นวนิยายเล่มนี้มีขนาดที่ไม่หนาและบางมากนักการออกแบบปกที่ทำให้คิดไปว่าแนวเรื่องน่าจะเป็นแนวล้ำสมัยของชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งที่เดินทางค้นหาชีวิตและความรักและผู้วิจารณ์ก็ต้องสารภาพว่าไม่เคยอ่านงานเขียนของ “ผมอยู่ข้างหลังคุณมาก่อน”เคยแต่อ่านงานวิจารณ์ภาพยนตร์ซึ่งเป็นงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับผู้เขียนท่านนี้ การที่หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาอ่านก็หวังว่าจะได้อ่านเรื่องรักเบาๆแอบค้นหาความโรแมนติกแบบเด็กแนวนิดๆ ซึ่งเมื่ออ่านจบก็พบว่ามีอยู่บ้างในเรื่องของความรักระหว่าง“ชายหนุ่มนักสำรวจชีวิต” กับ “หญิงสาวผู้สำรวจความรัก”แม้จะเป็นความรักที่ไม่สมหวังของคนทั้งคู่ ที่เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ต่างกันแต่ช่วงเวลาทั้งสองนั้นก็มาบรรจบพบกันที่จุดเริ่มต้นแห่งการสำรวจและจุดสิ้นสุดของการสำรวจของคนสองคนโครงเรื่องหลักจึงเป็นการสำรวจชีวิตของตัวละครชายหนุ่ม และการสำรวจความรักของตัวละครหญิงสาวโดยที่ “ผมอยู่ข้างหลังคุณ” ได้ใช้ความเชี่ยวชาญของในฐานะที่เป็น “จิตแพทย์” และ“ผู้วิจารณ์ภาพยนตร์” มาใช้ในการเล่าเรื่อง แม้ว่าผู้อ่านที่ไม่ได้มีความรู้ทางด้านจิตวิทยาและภาพยนตร์สามารถที่จะเข้าใจเรื่องที่ผู้เขียนเลือกมาใช้ในการเล่าเรื่องทั้งในส่วนของเนื้อหาของภาพยนตร์และการวิเคราะห์ทางด้านจิตวิทยาซึ่งแม้จะใช้คำศัพท์ที่เป็นวิชาการ แต่ผู้เขียนสามารถที่จะบรรยายให้ผู้อ่านเข้าใจได้อย่างง่าย

“ผมอยู่ข้างหลังคุณ” นำวิธีการเล่าเรื่องที่หลากหลายการที่ให้หนังสือสามารถที่จะอ่านได้จากทั้งสองปกของหนังสือโดยที่ด้านหนึ่งเป็นเรื่องของ “ชายหนุ่มนักสำรวจชีวิต”และอีกด้านหนึ่งเป็นเรื่องของ “หญิงสาวผู้สำรวจความรัก” ผู้อ่านสามารถที่จะอ่านด้านใดก่อนก็ได้เพราะทั้งสองเรื่องนั้นมีความเกี่ยวโยงของตัวละครทั้งสองตัวนี้ ผู้เขียนไม่แสดงชื่อตัวละคร“ชายหนุ่มผู้สำรวจชีวิต” และ “หญิงสาวผู้สำรวจความรัก” แต่หากผู้อ่านจะรู้ชื่อตัวละครทั้งสองก็ต่อเมื่อได้ไปอ่านอีกด้านหนึ่งแต่ในส่วนนี้มีข้อผิดพลาดในด้านของ “หญิงสาวผู้สำรวจความรัก” กลับหลุดชื่อของตัวละครตัวนี้ออกมาซึ่งเป็นจุดผิดพลาดเล็กๆ แต่ทำให้ความพยายามของผู้เขียนที่จะไม่ใช้ชื่อตัวละครต้องหยุดลงอย่างน่าเสียดาย

วิธีการเล่าเรื่องที่โดดเด่นอีกอย่างคือการเล่าเรื่องซ้อนการเล่าเรื่อง ในส่วนด้านของ “ชายหนุ่มผู้สำรวจชีวิต” ที่ตัวละครรับหน้าที่เป็นครูสอน “ไอ”เด็กหญิงชาวญี่ปุ่น ซึ่งการเรียนการสอนระหว่างครูและลูกศิษย์ที่ค่อนข้างจะแปลกที่ผู้อ่านต้องตามค้นหาเนื่องจากเป็นการเรียนการสอนผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์ และเป็นการสนทนาตอบโต้กันระหว่างครูกับลูกศิษย์โดยที่ครูจะยกตัวอย่าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาพยนตร์ หรือหนังสือที่ได้รับการนำมาทำเป็นภาพยนตร์มาเป็นประเด็นในการสอนและสนทนาผู้เขียนให้ตัวละคร “ชายหนุ่มผู้สำรวจชีวิต” เล่าประเด็นที่เกี่ยวกับการดำเนินเรื่องของภาพยนตร์ในส่วนนี้แม้ผู้ที่ไม่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนั้นมาก่อนสามารถที่จะเข้าใจเรื่องได้และส่วนของการอธิบายเพิ่มเติมซึ่งเป็นประเด็นการวิเคราะห์ทางด้านจิตวิทยาของตัวละครในภาพยนตร์ และในส่วนของ“หญิงสาวผู้ตามหาความรัก”เช่นเดียวกันที่เป็นการเล่าเรื่องการตามหาความรักของหญิงสาวในด้านต่างๆพร้อมการเปรียบเทียบความรักที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ และการวิเคราะห์ความรักในด้านจิตวิทยา

คำแนะนำสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้อ่านหากต้องการที่จะสำรวจชีวิตแนะนำให้อ่านในด้านของ “ชายหนุ่มนักสำรวจชีวิต” ก่อนและหากต้องการที่จะสำรวจความรักให้อ่านด้าน “หญิงสาวผู้สำรวจความรัก” และเมื่ออ่านจบทั้งสองด้าน ท่านจะได้เห็นมุมมองชีวิตและความรักที่เปลี่ยนไปจากเดิมที่เคยมองเห็นทั้งนี้ต้องขอขอบคุณ “ผมอยู่ข้างหลังคุณ” ที่มีความตั้งใจที่จะนำความรู้ความชำนาญส่วนตัวทั้งการเป็นจิตแพทย์และการเป็นนักวิจารณ์ภาพยนตร์มาเขียนเป็นนิยายเรื่องนี้ อย่างน้อยผู้อ่านก็ได้รับรู้ถึงความแตกต่างของชีวิตผู้คนที่อยู่ร่วมกันในสังคมในมุมมองด้านจิตวิทยาผ่านตัวละครจากภาพยนตร์เรื่องต่างๆที่ผู้เขียนเลือกมา ตามความเห็นส่วนตัวจากการที่เริ่มต้นอ่านจากด้าน“ชายหนุ่มนักสำรวจชีวิต” เรื่องราวจากภาพยนตร์และการวิเคราะห์จิตวิทยาที่ชายหนุ่มสำรวจชีวิตค่อนข้างที่จะหนักหน่วงกว่าในด้านที่หญิงสาวสำรวจความรักแม้ว่าการดำเนินเรื่องจะมีความน่าสนใจชวนให้ติดตามเป็นอย่างมากแต่ต้องพักการอ่านเป็นระยะเนื่องจากข้อมูลการวิเคราะห์ทางด้านจิตวิทยาแม้ว่าจะใช้ภาษาที่ไม่ยากและง่ายต่อการเข้าใจ แต่ทำให้เห็นทั้งภาพและสภาพจิตใจของตัวละครที่ถูกวิเคราะห์ได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งจนบางครั้งจะต้องวางหนังสือลงเพื่อที่จะปรับจิตใจเพื่อไม่ให้หดหู่และเศร้าหมองไปกับสิ่งที่ตัวละครแต่ละตัวเผชิญอยู่ส่วนในด้านหญิงสาวที่แสดงให้เห็นมุมมองความรักที่ใช้จิตวิทยาในการวิเคราะห์นั้นได้ทำให้เข้าใจในความรัก แม้ว่าจะเป็นในด้านที่เจ็บปวดและไม่สมหวังก็ตาม

สิ่งที่เป็นข้อสังเกต(ซึ่งไม่ได้ตั้งขึ้นมาเอง) จากนักเขียนท่านหนึ่งว่า การเขียนนวนิยายหรืองานเขียนของนักเขียนสมัยใหม่มักจะเขียนย่อหน้าสั้น จึงทำให้การบรรยาย การเล่าเรื่องขาดเป็นช่วงๆการเขียนนวินิยายเรื่องนี้ก็มีลักษณะเช่นเดียวกันนี้ ที่ในแต่ละตอนก็สั้นๆ ซึ่งอาจจะเหมาะสำหรับคนสมัยใหม่ที่มีความสนใจที่หลากหลายการอ่านตอนสั้นๆ นั้นอาจเป็นแนวทางที่ผู้อ่านรุ่นใหม่ชื่นชอบก็ได้