Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
23 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 

Changing Me [Chapter 14]




Titile: Changing Me [Chapter 14]
Author: Angel Midori
Genre: Romantic Comedy
Rating: PG
Pairing: KyuMin
Note : ฟิค SJ และ Y ค่ะ




***********************************
ตั้งแต่วันที่ผมสารภาพรักไปมันดูเหมือนว่าฝ่ายที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นผมฝ่ายเดียวยังไงไม่รู้ ผมเริ่มจริงจังให้การจีบคุณซองมินชนิดไม่ปิดบัง ไม่ว่าจะการพูดคุยหรือการดูแล หากแต่คุณเจ้านายของผมเขากลับดูไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด อย่างที่เวลาผมทำอะไรให้เขา พวกช่วยถือข้าวของ ตามรับส่งมากกว่าปรกติ เขาก็มักจะยิ้มตอบ แต่ไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับวันนั้นอีกเลย



ผมไม่รู้ว่าผมควรจะรู้สึกยังไง แต่ผมก็ทำได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า ก็ยังดีที่คุณซองมินเขาไม่หนีหรือหลบหน้าผม


“คยู”


“.....”


“คยูฮยอน!!”


“ฮะ ๆ” ผมสะดุ้งเฮือกขานรับแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ตามเสียงที่เรียกผม พอมองไปก็เห็นคุณซองมินเขายืนกอดอกยิ้มมองผมอยู่


“เหม่ออะไรไปได้แล้ว”



“อ๋อครับ” ผมรีบวิ่งไปเปิดประตูรถให้คุณซองมินทันที จริงๆ วันแรก ๆ ที่ผมทำแบบนี้ คุณเขาก็อิดออด และบอกไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ แต่หลังๆ คงชิน ก็เลยไม่เห็นพูดอะไรอีก




คุณซองมินขึ้นไปนั่งรถแล้วผมก็รีบขึ้นไปประจำที่นั่งคนขับทันที ตอนเย็น ๆ ผมจะรับอาสาขับรถมารับคุณซองมินกลับออฟฟิตทุกเย็นแบบนี้ประจำ ไม่ว่าผมจะงานยุ่งแค่ไหน ผมก็พยายามออกมารับให้ได้ทั้งๆ ที่คุณเจ้านายของผมเขาสามารถกลับได้เอง เมื่อก่อนผมก็เนียนทำอยู่บ่อยๆ แต่ตอนนี้มันเนียนจนจับได้ เพราะอุคกี้ก็เคยถามผมว่าจะไปรับคุณเขาทำไม เดี๋ยวเขาก็กลับมากับชินดงฮยอง หรือคุณพ่อของเขาได้




“เหนื่อยไหมครับ” ผมเอ่ยถามคนที่นั่งข้างๆ คุณเจ้านายคนน่ารักเขาหันมาเลิกคิ้ว และส่ายหน้าเบาๆ




“ถามทำไม ฮยองทำจนชินแล้ว”




“ก็เป็นห่วง” พอผมตอบแบบนี้คนยังอยากเป็นฮยองก็หัวเราะ แล้วก็หันหน้ากลับไป




“คุณซองมิน”



“หือม”



“ค่ำนี้คุณว่างไหมครับ” ผมถามแล้วเหลือบไปมองหน้าคุณเขา คุณซองมินทำท่าคิดนิดหนึ่งก่อนจะพยักหน้าจนจนผมนุ่มไหวไปมา




“ก็ว่าง มีอะไรเหรอ”



“ผมมีอะไรอยากให้คุณดูที่บ้านพักผม มาได้ไหมครับ”




“ไปดูที่บ้านฮยองไม่ได้เหรอ”



คราวนี้ผมส่ายศีรษะตอบกลับไปบ้าง “ไม่ได้ครับ ผมเกรงใจพ่อแม่คุณ ที่บ้านผมสะดวกกว่า”




พอผมตอบแบบนี้ไปคุณเขาก็เงียบไปอีกสักพักให้ผมใจไม่ดี




“อย่าคิดนานน่า ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก”




“บ้า ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นสักหน่อย”คุณซองมินรีบละล่ำละลักตอบและงับริมฝีปากตัวเองทันที พอผมเหลือบไปมองก็อดหัวเราะกับท่าทางน่ารัก ๆ นั่นไม่ได้





“ตกลงไปนะครับ” ผมรวบรัดตัดความเองทันที คุณเขาได้แต่เหลือบมามองแล้วก็พยักหน้า ผมยิ้มกริ่มมาตลอดทาง พลางนึกเรื่องที่ผมจะเซอร์ไพรส์คุณเจ้าของไร่ คนน่ารักของผมคืนนี้


>>> Changing Me<<<


ดวงจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่ทางทิศตะวันออก คอยส่องแสงสว่างไม่ให้บรรยากาศในยามค่ำคืนมืดเกินไป ยิ่งโดยเฉพาะในคืนที่ดวงจันทร์เกือบเต็มดวงแบบนี้แสงสว่างก็ยิ่งสว่างมากขึ้นจนมองเห็นบรรยากาศต่างๆ ชัดขึ้น ตอนอยู่ที่โซลผมไม่เคยเงยหน้ามองดวงจันทร์ ไม่เคยคิดว่ามันสว่าง หากแต่มาอยู่ที่นี้ ดวงจันทร์กลับสำคัญอย่างไม่น่าเชื่อ



ผมนั่งรอคุณซองมินอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน คุณซองมินบอกว่าจะมาหาผมหลังจากที่ดูข่าวกับคุณพ่อคุณแม่จบแล้ว แต่ลึกๆ ผมกลับคิดว่าคุณเขาถ่วงเวลาผมอยู่หรือเปล่านะ ใจผมเองก็เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ กลัวคุณเขาจะเบี้ยวผม และถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมก็เตรียมปิดประตูตาย รอรับการอกหักได้เลยทีเดียว





ผมนั่งลุ้นจนเกร็งราวกับไม่ใช่ตัวผม หากแต่เมื่อผมเห็นความเคลื่อนไหว จากร่างเล็ก ๆ อวบ ๆ เดินมาจากอีกฝั่งของลานหน้าบ้าน ใจผมก็โลดแล่นแทบจะวิ่งไปรับเขามาเสียแล้ว





คุณซองมินส่งยิ้มกว้างสดใสมาให้ผมตั้งแต่ก้าวย่างเข้ามา แค่รอยยิ้มนั้นมันก็ดียิ่งกว่าคำพูดใด ๆ แล้ว ผมนี่ยิ่งมีความรักก็ยิ่งดูเพ้อๆ นะครับ




“ตกลงให้มาดูอะไร” คุณคนน่ารักเอ่ยถามทันทีตั้งแต่ก้าวขึ้นมาบนบ้าน ผมเดินไปยิ้มใส่ ไม่พูดอะไร หากแต่ดันหลังของคุณเขาเบาๆ ให้เข้าไปในบ้าน



“รอตรงนี้แป๊บนึงนะครับ” ผมจับไหล่คุณเขาให้นั่งลงบนพื้นข้าง ๆ โต๊ะเล็กๆ ที่ผมจัดเอาไว้ทำงาน และผมก็ลงนั่งข้าง ๆ กันก่อนจะหันไปเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ ผมเหลือบมองเห็นคุณเขาจ้องมองผมตาแป๋ว จนอยากลองแกล้งหันไปจ้องตาแข่งจริงๆ ครับ




พอเครื่องคอมพร้อมใช้งาน ผมก็กดคลิ๊กที่เพลงๆ หนึ่งให้ดังขึ้นมา



“ให้ฟังเหรอ” คุณซองมินหันมาถามผม ผมก็พยักหน้ารับ




“ตั้งใจฟังนะครับ”



เราสองคนต่างคนต่างเงียบ เสียงเพลงจากดนตรีสังเคราะห์ ที่มีเสียงของผมร้องคลอเบาๆ ดังออกมาจากลำโพงของโน้ตบุ๊ค คุณซองมินฟังเพลงพลางมองหน้าผมไปด้วยตลอด ผมเองก็ทำได้แต่ทอดสายตามองใบหน้าน่ารักนั้นด้วยรอยยิ้ม




สีหน้าเวลาข้องใจสงสัย รอยยิ้มสดใสเวลาพึงใจ สิ่งเหล่านี้ผมมองราวกับอยากจะ save as ลงในสมองของผม ว่าคุณเขารู้สึกยังไงเวลาที่ได้ฟังเพลงที่ผมแต่งมาเพื่อเขาครั้งแรก





“เพราะดี แต่งเอง ร้องเองด้วยใช่ไหม” ผมพยักหน้ารับกับคำถามนั้น





“ผมแต่งมันตอนมาอยู่ที่นี้ใหม่ๆ แต่มาแต่งจบได้เมื่อไม่นานมานี้”





ผมพูดเรียบเรื่อยโดยที่มีคุณซองมินนั่งท้าวคางกับโต๊ะคอยฟังเรื่องของผมอยู่ ผมอยากเอื้อมมือไปจับศีรษะกลมนั้นเล่นแต่ก็ยังไม่กล้า เล่นนั่งน่ารักทำร้ายหัวจิตหัวใจกันแบบนี้มันก็ทำให้หัวใจของผมทำงานหนักเกินไปนะครับ




“แล้วสาเหตุที่ผมแต่งมันจนจบได้ก็เพราะคุณ”





คุณซองมินสะดุ้งเบาๆ ก่อนจะเด้งขึ้นตัวขึ้นมานั่งหลังตรง “เพราะฉันเหรอ”




“ครับ เพราะคุณ คุณเป็นแรงบันดาลใจ”




“แต่เพลงมันอืมมม หวาน” คุณเขาพูดเสร็จก็เรียบเอียงหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างพอดี อยู่ด้วยกันมานานผมก็พอเดาได้ว่าคุณเขาเขิน


“ก็ผมแต่งมันให้คุณไง เลยเป็นแบบนี้”




“อย่างคยูไม่น่าจะแต่งเพลงแบบนี้ได้”




“ผมออกจะเป็นคนโรแมนติค” คุณเค้ายู่ปากจนกลมราวกับไม่เชื่อผม นี่อุตสาห์แต่งเพลงให้แบบนี้ยังไม่เชื่อกันอีกเหรอครับ




“มีอีกอย่างที่ผมอยากจะบอกคุณ” ผมหันไปมองหน้าคุณซองมิน แล้วอมยิ้ม




“ผมส่งเพลงไปให้รุ่นพี่ที่ค่ายเพลงฟัง แล้วเขาตกลงซื้อเพลงนี้ของผมแล้วล่ะ”



“จริงเหรอ!”



ผมพยักหน้าตอบรับ แทนคำตอบ



“ดีใจด้วย เพลงของนายเพราะจริงๆ นะ”



“ผมบอกแล้วไงว่ามันเป็นเพราะคุณ” จริงๆ ผมก็ไม่นึกเหมือนกันว่าผมจะปากหวานได้ขนาดนี้นะครับเนี่ย แล้วพอผมตอบไปแบบนี้คุณเขาก็ทำหน้าไม่ถูกขึ้นมาเลย แต่ผมก็เห็นว่าแก้ม กับใบหูของเขาขึ้นสีมาทีเดียว ไอ้หน้าตาตอนกัดริมฝีปาก ทำอะไรไม่ถูกแบบนี้มันน่ารักชะมัด




“แล้วไม่มีรางวัลให้ผมหน่อยเหรอ”



“ห๊า”




“รางวัลที่ผมขายเพลงได้เนี่ยไง”




“ตังค์ก็ได้ จะมาขอรางวัลอะไรอีกเนี่ย” คุณซองมินบ่นงึมงำ ก่อนจะหันมามองหน้าผม




“แล้วอยากได้อะไรล่ะ”



ผมอดหลุดหัวเราะไม่ได้กับความใจอ่อนของคุณเขา ผมแกล้งทำเป็นนึกแล้วก็ดันลมเข้าแก้มจนป่อง ก่อนจะชี้นิ้วย้ำ ๆ ไปที่แก้มให้คุณเขาดู




“มากไป” คุณซองมินรีบตอบผมทันที จนผมอดหัวเราะขำไม่ได้ แต่ผมก็ยังไม่เลิกความตั้งใจนั้น ผมยังเอียงแก้มใส่คุณซองมินตื้อต่อ



แป๊ะ!!


“โอ้ย! เจ็บนะครับ” ผมอุทานลั่น หลังจากสิ่งที่ผมได้รับเป็นมือนิ่มๆ สองข้างที่ประกบมาที่แก้มผมแรงๆ แบบไม่ยั้ง




นึกเอานะครับว่าแรงคนทำไร่ ทำสวนแบบคุณซองมินนี่มันไม่เบาเอาแน่ๆ




“เล่นอะไรเนี่ยเจ็บ” ผมลูบแก้ม พลางจ้องหน้าคนที่กำลังนั่งหัวเราะคิก แล้วพอผมเห็นว่าคุณเขาเอาแต่หัวเราะผม ไม่ระวังตัวผมก็รีบลงไปนอนเอาหัวหนุนตักคุณเขาทันที



“เฮ้ย ทำอะไรเนี่ย” คุณซองมินรีบเอามือดันหัวผม แต่ผมก็ไม่ยอมพยายามทำหัวหนักเข้าไว้ เราต่อสู้กันสักพักจนคุณเขายอมให้ผมนอนหนุนตักเขาได้ ความเนียนนี่เป็นหนึ่งในความสามารถของผมนะครับ ถ้าใครยังไม่รู้




“ก็แค่นี้เองทำงกไปได้”



“ฮยองไม่นึกเลยว่าคยูจะเป็นคนแบบนี้”



“แบบไหนครับ”



“ก็นี่ไง เนี่ยเนียนแบบนี้” คุณเขาแกล้งเอานิ้วมาจิ้มๆ ที่หัวผม ไอ้ผมเองก็หัวเราะกับเสียงงุ๊งงิ๊งของเขา



“ของรางวัลไง”



“ขี้ตู่ ใครบอกจะให้ แต่อยากทำอะไรก็ทำไปเหอะ” คุณซองมินขยับตัวให้นั่งสบายขึ้น ผมยกหัวขึ้นให้เขายืดขาได้ แล้วก็นอนหนุนใหม่




ผมนอนหนุนตักไป ร้องเพลงไป พลางมองคุณเขาจากมุมด้านล่าง ส่วนคุณซองมินก็เสไปนั่งเล่นคอมของผมแทน ผมได้ยินคุณเจ้านาย (ที่ตอนนี้ผมอยากเปลี่ยนสถานะไม่อยากเป็นลูกน้องแล้ว) เปิดเพลงของผมฟังอีกครั้ง




“ผมถามอะไรคุณได้ไหม”


“อะไรล่ะ” คุณเขาถามผมโดยที่ไม่ได้มอง มือของคุณซองมินยังขยับกดเมาส์ไปเรื่อย ๆ อยู่



“เรื่องคุณซีวอน”


“จะอยากรู้ไปทำไม”



“ผมอยากรู้ ผมอยากประเมิณคู่แข่งได้ถูก”




“ฮ่า ๆ นายนี่ตลกชะมัดคยู” คุณซองมินก้มหน้ามา แล้วก็ตีหน้าผากของผมเบาๆ




“ผมไม่ได้ล้อเล่นนะ ผมอยากรู้จริง ๆ “



“เด็กไม่รู้จักโต เขาไม่ได้เป็นคู่แข่งอะไรของนายแล้วตอนนี้”




ไอ้คำว่าตอนนี้ มันสะกิดใจผมแปลก ๆ

“หมายความว่าไง” ผมลุกขึ้น ๆ มานั่งขัดสมาธิแล้วจ้องหน้าบังคับให้คุณซองมินเล่า



คุณเจ้านายผมก็อมยิ้มจนผมต้องจ้องหน้าบังคับอีก



“เราตกลงเป็นเพื่อนกันมาสักพักแล้ว เราไปกันไม่ได้” คำพูดที่หลุดมามันทำให้ผมอึ้งๆ งง ๆ และพยายามจับใจความนั้น มันเหมือนฟังแล้วจะดี แต่ก็ดูแปลก ๆ



“คุณเคยคบกับเขาเหรอ”




“อืม ช่วงสั้น ๆ เคยคบกันตอนเรียนจบใหม่ ๆ”




“เขาก็เลยตามคุณมาทำงานที่นี้”

“ก็ประมาณนั้น”



“แล้วทำไมถึงเลิกกันครับ”



“คบๆ ไปปัญหามันเยอะ ฮยองรู้สึกว่าไม่ได้รับซีวอนในแบบคนรัก เราเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน ฮยองรักซีวอน แต่คงเป็นแบบเพื่อน แล้วทางซีวอนเองครอบครัวเขาก็รับฮยองไม่ได้ ก็เลยเลิกกันดีกว่า”




ผมตั้งใจฟังเรื่องปัญหาชีวิตรักของคุณซองมิน พลางรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกกับเรื่องที่ได้ยิน อย่าหาว่าผมเลวเลยนะครับที่ดีใจกับการที่เขาเลิกกัน แล้วยิ่งรู้ปัญหาผมก็ยิ้งดีใจกับคุณซองมินที่เลิกกันได้



“แต่ผมเห็นคุณกับเขายังดูสนิทกันมากอยู่”



“เราเลิกกันด้วยดี แล้วเราก็ยังเป็นเพื่อนกัน” คุณเขาพูดจบก็ยิ้ม และหันไปกดเปิดเพลงเล่นต่อ แต่ความข้องใจของผมยังไม่หมดง่าย ๆ ถึงจะเลิกกันแล้วแต่ผมก็ยังคิดว่าฝ่ายนู้นเขาดูยังคิดอะไรกับคุณซองมินอยู่





“เลิกกันแล้ว แต่เขายังทำงานที่นี่อยู่เลย ผมเคยได้ยินมาว่าบ้านเขาเป็นเจ้าของโรงงานใหญ่โต แล้วทำไมยังจะทำงานที่นี้”





“พูดอะไรเด็ก ๆ นี่หน้าที่การงานของเขา มันไม่ได้เกี่ยวกับฮยอง”




“ก็คุณบอกเองว่าเขามาทำงานที่นี้ก็เพราะคุณ”


“แต่ตอนนี้เขามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบไง แต่เขาอยู่อีกไม่กี่เดือนก็จะลาออกแล้วล่ะ”



“ทำไมครับ” ผมไม่แน่ใจว่าคุณเขาจะจับได้ไหมว่าผมถามได้กระตือรือล้นมาก




“เขาได้ทุนไปเรียนต่อเยอรมัน”



ผมแทบซ้อนรอยยิ้มไม่ได้ จนต้องแอบหันไปยิ้ม ถ้าทำไปได้นี่ผมร้องเย้ ไปแล้ว และพอหันมาก็เห็นคุณซองมินนั่งจ้องมอง และบู้ปากนิด ๆ



“ดูทำหน้า ทำเป็นดีใจ”



“ไม่น่าดีใจได้ยังไงล่ะครับ”


“เรื่องของนายกับฮยอง มันไม่ได้เกี่ยวกับซีวอนเขาสักหน่อย มันเกี่ยวกับการตัดสินใจของฮยองต่างหาก”




“แต่อย่างน้อย ผมก็สบายใจขึ้น ตอนนี้ถึงเลิกกันแล้วยังไงเขาก็เป็นคู่แข่งผมอยู่ดี”





“ถึงไม่มีคู่แข่งก็ใช่ว่าฮยองจะยอมรับนาย”



“ไม่เห็นใจผมหรือไง” คราวนี้ผมแกล้งขยับตัวไปจนชิด คุณซองมินก็รีบหันมาดันอกผมไว้ทันที


“รุ่มร่าม”


“ผมแค่อยากคุยกันใกล้ๆ “


“มากไป” ผมหัวเราะเบาๆ ก่อนขยับตัวออกไปเล็กน้อย ย้ำนะครับว่าเล็กน้อย



“เรื่องของเราสองคนหน่ะ ฮยองคิดอยู่นะ แต่ฮยองอยากถามอะไรคยูหน่อย ครอบครัวของคยูจะรับเรื่องของเราได้ไหม ฮยองไม่อยากอกหักอีกหรอกนะ แล้วอกหักกับเรื่องซ้ำๆ มันไม่สนุกเลย”



คุณซองมินพูดกับผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง มันจริงจังมากจนผมต้องมาฉุกคิด.....



ผมไม่รู้เลยสักนิดว่าที่บ้านจะว่าอย่างไร และแน่นอนผมไม่กล้าจะหลอกตัวเองได้ว่ามันยากที่เขาจะเข้าใจความรักของผม



“ถ้าจะคบกัน ฮยองก็อยากจะจริงจัง และไม่อยากผิดหวัง ฮยองถาม และอยากให้คยูลองคิดดู”


คุณซองมินทิ้งคำพูดนั้นไว้กับผม ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นและเดินจากไป
ผมมีเรื่องให้ต้องคิดอย่างจริงจังอีกแล้วซินะครับ ผ่านไปเรื่องก็ใช่ว่าเรื่องมันจะจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง





***********************************




ตอนนี้มาช้าไปนิด แต่คิดว่าหลายๆ คนคงยังวุ่นวายเรื่องบัตรคอนอยู่(เหมือนกัน)

ตอนนี้เฉลยแล้วว่าคุณซองมินกับเกษตรอำเภอเขาเป็นอะไรกันแล้วเน้อ หลังจากที่เด็กเกรียน(และคนอ่าน) ข้องใจกันมานาน









 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2555
1 comments
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2555 14:32:06 น.
Counter : 594 Pageviews.

 

เย้คยูมีหวังแล้ว เหลือแต่เรื่องที่บ้านซินะ

 

โดย: mayu IP: 110.49.224.82 24 กุมภาพันธ์ 2555 22:26:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Angels Midori
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Angels Midori's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.