Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
13 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
Changing Me [Chapter 10]




Titile: Changing Me [Chapter 10]
Author: Angel Midori
Genre: Romantic Comedy
Rating: PG
Pairing: KyuMin
Note : ฟิค SJ และ Y ค่ะเผื่อใครหลงเข้ามาได้ปิดหนีทัน 55555..




***********************************
แสงอาทิตย์กำลังส่องแสงจัดขึ้นเรื่อยทางทิศตะวันออก มันสาดกระทบกับกิ่งไม้จนเกิดเงา และพวกเราก็ต่างยึดเงานั้นไว้พักพิงในยามอยากที่จะพักผ่อน



หลังภารกิจเก็บดอกลิลลี่ที่โตเต็มที่แล้วอย่างเช่นทุกวัน ผมเองก็มีหน้าที่ต้องหิ้วอาหารเช้ามาส่งคุณซองมิน และทานอาหารร่วมกัน ก่อนที่คุณซองมินจะไปจัดการงานส่วนอื่น ๆ ต่อ



คุณเจ้านายมองผมตอนที่นั่งรออยู่บนแคร่ใต้ต้นไม้ด้วยสีหน้าประหลาดใจ คงเพราะก่อนหน้านั้นสองสามวันพอผมเอาอาหารมาวางได้ก็หายหัวหลบหน้าไปเลย



แต่วันนี้ผมพร้อมจะสู้หน้าตาน่ารักๆ ของคุณซองมินแล้ว



“วันนี้คยูว่างมากินเข้าวกับฮยองแล้วเหรอ” คุณซองมินเอ่ยเหมือนแซวผม แต่ผมก็พยายามเนียนทำหน้านิ่ง ๆ และพยักหน้ากลับไป

คุณเขานั่งลงตรงข้ามผม จัดอาหารที่อุคกี้ทำเตรียมไว้ให้ ผมเองก็กุลีกุจอช่วยเช่นกัน อย่าคิดนะครับว่าจะมีฉากสุดคลาสสิคประเภทเราบังเอิญจับกล่องอาหารกล่องเดียวกันแล้วมือเลยโดนกัน ไม่มีหรอกครับ คุณเขาเล่นหยิบกล่องข้าวของตัวเองไปถือไว้ทันทีใครจะไปบังเอิญจับทัน และตอนนี้เขาก็หันหน้าออกไปมองทุ่งหญ้านั่งห้อยขากับแคร่แกว่งไปแกว่งมาราวกับเด็ก ๆ



แต่ท่าทางแบบนั้นก็เพราะมันเป็นคุณซองมินทำมันก็เลยดูน่ารัก ผมแอบมองเขา มองเสี้ยวหน้า แก้มใส ๆ จมูกโด่งที่ปลายแหล่มเล็กน่ารัก ผิวขาวผ่อง ไล่สายตาไปเรื่อยๆ และมันก็ทำให้ผมกลั้นรอยยิ้มเอาไว้ไม่ได้ และผมก็รู้สึกเขินจนรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง



ผมยอมรับนะครับว่า พอเลือกที่จะยอมรับความรู้สึกของตัวเองแล้ว ผมสบายใจขึ้นมาก ผมสามารถยิ้มได้เมื่อมองเขา และพอคุณซองมินเรียกชื่อผม ผมก็รู้สึกว่าน่าฟังกว่าคนอื่น ๆ เรียก



และอย่างตอนนี้ที่คุณซองมินกำลังกินอาหาร ผมก็นึกอยากป้อนอาหารให้คุณเขา



ผมอยากทำจริงๆ นะครับเอายังไงดี...

“คุณซองมินครับ”



ผมเรียกเขาให้หันมา และลองคีบไข่หวานในกล่องข้าวของผม ยื่นส่งให้คุณซองมิน คุณเจ้านายทำหน้างงๆ เสียจนน่ารัก และมองไข่หวานในตะเกียบของผม สลับกับหน้าผมไปมา



“ให้เหรอ” ผมพยักหน้าเร็ว ๆ ทันที “ผมไม่กิน และเห็นคุณชอบ”



คุณซองมินยิ้มกว้างกับคำตอบ ก่อนจะก้มหน้าลงมางับไข่ที่ตะเกียบของผม



อย่าทำแบบนี้ไม่ว่ากับใครเข้าใจไหมครับ !!



เพราะมันทำให้ผมตกใจ ปนดีใจ..ทำไมคุณไม่เอากล่องข้าวคุณมารับไข่หวานของผมเล่า!! งับจากตะเกียบแบบนี้เล่นเอาผมหัวใจแทบวาย



“ฝีมืออุคกี้นี่สุดยอดจริงๆ” คุณเขาเคี้ยวจนแก้มป่องแล้วก็เอ่ยสรรเสริญพ่อครัวขึ้นมา ผมรีบคีบอีกชิ้นในกล่องของผมส่งให้อีกทันที



“อร่อยจะตายคยูไม่กินเหรอ” ผมสะบัดหัวจนผมกระจายทันที ถ้ามันแลกกับการเห็นคุณมีความสุข และผมได้ป้อนคุณ ผมไม่ยอมกินก็ได้ครับ



“งั้นฮยองกินหมดเลยนะ” คราวนี้นอกจากที่กินจากที่ผมป้อนแล้ว คุณเขาเล่นเอาตะเกียบมาคีบเพิ่มจากในกล่องของผมอีก



ผมไม่กินมันเลยก็ได้ครับมื้อนี้ผมยอมอด เพราะผมมีความสุขมากแล้ว ผมอิ่มอกอิ่มใจ โครตของความอิ่มครับ



>>>>Changing Me<<<<



คุณรู้ไหมครับว่าพักหลังผมรู้สึกตัวเองเหมือนคนบ้า.... เพราะผมคอยแต่วางแผนจะเข้าไปใกล้ชิดคุณซองมินให้มากขึ้น จากปรกติที่ผมแทบจะเป็นเงาตามตัวของเขาอยู่แล้ว



บางอย่างที่ผมทำ คุณซองมินเองก็ยังบ่นว่ามันแปลก จนถึงกับทักว่าผมป่วยหรือเปล่า แต่ผมก็พยายามรักษาหน้านิ่งๆ และบอกเขาว่าผมแค่อยากช่วยเหลือเขามากขึ้น



บางอย่างที่ว่าก็เช่นผมตื่นมันตั้งแต่ตีสี่ออกไปไร่กับคุณซองมิน ตามคุณซองมินไปทำงาน แม้กระทั่งไปเลี้ยงวัว งานที่ผมไม่ชอบที่สุดนั่นแหละครับ คุณเขาจะไปไหนทำอะไรผมก็อาสาช่วยหมด... อย่าว่าแต่คุณเขาคิดว่าแปลก ผมยังคิดว่าผมมันโคตรแปลกเลยล่ะครับ ตอนสมัยแฟนคนเก่าผมยังไม่เป็นขนาดนี้เลย



แต่มันคงต่างกันเพราะตอนนั้นผมไม่ได้จีบยอนจีน เพราะยอนจีเริ่มก่อน แต่ตอนนี้ผมกำลังพยายามจีบคุณซองมินอยู่ จีบโดยที่เขายังไม่รู้ตัวนี่แหละครับ



“คยู!! ฮยองจะไปแล้วนะ” คุณซองมินตะโกนเสียงดัง ในระหว่างที่ยืนอยู่ข้างๆ รถแทรคเตอร์สีเขียวคันโต ส่วนตัวผม ๆ นั่งเหม่ออยู่ข้างๆ เรือนเพาะชำไม่ไกลกันสักเท่าไหร่

พอได้ยินผมก็รีบวิ่งราวกับกลัวว่าเขาจะหนีไปไถ่แปลงคนเดียว แล้วจะทิ้งผมไว้ที่นี่....



“ไปนั่งเหม่ออะไรแถวนั้น เก้าอี้มีก็ไม่นั่ง”



ผมยิ้มเขินๆ แล้วหันกลับไปมองที่ๆ ผมเคยนั่งอยู่ หญ้ารกเชียว คนมันอิน พอเห็นวิวสวยๆ เลยนั่งแหมะมันตรงนั้นไม่ได้ดูเลยว่าเดินมาอีกหน่อยก็เจอเก้าอี้แล้ว



“ไปเหอะสายแล้วชินดงฮยองรอแย่แล้วล่ะ” คุณเขาพูดเสร็จก็เหนี่ยวแขนไปจับที่จับของรถแทรคเตอร์เพื่อหมายจะยึดตัวเองขึ้นรถ พอผมเห็นก็เลยรีบเข้าไปช่วยจับตัวของเขาทันทีเช่นกัน



“เฮ้ย!! ไม่ต้องจับ ฮยองขึ้นเองได้”



“ไม่เป็นไรครับผมช่วย” ผมโอบเอวนิ่ม และกำลังจะดันก้นให้เขา คุณซองมินก็ยิ่งโวยวายขึ้นมาอีก



“จับแบบนี้จะขึ้นยังไงล่ะ ปล่อยๆ ฉันขึ้นเองได้ นายเหอะคยูขึ้นเองได้ไหม” ผมรีบปล่อยตัวเขา แล้วเบ้หน้าด้วยความผิดหวังปนอาย



คนอุตสาห์ช่วยยังมาขัดศรัทธาผมอีก



ผมเดินน้อยใจไปฝั่งตรงข้ามและจับที่จับยึดตัวเองเพื่อให้ขึ้นไปบนรถ



แต่....กว่าผมจะดึงตัวเองขึ้นไปได้เล่นเอาผมแทบแย่ คุณซองมินต้องเลื่อนตัวเองมาแล้วดึงแขนอีกข้างของผมไม่ให้เลื่อนตกลงไป ผมถึงปีนขึ้นมาได้



โครตของโครตเสียเซลฟ์ครับ!!

“นี่ตกลงจะไปไถ่แปลงดินกับฮยองจริงๆ เหรอ ไม่กลับออฟฟิตหรือไง”



“ไม่ครับไปกับคุณดีกว่า”


คุณซองมินมองหน้าผม ก่อนจะหันกลับไปมองถนนอีกครั้ง รอบตัวเราตอนนี้ได้ยินแต่เสียงเครื่องยนต์ดังครืนคราง กับการสั่นสะเทือนจนหัวสั่นหัวคลอน ผมเกลียดไอ้รถนี่จริง ๆ ให้ตายเหอะ


“ไปก็ได้ แต่จะนั่งอยู่บนนี้นี่นะ”



ผมพยักหน้ารับด้วยสีหน้าจริงจัง


“ไปทำอะไรให้มีประโยชน์กว่านี้ดีไหม” พอเจอประโยคนนี้ไปผมถึงกับหันควับ



“นายน่าจะกลับไปดูออเดอร์ที่จงอุนฮยอง แล้วเอาไปส่งที่ห้องเย็น เขาจะได้จัดเตรียมส่งได้ หน้าที่นายไม่ใช่เหรอคยู แล้วทำไมวันนี้ไม่ทำมาเดินตามฮยองทั้งวัน”




แย่ ซวย และเล่นเอาผมไปไม่เป็น ผมลืมไปสนิทว่านี่มันบ่ายแล้วผมต้องกลับไปเอาออเดอร์มาส่งให้คนงานที่ห้องเย็นเขาจัดการแพคของส่งคืนนี้ เพราะพรุ่งนี้เช้ามันจะได้ทันไปถึงในเมืองได้



ผมได้แต่ยิ้มแหยๆ แล้วบอกว่าพอถึงแปลงดอกไม้ที่คุณซองมินจะไปแล้ว ผมจะไปออฟฟิตต่อเอง



“คยูนี่นับวันยิ่งประหลาดนะ ไอ้เรื่องเครียดหายแล้วหรือไง พักนี้ถึงได้เลิกหลบหน้า แถมยังช่างพูดมากกว่าเดิมอีก”

“เออครับ เรื่องพวกนั้นไม่มีอะไรแล้ว”



“ก็ดีแล้วล่ะ แล้วตกลงไอ้ที่ตามฮยองต้อยๆ มาสองสามวันนี่เกิดอะไรขึ้น”



“เออ..ผมอยากเรียนรู้งานมากขึ้นครับ” โกหกไปหน้าด้าน ๆ ดีนะที่ผมฉลาดเลยคิดทัน



“อ๋อ ก็ดี ทุกทีงานแบบนี้คยูขอตัวหนีไปตั้งแต่ฮยองบอกแล้วล่ะ ไม่ยอมมานั่งไอ้รถไถ่นี่หรอก” คุณเขาหัวเราะคิกคักจนแก้มแดง แต่ผมรู้สึกหน้าชาๆ ยังไงไม่รู้ ฟังแล้วเหมือนผมขี้เกียจตัวเป็นขน



ก็แค่ผมไม่ชอบโดนแดด ไม่ชอบเสียงและสัมผัสอันนิ่มนวลเวลาขับเคลื่อนของไอ้รถคันนี้ ก็เลยหลบไม่ยอมมาช่วยก็แค่นั้นเอง


“เดี๋ยวพอไปถึงที่โน่น ก็เอารถชินดงฮยองขับไปออฟฟิตเลยแล้วกัน พอทำอะไรเสร็จแล้วค่อยเอามาคืนชินดงฮยองนะ”

“ครับ




พอรถแทรคเตอร์มันมาถึงแปลงดินที่เตรียมต้องไถ่ เพื่อปลูกดอกไม้ไร่ใหม่ คุณเจ้านายก็ไล่ผมทันทีให้กลับออฟฟิต ผมจะอิดออดก็ทำไม่ได้ เพราะนี่มันเลยเวลาที่ผมควรต้องไปรับออเดอร์มานานแล้ว


และเมื่อพอผมเหยียบย่างเข้าไปในออฟฟิต ผมก็เห็นจงอุนฮยองกับคนงานคนนึ่งนั่งคุยกันอยู่


โครตโชคดีครับ เพราะคนงานคนนี้เขา ทำงานอยู่ที่ห้องเย็นพอดี ผมจะได้เนียนฝากออเดอร์ให้เขาไปเลยจะได้ไม่ต้องไปเอง และผมได้รีบเคลียร์งานและรีบกลับไปรับคุณซองมิน



“บยองฮุนมาทำอะไรที่นี่” ผมเอ่ยทักคนงานคนนั้น จริงๆ คือยืนนึกอยู่พักใหญ่เหมือนกันถึงจะนึกชื่อเขาออก



พอมาคิดได้ผมนี่มันก็ไม่ค่อยได้เรื่องจริงๆ นะครับ แค่ชื่อคนร่วมงานผมยังไม่พยายามจะจำเลย




“มาเบิกเงินล่วงหน้าครับ” บยองฮุนตอบด้วยท่าทางนอบน้อมทั้งๆ ที่เขาดูจะอายุมากกว่าผม



“แล้วนี่จะเข้าไปห้องเย็นอีกหรือเปล่า” ผมเดินมาเลียบๆ เคียง ๆ ถามพอเขาพยักหน้าก็เรียบร้อยครับ ผมรีบบอกให้พี่จงอุนฝากงานผ่านบยองฮุนไปทันที



พี่จงอุนก็แสนใจดี ไม่มีอิดออดสงสัย ยื่นแฟ้มรายละเอียดออเดอร์พวกนั้นให้บยองฮุนพกกลับไปให้หัวหน้าของตัวเองทันที



ส่วนผมก็เดินเตร็ดเตร่กลับมาที่โต๊ะทำงาน เตรียมลงบัญชียอดดอกไม้ที่เก็บได้วันนี้ ก็เลยเห็นว่ารยออุคโน้ตเอาไว้บนโต๊ะของผมว่า พวกน้ำชีวภาพที่เอาไว้ทำปุ๋ยใกล้จะหมด ผมเลยเช็คลิสต์วัสดุ อุปกรณ์อย่างอื่นอีกว่า ว่าต้องซื้ออะไรเพิ่มหรือไม่ ผมเดินกลับไปตรงมุมห้องหยิบแฟ้มที่ลงทะเบียนของที่เบิกใช้เอามาดู แต่ก็เหลือบไปเห็นรูปถ่ายใบใหญ่เหนือตู้นั้น เป็นรูปถ่ายคุณซองมินกับญาติ ๆ คุณซองมินอยู่ในชุดครุยซึ่งคงจะถ่ายในวันรับปริญญา และพอเหลือบลงมาข้างๆ ตู้ ผมก็เห็นอัลบัมรูปวางอยู่



จริงๆ ผมเคยเห็นมันแล้ว แต่ไม่เคยคิดจะหยิบขึ้นมาดู หากแต่ตอนนี้ผมอยากรู้จักคุณซองมินมากขึ้น อยากรู้เรื่องอดีตของเขา ผมเลยถือวิสาสะหยิบอัลบัมรูปพวกนั้นขึ้นมา



ในเล่มแรกเป็นรูปคุณพ่อ คุณแม่คุณซองมินกับญาติ ในงานแต่งงานของใครสักคนที่ผมไม่รู้จัก ท้ายๆ เล่มมีรูปเก่าๆ ของเด็กผู้ชายสามสี่คน แต่ที่ผมจำได้แม่นคือฮยอกแจ หน้าไม่เปลี่ยนเลยสักนิด ส่วนคนอื่นๆ ผมต้องใช้เวลาพิจารณานานสักหน่อย แล้วผมก็เจอรูปคุณเจ้านายของผม หน้าอาจะไม่เหมือนเดิมชนิดไม่เปลี่ยนเลยแบบฮยอกแจ แต่จมูกกับตาเหมือนเดิมมากๆ

น่ารักตั้งแต่เล็กๆ เลยล่ะครับ


ผมปิดอัลบัมนั้นเมื่อดูจบ และเปิดเล่มถัดไป เล่นนี้เป็นรูปถ่ายของคุณซองมินที่อยู่ในชุดนักศึกษา เขาถ่ายกับเพื่อนหลายๆ คน หากแต่คนที่ถ่ายด้วยบ่อยที่สุด ก็คือชเวซีวอน


ผมรู้สึกหงุดหงิดแม้กระทั่งเวลาเห็นภาพเก่าๆ พวกนี้ เขาสองคนดูสนิทสนมกันมาก มันมีออร่าบางอย่างที่สัมผัสได้จากภาพ ซึ่งมันดูจะมากกว่าตอนผมเห็นเขาสองคนตอนนี้อีก



“อุคกี้” ผมหันไปเรียกเพื่อนร่วมงานตัวเล็กของผมที่นั่งติดกับตู้เก็บของใบนี้ และยื่นรูปในมือให้เขาดู


“คุณซองมิน กับคุณซีวอน เขาเป็นเพื่อนสนิทกันเหรอ”



“อือ”



“ตั้งแต่เมื่อไหร่ เป็นเพื่อนสมัยเด็กๆ เหมือนพวกนายหรือเปล่า”



คราวนี้อุคกี้ส่ายหัว และหยิบรูปในอัลบัมมาพลิกเปิดดู



“คุณซีวอนกับซองมินฮยองเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย”



“อ้าว ไม่ได้รู้จักกันก่อนเรียนมหาลัยเหรอ เห็นคุณซีวอนเขาทำงานที่นี่ เลยคิดว่าเรียนมาด้วยกันตั้งแต่เล็กๆ “


“คุณซีวอนไม่ใช่คนที่นี่หรอก เขาเป็นลูกชายเจ้าของโรงงานผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรต่างหาก พวกเครื่องสีข้าว ยั้นไอ้พวกรถไถ รถแทรคเตอร์ เครื่องเก็บเกี่ยว อะไรพวกนั้นเลยแหละ และตอนนี้ที่บ้านเขาก็มีหุ้นในบริษัทแปรรูปอาหารอีกด้วย บ้านคุณซีวอนรวยมากนะ จริงๆ หลังเรียนจบทางบ้านจะส่งเขาไปเรียนต่อเยอรมัน แต่คุณซีวอนปฏิเสธ และขอมากทำงานเป็นเกษตรอำเภอที่นี้”



อย่าบอกนะครับว่าไอ้รถแทรคเตอร์สีเขียวนั่นก็ของบ้านเจ้านี่ ถึงว่าคุณภาพมันดูแย่เต็มทน
แล้วประวัติเจ้านี่ก็เวอร์มากมาย มหาเศรษฐีมาทำงานตามอุดมการณ์เพื่อสังคม และประเทศชาติ พระเอกไปหน่อยมั่ง



“แล้วทำไมถึงอยากมาทำงานเป็นเกษตรอำเภอที่นี่ ทำเพื่ออุดมการณ์ อยากพัฒนาการเกษตรให้เข้าถึงเกษตรกรอย่างแท้จริงอะไรแบบนี้เหรอ” ผมถามแกมประชดก่อนจะหยิบอัลบัมรูปออกจากมือของรยออุคและเอื้อมไปวางไว้ที่เดิม



“เปล่าซักหน่อย เขามาที่นี่เพราะซองมินฮยองต่างหาก”



อัลบัมรูปนั่นแทบหลุดมือครับพอผมได้ยินประโยคนั้น ผมรีบหันกลับมามองรยออุคทันที



“ทำไม”



“ก็คุณซีวอนชอบซองมินฮยองมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนะซิ เมื่อก่อนตอนยังเรียนไม่จบก็มาที่นี่ด้วยกันบ่อยๆ ใครๆ ก็ดูออกว่าคุณซีวอนคิดยังไง แต่ฮยองนั่นแหละที่ดูยาก จะว่าไม่ชอบ แต่ก็เห็นสนิทสนมกันดี แต่ถ้าชอบก็ควรจะคบกันไปได้แล้ว เพราะเคยถามฮยองๆ ก็บอกไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่ขนาดไม่ได้เป็นแฟน คุณซีวอนยังยอมลงทุนมาอยู่ถึงบ้านนอกแบบนี้ และไร่นี่คุณซีวอนก็ช่วยเหลือเป็นนายทุนให้ตอนแรกด้วยซ้ำ”



พอผมได้ยินที่รยออุคเล่าผมก็รู้สึกชาวาบขึ้นมาตั้งหัวใจยั้นหัวสมองเลยล่ะครับ ไอ้ที่ผมนึกหึงไอ้คุณชายนั่นผมคิดไม่ผิดเลยซินะ แถมดูถ้าเจ้านั่นมันจะเป็นก้างขวางคอชิ้นใหญ่ของผมด้วย ไอ้คุณชายนั่นทั้งเป็นเพื่อนสนิทของคุณซองมิน แถมยังหล่อ รวย แสนดี คือพูดตรงๆ ว่าหาข้อเสียของมันได้ยากเหลือเกิน แถมที่สำคัญผมไม่รู้เลยว่าคนที่ผมต้องโดดลงไปแข่งแย่งชิงหัวใจกับเจ้าซีวอนนั่นเขาคิดอะไรอยู่บ้าง …


ถ้าผมรู้บ้างมันคงทำให้ผมตัดสินใจได้ง่ายกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้

TBC.

***********************************



คราวนี้ก็พอจะรู้เรื่องของเกษตรอำเภอสุดหล่อบ้างแล้วว่าเป็นยังไงมายังไง แต่จะเหลือก็แค่ความในใจของฮยองคนน่ารักว่าคิดอะไรยังไงกับคุณเกษตรอำเภอหรือเปล่า แล้วเด็กไร่อย่างคยูจะอกหักไหม


พ่อพระเอกดูอาการหนักขึ้นทุกวัน อาจเพราะไม่เค๊ยไม่เคยตกหลุมรักใครก่อน พอมาเริ่มชอบใครก่อนเลย ทำอะไรไม่ถูก แต่เพราะนิสัยร้ายนิด ๆ เปิ่น หน่อยๆ มันเลยคงจะทำให้คุณเจ้าของไร่มองแล้วคงจะดูน่ารักดี เวลาหลุดทำอะไรเพี้ยนๆ ไปแบบนี้ 5555










Create Date : 13 มกราคม 2555
Last Update : 13 มกราคม 2555 21:01:01 น. 2 comments
Counter : 362 Pageviews.

 
เมื่อก่อนไม่ชอบอ่านคู่นี้เลยค่ะแต่พอมาอ่านบล็อคนี้ แล้วชอบมาก


โดย: mayu IP: 182.232.12.210 วันที่: 14 มกราคม 2555 เวลา:1:36:00 น.  

 
คยูสู้ๆๆๆ
ในที่สุดไรเตอร์ก้กลับมาอัพอีก
ชอบเรื่องนี้ค่ะ น่ารักมาก
มินมีใจให้วอนหรือเปล่าเนี่ย อยากรู้ค่ะ
ยังไงก้จะติดตาม รักษาสุขภาพนะคะ


โดย: am IP: 1.46.100.141 วันที่: 14 มกราคม 2555 เวลา:15:15:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Angels Midori
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Angels Midori's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.