เด็กผู้หญิงเกิดมาเพื่อเป็นเจ้าหญิงของใครบางคน^^
<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
26 เมษายน 2553
 
 
บันทึกประสบการณ์...สอบทุน



ไม่มีหมวดให้อยู่อ่ะ >w< เลยขอกดหมวดดนตรีก็ละกันนะเคอะ


************


วันนี้ก้อยจะแนะนำทุนที่น่าสนใจค่ะ ใครที่สนใจเรียนต่อและอยากเป็นข้าราชการก็ต้องนึกถึง "ทุน ก.พ." กันใช่ไหมล่ะคะ ทุนนี้มีทั้งระดับ ปริญญาโท-เอก ตามแต่ละหน่วยงานต้องการค่ะ (มีหลากหลายสาขามากๆ ค่ะ) เอ แต่ว่า...ทุนนี้มันทำอะไรกันบ้างนะ




มารู้จัก ก.พ. กันก่อนดีกว่าค่ะ

























คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. คือ   คณะกรรมการที่รับผิดชอบงานด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลภาครัฐ   ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ   แต่งตั้งเมื่อปีพุทธศักราช 2471  โดยมีชื่อเรียกในขณะนั้นว่า  "ก.ร.พ."  หรือ  "คณะกรรมการรักษาพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน"  เพื่อทำหน้าที่ดำเนินการจัดสอบคัดเลือกผู้เข้ารับราชการพลเรือน และจัดการศึกษาให้นักเรียนหลวงฝ่ายพลเรือนที่ส่งไปศึกษายังต่างประเทศ


ต่อมาได้เปลี่ยนจากชื่อจาก ก.ร.พ. เป็น ก.พ. ทำหน้าที่ดูแลให้การดำเนินการด้านบริหารงานบุคคลของข้าราชการพลเรือน ในกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนนับตั้งแต่การกำหนดตำแหน่งและอัตราเงินเดือนการสอบเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการการแต่งตั้งโยกย้ายการเลื่อนตำแหน่งและอัตราเงินเดือนไปจนถึงการดำเนินการทางวินัย การออกจากราชการ และเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง



บทบาทของ ก.พ. จึงมีความสำคัญยิ่งต่อการบริหารราชการแผ่นดินโดยรวม
ด้วยการพิจารณา และดำเนินการเพื่อให้ได้มาและรักษาไว้ซึ่งข้าราชการที่ดีมีความรู้ ความสามารถสูง   ให้ได้คนที่เหมาะสมกับงานและโดยประหยัดรวมถึงการรักษาขวัญและส่งเสริมกำลังใจ  ในการทำงานของข้าราชการเป็นส่วนรวม   ถือเป็นการเตรียมกำลังคนภาครัฐให้มีความพร้อมและสามารถผลักดันนโยบายของรัฐให้สัมฤทธิ์ผลตามเป้าประสงค์ อันจะช่วยให้ประเทศชาติก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง


 * ที่มา...www.ocsc.go.th






ทุน นี้จะรับสมัครช่วง ม.ค. - ก.พ. ค่ะ (ตอนนั้นยังเรียนไม่จบเลยอ่ะ - -") สมัครด้วยความที่อยากรู้ว่าตัวเองมีความสามารถมากแค่ไหน (ของก้อยเป็นประเภททุนสนับสนุนยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศ เลือกทุนปริญญาโทไปค่ะ) 




แล้วก็สอบข้อเขียนไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ไปสอบที่ Impact เมืองทองธานีค่ะ เดินไปเดินมาเจอเพื่อนๆ ที่คณะซะอย่างนั้น ไม่รู้ว่ามาสอบเหมือนกันนะเนี่ย


ซึ่งวิชาที่สอบก็มีสอบภาษาอังกฤษค่ะ (แนวๆ โทเฟล / CU-TEP ค่ะ) มีเลขแล้วก็สอบจับประเด็นข้อความในโจทย์ค่ะ เลขจะเป็นแนวๆ อนุกรม แล้วก็ตรรกะ แล้วก็คำนวนพื้นที่ธรรมดาก็มีค่ะ เรียกว่า เป็นเลขสมัยมัธยมเลยล่ะค่ะ!! (ลืมหมดละ 555 แต่ก็ดุ่มๆ เอาความรู้ที่เหลืออยู่ก้นๆ มา อิอิอิ)




ซึ่งประกาศผลใน 1 เดือนต่อมา ซึ่งผลก็ "ผ่าน!!" 




โอ้ว...มายก็อดดดด ไม่อยากเชื่อ (คือการสอบจะผ่านได้ ต้องผ่าน Mean ของ ผู้เข้าสอบทั้งหมด...ไม่แน่ใจว่าเฉพาะหน่วยทุนนั้นๆ หรือว่าของทั้งหมดนะคะ) ตอนนั้นกระดี๊กระด๊ามากมายค่ะ ครอบครัวต้องภูมิใจมั่กๆ แน่ๆ เลยยยย แล้วก็จริงๆ ค่ะ ได้รับคำชมแล้วก้อยก็ยิ้มแปล้เลยล่ะค่ะ แต่ว่ายิ้มหุบเมื่อหลายวันต่อมาคุณอาและคุณอาสะใภ้ซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์ เหมือนกันก็มาหา มาบอกเรื่องแนวๆ การสอบประเมินต่อไปค่ะว่าเป็นยังไง แล้วก็เตรียมคำถามคำตอบเป็นแนวเอาไว้ให้ แต่ตอนนั้นก้อยตัวลีบไปเลย เพราะถูกต้อนจนจนมุม หน้าจ๋อยหน้าซีดไปเลย (ยังกับตอนนั้นเป็นวันสัมภาษณ์จริงๆ) แต่ก็ขอบคุณค่ะที่อุตส่าห์มาติวให้




และแล้วก็ถึงวัน...วันที่ไปสอบสัมภาษณ์ทุนก.พ. มาค่ะ เรียกว่า "การประเมินความเหมาะสมในการรับทุน" ตามที่เขาจัดสถานที่เอาไว้ให้ ซึ่งของก้อยเป็นที่สำนักงานก.พ. ตรงตลาดขวัญ จ.นนทบุรีค่ะ ตรงกระทรวงสาธารณสุข


มีสอบ 2 รอบ รอบเช้า รายงานตัว 7.45 รอบบ่าย 11.45




สิ่งที่ต้องเตรียมไปก็คือ "ใบสรุปข้อมูลของตัวเองฯ" เป็นแบบฟอร์มของก.พ. ซึ่งให้เขียนว่าเราสอบของหน่วยทุนไหน จบจากไหน สาขาอะไร เกรดเท่าไหร่ มีความสามารถทางภาษาอื่นอะไรบ้าง เคยสอบภาษาอังกฤษหรือภาษาอะไรหรือเปล่า แล้วได้เท่าไหร่ เคยทำกิจกรรมของมหาลัยอะไรบ้าง เข้าชมรม/สโมสร / สมาคม ของมหาลัยมั้น เป็นตัวแทน / เคยได้รับรางวัลของมหาลัยหรือเปล่า แล้วเคยทำกิจกรรมเพื่อสังคมอะไรบ้าง มีผลงานทางวิชาการอะไรบ้าง (ถ้ามี: ตรงนี้ใส่พวกรายงานแล้วก็ปริญญานิพนธ์ลงไปอ่ะค่ะ) แล้วก็ทำ Copy 4 ชุด สำหรับกรรมการทั้ง 4 ท่าน




ของก้อยเป็นรอบบ่ายค่ะ แต่ไปถึงเช้าประมาณ 10 โมงกว่าๆ แบบว่าไปนั่งสงบจิตสงบใจก่อนลุยศึกหนัก




เข้าจะให้เข้าไปนั่งในห้องประชุมที่จัดเตรียมเอาไว้ให้ค่ะ ข้างในเป็นโต๊ะเหมือนตอนสอบในมหาวิทยาลัย เลยค่ะ ส่วนหน้าห้องประชุมก็จะเป็นเจ้าหน้าที่ที่ประจำเอาไว้เก็บเอกสารของผู้เข้าสอบของแต่ละหน่วยทุน


ตอนที่ไปนี้คิดอยู่ว่าทำไมคนมันน้อยจังเลยนะ พอถึงรอบรายงานตัวของเราแล้ว มีแค่ 16 คนเองค่ะ มีประมาณ 10 หน่วยทุน


ของก้อยเป็นสาขาเศรษฐศาสตร์การเกษตร มีผู้เข้ารอบชิงทุนหน่วยนี้ 2 คน (เค้าเป็นรุ่นพี่ป. โท ที่มหาลัยก่อนก้อยจะสอบเข้าไปเรียนเสียอีก O_O แต่ดูแล้วเค้าใจดีค่ะ คุยกันบ้างนิดหน่อย)




ตอนแรกเข้าไปไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นค่ะ เลือกที่นั่งเลยแล้วเค้าจะแจกข้อสอบให้ทำข้อสอบวัด EQ ค่ะ เคยทำกันมั้ยเอ่ย (ต้องเคยสิ -*-) เป็นคำถามที่ถูกแบ่งออกเป็นกรุ๊ปๆ แล้วแต่ละคำถามก็ให้เราเลือกว่าจริงมาก ค่อนข้างจริง จริงบางครั้ง ไม่จริงเลย (แต่ละระดับเป็นคะแนน 1-4 แต่ละข้ออาจจะเป็น 1 2 3 4 บางข้อ เป็น 4 3 2 1 ก็แล้วแต่คำถามค่ะว่าไปในแงไหน) แล้วพอทำครบแล้วก็รวมคะแนนของแต่ละกรุ๊ป นำมา Plot กราฟเป็นกราฟเส้น ซึ่งส่วนนี้เนี่ยเค้าจะเก็บไปไว้ให้ตอนสอบสัมภาษณ์ค่ะ เกี่ยวกับเรื่องทางจิต ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที




ต่อมาจะเป็นการทำข้อสอบจริยธรรมกับคอมพิวเตอร์ค่ะ เป็นระบบของก.พ.เค้า ก็ลงทะเบียนแล้วก็ล็อกอินเข้าไป




เป็น คำถามง่ายๆ ค่ะ ไม่มีผลต่อคะแนนใดๆ ทั้งนั้น แต่เอาไว้ใช้ประกอบการสอบสัมภาษณ์เท่านั้น ว่าเรามีแนวคิดของแต่ละปัญหาเป็นอย่างไรบ้างเท่านั้น มีทั้งหมด 25 ข้อ ส่วนนี้ก็ใช้เวลาอีก 25 นาที




แล้วก็ต่อมาก็เป็นส่วนของการเขียน essay ภาษา อังกฤษค่ะ เขาจะมีเรื่องมาให้แล้วก็ให้เราเขียนความคิดเห็นที่มีต่อบทความที่ได้รับได้ ต้องเขียนให้ชัดเจนค่ะว่าเรามองจุดไหนอยู่ มีข้อเสนอแนะอะไรบ้าง เขียนให้ชัด (แต่เราก็คิดไม่ค่อยจะออก โอ้ว...)


ส่วนนี้ใช้เวลา 40 นาทีค่ะ




แล้วพอส่งเขาก็จะเอาไปซีร็อกซ์ แล้วรวมกับเอกสารอื่นๆ ส่งให้เจ้าหน้าที่ที่สัมภาษณ์ค่ะ แล้วเราก็จะได้ป้ายชื่อมาด้วย...


เสร็จ แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะพาผู้ชิงทุนแต่ละหน่วยไปยังห้องสอบสัมภาษณ์ค่ะ ซึ่งเราจะยังไม่ได้สัมภาษณ์ตัวต่อตัวเลย แต่จะต้องอภิปรายกลุ่มก่อนค่ะ ซึ่งหัวข้ออภิปรายก็เกี่ยวกับสิ่งที่เราเขียนใน essay ไปนั่นล่ะค่ะ (มีอยู่ในมือของเจ้าหน้าที่สอบสัมภาษณ์ทั้ง 4 คนแล้วล่ะค่ะ กึ๋ยๆๆ) จะพูดตอบโต้กันนานกี่นาทีก็ได้ค่ะ แต่เขาก็ กะให้ประมาณ 20 นาที




ขอบอกว่าบางหน่วยทุนมีผู้ชิงทุนแค่คนเดียวแต่ก็ต้องอภิปรายเหมือนกัน...แต่อภิปรายยังไงก็ม่ายรู้ (สงสัยให้คุยกับกรรมการแน่ๆ เดาเอา)




ส่วน นี้เป็นส่วนที่่ก้อยกลัวมากที่สุดแล้ว การอภิปราย เพราะปกติในห้องเรียนก็ทำได้ไม่ดีเลย แล้วก็ไม่ค่อยแสดงความคิดเห็นสักเท่าไหร่นัก รู้สึกว่าจะพูดกันไปถึง 10 นาที หรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่กล้ามองนาฬิกาเลยยย....พูดสิ่งที่ตัวเองเขียนลงไปนั่นแหละค่ะ แล้วก็ฟังอีกฝ่ายแล้วก็เสริมเข้าไปทีละนิดๆ (ตรงนี้ไม่ต้องสนใจกรรมการค่ะ เขาไม่ยุ่งด้วย ปล่อยให้พวกเราคุยกันเอง เหมือนคุยกับเพื่อนอ่ะค่ะ)




เสร็จแล้วก็ถึงคิวสอบสัมภาษณ์ณ์ณ์ณ์ณ์ณ์...ก้อยเป็นคนแรกเลยค่ะ กรรมการทั้งหมดมี 4 ท่าน ค่ะ จะเป็นของ ก.พ. - หน่วยงานที่ให้ทุน - นักจิตวิทยา - แล้วก็ อาจารย์ภาษาอังกฤษค่ะ ก็จะชวนคุยก่อน แล้วก็เริ่มที่จะถามคำถามค่ะ ก็คือถามไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะให้คะแนนเราได้ (มีพวกสอบรอบเช้ามาเสร็จเอาตอนบ่ายก็มีค่ะ) เขาก็จะถามเป็นภาษาอังกฤษด้วยค่ะ...สำคัญๆ




ก้อยพูดภาษาญี่ปุ่นได้เลยกรอกลงไป แล้วเค้าก็พูดได้ขนาดไหน ก็บอกว่า แนะนำตัว แล้วก็ชีวิตประจำวัน (แต่พูดยาวๆ ยังไม่ค่อยได้ =_=) ก็ ให้ลองพูดเลยค่ะ (ไม่รู้เหมือนกันว่ามีใครฟังออกหรือเปล่า) ขอบอกว่ารู้สึกดีที่เตรียมไปด้วยค่ะ เพราะเพื่อนแนะนำมาค่ะว่าให้เตรียมไปด้วย




พอคุย (ภาษาญี่ปุ่น) กันจบแล้ว อาจารย์ภาษาอังกฤษก็ให้ Translate ไปเป็นภาษาอังกฤษเลยค่ะ เอาตามที่พูดเป็นภาษาญี่ปุ่นเลย เราก็ต้องค่อยๆ พูดค่ะ 55 เพราะว่าถ้าพูดเร็วจะเอาสองภาษามารวมกัน บอกตรงๆ ค่ะว่าเกือบเป็น "My Name is ..... เดสุ (Desu)" ยั้งปากไว้ได้ทัน เอิ้กๆ ก็ถามไปเรื่อยๆ ค่ะว่า...




ครอบครัวเป็นยังไง พี่น้องกี่คน 


ทำไมถึงเลือกมาสมัครทุนนี้ 


เคยลงพื้นที่ ไปลงดิน ลงโคลนมั้ย (อุ่ย คำถามนี้ เจ็บจึ๊ดดด)


แล้วถ้าให้ไปลุยลงพื้นที่นี่ทำได้ไหม  


มีแรงบันดาลใจอะไร 


รู้มั้ยว่าสาขานี้เรียนอะไรบ้าง 


ถ้าไม่ได้ทุนนี้จะไปทำอะไร มีแผนการยังไง จะเสียใจมั้ย   


ถ้า สมมติว่าเราไม่ติดทุนนี้เพราะเป็นผู้หญิง (สาขานี้เป็นเกี่ยวกับการเกษตรค่ะ ต้องการคนที่ดูลุยๆ หน่อย) จะทำยังไง มีวิธีการจัดการกับอารมณ์ยังไง


แล้วก็ถามว่าเคยมีคนบอกมั้ยว่าเราเป็นคนไม่ค่อยอดทน แล้วจะทำอย่างไรเพื่อให้เขาเห็นว่าเราไม่ได้เป็นยังงั้น


แล้ว ถ้าไปเรียนจริงๆ พ่อแม่จะให้เหรอ จะเป็นห่วงมั้ยเนี่ย (เพราะสัมภาษณ์ไปสัมภาษณ์มาเขารู้เลยค่ะว่าเราเป็นไข่ในหิน มีพี่ชายฝาแฝด แถมห่างกัน 10 ปี แถมพ่อก็มาส่ง มารอรับด้วย...โดนตรงนี้เข้าไปก็หวั่นๆ อยู่เหมือนกันค่ะ) 




คำถามก็ประมาณนี้ล่ะค่ะ


จะ บอกว่ากำลังใจล้นก็ไม่ผิดหรอกค่ะเพราะพ่อกับแม่ก็ไม่ได้หวังว่าจะต้องได้ ขอให้ทำให้ดีที่สุด เพื่อนก็โทรมาก่อนหน้าวันนึงมาให้กำลังใจเพราะรู้ว่ามีจุดอ่อนตอนตอบคำถาม กับอภิปรายนี่ละค่ะ (ขอบคุณมั่กๆ เลยเพื่อน)




กลับบ้านมาแล้วก็...โล่งค่ะ


ทำดีที่สุดแล้วล่ะนะ ^^ ถึงไม่ได้ก็ยังมีทางเดินอื่นให้เดินอยู่ดี ใช่ว่ามีแต่ทางนี้ที่ไหนกันล่ะ


เนอะ




ใครที่สนใจก็อย่าลืมติดตามข่าวกันดีๆ นะคะ เพราะมันแป๊บๆ เองค่ะ ช่วงระยะเวลาสมัครเนี่ย




ใครที่สอบได้ หรืออยากจะสอบ ก็เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^-^




 








Free TextEditor


Create Date : 26 เมษายน 2553
Last Update : 5 พฤษภาคม 2553 17:01:01 น. 4 comments
Counter : 9699 Pageviews.

 
ให้กำลังใจนะครับ ขอให้ผ่านจนได้เรียน จบมาสมหวังนะครับ ผมเองก็ได้ทุน RTG ตอนนี้เรียนใกล้จะจบแล้ว คงสิ้นปีจบนะครับ


โดย: นะนะ IP: 203.159.88.40, 203.159.36.11 วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:8:18:55 น.  

 
เก่งจังอ่ะ

ไว้มินจะสอบมั่งตอนมอหกเนี่ยแหล่ะ

มีพ่ที่โรงเรียนติดทุน กพ เหมือนกัน

ได้เรียนถึงป.เอกเลย

พี่เค้าน่าบานใหย่

อยากได้แบบนี้บ้างงงงงงงงงงงงงงงงง


โดย: นางสาวมินเดอเรล่า (Cinderella_Me ) วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:10:39:57 น.  

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:11:27:05 น.  

 


โดย: thanitsita วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:14:24:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

Amitnas
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Amitnas อ่านว่า อะ-มิท-นาส
มาจากไหนอ่ะเหรอ...คิดจากชื่อจริงแล้วก็นามสกุลเนี่ยล่ะค่ะ ท่าทางอ่านยากดีมั้ยล่ะคะ ^^"

เรียก "ก้อย" ก็ได้ค่ะ ^^1
[Add Amitnas's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com