นายกฯ เปิดงานการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียและแปซิฟิก ของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) เผยรัฐบาลลงทุนงบหวังเร่งผลักดันให้คนไทยได้เข้าถึงอินเทอร์เน็ต-เทคโนโลยี ห่วงโจรกรรม ก่อการร้าย ละเมิดสิทธิ์ผ่านโลกไซเบอร์...

เมื่อวันที่ 18 พ.ย. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียและแปซิฟิก ของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ "Connect Asia - Pacific Summit" ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า ขณะนี้ ไอซีทีมีบทบาทในชีวิตประจำวันมาก ดังนั้นรัฐบาลจึงเร่งผลักดันและสนับสนุนให้ทุกครัวเรือนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีได้ ซึ่งรัฐบาลได้ลงทุนด้วยงบประมาณจำนวนมาก

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน รัฐบาลมองว่าสิ่งที่น่าเป็นห่วงขณะนี้ คือ ช่องว่างของการเข้าถึงเทคโนโลยี สำหรับประเทศที่พัฒนาแล้วมีการเข้าถึงเทคโนโลยีสูงถึง 80% ส่วนประเทศที่พัฒนานั้น มีการเข้าถึงเทคโนโลยีเพียง 28% เท่านั้น รวมทั้ง เรื่องการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด ไม่ว่าจะเป็นการโจรกรรม หรือการก่อการร้าย รวมทั้งการละเมิดสิทธิ์ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก

นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การพัฒนาไอซีทีนอกจากจะลดช่องว่างในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตแล้ว ยังช่วยส่งเสริมในเรื่องของการท่องเที่ยว การศึกษา เกษตรกรรม สาธารณสุข และธุรกิจต่างๆ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ผลที่ได้จากการประชุมในครั้งนี้ จะเป็นแนวทางปฏิบัติ โดยรัฐบาลจะนำไปพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าเทียบเท่าประเทศอื่นๆ

ด้าน นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก กว้างใหญ่มีหลายประเทศมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและมีความแตกต่างระหว่างประเทศที่มีรายได้สูงและประเทศที่มีการพัฒนาน้อยที่สุดในด้านความเจริญรุ่งเรืองและการพัฒนาเป็นอย่างมาก ซึ่งการประชุมครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมให้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีก้าวหน้ายิ่งขึ้น เนื่องจาก ไอซีที มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม อย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการพัฒนาการใช้เทคโนโลยีอย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็ว และส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ให้ดียิ่งขึ้น

ส่วน นายฮามาดูน ตูเร่ เลขาธิการสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ได้แสดงถึงความก้าวหน้าในการเชื่อมโยงกลุ่มคนผ่านการเข้าถึงข้อมูลทางมือถือทั่วภูมิภาคสูงถึงเกือบ 90% โดยการใช้โทรศัพท์มือถือในประเทศไทยขณะนี้ใกล้ 130% ความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดของภูมิภาคนี้เห็นได้ชัดจากการที่ 7 ใน 25 บริษัทชั้นนำ จากดัชนีการพัฒนาด้านไอซีทีนั้นมาจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

เลขาธิการ ไอทียู กล่าวอีกว่า สำหรับการประชุมครั้งนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนในภูมิภาคสามารถเข้าถึงโอกาสและตลาดที่มีอยู่ในโลกดิจิตอล อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเจริญเติบโตที่สูงขึ้นก็ยังคงต้องใช้ความพยายามมากขึ้น เพราะเกือบสองในสามของคนทั่วโลก ประมาณ 4.3 พันล้านคนยังคงสถานะออฟไลน์ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกกว่า 68% ของประชาชนที่ยังไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และสถานการณ์บรอดแบนด์ก็จะมีความท้าทายมากขึ้น โดยเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จในการบรรลุภารกิจในการเชื่อมโยงประชาชนในโลกนี้ และจะได้เห็นการพัฒนาทางสังคมที่่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากงานประชุมดังกล่าวแล้ว ยังมีงานไอทียูเทเลคอมเวิลด์ 2013 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พ.ย. 2556 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อีกด้วย.