ขนมไข่เต่า

ขนมไข่
เต่ามีไส้เป็นถั่วผัดรสชาติแบบไทยๆคล้ายไส้ขนมเทียน 
ห่อด้วยแป้งข้าวเหนียวนวดกับน้ำเนื้อนุ่มหยุ่น 
ปั้นเป็นก้อนกลมหน้าตาเหมือนบัวลอยน้ำขิง  ใส่ในน้ำกะทิรสหอมหวาน 
เป็นขนมรสละไมแบบโบราณที่อร่อยไปอีกแบบ


ส่วนผสมไข่เต่า  (ประมาณ 30 ลูก)



  • ถั่วทอง(ถั่วเขียวกะเทาะเปลือก) 250 กรัม

  • แป้งข้าวเหนียว 250 กรัม

  • หัวกะทิ  1  ถ้วย

  • หอมแดงสับละเอียด 4 หัว

  • พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำตาลทราย  2 ช้อนโต๊ะ

  • เกลือป่น  2 ช้อนชา


ส่วนผสมน้ำกะทิ



  • หางกะทิ  3 ถ้วย

  • น้ำตาลทราย  1/2 ถ้วย

  • หัวกะทิ  1 ถ้วย

  • งาดำคั่วและถั่วลิสงคั่วสำหรับโรยหน้า


วิธีทำ



  1. แช่ถั่วทองค้างคืนไว้หรือประมาณ 5
    ชั่วโมง นึ่งให้สุก (หรือจะใช้วิธีลัดหุงด้วยหม้อหุงข้าว โดยใส่น้ำให้สูง
    ประมาณ 2 ข้อนิ้ว)

  2. ผัดถั่วที่สุกแล้วกับหัวกะทิ เมื่อเริ่มงวดใส่หอมแดง พริกไทย
    น้ำตาลทรายและเกลือ ผัดจนส่วนผสมเนียนและร่อนจากกระทะ
    แต่ระวังอย่าให้แห้งเกินไป ชิมรส
    ตักขึ้นพักไว้ให้เย็น จากนั้นปั้นถั่วให้เป็นก้อนกลมประมาณหัวแม่มือ พักไว้


  3. นวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำเปล่าให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน(ค่อยๆเติม
    น้ำทีละน้อยระหว่างนวด)
    ปั้นเป็นก้อนกลมให้ใหญ่กว่าไส้เล็กน้อย กดให้แบนลงเป็นแผ่นบาง วางไส้ถั่ว
    ตรงกลาง ห่อแป้งให้มิด คลึงเป็นก้อนกลม  

  4. นำไข่เต่าไปต้มในน้ำเดือด เมื่อสุกแล้วแป้งจะลอยขึ้น
    ตักขึ้นแช่น้ำเย็นไว้ เพื่อไม่ให้ไข่เต่าติดกัน 

  5. นำหางกะทิตั้งไฟให้ร้อน(ใช้ไฟอ่อน) ใส่น้ำตาลทรายคนให้ละลาย
    ใส่ไข่เต่าที่ต้มไว้ จากนั้นเติมหัวกะทิลงไป คนให้เข้ากัน
    ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟโรยด้วยงาดำและถั่วลิสงคั่ว


H&C Tip
-
ถั่วทองหรือถั่วเขียวกะเทาะเปลือก จะเรียกได้หลายชื่อ เม็ดเล็กสีเหลือง แต่
โบราณมักเรียกถั่วนี้ว่า ถั่วเหลืองซีก
ระวังอย่าสับสนกับถั่วเหลืองที่นำไปทำน้ำเต้าหู้ 
-
ไส้ไข่เต่าควรปรุงให้มีรสค่อนข้างจัด
- ถ้าใช้น้ำอุ่นนวดแป้งข้าวเหนียว
จะช่วยให้นวดแป้งและปั้นได้ง่ายขึ้น







Free TextEditor







































































































 

Create Date : 14 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 14 พฤษภาคม 2553 13:46:52 น.
Counter : 519 Pageviews.  

Mexican Bun


Mexican Bun (18 ชิ้น)  เวลาเตรียม  90
นาที  เวลาปรุง 15 นาที


   ขนมปังบันสไตล์เม็กซิกัน
กลิ่นหอมจากครีมราดหน้ารสกาแฟบวกกับเนื้อขนมปังแสนนุ่ม
ทำให้โด่งดังแทบฉุดไม่อยู่ แต่เพราะมีส่วนผสมของเนยมากจะทำให้เลี่ยน ต้อง
กินกับกาแฟรสเข้มอย่างเอสเพรสโซ่ หรือถ้าใครชอบแบบนุ่มหน่อยก็แนะนำเป็น
Machiato สักแก้วละกัน 

ส่วนผสมไส้



  • เนยสดชนิดเค็ม   1 1/4 ถ้วย (200
    กรัม)

  • กลิ่นวานิลา   1/2 ช้อนชา

  • น้ำตาลทรายป่นละเอียด  1/3 ถ้วย (50 กรัม)

  • น้ำตาลทรายแดงร่อน  2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)


ส่วนผสมหน้า



  • เนยสดชนิดจืด   1 1/4 ถ้วย (200 กรัม)

  • น้ำตาลไอซิ่ง   3/4 ถ้วย (160 กรัม)

  • ไข่ไก่ตีเข้ากัน   3 ฟอง

  • กาแฟสำเร็จรูป(Instant coffee) 3 ช้อนโต๊ะ

  • ผงอบเชย    1/4 ช้อนชา

  • แป้งอเนกประสงค์ร่อน  2 ถ้วย (150 กรัม)


ส่วนผสมบัน



  • แป้งสาลีอเนกประสงค์  5 3/4 ถ้วย (500 กรัม)

  • น้ำตาลทรายป่น   1/2 ถ้วย (80 กรัม)

  • เกลือป่น    1 ช้อนชา (6 กรัม)

  • ยีสต์ผงสำเร็จรูป   1 ช้อนโต๊ะพูน (8 กรัม)

  • ไข่ไก่ตีเข้ากัน   1 ฟอง

  • นมสดชนิดจืด   1 ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ (270 กรัม)

  • เนยสดชนิดจืด  1/2 ถ้วย (60 กรัม)


วิธีทำ



  1. เตรียมส่วนไส้
    โดยตีเนยให้ขึ้นฟู ใส่กลิ่นวานิลาและน้ำตาลทรายแดง ผสมให้เข้ากัน
    แช่เย็นไว้ให้แข็ง

  2. ผสมส่วนหน้าโดยตีเนยกับน้ำตาลไอซิ่งจนฟูเบา ใส่ไข่ กาแฟและผงอบเชย
    ตีให้เข้ากัน เติมแป้งลงผสมให้เข้ากันดี
    คลุมด้วยพลาสติกห่ออาหารเก็บเข้าตู้เย็นไว้

  3. นำส่วนไส้ออกมาตักแบ่งเป็นก้อน ก้อนละ 15 กรัม นำกลับไปแช่เย็นไว้


  4. ทำส่วนบัน โดยเริ่มจากแช่ยีสต์ในนมสดไว้ประมาณ 5 นาที  ผสมแป้ง 
    น้ำตาลทราย เกลือและไข่เข้ากัน แล้วค่อยๆเทส่วนผสมนม นวดให้เข้ากันประมาณ 5
    นาที จากนั้นใส่เนยลงไปแล้วนวดต่ออีกประมาณ 5
    นาที จนก้อนแป้งเนียนนุ่มไม่ติดมือ

  5. แบ่งก้อนแป้งเป็นก้อนละ 50 กรัม คลึงให้เนียนกลม พักไว้ 10 นาที
    และใช้ผ้าขาวบางหมาดๆคลุมหน้าไว้

  6. เมื่อครบเวลาใช้มือกดก้อนแป้งให้แบนเพื่อไล่อากาศ และวางไส้ที่
    เตรียมไว้ตรงกลาง  รวบปิดแผ่นแป้งให้มิด

  7. วางเรียงบนถาดอบที่ปูรองด้วยกระดาษไข โดยเรียงให้ห่างกัน 8
    เซนติเมตร  แล้วใช้ผ้าขาวบางคลุมหน้าไว้ 45 นาที  เปิดเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ
    200 องศาเซลเซียส

  8. เมื่อพักจนครบเวลา
    ให้ตักส่วนผสมหน้าที่แช่เย็นไว้ใส่ถุงบีบ บีบลงบนหน้าขนมโดยขดเป็นเกลียวก้น
    หอย นำเข้าอบ 10 – 13 นาที
    หรือจนขนมเป็นสีน้ำตาลหอม นำออกจากเตา เสิร์ฟได้ขณะร้อนๆ







Free TextEditor







































































































 

Create Date : 14 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 14 พฤษภาคม 2553 13:45:40 น.
Counter : 297 Pageviews.  

ขนมหัวเราะ



“ขนมหัวเราะ” 
ขนมไทยเชื้อสายจีนที่ครั้งหนึ่งเคยนิยมกินคู่กับกาแฟโกปี๊ในตอนเช้า
แต่มาตอนนี้กลายเป็นขนมหากินยากไปเสียแล้ว ทั้งที่เป็นขนมซึ่งทำง่ายมีส่วน
ผสมไม่กี่อย่าง
แถมยังสนุกกับการลุ้นด้วยว่าขนมจะแตกจนดูเหมือนกับหัวเราะร่าหรือไม่ ถ้าขนม
หัวเราะคนทำก็พลอยหัวเราะชอบใจไปด้วย


ส่วนผสม



  • แป้งสาลีสำหรับทำเค้ก 4 ถ้วย

  • เกลือป่น  2 ช้อนชา

  • ผงฟู   1 1/2 ช้อนโต๊ะ

  • ไข่ไก่ทั้งฟอง  2 ฟอง

  • ไข่แดง  1 ฟอง

  • น้ำตาลทรายบดละเอียด 1 ถ้วย

  • น้ำเปล่า  1/4 ถ้วย

  • น้ำมันพืช  2 ช้อนโต๊ะ

  • งาขาวคั่วสำหรับคลุก



วิธีทำ



  1. ร่อนแป้ง เกลือและผงฟู เข้าด้วยกันพักไว้

  2. ตีไข่ไก่และไข่แดงให้ขึ้นฟู ค่อยๆใส่น้ำตาล 
    ตีต่อไปเรื่อยๆจนขึ้นฟูขาว จากนั้นเติมแป้งสลับกับน้ำและน้ำมัน ตะล่อมให้พอ
    เป็นเนื้อเดียวกันเบาๆ จนเป็นก้อนโด (โดจะค่อนข้างแฉะและติดมือ)  

  3. แบ่งแป้งเป็นก้อนเล็กขนาดประมาณ 1 นิ้ว คลุกงาขาวให้ทั่ว

  4. ใส่น้ำมันในกระทะตั้งไฟให้ร้อน ใช้ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน
    นำแป้งที่ปั้นไว้ลงทอด ใช้ไม้ปลายแหลมคนกลับไปกลับมา ขนมจะฟูแตกออก วิธี
    สังเกตว่าขนมสุกได้ที่แล้ว ให้ใช้ไม้แหลมจิ้มตรงรอยแตก ถ้าไม่มีเศษขนมติด
    ออกมาแสดงว่าสุกแล้ว ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน 


H&C Tips
-
ขณะนวดแป้งให้เข้ากัน ต้องระวังอย่านวดนานเกินไป เพราะจะทำให้แป้งแน่นแข็ง
ทอดแล้วขนมจะแข็งเกินไปกินไม่อร่อย
-
ควรทอดในน้ำมันมากๆและร้อน แต่ใช้ไฟอ่อน ขนมจึงจะแตกสวย 
-
ทุกครั้งที่ทอดเสร็จ ต้องช้อนเศษงาที่ลอยในน้ำมันออกให้หมด
เพื่อไม่ให้มีเศษงาที่ไหม้ ติดขนมที่จะทอดรอบใหม่ 







Free TextEditor







































































































 

Create Date : 14 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 14 พฤษภาคม 2553 13:44:30 น.
Counter : 302 Pageviews.  

กรอบนอก นุ่มใน สไตล์เบลเยี่ยมวาฟเฟิล


ช่วง
นี้ไม่ว่าจะเข้าออกร้านเบเกอรี่ที่ไหน เป็นต้องเห็นขนม “วาฟเฟิล”
ขึ้นแท่นเป็นเมนูขายดีแทบทุกร้าน H&C ฉบับนี้ไม่ยอมตกเทรนด์เช่นกัน
หลังจากทดลองจนได้สูตรเด็ดของ
“เบลเยี่ยมวาฟเฟิล”แล้ว ต้องรีบนำเสนอก่อนจะเอาท์เสียก่อน
  
สำหรับวาฟเฟิลแบบเบลเยี่ยม สูตรนี้พิเศษที่ผิวนอกกรอบหอม
แป้งในนุ่มหยุ่นคล้ายขนมปังเนยสด หอมหวานน้ำผึ้งกำลังดี รับรองว่า
วาฟเฟิลสูตรนี้อร่อยไม่แพ้ร้านไหนๆ แน่นอน

Belgium
waffle เวลาเตรียม 60 นาที เวลาปรุง 30 นาที

ส่วนผสม (16
ที่)



  • แป้งสาลีสำหรับทำขนมปัง  1 ถ้วย

  • แป้งสาลีสำหรับทำเค้ก  1 1/2 ถ้วย

  • น้ำตาลทรายขาว   3 ช้อนโต๊ะ

  • ยีสต์ผง  1 ช้อนโต๊ะพูน

  • นมผง  2 ช้อนโต๊ะ

  • เกลือป่นเล็กน้อย    

  • ไข่ไก่  2 ฟอง

  • นมสดชนิดจืดอุ่น 2 ช้อนโต๊ะ

  • โยเกิร์ตรสธรรมชาติ  2 ช้อนโต๊ะ    

  • น้ำผึ้งอย่างดี  2 ช้อนโต๊ะ

  • กลิ่นวานิลา  1 ช้อนชา

  • เนยสดชนิดจืด   3/4 ถ้วย

  • น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี  2 ช้อนโต๊ะ

  • ช็อกโกแลตชิป   2 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ



  1. ใส่แป้งสาลีทั้งสองชนิด น้ำตาลทราย ยีสต์และนมผง ลงในอ่างผสม พักไว้

  2. ผสมเกลือป่น ไข่ไก่ นมสด
    โยเกิร์ต น้ำผึ้งและวานิลาให้เข้ากัน แล้วเทใส่ส่วนผสมแป้ง
    นวดให้เข้ากันนานประมาณ 5 นาที

  3. ใส่เนยแล้วนวดต่ออีกประมาณ 5นาที
    จนก้อนโดเหนียวนุ่ม จากนั้นพักโดไว้ให้ขึ้นเป็นสองเท่านาน 20 นาที

  4. นำโดที่พักได้ที่แล้ว
    มานวดไล่อากาศและเติมน้ำตาลทรายไม่ฟอกสีและช็อกโกแลตชิป
    นวดให้เข้ากัน แล้วแบ่งโดเป็นก้อนๆละ 40 กรัม
    ปั้นเป็นก้อนกลมพักไว้ให้ขึ้นอีก 30 นาที

  5. เปิดเครื่องทำวาฟเฟิลไว้ให้ร้อน ทาเนยบางๆ
    วางก้อนโดที่ขึ้นดีแล้วลงตรงกลาง ปิดฝา อบประมาณ 1–2 นาที
    (แล้วแต่รุ่นและความร้อนของเครื่องทำวาฟเฟิล)
    เสิร์ฟร้อนๆกับผลไม้และวานิลาซอส


ส่วนผสมวานิลาซอส



  • ไข่แดง  2 ฟอง

  • นมสดชนิดจืด  1 ถ้วย

  • น้ำตาลทราย  3 ช้อนโต๊ะ

  • เนยสดชนิดจืด  1 ช้อนโต๊ะ

  • กลิ่นวานิลา  2 ช้อนชา


วิธีทำ

 
 ใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงในหม้อ ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากันดี นำไปตั้งไฟอ่อนๆ
หมั่นคนจนกระทั่งซอสเดือดและข้นขึ้น ปิดไฟและพักไว้ให้เย็น







Free TextEditor







































































































 

Create Date : 14 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 14 พฤษภาคม 2553 13:43:23 น.
Counter : 434 Pageviews.  

ซอร์เบต์สละฉบับโฮมเมด


ซอร์เบต์ หรือ
Sorbet เป็นไอศครีมผลไม้ชนิดหนึ่ง ที่หน้าตาละม้ายคล้ายเชอร์เบทราวกับ
ฝาแฝด จนหลายคนเข้าใจว่าเป็นชนิดเดียวกัน แต่จริงๆ
ต่างกันนิดเดียวตรงที่ซอร์เบต์ไม่มีส่วนผสมของนมแม้สักนิดและมีเนื้อหยาบและ
หนักกว่า ในขณะที่เชอร์เบทจะใส่นมเล็กน้อย 

 
สำหรับวิธีทำซอร์เบต์นั้นอย่าได้กังวลว่า ต้องพึ่งพาแต่เครื่องทำไอศครีมให้
ยุ่งยาก ขอแค่มีเครื่องปั่นน้ำผลไม้ทั่วๆ
ไปก็พอ และซอร์เบต์ที่ได้ก็เนื้อปุกปุยและอร่อยน่ากินไม่แพ้กันเสียด้วยสิ


ซอร์เบต์สละ (6 ที่) เวลาเตรียม 30
นาที เวลาปรุง 1 วัน

ส่วนผสม



  • เนื้อสละ(ปอกเปลือกและเลาะเม็ดแล้ว) 1 1/2 ถ้วย

  • น้ำแอ๊ปเปิ้ล    2 ถ้วย

  • น้ำเชื่อม     1 ถ้วย

  • น้ำมะนาว    1/3 ถ้วย

  • ไวน์ขาว     1/2 ถ้วย

  • ผงเจลาติน    1 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ



  1. ผสมเนื้อสละ น้ำแอ๊ปเปิ้ล น้ำเชื่อม และผงเจลาตินใส่หม้อ คนให้เข้า
    กันพักไว้สักครู่ให้ผงเจลาตินดูดน้ำ จากนั้นยกหม้อขึ้นตั้งไฟคนให้ผงเจลาติ
    นละลายหมด  พักไว้ให้เย็น

  2. เติมน้ำมะนาวและไวน์ขาว ชิมรสตามชอบ นำส่วนผสมไปแช่เย็นในช่องแช่
    แข็งนาน 3 ชั่วโมง
    เมื่อครบเวลาให้เทส่วนผสมใส่โถสำหรับปั่นน้ำผลไม้ ปั่นให้เป็นเกล็ดน้ำแข็ง
    เล็กๆ แล้วนำกลับไปแช่เย็นอีกประมาณ 2 ชั่วโมง 

  3. นำส่วนผสมออกมาปั่นทุกๆ 2 ชั่วโมงอีก 2
    รอบ เมื่อได้เนื้อเป็นเกล็ดละเอียดดีแล้ว ให้แช่ซอร์เบ้ไว้อีก 1 คืน
    ก่อนนำมาเสิร์ฟ 


H&C Tips



  • สละที่ซื้อมาแต่ละครั้งรสชาติจะไม่เท่ากัน จึงต้องชิมรสให้ชอบก่อนนำไป
    แช่แข็ง และควรมีรสเข้มมากหน่อยเพราะเมื่อซอร์เบต์แข็งรสชาติจะอ่อนลงเล็ก
    น้อย

  • การปั่นซอร์เบต์ที่แข็งแล้วจะทำให้เกล็ดน้ำแข็งมีขนาดเล็กลง ดัง
    นั้นถ้าอยากให้เนื้อซอร์เบต์เนียนละเอียดก็ต้องปั่นซ้ำหลายๆรอบ






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 14 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 14 พฤษภาคม 2553 13:42:14 น.
Counter : 345 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.