เดิมชื่อ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่59 ของประเทศไทยมีเนื้อที่ 48.5 ตารางกิโลเมตร หรือ 30,312.5 ไร่ ครอบ
ตั้งอยู่บนเส้นทาง 212 (สายมุกดาหาร-เลิงนกทา)ห่างจากตัวเมืองมุกดาหารประมาณ 23 กิโลเมตร ก่อนถึงทางเข้าภูหมูเป็นแหล่งท่องเที่ยวท
พระเจ้าอยู่ห้ว ทรงครองราชย์ครบ 50 ปี หอแก้วมุกดาหารมีลักษณะเป็นหอคอยรูปทรงกระบอก มีความสูง 65.50 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางตัวแกนหอคอย 6 เมตร ส่วนฐานมีลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้
สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 ตั้งอยู่ที่บ้านสงเปือย ตำบลบางไทรใหญ่ ห่างจากตัวจังหวัดไปทางทิศเหนือ 7 กิโลเมตร โดยข้ามไปลงที่ บ้านนาแก เมืองคันทะบูลี ซึ่งอยู่ห่างจากตัว
ตั้งอยู่บนถนนสำราญชายโขง ริมแม่น้ำโขงติดกับท่าด่านตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดมุกดาหารศาลแห่งนี้เดิมเป็นศาลไม้ไม่ทราบประวัติความเป็นมาต่อมาได้มีการบูรณ
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงในตัวเมืองมุกดาหาร ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระเจ้าองค์หลวง พระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง สร้างขึ้นก่อนตั้งเมือง
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ในเขตตำบลชะโนดเป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นโดยช่างสถาปัตยกรรมจากนครเวียงจันทน์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2447 เกิดไฟไหม้วัดเสียหายอย่างมากมาย
ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 212 ที่บ้านชัยมงคล ตำบลโชคชัย อำเภอนิคมคำสร้อย ห่างจากตัวอำเภอเมืองประมาณ 15 กิโลเมตร ตรงหลักกิโลเมตรที่ 134 ด้านขวามือเป็นที่ประดิษฐานพระพุท
ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา เป็นวัดที่ประดิษฐานรูปเหมือนของหลวงปู่หล้า เขมปตฺโต เกจิอาจารย์ชื่อดัง ซึ่งได้มรณภาพไปแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2538 และยังเป็นที่นับ
เป็นวัดเก่าแก่อยู่ที่อำเภอหว้านใหญ่ มีโบสถ์เก่าแก่หลังเล็กๆสร้างขึ้นปี พ.ศ. 2467 ศิลปะผสมตะวันตก ไทย เวียดนาม ฝรั่งเศสภายในโบสถ์มีจิตรกรรมฝาผนังสมัยโบราณอันวิจิตรสวยงา
อยู่ห่างจากอำเภอหนองสูงไปทางทิศใต้และอยู่ห่างจากอำเภอคำชะอีไปทางทิศตะวัน ตก ตามถนนสาย 2030 ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร อยู่ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 67-68 แยกเข้าไปอีกประมาณ
เป็นกลองสัมฤทธิ์หน้าเดียว เส้นผ่าศูนย์กลาง 86 เซนติเมตรตัวกลองยาว 90 เซนติเมตร หน้ากลองเป็นรูปตะวันนูน มีแฉก 14 แฉกมีรูปกบติดขอบกลองจำนวน 4 ตัว กล
เป็นแก่งหินยาวเหยียดตามลำน้ำโขง บนฝั่งก็ยังมีลานหินกว้างใหญ่เป็นที่พักผ่อนได้อย่างดี ในฤดูแล้งน้ำลดจนเห็นเกาะแก่งกลางน้ำ และหาดทรายสวยกว่าฤดูอื่นๆ บริเวณริมแก่งกระเบาม