เกือบครึ่งศตวรรษของ ผู้กองยอดรัก หนึ่งในนวนิยายอมตะของ กาญจนา นาคนันทน์

ผู้กองยอดรัก
กาญจนา นาคนันทน์

หลังจากได้ข่าวว่าช่อง 3จะนำนวนิยายเรื่อง ผู้กองยอดรัก ของ กาญจนา นาคนันทน์มาสร้างเป็นละครโทรทัศน์อีกครั้ง จึงได้ตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจว่าเหตุใดนวนิยายเรื่องนี้จึงมีผู้นิยมนำมาสร้างเป็นละครกันอยู่เสมอๆ ผู้กองยอดรัก พิมพ์ครั้งแรกปี 2513 และผู้นำมาสร้างเป็นละครและภาพยนตร์ครั้งแรกในปีเดียวกันคือ2516 จากนั้นก็ผู้นำมาสร้างละครโทรทัศน์อีก 7 ครั้ง รวมครั้งปัจจุบัน (2557)และสร้างภาพยนตร์รวม 2 ครั้ง จึงอาจกล่าวได้ว่าระยะเวลาเกือบ 50 ปี กับการละครและภาพยนตร์รวม 9ครั้ง เฉลี่ยแล้วเราจะได้ชมละครโทรทัศน์หรือภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่องนี้กันทุกๆ5 ปี แน่นอนว่าคนไทยน่าจะผ่านตาละครหรือภาพยนตร์เรื่องนี้กันอย่างน้อยๆก็ 1 ครั้ง

เมื่อได้อ่าน ผู้กองยอดรักอีกครั้งหนึ่งก็พอที่จะทราบเหตุผลสำคัญที่ทำให้นวนิยายเรื่องนี้คงความเป็นอมตะอยู่จนถึงปัจจุบัน เนื่องจาก กาญจนา นาคนันทน์ ผนวกแนวนวนิยายยอดนิยมอย่างน้อยสองแนวเข้าด้วยกัน นั่นคือเรื่องราวความรักต่างชนชั้น ระหว่างคุณหมอฉวีผ่อง ผู้กองสาวแห่งกองทัพบก กับพลทหารพัน น้ำสุพรรณ เข้ากับการปกปิดตัวตนที่แท้จริงของตัวละครเอก (โดยเฉพาะเมื่อต้องการตามหาหรือพิสูจน์รักแท้)ซึ่งช่วยเพิ่มความซับซ้อนและสนุกสนานให้กับเรื่องมากขึ้น ขณะเดียวกันยังมีการสร้างความน่าติดตามและความซับซ้อนของเรื่องผ่านการสร้างปมปัญหาและอุปสรรคต่างๆ เพื่อเป็นบททดสอบความรักแท้ระหว่างคนทั้งคู่ แต่ดูเหมือนว่าผู้ที่ต้องผ่านบททดสอบกลับเป็นคุณหมอฉวีผ่อง ขณะที่พันมีหน้าที่เหมือนเป็นผู้สร้างบททดสอบ ไม่ว่าจะสร้างระยะห่างของความเหมาะสมด้วยเงื่อนไขต่างๆ อาทิการบอกว่าตนเรียนจบ ป. สี่ ไม่ใช่เนติบัณฑิต หรือ บอกว่าตนมีภรรยาแล้วอยู่ที่สุพรรณ ทั้งๆ ที่ยังโสด แม้ว่าคุณหมอฉวีผ่องผ่านบททดสอบต่างๆมาได้ จนได้รักแท้ของพันมาครอง แต่ความรักของทั้งคู่ก็ยังไม่อาจจะลงเอยได้ เมื่อ กาญจนา นาคนันทน์ ยังทิ้งท้ายความวุ่นวายในความรักของคนทั้งสอง ด้วยการสร้างปมปัญหาใหม่ของการพยายามเอาชนะคะคานกันตลอดเวลาระหว่างพ่อแม่ของคนทั้งคู่ จนพันและคุณหมอต้องร่วมมือกันเอาชนะอุปสรรคสุดท้ายในชีวิตรักของพวกเขาไปให้ได้

นอกจากนี้ ความชื่นชอบของผู้อ่านและผู้ชมส่วนใหญ่มาจากความเบาสมองของนวนิยายเรื่องนี้ นำเสนอความสนุกสนานและความตลกขบขัน คำพูด การกระทำ และอุปนิสัยที่มีเอกลักษณะเฉพาะของตัวละครต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พัน ชายหนุ่มอารมณ์ดี มีมนุษยสัมพันธ์ สนุกสนาน นิสัยชอบพูดกวนๆ กับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชอบยั่วแหย่ให้พ่อกำนันโกรธ เพื่อลับฝีปากกันเสมอๆหรือ อ่ำ พลทหารเพื่อนสนิทของพันที่เป็นคนซื่อ ไม่ทันคน ชอบทำอะไรผิดพลาดอยู่เสมอ คุณนายไฉววงศ์ แม่บ้านแม่เรือนผู้ประหยัดมัธยัสถ์ ชอบของดีราคาถูกและของฟรี ผู้พันผัน มีระเบียบวินัยอย่างทหารที่ดี รักลูกสาว หวงภรรยา กลัวเสียหน้า และเป็นไม้เบื่อไม้เมากับกำนันพูนพ่อของพัน เจ้าหนี้คนสำคัญที่พยายามหนีมาตั้งแต่ยืมเงินมาแต่งงานแล้วยังไม่ใช่คืน คุณหมอฉวีผ่อง ดุ จริงจัง ตรงเวลา และมีระเบียบ ขณะที่กำนันพูน กำนันใหญ่ของสุพรรณ เป็นคนตรง โผงผาง แต่กลัวเมียและมักถูกพันแหย่ให้โมโห จนมีเรื่องให้ทะเลากันพันอยู่เสมอ แม่จันทร์ ตัวแทนของผู้หญิงไทยโบราณที่เป็นใหญ่ในบ้าน ชอบนุ่งโจงกระเบน กินหมาก ชอบโชว์เข็มขัดทองหนัก 25บาท รักลูกและกลัวลูกลำบากมาก ซึ่งตัวละครต่างๆ ในเรื่องเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะสร้างสีสันและความสนุกสนานให้กับเรื่องแล้ว ตัวละครเกือบทุกตัวต่างโดดเด่นจนอยู่ในความทรงจำของผู้อ่านและผู้ชมในทุกยุคทุกสมัย

เหตุผลประการสำคัญอีกประการที่ทำให้นวนิยายเรื่องนี้เป็นอมตะ ซึ่งยังเป็นที่นิยมของผู้อ่านและผู้สร้างละครโทรทัศน์และภาพยนตร์ที่นำไปดัดแปลงให้เสมอๆนั่นเป็นเพราะความไร้กาลเวลาของยุคสมัยที่ชัดเจนของนวนิยายเรื่องนี้ จึงต่างจากนวนิยายเรื่องอื่นๆอีกหลายเรื่องที่มักจะระบุช่วงเวลาหรือยุคสมัยที่เกิดขึ้นในเรื่องอย่างเฉพาะเจาะจง จึงอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นวนิยายหลายเรื่องพ้นสมัยไปอย่างน่าเสียดาย แต่สิ่งที่เป็นตัวบอกยุคสมัยของการเขียนในเรื่องนี้มีเพียงค่าของเงินเท่านั้น ที่ทำให้ผู้อ่านทราบว่าเรื่องนี้แต่งขึ้นนานแล้ว สังเกตได้จากเบี้ยเลี้ยงทหารเกณฑ์ก็ได้ว่าพันได้เงินเพียงแค่วันละ6 บาทเท่านั้น ค่าน้ำตาลที่กิโลละไม่กี่บาท หรือเงิน 1 บาทยังซื้อสาคูไส้หมูได้ ความไม่ผูกพันกับการเวลาและเหตุการณ์สำคัญใดเหตุการณ์หนึ่งในสังคมอย่างชัดเจนเช่นนี้ ทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าเรื่องราวความรักระหว่างพลทหารเกณฑ์และคุณหมอสาวแห่งกองทัพบกเป็นเรื่องทั่วไปสามารถพบได้ในทุกยุคทุกสมัย จึงไม่เป็นเรื่องแปลกที่ในอนาคตจะมีผู้หยิบนวนิยายเรื่องนี้มาอ่าน หรือนำมาสร้างละครโทรทัศน์หรือภาพยนตร์อีกครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะนี่เป็นหนทางหนึ่งที่ทำให้ผู้คนในปัจจุบันและอนาคตหาเวลาช่วงหนึ่งได้หลีกหนีและปลดปล่อยตัวเองจากความเคร่งเครียดและกดดันในชีวิตและสังคมรอบตัว และผ่อนคลายไปกับความสนุกสนานและความเบาสมองที่ตั้งอยู่บนความร่วมสมัยของนวนิยายอมตะเรื่องนี้



Create Date : 13 ตุลาคม 2557
Last Update : 13 ตุลาคม 2557 14:10:39 น.
Counter : 2338 Pageviews.

2 comments
  
ถ้าได้ดูละครครั้งล่าสุด (ที่กำลังจะสร้าง) ก็ครั้งที่ 3 แล้วครับ
โดย: อุ้มสม วันที่: 13 ตุลาคม 2557 เวลา:16:34:04 น.
  
ตอนศรรามเล่นคู่กับติ๊ก กัญญารัตน์ สนุกดีครับ โดยเฉพาะเจ้าอ่ำ ที่กอล์ฟ เบญจพลเล่น นอกนั้นเวอร์ชั่นอื่นๆนึกไม่ออก คุ้นๆเหมือนวรุฒจะเล่นกับแนนชลิตาอีกคู่มั้ง
โดย: leehua IP: 1.47.197.187 วันที่: 13 ตุลาคม 2557 เวลา:23:25:37 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เสี้ยวป่า
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]



New Comments
ตุลาคม 2557

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
11
12
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
28
30
31
 
 
All Blog