ครบ 1 เดือนหลังจากไป Makeover หน้ามาที่ The Klinique
ได้เวลามาเล่าผลลัพท์ อัพเดทให้อ่านกันแล้วค่ะ

17 มีนาคม 2555 วาไปปรึกษาคุณหมอที่ The Klinique สาขาสุขุมวิท 16
ซึ่งคุณหมอที่ดูแล คือ คุณหมอเติ้ล นะคะ พอคุณหมอเห็นหน้าปุ๊บ เค้าถามอายุ
บอกไปว่าปีนี้จะอายุ 29 คุณหมอก็บอกว่า หน้าวาเริ่มหย่อนคล้อยแล้วนะ

เราก็แบบ ห๊า...เราไม่เคยรู้สึกแบบนั้นมาก่อน คิดเอาเองมาตลอด
ว่าหน้าเราไม่ได้มีปัญหาอะไรขนาดนั้น แต่พอคุณหมอชี้เจาะทีละจุด ก็เล็งเห็น
ถึงความหย่อน และเนื้อส่วนเกินของใบหน้าขึ้นมาเลย

ถ่ายรูปนี้ ก่อนเริ่มไปแปะยาชาค่ะ หน้าโล้นเขียนคิ้วอย่างเดียว

คุณหมอถามว่าเรากังวลกับส่วนไหนยังไง ก็บอกไปว่า เป็นคนที่กรามใหญ่มากๆ
และไม่เท่ากันแบบชัดเจนเกิน ไม่ได้อยากหน้าเล็กเรียวมากๆ เพราะรู้โครงสร้างหน้าตัวเองดี
ว่าคงเป็นไปได้ยาก แต่อยากให้ข้างขวา ลดลงมาพอๆกับข้างซ้ายก็พอ
คุณหมอเลยบอกว่า เดี๋ยวเอาออกได้ด้วย Botox

นอกนั้นก็แล้วแต่คุณหมอจะเห็นสมควรว่าต้องทำอะไร คุณหมอบอกว่า หน้าเรามันเริ่มลงๆแล้ว
มันมีเทคโนโลยี ยกกระชับหน้า ชื่อว่า Ulthera ซึ่งจะยกกระชับหน้าเห็นผลชัดเจน และอยู่ได้นาน
ไม่ต้องพักฟื้นแต่งหน้าไปทำงานได้ปกติเลย อ่านรายละเอียดของ Ulthera แบบเชิงวิชาการ
ได้ที่เว็บของคลีนิคนะคะ คลิ๊กที่นี่

ส่วนใต้กรามก็จะร้อยไหม เพื่อให้เก็บเหนียงที่หย่อนคล้อย ทำให้เห็นโครงหน้าชัดขึ้น 
พอรู้คร่าวๆ ว่าจะต้องทำอะไรบ้างแล้ว ก็มีเจ้าหน้าทีมาทายาชาให้ค่ะ
ซึ่งการทำ Ulthera จะเจ็บประมาณนึง คุณหมอพูดให้ทำใจแบบไม่โกหกเลยว่า " เจ็บ "
ต้องใช้ยาชาช่วย บางคนก็บอกว่าเจ็บมาก บางคนก็บอกว่าเจ็บน้อย แต่วาแอบกลัวหน่อยๆ
ตอนเริ่มทำ คุณหมอก็ฉีดยาชาเพิ่มให้อีก 2 เข็ม 2 ข้างจมูก มันเจ็บตรงยาชานี่ล่ะนะ (-.-)

แพคยาชา เกือบๆ 1 ชม. เพราะกลัวเจ็บ แต่ก็ฉีดยาชาเพิ่มอีก 2 เข็ม

เครื่องทำ Ulthera จะมีจอภาพให้เราเห็นด้วยค่ะ ตัวเครื่องมือ จะเอามาแนบที่หน้าเรา
จะมีเสียงเป็นจังหวะ ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด ซึ่งในแต่ละตื๊ดเนี่ยมันจะทำหน้าที่ไปกระตุ้น
ชั้นกล้ามเนื้อส่วนบนของหน้าเรา หรือที่เรียกว่าชั้น SMAS ซึ่งเราจะเห็นชั้นผิวหนัง
ได้จากจอภาพของเครื่อง Ulthera เลย ซึ่งเทคโนโลยีอื่นๆ ยังไม่สามารถกระตุ้นได้ลึกขนาดนี้
ความรู้สึกเหมือนใต้ผิวเราโดนเย็บมากๆ แต่มันไม่ได้เย็บนะคะ มันแค่ไปกระตุ้นเฉยๆ

ความรู้สึกตอนทำคือ เจ็บ ค่ะ ก็พอทนได้นะ แต่ตรงที่เป็นกระดูก คุณหมอบอกว่าจะเจ็บมากหน่อย
ซึ่งหน้าวาก็กระดูกชัดด้วย เวลาเครื่องมือทำไปถึงตรง โหนกแก้ม แล้วก็กระดูกกราม น้ำตาคลอเลย
แต่ถ้าเป็นช่วงแก้มที่ไม่มีกระดูก จะไม่ได้รู้สึกเจ็บเท่าไหร่ แต่เวลาที่กลับมาย้ำจุดเดิม จะค่อนข้างเจ็บ
เครื่องมือนี้ สามารถไปทำตรงใต้ตาได้แบบใกล้มากๆ และไม่เจ็บเลย คงเพราะไม่มีกระดูก
คุณหมอบอกว่า ริ้วรอยใต้ตาเราจะฟูขึ้น เราก็ให้ความร่วมมือ มองขึ้นข้างบนให้คุณหมออย่างดี
ใช้เวลาทำไปราวๆครึ่งชั่วโมง ทำแค่ในส่วนของ ครึ่งหน้าล่าง ตรงใต้ตาลงไปถึงคอนะคะ

ในระหว่างทำคุณหมอจะทำแค่ครึ่งหน้า แล้วให้เราลุกขึ้นมาดูกระจกเปรียบเทียบก่อน
เราจะเห็นเลยว่าหน้าเราเบี้ยว 555 เพราะว่าด้านที่ทำมันยกกระชับขึ้นแบบทันที เห็นชัดเลยว่า
ข้างที่ยังไม่ได้ทำหน้าเรามันหย่อนคล้อย หลังทำไปแล้วมันจะกระชับขึ้นอีกเรื่อยๆ
และเห็นผลชัดเจนเลย คือหลังทำไปแล้ว 3 เดือน

หลังทำ Ulthera ครึ่งหน้า

Ulthera เสร็จ คุณหมอก็จัดการฉีด Botox ที่กรามทั้ง 2 ข้าง โดยฉีดที่ข้างซ้าย 20 ยูนิต
และฉีดขวาที่ใหญ่กว่าตอนแรก 30 ยูนิต แต่พอคุณหมอให้กัดฟันและปล่อย เทียบกันอยู่ซักพัก
ก็ลงความเห็นว่า กล้ามเนื้อ กรามข้างขวาใหญ่กว่าซ้ายมากเลยฉีดเพิ่มอีก 10 ยูนิต รวมเป็น 40 ยูนิต

ฉีด Botox กราม

แล้วก็มาเริ่ม ร้อยไหมละลาย ใต้กรามเพิ่มเก็บเนื้อที่ห้อยๆ ด้านข้าง ซึ่งการร้อยไหมละลายนี้
วาเคยไปยืนดูการสาธิตมา ตอนนั้นกลัวมากๆ เพราะคุณหมอจะเหมือนเย็บหน้าเรา เหมือนเย็บผ้าเลย
แต่พอได้มาทำเองจริงๆแล้ว ไม่รู้สึกอะไรเลยด้วยฤทธิ์ของยาชา สบายมากๆ
ตอนทำ Ulthera ยังรู้สึกเจ็บกว่าอีกค่ะ

ร้อยไหมเก็บเหนียง

ชิวมาก เมาท์กับคุณหมอตลอด (- -")

ร้อยไหมไปทั้งหมด 10 เส้นได้ค่ะ ข้างละ 5 เส้น คือร้อยช่วงแนวใต้กระดูกกราม
เพราะเนื้อตรงนั้นมันหย่อนๆแล้ว คุณหมอบอกว่า ให้ประคบเย็นมันจะไม่ช้ำ
ที่เห็นหลังทำคือ เป็นรอยเข็มเล็กๆ มากๆ แทบมองไม่เห็นค่ะ ที่สำคัญไม่เจ็บ
แค่รู้สึกว่ามีอะไรเข้าไปเฉยๆ

จะเห็นว่า กระดูกกรามไม่ชัด จะเห็นเป็นเนื้อห้อยๆ เราร้อยไหมเก็บอันนี้นั่นเองค่ะ

ทำหลายอย่างยาชาเริ่มไม่ชา เลยนอนรอโปะยาชาจมูก ต่ออีก 20 นาที
เพื่อที่จะไปฉีด Filler จมูกต่อ ในมือนั่นคือประคบเย็น ไม่ให้ปวดและช้ำ
ส่วนอีกมือว่างๆก็อัพ Facebook หุหุ

พอทำเสร็จก็ไปฉีด filler จมูกต่อ ซึ่งวาได้รีวิวไปแล้วที่หน้านี้ คลิกอ่านที่นี่ค่ะ
 ทำเสร็จทุกอย่างแล้ว ยอมรับว่า หน้าระบม ยังไงไม่รู้ ทำหลายอย่าง
แต่ก็ออกไปเดินห้างกินข้าวต่อได้ตามปกติค่ะ

หลังทำทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว 1 ชม. ถ่ายรูปนี้ในร้านข้าว

หลังทำอาทิตย์แรก

ความรู้สึกชัดเจนที่สุดหลังทำวันแรกๆก็คือ ใต้กรามปวดและบวม คือเรียกว่าระบมก็ได้ค่ะ
มันจะรู้สึกปวดๆ บวมๆ ต้องกินยาแก้อักเสบ แก้ปวดตลอด ประมาณ 2-3 วันก็หายปวด
เท่าที่เคยฉีด Botox มาก่อนหน้านี้มันจะไม่ปวดไม่บวม เลยคิดว่ามันน่าจะเป็นผลจาก
การร้อยไหมแน่นอน ซึ่งภายนอกจะเห็นว่าบวมแต่ไม่มาก แต่ข้างในเวลาเราจับ
จะรู้สึกระบม จะต้องจับหน้าตัวเองเบาๆ ล้างหน้าเบาๆ แต่งหน้าได้ปกติ
แต่วาไม่แต่งเพราะไม่อยากล้างหน้ามากเพราะมันระบม

ปวดบวมใต้กราม แต่ไม่ได้บวมมากนะคะ กรามวาใหญ่อยู่แล้ว

ผ่านอาทิตย์แรกไปหายปวดหายบวมใต้กรามแล้วค่ะ ทีนี้มาเริ่มเจ็บตรงกระดูกโหนกแก้มแทน
น่าจะเป็นผลหลังการทำ Ulthera ซึ่งมันอาจจะปวดตลอดก็ได้นะ แต่วาไปเจ็บใต้กรามมากกว่า
เลยเพิ่งมารู้สึกทีหลัง มันไม่ได้เจ็บปวด รวดร้าว ทรมานนะคะ มันจะแบบแตะๆผิวแล้วเจ็บ
ระบมใต้ผิวมากกว่า ส่วนด้านนอกไม่บวม ไม่ช้ำอะไรเลย ไม่มีใครรู้ว่าเราไปทำอะไรมา
รู้ชัดๆ แค่ว่า จมูกมีสันขึ้นมาไม่มีสาเหตุแค่นั้น 55555 

หลังทำ 1 เดือน

ทั้งหมดทั้งมวลด้านบน จนวันนี้ (18/4/2555) ผ่านไปแล้ว 1 เดือนพอดีเด๊ะๆค่ะ
ความรู้สึกส่วนตัวที่เห็นผลชัดเจนมากๆ คือ กรามเล็กลง หน้าดูเรียวขึ้น
หน้ากระชับขึ้น ไม่เห็นว่าหย่อนๆเหมือนก่อนทำ มาดูรูปกันค่ะ

จากรูปก่อนทำ จะเห็นได้ชัดว่าหน้าวาดูเบี้ยว เพาะกรามใหญ่กว่าอีกข้างมาก
หลังทำ 2 วันก็มีโอกาสได้มาถ่ายรูปในมุมเดิม ก็เอามาเทียบกัน เหมือนหน้าจะดูโครงชัดขึ้น
ตรงใต้คาง เพราะการร้อยไหมจะเห็นผลหลังทำทันที 10-20% นะคะ
พอเป็นรูปขวาสุด ถ่ายรูปนี้วันนี้ วันที่อัพ Blog นี้เลย จะเห็นว่าผิวหน้าดูกระชับขึ้น
และโครงหน้าชัดขึ้นมาก ถ้าเอามือจับช่วงกราม จะรู้สึกเลยว่ากล้ามเนื้อเล็กลง
และฟ่อลง กัดฟันแล้วก็ไม่มีก้อนกล้ามเนื้อดันมือออกมาเหมือนแต่ก่อน

ความรู้สึกในการ Botox ครั้งนี้ต่างจาก Botox ครั้งก่อนที่วาเคยทำ(เมื่อ 2 ปีก่อน)มาก
เพราะว่าครั้งก่อน พอกล้ามเนื้อ มันฟ่อลงปุ๊บ เนื้อตรงกรามมันหย่อนและห้อยชัดเจนเลย
แต่คราวนี้ มันมีร้อยไหมและ Ulthera ช่วยหน้าเลยกระชับขึ้นมาได้อีก ชอบมากๆค่ะ

ผลพลอยได้หลังทำ Ulthera ที่ชัดเจนเลยก็คือ ริ้วรอยใต้ตาวาฟูขึ้น ตามที่คุณหมอว่าเลยค่ะ
ด้วยความที่ริ้วรอยเก่ามันลึกและเยอะมาก เพราะชอบขยี้ตา และล้างมาสคาร่าผิดวิธี
หลังทำมันฟูขึ้น ตื้นขึ้น แต่ไมได้หายไปจนหมด แต่ฟูขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ
แต่ยังคงต้องพึ่ง Botox ใต้ตาเพิ่ม ถ้าอยากลบเลือนริ้วรอยใต้ตาให้หายไปเลย

สีผิวสีต่างกัน เพราะสภาพแสงต่างกันนะคะ ไม่ใช่ขาวขึ้น

ผลพลอยได้อีกอย่างคือ ผิวดูดีขึ้น จนมีหลายคนทัก ว่าช่วงนี้ผิวหน้าดูดี ดูละเอียดขึ้นจัง
อันนี้ส่วนตัว รู้สึกว่าผิวหน้าไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แต่ละเอียดขึ้นรึเปล่า ไม่แน่ใจ
แต่คนที่ทักคือคนที่ไม่เจอกันนานๆมากกว่า ซึ่งเท่าที่ทราบ การร้อยไหมและ Ulthera
มันจะเข้าไปกระตุ้นผิว ให้ผิวเราสร้างคอลลาเจนดีขึ้น ซึ่งก็มีส่วนที่ทำให้ผิวเราดูดีขึ้นค่ะ

เดี๋ยววาจะมาอัพเดทเรื่อยๆนะคะ ดูว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างหรือไม่หลังจากนี้ค่ะ

ราคาเท่าไหร่ ?

1. Ulthera แก้ม = 55,000 บาท
2. Botox ซ้าย 20 unit ขวา 40 unit (199 บาท/unit) = 11,940 บาท
3. ร้อยไหมละลาย 10 เส้น (990 บาท/เส้น) = 9900 บาท
4. Filler จมูก 7 unit (1490 บาท/unit) = 10,430 บาท

All Sponser by The Klinique (เดอะ คลีนิกซ์)

แพทย์ผู้ดูแล นพ.อภิรุจ ทองวัฒน์ (คุณหมอเติ้ล)

* - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - *

Create Date : 18 เมษายน 2555
Last Update : 8 มีนาคม 2556 20:19:30 น.		28 comments
Counter : 91280 Pageviews.
Share Tweet