ฝึกโยคะรักษาโรค หุ่นเฟิร์ม-เสริมเซ็กซ์

ฝึกโยคะรักษาโรค หุ่นเฟิร์ม-เสริมเซ็กซ์

รายงานพิเศษ


จากงานสัมมนาวิชาการเรื่อง "หุ่น เป๊ะ เอ๊ะยังไง?" ของกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มีการสอนฝึกโยคะให้ผู้ที่มีปัญหาโรคเรื้อรังและผู้สนใจ จัดโดยสำนักการแพทย์ทางเลือก พญ.เสาวนิตย์ กมลธรรม แพทย์ทั่วไป ผู้ร่วมสัมมนาบอกว่า ปกติอาการปวดกล้ามเนื้อเมื่อหยุดพักก็หายเองได้ แต่การทำงานของคนยุคปัจจุบัน จะนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์มากขึ้น ทำให้เกิดโรคออฟฟิศซินโดรม แม้แต่การนั่งขับรถนานๆ ก็ทำให้เกิดโรคดังกล่าวได้เช่นกัน บางรายเกิดอาการมากที่เรียกว่า จุดกดเจ็บบนกล้ามเนื้อ หรือ ทริกเกอร์พอยต์ (Trigger Point) ซึ่งไม่สามารถปล่อยให้อาการปวดหายเองเหมือนปกติ หรือใช้ยาเพื่อรักษาให้หายได้ การใช้โยคะ เป็นการยืดและเหยียดกล้ามเนื้อ ช่วยรักษาอาการเหล่านี้ได้ แต่อาจต้องใช้ระยะเวลา



การฝึกหรือการเล่นโยคะจะช่วยรักษาได้ทุกโรค เพราะโยคะจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนคือ 1.การหายใจ 2.การทำอาสนะ และ 3.การฝึกสมาธิ ซึ่งโยคะจะเน้นการหายใจเข้าลึกและหายใจออกนานๆ จะช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมาก ซึ่งโรคต่างๆ ล้วนต้องการออกซิเจนเข้าไปช่วยซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ส่วนการฝึกโยคะเพื่อช่วยกระชับหุ่นให้สวยงาม ดูดีก็สามารถทำได้ แต่จะต้องฝึกโยคะอย่างถูกวิธี ต้องใช้พลังงานมาก จะเข้าไปช่วยสลายไขมันของกล้ามเนื้อในบริเวณที่ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว



บางท่าของโยคะยังช่วยเข้าไปเสริมสมรรถนะทางเพศได้ด้วย เพราะหลักการของโยคะ คือ แขม่วท้อง ยืดเอว ยืดอก เปิดไหล่ บีบสะบัก และเกร็งก้น ซึ่งการขมิบช่วงล่างและท่าบางท่าของโยคะ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตของบริเวณอวัยวะเพศ ช่วยเสริมสมรรถนะทางเพศได้



พญ.เสาวนิตย์บอกอีกว่า ตัวชี้วัดว่าการเล่นโยคะได้ผลหรือไม่ คือ ภายหลังการเล่นแล้วจิตใจต้องรู้สึกดี คือ ดูที่อารมณ์และสมาธิเป็นหลัก สำหรับโยคะสามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัยไม่มีข้อจำกัด ยกเว้นแต่ผู้ที่เคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ ส่วนกลุ่มคนที่ต้องระวัง คือ คนที่เคยดามหรือมีการใส่เหล็กอยู่ภายในร่างกาย



"ที่น่าห่วง คือ เวลาฝึกหรือเล่นแล้วทำท่าไม่ถูกต้อง หรือฝืนความสามารถของร่างกายตัวเอง ซึ่งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ต้องย้ำเตือน เพราะบางคนเห็นเพื่อนทำท่าได้มาก ก็พยายามจะทำให้ได้เหมือนกัน โดยที่ไม่ได้ดูข้อจำกัดของร่างกายตัวเอง จะทำให้เกิดการบาดเจ็บในการเล่นได้ เพราะฉะนั้น การเล่นจะต้องรู้สึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในร่างกายตัวเองด้วยว่าได้แค่ไหน หากเจ็บแล้วจะต้องหยุด"

Create Date : 18 พฤศจิกายน 2556		0 comments
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2556 10:18:17 น.
Counter : 2508 Pageviews.
Share Tweet