ช่อปาริชาติ

ช่อปาริชาติ

ประภัสสรเสวิกุล




ในบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรักในวัน "วาเลนไทน์” ดอกไม้เป็นสัญลักษณ์สื่อความหมายแทนความรักที่มอบให้แก่กัน เสี้ยวป่าขอนำเสนอนิยายเรื่อง “ช่อปาริชาติ” ของคุณประภัสสร เสวิกุล สื่อแทนความรักให้ผู้อ่านละกัน ปาริชาติเป็นต้นไม้ที่มีตำนานเล่าขานหลากหลายเช่นในเรื่อง กามนิต-วาสิฏฐี ภาคสวรรค์ เมื่อกามนิตได้กลิ่นหอมจากต้นปาริชาติก็สามารถระลึกชาติเมื่อครั้งที่เป็นมนุษย์ได้ (แต่ดอกปาริชาติจะมีกลิ่นเฉพาะในสวรรค์เท่านั้นนะ) ผู้แต่งได้นำความเชื่อว่าหากผู้ใดได้กลิ่นดอกปาริชาติก็จะระลึกชาติได้มาเป็นชื่อเรื่อง  ซึ่งสามารถที่จะสื่อความของเรื่องได้อย่างชัดเจน ธันวาหนุ่มนักโฆษณาที่เห็นสุภาพสตรีปริศนาผู้ที่สวมใส่ชุดผ้าแพรเนียนบางสีม่วง ที่เฝ้ามองเขาอยู่ตลอดเวลาพร้อมกับกลิ่นหอมประหลาด สิ่งต่างๆ ที่ธันวาพบนั้นได้ทำให้เขารับรู้เรื่องราวในอดีตที่เกิดขึ้นกับคุณเพิ่มและคุณเอียด เมื่อเรื่องราวในอดีตค่อยๆ ปรากฏกระจ่างชัดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศอันซึมเศร้า เหงา เปล่าเปลี่ยว อ้างว้าง สัญญาที่ได้เคยผูกพันคนทั้งสองในอดีตได้ปรากฏความจริงขึ้น แล้วธันวาซึ่งอยู่ในปัจจุบันกาลได้ตัดสินใจที่จะแก้ไขความผิดพลาดในอดีต จนทำให้คุณเอียดต้องติดอยู่ในภพและเวลาแห่งการรอคอยจากอดีตตราบจนปัจจุบัน ธันวาใช้สำนึกแห่งความเป็นมนุษย์ที่พึงกระทำต่อมนุษย์ด้วยกันในการตัดสินใจครั้งนี้ มิใช่ว่าเขาเป็น “คุณเพิ่ม” ในอดีตหรือเป็น “ธันวา” ในปัจจุบัน

นวนิยายขนาดสั้นที่ดำเนินเรื่องตัดสลับฉากเหตุการณ์ในอดีตกับปัจจุบันได้กระชับฉับไว แต่กลับเต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์ความรู้สึกอันหลากหลาย และได้พัดพาอารมณ์ผู้อ่านให้ตกอยู่ในห้วงคำนึงแห่งการเฝ้ารอคอยและการถูกรอคอย ในบรรยากาศของความซึมเศร้า เหงา เปล่าเปลี่ยว อ้างว้าง โอ้ว! เมื่ออ่านแล้วต้องพลิกกลับดูว่าตีพิมพ์ครั้งแรกปี พ.ศ. 2530 จริงๆ หรือนี่ บรรยากาศแบบนี้กำลังเป็นงานที่นิยมของทั้งผู้เขียนและผู้อ่านในปัจจุบัน เริ่มต้นฉากแรกด้วยบรรยากาศของกรุงเทพฯ เย็นวันหนึ่งในฤดูหนาวที่ฝนตกและรถติด แค่หน้าแรกก็นำผู้อ่านให้เข้าสู่บรรยากาศและอารมณ์ของตัวละครของนิยายเรื่องนี้ไปตลอดทั้งเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าโครงเรื่องหลักจะเป็นการหวนระลึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตของคุณเพิ่ม (ธันวา)กับคุณเอียด แต่ผู้เขียนได้ใช้กลวิธีในการเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตได้อินเทรนด์แบบงานเขียนสมัยใหม่อีกแล้ว ผู้แต่งใช้การเล่าเรื่องราวในอดีตด้วยการเปลี่ยนมุมมองผู้เล่าเรื่องถึงสามวิธีคือ การระลึกอดีตของผู้ที่อยู่ร่วมกันในอดีต ธันวาหรือคุณเพิ่มและวิลันดา โดยที่คุณเอียดเป็นผู้เชื่อมโยงเรื่องในอดีตให้กับทั้งสองคนรับรู้ การเล่าเรื่องโดยให้จักรค้นหาหลักฐานที่เป็นเอกสารหนังสือพิมพ์ที่เกี่ยวข้องหรือมีความเชื่อมโยงกับคุณเอียดและคุณเพิ่ม เพื่อเป็นการยืนยันเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต และการเล่าอดีตโดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ของคุณหมอวิทยา โดยการใช้กล้องที่สามารถจะจับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตได้ การเล่าเรื่องราวในอดีตของตัวละครแต่ละตัวแม้จะมีวิธีการที่แตกต่างกันแต่ก็เป็นเสมือนตัวต่อ ที่เมื่อนำมารวมกันก็จะต่อภาพของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต และทำให้การระลึกถึงอดีตของนิยายเรื่องนี้มีมิติหลากหลายชวนให้ผู้อ่านติดตามและไม่น่าเบื่อ ซึ่งต้องยอมรับความสามารถในการประสานมุมมองการเล่าเรื่องที่หลากหลายของผู้แต่งว่า ทำได้อย่างพอเหมาะพอดี ไม่มีรอยต่อ แม้จะใช้วิธีการเล่าเรื่องที่หลากหลายก็ตาม

“ช่อปาริชาติ”เป็นนวนิยายขนาดสั้นเพียง 117 หน้า แต่มีความเข้มข้นเหมือนกำลังอ่านนวนิยายเล่มหนาๆเลยทีเดียว สิ่งที่สำคัญในงานเขียนของคุณประภัสสรคือ การให้ข้อคิดกับผู้อ่าน ในส่วนตัวแล้วประทับใจตอนจบของเรื่องมาก การเลือกวิธีการแก้ปัญหาของธันวาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตระหว่างคุณเพิ่มกับคุณเอียด แม้ว่าตอนจบของเรื่องผู้เขียนจะให้คำตอบของตนเองแล้วก็ตาม แต่คำตอบนี้ผู้อ่านยังสามารถที่จะคิดแย้งกับผู้เขียนได้ และผู้แต่งก็เปิดทางให้ผู้อ่านได้แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างด้วย อีกประเด็นหนึ่งแม้ว่าโครงเรื่องของ“ช่อปาริชาติ” เป็นการย้อนระลึกถึงโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในอดีตระหว่างคุณเพิ่มและคุณเอียด ซึ่งส่งผลมาถึงชาติภพปัจจุบัน เมื่อดวงจิตหรือดวงวิญญาณของคุณเอียดยังคงติดอยู่ในบ่วงเวลาของการรอคอยตามคำมั่นสัญญา และเมื่อถึง ณ เวลาหนึ่งที่เธอได้มาทวงถามสัญญา การตัดสินใจของตัวละคร “ธันวา” ทำได้อย่างงดงามว่า “ไม่ว่าเธอจะเป็นผีหรือยังมีตัวตนอยู่จริงๆ ในโลกของเธอผมจะไม่มีวันยอมให้ใครทำร้ายเธออีกเป็นอันขาด...... ผมพูดในฐานะที่เป็นมนุษย์ซึ่งยืนหยัดในเรื่องความถูกต้อง” การตัดสินใจของตัวละครสะท้อนความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นมนุษย์พึงกระทำต่อกัน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของการอยู่ร่วมกันสังคมมนุษย์ ผู้แต่งตระหนักในประเด็นนี้เป็นอย่างดี จึงไม่ได้นำความเชื่อหรือหลักธรรมคำสั่งสอนของศาสนาโดยเฉพาะเรื่องเวรกรรมมาใช้ในการแก้ปมปัญหาที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้ เพราะหากมีธรรมะเป็นหลักของชีวิตก็จะตระหนักได้ถึงความรับผิดชอบในฐานะของความเป็นมนุษย์ที่พึงปฏิบัติต่อมนุษย์ด้วยกัน และไม่โยนหน้าที่การแก้ปมปัญหาหรือการหาทางออกของเรื่องให้เป็นเรื่องให้เป็นไปตามทางศาสนา ซึ่งสิ่งนี้เองที่ลดคุณค่าของศาสนาด้วย

ขอแนะนำ“ช่อปาริชาติ” เป็นหนังสือแห่งความรักในช่วงวาเลนไทน์ ซึ่งมีทั้งความรักระหว่างหนุ่มสาวที่คุณเอียดมีต่อคุณเพิ่ม และทำให้เธอติดอยู่ในพันธสัญญาที่ทั้งสองมีต่อกันความรักของเพื่อน และความรักในเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่น่าชื่นชมเช่นกัน ที่สำคัญคือได้อ่านงานเขียนเมื่อสามสิบปีที่แล้ว ที่บังเอิญมีบรรยากาศและวิธีการเล่าเรื่องที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ขอบอกว่างานเขียนแนว เหงาๆ เศร้าๆ โดดเดี่ยวไม่ใช่สิ่งที่เพิ่งจะมีในงานเขียนไทยแต่มีมานานแล้วและก็เป็นงานเขียนที่ดีอีกด้วย วิธีการเล่าเรื่องที่ล้ำๆ ลองหา “ช่อปาริชาติ” มาอ่านรับรองว่าจะไม่วางถ้ายังอ่านไม่จบ






Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2559 19:48:20 น.
Counter : 4221 Pageviews.

2 comments
  
สวัสดีค่ะ คุณเสี้ยวป่า ^^
แปะหัวใจก่อนค่ะ

เดือนนี้จะพยายามอัพบล็อกเล่มนี้ที่ชอบให้ทันร่วมสนุกค่า

ช่อปาริชาติ นุ่นมีด้วยค่ะ แต่ยังไม่ได้อ่านเลย
ตอนนี้ทยอยเก็บงานคุณประภัสสรไว้ค่ะ
มีสะสมหลายเรื่องแล้ว

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ น่าอ่านมากๆค่า



โดย: lovereason วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:16:34:14 น.
  
คุณนุ่น @lovereason งานคุณประภัสสรที่เป็นนิยายขนาดสั้นหลายเรื่องเป็นเล็กพริกขี้หนูนะคะ รออ่านรีวิวหนังสือที่ชอบอยู่ค่ะ
โดย: เสี้ยวป่า วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:11:02:04 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เสี้ยวป่า
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]



New Comments
กุมภาพันธ์ 2559

 
1
2
3
5
6
7
8
9
10
11
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
 
 
12 กุมภาพันธ์ 2559
All Blog