Ep.21-23
องค์หญิงของหลานหลิงหวาง ปี 2017
ตอนที่ 21
ต่อจากตอนที่แล้ว...รั่วหยุนเล่าเรื่องราวให้แม่ทัพฮูลู่ฟังว่าตนมาพบกับนางมารเสื้อขาวได้ยังไง (เล่าอย่างงงๆ เพราะสลบ คนดูก็งง เหมือนกัน ตกลงโกหกเพราะโดนมนต์ของมารเสื้อขาว หรือเล่าตามจริง)...รั่วหยุนถามแม่ทัพฮูลู่ว่าแล้วเกาฉางกงกลับไปตำหนักทันเวลา ที่กงกงมามั้ย ข้าเป็นห่วงมาก พวกเราควรทำอย่างไรต่อไป...แม่ทัพฮูลู่บอกงั้นพวกเรารีบกลับตำหนักไปสมทบกับฉางกงก่อน รีบไปกันเถอะ.....
ทางด้านชิงโส่วกำลังขี่ม้าเดินทางมากับคนของแม่ทัพฮูลู่ที่ให้คอยตามดูแลชิงโส่ว คนติดตามบอกชิงโส่วว่าอีก 20 ลี้ ก็จะถึงตำหนักของฉางกงแล้ว...ชิงโส่วกำลังจะหมดแรง ..ก็เห็นกลุ่มคนควบม้ามา คนติดตามชิงโส่วตะโกนบอกนั่นไง องค์ชายกำลังมาแล้ว....ชิงโส่วดีใจมาก เข้าไปหาคนที่ใส่หน้ากาก (เข้าใจว่าเป็นฉางกง) ...ข้าดีใจมากเลยที่ได้พบท่านแล้ว ข้าเป็นห่วงท่านตลอดเวลา องค์ชาย ทำไมท่านใส่หน้ากากละ? จะมีสงครามเกิดขึ้นที่ชายแดนอีกเช่นนั้นหรือ? ...ฉางกง(ตัวปลอม) ตอบข้าแค่ต้องการปรากฏตัวให้พวกทหารฝ่ายศัตรูเอาไปพูดกันเท่ากัน...ข้าขอถามเจ้า(ชิงโส่ว)...ลูกแก้วเจินหวนอยู่ที่ไหน? ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าไม่พบเบาะแสอะไรเกี่ยวกับลูกแก้วเลย เจ้าไม่บอกข้า เพราะในหัวใจเจ้าไม่มีข้าใช่มั้ย? หรือเจ้าต้องการจะเก็บไว้เป็นความลับคนเดียว? เจ้าไม่ต้องการจะมอบลูกแก้วนั่นให้ข้าใช่มั้ย? ชิงโส่ว--- ท่านต้องการให้ข้ามาแคว้นฉีเพียงแค่ต้องการลูกแก้วเจินหวนอย่างนั่นหรือ ฉางกง(ตัวปลอม)----ถ้าไม่ใช่เรื่องนั่น แล้วจะเรื่องอะไรละ ชิงโส่ว--ที่ท่านทำดีกับข้าเพราะท่านต้องการผลประโยชน์จากข้างั้นหรือ ฉางกง (ตัวปลอม) ---ข้าเล่นไปตามสถานการณ์ ผู้ชายที่ใจดีมีเมตตาอย่างอวี้เหวินยง เขาสามารถพูดทุกอย่างออกมาได้อย่างไม่ต้องกลัวอะไร ทำไมข้าไม่สามารถทำได้? ท่านต้องการให้ข้ามีความรู้สึกกับท่านเพียงคนเดียวเท่านั้นเหรอ ชิงโส่ว--- องค์ชาย จริงเหรอท่านพาข้ามาเพราะต้องการแค่ลูกแก้วเจินหวน ข้าเห็นทุกอย่างชัดเจนแล้ว มันจะต่างอะไรกับคนขายอาหารในตลาดตะโกนเรียกลูกค้าเพียงเพื่อต้องการผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ เพื่อตนเอง ฉางกง(ตัวปลอม)---ได้ ข้าสัญญากับเจ้า ถ้าเจ้ามอบลูกแก้วให้ข้า ข้าจะพาเจ้ากลับตำหนักข้า แต่ตำแหน่งองค์หญิง อย่าได้คิดถึงมันอีกเลย ข้ามีคนที่ข้าชอบอยู่แล้ว ข้าเจ้ายินดีเจ้าก็เป็นคนรับใช้ในตำหนักข้าได้ (น่าตบมาก) ชิงโส่ว---ข้าไม่กลับไปตำหนักองค์ชายกับท่าน ถึงแม้ถ้าข้ามีลูกแก้วจริง ข้าก็จะไม่มอบให้ท่าน เจ้ากล้าดียังไง เจ้าไม่ใช่องค์ชาย ถ้าเจ้าเป็นองค์ชายตัวจริง เจ้าจงถอดหน้ากากออกเดี๋ยวนี้...... (สรุปตัวปลอมจ้า แต่ไม่ชอบเลย ฉางกงทำไมต้องลองใจชิงโส่วแบบนี้ ไม่แมนอะ ชิงโส่วข้ามน้ำข้ามภูเขามาลำบากแทบเอาชีวิตไม่รอดเพื่อมาอยู่ด้วย ยังมาทำแบบนี้อีก เป็นเดี๊ยนมีตบนะ)
ฉางกง---ข้าไม่เคยพูดคำพูดเหล่านี้ ข้าไม่ต้องการได้ลูกแก้ว ชิงโส่ว---องค์ชาย ฉางกง---ชิงโส่ว ในที่สุดข้าก็ได้พบเจ้า ชิงโส่ว---ท่านไปไหนมา ทำไมท่านเพิ่งมาหาข้า ฉางกง---ข้าสภาพไม่ค่อยดี มารับเจ้าเร็วกว่านี้ไม่ได้ ในวันข้างหน้า ข้าจะไม่ยอมให้สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก (สัญญาตลอด ทำไม่เคยได้เลย (เสียงสูง) )ข้าจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเจ้าอีก ชิงโส่ว---ท่านต้องให้สัญญากับข้า ท่านจะต้องไม่จากข้าไปอีกเด็ดขาดในอนาคต ท่านต้องไม่ละเลยข้า ท่านต้องใส่ใจข้า ข้าไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่มีใคร ข้ามีเพียงท่านเพียงคนเดียว.... ฉางกง---ข้าสัญญา (ขอถอนใจหน่อย เฮ้ออออออออออออออออออออออออออ)
ชิงโส่วเผลอหลับไปใต้ต้นไม้ มีฉางกงคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ พอชิงโส่วรู้สึกตัว ทหารคนติดตามของฉางกงก็นำผลไม้มาให้ พวกทหารก็แซวองค์ชายกับชิงโส่วประมาณว่า ถ้าองค์ชายหาท่านไม่พบ พวกเราคงไม่มีวันได้กลับตำหนักองค์ชายอีกเป็นแน่ องค์ชายรีบมารับท่านอย่างรีบร้อน .....ชิงโส่วเขิน เลยมองไปทางอื่น มองเห็นม้า (ซวนเฟิง) ชิงโส่วรีบวิ่งไปหาซวนเฟิง ฉางกงกับชิงโส่วให้ซวนเฟิง (ม้า) กินผลไม้ด้วย....
ชิงโส่วคุยกับฉางกง ท่านหน้าตาดีหล่อเหล่า แต่ทำไมต้องใส่หน้ากากที่น่ากลัวอยู่ตลอดเวลา...ทหารติดตามได้ยินเลยรีบตอบ องค์ชายของเราต้องการข่มขวัญข้าศึกให้กลัวในระหว่างการทำสงคราม ด้วยรูปลักษณ์ขององค์ชาย หากพวกทหารฝ่ายตรงข้ามเห็นจะไม่รู้สึกกลัว ดังนั้นองค์ชายจึงต้องใส่หน้ากาก.... (หน้าที่เอ็กตร้าอธิบายวุ๊ย)... ชิงโส่วเลยบอก ก็ใช่ละซิทำไงได้องค์ชายผิดที่เกิดมาหล่อมากเอง.....
ฉางกงบอกข้าผิดเองที่ไม่ได้รอเจ้าที่เมืองผิงหยางตามที่สัญญาไว้...ชิงโส่วรีบบอกใช่แล้ว ท่านให้ข้ารอท่านสองเก้อ สองครั้งละนะ บอกข้ามา ท่านจะชดใช้ข้ายังไง...ฉางกงถามงั้นเจ้าอยากให้ข้าชดเชยยังไงละ..ชิงโส่วบอก "ท่านก็ต้องดูแลข้าไปตลอดชีวิต ข้าขอนิดเดียวเอง ข้าไม่ต้องการชีวิตที่หรูหรา ข้าต้องการแค่บ้านหลังใหญ่หันหน้าหาน้ำเท่านั้นเอง มีอาหารดีดีให้ข้ากิน.....ฉางกงพูดต่อขัดคอชิงโส่ว ประมาณว่าข้าได้ยินแม่ทัพฮูลู่บอกมาว่ามีใครบางคน ไม่อยากให้เจ้าออกมาจากแคว้นโจว เขาคนนั้นพูดจาดี คอยให้ข้อคิดและกำลังใจคนอื่นเสมอ คนคนนั้นก็คือไต๋ซือคงแห่งแคว้นโจว (ย้อนคำพูดชิงโส่ว)...แคว้นฉีไม่ได้มีความสำคัญเลย...ชิงโส่วรีบบอก ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น....ข้าว่าญาติผู้พี่ท่านพูดจาไร้สาระนะ...ฉางกงบอกข้าได้รับข่าวจากเขามาเช่นนี้...
ชิงโส่ว-- ข้ากังวลเป็นห่วงว่าแม่ทัพฮูลู่จะได้รับอันตราย เขาให้ข้ารอเขา 2 วันที่เมืองฉิงซุย..ฉางกงบอกเมืองฉิงซุยปกติจะเงียบเป็นเมืองที่ค่อนข้างลึกลับ ตอนนี้สงบเงียบมาหลายปีแล้ว เขา(แม่ทัพ) จะมีอันตรายที่นั้นได้อย่างไร...ชิงโส่วบอก ท่านเคยได้ยินเรื่องตำหนักเทียนหลัวใต้พิภพมั้ยย เหมือนกับว่ามีคนจากตำหนักเทียนหลัวปรากฏตัวอยู่ที่นั้น...ฉางกงบอก แม่ทัพฮูลู่เก่งมาก ข้าเชื่อว่ายังไงซะเขาต้องปลอดภัย ถึงแม้ในยามสงครามเขาติดอยู่ท่ามกลางวงล้อมศัตรู เขายังสามารถหาวิธีออกมาส่งข่าวได้ เขาย่อมหาทางออกเรื่องนี้ได้แน่นอน....
ชิงโส่วบอกคืนนั้นแม่ทัพฮูลู่เข้าไปในห้องเหมียวอวี้อิน (มารเสื้อขาว) นางเป็นหนึ่งในสี่ผู้พิทักษ์ตำหนักเทียนหลัวใต้พิภพ ตอนนั้นข้าเห็นคนของนางแบกหีบขนาดใหญ่ บางทีแม่ทัพฮูลู่คงต้องการจะดูว่าในหีบมีอะไร..ข้าว่าพวกเราไปเขาเต้าเหนียนกันเถอะ อีกหนึ่งเดือนจากนี้ ใต้เท้าอวี้เฉินจะมาที่นั่นพวกเราสามารถถามข่าวของแม่ทัพฮูลู่กับเขาได้...
ฉางเกา--ใต้เท้าอวี้เฉิน ใช้ เซียงอวี้เฉินมั้ย ชิงโส่ว--- เขาก็เป็นคนของตำหนักเทียนหลัวเช่นกัน แต่ชื่อของเขาเต้าเหนียนนี่แปลกมาก ท่านรู้มั้ยว่ามันอยู่ที่ไหน ฉางกง---ข้าเคยอ่านพบในหนังสือบันทึกโบราณ นกโฟนิกซ์จะกลับไปตายที่ภูเขานี้ทุกๆ วันที่ 7 สิงหาคมของทุกปี หลังจากเผาตนเองแล้วก็จะหายไปและกลับฟื้นมาใหม่อีกหลังจาก 16 ถึง 17 วันให้หลัง ดังนั้น ผู้คนต่างเรียกภูเขาลูกนี้ว่า เต้าเหนียน...ชิงโส่ว เจ้าต้องสัญญากับข้า ต้องช่วยคุ้มกันเซียงอวี้เฉิน อย่าให้ใครทำร้ายเขาได้ เจ้าสัญญากับข้าได้มั้ย ชิงโส่ว--- ข้า ข้าต้องการถามท่านเรื่องหนึ่ง ผู้ชายทุกคนเป็นอย่างนี้เหรอ คิดให้ดีดี แล้วตอบข้า...สำหรับคนที่ท่านรัก จะเป็นไปได้มั้ยที่ท่านจะทำทุกอย่างตามที่นางสั่ง ข้าคนที่รักท่านอย่างสุดซึ้งให้ตายได้ ฉางกง---ข้าไม่รู้ บางที... ชิงโส่ว---ข้าแค่ต้องการรู้ ว่าท่านจะฆ่าหรือไม่ ถ้าคนคนนั้นคือข้า ท่านก็จะฆ่าใช่มั้ย......(ฉางกงไม่ตอบ).....ข้าแค่ล้อเล่น พวกเรากลับกันก่อนเถอะ ......(ชิงโส่วเห็นฉางกงเดินช้า)...ทำไมท่านเดินช้าจัง ท่านยังคงคิดเรื่องคำถามนั้นอยู่ใช่มั้ย ท่านดูเครียดมาก ท่านไม่ต้องตอบข้าหรอกเพราะข้ารู้คำตอบของท่าน เพราะไม่่ว่าท่านจะตอบว่าอย่างไร ข้าก็ไม่สนใจหรอก..... ฉางกง---ข้าจะพาเจ้าไปสถานที่หนึ่ง ที่ที่ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบใหญ่ ชิงโส่ว--จริงเหรอ ตลอดชีวิตนี้ข้าต้องการจะอยู่ที่นั่น ที่ที่ไกลจากสิ่งวุ่นวายทั้งหลาย....(ฉางกงพาชิงโส่วมาบ้านริมน้ำ ชิงโส่วดีใจมาก)...สวยดั่งสวรรค์ในใจข้าคิดไว้เลย ข้าหวังว่าข้าจะมีโอกาสอยู่ที่นี้ตลอดไปเรื่อยๆ ดอกไม้เยอะมาก และสวยมากด้วย ท่านปลูกต้นไม้ดอกไม้เหล่านี้เองเหรอ.....อืมม จริงซิ ท่านเป็นถึงหลานหลิงหวาง ท่านจะทำได้อย่างไร ฉางกง---ข้าเป็นคนปลูกต้นไม้ดอกไม้เหล่านี้ด้วยตัวข้าเอง หญ้าทุกต้น ดอกไม้ทุกต้น ฝีมือข้าหมด (ขี้โม้ละ)... ชิงโส่ว--ข้าชอบสวนนี้ ข้าชอบกระท่อมน้อย ข้าชอบที่นี้มากๆ ...(มองฉางกงเหมอ) ..ท่านกำลังคิดอะไร ฉางกง ---(กำลังนึกถึงเสี่ยวเหลียน อยากตบหัวอะ) เปล่า ข้าดีใจที่เห็นเจ้าชอบที่นี้ ชิงโส่ว---ดอกไม้ที่นี่สวยมาก ข้าอยากทราบเกี่ยวกับดอกไม้ที่เรียกว่าดอกเจียหยู่มันเป็นยังไง ฉางกง----ที่นี่ไม่มีดอกเจียหยู่ มันขึ้นอยู่ที่ทางเหนือของยอดเขา อากาศเย็นมีหิมะตก แต่มันมีดอกไม้ที่เรียกว่าอวี้หยู่ มีบางคนบอกว่าดอกอวี้หยู่สวยกว่าดอกเจียหยู่... ชิงโส่ว---ช่างดีจริงๆ --การทิ้งเรื่องกังวลใจไม่ดีเท่ากับการไม่กังวลใจ-- (คมอยู่) งั้นข้าขอถามองค์ชาย แล้วดอกไหนละคือดอกอวี้หยู่... ฉางกง---ที่นี่ก็ไม่มีดอกอวี้หยู่ ดอกอวี้หยู่ไม่สวยเหรอ ชิงโส่ว--มันคงสวย (อะไรฟร่ะ งง) ฉางกง---ดอกไม้ทุกชนิดที่นี่ไม่สวยเลย ชิงโส่ว---อ้าว งั้นแล้วองค์ชายจะปลูกดอกไม้เหล่านี้ไว้ทำไม ฉางกง--ไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการ...เพียงแต่ดอกอวี้หยู่ถ้าไม่ได้โตบนยอดเขาที่มีหิมะ ข้านำมันมามันจะตาย ชิงโส่ว---อ๋อ เท่านั้นเอง เหตุที่ท่านไม่ปลูกที่นี่ ไม่เป็นไรหรอก ที่นี่สวยสุดๆ อยู่แล้ว ทำไมบนโลกนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะมีสถานที่ที่สวยแบบนี้อยู่ ข้าเหมือนฝันไปเลย...นี่ข้าไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย ข้าไม่ได้ฝันไป ขอบพระทัยองค์ชายมาก ขอบคุณท่านมากที่พาข้ามาอยู่ที่นี่...ดอกไม้เต็มไปหมด สถานที่สวยงาม ข้าชอบระเบียงบ้านมาก เปิดออกมาก็จะพบแสงแดดและทะเลสาบและดอกไม้ทันที ฉางกง---บ้านหลังนี้แค่เพียงเจ้าเปิดประตู เจ้าจะมองเห็นความสวยงามของทะเลสาบ ชิงโส่ว---ข้าขอเข้าไปดูข้างในนะ....(ชิงโส่วเข้ามาในห้องก็มองอย่างตื่นเต้น)...องค์ชายท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้าชอบกลิ่นของดอกกล้วยไม้ ...ห้องนี้เต็มไปด้วยหน้าต่าง นอนชมภูเขาและทะเลสาบด้านนอกได้อย่างสบายๆ เลย... ฉางกง---บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นตามความปราถนาของเจ้า (แหงะ คิดถึงแฟนเก่า สงสารชิงโส่วถึงแม้จะรู้ว่าเป็นคนเดียวกัน แต่ยังไงความรู้สึกแบบนี้ก็ไม่ชอบ (โว๊ย) ) ชิงโส่ว---ขอบพระทัยองค์ชายมาก (เข้าใจผิดคิดว่าสร้างให้ชิงโส่ว เด็กน้อยหนอเด็กน้อย) ท่านดูแลใส่ใจข้าดีมาก..........(หันไปเห็นรูปเสี่ยวเหลียน ) ..เอ๊ะ ท่านมีรูปข้าอยู่ด้วย..(ชิงโส่วเริ่มคิดได้ เอ่อไม่ใช่เรานี่ เข้าใจผิด หันไปทางฉางกง)...เอ่อ ข้าเปลี่ยนห้องก็ได้ห้องนี่คงเป็นของ...... ฉางกง---ไม่ต้องเปลี่ยนห้องหรอก เจ้าชอบห้องนี้มาก อยู่ห้องนี้แหละ ที่นี่แต่ก่อนก็เป็นของเจ้าอยู่แล้ว (อีตานี้คิดว่าชิงโส่วมาแทนเสี่ยวเหลียนเหรอ) ... ชิงโส่ว---(ชิงโส่วคิดในใจ) เกิดอะไรขึ้นกับองค์ชายนะ? ทำไมข้าอ่านใจท่านไม่ออกเมื่อข้ามองเข้าไปในดวงตาของท่าน? คำพูดของท่านท่านกำลังพูดกับข้า(ชิงโส่ว) ใช่มั้ย? ......(ชิงโส่วพูด)..งั้นตามนั้น ข้าอยู่ห้องนี้ข้าดีใจมาก ข้าชอบทุกอย่างชอบหญ้าทุกต้นของที่นี่เลย ข้าจะดูแลพวกมันเป็นอย่างดีตั้งแต่วันนี้ไป.....
ฉางกงเดินออกไปข้างนอกเพราะมีทหารมาตามหา...ชิงโส่วมองรอบๆ แล้วพูดคนเดียวประมาณว่า... ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงเหรอ ทำไมข้ารู้สึกไม่สบายใจล่ะเหมือนข้าสูญเสียอะไรบางอย่างไป(ก็อวี้เหวินย่งของเดี๊ยนไงหล่อน)......ชิงโส่วได้ยินทหารบอกฉางกงว่านายหญิง (แม่ฉางกง) ให้ไปพบที่ตำหนัก.....ฉางกงจึงกลับตำหนัก..
แม่ฉางกง (เต่าดำ) พบกับฉางกง ก็พูดประมาณว่า ตอนนี้ในที่สุดเจ้าก็ได้ตามความปราถนาของเจ้าแล้ว (ได้ไปหาชิงโส่วที่แคว้นโจว) ฉางกง---ข้าเรียนท่านแม่มาโดยตลอด แม่ ---ข้ารู้สึกเสียใจแทนรั่วหยุน ....ตอนเจ้าไม่อยู่ตำหนัก ใครเสี่ยงชีวิตอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องเจ้า ใครดูแลเจ้าเมื่อเจ้าป่วยได้รับบาดเจ็บ และไม่เคยไม่ทำตามที่เจ้าพูดหรือสั่งให้ทำ นางทำหมด ตอนนี้ลั่วหยุนหายตัวไปจากบ้าน และเจ้าก็ไม่ใส่ใจจะตามหา เจ้ามัวแต่ชื่นชมกับความงามและเติมเต็มความปราถนาของเจ้าโดยไม่คิดเรื่องอื่นเลย ฉางกง ในสายตาของเจ้า ลั่วหยุนไม่มีค่าเลยใช่มั้ย
ฉางกง---ข้าเพิ่งได้รับข่าวมาพี่ใหญ่ (แม่ทัพฮูลู่) ได้พบกับลั่วหยุนแล้ว ข้าจึงรีบกลับมายังตำหนักเพื่อมาดูว่าลั่วหยุนกลับมาตำหนักแล้วหรือไม่
แม่---ดีแล้วที่ลั่วหยุนปลอดภัย คนที่ควรจะตามหาลั่วหยุนคือเจ้า ไม่ใช่ฮูลู่กวง เมืองฉิงซุยอยู่ใกล้แค่นี้ เจ้ามีเหตุผลอะไรทำไมไม่ไปตามหานาง....
ฉางกง---ท่านรู้ว่าลั่วหยุนอยู่ที่เมืองฉิงซุย?
แม่---ใช่ข้ารู้ว่าลั่วหยุนถูกลักพาตัวและนำตัวไปเมืองฉิงซุย (แล้วทำไมไม่ไปตามเองละแม่)..ข้ายังรู้อีกด้วยว่าพวกนั้นเป็นคนของตำหนักเทียนหลัวใต้พิภพ..เรื่องทั้งสองนี้มันเกี่ยวข้องกันยังไงนะ....ฉางกง เจ้าควรคิดให้ดีดี...เจ้ามีสายเลือดกษัตริย์ เป็นลูกผู้ชายที่มีหน้าที่รับผิดชอบ เจ้าจะอธิบายกับลั่วหยุนว่ายังไง .......... (ฉางกง ทำตาปริบๆ ปัญหาละ)
ทางด้านแม่ทัพฮูลู่พาลั่วหยุนกลับมาถึงตำหนักฉางเกาพอดี ก็จับกลุ่มคุยกัน เล่าเรื่องราวความเป็นมา ...แม่ทัพก็บอกว่ารีบพาลั่วหยุนกลับมาเพื่อจะได้มาดูว่าฉางกงกลับมาถึงตำหนักปลอดภัยหรือเปล่า ควบม้าไม่ได้หยุดเลย...แม่ฉางกงบอก ฉางกงเพิ่งกลับมาตำหนักได้ไม่นานนัก ต้องลำบากท่านแม่ทัพละทำงานหนักมาก(คอยช่วยตามทั้งฉางกง และตามลั่วหยุน).....ฉางกงสงสัยว่าทำไมลั่วหยุนไปอยู่เมืองฉิงซุยได้ละ แม่ทัพฮูลู่บอกก็เพราะเหมียวอวี้อินลักพาตัวลั่วหยุนไปไง..ข้ารู้ว่านางไปเก็บพิษจากเกสรดอกบัวที่นั่น ข้าลักลอบเข้าไปในห้องนาง....ฉางกงถามต่อ แล้วทำไมนางต้องลักพาตัวลั่วหยุนไปละ (จริง เอาไปทำไมไม่มีประโยชน์) ลั่วหยุนบอกข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ข้าจำได้ว่าข้ารอต้อนรับกงกงอยู่เพื่อรอรับราชโองการ ข้าไม่รู้ว่าข้าสลบไปตอนไหน พอข้าตื่นขึ้นมาข้าก็พบว่าข้าอยู่ที่เมืองฉิงซุยแล้ว ข้าก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรนะ (แล้วก็ทำท่าจะหมดแรง) แม่ฉางกงบอก เจ้าคงเหนื่อยที่ควบม้ามาทั้งวันทั้งคืน ไม่ได้พักเลยตลอดการเดินทาง ฉางกงเจ้าพาลั่วหยุนไปพักที่ห้องซิ..ลั่วหยุนรีบบอกให้ฟางเอ๋อร์พาข้าไปก็ได้....แม่ฉางกงบอก ลั่วหยุนต่อไปเจ้าต้องเป็นองค์หญิงของหลานหลิงหวางให้ฉางกงดูแลเจ้าเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว งานแต่งงานยังไม่สะดวกจัดในตอนนี้แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งตำหนักนี้ก็รู้อยู่แล้วว่าเจ้าเป็นใคร ยังไงงานแต่งงานก็ต้องถูกจัดขึ้นเร็วๆ นี้....ฉางกงบอกลั่วหยุน ข้าก็ต้องขอบคุณเจ้าด้วย...
แม่ฉางกงขอคุยกับแม่ทัพฮูลู่ต่อ ถามว่าข้าสงสัย และต้องการจะรู้บางเรื่อง เหมียวอวี้อิน ถ้านางสนใจในคนใดหรือสิ่งใด นางต้องมีจุดประสงค์ นางเป็นคนโหดเหี้ยมไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่ายๆ ข้ารู้ว่าแม่ทัพกล้าหาญและเก่งกาญ แต่ท่านทำอย่างไรช่วยลั่วหยุนออกมาได้ล่ะ.... แม่ทัพฮูลู่ตอบประมาณว่า คงเป็นเพราะเหมียวอวี้อิน สนใจแต่การเก็บพิษจากเกสรดอกบัว ข้าก็แปลกใจที่นางทิ้งให้ลั่วหยุนอยู่ตามลำพังในห้องพัก ข้าจึงมีโอกาสเข้าไปช่วยนาง ข้ารู้ว่าจะต้องมีกับดักอยู่ แต่ข้าก็ยังเสียที ข้าถูกทำให้สลบไป...ลั่วหยุนเป็นคนพาข้าออกมาจากห้อง.....แม่ฉางกงถาม แล้วเหมียวอวี้อิน ตามพวกเจ้ามั้ย....แม่ทัพบอกว่าลั่วหยุนเล่าให้ฟังว่า พอนางตื่น นางเห็นข้าสลบอยู่ในห้องจึงรีบพาข้าออกมาก่อนที่เหมียวอวี้อินจะกลับมาที่ห้อง ขโมยม้าแล้วก็พาข้าหนีมา นายหญิง ท่านว่ามีสิ่งใดผิดปกติอย่างนั้นเหรอ......แม่ฉางกงบอก ไม่มีอะไร ลั่วหยุนไม่ทำอะไรที่จะทำร้ายฉางกงและเจ้าหรอก .....แม่ทัพฮูลู่ถามแม่ฉางกง...งั้นท่านหมายความว่า.......
แม่ฉางกง---บางทีเหมียวอวี้อินคงจะเห็นว่าลั่วหยุนเป็นผู้หญิงอ่อนแอ ไม่มีประโยชน์อะไร นางเลยไม่ใส่ใจจะหนีก็หนีไป...ท่านแม่ทัพเหนื่อยมามากล่ะท่านไปพักผ่อนเถอะ.....(แม่ทัพออกไป แม่ฉางกงมาเจอทหารพอดี ความเลยแตก)...ทหารบอกองค์ชายเกาฉางกง พาแม่นางชิงโส่วไปพักที่เรือนเหลียนหยู่ ริมทะเลสาบ....แม่ฉางกงบ่น ฉางกงเจ้ามีความรู้สึกให้ชิงโส่วจริงๆ .....
ทางด้านแบ๋วชิงโส่ว กำลังเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ นี่ข้าฝันไปหรือเปล่า....แล้วก็คิดถึงองค์ชายว่าทำอะไรอยู่ องค์ชายท่านยังเป็นองค์ชายคนเดิมอยู่หรือเปล่านะ ไม่ต้องการให้ชิงโส่วจากไป? ...ชิงโส่วถามคนรับใช้ว่าเห็นองค์ชายมั้ย เขาไปไหน แล้วที่นี่คือที่ไหน....คนรับใช้บอกชิงโส่ว แม่นางท่านอย่าตกใจ องค์ชายมีภาระกิจเกี่ยวกับกองทัพ องค์ชายออกไปเมื่อคืน ก่อนออกไปองค์ชายบอกจะรีบกลับมาตอนเช้าเพื่อมาอยู่เป็นเพื่อนท่าน ตอนนี้อาจจะอยู่ในระหว่างการเดินทางมา.....ชิงโส่วถาม จริงเหรอ องค์ชายพูดเช่นนี้จริงๆ เหรอ....คนรับใช้บอก ข้าไม่กล้าโกหกนายหญิง องค์ชายยังสั่งข้าไว้ หากองค์ชายมาถึงช้า ให้ข้าบอกท่านให้ไปเดินเล่นบริเวณรอบๆ นี้ก่อน มีดอกไม้อยู่ทางตะวันออกมากมาย ท่านต้องชอบแน่ๆ.... ชิงโส่วถามย้ำ จริงนะ องค์ชายพูดเช่นนั้นจริงๆ นะ ข้าต้องสับสนคิดมากไปเองแน่ๆ หลับมากไปหน่อย...
คนรับใช้พูดต่อ ปกติแล้วองค์ชายเน้นและสนใจแต่เรื่องทำศึกสงคราม เรื่องบ้านเมือง จึงไม่ค่อยมีเวลาจะสนใจใครนัก นอกจาก...... (ต่วนมู่เหลียน) ..ดีแล้วที่องค์ชายสนใจใส่ใจแม่นางชิงโส่วมากเลย.......ชิงโส่วเลยถามตรงๆ นี่เจ้าก็รู้จักต่วนมู่เหลียนใช่มั้ย นางหน้าตาเป็นยังไงเหรอ....คนรับใช้รีบขอร้องชิงโส่ว ขออย่าให้ข้าพูดเรื่องนั้นเลย...ชิงโส่วบอกโอเคงั้นไม่ต้องบอกก็ได้...ชิงโส่วได้ยินคนรับใช้แอบกระซิบกัน นี่นี่แม่นางชิงโส่วอยากรู้ว่าแม่นางต่วนมู่เหลียนหน้าตาเป็นอย่างไร..ก็หน้าของนางจริงๆ แล้วเหมือนกับแม่นางต่วนมู่เหลียนเป๊ะเลย... นี่เป็นสาเหตุที่องค์ชายรักนางละซิ .....ชิงโส่วหดหู่ เดินมองน้ำแล้วก็คิดว่าทำไมองค์ชายยังมาไม่ถึงนะ เป็นเพราะว่าท่านกำลังยุ่งเรื่องการทำศึกเช่นนั้นหรือ......
ชิงโส่วเห็นลูกนกตกลงมาจากรังบนต้นไม้ ชิงโส่วเลยพยายามปีนต้นไม้นำลูกนกไปเก็บในรังเช่นเดิมแต่ชิงโส่วพลาด ตกลอยละลิ่วลงมาจากต้นไม้ ฉางกงเหาะมารับพอดี สวยๆ (มีโมเม้นต์ๆๆๆ) ฉางกงคิดถึงภาพวันวานกับเสี่ยวเหลียน .....พวกเราจะมีชีวิตที่มีความสุขอยู่ที่นี่กับลูกๆ ของเรา ฉางกงมองตาชิงโส่ว แต่เห็นเป็นเสี่ยวเหลียน ชิงโส่วเองก็รู้สึกได้ว่าในสายตาของฉางกงไม่ได้มองนาง (เฮ้อออ )....ฉางกงบอก ดีนะที่เจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร...ชิงโส่วเข้าไปกอดฉางกง ท่านอย่าทิ้งข้าไปอีกนะ ตกลงมั้ย ข้าขอให้เราอยู่ด้วยกันอย่างนี้ตลอดชีวิต ฉางกงบอก เจ้าอย่าทำแบบนี้ เจ้าจะเสียใจ....ชิงโส่วบอก "ข้าไม่เสียใจ"...
ฉางกงคิดถึงภาพเก่าๆ สมัยตอนสร้างบ้านหลังนี้ เสี่ยวเหลียนมาหยอกล้อด้วย บอกท่านทำงานหนัก(สร้างบ้าน) เสี่ยวเหลียนเอามือที่เปื้อนๆ ไปลูบหน้าฉางกงเปลื้อน แล้วทั้งสองคนก็วิ่งไล่จับกัน....แล้วก็เล่นชิงช้ากัน.........ชิงโส่วเรียกสติฉางกงกลับมาแล้วชวนมานั่งชิงช้าด้วยกัน ...........หนุกหนานไป.....พอตอนเย็น ฉางกงก็บอกชิงโส่วว่าคงอยู่กินข้าวกับเจ้าไม่ได้......ชิงโส่วบอก งานการทหารสำคัญ องค์ชายไปเถอะไม่ต้องกังวลข้าจะดูแลตัวเองดีดี...
พอฉางกงไปแล้ว คนรับใช้เข้ามาบอกชิงโส่วว่าทางห้องครัวทำอาหารไว้เรียบร้อยแล้ว ท่านไปพักซักครู่ ข้าจะจัดเตรียมสำรับให้......
ชิงโส่วเข้ามาให้ห้องพบกับแม่ฉางกง (นางเต่าดำใส่หน้ากาก) ...นี่ฉางกงไม่ได้บอกเจ้าเหรอว่าเขามีแม่ ชิงโส่วตกใจ ท่านคือแม่ขององค์ชายเหรอ ....แม่ฉางกงบอก แน่นอนข้านี่แหละนายหญิงใหญ่แห่งวังฉางกงและข้ายังเป็นมารดาขององค์ชายด้วย...
ชิงโส่ว---งั้น ท่าน ท่าน.. ทำไมท่านต้องการฆ่าข้า ตอนที่ข้าออกจากฉางอันแคว้นโจวละ
แม่ฉางกง---ข้าไม่ได้ต้องการจะฆ่าเจ้า ข้าแค่ต้องการจับเจ้า หรือทำให้เจ้าบาดเจ็บเท่านั้น เจ้าจะได้ไม่ได้มาพบกับฉางกง แต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเหยียนหว่านต้องการฆ่าเจ้ามากกว่าข้าซะอีก ข้ายังไม่อาจช่วยเจ้าได้เลย แต่ข้ามารู้ภายหลังว่าเจ้ามีคนช่วยชีวิตไว้
ชิงโส่ว---ทำไมท่านไม่ต้องการให้ข้าพบกับองค์ชายละ
แม่ฉางกง---(เดินเข้ามาใกล้ๆ ชิงโส่ว) เจ้านี่ช่างเหมือนนางมากจริงๆ ดูเหมือนว่าฉางกงไม่ได้บอกความจริงกับเจ้า เจ้าคิดเหรอว่าเรือนเหลี่ยนหยู่นี้จริงๆ แล้วสร้างไว้เพื่อเจ้า
ชิงโส่ว---ข้ารู้ว่าตัวข้าอ่อนแอ และโง่ ขาดทักษะมากมาย ข้าไม่เคยคิดว่าองค์ชายจะสร้างบ้านให้ข้า
แม่ฉางกง-----ดอกกล้วยไม้ในห้องนี้ และภาพวาดนั้น เจ้าคิดเหรอว่าถูกจัดเตรียมไว้ให้เจ้า
ชิงโส่ว---ข้าไม่เข้าใจท่านกำลังจะพูดอะไร
แม่ฉางกง---แน่นอนเจ้าไม่เข้าใจหรอก ฉางกงจะบอกเจ้าได้ยังไงว่าทำไมเขาถึงอยากใกล้ชิดเจ้า เพราะเจ้ามีหน้าตาเหมือนกับผู้หญิงที่ฉางกงชอบ สำหรับรูปร่างหน้าตาของเจ้ากับนางช่างเหมือนกันจริงๆ .....(ชิงโส่วตกใจ)..
ตอนที่ 22
มาต่อกันด้วยฉากจากตอนที่แล้ว มนุษย์แม่เต่าดำ ยังคงทำร้ายจิตใจชิงโส่วต่อไป... แม่ฉางกง--- ต่วนมู่เหลียนชอบกลิ่นดอกกล้วยไม้มาก ส่วนรูปนั้นฉางกงได้ให้ช่างภาพมาวาดภาพนางไว้ เจ้ารู้มั้ยทำไมถึงเรียกว่าเรือนเหลียนหยู่...เพราะชื่อของนางมีคำว่าเหลียน ฉางกงต้องการสร้างบ้านหลังนี้เพื่อผู้หญิงที่เขารัก ผู้หญิงที่อยู่ในหัวใจเขา ...เขาสองคนรักกันอย่างสุดซึ้งต้องการจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดชีวิตนี้ เจ้าจะเชื่อหรือไม่เจ้าลองถามใจตัวเองอยู่ เจ้าสามารถจะถามคนรับใช้ทุกคนที่นี่ได้ ทุกคนรู้เรื่องนี้กันหมด
ชิงโส่ว---แล้วทำไม ทำไมแม่นางเสี่ยวเหลียนไม่อยู่กับองค์ชายล่ะ นางไปไหน? (ติดอ่างเลยชิงโส่ว สงสาร)
แม่ฉางกง---ผู้หญิงธรรมดาสามัญแบบนั้นจะเหมาะสมคู่ควรกับฉางกงอย่างนั้นเหรอ ฉางกงเป็นถึงเชื้อสายฮ่องเต้ของแคว้นฉี เขามีสายเลือดอันสูงสุด อนาคตของเขาจะต้องยิ่งใหญ่มากประสบความสำเร็จ ยิ่งใหญ่ไปทั้งแผ่นดินจีน คนที่เหมาะสมกับเขาต้องเป็นเชื้อสายของขุนนางใหญ่เท่านั้น เจ้าคิดว่าต่วนมู่เหลียนเหมาะสมกับฉางกงอย่างนั้นเหรอ? แม้ว่าข้าจะไม่ชอบเจ้า ข้าก็ยังรู้สึกสงสารเจ้า ณ ตอนนี้ เพราะในแคว้นโจวเจ้าก็เป็นผู้หญิงที่ไต๋ซือคงไม่สนใจ (เข้าใจผิดแล้วป้า) ถึงแม้ว่าฉางกงดูแลเจ้าดีในแคว้นฉี ไม่ว่าเจ้าจะพูดอะไร เจ้าจงรู้ไว้เจ้าก็เปรียบเสมือนผงธุลี ไม่มีความสำคัญอะไร เจ้าต้องพึ่งตนเอง
ชิงโส่ว---มันไม่ใช่เรื่องจริง ข้าไม่เชื่อ ท่านโกหก.... (แม่ฉางกงเดินออกจากเรือนไป ชิงโส่วร้องไห้)... ในที่สุดทุกอย่างที่นี้แท้จริงแล้วก็ไม่ใช่เพื่อข้า.... (ภาพซ้อนของเสี่ยวเหลียน คุยกับฉางกงเรื่องอยากมีบ้านที่มีทะเลสาบอยู่หน้าบ้าน มีดอกไม้มากๆ ปลูกบัวเยอะๆ เพื่อจะได้มีรากบัวไว้กินตลอดปี ...) ......(ชิงโส่วเห็นคนรับใช้)...เจ้ารู้มั้ยว่าองค์ชายอยู่ที่ไหน ข้ารู้ว่าเขามากลับมาถึงแล้ว....
คนรับใช้บอกองค์ชายกลัวว่าจะเป็นการรบกวนแม่นางชิงโส่ว องค์ชายจึงไปเดินเล่นที่ทะเลสาบ......ชิงโส่วรีบไปหาฉางกง...พอชิงโส่วพบฉางกงก็รีบเข้าไปหาแล้วพูดประมาณว่า ข้ากลัวจริงๆ ข้ากลัวว่านี้เป็นเพียงความฝัน ถ้าข้าตื่นขึ้นมาทุกอย่างจะหายไปหมด...ชิงโส่วชวนฉางกงลงเรือ พายเรือเล่นกัน (ฉากบนเรือ) .ฉางกงถามชิงโส่วว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ชิงโส่วบอกกำลังคิดถึงเพลงที่ชาวหยู่ชอบร้องกัน.... (ชิงโส่วท่องเนื้อเพลง )...ประโยคสุดท้ายของเพลง "ท่านไม่รู้หรือว่าความสุขในใจของข้าคือการได้อยู่ข้างๆ ท่าน" ชิงโส่วลุกขึ้นยืนบนเรือ กำลังจะล้ม ฉางกงเข้ามาประคอง....ชิงโส่วยังหันกลับมาถามต่อ.. ท่านคิดยังไงเกี่ยวกับเพลง?
ชิงโส่ว---องค์ชาย ท่านชอบข้ามั้ย...ข้าต้องการได้ยินความจริง ตอนข้าตามความจริง ท่านชอบข้าจริงๆ ดังนั้นท่านถึงพาข้ามายังแคว้นฉีใช่มั้ย คนที่ท่านชอบคือตัวข้าใช่มั้ย
ฉางกง--- ชิงโส่ว เกิดอะไรขึ้น
ชิงโส่ว---ท่านเคยคิดมั้ยว่าคนที่ท่านชอบคือข้า หรือ ............. ท่านคิดเพียงแค่ว่าท่านชอบข้า ในที่สุดท่านก็หักหลังข้าหรือหักหลังตัวท่านเอง....แต่ถ้าไม่ใช่การหักหลัง ข้าอยากได้ยินจากปากท่าน บอกข้าด้วยตัวท่านเอง ท่านพาข้ามาแคว้นฉีเพราะท่านเห็นข้าเป็นข้า ข้าคือหยวนชิงโส่ว ข้าไม่ใช่คนอื่น (ตรงประเด็น เข้าใจแล้วเน้อะชิงโส่ว คิดถึงอาย่งสุดสุด)..
ฉางกง---ชิงโส่ว ข้าทำทุกอย่างเพื่อจะได้อยู่กับเจ้า (ตอบไม่ตรงคำถามนิ) ข้าจะหักหลังเจ้าได้อย่างไร ข้าพูดด้วยความจริงใจข้าเป็นคนไม่ใช่สิ่งของ สิ่งที่ข้าทำคนมากมายต่างเห็นกับตา (ข้าไปหาเจ้าที่แคว้นฉี ผู้คนต่างก็รู้)..
ชิงโส่ว---ข้าได้ยินคนต่างพูดกัน ตำหนักขององค์ชายมีสมบัติมากมาย เพชรนิลจินดา..ถึงแม้ข้าหยวนชิงโส่วไม่มีสมบัติอะไร ในสายตาของข้าคนที่ข้าชอบต่อให้ต้องฝ่าฟันภูเขาและแม่น้ำเป็นพัน หรือต้องฝ่าอันตรายจากคนต่างๆ ข้าก็จะทำทุกอย่างเพื่อจะตามหาท่าน ข้าแค่ต้องการได้ยิน "คำบอกรักจากท่าน" แค่ประโยคเดียว ท่านจะให้ข้าได้มั้ย...
ฉางกง---ชิงโส่ว...ข้า.... เอาล่ะ อากาศใกล้น้ำนี่เย็นมาก พวกเราควรกลับเข้าฝั่งกันเถอะ (พลาดแล้วฉางกง เฮ้ออออ โอกาสนายผ่านไปล่ะ)... ชิงโส่วคิดในใจ...ที่นี่ไม่ใช่ที่ของข้า เขาทำดีกับข้าเพียงเพราะ ข้าเป็นเงาของใครคนนั้น......
ชิงโส่วกลับเข้ามาในห้อง มองรูป(ตัวเอง) เสี่ยวเหลียน..(พูดกับรูป).."เจ้ามีความสุข ท่านสามารถทำให้องค์ชายคิดถึงและกังวลถึงแต่ท่านอย่างลึกซึ้ง" ........
ส่วนฉางกงออกมารดน้ำต้นไม้ตอนกลางคืน คนรับใช้บอกฉางกงว่าแม่นางชิงโส่วสอนพวกนางให้มารดน้ำตอนกลางคืนเพราะตอนเช้าดอกไม้ที่ตูมจะบานสวยในวันรุ่งขึ้น ...คนรับใช้บอกพวกข้าจะดูแลต้นไม้เหล่านี้ให้ดีค่ะ..
กลับมาที่ฉากในห้องชิงโส่ว ...มีคนใส่หน้ากากลอบเข้ามาพบชิงโส่ว... คนใส่หน้ากาก--- อะไรกัน นี่เจ้าอิจฉาแม้กระทั่งคนที่ตายไปแล้วงั้นเหรอ....
ชิงโส่วตกใจ แต่ไม่ทันได้วิ่งก็โดนคนใส่หน้ากากพาตัวออกไปซะก่อน...ฉางกงได้ยินเสียงจากห้องชิงโส่วก็ตกใจรีบตามไป แต่ไม่ทันละ พอเข้าไปก็พบจดหมายที่คนร้ายทิ้งไว้..." หลานหลิงหวาง ข้าจับตัวคนของเจ้าไปแล้ว ถ้าหากเจ้าต้องการให้หยวนชิงโส่วปลอดภัยเจ้าต้องเอาดาบเทพเจ้าสงครามมาแลกเปลี่ยนเที่ยงคืนวันพรุ่งนี้ สำหรับสถานที่ข้าจะส่งคนมาบอกเจ้าอีกทีพรุ่งนี้ จำไว้ให้ดี ท่านมีเวลาแค่เที่ยงคืนวันพรุ่งนี้ ถ้าท่านไม่มาถึงในเวลาเที่ยงคืน วิญญาณของหยวนชิงโส่วต้องไปหาท่านแน่นอน อะไรสำคัญอะไรไม่สำคัญ องค์ชายโปรดตัดสินใจเอง" .....ฉางกงวิ่งออกมาหน้าบ้าน ตะโกน "ชิงโส่ววววววววววว" ...
ฉากนี้เล่นใหญ่ไปไหนนิ ...แต่เกาฉางกงเวอร์ชั่นนี้เป็นแบบ รักแท้ดูแลไม่ได้(ซักกะคน)..
คนที่ใส่หน้ากากก็คือ เจียงอู่เฉิน จับตัวชิงโส่วมาขังไว้ ขู่ชิงโส่วว่าให้อยู่ที่นี่อย่าคิดหนีเพราะข้าหนีก็ต้องถูกข้าจับกลับมาอยู่ดี เจ้ากับเกาฉางกง ต่างก็รักซึ่งกันและกันมาก เจ้ามาอยู่ที่นี่ก็เพื่อจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับเกาฉางกง...ข้าสงสารอวี้เหวินย่งนัก สนมช่างกล้าดี หนีตามผู้ชายคนอื่นไป และมาอยู่ร่วมชีวิตกับฝ่ายศัตรู...
ชิงโส่ว---ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าท่านจะเป็นห่วง ใส่ใจความรู้สึกของอวี้เหวินย่งมากขนาดนี้
เจียงอู่เฉิน---เจ้าเลือกผิดแล้วละ ในหัวใจของฉางกง เขามีความรักอย่างลึกซึ้งให้กับผู้หญิงอีกคนตลอดกาล ไม่มีใครจะไปแทนที่ผู้หญิงคนนั้นในใจเขาได้ แต่น่าเสียดายที่นางเสียชีวิตไปแล้ว
ชิงโส่ว---เจียงอู่เฉิน เจ้ารู้จักคำว่ารักงั้นเหรอ เพราะต้องการจะได้คนที่ท่านรักสมหวัง ท่านใช้คำว่ารักไปทำร้ายคนอื่น ถ้าไม่มีแม่นางคนนั้นเขาก็อาจจะรักข้าก็ได้.....ชิงโส่วหยิบเอาหยกที่เถาหัวฝากชิงโส่วไว้มอบให้เจีบงอู่เฉินก่อนตาย... (อู่เฉินเห็นก็ตกใจ).......
เจียงอู่เฉิน---ทำไมของสิ่งนี้มาอยู่ในมือของเจ้า
ชิงโส่ว--- คนได้ตายไปแล้ว...เจ้าจะมาต้องการของสิ่งนี้อีกทำไม ตอนที่เจ้าทำร้ายนาง เจ้าไม่คิดเหรอว่านางจะถึงตาย ขนาดร่างกายไม่สามารถต้านทานแรงฝ่ามือเจ้าได้ หัวใจย่อมตายไปด้วยแน่นอน..
เจียงอู่เฉิน---ไม่จริง ฝ่ามือของข้าไม่แรงพอที่จะฆ่านาง นางต้องไม่ตายง่ายๆ
ชิงโส่ว---เถาหัวตายแล้ว เจ้ารู้มั้ยนอกจากจะบอกข้าไม่ให้แก้แค้นท่าน ก่อนที่นางจะสิ้นลม คนที่อยู่ในหัวใจนางก็มีเพียงคนเดียวก็คือเจ้า นางขอร้องข้าให้ข้าปกป้องเจ้า อย่าให้ใครทำร้ายเจ้า...
เจียงอู่เฉิน---(หน้าเสียใจ แต่แล้วก็มองชิงโส่ว) ...ใช่แล้วข้าเป็นคนฆ่าเถาฮัว แล้วจะทำไม มันไม่ใช่เรื่องอะไรของเจ้า เจ้าไม่จำเป็นต้องสัญญากับนางว่าจะปกป้องข้า...
ชิงโส่ว---คนที่ไม่มีหัวใจอย่างเจ้า เจ้าไม่คู่ควรให้ใครมาปกป้องเจ้าหรอก...เจ้าปกป้องแค่คนเดียวคือเมี๊ยวอู่อิน ...พี่สาวฮัวช่างมองท่านผิดไปจริงๆ ...
เจียงอู่เฉิน---ใช่ แน่นอนในโลกนี้มีคนตาบอดอยู่มากมาย (น้ำตาคลอ ตานี่สายประชดนะ) อวี้เหวินย่งแห่งตำหนักไต๋ซือคง ก็เป็นคนหนึ่งที่เสียใจ ไม่แค่ต้องลดตัวมาแสดงละครกับเจ้าด้วย เขายังช่วยพวกเจ้าให้หนีรอดออกมาจากฉางอันไม่คิดถึงชีวิตตนเองว่าจะเป็นหรือตาย ...... (ชิงโส่วเงียบ คิดถึงอวี้เหวินย่ง)....ทำไม ถึงกับพูดไม่ออกเลยเหรอ
ชิงโส่ว---ถ้าเจ้าเป็นห่วงอวี้เหวินย่งมากขนาดนี้ เจ้าก็ควรรีบไปดูแลเขาและดูแลเขาให้ดี ....
เจียงอู่เฉิน---เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว เจ้ายังพูดเช่นนี้ออกมาได้อีกเหรอ เจ้าเคยคิดว่าอวี้เหวินย่งมีค่าสำหรับเจ้ามั้ย (ถามได้ดีหนับหนุน)....
ชิงโส่ว---แท้จริงแล้วข้าต่างหากที่ไม่มีค่าเลยสำหรับอวี้เหวินย่ง แต่เปรียบเทียบกันแล้วสิ่งที่ข้าทำกับสิ่งที่เจ้าทำกับพี่สาวฮัว มันแตกต่างกันเป็นล้านเท่า....
เจียงอู่เฉิน--ข้าไม่รู้ว่าหากอวี้เหวินย่งได้ยินเจ้าพูด เขาจะคิดเช่นใด แต่น่าเสียดาย ตอนนี้เขากำลังลำบาก ต้องช่วยเหลือตัวเอง (ถูกอีตาอำมาตย์จับตาแรง) เขาไม่สามารถมาฟังคำพูดเจ้าได้..
ชิงโส่ว---เจ้าว่าอะไรนะ อวี้เหวินย่งกำลังตกอยู่ในอันตรายเหรอ เป็นเพราะอวี้เหวินฮู่ ใช่มั้ย..
เจียงอู่เฉิน---ถ้าเจ้าเป็นห่วงอวี้เหวินย่งมาก เจ้าก็ไปถามเขาเองซิ (อร๊ายยย ย้อน) อย่าลืมว่าแค่เป็นแค่แขกของตำหนักไต๋ซือคง จะรู้อะไรมากพอที่จะบอกเจ้าได้....
นางมารเสื้อขาว ---- ดีจริงๆ คนหนึ่งก็อวี้เหวินย่ง คนหนึ่งก็เถาฮัว..ช่างดีเหลือเกินที่ได้ยินเรื่องเหล่านี้..
เจียงอู่เฉิน---แม่นางฟ้ายอดขมองอิ่ม ข้าทำตามที่เจ้าสั่งแล้ว ข้านำเอาสมบัติล้ำค่าของเกาฉางกงมาให้เจ้าแล้ว...
ชิงโส่ว---เหมียวอู่อิน นางมารร้าย อย่ามาคิดใช้ข้าเป็นตัวประกันแลกอะไรกับองค์ชาย
เหมียวอู่อิน---อันนี้มันก็ขึ้นอยู่กับเจ้า พวกเราจะได้เห็นหัวใจของเกาฉางกง เจ้าคืออะไรของเขา มีความหมายกับเขาหรือไม่จะได้เห็นกัน ว่าเจ้ามีค่าพอที่เขาจะเอาดาบเทพเจ้าสงครามมาแลกเปลี่ยนหรือไม่...
ชิงโส่ว---ดาบเทพเจ้าสงคราม ทำไมดาบอยู่กับองค์ชาย ท่านถามคนผิดแล้วล่ะ
เหมียวอู่อิน--จะอยู่ถูกคนหรืออยู่ผิดคน ก็ไม่ใช่เรื่องของข้า จะนำดาบเทพเจ้าสงครามมาช่วยเจ้าหรือไม่ มันเป็นเรื่องของเกาฉางกง..
ชิงโส่ว---เขาไม่เอาดาบมาแลกกับข้าหรอก
เหมี่ยวอู่อิน--เจ้ายังไม่ต้องรีบพูดประโยคนี้หรอก (หันไปหาเจียงอู่เฉิน)...ทุกอย่างเตรียมการไว้พร้อมแล้วใช่มั้ย
เจียงอู่เฉิน--ทุกอย่างเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว เราจะได้เห็นกันว่าใครที่ควรหักหลังจะถูกหักหลังหรือไม่
เหยียนหว่านเข้ามาพอดี เจียงอู่เฉินเลยขอตัวออกไปข้างนอก...เหมียวอู่อินบอกให้เหยียนหว่านคอยจับตาดูชิงโส่วอย่าให้หนีไปได้ ถ้ามีอะไรผิดพลาดขึ้นมาเจ้ารู้ใช่มั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้น...
หลังจากที่แม่ฉางกงออกไปแล้ว เหยียนหว่านเข้ามาหาชิงโส่วแล้วพูดประมาณว่า ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ข้าหน้าตาขี้เหร่กว่าเจ้าตรงไหน ฝีมือวิทยายุทธ์ข้าไม่ดีเท่าเจ้าตรงไหน ทุกอย่างข้ามีเหนือเจ้าหมด แต่ทำไมอวี้เหวินย่งถึงเป็นห่วงแต่เจ้า....ชิงโส่วเลยบอกเหยียนหว่านว่าที่อวี้เหวินย่งไม่รักเจ้าซักที ก็เพราะเจ้าทำแต่สิ่งชั่วร้าย ชอบทำร้ายแต่ผู้อื่นไงล่ะ...เหยียนหว่านเลยบอก ชิงโส่วเจ้ารู้จักข้าน้อยยิ่งนัก เจ้าเรียกข้าว่าคนโหดร้ายยังงั้นเหรอ.....(สองสาวมองตากัน อืมจริงๆ เหยียนหว่านก็ไม่ได้โหดนะ เพราะถ้าโหดคงฆ่าชิงโส่วไปนานละเท่าที่ดูมามีโอกาสมากมายหลายครั้งที่จะฆ่าได้เลยแต่นางก็ไม่ฆ่า)...
ตัดมาทางด้านมารเสื้อขาวเหมียวอู่อินกับเจียงอู่เฉิน เดินคุยกันอยู่ในป่า...นี่พวกเราก็ไม่ได้เดินเล่นด้วยกันอย่างนี้มานานมากแล้วนะ...
มารเสื้อขาว---เจียงอู่เฉิน ท่านนี่ช่างมีอารมณ์สุนทรีย์นะ
เจียงอู่เฉิน---ท่านคิดไว้ว่าอย่างไร จะนำดาบเทพเจ้าสงครามมาทำอย่างไร ในหัวใจเจ้ามีแต่ตำหนักเทียนหลัวใต้พิภพ กับดาบเทพเจ้าสงครามเท่านั้นใช่มั้ย
มารเสื้อขาว---แน่นอน เจ้ากับข้าเราต่างก็เป็นหนึ่งใน 4 ผู้พิทักษ์ตำหนักเทียนหลัว พวกเราไม่มีทางจะตัดสายสัมพันธ์กับตำหนักเทียนหลัวได้แน่นอน การที่จะให้พวกเราแค่นั่งและรอคอยความตายมาหานั้น ทำไมเราไม่จัดการทุกอย่างให้เสร็จสิ้นสะละเป็นผู้ครองตำหนักซะเอง...เจียงอู่เฉิน เจ้าอย่าบอกข้านะว่าเจ้าไม่คิดถึงเรื่องนี้
เจียงอู่เฉิน---ข้าจะคิดทำแบบนั้นทำไม จริงๆ แล้วเจ้ารู้ทุกอย่างกระจ่างอยู่แล้ว ข้าก็แค่ต้องการให้เจ้ามีความสุข ตำหนักเทียนหลัว เก็บความลับและของวิเศษที่มีผลต่อความสงบสุขของทั้งแผ่นดินจีน เจ้าคิดจะเข้าไปเปิดตำหนักเทียนหลัวใต้พิภพอีกครั้งอย่างนั้นหรือ
มารเสื้อขาว---มีอิทธิพลกับความปลอดภัยของใต้หล้าอย่างนั้นหรือ....เจ้าคิดว่าข้าต้องการจะสู้เพื่อประชาชนและคนในใต้หล้านี้งั้นเหรอ...โง่สิ้นดี ข้าไม่มีทางทำหรอก เราแค่ต้องหากษัตริย์ให้ได้เท่านั้น ส่วนข้าก็จะเป็นฮ่องเฮาของตำหนักเทียนหลัว เขา(กษัตริย์ที่หามาได้) จะเป็นคนที่ทำหน้าที่นั้น ต่อสู้เพื่อปกป้องใต้หล้าให้พวกคนสามัญประชาชน...ทุกอย่างมันก็ต้องเรียบร้อย ...ไม่มีใครจะมาหยุดยั้งข้าได้
เจียงอู่เฉิน---แน่นอนข้ารู้อยู่แล้ว ข้าเข้าใจเจ้า แต่มีบางอย่างที่ข้ายังไม่เข้าใจชัดเจน คนที่เจ้าพูดถึง ว่าควรมาเป็นกษัตริย์ เจ้าหมายถึงใครกัน..
มารเสื้อขาว---คนที่ชนะก็จะได้เป็นกษัตริย์ (เกาฉางกง vs อวี้เหวินย่ง???) ใครก็ตาม ข้าไม่สนใจหรอก ขอแค่ชนะ ตราบใดที่ข้าครอบครองทุกอย่างของตำหนักเทียนหลัวใต้พิภพ ข้าก็จะเป็นนายของตำหนักเทียนหลัว มีผู้พิทักษ์ทั้ง 4 คอยรับใช้อยู่ใต้ฝ่าเท้าข้า ใครจะเป็นจักรพรรดิ์ ก้ไม่เป็นไร มีเพียงแค่ข้าคนเดียวเท่านั้นที่จะครองใต้หล้านี้อย่างแท้จริง และเป็นฮ่องเฮาของใต้หล้า (ยายหน้าแบน แถมเลว มโนไปไกลเชียว)......
มารเสื้อขาวเห็นแม่ฉางกงถือดาบเล่มใหญ่ในมือ จึงคิดว่า นางกำลังจะเอาดาบหนีไป (ไม่ยอมให้ฉางกงเอามาแลกชิงโส่ว) ข้าไม่ยอมให้เจ้าทำสำเร็จหรอก ....เจียงอู่เฉินเลยรีบตามแม่ฉางกงไป
เจียงอู่เฉิน---การกระทำของท่าน หากมีคนรู้ พวกเขาคงไม่ยินดีปรีดากับสิ่งที่ท่านทำแน่่ ท่านคอยแต่จะทำร้ายคน ไม่ได้นำมาซึ่งชัยชนะที่ยิ่งใหญ่หรอกนะ
แม่ฉางกง---ผู้ชายที่ดีงามอย่างเจ้า มาพูดจ้าเช่นนี้กับผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอย่างข้า มีจุดประสงค์อะไรกันแน่
เจียงอู่เฉิน---ต่อหน้าคนฉลาด ไม่จำเป็นต้องพูดอ้อมค้อม สิ่งที่ข้าต้องการคือสิ่งที่อยู่ในมือของท่าน
แม่ฉางกง---ก็ต้องดูว่าเจ้ามีความสามารถมั้ย....
(ทั้งคู่สู้กันไปมา ในที่สุดมารเสื้อขาวก็ตามมาทัน สู้กับแม่ฉางกง จนแม่ฉางกงต้องรีบหลบหนีไป แม่ฉางกงทำต่างหูตกไว้บนพื้น ข้างหนึ่ง มารเสื้อขาวบอก...ดาบเทพเจ้าสงครามของปลอมมันใช้หลอกจูเก่ออวู่ซือได้ แต่ใช้มาหลอกข้าไม่ได้หรอก........
ทางด้านตำหนักของฉางกง คนรับใช้ของลั่วหยุน เข้ามารายงานลั่วหยุนว่า องค์ชายมักจะไปดูแลชิงโส่วที่เรือนเหลียหยู่ อยู่เป็นประจำ แต่ท่านยังมีแก่ใจมานั่งเย็บเสื้อให้องค์ชายอีก นายหญิง....ลั่วหยุนขอบคุณคนรับใช้ที่คอยเป็นห่วงเป็นใยตน แต่พวกเราก็รู้ความจริงกันดีอยู่แล้ว่ ข้าเข้าใจฉางกง คนที่ฉางกงชอบข้าให้อิสระเขา ทุกอย่างดีแล้วตราบใดที่เขามีความสุข ข้าก็จะทำในส่วนของข้าให้ดีที่สุด (บทเหมือนนางเอกนะ งง กับตัวนี้มาก ดีจริง หรือไม่ดีจริง) ข้าไม่ต้องการจะได้ยินหรือเห็นอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้.....คนรับใช้บอกลั่วหยุน นายท่านหากท่านยังทำเยี่ยงนี้ หยวนชิงโส่วต้องชิงตัวองค์ชายฉางกงไปได้แน่ๆ เลยไม่ช้าก็เร็ว....แล้วคนรับใช้ก็สังเกตเห็นสร้อยคอที่ลั่วหยุนใส่อยู่ (นางมารเสื้อขาวให้มา ใช้สำหรับสะกดจิตลั่วหยุน)...นายท่านซื้อมาตอนไหนคะ....ลั่วหยุนได้ยินเสียงของมารเสื้อขาวก้องอยู่ในหู "เจ้าชอบสร้อยนี้ใช่มั้ย ถ้าเจ้าชอบนะ เจ้าจะได้มันไปหลังจากทำงานให้ข้า"....ลั่วหยุนกำลังจะเดินออกจากห้อง (ถูกสะกดจิตหลังมองสร้อย)... คนรับใช้ถามลั่วหยุนว่าจะไปไหน ลั่วหยุนหันมาสั่งให้คนรับใช้อยู่จัดห้องนี้ให้ดีถ้าทำไม่สะอาดข้าไม่อนุญาตให้เจ้าออกไปไหนเด็ดขาด คนใช้ทำหน้างงๆ แล้วก็รีบทำความสะอาดห้อง...ส่วนลั่วหยุนก็เดินออกไปรีบตรงไปยังห้องของเกาฉางกง....
ในสวนของตำหนักฉางกง พวกคนรับใช้ในวังต่างก็เดินไปพูดถึงลั่วหยุนกับเกาฉางกงไป ประมาณว่าพวกเราทุกคนในตำหนักต่างก็รู้ดีกว่าลั่วหยุนอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร แต่ตอนนี้แม่นางชิงโส่วเข้ามาขวางทั้งคู่ซะแล้ว ถ้าข้าเป็นแม่นางลั่วหยุน ข้าคิดว่าข้าขอตายซะดีกว่า..... แม่ทัพฮูลู่ได้ยินที่พวกคนรับใช้พูดกัน (บังเอิ๊ญบังเอิญ) ก็ไม่สบายใจ พอพบฉางกง ฉางกงก็ถามแม่ทัพฮูลู่ว่าได้ข่าวของชิงโส่วมั้ย...แม่ทัพฮูลู่รีบพูดขึ้นว่า ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วงแม่นางชิงโส่วข้าได้ส่งคนไปตามหาทุกๆที่แล้ว ข้าเชื่อว่าคงได้ข่าวแม่นางชิงโส่วเร็วๆ นี้....ฉางกงเห็นหน้าแม่ทัพฮูลู่ไม่ดี คล้ายไม่พอใจอะไรเลยถามว่าท่านมีอะไรที่ไม่สบายใจ อยากพูดอะไร พูดมาได้เลยนะ.....แม่ทัพรีบพูด (แบบไม่มองหน้าฉางกง) แม่นางชิงโส่วหายตัวไป เป็นธรรมดาที่ท่านจะวิตกกังวลแต่ ท่านเคยคิดถึงลั่วหยุนบ้างมั้ย นางเป็นแค่ผู้หญิงผู้อ่อนแอคนหนึ่ง ต้องรีบเร่งเดินทางทั้งวันทั้งคืน แผลบาดเจ็บเก่ายังรักษาไม่หายดีตอนนี้บาดเจ็บเพิ่มอีก คนที่นางเฝ้าคิดถึงและเป็นห่วงมีแต่เจ้า ฉางกงเท่านั้น พอเกิดเรื่องนี้ขึ้น (ชิงโส่วมาอยู่แคว้นฉีด้วย) ท่านคิดว่านาง(ลั่วหยุน)จะรู้สึกเช่นใด จะเป็นเช่นใด....ฉางกงเลยถามแม่ทัพว่าแล้วตอนนี้ลั่วหยุนอยู่ที่ไหน....แม่ทัพฮูลู่บอกลั่วหยุนไปที่ห้องทำงานของท่านเมื่อซักครู่นี้....ฉางกงรีบเดินจะไปหาลั่วหยุน...
ทางด้านลั่วหยุนกำลังพยายามค้นหาดาบเทพเจ้าสงคราม หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ "เอ๊ะแปลกจริง ไม่มีดาบเทพเจ้าสงครามที่นี่" ...ฉางกงมาเห็นลั่วหยุนกำลังหาอะไรอยู่ก็ถามว่าลั่วหยุนเจ้ากำลังทำอะไร ลั่วหยุนบอก เปล่านี่ข้าแค่มาดูว่ามีอะไรที่ต้องทำความสะอาดมั้ย ฉางกงบอกเจ้าให้คนรับใช้มาทำก็ได้ ไม่ต้องทำเองหรอกเจ้าลำบากมามากแล้ว...ลั่วหยุนรีบพูด ฉางกงข้า..... ดาบเทพเจ้าสงครามอยู่ที่ไหน...
ฉางกง----ดาบเทพเจ้าสงครามงั้นเหรอ ทำไมอยู่ๆ เจ้าก็ถามข้าเรื่องนี้
ลั่วหยุน----ไม่มีอะไร เพียงแต่หลายคนต่างก็จับตาและมองหาดาบเทพเจ้าสงคราม ข้าก็แค่ต้องการให้ท่านเก็บซ่อนดาบไว้อย่างปลอดภัยมากๆ เท่านั้นเอง (ลั่วหยุนปวดหัว)
ฉางกง---ลั่วหยุนเจ้าเป็นอะไรไป อาการบาดเจ็บเก่ากำเริบใช่มั้ย
ลั่วหยุน--- ข้าสบายดี แค่ปวดหัวนิดหน่อย
ฉางกง---(เรียกคนข้างนอกเข้ามา) ลั่วหยุนรู้สึกไม่ค่อยดี เจ้ารีบไปตามท่านหมอมาดูอาการนางเร็วเข้า
ลั่วหยุน---ข้าไม่ต้องการท่านมาเป็นห่วงดูแลข้า ท่านตอนนี้ซ่อนดาบเทพเจ้าสงครามไว้ไม่บอกแม้กระทั่งข้าให้รู้ (ทำเสียงโกรธ)
ฉางกง---เจ้าไม่เคยสนใจดาบเทพเจ้าสงครามมาก่อนเลยนี่...
ลั่วหยุน---เป็นเพราะหยวนชิงโส่ว.. ท่าน เกาฉางกง ตอบข้าตามความสัตย์จริง ท่านดูแลข้าดีแล้วเหรอ ยุติธรรมกับข้ามั้ย ข้าเกลียดท่าน.....(แล้วลั่วหยุนก็เดินออกไป ทหารของฉางกงเดินเข้ามาหาฉางกง)
ทหาร---องค์ชาย มีคนนำของสิ่งนี้มาฝากไว้ให้ท่าน (ต่างหูแม่ฉางกง ที่ทำตกพื้นไว้)
ฉางกง--- คนที่นำของมาให้อยู่ไหนล่ะ
ทหาร--- เขารีบให้แล้วก็รีบไปแล้ว ไม่รู้เป็นใคร....
ฉางกง---แล้วตอนนี้ท่านแม่ข้าอยู่ไหน
ทหาร---นายหญิงออกไปตั้งแต่เช้าแล้วครับ
ฉางกง---เจ้ารีบให้คนออกตามหาท่านแม่ข้าเดี๋ยวนี้ แม้จะต้องพลิกแผ่นดินหา ก็ต้องตามหาแม่ข้าให้พบ...(ทหารรีบออกไปทำตามคำสั่ง)
แม่ทัพฮูลู่--- เจ้าอย่ากังวลเลยฉางกง เจ้าก็รู้ดีว่านายหญิงเก่งขนาดไหน นางต้องปลอดภัย บางทีอาจจะเป็นแผนที่พวกนั้นหลอกจะใช้นายหญิงมาแลกกับดาบเทพเจ้าสงคราม...
ฉางกง---(ยกต่างหูโชว์ให้แม่ทัพดู)... มีต่างหูของแม่ข้ามากับจดหมายด้วย..
แม่ทัพฮูลู่---อะไรนะ นายหญิงอยู่ในมือพวกมันเหรอ
ฉางกง---ข้าก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่คนที่นำของมาให้ต้องเป็นพวกคนเลว คนดีเขาไม่ทำแบบนี้แน่ เครื่องประดับแม่ข้าอยู่กับพวกมัน
แม่ทัพฮูลู่---ฉางกงงั้นพวกเราจะทำอย่างไรกันดี
ฉางกง---คนหนึ่งอยู่ทางตะวันออก คนหนึ่งอยู่ทางตะวันตก ทั้งคู่ต่างก็ต้องใช้ดาบเทพเจ้าสงครามไปแลกเปลี่ยนเวลาเที่ยงคืนวันนี้ ข้าควรจะทำอย่างไรดี.....
ทางด้านเจียงอู่เฉินยังคงตามแม่ฉางกงมา แม่ฉางกงเลยหยุดคุยกัน แม่ฉางกงพยายามโน้มน้าวให้เจียงอู่เฉินช่วยหาลูกแก้วเจินหวนให้ตน เพื่อที่จะได้เอาไปเปิดตำหนักเทียนหลัวใต้พิภพ เจียงอู่เฉินถามแม่ฉางกงว่าหากเปิดได้แล้วจะทำยังไงต่อ แม่ฉางกงบอกข้างในต้องมีสมบัติเยอะแน่ๆ เจียงอู่เฉินบอกรู้นะว่าจริงๆ แล้ว ท่านคือ 1 ใน 4 ผู้พิทักษ์กฏของตำหนักเทียนหลัว ไม่ใช่เถาฮัวหรอก ต้องมีคนนำเถาฮัวมาเลี้ยงดูตั้งแต่เด็กและสั่งสอนให้นางรู้เรื่องของตำหนักเทียนหลัวและทำให้คนเชื่อว่านางเป็นเต่าดำ 1 ใน 4 ผู้พิทักษ์กฏ ....แม่ฉางกงถามอู่เฉินว่าที่มานี่ต้องการอะไร อู่เฉินบอกต้องการมาขัดขวางให้แน่ใจว่าท่านจะไปทำให้แผนการณ์เสีย มันเป้นเกมส์ ...แม่ฉางกง งง ....อู่เฉินบอกตอนนี้ ตอนนี้มันสายไปละล่ะ... (ยังไงฉางกงก็ต้องนำดาบออกมาจากที่ซ่อน)...
ทางด้านชิงโส่ว ถูกเหยียนหว่านจับมัดกับหลัก และสุมกิ่งไม้ใบไม้แห้งไว้มากมาย เตรียมเผา เหยียนหว่านบอกชิงโส่วว่าความร้อนจะก่อให้เกิดประกายไฟ และจะลุกไหม้พอดีตอนเที่ยงคืน เจ้าจะได้ถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่านแน่นอน...ชิงโส่วบอก "เจ้าอย่ามัวมามโนเรื่องของข้าอยู่เลย ยังไงองค์ชายก็ไม่มาช่วยข้าหรอก".......
ทางด้านฉางกงกับแม่ทัพฮูลู่มาเอาดาบกัน (ตัดฉากกับภาพไปมา งงอยู่เหมือนกัน ตัดต่อได้ไม่ค่อยเนียนเลยเน้อะ).... สรุปดาบเทพเจ้าสงคราม ฉางกงได้นำมาซ่อนไว้สร้างเป็นเนื้อเดียวกับกำแพงเมือง การนำดาบเทพเจ้าสงครามออกมาจากกำแพงจะทำให้กำแพงเมืองพัง เสี่ยงต่อการบุกมาของศัตรู กลายเป็นจุดอ่อนของแคว้นฉีไป....ฉางกงบอกยังไงมันก็เป็นเพียงแค่วัตถุสิ่งของชิ้นหนึ่งเท่านั้นมันจะมีค่ามากกว่าชีวิตคนได้ยังไง....หากท่านแม่รู้ว่าข้าถูกจับตัวไปข้ามั่นใจว่าท่านแม่ก็จะนำมันออกมาอย่างไม่คิดอะไรเลย....เราอย่าเรียกมันว่าดาบเทพเจ้าแห่งสงครามเลย ถึงแม้ต้องใช้ชีวิตข้าในการแลกเปลี่ยน ข้าก็จะให้ท่านแม่ข้ากลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้..... (อ้าวว แล้วชิงโส่วอะ เบื่อฉางกงมาก)...ตอนนี้เกือบเที่ยงคืนละ ยังไม่มีข่าวของท่านแม่เลย (ให้ทหารออกตามหา) ดังนั้นข้าต้องลองดู...(ฉางกงเอาดาบออกมาจากกำแพงเมือง ทำให้กำแพงแถบหนึ่งพัง)...
ฉางกงพูดขึ้น ตอนนี้ชิงโส่วถูกคนของตำหนักเทียนหลัวใต้พิภพจับตัวไป ก็ยากอีกเช่นกันที่จะหาตัวพบ (ทหารมารายงานว่าไม่ได้ข่าวใครเลย ฉางกงทำหน้าเศร้ากังวล) ฉางกงตัดสินใจ ไปตะวันตกก่อนเพื่อช่วยแม่ หลังจากนั้นรีบไปทางตะวันออกเพื่อช่วยชิงโส่ว....แม่ทัพบอกทั้งสองฝั่ง ตะวันออกและตะวันตก ต่างก็ไกลกันมาก มันอาจจะสายเกินไป....
ฉางกง---งั้นเราก็คงต้องแล้วแต่สวรรค์จะเมตตา (เฮ้ยยยยยยย เฮ้อออออ เพลียมากนางฉางกง)
แม่ทัพฮูลู่---ฉางกง ข้าว่าทางที่ดีส่งคนไปด้วย มากมากให้รีบไปถึงที่นั่นก่อน..
ฉางกง--- คนของตำหนักเทียนหลัวไม่ใช่คนธรรมดาที่ทหารจะต่อสู้ด้วยได้ พวกนั้นต่างก็โหดเหี้ยมและเก่งกาจ ทหารที่ไปจะถูกฆ่าตายกับข้าไปเสียเปล่าๆ ทุกๆ คนมีพ่อแม่ ทำไมข้าต้องให้พวกเขามาเสียชีวิตของพวกเขาเพื่อข้า?? (แล้วชิงโส่วอะ ชวนมาอยู่ด้วยก็ดูแลไม่ได้นิ) ในจดหมายระบุไว้ ต้องข้าเท่าน้นเป็นผู้นำดาบไปแลกด้วยตัวเอง อย่าต้องมาคุ้มกันข้าเลยจะสูญเสียมากเปล่าๆ....(ฉางกงรีบออกไปทางตะวันตก ช่วยแม่)
ทหาร---ท่านแม่ทัพฮูลู่ พวกเราจะไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้องค์ชายไปเสี่ยงเพียงลำพังเช่นนี้ไม่ดีแน่
แม่ทัพฮูลู่---เจ้าจงไปเตรียมกองทัพให้พร้อม หากมีอะไรไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น พวกเราต้องปกป้ององค์ชายด้วยชีวิตของพวกเรา
ทางด้านลั่วหยุนมาหานางมารเสื้อขาว นางมารเสื้อขาวพูดกับลั่วหยุนประมาณว่าข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะไม่นำดาบเทพเจ้าสงครามมาด้วย...ลั่วหยุนบอก "ข้ารู้ว่าข้าทำพลาด ฉางกงไม่ยอมบอกข้าว่าเอาดาบไว้ที่ไหน"
มารเสื้อขาว----เจ้าไม่มีโอกาสจัดการเกาฉางกง จิตของเจ้าถูกข้าบงการอยู่ แต่ข้าก็คิดไม่ถึงว่าเจ้ายังสามารถจะปกป้องฉางกงอยู่อีก เจ้าคงมีความรักอย่างลึกซึ้งให้ฉางกงจริงๆ ข้าก็ไม่ต้องการจะวิ่งไล่จับพวกสัตว์ประหลาดหรอกนะ เจ้าเป็นแค่ทาสรับใช้ข้า เอาเถอะข้าต้องการจะเห็นหัวใจของเกาฉางกง ระหว่างเจ้ากับหยวนชิงโส่ว ใครมีค่าในหัวใจเขา ที่เขาจะนำดาบเทพเจ้าแห่งสงครามมาแลก......
ทางด้านเหยียนหว่าน เข้ามาคุยกับชิงโส่่ว "หลานหลิงหวางของเจ้าไม่มาช่วยชีวิตเจ้า เจ้าจะทำอย่างไร หัวใจของข้าก็รู้สึกเสียใจกับเจ้าเล็กน้อยที่เจ้าต้องมาตายแบบนี้"
ชิงโส่ว---เจ้า เจ้าใช้ยาพิษทำร้ายท่านพี่สาวเถาฮัว แล้วเจ้าจะมารู้สึกเสียใจกับการกระทำของเจ้าที่ทำกับข้างั้นเหรอ อย่ามา(สะตอ) สร้างเรื่องน้ำตาหยดที่นี่...
เหยียนหว่าน---เจ้าพูดถูกแล้ว จริงๆแล้วคนอย่างข้า ข้าแค่ทำทุกอย่างเพื่อที่จะผลักไสเจ้าออกไปจากไต๋ซือกงเท่านั้น
ชิงโส่ว---ดี งั้นเจ้าก็คงเสียใจที่จะได้ชื่นชมกับฉากการตายของข้า
เหยียนหว่าน---เจ้ามีคำสั่งเสียอะไรจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายมั้ย ข้าจะช่วยนำไปบอกอาย่งให้
ชิงโส่ว---ข้าต้องขอบคุณเจ้า จริงๆ แล้วข้ามีบางคำพูดจะบอก ถึงแม้ว่าข้าตาย ก็ขอให้เขาไม่แต่งงานกับเจ้า
เหยียนหว่าน---เจ้า ความตายอยู่ใกล้เจ้าขนาดนี้ยังจะมาปากดีอีก เสียใจด้วยนะ ข้าไม่มีวันบอกประโยคนี้กับไต๋ซือคงหรอก...หยวนชิงโส่วตอนนี้เจ้าก็ร้องขอต่อสวรรคืไปเถอะ สวรรค์ไม่มีทางตอบสนองเจ้า เรียกแผ่นดิน แผ่นดินก็ไม่มีทางตอบสนองเจ้า ดูซิ ตอนนี้ไหนล่ะ เกาฉางกงอยู่ที่ไหน สามีเจ้าอยู่ที่ไหน ไฟกำลังจะมาถึงตัวเจ้าละ เจ้ายังมีเวลาอีกเล็กน้อยให้คิด เจ้าทำอะไรผิดมาบ้างในชีวิตนี้........... (ไฟกำลังไหม้มารอบๆ ตัวของชิงโส่ว)
ฉางกงมาถึงนางมารเสื้อขาว นางมารกำลังเล่นพิณอยู่ พอเห็นฉางกงก็ถามว่าท่านมาอย่างเร่งรีบเช่นนี้ ไม่ยอมชมจันทร์ที่สวยงามค่ำคืนนี้ มันน่าผิดหวังนัก....ฉางกงบอก แม่นางข้านำดาบเทพเจ้าแห่งสงครามมาล่ะ ขอแลกกับคนที่อยู่ในมือท่านตามที่ท่านสัญญา...นางมารบอก "องค์ชายช่างเป็นทำให้วิญญาณข้าสดชื่น ข้าสัญญาท่านไว้ตอนเที่ยงคืน ตอนนี้ยังไม่เที่ยงคืนเลย ข้ามาจะเป็นการดีถ้า..........(ฉางกงทำหน้าแบบโมโหจัด นางมารเห็น)....ท่านดูโกรธแรงมาก เอาเถอะ คนอยู่ข้างใน เข้าไปซิ.......
ตอนที่ 23
มารเสื้อขาว-- ข้าไม่กล้าห้ามท่านเข้าไปหรอก เชิญองค์ชายเข้าไปให้เห็นกับตา คนที่ท่านต้องการมาช่วยอยู่ด้านใน คุ้มค่ากับการที่ท่านเดินทางมายังชายแดนด้านตะวันตกหรือไม่
ฉางกงเข้ามาในห้องก็เห็นลั่วหยุนนอนอยู่บนเตียง ลั่วหยุนพอเห็นฉางกงก็รีบบอกฉางกงให้รีบไป ผู้หญิงคนนี้(มารเสื้อขาว) ช่างเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว ข้าไม่รู้ว่าข้าถูกจับตัวมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง ตอนไหน (หล่อนเดินมาหานางมารเองเลยย่ะ) ...
มารเสื้อขาว---หัวใจของสาวสวยผู้นี้มีแต่ท่านเท่านั้นองค์ชาย ตัวเองอยู่ในอันตรายระหว่างความเป็นความตาย ยังจะบอกให้องค์ชายรีบหนีไปอีก
ฉางกง---เจ้าต้องการอะไรจากนาง
มารเสื้อขาว---ข้ารู้ว่าดาบเทพเจ้าสงครามอยู่กับท่าน หากข้าจะใช้พิษที่ทำให้ท่านตกอยู่ในอำนาจข้า ก็ไม่อาจเกิดผลได้ หยุดยั้งท่านไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เจิงลั่วหยุนถูกพิษของข้านางก็ต้องตายไม่ช้าก็เร็ว ท่านยังต้องการจะเก็บดาบเทพเจ้าสงครามไว้กับตัวท่านอีกหรือ ท่านควรใช้ดาบมาแลกกับยาถอนพิษ เพื่อรักษาชีวิตนางไว้ไม่ดีกว่าหรือ
ฉางกง----แม่ข้าอยู่ที่ไหน
มารเสื้อขาว---บางทีนางคงแก้เชือกหลุดออกไปได้แล้วมั้ง และคงกลับไปยังตำหนักของท่านแล้ว องค์ชาย ท่านคงผิดหวังมากละซิ เพราะคนที่ข้าจับไว้ไม่ใช่ท่านแม่ของท่าน
ฉางกง---เจ้าทำอะไรท่านแม่ของข้า
มารเสื้อขาว---ข้าไม่ได้ต้องการจะทำอะไรท่านแม่ของท่านนางเก่งเอาตัวรอดได้ตลอด ถ้าข้าจับตัวนางไว้นางต้องก่อปัญหามากมายให้ข้าแน่นอน ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจเปลี่ยนคน (เป็นลั่วหยุน) ในท้ายที่สุด
ลั่วหยุน---ข้าไม่มีค่าพอที่ท่านจะใช้ดาบเทพเจ้าสงครามมาแลกเปลี่ยนหรอก...
มารเสื้อขาว---หรือในหัวใจของท่าน (ฉางกง) เจิงลั่วหยุนเทียบไม่ได้กับหยวนชิงโส่ว
ฉางกง--- ดูเหมือนว่าเจ้าจับตัวหยวนชิงโส่วไว้ด้วยชินะ ข้ากำลังถามเจ้า ตอนนี้แม่ข้าอยู่ที่ไหน (โอ๊ยยยยยย เบื่อฉางกง ไม่ฉลาดนิ) ชิงโส่วล่ะอยู่ที่ไหน
มารเสื้อขาว---ดาบเทพเจ้าสงครามนี่ช่างมีค่ายิ่งนัก..
ฉางกง---นี่เจ้ากล้าเล่นตลกกับข้างั้นเหรอ ในเมื่อเจ้าได้จับตัวชิงโส่วไว้แล้ว ทำไมต้องจับคนอื่นๆ มาเพื่อบังคับข้าด้วย
มารเสื้อขาว---ฮะ ข้าบังคับอะไรท่านเหรอ ข้าแค่เห็นนางผู้นี้ (ลั่วหยุน) จะยอมแพ้อยู่ล่ะ (ทำใจว่าฉางกงไม่รัก) ข้าแค่ช่วยให้ท่าน(ฉางกง) ตัดสินใจได้ซักที (เอ่อ นางนี่นี่เราต้องขอบใจหล่อนชิมิ) ข้าให้เจ้าตัดสินใจต่อหน้าต่อตาหญิงสาวผู้น่าสงสารตรงหน้าเจ้านี่แหละ ในที่สุดข้าก็จะรู้ว่าท่านชอบนาง(ลั่วหยุน)หรือหยวนชิงโส่วกันแน่ ช่างน่าเสียดายนักมีดาบเทพเจ้าสงครามแค่อันเดียว สามารถเลือกช่วยชีวิตได้แค่เพียงคนเดียวเท่านั้น
ฉางกง---ทำไมเจ้าทำเช่นนี้
มารเสื้อขาว---ข้าเหรอ สิ่งที่ข้าเหมียวอู่อินชอบที่สุดคือการทำให้คู่รักได้รับความทรมานใจที่สุด ท่านพอใจในคำตอบของข้ามั้ย องค์ชาย ตอนนี้ก็ใกล้เที่ยงคืนละ พอเที่ยงคืนปุ๊บไฟก็จะไหม้หยวนชิงโส่วทันที ไม่มีทางที่นางจะรอดชีวิตได้ ข้าขอแนะนำให้ท่านตัดสินใจเร็วหน่อย
ฉางกง---นี่เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะใช้ดาบเทพเจ้าสงครามฆ่าเจ้างั้นเหรอ
มารเสื้อขาว---องค์ชาย ท่านยังไม่รู้จักพิษสงของข้าดีนัก ถึงแม้ว่าท่านจะฆ่าข้า ท่านก็จะเห็นทั้งเจิงลั่วหยุนและหยวนชิงโส่วตายไปต่อหน้าต่อตาท่าน
ลั่วหยุน---ฉางกง รีบไปไม่ต้องห่วงข้า (อืมมมมมมมมมมมมมมมมมม นะ) นำดาบไปแลกเปลี่ยนชีวิตของหยวนชิงโส่่ว รีบไปเถอะ
มารเสื้อขาว---องค์ชาย ชีวิตของพวกเขาอยู่ในกำมือของท่านแล้ว ตอนนี้จะเที่ยงคืนแล้ว (ลั่วหยุนเริ่มไอ พิษกำเริบ ) นาง(ลั่วหยุน) ไม่สามารถจะทนพิษได้นาน ..
ฉางกง---ลั่วหยุน เจ้าเป็นยังไงบ้าง
มารเสื้อขาว---มอบดาบใด้ข้า
ลั่วหยุน---ไม่ อย่ามอบให้นางนะฉางกง ข้าไม่มีค่าพอที่ท่านจะทำแบบนี้
ฉางกง---ลั่วหยุนข้าไม่สามารถทนเห็นเจ้าตายได้ (ฉางกงยื่นดาบให้มารเสื้อขาว) เอาดาบไป
มารเสื้อขาว---ในที่สุดดาบเทพเจ้าสงครามก็มาอยู่ในมือของข้า เกาฉางกงเจ้านี่ช่างเป็นคนที่เชื่อไม่ได้เลยนะ ข้าบอกให้เจ้ามาเพียงคนเดียว แต่นี้เจ้านำทหารมาด้วย (ฉางกง งง ) แต่ไม่เป็นไรหรอกข้าได้ตามที่ข้าต้องการล่ะ ข้าโอเค (มารเสื้อขาวยื่นยาถอนพิษให้แล้วรีบออกไป พอดีกับที่แม่ทัพฮูลู่มาถึงพอดี )
แม่ทัพฮูลู่กวง---ลั่วหยุนเจ้าเป็นอะไร แล้วทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่ แล้วนายหญิงแม่ฉางกงอยู่ที่ไหน...
ฉางกง---(หันมาคุยกับแม่ทัพ) ข้าจะไปช่วยชิงโส่ว..
แม่ทัพ---องค์ชายจากนี่ไปยังชายแดนฝั่งตะวันออกไกลกันมากถึงแม้องค์ชายจะไปได้เร็วเท่าไหร่ก็ตาม ก็ไม่มีทางจะช่วยชีวิตคนไว้ทันแน่ๆ ...
ฉางกง--- พวกทหารและท่าน ไม่มีใครที่ข้าอนุญาตให้ตามข้าไป นี่คือคำสั่ง และทหารต้องเชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชา คนที่ไม่เชื่อฟังต้องได้รับโทษหนัก...(ฉางกงรีบออกไปเพื่อไปหาชิงโส่ว)
ลั่วหยุน---ท่านพี่ (แม่ทัพ) ข้าทำลายความสุขของฉางกง เป็นเพราะข้าไม่ดีเอง พวกเรารีบตามฉางกงไปช่วยฉางกงดีกว่า
แม่ทัพ---คำสั่งขององค์ชายข้าไม่เชื่อฟังไม่ได้หรอก ยิ่งตอนนี้ฉางกงต้องการจะเผชิญหน้ากับอันตรายด้วยตัวของเขาเอง
ลั่วหยุน---ท่านพี่ข้าไม่ใช่ทหาร ดังนั้นข้าสามารถตามไปได้ (ไม่เจียมตัวเน้อะ เบื่อมากบทแบบนี้) ข้าไม่จำเป็นต้องเชื่อฟังคำสั่งองค์ชาย ท่านพี่ ข้าทำร้ายฉางกง ถึงแม้ข้าต้องตาย ข้าก็ต้องตายกับเขา ท่านพี่ ข้าขอร้อง จริงๆ แล้วองค์ชายต้องใช้ดาบเทพเจ้าสงครามเพื่อช่วยชิงโส่วแทนที่จะนำมาช่วยข้า เขาไม่ได้ทำให้ข้าผิดหวัง
แม่ทัพ---ได้ งั้นดูแลตัวเองดีดี และดูแลองค์ชายให้ดี (ฝีมือขนาดนี้ มีแต่เป็นภาระอะ)..
ทางด้านชิงโส่วไฟไหม้รอบๆ บริเวณที่ตัวเองถูกเหยียนหว่านจับมัดไว้ ..."องค์ชายท่านไม่มาช่วยข้าจริงๆ หรือนี่ หยวนชิงโส่ว ไม่มีใครมาเพื่อช่วยเจ้าหรอก มีแต่โชคชะตาเท่านั้น ในที่สุดข้าก็รู้ว่าข้าไม่ใช่คนที่องค์ชายหลานหลิงหวางรักที่สุด ข้าเป็นเพียงเงาของคนอื่น เป็นผงธุลี สุดแล้วแต่โชคชะตาละกัน....
เหยียนหว่านอยู่หน้าถ้ำ บ่นกับตัวเอง ไม่ว่าเจ้าจะพูดยังไงยังไงข้ากับหยวนชิงโส่วก็เรียกกันเป็นพี่เป็นน้องมาก่อนเห็นนางมาตายเช่นนี้ใจข้าก็รู้สึกเสียใจเหมือนกัน แต่มีวิธีอื่นใดอีกมั้ยถ้านางไม่ตาย นางก็จะอยู่ขวางทางข้ากับอาย่งต่อไปเรื่อยๆ หยวนชิงโส่วหนอหยวนชิงโส่ว เจ้าจะตำหนิคนอื่นไม่ได้ ถ้าเจ้าจะตำหนิจริงๆ เจ้าต้องตำหนิโชคชะตาของเจ้าเองที่โชคไม่ดี.....พอบ่นจบ มังกรเขียวจูเก่ออู่ฉือมาถึงพอดี เหยียนหว่านคุยกับจู่เก่ออู่ฉือประมาณว่า ข้าเชื่อว่าตอนนี้นายท่าน (มารเสื้อขาว) คงได้ดาบเทพเจ้าสงครามไปแล้ว...จู่เก่อเลยบอกงั้นข้าจะนำตัวชิงโส่วไปตอนนี้ ข้าก็ไม่ได้ทำลายแผนการของเจ้า (ตลอดเวลาเจียงอู่เฉินแอบฟังอยู่) ...เหยียนหว่านบอกประตูทางเข้าถูกถูกปิดไว้แล้วมันเปิดไม่ได้ ยกเว้นต้องใช้ดาบเทพเจ้าสงครามมาเปิดเท่านั้น....จู่เก่อบอกข้าไม่เชื่อหรอกว่าเหมียวอู่อินจะไม่มีช่องโหว่ บอกข้ามาเดี๋ยวนี้ หรือต้องให้ข้าบังคับเจ้า ....เหยียนหว่านเลยตัดสินใจบอกจู่เก่อว่า ท่านสามารถจะเข้าไปในนั้นได้จากทางนี้ (ชี้ไปทางเล็กๆ ในป่ามีปากถ้ำเข้าไป).."แต่ตอนนี้ไฟได้ไหม้ไปทั่วแล้วบางทีหยวนชิงโส่วคงจะต้องตายในนั้นไปแล้ว" เหยียนหว่านบอกจู่เก่อ....จู่เก่อเอาพัดมาจี้คอเหยียนหว่าน "หากหยวนชิงโส่วตายข้าจะทำให้เจ้าและอาจารย์เจ้าต้องชดใช้อย่างสาสมใช้ชีวิตพวกเจ้าไหว้นาง" ...
ทางด้านแม่ทัพฮูลู่กลับมายังตำหนักฉางกงพบกับแม่ฉางกง ก็รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม่ฉางกงพูดประมาณว่า เหมียวอู่อินกล้ามากที่ใช้เล่ห์เหลี่ยมกับลูกชายข้าและยังเอาดาบเทพเจ้าสงครามไปอีก เลวมาก ข้าต้องให้เจ้าชดใช้เร็วๆ นี้ให้ได้"...แม่ทัพรีบบอก ตอนนี้องค์ชายไปชายแดนด้านตะวันออกข้ากังวลว่าองค์ชายจะหลงกลกับดักที่นางวางไว้".....
ตัดมาที่ฉางกงขี่ม้ามาถึงป่าในเขตชายแดนตะวันออก ฉางกงพยายามมองหาว่าชิงโส่วควรจะถูกขังอยู่ที่ไหน พอดีลั่วหยุนตามมาทันพอดี ฉางกงเห็นลั่วหยุนก็หงุดหงิด บอกนี่ข้าได้บอกพวกเจ้าทุกคนไว้แล้วใช่มั้ยว่าห้ามใครตามข้ามาทั้งนั้น...ลั่วหยุนบอกข้าเคารพท่าน แต่อย่างไรก็ตามข้าก็จะตามเจ้ามา ท่านไปช่วยข้าทำให้ท่านมาช่วยแม่นางชิงโส่วช้า ข้า....ฉางกงรีบบอกลั่วหยุนให้กลับไปเดี๋ยวนี้ ที่นี้ไม่ปลอดภัย....ลั่วหยุนบอกความเมตตาของท่านที่มีให้ข้าต่อให้ต้องตายสามชาติข้าก็ยังตอบแทนไม่หมด (โอ๊ยยยย มาคุยกันอะไรกันจ๊ะ ชิงโส่วจะตายแล้ว เฮ้ออออออ)....ในใจของข้าข้ามีความสุข ข้าก็มีความละอาย ข้าทำผิดต่อนาง ข้าทำร้ายแม่นางชิงโส่ว ข้าไม่สามารถทนเห็นท่านตกอยู่ในอันตรายได้......ฉางกงได้ยินเสียงไฟไหม้ ฉางกงพยายามจะวิ่งไปตามหาชิงโส่วในกองไฟ แต่ลั่วหยุนดึงมือฉางกงไว้..."ต้องใช่นางแน่ ใช่ชิงโส่วมั้ย"...ฉางกงตะโกน....ฉางกงพยายามจะวิ่งไปแต่แม่ฉางกงมาถึงพอดี "ฉางกง นี่เจ้าต้องการจะเห็นประชาชนของเจ้าทั้งแคว้นฉีต้องตายใช่มั้ย เจ้าดึงดาบเทพเจ้าสงครามออกมา (กำแพงเมืองพัง) ข้าไม่ตำหนิเจ้า เพราะเจ้าทำเพราะต้องการจะช่วยชีวิตข้า จริงๆ แล้วข้าต้องการจะหลอกให้พวกมันไปจากที่นี่ แต่ข้าดันไปหลงกลกับดักพวกมัน เจ้าคิดบางมั้ยตอนนี้แคว้นฉีไม่มีดาบเทพเจ้าสงคราม หากข้าศึกเข้ามาบุกตอนนี้ ทหารของแคว้นฉีไม่มีทางจะปกป้องประชาชนแคว้นฉีได้ นี่เจ้าลืมแล้วเหรอว่าเจ้ามีสายเลือดฮ่องเต้ เจ้าเคยสาบานไว้ต่อหน้าท่านพ่อ(ฮ่องเต้)ของเจ้า ว่าจะปกป้องแคว้นฉีและประชาชนของแคว้นฉีให้อยู่อย่างปลอดภัย ฉางกงเจ้าดูซิไฟไหม้แรงขนาดนั้นเจ้าคิดว่าชิงโส่วสามารถจะรอดชีวิตได้อย่างนั้นเหรอ เจ้าคือหลานหลิงหวางเจ้าจะละทิ้งชีวิตของเจ้าเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง ทิ้งประชาชนชาวแคว้นฉีทั้งหมดอย่างนั้นเหรอ เจ้าตื่นได้แล้ว...ฉางกงสะเทือนใจ ตะโกนอีกปากกว้าง.....ไม่!!!!!!!!!...........
ทางด้านชิงโส่วฟื้นขึ้นมา ก็สงสัยว่าตนเองอยู่ที่ไหน ทำไมข้ามาอยู่ที่นี่ได้ ข้าไม่ได้ถูกขังอยู่ในถ้ำเหรอ หรือข้าถูกไฟไหม้และตายไปแล้ว ไม่ว่าสวรรค์จะเป็นเช่นใด มันก็ไม่มีเขา (ฉางกง) อีกแล้ว องค์ชาย..ลืมมันไปซะเถอะ ข้าเป็นแค่เพียงเงาของใครคนหนึ่งในหัวใจเข้าเท่านั้น (ชิงโส่วพูดคนเดียว แต่แล้วจู่เก่ออู่ฉือก็เดินเข้ามาหา)....อ้าวท่านจูเก่อทำไมท่านมาอยู่ที่นี้ล่ะ...จู่เก่อบอกที่นี่คือบ้านข้าเองข้ารู้ว่าท่านจะฟื้นข้าเลยให้คนทำอาหารมาให้ท่านทานเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ท่านควรดื่มเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง...ชิงโส่วบอกขอบคุณท่านจูเก่อมากเลยที่ช่วยชีวิตข้าไว้อีกแล้ว....จูเก่อบอกแต่โชคร้ายที่ข้ารู้ข่าวช้าไปหน่อยทำให้ไปถึงชายแดนตะวันออกช้าไปหน่อยแต่ก็ยังทันเวลา ทำให้แม่นางต้องบาดเจ็บ คอของท่านได้รับควันมากท่านต้องพักผ่อนมากๆเพื่อให้เสียงกลับมา และจะดีมากหากท่านลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ท่านอยู่กับข้าจูเก่ออู่ฉือ ข้าจะไม่ยอมให้ท่านได้รับบาดเจ็บอีก ... แม่นาง ท่านต้องการออกไปเดินเล่นมั้ย วันนี้เป็นวันเริ่มต้นของเทศกาลเสี่ยวฉุนผู้คนที่นี่เชื่อกันว่าหากท่านได้เห็นดอกไม้บานในสวนในเทศกาลที่จัดขึ้นท่านจะได้พบเจอแต่สิ่งดีดี...จูเก่อเล่าต่อว่าเมื่อ 400 ปีที่แล้ว บรรพบุรุษของตนได้มาตั้งรกรากอยู่ที่แคว้นเสี่ยวฉุนนี้ ตอนแรกมันแค่เป็นบ้านหลังใหญ่มากเท่านั้น แต่มีคนมาขออาศัยอยู่ด้วยมากมาย จนขยายอาณาเขตกลายเป็นแคว้นในภายหลัง บรรพบุรุษข้ามีจิตใจเมตตาทุกรุ่นจึงเป็นที่รักของประชาชนที่นี่ สรุปคือตอนนี้เสี่ยวฉุนเป็นแคว้นที่ยิ่งใหญ่และอุดมสมบูรณ์เราจัดให้มีงานรื่นเริงเฉลิมฉลองกันทุกปี แม่นางชิงโส่ว ท่านต้องการออกไปเดินชมกับข้ามั้ย ข้าคิดว่าพวกเราควรออกไปเที่ยวชมนะ บางทีท่านอาจจะชอบและได้พบกับสิ่งดีดี...ชิงโส่วบอกข้าต้องการพักผ่อนอยู่ในห้องนี้....จูเก่อพยายามชวนชิงโส่วต่อ "แม่นางไปเถอะ ท่านไม่เคยเห็น ท่านจะรู้ว่ามันคุ้มค่ามากที่ได้เห็นข้าขอรับประกันว่าท่านจะไม่ผิดหวังแน่นอน ...ชิงโส่วเลยต้องออกมาเดินกับจูเก่ออู่ฉือ ด้านนอก...ชิงโส่วเดินมาพร้อมกับจูเก่ออู่ฉือ ก็พบว่าดอกไม้บานทั่วสวน มีขบวนต้อนรับของคนรับใช้ในตำหนักของจู่เก่อออกมารอต้อนรับชิงโส่วตลอดทาง..จูเก่อก็เล่าไปเรื่อยๆ ว่าต้นไม้บางต้นอายุถึง 400 ปีเลยทีเดียวและจะออกดอกบานพร้อมกันทุกปีวันแรกของเดือนนี้ตลอดมา เจ้า(ชิงโส่ว)จะได้รับสิ่งดีดีและโชคดีข้ามศตวรรษกันทีเดียว ท่านจะเดามั้ยว่าอะไรคือสิ่งดีดีที่ท่านจะได้รับ...(จูเก่ออู่ฉือหยิบหยกแกะสลักรูปเห็ดหลินจือโบราณประจำแคว้นมามอบให้ชิงโส่ว)...นี่คือหยกแท้ๆ ของบรรพบุรุษของแคว้นเสี่ยวฉุนข้าต้องการใช้มันเป็นสินสอดขอท่านแต่งงานแม่นางชิงโส่ว ต่อหน้าทุกๆ คน ณ ที่นี้ ข้าขอใช้หยกนี้เป็นของขวัญขอแม่นางชิงโส่วแต่งงาน (มีความพูดเสียงดังต่อหน้าคนรับใช้ทุกคน).....พวกคนใช้ก็เชียร์ "แต่งงานกัน แต่งงานกัน " (โย้ โย้)...ชิงโส่วตกใจเลยสลบ (ใส่ซะ) จูเก่อรีบอุ้มชิงโส่วกลับไปห้องพักผ่อน....
จูเก่อพาชิงโส่วมานอนบนเตียง คนรับใช้พูดขึ้นว่าสงสัยแม่นางชิงโส่วจะบาดเจ็บไม่ใช่น้อย ควรตามหมอมั้ย...จูเก่อบอก ไม่ต้องหรอก ข้านี่แหละคือหมอที่เก่งที่สุด แม่นางชิงโส่วมีสุขภาพดีแต่คงตกใจมากไปหน่อย ทำให้ร่างกายรับไม่ไหว นางพักผ่อนแล้วจะดีขึ้นเอง..พอจูเก่อเดินออกจากห้อง ชิงโส่วก็ลืมตาขึ้น (คงแกล้งสลบเพราะขี้เกียจต้องตอบคำถามว่าจะรับคำขอแต่งงานของจูเก่ออูฉือนั่นเอง)....
เช้าวันถัดมา จูเก่อมานั่งดื่มชาข้างนอกอยู่หน้าห้องชิงโส่ว ชิงโส่วออกมาจากห้องอยากหนีไปจากที่นี้เพราะไม่อยากแต่งงาน ก็มาพบจูเก่ออู่ฉือนั่งดื่มชาอยู่ จูเก่อเรียกชิงโส่วมานั่งด้วย แล้วเล่าว่าทีด้านหลังของแคว้นมีต้นชาอายุกว่าร้อยปี คนที่ขึ้นไปเก็บใบชาต้องมีทักษะมากต้องฝีเท้าเบา และขึ้นไปเด็ดยอดใบชาที่ยอดของต้นท่านลองดื่มดูซิ...(พูดอะไรอีกมากมาย หลักการมากน่าเบื่อคร๊าฟฟ ข้ามนะ)....ชิงโส่วบอกจู่เก่อ "ท่านจูเก่อข้าคงไม่มีโชควาสนาพอที่จะชิมชานี้ (มีความคมปฏฺิเสธการแต่งงาน) ....จูเก่อดักคอถาม ที่ท่านพูดนี่ท่านหมายถึงน้ำชา หรือคน (ข้า)ล่ะ ถ้าท่านหมายถึงน้ำชา ท่านไม่ต้องซีเรียสหรอก ยังไงต้นชาก็ยังให้ใบชาอยู่ตลอดถึงท่านดื่มชาหมดวันนี้ พรุ่งนี้ข้าก็ยังมีชาให้ดื่มอยู่ดี ข้าท่านหมายถึงคน ช่างน่าอายนัก แต่ข้าทนได้ ข้าจะอดทนข้าหยาบคายกับท่าน (ประกาศแต่งงานกับท่านเมื่อวาน) ข้าขออภัยท่านไว้ที่นี้ด้วย...ชิงโส่วบอกท่านไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ ข้าต่างหาก ข้าไม่ยุติธรรมกับท่านหากจะแต่งงานกับท่าน ข้าตอนนี้เป็นสนมของอวี้เหวินย่ง ไต่ซือคงของแคว้นโจว มันไม่สมควรไม่คู่ควรหลายๆอย่าง...จูเก่อบอกแม่นางชิงโส่วคิดมากเกินไปแล้ว ท่านแต่งงานกับอวี้เหวินย่งแคว้นโจวแค่เรื่องจัดฉาก ข้ารู้ ท่านและอวี้เหวินย่งไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน...ชิงโส่วรีบถามแทรก "ท่านรู้ได้ยังไง ท่านรู้จักรักแรกพบมั้ย"....จูเก่อบอก "ท่านอย่าพยายามโน้มน้าวข้าเลย ข้าเป็นเจ้าเมืองแคว้นเสี่ยวฉุน ข้าย่อมคิดแล้วเรื่องที่จะหาชายาของแคว้นมาช่วยดูแลแคว้นเคียงข้างข้า แน่นอนว่าประวัติทุกอย่างของท่านได้ถูกคนของข้าตามสืบและตรวจสอบแล้ว"...ชิงโส่วหงุดหงิด ถาม แล้วท่านรู้อะไรอีก...จูเก่อบอกข้ารู้ด้วยว่า เมื่อคืนนี้จริงๆ แล้วเกาฉางกงได้นำดาบเทพเจ้าสงครามออกมาและควรจะมาช่วยท่านที่ชายแดนด้านตะวันออกแต่เขาไม่ได้มา....ชิงโส่วถามอ้าวแล้วทำไมท่านรู้เรื่องนี้ล่ะ...จูเก่อบอกแน่นอนข้ารู้ถึงแม้ท่านจะใช้ไต๋ซือคงแห่งแคว้นโจวมาปฏิเสธการแต่งงานกับข้า เหตุผลที่แท้จริงที่ท่านยอมรับข้าไม่ได้เพราะท่านคิดถึงเกาฉางกงอยู่ใช่มั้ย.....ชิงโส่วเลยถามจูเก่อว่า งั้นข้าขอถามท่านเพิ่งพบข้าแค่ 2 ครั้งเองท่านก็คิดแล้วเหรอว่าแค่เกาฉางกงไม่มาช่วยข้า แล้วข้าจะอกหักหัวใจสลายและมาแต่งงานกับท่านงั้นเหรอ.....จูเก่อบอกตามธรรมชาติของท่านท่านคงไม่ทำเช่นนั้น....
ชิงโส่ว---หากท่านรู้เช่นนั้นแล้ว แล้วจะมาทำให้ข้าลำบากใจทำไม
จูเก่ออู่ฉือ---ข้าแค่พูดและซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเองชัดเจน ไม่ว่าท่านจะยอมรับคำขอแต่งงานหรือไม่ยอมรับ ยังไงข้าก็ต้องขอท่านแต่งงานอยู่แล้ว และถ้าข้าเดาไม่ผิด ท่านจะไม่ลังเลที่จะกระโดดหน้าต่างหนีออกไปเพื่อจะตามหาเกาฉางกงเพื่อถามเขาให้รู้เรื่อง (ว่าทำไมไม่มาช่วย) ถูกต้องมั้ย
ชิงโส่ว---ข้ามีคุณสมบัติอะไรที่จะไปถามคำถามนั้นกับเกาฉางกงได้ ข้าเป็นห่วงชีวิตของข้าเอง ข้าไม่สนใจเรื่องนั้นหรอก
จูเก่ออู่ฉือ---ท่านเป็นคนฉลาดนะ ท่านรู้ว่าจริงๆ แล้วท่านไม่ใช่คนที่เกาฉางกงชอบ แต่ที่ทำเป็นดีกับท่านเพราะต้องการลูกแก้วเจินหวน
ชิงโส่ว---ไม่จริง ท่านโกหก
จูเก่ออู่ฉือ---โกหกหรือไม่โกหก ท่านจะได้รู้เองในภายหลัง สิ่งที่ข้ารู้แน่ชัดตอนนี้ก็คือ เกาฉางกงมีคนรักที่เขารักมากอยู่อีกคนหนึ่ง ไม่เช่นนั้นเมื่อคืนเขาต้องนำดาบมาช่วยชีวิตเจ้า แต่เขากลับไปที่ชายแดนตะวันตกแทนเพื่อเอาดาบไปแลกเปลี่ยน(ช่วย)ลั่วหยุน (ชิงโส่วหน้าเศร้ามาก สงสาร) หากท่านไม่เชื่อข้า ท่านสามารถสอบถามทุกคนในแคว้นฉีได้เลย ประตูของแคว้นเสี่ยวฉุนของข้ายินดีเปิดต้อนรับท่านกลับมาตลอดเวลา....
ชิงโส่ว---นี่เป็นปัญหาของข้า ข้าจะไม่สร้างปัญหาให้ท่านมากไปกว่านี้ และข้าไม่อยากจะอยู่ที่นี่เพื่อรบกวนท่าน
จูเก่ออู่ฉือ---ท่านเป็นแขกสำคัญของแคว้นเสี่ยวฉุน ท่านได้โปรดอย่าได้เกรงใจไม่ว่าจะเข้ามาหรือออกไป ทุกคนจะเชื่อฟังท่าน.....(ชิงโส่วก้มศรีษะเล็กน้อยแล้วรีบเดินไป)
คนรับใช้จูเก่ออู่ฉือเข้ามาพูดกับจูเก่อประมาณว่าท่านปล่อยให้นางจากไปเช่นนี้เหรอ เหมือนกับว่านางไม่ใช่เป็ดย่างอยู่่บนจาน ท่านยังปล่อยนางบินจากไปได้อีกเหรอ...จูเก่อบอก นางจะบินไปไหนได้ ...(ทำหน้าเจ้าเล่ห์มาก แต่ก็หล่ออยู่นะ)
ทางด้านเกาฉางกง ทหารได้เข้ามารายงานว่า มีทหารพบแม่นางชิงโส่วที่แคว้นเสี่ยวฉุน ฉางกงดีใจบอกให้ทหารแจ้งทุกคนว่าข้าจะออกไปดูชิงโส่วที่แคว้นเสี่ยวฉุน ให้ทหารรอข้าอยู่ที่ตำหนักนี้ --- แม่ฉางกงแอบยืนฟังอยู่ คิดในใจ "ฉางกงในที่สุดเจ้าก็ได้ข่าวนางจนได้" ทหารเดินออกมาจากฉางกงมาพบกับแม่ฉางกงพอดีก็เลยรายงานอีก (เรื่องเดิม) ว่าพบแม่นางชิงโส่วที่แคว้นเสี่ยวฉูน หลังจากทหารรายงานแล้วก็ลาเดินออกไป.....แม่ฉางกงบ่นคนเดียวประมาณว่า "ฮึแคว้นเสี่ยวฉุนมันไม่ใช่สถานที่ที่ใครจะเข้าไปได้ง่ายๆ เจ้าเด็กนั่น (ชิงโส่ว) จะต้องก่อเรื่องวุ่นวายไม่ช้าก็เร็ว"................ (ภาพตัดมาที่ชิงโส่วกำลังเดินวนไปมาอยู่ในป่าไผ่)..."ทำไมข้าเดินไปเดินมาก็วนมาที่เดิมนะ หยวนชิงโส่วหนอหยวนชิงโส่ว นี่ข้าต้องติดอยู่ในป่า หลงทางอยู่แบบนี้เหรอ นี่ข้าจะออกจากป่าไม่ได้งั้นเหรอ ข้าควรจะไปทางไหนดี ข้าควรจะทำอย่างไรดี ข้าไม่อาจอยู่ที่แคว้นเสี่ยวฉุนได้ แล้วแคว้นฉีละข้าไปอยู่ได้มั้ย ไม่มีใครต้อนรับข้า อืมม หรือตำหนักไต๋ซือคงดี เอ๊ะทำไมข้าคิดถึงที่นั่นละ ไม่ว่าจะยังไง ตอนนี้ข้าต้องออกจากที่นี่ก่อน....
ฉางกงควบม้ามาถึงหน้าประตูเมืองแคว้นเสี่ยวฉุน ฉางกงขอให้ทหารยามเปิดประตูแต่ทหารไม่ยอมเปิดบอกในแคว้นมีงานไม่ต้อนรับคนต่างแคว้น แต่ฉางกงบอกว่าข้ามีเรื่องสำคัญมากขอพบท่านเจ้าเมืองหน่อย แต่ทหารบอกว่าท่านเจ้าเมืองยุ่งมากไม่มีเวลามาพบท่านได้ ให้กลับไปซะ ฉางกงบอกข้าคือองค์าชาย หลานหลิงหวางของแคว้นฉี...ทหารยามบอกองค์ชายช่างงามน่าประทับใจนัก แคว้นเสี่ยวฉุนของพวกเราอยู่ติดกับชายแดนแคว้นฉี พวกเราไม่ยุ่งต่อกัน ถึงแม้ว่าฮ่องเต้แคว้นฉีจะมา ก็ต้องแล้วแต่ท่านเจ้าแคว้นว่าจะให้พบหรือไม่ จะอนุญาตให้เปิดประตูแคว้นหรือเปล่า....ฉางกงพูดประมาณว่าข้าขนาดกองทัพของศัตรูนับพันนับหมื่นข้ายังไม่กลัว แล้วข้าจะกลัวแคว้นเสี่ยวฉุนนี่ได้ยังไง (อ้าวพูดงี้เขาคงเปิดประตูให้หรอกท่าน)..... ทหารยามตอบ องค์ชายข้าได้ยินกิติศัพท์ของกองทัพของท่านท่านมีแม่ทัพที่เก่งกาจและทหารที่ช่ำชองศึก แต่ท่านจะเป็นคนที่ไม่มีเหตุผลงั้นหรือท่านจะสู้รบกับพวกข้าเพียงเพราะพวกข้าไม่ยอมเปิดประตูเมืองอย่างนั้นหรือ ท่านจะนำกองทัพทหารมาบุกแค้วนเสี่ยวฉุน ทำสงครามโดยไม่มีเหตุผลไม่ใช่สิ่งที่หลานหลิงหวางองค์ชายแคว้นฉีทำนะ ข้ารู้ดี...ฉางกงเลยตอบ "ได้ หากเจ้าไม่เปิดประตูเมือง ข้าก็จะหาทางเข้าไปเอง".... (ฉางกงชักม้าหันหน้าไปทางอื่น )ทหารก็ตะโกนตามหลังประมาณว่า หากท่านกล้าที่จะปีนกำแพงเมืองเข้ามาอย่าตำหนิพวกข้าที่ต้องจัดการกับท่านอย่างเด็ดขาด...องค์ชายโปรดฟังคำแนะนำของข้า นอกจากจะเข้าเมืองด้วยประตูเมืองนี้แล้ว ท่านยังสามารถเข้าเมืองได้อีกทางหนึ่งด้านภูเขาด้านโน้นที่มีเมฆหมอกปกคลุมอยู่หนาแน่น แต่องค์ชายถึงแม้ว่าท่านต้องการจะข้ามภูเขาเข้ามาท่านก็ไม่สามารถทำได้หรอกมันอันตรายมาก...ทางที่ดีท่านควรกลับมาใหม่ในวันที่ประตูเมืองเปิดจะดีกว่า ฉางกงโกรธรีบควบม้าตรงไปยังป่า...มือขวาคนสนิทของจูเก่ออู่ฉือเดินออกมาชมทหารว่าทำงานได้ดีมาก ข้าจะบอกนายท่านให้ตบรางวัลเจ้า..ทหารสงสัยว่าเกาฉางกงจะกลับแคว้นฉีไปหรือเปล่า คนสนิทจูเก่อบอกไม่มีทาง นายท่านคิดไว้แล้วว่ายังไงเกาฉางกงก็ไม่มีทางกลับแคว้นฉีง่ายๆ แน่....
ฉางกงมาทางป่าเพื่อจะข้ามภูเขาเข้าไปแคว้นเสี่ยวฉุน แต่จูเก่ออู่ฉือมารอพบฉางกงอยู่ในป่าและปะทะคารมกัน...จูเก่ออูฉือบอกฉางกงว่าตนหมั้นหมายกับชิงโส่วและจะแต่งงานกับชิงโส่ว และเล่าเรื่องที่ช่วยชิงโส่วออกมาจากกองไฟได้อย่างไร (ใส่ศพคนอื่นแทนลงไปในกองไฟ -----ไปหาศพจากไหนมาแว๊ งง) ....ฉางกงพูดขึ้นประมาณว่า เท่าที่รู้ว่าปกติแล้วแคว้นเสี่ยวฉุนจะไม่ยอมเข้าไปยุ่งเรื่องอะไรง่ายๆ ทำไมท่านต้องทำแบบนั้น (ไปตามช่วยชิงโส่ว)...ฉางกงบอกได้รับรายงานจากทหารว่าชิงโส่วอยู่ที่นี่ ท่านจงปล่อยชิงโส่วออกมา...จูเก่ออู่ฉือบอกนี่ท่านตามมาแคว้นเสี่ยวฉุนและถามหาข้า ต้องการพบข้าเพื่อจะสนองความคาดเดาของท่านเท่านั้นเองเหรอ มันช่างน่าขำนัก องค์ชายคิดให้ดีดี ท่านปล่อยให้ชิงโส่วตาย โดยไม่สนใจใยดีท่านแลกเปลี่ยนดาบเทพเจ้าสงครามกับชีวิตผู้หญิงคนอื่น ท่านคิดว่าชิงโส่วจะไม่รู้เรื่องนี้อย่างนั้นเหรอ ท่านคิดว่านางจะคิดอย่างไร ...ฉางกงรีบบอก "เรื่องนี้มันเป็นเรื่องระหว่างข้ากับชิงโส่ว ท่านไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วย ปล่อยชิงโส่วมา"...จู่เก่ออู่ฉือบอกท่านควรสุภาพและทำดีกับข้าถ้าไม่ใช่เพราะข้ารีบไปที่ถ้ำที่ขังชิงโส่วไว้ทันเวลา ท่านไม่รู้หรอกถ้าข้าไม่ถึงช้ากว่านั้นนิดเดียวชิงโส่วได้ตายอยู่ในกองไฟแล้วเถ้าโครงกระดูกก็จะถูกปากถ้ำปิดอยู่ตลอดกาล ไม่รู้ว่าเป็นร่างใคร...... ฉางกงถามขึ้นว่า เมื่อซักครู่นี้ที่ทหารไม่ยอมเปิดประตูเมืองเป็นคำสั่งของท่านใช่มั้ย จูเก่อบอกท่านเก่งมาก ถูกต้องข้าไม่ให้เปิดเอง...ฉางกงบอกงั้นก็แสดงว่าชิงโส่วต้องอยู่ในแคว้นเสี่ยวฉุนจริงๆ ไม่เช่นนั้นท่านก็คงไม่นำเรื่องนี้มาพูดทำร้ายจิตใจของข้าอยู่ที่นี่หรอก....จูเก่อบอกโอเคใช่ข้าจะพูดความจริงละ ตอนนี้ชิงโส่วอยู่ในแคว้นเสี่ยวฉุนนี่แหละ แต่อย่างไรก็ตาม ชิงโส่วกับข้าก็หมั้นหมายกันมาก่อนข้าหวังว่าท่านจะสนับสนุนพวกเรา..(ฉางกงทำหน้างง )..จูเก่อบอก ท่านไม่ต้อง งง หรอก ชิงโส่วกับข้าถูกกำหนดให้แต่งงานกันตั้งแต่พวกเรายังเป็นเด็กๆทุกอย่างที่นางทำล้วนทำเพื่อข้า ไม่ว่าจะเป็นที่นางเข้ามาใกล้ชิดท่าน (เฮ้ยยย นายมโนมาก) เพื่อจะนำดาบเทพเจ้าสงครามจากมือของท่านมา ชิงโส่วรักข้ามากๆ เลย เพื่อข้าแล้วนางไม่เคยลังเลที่จะทำทุกอย่าง ( เฮ้ยย จริงดิ กล้าพูด!!!) แม้กระทั่งแต่งงานกับอวี้เหวินย่งนางก็ทำเพื่อต้องการจะนำลูกแก้วเจินหวนออกมา..........ฉางกงชี้หน้าจูเก่ออู่ฉือ "หยุดนะ เจ้าไม่มีสิทธิ์นำชิงโส่วมาพูดแบบนี้ เจ้าอย่ามาโกหกข้า.....จูเก่ออู่ฉือมโนต่อ "ช่างเถอะ ข้าไม่สนใจทั้งดาบเทพเจ้าสงครามและลูกแก้วเจินหวนแล้ว หรือตำหนักเทียนหลัวใต้พิภพอะไรนั่นข้าแค่ต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับชิงโส่วในแคว้นเสี่ยวฉุนนี่เท่านั้น...หากชิงโส่วได้รับบาดเจ็บ เสียใจมาจากท่าน ข้าก็จะปลอบนางและให้กำลังใจนางกับสิ่งที่นางเสียใจ ข้าต้องการให้ท่านเห็นด้วยกับข้าและสัญญากับข้าว่าท่านจะไม่พบชิงโส่วอีกตลอดชีวิตนี้ข้าจะสั่งให้คนเปิดประตูเมืองเพื่อส่งท่านออกไปอย่างสมเกียรติ.....ฉางกงถามอ้าวแล้วถ้าข้าไม่เห็นด้วยกับเจ้าล่ะ....จูเก่อบอกงั้นข้าก็จะให้ท่านได้รู้ว่าแคว้นเสี่ยวฉุนไม่ใช่ที่ที่ใครจะเข้าออกได้ตามใจ...ฉางกงตะโกนด้วยความโกรธ "เจ้ารีบปล่อยชิงโส่วมา".....จูเก่ออูฉือ (หน้ากวนมาก)..ในเมื่อท่านไม่ไว้หน้าข้าข้าก็ต้องขอชี้แนะท่านซักนิดเพื่อให้ท่านสงบจิตสงบใจลงซักนิด ข้าจะปล่อยให้ท่านหาทางต่อ เพื่อจะตามหาชิงโส่ว ดูซิว่าจะหาพบมั้ย...(จูเก่ออู่ฉือออกมาจากฉางกง)....
จูเก่ออู่ฉือเดินมาหาชิงโส่ว บอกชิงโส่วว่าเท่านไม่สามารถออกจากที่นี่ได้หรอก ตามข้ามา...ชิงโส่วถามจูเก่ออู่ฉือว่าท่านไม่ได้ยินเสียงกระดิ่งเหรอ ข้าต้องการรู้ว่าเสียงกระดิ่งมาจากไหน (จากฉางกง)...ข้าคิดว่าถ้าท่านได้ยินระฆังดัง ท่านจะรู้ว่าทำไมข้าถึงขอท่านแต่งงาน....ชิงโส่วบอกข้าไม่เข้าใจ ท่านกำลังพูดอะไร..จูเก่อบอก เฮ้อ ข้าเข้าใจในใจท่านไม่มีข้าอยู่ข้าจะไม่กวนใจท่านให้ท่านรำตาญและก้าวร้าว ท่านยังจำนี้ได้มั้ย (จูเก่อเอากระดิ่ง ป้ายโลหะออกมา) ภาพความหลังสมัยสงครามและความพลัดพรากย้อนกลับมาในความทรงจำ ชิงโส่วจำได้ละว่าคนที่ฆ่าพ่อแม่ของตนคือ พ่อของอวี้เหวินย่ง (อวี้เหวินไท่)....และป้ายโลหะอันเล็กๆ นี้ไหม้เป็นรอยบนไหล่ของชิงโส่ว เป็นแผลเป็น...จูเก่อบอกกระดิ่งโลหะนี้จริงๆ แล้วมีสองชิ้น ข้ากับเจ้ามีคนละชิ้น เป็นของหมั้นระหว่างเราสองตระกูล หลังจากวันนั้นข้าและครอบครัวข้าพยายามติดตามหาเจ้า แต่ก็ไม่พบเจ้าอีกเลย ข้าเข้าใจว่าเจ้าตายไปแล้ว พวกเราหมั้นหมายกันตอน 5 ขวบ....ชิงโส่วบอกไม่ต้องเล่าแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว....จูเก่ออู่ฉือบอกเจ้ารุ้มั้ย แคว้นเสี่ยวฉุนไม่เคยลืมเจ้าเลย ตระกูลจูเก่อค้นหาเจ้ามาตลอดหลายสิบปี นี่คงเป็นโชคชะตา ครั้งแรกที่ข้าพบเจ้าข้าก็รู้สึกคุ้นเคยมาก ตอนนั้นข้าไม่รู้ว่าเ้จ้านั่นเองคือคนที่ข้าตามหา ข้าพยายามตามหาและสืบหาจนรู้ว่าเจ้าแต่งงานเป็นสนมของไต๋ซือคงแห่งแคว้นโจว ข้าเศร้ามาก ข้าจึงส่งคนไปสืบประวัติของเจ้า ข้าขอสาบาน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะแต่งงานกับเจ้าเพียงคนเดียวเท่านั้นตลอดชีวิตนี้ของข้า ดังนั้นหลังจากข้าช่วยเจ้ามาแล้วข้าจึงขอเจ้าแต่งงาน..........ชิงโส่วบอกมันเป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้......จูเก่อรีบย้ำ แต่กระดิ่งคู่เป็นสิ่งที่เจ้าต้องจำได้ เจ้าจำมันได้ไม่ใช่เหรอ หยวนชิงโส่ว เจ้าตื่นได้แล้ว ตื่น เจ้ารู้ว่าทุกอย่างที่ข้าพูดล้วนเป็นเรื่องจริง เกาฉางกงไม่มีค่าพอที่เจ้าจะคิดถึงและฝากชีวิตไว้กับเขา เมื่อคืนนี้เขาไม่มาช่วยเจ้าที่ตะวันออกนั่นเป็นข้อพิสูจน์ได้ดี ว่าเจ้าในสายตาเขาเทียบไม่ได้กับเจิงลั่วหยุน ส่วนอวี้เหวินย่ง พ่อของเขาอวี้เหวินไท่ ก็ข้าครอบครัวเจ้าที่แคว้นฉีกับประชาชนต้องมาตายอีกเป็นร้อยเป็นพันคนเจ้าจะยังไม่ช่วยอวี้เหวินย่งกับฮ่องเต้แคว้นโจวทำไม พวกเขาเป็นลูกชายของคนที่ฆ่าพ่อแม่เจ้าตาย...ชิงโส่วตกใจ พูดซ้ำไปซ้ำมาว่า ไม่ มันเป็นไปไม่ได้....ชิงโส่วบอกหยุดพูดได้แล้ว แล้วก็ช๊อคสลบไป...จูเก่ออู่ฉืออุ้มชิงโส่วกลับมาที่ตำหนัก สั่งให้คนรับใช้ไปเอาโสมมาให้ชิงโส่วดื่ม ...........
Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2560 | | |
Last Update : 30 มีนาคม 2560 3:17:29 น. |
Counter : 2184 Pageviews. |
| |
|
|
|