การดัดผม หมายถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเส้นผม เพราะนอกจากจะเป็นการเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาของเส้นผมแล้ว ยังเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างของเส้นผม เพราะน้ำยาดัดผมจะใส่บนเส้น-ผมที่ม้วนอยู่บนแกน ยิ่งแกนใหญ่เท่าใด ก็จะช่วยให้ลอนผมดูนุ่มนวลมากขึ้นเท่านั้น โดยมีสารเคมีที่อยู่ภายในน้ำยาดัด จะซึมซาบเข้าไปทำปฏิกริยากับโครงสร้างเส้นผมให้นุ่มนวลขึ้น จากนั้นจึงเป็นหน้าที่ของน้ำยา รักษาสภาพลอนผมให้อยู่ตัว ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นกลาง เช่นเดียวกับการยืดผมก็จะใช้ขั้นตอนเดียวกัน เพียงแต่อาจใช้หวีช่วย โดยการหวีจากรากจรดปลายเส้นบ่อยๆ ก็จะช่วยให้เส้นผมเหยียดตรงๆ ได้
ลักษณะการดัดผม
Root Perms น้ำยาดัดจากรากผม เพื่อช่วยเพิ่มมวลของเส้นผม และยกตัวของเส้นผมที่บอบบาง แต่อาจจะต้องระมัดระวังสักหน่อย เพราะอาจระคายเคืองต่อหนังศีรษะได้
Spot Perms น้ำยาดัดเฉพาะที่ เฉพาะส่วน เพื่อให้เส้นผมพองตัวสวยงามยิ่งขึ้น
Body Waves การดัดประเภทนี้จะเป็นการเข้าไปช่วยเพิ่มมวล ให้กับเส้นผม โดยใช้โรลขนาดใหญ่ เพื่อให้ดูนุ่มนวลสลวยเป็นธรรมชาติ แต่วิธีการนี้จะอยู่ตัวเพียงชั่วระยะเวลาเดียว และคลายตัวอย่างรวดเร็ว
Waves Perms การดัดประเภทนี้จะมีลักษณะคล้าย Body Waves คือ ช่วยเพิ่มมวลผมให้ดูหนายิ่งขึ้น แต่จะทำเพียงบางส่วนเท่านั้น
Spiral Perms การดัดที่ค่อนข้างรุนแรงกับเส้นผมมาก เส้นผมจะต้องแข็งแรงมาก เพราะจะต้องถูกทำให้เป็นเกลียวก่อนม้วนแกน ลักษณะเส้นผมจะเป็นเกลียวสวยงาม
เคล็ดลับน่ารู้ของการดัดผม
1. ถ้ามั่นใจว่าเส้นผมแข็งแรงพอที่จะดัดแล้วล่ะก้อ ก่อนการดัดประมาณ 2-3 สัปดาห์ เส้นผมควรได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ โดยการใช้ทรีทเม้นท์เข้มข้น เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมอย่างเต็มที่ และภายหลังจากการดัดผมแล้ว เส้นผมจำเป็นจะต้องได้รับการบำรุงมากยิ่งขึ้นไปอีก
2. เมื่อผมใหม่งอกยาวขึ้น บริเวณรากผมที่ดัดไว้จะตกลง ควรพิจารณาดูว่าควรจะมีการดัดเพิ่มเฉพาะช่วงราก หรือค่อยๆ เล็มผมแล้วดัดเพิ่มใหม่ทั้งหมด แต่อย่าดัดซ้ำสองในช่วงเวลาใกล้เคียงกันอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้เส้นผมอ่อนแอ และเสียไปในที่สุด
3. ควรเว้นระยะประมาณ 2 สัปดาห์ ระหว่างการทำสีผม และการดัดผม มิฉะนั้นจะต้องเผชิญกับปัญหาเส้นผมแห้งเสียเหมือนฟองข้าว แทนที่ลอนผมสลวยสีสันสดใสได้ |