:: รีวิว vaser ดูดไขมัน หน้าท้อง ::
Vaser คืออะไร ?
การทำ Vaser ก็คือการดูดไขมันนั่นเองค่ะ ตัว Vaser นั้นเป็นการทำให้ถุงไขมันสั่นจนแตก แล้วดูดไขมันออกมาบางส่วน ไม่สามารถฆ่าเซลล์ต้นกำเนิดไขมันได้ทั้งหมด ดังนั้นเมื่อเรารับประทานอาหารเข้าไปก็ เซลล์ต้นกำเนิดไขมันก็จะสร้างและแบ่งตัว กลับมาใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
ตอนนี้มีเทคโนโลยี่ใหม่ ชื่อว่า Vaser Plasma HD คือจะมีเป็นเลเซอร์เข้าไปจี้ให้เซลล์ ต้นกำเนิดไขมันให้ตาย ไขมันจะไม่ก่อตัวอีก ถ้าควบคุมอาหารการกินดีๆ ออกกำลังกายบ้าง ส่วนที่ได้ทำ Vaser Plasma HD ไป อาจจะไม่มีไขมันสะสม คงทนถาวรได้ถึง 10 ปีเลยทีเดียว
เป็นการซึ่งทาง The Klinique ติดต่อให้วาไปทดลองทำดูค่ะ ตอนแรก ก็กล้าๆ กลัวๆ เพราะมันก็คือการดูดไขมันนั่นแหล่ะ ได้ยินแล้ว เราก็รู้สึกว่า มันเหมือนผ่าตัดใหญ่ยังไงไม่รู้ แต่พอได้ข้อมูลมาว่า ทำเสร็จแล้วเห็นผลทันที พักฟื้นน้อยมาก ก็เริ่มสนใจ เพราะวาเอง มีจุดที่ควรทำเยอะไปหมด เรียกว่า ไขมันสะสมทั้งตัว (วาหนัก 70-71 สูง 167 เซนนะคะ) เคยผอมแบบ หนัก 55 กิโลกรัม มันก็ยังเห็นไขมันเป็นก้อนๆอยู่ในหลายๆจุด โดยเฉพาะ ต้นขา และ หน้าท้อง เลยคิดว่า สิ่งนี้ น่าจะทำให้เราได้กำจัดเสี้ยนหนามไขมัน ออกไปจากชีวิต อย่างรวดเร็วทันใจซักที ให้ออกกำลังกาย ก็ไม่ลดไวขนาดนี้แน่นอน
จะทำ Vaser ส่วนไหนดี ?
การทำ Vaser นั้น จริงๆสามารถทำได้หลายจุด เกือบทั่วทั้งตัว ทั้งแต่ แก้ม กราม ใต้คาง(เหนียง) โหนกหลังต้นคอ ต้นแขน หน้าอก หลัง เอว สะโพก ต้นขาด้านนอก ด้านใน เหนือหัวเข่า
แต่ความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าจะต้องเจ็บตัวทำ และในเรื่องของราคา คงทำทั้งหมดไม่ไหว คงต้องเลือกส่วนที่เรารู้สึกไม่ชอบใจมากที่สุดก่อน อย่างวาเอง วาไม่ลังเลเลย ที่จะเลือก ทำในส่วนของ หน้าท้อง เพราะเป็นปัญหากวนใจวามาตลอด เมื่อก่อนเคยแขม่วพุง แล้วแอบยุบ ได้บ้าง แต่ปี สองปี มานี่ อายุมากขึ้น ไม่ออกกำลังกาย แขม่วพุงก็ไม่ได้แล้ว พุงหลามมาก ใส่เสื้อผ้าอะไรก็ไม่สวย เลยเลือกที่จะทำในส่วนนี้ ก่อนทำ Vaser 1 สัปดาห์
พอตกลงทำนัดวันเรียบร้อย วาก็มีเวลาทำใจอีกราวๆ 1 อาทิตย์ บางวันก็กล้า บางวันก็กลัว แต่ยังไงก็อยากลองทำ ก็พยายามคิดถึงผลลัพท์ ที่คุณหมอบอก ว่าท้องเราจะแบนเลยนะ ทำแล้วเห็นผลทันที เราก็พยายามนึกถึงแต่ว่า เราจะใส่เสื้อผ้าสวยขึ้น ไม่ต้องแขม่วอีกต่อไป คิดแต่แบบนี้ตลอด สร้างกำลังใจให้ตัวเอง ก็ทำให้เราสบายใจขึ้น ก่อนทำช่วงนี้่ ควรงดดื่มแอลกอฮอลล์ทุกชนิด ปกติวาไม่ดื่มแอลกอฮอลล์อยู่แล้ว เลยไม่มีปัญหา
27 มีนาคม 2555 ถึงวันที่ต้องขึ้นเขียง  คำเตือน * รูปภาพต่อไปนี้อาจจะมีภาพ Before&After ที่ไม่ค่อยน่ามองเท่าไหร่ ขอให้เตรียมใจรับชม และขออภัยมา ณโอกาสนี้ ด้วยนะคะ*
งดอาหาร 4-6 ชั่วโมงก่อนทำ มีนัดทำ 18.30 น. วาก็ทานอาหารตอน 12.00 เป๊ะ แล้วก็หยุด ส่วนน้ำไม่แน่ใจว่าต้องงดรึเปล่า เลยมาดื่มน้ำครั้งสุดท้าย 14.00 น. แล้วก็งดน้ำด้วย
18.30 เดินทางถึง The Klinique สาขาสยาม ตามนัด มาถึงเค้าก็พาไปที่ห้องเลย เข้าไปปุ๊บ จนท. ก็ให้เปลี่ยนเสื้อผ้า ท่อนบนเหลือแต่ชุดชั้นใน แล้วมีเสื้อเกาะอกให้ใส่ทับ เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ คุณหมอก็จะเข้ามาคุย ทำความเข้าใจว่า vaser คืออะไร ทำยังไง จะเกิดผลอย่างไร หลังทำต้องทำตัวอย่างไร คือคุณหมอพูดเยอะ คุยนานมาก มีอะไรจะถามก็ถามได้เลยทุกอย่าง คุณหมอบอกว่า ตรงหน้าท้อง เจ็บที่สุด เพราะเส้นปราสาทเยอะ ไขมันที่ออกมา จะมีเลือดปนออกมาเยอะกว่าทำส่วนอื่นๆ
คุณหมอจะจับบริเวณที่เราจะทำ ก็คือหน้าท้อง ซึ่งหลังจากที่คุณหมอจับๆ ท้องรอบๆแล้ว คุณหมอก็บอกกับวาว่า " ท้องคุณ ทำเสร็จแล้วจะไม่แบนนะ เพราะไขมันที่เอาออกได้ มีแค่นี้เอง " แล้วคุณหมอก็จับก้อนไขมันตรงเอว ขึ้นมาให้ดู ถ้านับเป็นเหมือนเป็นห่วงยางรอบเอว ก็ได้เส้นผ่านศูนย์กลางแค่ 1 นิ้วหน่อยๆ เท่านั้น ทั้งๆที่วาจับห่วงไขมันได้ราวๆ 2 นิ้วด้วยซ้ำ
" ไม่เคยออกกำลังกายเลยใช่ไหม ผนังกล้ามเนื้อท้องของคุณไม่แข็งแรง มันเลยรับแรงกระเพราะ กับลำไส้ไม่ไหว มันเลยป่องออกมา เวลากินอิ่มๆท้องก็จะขยายมาก "
รูปจำลองนี้ วาวาดขึ้น ตามจินตนาการ ที่คุณหมอบอกนะคะ เป็นเหมือน วายืนหันข้าง นะคะ ที่คุณหมอบอกว่า ผนังท้องไม่แข็งแรง ก็คือ ตรงสีเขียวๆนั่นเองค่ะ โห คุณหมอพูดยังกับตาเห็น หรืออยู่บ้านเดียวกันมาตั้งแต่เกิด เพราะท้องวาเป็นแบบนั้นจริงๆค่ะ ตื่นเช้าท้องไม่ป่อง ก็เกือบๆจะแบน แต่มีป่องๆรอบๆสะดือ พอกินข้าวเท่านั้นล่ะ พุงใหญ่มากกก คุณหมอทำมือให้ดู เห็นภาพมากเลย ว่าผนังท้องวาไม่มีแรง เลยดันออกมา มันไม่ใช่ไขมันทั้งหมด
วันนี้ถ้า vaser ไปเสร็จแล้ว จะลดไปประมาณนึง แต่ไม่แบนเหมือนคนอื่น แน่นอน แล้ววาต้องไปออกกำลังกายหน้าท้องของวาเอง หลังจากทำอีกที สรุปแล้ววาก็ยอมรับ และทำความเข้าใจกับผลลัพท์ทั้งหมดเรียบร้อย หมดคำถามก็เตรียมตัวทำกันเลย คุณหมอก็เอาปากกามาวาดๆๆๆ ที่พุง ว่าจะทำอะไรตรงไหนบ้าง
ตอนนั้น คุณหมอถามว่า กลัวไหม วาก็บอกไปว่า นิดหน่อย ตอนนี้ปวดหัวพอสมควร ปกติถ้าเครียดจะปวดหัว แต่ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ปวดหัวเพราะเครียด หรือ ปวดหัวเพราะหิวข้าว คุณหมอเลยบอกว่า งั้นเดี๋ยวจะให้กินยาคลายกังวล จะได้สบายขึ้น
* * ยานี้จะทำให้หลับ แล้วก็อาจจะมีอาการ มึนฤทธิ์ยาพอสมควร ควรมีคนในครอบครัว หรือเพื่อนสนิท ที่สามารถพาเรากลับบ้านได้โดยสวัสดิภาพมาด้วย * *
คุณหมอให้ยาลดบวม แก้ปวด คลายกังวลอะไรมาให้กินทีเดียวเลย พอกินเข้าไปปุ๊บ วาก็นั่งรออยู่แปปนึง ไม่ถึง 5 นาที หายปวดหัว และเริ่มง่วง เหมือนจะหลับซะให้ได้เลย เริ่มเบลอมากๆๆแล้ว พยาบาลก็จัดแจงให้นอน บนเตียง วาก็พูดไปว่า " ทำไมมันง่วงไวจังคะ " พยาบาลบอกว่า " อาจจะเพราะไม่ไ่ด้ทานแอลกอฮอลล์ค่ะ เลยง่วงเร็ว " วาจำได้ว่า ยื่นโทรศัพท์ให้พยาบาล แล้วบอกว่า " ถ่ายรูปให้หน่อยค่ะ " เค้าก็ถ่ายเป็นรูปนี้มา

แล้วก็ได้ยินคุณหมอพูดว่า จะวาดเส้นเพิ่มนิดหน่อย ถ้าง่วงก็หลับได้เลยนะครับ นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่จำได้ ความทรงจำวาหมดลงที่ตรงนั้นค่ะ ต่อจากนั้นคุณหมอทำอะไร วาไม่รู้เรื่องเลยอ่ะ หลับ คร่อกกกกก ถ้าถามว่า ทำ vaser เจ็บไหม?
ด้วยประสบการณ์ส่วนตัว คือ วาหลับ ไม่รู้เรื่องอะไรแม้แต่น้อยเลยค่ะ ไม่เจ็บเลยอ่ะ ไม่รู้เรื่องเลย อาจจะเพราะ วากินยาให้หลับ และมีคนพากลับบ้าน เลยหลับกันแบบจัดเต็ม วาก็เล่าใครต่อใครว่า สบ๊าย หลับไม่รู้เรื่องเลย
แต่พี่น้ำตาล (bemynails) ก็ทำ vaser เหมือนกัน ไปทำทีหลังวาราวๆ 4-5 วัน กินยาเหมือนกัน กลับไม่หลับเลย นอนคุยกับหมอเฉยเลย เล่าให้ฟังเลย ว่าคุณหมอทำอะไรกับพุงเราบ้าง วาก็เลยได้รู้จากพี่น้ำตาลนี่แหล่ะ ว่า วิธีทำคือ
ฉีดยาชา แล้วก็เจาะตรง บิกินี่ไลน์ แล้วก็ เอายาชาผสมน้ำเกลือใส่ลงไปในท้องเรา เสร็จแล้วก็เอา เลเซอร์ เข้าไปจี้ ให้ก้อนไขมันสลาย อารมณ์คงเหมือน เนยละลาย เมื่อถูกความร้อน เสร็จแล้วก็ เอาเครื่องมือเหมือนหลอด ดูดไขมันออกมา เป็นอันเสร็จ ใช้เวลาราวๆ 1 ชั่วโมงกว่าๆ
1 ชั่วโมงกว่าๆผ่านไป ไขมันออกจากร่างเราแล้วววววว
หลังทำเสร็จ วาก็ยังไม่ได้สติค่ะ ไม่รู้เรื่องเลย ก็เป็นคนที่ไปกับเรานั่นล่ะ ที่จะต้องรับฟัง เกี่ยวกับข้อห้ามต่างๆ แล้วก็ รับฟังเกี่ยวกับเรื่องยา แก้ปวด แก้บวม แก้ช่ำ ที่ให้มากินเยอะมาก แล้วก็กลับบ้านได้เลยทันที ช่วงนี้มีวีระกรรมเยอะมากๆ ทั้งโทรหาแม่ เล่านั่นนี่ ทั้งบอกทาง เดินวนในสยามอย่างคล่องแคล่ว ทั้งไม่มี Taxi เลยต้องขึ้นรถเมล์ เดินแบบเมาๆ แต่พูดคุยได้ปกติ แต่ก็มีอยู่ๆก็พูดว่า วามาตรงนี้ได้ยังไง ตลอดเวลา ทั้งหมดทั้งมวล มารับรู้ ตอนเช้าอีกวันทั้งนั้น พูดอะไรไปกับใคร ไม่รู้เรื่องเลย มึน เบลอ ง่วง หลับ คร่อกกก แถมรูป After นี้ก็ มาอยู่ในมือถือวาได้ไงไม่รู้ค่ะ ทำเสร็จใหม่ๆเลย ออกมาเป็นแบบนี้ ท้องเหี่ยวเลย

มีฉีดน้ำเกลือเข้าไปราวๆ 800cc ไขมันที่ดูดออกมาได้จุดละ 300cc รวม 2 จุดก็ 600cc ค่ะ เป็นที่น่าเสียดายมาก ที่วาไม่มีสติเลย แล้วลืมบอกพยาบาลว่าให้ช่วยถ่ายรูปกระปุกไขมันให้ด้วย เลยไม่เห็นกับตา แต่มีการจดข้อมูลเอาไว้ในใบรายงานแพทย์ค่ะ วาโทรไปถามทีหลัง เช้าวันที่ 28 มีนาคม 2555
ลุกไม่ไหว เจ็บเกรงท้องมาก ปวดใกล้ๆแผลด้านขวา ตื่นมาพร้อมกับคำพูดที่ว่า วากลับมานี่ได้ยังไง เมื่อวานไม่รู้เรื่องเลย ฟังเค้าเล่าก็ฮามาก หลับยาวได้อีก รู้แต่ตื่นมา ท้องก็เปลี่ยนไป มันเสียวท้องแปร๊บๆ และเจ็บประมาณนึง ลุกไม่ไหว ไม่ชิน มีผ้าพันท้องอยู่ด้วย อะไรหว่า มึน งง ไปหมด ไม่รู้เรื่องเลย
ก็พยายามจะลุกไปอาบน้ำ ล้างหน้าเพราะเมื่อวาน หลับเหมือนตายมาก แถมนอนตะแคงขวาอีกต่างหาก ตื่นมาเจ็บเลย พอแกะผ้าพันออก ก็รู้เลยว่า พลาด! เพราะ มีรอยฟกช้ำ เกิดขึ้นตรงข้างๆแผลด้านขวา น่าจะเป็นเพราะวา นอนตะแคงทับมัน เพราะอีกข้างไม่เจ็บ และไม่ช้ำแบบนี้ อ่อ สีขาวๆที่เห็นคือ แป้งนะคะ วาแอบคัน เจ้าผ้ารัดพุง ตื่นมาแดงเถิอก ทั้งช้ำ ทั้งคัน เอาแป้งทาก็ดีขึ้น
* ผ่านไป 6 วันรอยช้ำก็หายไปจนหมดนะคะ วาทาเจลกันช้ำตลอดด้วยจ้า *
หลังทำ vaser ควรทำตัวอย่างไรบ้าง
1. หลังทำ vaser วาคิดว่าควรมีเวลาพักซัก 2-3 วันนะคะ วาทำมืดๆ วันอังคาร วันพุธลุกไม่ไหว วันพฤหัส ไปทำงานก็นั่งยาก ปวดเสียวท้องพอสมควร วันศุกร์ก็หยุดอีกวันไม่ไหวจริงๆ แต่วันเสาร์ วาก็นั่งรถไปปากช่อง ไปเชงเม้ง แบบทุลักทุเล แต่ก็พอไปไหว มีกระเทือนแผลหน่อยๆ มาโอเคจริงๆก็คือ วันจันทร์ ที่ไปทำงาน แล้วพอไหวขึ้นมาบ้างแล้ว ที่ต้องใส่ผ้ารัดเอาไว้ตลอด เพราะจะทำให้ โพรงที่เกิดขึ้น ใต้ผิวหลังดูดไขมันออกไปติดกันไวขึ้น ถ้าไม่รัดไว้อาจจะมีน้ำมาแทนที่ แล้วอาจจะบวมกว่าเดิมได้ค่ะ 2. จะต้องใส่ผ้ารัดหน้าท้องตลอด 24 ชม. เป็นเวลา 1 เดือน แกะได้ตอนอาบน้ำ และเมื่อ ครบ 1 เดือนแล้ว จะต้องใส่ผ้ารัดหน้าท้องต่อไปอีก 2 อาทิตย์ โดยเลือกว่า จะใส่เฉพาะ ตอนกลางวัน หรือเฉพาะ ตอนกลางคืน 3. ในช่วงก่อนตัดไหม ต้องล้างแผลทุกวัน โดยการล้างเองที่บ้าน หรือไปล้างแผล ได้ที่ The Klinique ทุกสาขา วาล้างที่คลีนิค 2 ครั้งนอกนั้นล้างเองค่ะ 
อาการทั่วไปหลังทำ vaser
วามีอาการหลักๆคือ ปวดเกร็งหน้าท้อง เวลาลุกนั่ง หรือ นอน เพราะกล้ามเนื้อท้องจะขยับ จะแอบทำตัวลำบากนิดนึง 4 วันแรก ค่อนข้างเจ็บและทรมาน มันไม่ชินเท่าไหร่ และยังบวมอยู่ พอผ่านไปซัก 1 อาทิตย์ก็จะดีขึ้นค่ะ ทานข้าวได้น้อยลงมาก เพราะผ้ารัดท้องเอาไว้ ทำให้เราอิ่มไวกว่าเดิม มีการปวดบวมใกล้แผลในวันแรกๆ แล้วก็หายไป แต่มีอาการเสียวแปร๊บๆเหมือนท้องโหวงๆ อยู่ตลอด น่าจะเพราะข้างในยังไม่เข้าที่เท่าไหร่ ผ่านมาราวๆ 1 สัปดาห์ เริ่มลงตัวแล้ว ก็ถ่ายรูป เทียบก่อนทำหลังทำนิดนึงค่ะ
ในรูปที่ถ่ายไว้ก่อนทำคือ ก่อนทำ 2 วัน หลังทำคือ หลังทำ ราวๆ 6 วันนะคะ จะเห็นได้ว่า มันไม่แบนเหมือนที่คุณหมอว่าจริงๆด้วยค่ะ แต่ผลออกมาก็ถือว่าพอใจ เพราะถ้าไปออกกำลังกายเพิ่ม สร้างกล้ามเนื้อให้ท้องแล้ว ท้องเราก็จะแบนได้กว่านี้อีกหน่อย ตอนนี้ยังออกกำลังกายไม่ได้ ก็ควบคุมอาหารไปพลางๆก่อนค่ะ ซึ่งปกติก็ต้องรัดท้องเอาไว้ตลอด เวลารัดท้องไว้ มันก็จะถูกบีบลงอีกนิดนึงค่ะ
 พร้อมผ้ารัดพุง
พอเป็นแบบนี้เลยตั้งใจว่าจะรัดต่อไปเรื่อยๆ เพราะมันทำให้เรากินน้อยลงด้วย จากที่เคยทานข้าว 1 จานใหญ่ๆ Buffet เป็นประจำ ก็ไม่เคยอิ่ม เพราะท้องขยายเรื่อยๆ ก็เลยกลายเป็นกินข้าวได้แค่ ครึ่งจาน แล้วก็ต้องพอ เพราะผ้ามันจะแน่นขึ้น เป็นผลพลอยได้ ที่เราจะทานอาหารได้น้อยลง (^^)
ข้อห้ามหลักๆ หลังทำ vaser มีอะไรบ้าง
1. ห้ามยกของหนัก ห้ามออกกำลังกายหนัก ภายใน 2 สัปดาห์แรก 2. ห้ามทานของดอง ของเค็ม ผงชูรส เพราะจะทำให้บวมน้ำ 3. ห้ามให้แผลโดนน้ำเด็ดขาด 10 วัน ขึ้นไปก็ไปตัดไหม แผลถึงจะโดนน้ำได้ค่ะ  ผ่านไป 12 วัน คือวันที่ 8/4/2555 วาก็ไปตัดไหมมาเรียบร้อยค่ะ หลังตัดไหมห้ามโดนน้ำ 1 วัน วันต่อไปก็อาบน้ำ แผลโดนน้ำได้ตามปกติแล้ว แล้วก็ทาเจลหลังตัดไหมต่ออีกซักพัก ชีวิตก็เริ่มปกติมากขึ้น เหลือแค่อาการเสียวท้องแปร๊บๆนิดหน่อย ซึ่งคิดว่า น่าจะเป็นไปซักพัก จนกว่าเนื้อด้านในจะติดกันสนิทดีค่ะ เดี๋ยวครบ 1 เดือนจะมาอัพเดทอีกครั้งนึงค่ะ ราคาเท่าไหร่ ? วาทำที่ The Klinique ช่วงนี้มีโปรโมชั่นอยู่ ซึ่งการทำ vaser นี้คิดเป็นจุดนะคะ โปรโมชั่น vaser lipo (vaser ธรรมดา) ราคาจุดละ 19,900 บาท ถ้าเป็นแบบ vaser plasma HD แบบที่วาทำ ราคาจุดละ 19,900+10,000 บาท
วาทำ 2 จุดราคาอยู่ที่ (19,900+10,000) x 2 = 59,800 บาท มีโปรโมชั่นอีกว่า ทำ 3 จุด แถม 1 จุด ทำ 6 จุด แถม 5 จุด สามารถแชร์กับเพื่อนได้ เช่น ทำหน้าท้องแบบวาเลย 2 จุด ไป 2 คน ก็เท่ากับ 4 จุด จะเข้าโปร 3 แถม 1 ก็คิดง่ายๆ คือ 2 คนในราคา 3 จุด = 89,700 / 2 คน ก็ตกคนละ 44,850 บาทนั่นเองค่ะ
แต่ละคนอาจจะมีปัญหาไม่เท่ากัน ตรงไหนยังไง คิดเป็นกี่จุด สอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ Facebook ของ The Klinique ได้เลยค่ะ * - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - *
UPDATE 31/10/55  หน้านี้ มีคนสนใจเยอะมากกกกกกก มีคนไปทำมาเยอะมาก มาเล่าสู่กันฟัง ของวาอาจจะไม่เหมือนคนอื่น แต่คำถามของหลายๆคนคือ มันยุบตอนเดือนไหน ผ่านไป 3-4 เดือนเป็นยังไง วามีถ่ายรูปไว้ แต่ยังไม่ได้เขียนซักที ก็มาเล่าให้ฟังสั้นๆใน Blog อัพเดทนะคะ วาไม่ได้ตอบอะไร ขออภัยด้วยนะคะ เพราะวาก็ทำแค่ที่เดียว วาไม่รู้ว่า ที่อื่นเป็นยังไง วาทำที่เดียว ผลออกมาก็เป็นประสบการณ์ตรง วาเลยบอกได้แค่นี้จริงๆนะค๊า ขออภัย หากตอบได้ไม่ครบทุกคนด้วยค่า 
รูปนี้ ถ่ายรูปในท่านั่งนะคะ จะมีก้อนไขมันกองๆแบบนี้ คนที่มีจะรู้ดี 555 หลังทำ คุณหมอบอกว่า วาจะไม่แบน เพราะไม่ออกกำลัง ก็เลยยังมีห้อยๆ แต่น้อยลง แต่ถ้า ยืนก็จะดูป่องน้องลงนะคะ วาน้ำหนักลง เพราะกินอะไรได้น้อยลงด้วยในช่วงแรก กินยาคุมน้ำหนักอยู่หลังทำได้ 3 เดือน สัดส่วนเลยลดลง พอหยุดยา ก็ยังไม่เพิ่มไปไหนนะคะ
หลังทำ vaser 4 เดือน ขออนุญาต ทำภาพนวล กันอุจาดนะคะ 555
ตอนนี้ (ผ่านมา 7 เดือน) น้ำหนัก กลับมาขึ้นอีกรอบเพราะเที่ยว ต่างจังหวัด ต่างประเทศ เที่ยวกระจาย กินกระจุย หน้าท้องก็มีขยายบ้าง ตามสภาพ แต่คิดว่า เรื่องไขมันสะสม ยังไม่ได้มีกลับมานะคะ เช้าตรู่ ตื่นมา ท้องวาก็ถือว่า ยังแบนเท่ากับเดือนที่ 4 ที่ 5 หลังทำอยู่ แต่มันไปอ้วนขึ้น ออกไหล่ ต้นแขน ต้นขาแทน คือถ้าเราไม่คุมมันก็อ้วนขึ้นได้ แต่ไขมัน ไม่กลับมาตรงที่ทำ vaser นั่นเองจ้า! ไว้มีอะไร อัพเดท จะมาอัพเพิ่มอีกทีคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบ *
* - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - * แพทย์ผู้ดูแล นพ.ศุภกิจ ล้อกิตติกูล * - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - *
Create Date : 10 เมษายน 2555 |
Last Update : 8 มีนาคม 2556 20:24:47 น. |
|
174 comments
|
Counter : 163962 Pageviews. |
 |
|