โยคะรักษาโรค  : ไมเกรน

ปัจจุบันอาการปวดหัวไมเกรนเป็นกันมาก โดยส่งผลกระทบให้กับผู้หญิงประมาณ 75% ซึ่งเป็นอาการปวดหัวที่เกี่ยวกับหลอดเลือด ซึ่งเกิดจากการอักเสบ และ การระคายเคืองของปลายเส้นประสาท ที่มีการขยายตัวของหลอดเลือดในสมอง ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดเกิดที่ศรีษะด้านเดียวหรือเป็นพร้อมกันทั้งสองข้าง รอบดวงตา บนใบหน้า โพรงจมูก หรือบริเวณท้ายทอย หรืออาจมีอาการคลื่นไส้, อาเจียน, มีความรู้สึกไวต่อแสงและเสียง, สายตามองแคบเข้าหรือเป็นจุดบอด, มึนศรีษะ อาการ ซึ่งอาการเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้เป็นไมเกรน ซึ่งอาการปวดอาจเกิดรุนแรงขึ้นและทำให้ร่างกายอ่อนเพลียได้ภายใน 4-72 ชั่วโมงหากไม่ได้รับการรักษา

ในปัจจุบันนอกจากการใช้ยารักษาโรคแล้ว… การบำบัดด้วยวิธีการโยคะก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งการบำบัดด้วยโยคะสำหรับผู้เป็นไมเกรนโดยทั่วไปแล้วจะมุ่งเน้นไปที่การป้องกันการเกิดอาการปวด รวมไปถึงการลดความตึงเครียด ซึ่งเราสามารถฝึกโยคะได้เมื่อมีอาการไมเกรนเริ่มต้น หรือระหว่างที่จิตใจถูกรบกวน และข้อสำคัญคือ ไม่ควรฝึกโยคะหากมีอาการปวดอย่างรุนแรง ซึ่งท่าโยคะต่อไปนี้ คือท่าสำหรับฝึกโยคะอย่างง่ายๆ เฉพาะท่ายืนและนั่ง  ซึ่งสามารถทำได้ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน

ท่ามือถึงเท้า (Pada Hastasana)

            ท่ามือถึงเท้าให้ประโยชน์มากมายเหมือนกับท่าเหยียดก้มไปด้านหน้า(Forward Bend) พับเอว, ให้ความยืดหยุ่นไปที่กระดูกสันหลัง และยืดกล้ามเนื้อขา โดยเฉพาะเส้นเอ็น

ท่าตรีโกณ (Trikonasana)

ในศาสตร์ของฮินดู สามเหลี่ยมคือสัญลักษณ์ที่มีอำนาจสำหรับพระเจ้า และยังพบบ่อยในยันตราและมันดาลา(The Yantras and Mandalas) สำหรับการทำสมาธิ

ท่ากงล้อ (Chakrasana)

เป็นท่าที่เกิดจากพลังงานสองส่วนที่แผ่ออกมาจากศูนย์กลางของคุณ ท่าพื้นฐานนี้เป็นการเหยียดยืดที่ดีเยี่ยมซึ่งเป็นการดึงพลังงานหนึ่งขึ้นจากช่องท้องและปล่อยออกไปตามแขนของคุณ ขณะที่พลังงานอีกส่วนไหลลงไปสู่ขาด้านล่าง

ท่าคีม (Paschimothanasana)

ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ, เหยียดเอ็น ไหล่ และกระดูกสันหลังของคุณ, บรรเทาการตึง ท่านี้ช่วยพัฒนาการฝึกและรวบรวมความสนใจของคุณ

ท่าบิดสันหลัง (Marichyasana)

มีประโยชน์กับอวัยวะช่องท้องและกระดูกสันหลัง หากคุณมีอาการบาดเจ็บที่หลังหรือคออย่างรุนแรงไม่อนุญาตให้คุณฝึก หากต้องการฝึกควรอยู่ภายใต้ความควบคุมของครูผู้สอน

ข้อมูลโดย: โยคะสารัตถะ