คุณเชื่อหรือไม่!.....ว่าในโลกนี้ยังมีผู้ชายสี่ตา.....ม้าสามขา.....หน้ากากหนังมนุษย์ หรือ แม้กระทั่งหัวคนที่ถูกย่อส่วนลงเหลือเพียงแค่ 3 นิ้ว!! หากไม่เชื่อล่ะก็.....พวกเราแนะนำว่าคุณน่าจะลองมาพิสูจน์สิ่งแปลกๆ เหล่านี้ด้วยตาของตนเองที่ พิพิธภัณฑ์ริบลีส์ เชื่อหรือไม่! พัทยา จ.ชลบุรี (Ripley’s Believe It or Not! Museum Pattaya) ดูสักครั้ง
| |
Ripley's Believe It or Not! World of Entertainment Pattaya
ศูนย์รวมความบันเทิงเหนือจินตนาการริมชายหาดพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
|
พิพิธภัณฑ์ริบลีส์ เชื่อหรือไม่! : ตำนานแห่งเรื่องราวสุดพิลึกจากทั่วทุกมุมโลก
พิพิธภัณฑ์ริบลีส์ เชื่อหรือไม่! (Ripley’s Believe It or Not! Museum) คือ พิพิธภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยสิ่งสะสมสุดพิสดารจากทั่วทุกมุมโลกของโรเบิร์ต ริบลีย์ (Robert Ripley) .....โดยแรกเริ่มเดิมทีเมื่อปี ค.ศ.1918 นั้น.....โรเบิร์ต ริบลีย์ยังเป็นเพียงแค่เจ้าของคอลัมน์การ์ตูนกีฬาที่ชื่อ Champs & Chumps ในหนังสือพิมพ์ New York Globe .....ต่อมาในปี ค.ศ.1919 เขาก็ได้เริ่มต้นรวบรวมเรื่องจริงแปลกๆ มาลงในคอลัมน์ดังกล่าวและเปลี่ยนชื่อคอลัมน์เป็น Believe It or Not!.....ภายหลังเมื่อหนังสือพิมพ์ New York Globe ปิดตัวลงในปี ค.ศ.1923 โรเบิร์ต ริบลีย์ก็ได้ตัดสินใจย้ายคอลัมน์ของเขาไปลงในหนังสือพิมพ์ New York Evening Post และเริ่มจ้างนักวิจัยมาเก็บข้อมูลเรื่องราวสุดพิสดารรวมถึงให้ค้นคว้าตามล่าหาความจริงต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องราวนั้นๆ เพื่อนำมาใช้ประกอบในงานเขียนของเขา....จวบจนปี ค.ศ.1930 โรเบิร์ต ริบลีย์ก็ย้ายคอลัมน์ของเขาอีกครั้งไปสู่อ้อมอกของหนังสือพิมพ์ New York American และในที่สุดก็มาอยู่กับ King Features บริษัทซึ่งทำให้คอลัมน์ของเขามีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก
| |
นี่คือ..........ของสะสมสุดพิสดารภายใน พิพิธภัณฑ์ริบลีส์ เชื่อหรือไม่! พัทยา
ภาพที่ 1,4 ปิเอต้าจากถุงกระดาษ ภาพที่ 2 เก้าอี้ยักษ์ ภาพที่ 3 ภาพถ่ายและหุ่นขี้ผึ้ง "เหวง" ชายมีเขา
|
| |
..........หัวมนุษย์ย่อส่วนเหลือ 3 นิ้วของแท้ !! สมบัติแห่งความภาคภูมิใจของชาวอินเดียชิวาโร..........
|
นอกเหนือจากการจ้างนักวิจัยมาเก็บรวบรวมข้อมูลเรื่องราวสุดพิสดารแล้ว โรเบิร์ต ริบลีย์ยังได้ออกเดินทางผจญภัยไปอีก 198 ประเทศทั่วโลกด้วยตนเองเพื่อแสวงหาบุคคลซึ่งมีความสามารถพิเศษ....สัตว์ประหลาดๆ.....ชิ้นงานศิลปะที่แปลกจนเหลือเชื่อ.....รวมถึงเขายังได้ถ่ายภาพ และ เก็บสะสมของที่ระลึกหายากนานาชนิดไว้ใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงสำหรับงานเขียนของเขาด้วย อาทิเช่น ภาพถ่ายของ “เหวง” ชายชาวแมนจูในประเทศจีนซึ่งมีเขายาว 13 นิ้วงอกโผล่ขึ้นมาจากทางด้านหลังของศีรษะ , ซากลูกหมู 2 หัวที่ถูกสตาฟไว้อย่างดี , กระเป๋าถักจากเส้นผมมนุษย์ , “สาวน้อยเหล็กแห่งนูเรมเบิร์ก” เครื่องมือประหารสุดโหดของเยอรมัน , “ชามหัวกะโหลกคาบลี” ชามซึ่งทำขึ้นจากกะโหลกศีรษะจริงๆ ของพระชาวทิเบต , หน้ากากแห่งพิธีร่ายรำของชนเผ่าโบโบ่ – ฟิงก์ , ทวนศักดิ์สิทธิ์ของประมุขเผ่าเมารี เป็นต้น
| |
ภาพซ้าย : โรเบิร์ต ริบลีย์ เคยใช้เครื่องบินรุ่น DC3 แบบนี้ ออกเดินทางสำรวจเรื่องราวแปลกๆ ไปทั่วโลก
ภาพขวา : หญิงชาวอูบันกีในทวีปแอฟริกาจะถูกเจาะริมฝีปากตั้งแต่ยังเด็กเพื่อใส่แผ่นไม้ทรงกลมๆ ลงไป
|
| |
หุ่นขี้ผึ้งชายแห่งโซ่ตรวน และ ตู้เก็บของสะสมหายากภายใน พิพิธภัณฑ์ริบลีส์ เชื่อหรือไม่! พัทยา
|
ในช่วงที่ความนิยมของ Believe It or Not! พุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุด มีผู้อ่านคอลัมน์ของโรเบิร์ต ริบลีย์มากถึง 80 ล้านคน/วัน มีการรวบรวมงานเขียนต่างๆ ในคอลัมน์ของเขาตีพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือรวมเล่ม.....หลังจากนั้น.....โรเบิร์ต ริบลีย์ก็ได้ต่อยอดความสำเร็จของเขาด้วยการนำเอาเรื่องราวของ Ripley’s Believe It or Not! มาจัดเป็นรายการวิทยุ.....สร้างภาพยนตร์ และผลิตรายการชุดทางโทรทัศน์
| |
..........เครื่องมือทรมานของโจรสลัด กับ ใบเบิกทางรูปศีรษะของชนเผ่าในแอฟริกาตะวันตก..........
|
| |
ภาพซ้าย : สร้อยหัวกะโหลกลิงของหมอผีชามัน กับ ปลอกสวมองคชาติของชายชาวเผ่าดาไนแห่งนิวกินี
ภาพขวา : หุ่นขี้ผึ้งนักท่องเที่ยวหญิงชาวยุโรป กับ เกราะโลหะของอัศวินและม้าในศตวรรษที่ 16
|
จุดกำเนิดที่แท้จริงของ พิพิธภัณฑ์ริบลีส์ เชื่อหรือไม่! (Ripley’s Believe It or Not! Museum) เริ่มต้นขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.1933 เมื่อโรเบิร์ต ริบลีย์ได้นำเอาชุดของสะสมส่วนตัวสุดพิสดารออกแสดงต่อหน้าสาธารณชนในงาน Chicago World’s Fair โดยมีการเรียกชื่อซุ้มจัดแสดงของเขาว่า Ripley’s Odditorium (Odditorium มาจากการนำเอาคำว่า Oddity ผนวกเข้ากับคำว่า Auditorium เพื่อสื่อความหมายถึง “ห้องประชุมแห่งความแปลกประหลาดพิสดาร” นั่นเองครับ) ซึ่งในครั้งนั้นมีผู้ให้ความสนใจเข้าชมซุ้มจัดแสดงของเขามากเกินกว่า 2 ล้านคน จนต้องมีการนำเอาเตียงมาจัดเรียงแถวไว้ให้นักท่องเที่ยวซึ่งเป็นลม(เพราะต้องเบียดเสียดยัดเยียดกันเข้าไปในซุ้มจัดแสดง)นอนพักกันเลยทีเดียว
| |
สิ่งของบางอย่างใน พิพิธภัณฑ์ริบลีส์ เชื่อหรือไม่! พัทยา เป็นสมบัติที่มีอยู่เพียงแค่ไม่กี่ชิ้นในโลก
ดังเช่น "หน้ากากหนังมนุษย์" ของชนเผ่าอีโคอิ ประเทศคาเมรูน ชิ้นนี้
|
| |
1. เครื่องรางของหมอผีเผ่าบาซอง ประเทศซาอีร์ 2. หุ่นจำลองเครื่องประหารสุดโหด "สาวน้อยเหล็ก"
3. ภาพถ่ายรังสีของเด็กแฝดสองหัว 4. หน้ากากแห่งพิธีร่ายรำศักดิ์สิทธิ์แบบนิวกินี
|
จากความสำเร็จอย่างล้นหลามของ Ripley’s Odditorium ในงาน Chicago World’s Fair ได้ทำให้โรเบิร์ต ริบลีย์ตัดสินใจนำเอาชุดของสะสมส่วนตัวสุดพิสดารของเขาบรรทุกใส่รถพ่วงแล้วออกตระเวนจัดแสดงไปตามงานนิทรรศการสำคัญต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกาตลอดช่วงทศวรรษที่ 1930 และภายหลังจากที่โรเบิร์ต ริบลีย์เสียชีวิตลงในปี ค.ศ. 1949 (อายุ 55 ปี) Ripley’s Odditorium ซึ่งเป็นอาคารแบบถาวรแห่งแรกก็ถูกจัดสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1950 ณ เมือง St.Augustine มลรัฐ Florida
ปัจจุบัน Ripley’s Believe It or Not! Odditorium มีสาขาอยู่ในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก รวมรวมภาพถ่ายซึ่งเป็นสมบัติเฉพาะของโรเบิร์ต ริบลีย์ไว้มากกว่า 20,000 ภาพ.....สิ่งของต่างๆ กว่า 30,000 ชิ้น.....ผลงานการ์ตูนกว่า 100,000 แผ่น.....และยังประกอบไปด้วยกิจกรรมบันเทิงแปลกๆ อีกกว่า 80 ชนิด
| |
1. เรือไททานิคจำลองซึ่งต่อขึ้นจากไม้ขีดไฟเกินกว่าหนึ่งล้านก้าน
2. เครื่องประดับทำด้วยเส้นผมมนุษย์ 3. หน้ากากชนเผ่า 4. ศีรษะวัวแฝดซึ่งถูกสตาฟไว้อย่างดี
|
| |
1. เตียงตะปูของโยคี 2. ปลาประหลาด 3. ชามหัวกะโหลกคาบลี 4. ยางเส้นใหญ่ยักษ์
|
Ripley’s World of Entertainment Pattaya : ศูนย์รวมความบันเทิงเหนือจินตนาการ
สำหรับในประเทศไทยนั้นก็มีสาขาของ Ripley’s Odditorium อยู่ด้วย หากแต่เป็นที่รู้จักกันในชื่อของ Ripley’s Believe It or Not! World of Entertainment Pattaya Thailand ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้า Royal Garden Plaza ริมชายหาดพัทยา จ.ชลบุรี.....ปัจจุบัน.....ศูนย์รวมความบันเทิงระดับโลกของริบลีย์แห่งนี้มีกิจกรรมแปลกๆ สนุกๆ เตรียมไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยกันทั้งหมด 8 ชนิด ได้แก่
1. Ripley’s Believe It or Not! Museum Pattaya Thailand : นี่คือสาขาของพิพิธภัณฑ์ริบลีส์ เชื่อหรือไม่! แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยซึ่งรวบรวมชุดของสะสมต่างๆ ของโรเบิร์ต ริบลีย์ เอาไว้มากถึง 350 ประเภท
| |
..........กระเป๋าใส่ยาเส้นสุดหรู....................ผลงานของช่างศิลป์ในสมัยศตวรรษที่ 19..........
|
.....ณ พิพิธภัณฑ์ริบลีส์ เชื่อหรือไม่! พัทยา.....คุณจะได้พบกับ “หัวมนุษย์ย่อส่วนของแท้” สมบัติแห่งความภาคภูมิใจของชาวอินเดียชิวาโร ประเทศเอกวาดอร์ , “หน้ากากหนังคน” เครื่องมือประกอบพิธีกรรมของหมอผีประจำเผ่าอีโคอิ ประเทศคาเมรูน ทำขึ้นโดยการถลกเอาหนังของเหล่าทาสมาใช้ , เรือยนต์ไม้แกะสลักเป็นรูปรถจากัวร์รุ่นปี 1937 ที่ “ลิวิโอ ดิมาร์ชี” สร้างขึ้นด้วยความหวังว่าเจ้าของเรือลำอื่นๆ ในคลองใหญ่ของเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี จะต้องตกตะลึงจนยอมให้เขาแล่นเรือฝ่าการจราจรทางน้ำอันคับคั่งผ่านไปก่อนใครๆ , นกจิ๋วจากแผ่นทองคำที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกฝีมือพลเอก ดร.สีมา ศุภเกษม , “ชามหัวกะโหลกคาบลี” ภาชนะซึ่งประดิษฐ์ขึ้นจากกะโหลกศีรษะจริงๆ ของพระธิเบต , ฯลฯ.....นอกจากนี้.....คุณยังสามารถนั่งชมตัวอย่างเทปบันทึกภาพเก่าๆ ของรายการโทรทัศน์ Ripley’s Believe It or Not! ที่เคยออกฉายในสหรัฐอเมริกาได้ด้วย
| |
ภาพซ้าย : เรือยนต์ไม้แกะสลักเป็นรูปรถจากัวร์รุ่นปี 1937 ของ "ลิวิโอ ดิมาร์ชี" (ใช้งานได้จริง)
ภาพขวา : บาร์ (กระป๋อง) เบียร์
|
| |
....................คนบางคนก็แปลกประหลาดพิสดารเกินกว่าจะถูกลืมเลือน.................... |
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
Colorwave Graphite is an everyday, contemporary stoneware dinnerware product that appeals to endless decorator tastes. Simple, durable, clean in design with the bold, crisp color pallet that matches the current fashion trends. This versatile vegetable will hold a multitude of side dishes for service on the table. Dress it up, make it personal and all at an incredible value.