Diary คนหนีน้ำ ตอนที่ 3 : ตัดสินใจอพยพ

หายไปหลายวัน เพราะไม่มีเน็ตอัพเดท
พอมีเน็ตก็ดันไม่มีคอม วันนี้กลับมาเป็นตอนที่ 3 ค่ะ

21 ตุลาคม 2554

เช้าวันนี้ ตื่นมาแบบ ไม่อยากตื่น อยากคิดว่าน้ำท่วมเมื่อวานแค่ฝันไป
แต่มันคือความจริงล้วนๆ เมื่อเดินลงมาชั้น 1 ภาพที่เห็นคือ น้ำดำๆเต็มบ้านไปหมด
สูงประมาณบันไดขั้นที่ 1 ของบ้าน ส่วนด้านหลังที่เดินไปครัวจะต่ำกว่า ก็เรียกว่า
น้ำประมาณหน้าแข้ง เดินสำรวจรอบๆแบบเงียบๆ นี่คือเรื่องจริงใช่ไม๊... (T-T)






สภาพบ้านและข้าวของ แบบว่า เอ่อ....ปลง






เครื่องซักผ้าเก่า เอาไว้ซักผ้าขี้ริ้ว ปล่อยจม


น้องน้ำ มาช่วยล้างแอร์ชั้นล่าง - ไม่รู้จะสะอาดขึ้น หรือ ช่วยให้พัง 5555


จักรยานแขวนไว้ รอดแล้ว แต่ที่ไม่รอดคือ อ่างปลา


ไม่สามารถเอาปลาไปด้วยได้จริงๆ เลยให้อาหาร แล้วปล่อยไว้แบบนั้น
ส่วนในบ่อใหญ่สีฟ้า ตัวใหญ่หน่อย ทำได้แค่ให้อาหาร เช่นกัน
* อพยพออกไปแล้วกลับมาดูอีกวัน น้ำล้นบ่อ ปล่อยปลาเป็นอิสระ ในน้ำเน่า T-T *
... สัพเพ สัตตา อเวรา โหตุ ...



แม่เดินย่ำน้ำไปเยี่ยมเพื่อนบ้าน ที่น้ำระดับ " ใต้ตูด " อย่างสนุกสนาน
พ่อจิบกาแฟริมระเบียง และรับโทรศัพท์อย่างต่อเนื่อง 
ส่วน " ไมโล " สุนัขผู้ประสพภัย พันธุ์ พุดเดิ้ล เพศผู้ สีขาว
กำลังวิ่งไป วิ่งมาบนหลังคา แบบ งงๆ ให้ฉี่ก็ไม่ฉี่ ให้อึ ก็ไม่อึ
ร้อง งู๊ดๆ งี๊ดๆ ตลอดเวลา แบบ ตื่นมา ต้องปล่อยไปทำธุระ ในโรงรถหน้าบ้าน
มันก็คง งงๆ ว่าทำไม วันนี้ไปปล่อยออกไป แต่ให้มาวิ่งเล่นบนหลังคาแทน
เท่าที่เห็น ไมโล ก็ไม่ยอมอึ ซะงั้น




โทรศัพท์ยังเข้าอย่างต่อเนื่อง ทุกสายแจ้งว่า อพยพแล้ว
บางคนก็บอกว่า กำลังกลับเข้ามาที่บ้าน เพราะวันที่หนีไป ยังไม่ได้เตรียมของ
เลยต้องกลับมาเอา หลายๆคนบอกว่า การเดินทาง ค่อนข้างวิกฤต
บางคนจะเข้า บางคนจะออก เป็นที่วุ่นวายมาก

ตอนนี้ รถเล็กเริ่มวิ่งตามถนน 340 หน้าหมู่บ้านไม่ได้แล้ว เพราะบางช่วงน้ำท่วมสูง
บางช่วงน้ำไม่ท่วม ต้องใช้วิธี จอดรถไว้ไกลๆ ที่แห้งๆ แล้ว เกาะรถทหารเข้ามา

พ่อ กับ แม่ ตั้งใจแน่วแน่ ว่าจะไม่ออกไปไหน แต่วาก็พูดเป็นระยะๆว่า
วาอยู่ไม่ได้ เพราะวาต้องไปทำงาน ซึ่งตอนนั้น ก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะไปไหน
เพราะ เจ้านาย ของพ่อเค้า กำลังจะอพยพ เพราะบ้านอยู่ในพื้นที่เสี่ยง
รวมทั้งออฟฟิสด้วย เลยไม่ได้ต้องคิดเรื่องไปทำงาน เพราะที่ทำงานพ่อหยุดไปโดยปริยาย

แต่ออฟฟิสวาอยู่ CTW ไม่มีวี่แวว ว่าน้ำจะไปถึงในเวลาอันใกล้นี้
ยังไง ไปได้ ก็ต้องไปทำงานอยู่ดี ทำยังไงดีล่ะ?




ระหว่างนั้นก็ พยายาม ขนของที่เหลือจากเมื่อคืน ขึ้นชั้น 2 จนหมด เหลือก็แค่

ตู้โชว์ไม้อัด ได้มาฟรี - แช่น้ำเดี๋ยวมันจะบวมและพังไปเอง ปล่อยจม
โต๊ะเครื่องแป้ง ได้มาฟรี - แช่น้ำเดี๋ยวมันจะบวมและพังไปเอง ปล่อยจม
เตียงนอน ได้มาฟรี - แช่น้ำเดี๋ยวมันจะบวมและพังไปเอง ปล่อยจม
เตียงไม้แท้ - ไม่บวมไม่พัง เดี๋ยวทาสีใหม่เอา ปล่อยจม
โซฟาไม้แท้ ใหญ่มาก - ไม่บวมไม่พัง ปล่อยไว้แบบนั้น
โต๊ะเข้ามุมไม้แท้ - ไม่บวม ไม่พัง แต่อาจจะลอย เอาของหนักทับไว้
ตู้เสื้อผ้าวา ไม้แท้ หนักมาก - ไม่บวมไม่พัง ปล่อยไว้แบบนั้น
ตู้เหล็กใส่เอกสาร 2 ตู้ - ไม่บวม ไม่พัง ทาสีใหม่ได้ ปล่อยไว้แบบนั้น

เหลือก็แต่ ถ้วยชาม หม้อ ต่างๆของแม่ ยกขึ้นชั้นในครัว
ที่ก่อด้วยปูนสูงๆเกิน 2 เมตร ในครัว น้ำไม่น่าจะถึง หมดห่วง

ระหว่างนั้น เพื่อนพ่อก็โทรมาบอกว่า จะเข้ามาที่บ้าน ต้องเดินจากด้านนอก 3 กิโลแล้ว
กว่าจะเข้ามาถึงหมู่บ้าน เพราะรถเล็กมาไม่ได้แล้ว ถ้ารอต่อไป มันจะอพยพยากแล้วนะ
รีบออกมาเถอะ วันนี้ยังเดินน้อย วันต่อไปอาจจะเดินเยอะกว่านี้

เพื่อนๆแม่ ก็อพยพไปแล้ว โทรกลับมาสอบถามกันใหญ่ และยืนยันว่าเดินไกลมากกก
สุดท้าย พ่อเลย ตัดสินใจ อพยพ ด่วน เพราะกลัวต้องเดินไกล มีหมาด้วย จะลำบาก
เลยโทรเรียก พี่ชายเอารถกระบะของออฟฟิส มารับ จุดหมายปลายทางคือ บางแค
ออฟฟิสของพ่อ ที่ตอนนั้น น้ำยังไม่ท่วม



นาทีนั้น แม่บอกว่าเอาเสื้อผ้าใส่กล่องแล้วลอยออกไป ท่วมเป็นเดือนแน่ๆ
ไม่ไ่ด้กลับมาง่ายหรอก เตรียมเสื้อผ้า เอาให้พอดี พร้อมยื่นกล่องพลาสติกมาให้
วาก็เตรียมเสื้อผ้ามาเยอะพอสมควร เสื้อ 10 กางเกง ขาสั้น 4 ตัว กางเกงทำงาน 2 ยีนส์ 1
ผ้าขนหนู หมวกอาบน้ำ และขว้างกล่องเครื่องสำอางค์ ที่พกไปหัวหินใส่มาด้วย
ไม่ได้ดูหรอกมีอะไรบ้าง เอาๆมาก่อน และเครื่องมือหากินที่เอามาด้วยคือ
โน๊ตบุ้ค (Dell 15นิ้ว หนักมากกกกกกกกก) กล้องถ่ายรูป DSLR/Compact
พร้อมสายชาร์ต และ External-HD ที่ไม่ลืมพกออกมาด้วย รูปเป็นพัน
งานทั้งนั้น ไปหาอินเตอร์เน็ตเอาข้างหน้า 

* ดูเป็นสิ่งไม่ควรแบกมากเลยนะ แต่ก็เอามาไว้ก่อนเผื่อต้องใช้ จะกลับไปเอาคงยากแล้ว *

เก็บของอพยพภายใน 10 นาที โชคดีมี สกิล จัดกระเป๋าก่อนไปเที่ยวแบบเร่งด่วนพอตัว
เลยเก็บของจำเป็นได้ไม่ยากเย็นนัก 555555555555



อุ้มไมโลลงมาเตรียมตัวข้างล่าง เห็นน้ำในบ้านก็ร้องใหญ่เลย งู๊ดๆงี๊ดๆ
สงสัย งง ว่าทำไมพื้นที่ตูเคยวิ่งเล่น ถึงมีแต่น้ำแบบนี้หว่า ตอนอุ้มออกไปก็ดิ้นๆๆ

พี่ชายโทรมาบอกว่า จอดรถได้ห่างจากหมู่บ้าน เกือบ 3 กิโลเมตร เพราะรถติดมาก
คนกำลังอพยพออก และเข้าไปขนของกันแบบชุลมุล แล้วพี่ชายกำลัง เกาะรถทหาร
ต่อรถเข้ามา ตอนนั้น เหวอเลย แล้วต้องเดินไกลมาก แต่ก็ต้องไปและล่ะ นาทีนี้
เก็บของ ดูนั้นนี่ เอาของใส่กระบะปูน พร้อมออกเดินทางแล้ว






พ่อเอาจักรยานมาด้วย ซึ่งมันดูตลกมาก ที่ของจำเป็นตอนอพยพ คือจักรยาน
แถมปั่นออกไปเลยด้วย น้ำมิดล้อจักรยานขนาด 16 นิ้วเลย แต่ก็ได้จักรยานนี่ล่ะ
พ่อปั่นนำไปก่อน แล้วไปเอารถกระบะ เลาะๆมารับเราได้หน้าหมู่บ้านพอดี โชคดีมาก




แต่ปั่นจักรยานในน้ำลึกแบบนี้ ผู้ที่กำลังขาไม่มี หรือ ไม่ค่อยได้ปั่นมาก่อน ไม่แนะนำ
เพราะปกติ พ่อวาปั่นจักรยานเป็นงานอดิเรก ปั่น วันละ 70 กิโลเมตรอย่างต่ำ
เลยปั่นพริ้วไปเลย ช่วยได้เยอะเลย




เดินออกไปปากซอย น้ำไหลแรงมาก เหมือนมันไหลไปลงนาข้างหลังก็เดินฝ่าน้ำออกมา
เห็นหลายๆคน อพยพ เดินลากกะละมังออกมากันเพียบเลย คนเดินออกจะเยอะกว่าคนเดินเข้า
วันนั้น เห็นรถทหารผ่านไปผ่านมา แต่ห้ามขึ้น ถ้ามีของ (เอ้า...อะไรวะ) คนที่ลำบาก
ก็เพราะมีของนี่ล่ะ โชคดีเราเดินไม่ไกล ประมาณ 5-600 เมตร ก็ถึงหน้าหมู่บ้านแล้ว
เลยไม่ได้ง้อรถทหาร ช่วยเหลือตัวเองได้ก็เดินเอง






เดินถึงหน้าหมู่บ้าน คนเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แลดูวิกฤต ก็ตอนนี้แหล่ะ เพราะต่างคนต่างขนของ มีรถมารับ หน้าตาดูกังวล
รถวิ่งสวนเลน มั่วมาก รถเหมือนจอดหนีตาย สะเปะ สะปะ 
จะไปไหนยังไง มีรถมาตะโกนบอก ใครจะไปก็ขึ้นๆๆๆ ที่ดูน่าสะเทือนใจสุด
ก็เห็นจะเป็นบ้านที่มีหมาเยอะๆ แล้วหมามันตัวเปียกๆ ตื่นๆ วุ่นวายๆ ดูวุ่นไปหมด






คนยังพอเข้าใจได้เองว่า น้ำท่วม ต้องเดินไปทางไหน ต้องอพยพ
แต่หมา มัน งง ทุกตัวเลยอ่ะ สงสารมากจริงจัง พอออกมาถึงพื้นแห้ง ไมโลดิ้น
แล้ววิ่งลงไปหาที่อึ อย่างด่วน หลังจากไม่ได้อึมา 2 วัน วิ่งตื่นๆ หนีไปตั้งหลายรอบ
ตอนรอรถพ่อมารับ จะว่ามันก็ไม่ได้ มันก็คง งงๆกับชีวิตเหมือนกัน



มีหมาตัวอื่นก็เป็น แอบถ่ายรูปหมาผู้ประสบภัยของบ้านอื่นมาด้วย 
เค้าก็บอกว่า หมาเค้าไม่อึเหมือนกัน เพิ่งได้มาอึตอนนี้แหล่ะ เลอะเทอะเต็มไปหมด




แล้วเราก็ได้ขึ้นรถ อพยพตัวเองไปบางแค ที่ซึ่งเป็นออฟฟิสของพ่อ
คือเป็นทาวเฮาส์ 2 หลังติดกัน ด้านนึงเป็นออฟฟิส ปูกระเบื้องอย่างดีมีแอร์
แต่อีกด้านเป็นห้องเก็บของ มีแต่พวกเครื่องมือเลอะเทอะมาก อะไหล่เต็มไปหมด
ชั้น 2 เป็นห้องนอนของ พี่ชาย ที่มารับ กับ น้าที่มาช่วยก่ออิฐนั่นล่ะ
เค้าก็ทำงานที่ออฟฟิสนี้เหมือนกัน เราอพยพมาทั้งครอบครัว ก็เลยแหวกๆเครื่องมือ
นอนมันข้างล่างนี่แหล่ะ มีที่ซุกหัวนอนแล้ว คืนนี้ ดีกว่าอยู่กับน้ำท่วมล่ะเนอะ (>.<)




สภาพที่นอนไฮโซของเราคืนนี้ คือ กล่องลังปูก่อน แล้วปูเสื่อ
เอาผ้าปูที่พอหาได้ แบ่งๆมาจากน้าและพี่ชาย โชคดี ตอนอพยพวาแอบเอาผ้าห่ม
ผ้าแพรมาด้วย 2 ผืน ตอนไปเที่ยววาก็พกไปห่มบนรถ คราวนี้คิดว่าน่าจะได้ใช้
เลยแอบยัดใส่กระเป๋ามาด้วย ตอนอพยพ พ่อบ่นๆเรื่องสมบัติบ้าทั้งหลาย
บอกแต่ว่าไปซื้อเอาข้างหน้า ไม่ต้องแบกมาเยอะ แต่มาถึงก็มืดแล้ว ไม่มีโอกาส
ได้ไปซื้ออะไรเลย ก็เลยได้ใช้จริงๆ ไม่เสียหายที่พกมา



ไมโลดูเหนื่อยอ่อนมากๆ ปกติก็นอนบนเก้าอี้ ในห้องนอนวาอยู่แล้ว
อพยพมาแบบนี้ก็มานอนตรงแอบตรงข้างๆตัวเราเลย ห่มผ้าผืนเดียวกันนี่แหล่ะ เหอๆ
วันนี้มีที่นอนแล้ว ถ้าน้ำท่วมเป็นเดือน ก็คงอีกนานกว่าจะได้กลับบ้าน
แล้วถ้าน้ำมาถึงนี่ จะไปนอนที่ไหน ตอนนั้นไม่รู้เลยว่าต่อไปจะเป็นยังไง
แต่วันนี้ขอนอนหลับให้สบายก่อนละกัน เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว

Z z z z . . .


- - - to be continue - - -




Create Date : 14 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 12 มีนาคม 2555 12:33:42 น. 2 comments
Counter : 2998 Pageviews.

 
สู้ๆๆน่ะค่ะที่บ้านก็ท่วมค่ะเดือนกว่าแล้วยังไม่ได้กลับไปอยู่บ้านเลย


โดย: kookai_baba วันที่: 14 พฤศจิกายน 2554 เวลา:17:23:55 น.  

 
เป็นกำลังใจให้คะ สู้ๆ นะคะ


โดย: Sang Sang Ja วันที่: 14 พฤศจิกายน 2554 เวลา:18:01:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นังนู๋วา
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 150 คน [?]








Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
14 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add นังนู๋วา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.