กลับมาพบกันอีกแล้วกับความเป็นที่สุดในโลกที่มีอยู่บนโลกกลมๆใบนี้ของเรา ทุกสิ่งอย่างล้วนแล้วแต่ต้องมีความเป็นที่สุดในแต่ละชนิดแต่ละประเภท โดยเฉพาะคนเราที่มองหาความเป็นที่สุดในโลกอยู่เสมอ ในธรรมชาติเองก็มีความเป็นที่สุดอยู่ในตัวและคนเราก็เสาะแสวงหาข้อมูลนั้นๆมาเก็บรวบรวมเอาไว้เป็นความรู้ให้เราได้ศึกษากัน
และเรื่องราวของเราในวันนี้จะพาทุกท่านไปชมทะเลสาบ แต่ว่าไม่ใช่ทะเลสาบธรรมดาทั่วไปน่ะครับ หากแต่ว่าทะเลสาบแห่งนี้มีความพิเศษและเป็นที่สุดในโลกอยู่ในตัว นั่นคือมันเป็น”ทะเสาบที่เค็มที่สุดในโลก“นั่นเอง ทะเลสาบแห่งนี้มีชื่อว่า ทะเลเดดซี หรือเรียกกันอีกชื่อว่า ทะเลมรณะ ส่วนชื่อภาษาอังกฤษนั้นเรียกว่า Dead Sea ทะเลสาบเดดซีเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่มีความเข้มข้นของเกลือสูงมากๆ เรียกได้ว่าเค็มกว่าน้ำทะเลโดยทั่วไปถึง 4 เท่า น้ำในทะเลสาบเดดซีนี้มีเกลือละลายอยู่ในน้ำมากถึง 25% ขณะที่ทะเลทั่วไปมีปริมาณเกลืออยู่เพียงแค่ 4% – 6% เท่านั้น นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ได้ชื่อว่า ทะเลสาบที่เค็มที่สุดในโลก นั่นเอง
ที่ตั้งของทะเลสาบแห่งนี้อยู่ระหว่างเขตจอร์แดนและอิสราเอลโดยอยู่ระหว่างเทือกเขายูเดียที่ด้านเหนือและที่ราบสูงทรานสจอร์แดนที่ด้านตะวันออก เป็นทะเลที่มีระดับน้ำอยู่ต่ำที่สุดในบรรดาทะเลที่มีอยู่บนโลกหรือเป็นที่อยู่ที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลมากที่สุดในโลก มองกันง่ายๆคืออยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 417.5 เมตร มีความยาว 76 กิโลเมตร กว้างถึง 18 กิโลเมตร มีจุดที่ลึกที่สุดคือ 400 เมตร
ด้วยความเค็มของน้ำในทะเลสาบแห่งนี้นี่เองที่ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้เลยแม้แต่อย่างเดียว ยกเว้นพวกแบคทีเรียและพวกพืชขนาดเล็กบางชนิดเท่านั้นที่สามารถอยู่รอดในสภาพของน้ำเค็มที่สุดในโลกแห่งนี้ได้ และด้วยที่ว่ามันไม่สามารถมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้นี่เองทำให้ทะเลาสาบแห่งนี้ได้ชื่อว่า ”ทะเลแห่งความตาย” ลองนึกภาพดูน่ะครับ ในน้ำที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆเลยแม้กระทั่งปลาที่เราคุ้นเคยกันถ้าลงไปดูข้างล่างน่าจะวังเวงไม่น้อยเลย
ทะเลสาบเดดซีแห่งนี้ยังมีความพิเศาอีกอย่างหนึ่งที่น่าไปสัมผัสมากๆนั่นก็คือ เมื่อเราลงไปเล่นน้ำในทะเลแห่งนี้เราจะไม่จมน้ำถึงแม้ว่าจะนอนนิ่งอยู่เฉยๆ ก็ตาม สาเหตุที่เราไม่จมนั้นก็เพราะว่า น้ำในทะเลสาบเดดซีนั้นมีเกลือละลายอยู่ในปริมาณที่เข้มข้นมากถึง 25% อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว สาเหตุนนี้นี่เองที่ทำให้มันมีความหนาแน่นขอน้ำมากเป็นพิเศษ ดังนั้นเมื่อเราลงไปในน้ำของทะเลสาบเดดซีจึงไม่มีวันที่จะจมลงไปได้ ถึงคุณจะอ้วนหนือมีน้ำหนักมากแค่ไหนก็ตาม เพราะว่าความหนาแน่นของตัวเราก็น้อยกว่าน้ำในทะเลสาบอยู่ดี จึงไม่มีวันจมนั่นเอง เป็นหลักทางวิทยาศาสตร์น่ะครับ ลองไปหาข้อมูลกันดูเกี่ยวกับความหนาแน่น
ทิ้งท้ายนิดหนึ่งน่ะครับ สาเหตุที่เรียกทะเลสาบแห่งนี้ว่าเดดซีนั้นก็เพราะว่าทะเลสาบนี้ไม่มีทางออกสู่ทะเลอื่นเลย มีเพียงแม่น้ำจอร์แดนที่ไหลลงมาสู่ทะเลสาบแห่งนี้เท่านั้น เมื่อวันเวลาผ่านไปน้ำในทะเลนี้ระเหยขึ้นทำให้เกลือในทะเลสาบเดดซีตกค้างอยู่ในบริเวณเดิมน้ำในทะเลสาบเดดซีจึงมีความเค็มมากกว่าน้ำทะเลปกติ ด้วยเหตุที่น้ำมีความเค็มมากจึงทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตชนิดใดอาศัยอยู่ได้ จึงเรียกทะเลสาบนี้ว่า ทะเลสาบเดดซี ซึ่งมีความหมายว่า ทะเลสาบมรณะ นั่นเอง
สำหรับเรื่องราวความเป็นที่สุดในโลกของเราในวันนี้หวังว่าจะเป็นความรู้และเป็นข้อมูลที่ดีสำหรับน้องๆนักศึกษาหรือบุคคลทั่วไปที่แสวงหาความรู้ใหม่ๆน่ะครับ สำหรับคราวหน้าเราจะมีเรื่องราวที่สุดในโลกเรื่องไหนมาฝากกันอีกบ้างนั้นก็ต้องคอยติดตามกันต่อไปครับ
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
The Sightmark Ghost Hunter Night Vision Monocular delivers high quality image and resolution to view any night time scenario. The monocular has a high powered infrared illuminator recommended for use in low-ambient light conditions or total darkness. This monocular can be purchased in a 2x24, 4x50, or 5x60 magnification to fit the users desired operational distance. The Sightmark Ghost Hunter Night Vision Monoculars feature a close observational range of focus, quick power-up and a ¼ inch socket for a tripod or weapons mount. Sightmark products are protected by Sightmark’s Limited Lifetime Warranty. Sightmark-Make Your Mark