Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
2 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
Changing Me Chapter 6




Titile: Changing Me [Chapter 6]
Author: Angel Midori
Genre: Romantic Comedy
Rating: PG
Pairing: KyuMin
Note : ฟิค SJ และ Y ค่ะเผื่อใครหลงเข้ามาได้ปิดหนีทัน 55555..




************************************

เวลามันผ่านไปเร็วนะครับ ถ้าหากคุณมีอะไรมากมายวุ่นวายที่จะต้องทำ ถ้าเป็นเมื่อก่อน ที่ผม กิน นอน เรียน เที่ยว ผมว่ามันมีเวลาเหลือเยอะเลยทีเดียว แต่ตอนนี้ไม่ใช่

ช่วงนี้ทั้งองุ่น และดอกไม้ต่างออกดอกออกผลแข่งกัน ทำให้งานเพิ่มขึ้นมาโข แล้วยิ่งเจ้านายของผมเขากำลังเริ่มลุยงานสหกรณ์อะไรนั่นอย่างจริงจัง มันก็ทำให้ผมยุ่งไปด้วย เพราะตอนนี้ผมใช้ชีวิตแทบจะเหมือนเนื้องอกของคุณซองมินอยู่แล้ว

อยู่ที่นี่มันอาจไม่สนุกเฮฮา บ้าบอ เท่าอยู่กับเพื่อนฝูง แต่มันก็สนุกไปอีกแบบนะครับ แรก ๆมันก็เหนื่อย เบื่อ แต่ตอนนี้ผมสนุกไปกับงาน ตื่นเต้นเวลาที่ดอกไม้โตจนเก็บขายได้ องุ่นลูกโตที่พร้อมเก็บ คนที่นี่ก็ใจดี ซื่อ และถึงจะมีคนรุ่นราวคราวผมไม่เยอะ แต่พี่ๆ ลุงๆ ป้า ๆ ที่นี่ก็เอ็นดูผมมาก

ไอ้เพื่อนรักของผม อย่างชางมิน และที่บ้าน เคยถามว่าเมื่อไหร่ผมจะกลับ แรกๆ ผมมักตอบว่าอีกเดี๋ยวก็กลับแล้ว แต่ตอนนี้คำตอบมันเริ่มเปลี่ยนเป็นไม่รู้เมื่อไหร่ไปเสียแล้ว

ผมมันคนโรแมนติค เลยหลงไหลกับบรรยากาศแบบนี้ไปง่ายซินะ

ผมเดินเข้าไปในบ้านใหญ่ และคว้ากุญแจเจ้ารถกระบะคู่ใจของคุณซองมิน เพื่อเดินไปหาเจ้าของรถที่ยืนคุยกับคุณจงอุนอยู่หน้าบ้าน ทุกวันนี้ผมมีหน้าที่เป็นสารถีให้คุณซองมินไปเสียแล้ว จากเมื่อก่อนขับแต่รถยนต์เกียร์ออโต้ บนถนนเรียบๆ ตอนนี้ผมเริ่มมีความสามารถพิเศษสามารถขับรถกระบะเกียร์ธรรมดาบนทางวิบากได้แล้ว

เป็นความสามารถพิเศษที่ดูแมนทีเดียว

“คุณซองมินครับ” ผมตะโกนเรียก คุณเจ้านายของผม เขายกมือว่ารับรู้แล้ว และก็รีบเดินตามมาที่รถ

วันนี้ผมกับคุณซองมินจะไปรับดอกไม้จากไร่ของคุณตาท่านหนึ่งที่อยู่ติดริมเขาโน่น คุณตาท่านนี้ ปลูกดอกไม้อยู่กับภรรยาสองคน ไม่ใช่ไร่ใหญ่โตอะไร ก็เลยใช้วิธีขายส่งให้คุณซองมินเอาไปขายต่อ ถึงคุณซองมินจะบอกว่าจะรับฝากไปขายให้ คุณตาก็ไม่ยอม คุณซองมินก็เลยรับซื้อไว้ชนิดราคาเกือบเท่าราคาที่นำไปขายต่อ

รถกระบะเก่าๆ พาผมและคุณซองมินลัดเลาะไปเรื่อยๆ ทุกอย่างบนเส้นทางเหมือนเดิม แต่ผมรู้ที่เปลี่ยนมันคือทัศนคติของผม

พอมาถึงที่ไร่ เราสองคนช่วยจัดการเรื่องนับดอกไม้ และเจ้านายตัวเล็กของผมก็ยกเจ้าพวกนั้นขึ้นรถ ในขณะที่ผมคอยจัดการเรื่องเงินเรื่องทองแทน เพราะคุณซองมินไม่ชอบให้ผมยกของหนัก เพราะเจ้าตัวบอกว่ามือของนักดนตรีไม่ควรจะเอามาทำงานหนักเยอะ ๆ แต่ใครจะทนเห็นเห็นคนตัวเล็กต้องแบกข้าวของหนัก ๆ ได้ หรือตัวใหญ่ก็เหอะผมก็มีน้ำใจนะครับ ฉะนั้นพอเสร็จงานส่วนของผม ผมก็เลยไปช่วยคุณซองมินต่อ

พอเรายกดอกไม้ขึ้นรถได้หมด คุณเจ้านายก็ยกยิ้มน่ารักส่งมาให้ผม แถมเหงื่อเม็ดเล็กๆ ยังไหลจากหน้าผากลงมาที่แก้มกลมๆ นั่นอีก พอเห็นแล้ววิญญาณสุภาพบุรุษก็เขาสิงผม ผมยกแขนเสื้อขึ้นซับเหงื่อที่ไรผมให้เขา คุณซองมินทำท่าตกใจ แล้วอยู่ดี ๆ แก้มอิ่มๆ นั่นก็ขึ้นสีขึ้นมา ผมรู้ว่าคนผิวขาวโดนอะไรนิดอะไรหน่อยก็แดงแล้ว แต่นี่ผมยังไม่ทันออกแรงด้วยซ้ำ ทำไมแก้มคุณเจ้านายถึงได้แดงขึ้นมาเสียล่ะ คุณซองมินจับมือของผมแล้วผละหน้าหนี ถ้าท่างแบบนั้นมันดูเหมือนเขาเขินผมอยู่ และนั่นมันก็ทำให้ผมรู้สึกเขินขึ้นมาเหมือนกัน พอมานึกได้ผู้ชายที่ไหนเขายกแขนเสื้อเช็ดหน้าให้กัน กันเล่า!!

เราสองคนลาคุณตาคุณยายกลับ หากแต่ผมกลับพกความแปลกใจเข้ามาวนเวียนด้วย ผมแปลกใจว่าทำไมผมถึงชอบเผลอดูแลคุณซองมินในแบบที่ไม่เหมือนว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชาย ผมลอบมองซีกหน้าของคุณซองมินไปด้วยระหว่างคิด อาจเพราะหน้าตาน่ารัก และหวานเกินผู้ชาย แถมยังตัวเล็กนิดเดียวนี่ล่ะมั่งถึงทำให้ผมเห็นอีกฝ่ายอ่อนแอไปกว่าผม ทั้งๆ ที่เขาแข็งแรงกว่าเยอะ

หน้าสวย ใช่คุณซองมินเป็นคนหน้าสวยมาก และในขณะที่ผมแอบมองเสี้ยวหน้าของเขาอยู่ แสงแดดอ่อน ๆ ที่ไล้กับดวงหน้าสวยของคุณซองมิน ก็ทำให้อีกฝ่ายดูสวยขึ้น ผมชอบจมูกคุณซองมินไม่รู้ว่าทำไม แต่มันโด่งได้น่ารักดี ในระหว่างที่ผมแอบมองเขาอยู่ เขาก็เหมือนจะรู้ตัว คุณซองมินหันมา จ้องผมด้วยตาแป๋วๆ พอเขาคลี่ ยิ้มใจของผมก็เต้นหนักขึ้นมาเสียเฉยๆ

ผมเป็นบ้าอะไรนี่!!

ผมเลิกแอบมองคุณซองมินทันที ไม่อยากให้เขาจับท่าทางแปลกๆ ของผมได้ พอผมเลี้ยวรถเข้ามาในไร่ และจะแวะส่งคุณซองมินที่สำนักงานก่อนที่ผมจะขับรถเอาดอกไม้พวกนี้ไปส่งที่โรงเรือนเพื่อเก็บพวกมันในห้องเย็น ผมก็เห็นรถคันนั้นจอดอยู่ รถแลนด์โรเวอร์สีน้ำเงินเข้มคันนั้น

ไม่รู้ทำไมแค่เห็นรถมันก็ทำให้ผมรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมา และยิ่งตอนเห็นคุณซองมินวิ่งไปหาเพื่อนสนิทอย่างคุณซีวอน ไอ้อารมณ์หงุดหงิดมันก็ประดังขึ้นมาเพิ่มอีก เล่นเอาผมต้องรีบขับรถหนีมาจากแถวนั้น เพราะกลัวโรคหมั่นไส้มันจะกำเริบมากกว่าเดิม ปรกติผมไม่ใช่คนขี้อิจฉาเสียหน่อย แต่ทำไมถึงได้เหม็นหน้าคุณเกษตรอำเภอนี่ได้ไม่รู้

......................Changing Me...................


พระอาทิตย์ตกไปแล้ว และมันก็เป็นสัญญาณบอกเวลาพักผ่อนของคนที่นี่ รวมถึงผมด้วย หลังอาหารมื้อเย็นที่วันนี้ขาดสมาชิกไปคนคือเจ้าของบ้าน ผมก็หอบโน้ตบุ๊คมานั่งเล่นที่บ้านคุณซองมินเหมือนปรกติ แต่ที่ไม่ปรกติคือพอมาถึงผมก็ไม่มีอารมณ์จะเล่นเกมส์ พอไม่มีอารมณ์ผมก็เลยเปลี่ยนกิจกรรม โดยการแบกโน้ตบุ๊คมานั่งที่ระเบียงบ้านคุณซองมินแทน โดยคิดว่าจะลองมานั่งแต่งเพลงดู จริงๆ มันก็แต่งได้บ้างนะ แต่ก็ไม่ดีเท่าไหร่ อาจเพราะผมมัวแต่เอาเวลาไปชะเง้อมองหน้าบ้านอยู่ เพราะคิดว่าป่านนี้ทำไมคุณเจ้าของบ้านถึงยังไม่กลับเสียที

ผมนั่งรอจนเริ่มชักดึก ใจคอมันไม่ดีแปลกๆ ตั้งแต่ผมมาอยู่ที่นี่ปาเข้าไปก็สองเดือน คุณซองมินไม่เคยหายไปแบบนี้


แต่ในระหว่างที่ผมกำลังคิด เสียงล้อรถก็บดกับพื้นถนนที่มีกรวดทรายเข้ามาใกล้ ผมยืนชะเง้อมอง และภาพที่เห็นก็เป็นภาพของคุณซองมินเปิดประตูรถคันนั้น คันเดียวกับที่มารับไปเมื่อตอนบ่ายๆ ออกมา เจ้าของรถรีบเดินมาช่วยเปิดประตูให้ แล้วพอคุณเจ้าของไร่ลงมาจากรถแล้ว เกษตรอำเภอหน้าหล่อนั่นก็คว้ามือคุณซองมินไว้ คุณซองมินไม่ได้ว่าอะไร แล้วทั้งคู่ก็เดินจับมือกันมา

ตอนที่ผมมองภาพนั้น ผมบอกไม่ถูก รู้สีก วูบโหวงในท้อง หายใจติดขัด และเจ็บแปลกๆ ที่หน้าอก หรือเพราะภาพนั้นมันประหลาดเกินไป

และในระหว่างที่ผมกำลังทำอะไรไม่ถูกอยู่นั้นคุณซองมินกับคุณซีวอนก็เดินเข้ามาในบ้าน ทั้งคู่มองผม หากแต่ว่าสายตาของคุณซีวอนมันแปลก มันแข็งไม่เหมือนเวลาที่เขาเคยมองผม

“มาเล่นเกมส์เหรอ” คุณซองมินเอ่ยทักผมขึ้นมา

“เออออ.......ครับ ว่าจะมาเล่น”

“ซองมินผมไปก่อนแล้วกันนี่ดึกแล้ว”

“ครับ ซีวอนเดินทางดี ๆ นะ” คุณเจ้าของไร่พูด และโบกมือให้เพื่อนของเขา ผมยืนมองอยู่ จนคุณซองมินเลิกโบกมือ

“เล่นเกมส์แต่ทำไมมาเล่นตรงนี้ล่ะ”

“ตอนนี้ผมเลิกเล่นแล้ว”
คุณซองมินเลิกคิ้วพลางยกนาฬิกาขึ้นมาดู ใช่ผมรู้ว่าปรกติมันไม่ใช่เวลาที่ผมเลิกเล่นเกมส์หรอก แต่ผมไม่อยากอยู่แล้ว ผมเก็บโน้ตบุ๊คของผมขึ้นมาถือไว้ทันที

“ผมขอตัวก่อน” ผมพูดห้วนๆ แล้วรีบเดินจากมาจากที่ตรงนั้นโดยไม่ได้มองคุณซองมิน

ผมได้ยินเสียงเรียกชื่อผมอยู่สองสามครั้งๆ แต่ผมก็แกล้งทำเหมือนไม่ได้ยินไปซะ

ผมหงุดหงิด ถึงไม่รู้ว่าหงุดหงิดเรื่องอะไร แต่ผมไม่อยากมองหน้าคุณซองมินแล้ว

อีกอย่างผมว่าผมกำลังบ้า

......................Changing Me...................



ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้า มันแปลกที่อารมณ์ขุ่นมัวของผมมันไม่ได้ลดลงเลย ตั้งแต่ตอนเช้าที่ผมกินข้าวกับคุณซองมิน พอคุณซองมินถามคำ ผมก็ตอบคำตามหน้าที่ และแถมมันยังลามมาจนถึงบ่ายแบบนี้ด้วยที่ผมยังหงุดหงิดไร้สาระไร้สาเหตุอยู่ แถมลึก ๆ ผมอยากให้คุณซองมินรู้ด้วยว่าผมหงุดหงิด

“วันนี้เป็นอะไรอารมณ์ไม่ดีเหรอ” อยู่ดีๆ คุณซองมินก็ถามผมขึ้นมาในระหว่างที่เรากำลังเดินขึ้นรถเพื่อกลับบ้านไปด้วยกัน

รู้สักทีซินะ!

“เปล่าครับ”

“เปล่าได้ยังไง วันนี้คยูฮยอนไม่คุยกันฮยองเลย ถามอะไรก็ไม่ตอบ ทำหน้าบูดตลอดเวลา ใครทำอะไรให้คยูหงุดหงิดกัน”

ผมอยากตอบจริงๆ ว่าคุณ และเพื่อนคุณนั่นแหละ

แต่พอมานึกอีกที เขาสองคนไปทำอะไรให้ผมโกรธล่ะ

หรือที่ผมโกรธเพราะคุณซองมินไปไหนไม่บอกผม ทำให้ผมเป็นห่วง แถมยังไม่รู้ตัวอีก แล้วตอนที่เห็นเขาจับมือกันแล้วผมโมโห ก็คงเพราะรู้สึกหมั่นไส้ที่ทั้งคู่ยังร่าเริงทั้งๆ ที่ทำให้คนอื่นกังวล

มันต้องแบบนี้แน่ ๆ

“ตกลงใครทำให้โกรธ หรือฮยอง เพราะคยูไม่พูดกับฮยอง”

“เปล่าครับ”

“อ้าวแล้วหงุดหงิดเรื่องอะไรล่ะ”

“ไม่มีอะไรหรอกครับ เรื่องงี่เง่าส่วนตัว”

พอเห็นคนหน้าตาน่ารักมาทำตาแป๋วใส่ แถมตื้อถามเหมือนง้อ ความหงุดหงิดก็เริ่มลดลงนิดนึงครับ

“หงุดหงิดแบบนี้ไม่ดีเลย มีอะไรอยากให้ฮยองช่วยก็บอกได้นะ”

“ไม่เป็นไรครับ”

ผมตอบเสร็จก็เร่งเดินแล้วเอาข้าวของไปเก็บที่บริเวณท้ายรถกระบะ คุณซองมินเดินตามมา ผมคว้าของในมือคุณซองมินโยนลงไปรวมกับของที่ผมเพิ่งใส่ แล้วก็รีบเดินมาประจำที่ของคนขับรถแทน

ผมไม่ได้มองคุณซองมิน แต่ก็รู้สึกว่าเขายังยืนมองผมอยู่จากท้ายรถ

“งอนจริงๆ ด้วยซินะ” พอคุณซองมินลงนั่งข้างผมเขาก็เปรยขึ้นมา

“เฮ้ย! ใครงอน ผมไม่ได้งอน” คำว่างอนใครใช้กับคนแมน ๆ กัน

“อ้าวก็ท่าทางแบบนี้จะให้เรียกว่าอะไร หรืองอนที่ฮยองหนีไปเที่ยวไม่ได้บอก เมื่อวานฮยองไม่ได้ไปเที่ยวนะฮยองไปทำงาน”

แม่นโครต!! คุณซองมินเดามาเกือบถูกแล้ว

“ผมเปล่าจริงๆ”

“เปล่าก็เปล่า ก็อยู่ดีๆ มาทำท่าทางแบบนี้ เมื่อคืนก็ไม่ยอมคุยกับฮยอง ฮยองก็เลยนึกว่าคยูอยากออกไปจากไร่นี้บ้าง ถ้าอย่างนั้นเอาอย่างนี้พรุ่งนี้วันหยุดไปเที่ยวกัน”

ผมหันหน้าไปมองคนที่อยู่ดีๆ ชวนผมไปเที่ยว เขายิ้มให้ผม และยู่ปากเพื่อรอคำตอบ

น่ารักดี.....

เฮ้ย!!ไม่ใช่แล้ว ผมชมเขาทำไม

“ตกลงไปไหม ไปฟรีน๊าฮยองเลี้ยง”

โอเคครับเขาอุตสาห์ง้อขนาดนี้ ผมยอมก็ได้ แล้วอีกอย่างอนมากไปเดี๋ยวผมจะดูตุ๊ด

“โอเคครับ”

คนง้อผมยิ้มหวานให้ ก่อนหัวเราะคิกคัก “ก็แค่นี้ วันหลังงอนอะไรก็บอกซิ”
ปล่อยให้เขาเข้าใจแบบนั้นไปแล้วกันผมขี้เกียจต่อความว่าไอ้ที่เขาเดามันเกือบถูกแต่มันไม่ใช่

อีกอย่างได้ผลพลอยได้เป็นการไปเที่ยวฟรี ๆ มี่เจ้ามือมันก็คุ้ม

เออผมไม่ได้เห็นแก่ของฟรีนะครับ


***********************************



ชอบความฟิตของตัวเองจริงๆ สำหรับใครที่บอกว่าอยากรอรวมเล่ม โอ้ววมันช่างเป็นอนาคตที่ยาวไกลนัก 5555









Create Date : 02 ธันวาคม 2554
Last Update : 2 ธันวาคม 2554 19:36:02 น. 0 comments
Counter : 392 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Angels Midori
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Angels Midori's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.