่าจบไปแล้วเท่านั้นเอง”

ไม่รู้ความรู้สึกลึกๆข้างในหรืออย่างไร หญิงสาวโผกอดชายหนุ่มเอ่ยเสียงสะท้าน

“อย่าทิ้งเราไปนะตุล เรารักตุล รักตุลจริงๆ”

ก่อนที่เขาจะดันร่างหญิงสาวออก ทรายกลับซบหน้าลงกับอกกว้าง ตุลารู้สึกร้อนวูบ ฮอร์โมนเทสโทสโตโรนหลั่งออกมาจากต่อมไร้ท่อ มันตอบสนองความรู้สึกชั่ววูบได้เป็นอย่างดี
แม้เขาจะยอมรับว่าเขากลับทรายเป็นคนรักกันมาก่อน หากครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขากับหล่อนใกล้ชิดกันมากกว่าครั้งใดๆ อารมณ์และความปรารถนาพุ่งขึ้นสูงสุดจนยากจะดับลง เป็นเวลานานกว่าที่ตุลาจะตั้งสติที่เตลิดได้ ชายหนุ่มเอ่ยคำแรกออกมาเบาๆ

“ผมรักคุณนะทราย”

ร่างหญิงสาวเบียดซุกแน่นกับอกกว้าง หากเสียงเขายังเอ่ยต่อไปอย่างเศร้าหมอง

“แต่ทางที่ดีคุณอย่าเกี่ยวพันกับผมเลย ผมกำลังสัมผัสถึงบางอย่างที่มันจะคืบคลานมาทำลายชีวิตผมทั้งชีวิต”

“เราไม่แคร์ ถ้าตุลตาย ชีวิตเราก็เหมือนตายทั้งเป็นอยู่ดี”

“คุณไม่รู้หรอกว่ามันไม่ใช่แค่นั้น สิ่งที่ผมกำลังทำผมเองยังไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือเปล่า”

หญิงสาวเงยหน้ามองอย่างไม่เข้าใจ หากชายหนุ่มกลับกลัว กลัวว่าความลับเรื่องเชื้อโรคจะล่วงรู้ถึงหล่อน อันตรายเหลือเกิน มาตรแม้นว่าทรายจะไม่ใช่คนที่ชอบกระจายข่าว หากอันตรายถึงชีวิตคนที่เขารักนี่สิ เขาทำไม่ได้ และเขาจะไม่ยอมให้เธอได้รับอันตรายด้วย

ตุลาค่อยๆยกมืออีกฝ่ายแนบริมฝีปาก มองดวงตาสีน้ำตาลไหม้ของหล่อนนิ่งๆ

“ผมขอร้องนะครับ อย่ามายุ่งกับเรื่องเชื้อโรคอีกเลย นะครับ”

หญิงสาวเบือนหน้าหนี หล่อนแอบร้องไห้เมื่อเห็นว่าตุลาไปอย่างเงียบเชียบไม่ผิดตอน
ขามา เธอคิดว่าเธอเข้าใจเขา ถ้าเขากล้าเอ่ยปากกันเธอออกมาจากเรื่องบางเรื่อง ก็แสดงว่ามันมีอันตรายแอบแฝงอยู่จริง แต่เธอไม่ยอม…เธอจะไม่ยอมให้เขาเป็นอะไรไปเด็ดขาด

ด้านนายแพทย์หนุ่ม เมื่อเดินทางผ่านโทรจิต ก็รู้สึกตัวเองหมดแรง พลังงานถูกใช้มากไป ตุลาคิดในใจ หากยังไม่ทันพักเหนื่อย เสียงหุ่นยนต์นายแพทย์ก็ดังมา เขาพาตัวเองเลื่อนมายังห้องผ่าตัด คราวนี้คนเจ็บมีอาการอาเจียนอย่างน่ากลัว เลือดสดๆออกมามากมาย เนื้อตัวเขียวคล้ำ ยังไม่ทันตัดสินใจสั่งยาตัวใด ร่างคนไข้ก็น็อคเฉยๆ เขากระตุ้นไฟฟ้าเข้าร่างกายคนไข้ หากร่างนั้นยังนิ่ง ไม่มีแม้เสียงลมหายใจ นางพยาบาลวิ่งมาบอกกับเขาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

“ห้องICU5 มีคนไข้อาการหนักค่ะ”

เมื่อชายหนุ่มไปถึงเพียงชั่ววินาที ก็สั่งให้ยิงรังสีฆ่าเชื้อทุกคนก่อน เขาอัดกลูโคสเต็มแปร้ คนไข้คนนี้มีอาการเนื้อเน่าตรงส่วนที่รับเชื้อ เขากับหุ่นยนต์แพทย์ร่วมกันผ่าตัดเนื้อแล้วนำเซลล์ปลูกถ่ายสร้างอวัยวะเทียมขึ้นมา เพื่อส่งให้แพทย์ทางศัลยกรรมนำไปผ่าตัดอีกครั้ง ก่อนประกอบให้คนไข้

หลังจากการตรวจวัดความดัน และระบบเลือด ยังอยู่ในอาการทรงอยู่ ตุลากุมขมับ ไม่รู้ว่าเชื้อโรคจะแพร่กระจายไปมากน้อยเพียงไร อย่างไรก็ตาม เขาพยายามรักษาชีวิตคนไข้คนนี้ให้ยาวนานที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้

ตุลาหยิบตัวอย่างเชื้อโรคในฝาครอบไปที่ห้องแลปส่วนตัว พลันเดินไปที่โต๊ะหยิบสมุดปกดำหุ้มหนังเล่มหนาขึ้นมาอ่าน เวลาผ่านไปชายหนุ่มก็ยิ่งหน้าซีดเมื่อรับรู้ว่าเชื้อนี้คืออะไร มันดัดแปลงมาจากพิษงูเห่าทะเลทรายกับสายพันธุ์ไวรัสบางตัวที่ร้ายแรงที่สุด สัตว์ที่บิดาเขาเคยทดลองตายก่อนที่จะรู้อาการที่แน่นอนภายในเวลาหนึ่งวัน เชื้อตัวนี้เองที่คร่าชีวิตทุกสิ่งไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของบิดาเขา มันแพร่ไปทั่วอวัยวะ เร็วเกินกว่าที่จะทดลองยาตามอาการคนไข้

เขาเอาไซริงค์ดูดยาฆ่าเชื้ออย่างแรงชนิดหนึ่งใส่ไปที่เชื้อโรค ยังไม่ตาย เชื้อโรคนี้ในสมุดบอกว่ามันแพ้ยาตัวนี้นี่นา หากทำไม

ตุลาฉุกคิดได้ทันทีเมื่อเขามองโครงสร้างทางคลื่นรังสี ซึ่งเป็นเครื่องมือวิทย์ที่ช่วยแยกโครงสร้างเชื้อโรคประเภทไวรัส วิวัฒนาการอีกก้าวหนึ่ง มันเริ่มท้าทายให้เขาเอาชนะ

หลอดฉีดยาบรรจุเชื้อมฤตยูอยู่เกือบเต็มหลอด สายตาเขามองไปที่ลิงซึ่งเป็นสัตว์ที่ใกล้เคียงกับคนมากที่สุด ก่อนเดินไปช้าๆที่กรงขัง ชายหนุ่มยิ้มเศร้าๆเมื่อเดินยาเข้าร่างกาย เสียงลิงในกรงร้องดังก้องไปทั่วห้อง

เป็นเวลาสายมากแล้ว ตุลานั่งคอยบางอย่างด้วยอาการกระสับกระส่าย ทรายเดินทางมาพบเขาอีกครั้งด้วยยานบินส่วนตัว เขามองหญิงสาวที่สวยงามแกมเสียใจนิดๆที่ไม่มีโอกาสได้เป็นคนยืนข้างเธอตลอดไปอย่างที่เคยนึกฝัน หากเขาก็ไม่เสียใจที่เห็นใครบางคนที่เหมาะสมกับเธอมากกว่าเขามาทำหน้าที่ตรงจุดนั้น

“ฉันจะไปที่ท่าอากาศยานทางอวกาศ จะไปหาริตะค่ะ”

“งั้นหรือ ฝากความระลึกถึงเขาด้วยนะครับ”

คันคอเหลือเกิน ชายหนุ่มจบประโยคนั้นอย่างยากเย็น พลันไอโขลกๆติดๆกัน ทรายถลันเข้ามาอย่างตกใจ แต่เขายกมือกันไว้

“อย่าเข้ามา ผม…ผมไม่เป็นอะไรแล้วครับ”

สายตาของหล่อนยังคงมองมาอย่างห่วงใย

“ทำงานหนักเกินไปหรือเปล่า คุณน่าจะพักบ้าง เพลาๆการวิจัยก็ได้”

สายตาหล่อนเปล่งประกายสุกใสเมื่อเอ่ยต่อไป

“ฉันจะไปขอให้ริตะรีบกลับมาวิจับเชื้อโรคร่วมกับตุล ริตะน่าจะช่วยตุลได้นะ”

ชายหนุ่มนิ่งเงียบ หลับตาลงช้าๆ หัวใจเต้นแรงเร็ว เสียงหญิงสาวเอ่ยเบาๆ

“คุณพักผ่อนเถอะค่ะ ทรายสัญญาว่าพรุ่งนี้จะรีบกลับมาหาคุณให้เร็วที่สุด”

ว่าแล้วหญิงสาวก็ก้าวขึ้นไปบนยานอวกาศ หากเสียงหนึ่งยังตามเข้าไป เสมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

“ผมรักคุณนะทราย จำไว้เถอะ ไม่ว่าจะยังไง มีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม ขอให้คุณรับรู้คำๆนี้ไว้ คำว่ารักที่ผมจะบอกแก่คุณเพียงคนเดียวและคนสุดท้าย ไม่ว่าอดีตของผมมันเคยผิดพลาดอะไร หากสิ่งที่ผมรู้สึกได้ตอนนี้คือรักที่ผมจะมีให้คุณตลอดไป”

ยานลำนั้นบินด้วยความเร็วเทียบเท่าแสงอาทิตย์ ประมาณ7วินาทีเธอคงไปถึงรัสเซีย ใช้เวลาทำลายแรงโน้มถ่วงโลกอีกสักครู่ก็คงจะถึงท่าอากาศยานอวกาศดังใจนึก

เสียงไอโขลกๆติดๆกันอีกครั้ง คราวนี้มีเลือดไหลซึมจากมุมปาก อา…รอยยิ้มประหลาดเผยบนดวงหน้าคมเข้มของชายหนุ่ม แม้เขาจะเสียใจในอนาคตข้างหน้า หากวินาทีนี้เขาดีใจเมื่อรู้ว่าอาการเริ่มแรกของเจ้าเชื้อมฤตยูคือไออย่างหนักนั่นเอง




จบบริบูรณ์





ท้ายเรื่อง...

"เพราะรักคือรัก" เป็นเรื่องแรกที่เขียนในเชิงวิทยาศาสตร์ค่ะ ถือเป็นแนวการเขียนเชิงทดลองอีกแนวหนึ่งค่ะ เรื่องนี้เขียนในสมัยมัธยมปลาย ช่วงนึงเคยชอบอ่านนิยายวิทยาศาสตร์ และชอบเอามาจินตนาการถึงโลกอนาคต แต่พอหลังจากเขียนเรื่องนี้จบ ก็ไม่เคยเขียนแนวนี้อีกเลยค่ะ เสียดายจัง



Create Date : 10 ตุลาคม 2550
Last Update : 10 ตุลาคม 2550 22:12:28 น.
Counter : 413 Pageviews.

2 comments
  
น่ากลัวจังอ่ะ ที่ว่าจะถึงวันสิ้นโลกคงไม่ใช่ด้วยน้ำพระหัตถ์ของพระเจ้าแล้วแหละค่ะ โลกคงสิ้นเพราะน้ำมือมนุษย์เรามากกว่า เพราะงี้หนูถึงเกลียดวิทย์ไง (เกี่ยวกันไหมนั่น 555+)

คิดถึงค่ะ หวังว่าคงสบายดีนะคะ
โดย: may (ศศิกัณห์ ขี้เกียจล็อกอิน^^) IP: 203.113.71.70 วันที่: 11 ตุลาคม 2550 เวลา:15:50:01 น.
  
เมย์
หวัดดีจ้า อึม เห็นด้วยนะที่โลกจะแย่ด้วยฝีมือมนุษย์มากกว่า ตอนนี้ภาวะโลกร้อนกำลังเป็นอันตรายที่ทุกคนกำลังมองข้ามอ่ะ

แต่ก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับการเกลียดวิทย์น้า พี่เกลียดภาษาอ่ะ เรียนทีไรตกทุกที 555


ตอนนี้สบายดีจ้า สบายใจมากๆเลย ช่วงนี้ได้กลิ่นหอมๆ ของลมหนาวแล้วน้า และพี่ก็ได้ฤกษ์เปิดเพลง ลมหนาว อีกปีแล้วจิ T____T
โดย: ไกลนั้น วันที่: 11 ตุลาคม 2550 เวลา:22:31:38 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไกลนั้น
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



สวัสดีค่ะ ไกลนั้น คือ นามปากกาที่ใช้ในการเขียนนิยายที่ถนนนักเขียนในเวบพันทิพย์ดอทคอมค่ะ หลายๆคนอาจจะเคยได้อ่านงานเขียนของไกลนั้นมาบ้างแล้ว ในนามปากกาว่า อโณทัย



ไกลนั้นขอฝากผลงานเขียนที่ได้ตีพิมพ์ในปัจจุบัน ตรงด้านล่างด้วยนะคะ ^^ อ่านแล้วคิดเห็นยังไง บอกได้เลยนะคะ


เรื่องสั้น


ต้องหนีเท่านั้น

ความฝันที่หายไป

การกลับมาของอากง

หมอดุ

ความเจ็บปวดครั้งสุดท้าย


รอวันนั้น


สะเตง...อรุณฉายที่ปลายใจ






เรื่องยาว



Believe...สุดปลายฝันนั้นคือเธอ




คือทุกสิ่งเพื่อเธอ เล่ม 1




คือทุกสิ่งเพื่อเธอ เล่ม 2




เพียงความคิดถึง



ทางกลางใจ เล่ม1




ทางกลางใจ เล่ม2
ตุลาคม 2550

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
24
25
26
27
28
29
30
31