จะสุขหรือทุกข์ ไม่ใช่อยู่ที่คนอื่นทำ แต่อยู่ที่เราเลือก
Group Blog
 
All blogs
 
สะบายดี วังเวียง หลวงพระบาง Day 4 - วัดเชียงทอง

5 พฤศจิกายน 2007
Day 4 วัดเชียงทอง

  เช้านี้ นัดกันตั้งแต่ตี 5 ว่าจะไปตักบาตรข้าวเหนียวกัน
  เดินออกมาหน้าร้าน JO MA เห็นมีแม่ค้าพยายามจะขายข้าวเหนียวให้กับพวกเรา แต่อยากไปซื้อที่ตลาดมากกว่าอ่ะค่ะ

  เดินมาเรื่อยๆที่ตลาดสด ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าจะมีขายเปล่า ลองสอบถามคนแถวนั้น ในที่สุดก็เจอร้านขายข้าวเหนียว
  ซื้อกันคนละ 1 กิโล กิโลละ 6000 กีบ เจ้าเบียร์บอกว่า ไม่ตักบาตรนะ จะช่วยถ่ายรูปให้ละกัน แม่ค้าใส่ถุงก๊อปแก๊ปให้ พวกเราถามว่า มีกระติปให้ใส่หรือเปล่า ถุงก๊อปแก๊ปดูแล้วมันไม่ได้ feel เลย แม่ค้าบอกว่าเมื่อก่อนก็เคยมีบริการให้ แต่ลูกค้าใส่บาตรเสร็จแล้วไม่เอามาคืนให้

  พวกเราก็ไปรอๆแถวสี่แยก แม่ค้าแถวนั้นบอกว่าที่นี่แหละ พระเยอะแล้ว เพราะจะมีพระหลายวัดมาตักบาตรกันที่นี่ พวกแม่ค้าก็พยายามขายขนม พร้อมกับบอกว่ามีเสื่อให้ปูนั่งด้วย พวกเราก็เลยดูๆแล้ว อุดหนุนแม่ค้าหน่อยละกัน ชุดละ 5000 กีบ จะได้มีเสื่อไว้ปูนั่งด้วย

ข้าวเหนียวและขนม ตักบาตร

  แต่ดูเหมือนรอกันตั้งนานแล้ว เกือบ 6 โมงแล้วเนี่ยยังไม่เห็นมีพระมาสักรูป แล้วก็ไม่เห็นมีชาวบ้านจะมาใส่บาตรกันเลย มีแต่พวกเรา 5-6 คนเองเนี่ย


  นั่งรอสักพัก มีฝรั่งมาเดินๆเมียงมองพวกเราเหมือนกัน แล้วก็มาถ่ายรูปพวกเราด้วย อิอิ เผื่อเอารูปพวกเราไปเผยแพร่

  กว่าพระจะมาก็ 6 โมงกว่าละ เดินมาเป็นทิวแถว
  แต่พระจะค่อยๆมาทีละวัด จะมีเส้นทางเดินของแต่ละวัด จะไม่เดินทับเส้นกัน เวลาใส่บาตร ต้องจก(หยิบ)ข้าวเหนียวเป็นก้อนเล็กๆ แล้วใส่บาตรพระให้ทัน เพราะพระจะเดินเร็วมาก


  ตอนแรก ก็จกข้าวเหนียวก้อนเล็กๆ หลังๆกลัวข้าวเหนียวไม่หมด เลยจกก้อนใหญ่ซะเลย
  พระเดินมาประมาณ 4-5 วัด บางวัด ก็ไม่เดินผ่านที่ที่พวกเรานั่งอยู่ จะไม่เหมือนที่เมืองไทยนะ ที่เมืองไทยถ้าพระเห็นคนมาบินฑบาตร จะเดินเข้ามาให้ใส่บาตร

  ใส่บาตรหมดพอดี มีนุ่นกับพี่แหม่ม ใส่ไม่หมดอ่ะ
  เบียร์บอกว่า ถ่ายรูปไม่ค่อยทัน โดนบังซะหมด ว๊าแย่จัง
  หมดจากการใส่บาตรก็ไปขึ้น พระธาตุพูสี ค่าเข้าชม คนละ 20000 กีบ

ทางขึ้น พระธาตุพูสี

  เดินขึ้นสูงเหมือนกันแหะ ไปถึงข้างบน มองลงมาเห็นเมืองทั้งเมือง วิวสวยดี




พระธาตุพูสี

  เข้าไปในโบสถ์ ไปลองเสี่ยงเซียมซี ได้เบอร์ 10 แต่แหะแหะ ไม่สามารถอ่านคำทำนายได้


  มีให้อธิฐานแล้วลองยกพระพุทธรูปด้วย เลยลองอธิษฐานแล้วยกดูบ้าง ปรากฏว่ายกไม่ขึ้นเลยอ่ะค่ะ ลองอีกครั้งก็ยกไม่ขึ้น (แปลว่าไรเนี่ย)



ขอเล่นบ้าง

  ลงจากพระธาตุพูสี ไปเดินแวะตลาดอีกครั้ง เนื่องจากเมื่อวานพี่แหม่มกับกุ้งยังไม่ได้มาเดินกัน
  อาหารเช้าวันนี้ ตอนแรกว่าจะไปกิน ข้าวเปียกกัน ไปถึงที่ร้านปรากฏว่า ตอนเช้าไม่ขายข้าวเปียก ขายแต่ก๋วยเตี๋ยวเครื่องใน ก็เลยขอ bye ละกัน ไม่ถนัดกินเครื่องใน

  สุดท้ายกลับมากินร้านเดิม วันนี้ พวกเราสั่งเฝอมากินกันคนละชาม อร่อยแล้วอ่ะ
  กลับมาที่พัก นัดกันว่า เจอกันเที่ยงๆ ให้เอาของมารวมกันที่ห้องของข้าน้อย เพราะจะยุบเหลือห้องเดียวเท่านั้น
  หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว ไม่อยากอยู่ในห้องอ่ะค่ะ อยากออกไปเดินเที่ยวอีก ก็เลยชวนพี่ตุ่มไปเดินดู souvenir แต่แล้วก็ไม่มีไรน่าสนใจ

  กลับมาที่พัก เจอพี่แหม่มกับกุ้งรออยู่แล้ว เลยไปตามเจ้าเบียร์กับนุ่น ปรากฏว่า 2 คนนั่นยังไม่อาบน้ำเลย
  กว่าจะรวมพลกันได้ก็เกือบเที่ยงแล้ว วันนี้จะไป วัดเชียงทองกัน

  เดินไปกินข้าวเที่ยงที่ร้านตำหนักลาว ร้านนี้หรูสุดแล้ว ตกลง trip นี้ได้กินหรูหลายมื้อทีเดียว
  แต่ละคนสั่งเป็นจานๆมากิน ข้าน้อยสั่งข้าวผัดไส้อั่ว แม้ว่าจะไม่มีในเมนู นึกว่าที่นี่เขาจะ adapt ได้ แต่ว่า เขาไม่ทำให้อ่ะ ถ้าไม่อยู่ในเมนู ก็เลยสั่ง ข้าวผัดกุ้ง แล้วสั่งไส้อั่วเป็นจานมากิน ไส้อั่วที่นี่อร่อยอ่ะค่ะ คล้ายแฮ่กึ้นบ้านเรา

  อิอิ ลองส้มตำปลาร้าซะทีก็ดี ไหนๆก็มาแล้ว บ๋อยถามว่า จะเอาเป็นตัวๆหรือเปล่า จ๊าก ไม่ต้องอ่ะนะ แค่สั่งส้มตำปลาร้าเพราะต้องการแกล้งใครบางคนที่ไม่กินปลาร้าก็พอ อิอิ
  ปรากฏว่า สาวๆแต่ละคนกินส้มตำกันอร่อยซะ ยกเว้น หนุ่มคนเดียวของทีม
  อิ่มแปล้กับมื้อกลางวันในราคา 245,000 กีบแล้ว ก็ไป วัดเชียงทอง กันต่อ
วัดเชียงทองนี้ได้ชื่อว่าเป็นวัดพระแก้ว สวยงามมากๆเลย เป็น highlight ของหลวงพระบางเลยทีเดียว ราคาเข้าชม 20,000 กีบ








  ออกจากที่วัดเชียงทอง เกือบ 4 โมงเย็นแล้ว พวกเราต้องรีบทำเวลากันหน่อย เพราะหลายคนจะไปซื้อผ้าพันคอเป็นของฝาก แต่เราเล็งร้านไว้แล้วว่าจะซื้อร้านไหน ก็เลยรีบตรงดิ่งไปทันที (ยกเว้นพี่ตุ่ม ที่ขอตัวกลับที่พักก่อน)
  ซื้อผ้าพันคอให้แม่กับพี่สาวคนละผืน เลือกอยู่นานเพราะสวยทั้งนั้น เลือกเนื้อผ้าแบบดีๆให้แม่เลยนะเนี่ย ราคา 450 บาท แล้วซื้อฝากน้องที่ office ด้วย 1 ผืน

  เสร็จสรรพ มาแวะตลาดม้งอีกนิด ขอซื้อกระเป๋าของฝากอีกซัก 4-5 ใบ พร้อมกับโปสการ์ดที่ stamp ตราหลวงพระบางพร้อมวันที่เป็นที่ระลึกละกัน
  กลับถึงที่พัก คราวนี้ทุกคนมารวมอยู่ในห้องเดียวกัน แต่ละคนหามุมของตัวเก็บของกันใหญ่
  เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง ก็เลยคิดว่าไปหาอาหารเย็นกินดีกว่า เพราะถ้าขึ้นรถแล้วคงได้นั่งยาวเป็นแน่

  ใกล้สุดก็มาร้าน JOMA อีกครั้งเพราะใกล้ที่พักที่สุดแล้ว คราวนี้สั่ง pizza ไก่ กับ expresso มากิน แต่กินไม่หมดแหะ
  ได้ยินพี่ตุ่มเล่าว่า พนักงานที่ถาวรสุขถามว่า จะกลับไปเวียงจันทน์หรือเปล่า วันนี้เจ้าของโรงแรมก็จะไปเวียงจันทน์ เขาไปบ่อยมาก สามารถนั่งรถของเขาไปด้วยกันได้
  เสียดายจัง ไม่ได้ถามแต่แรก ก็เลยบอกไปว่า ซื้อทัวร์ไปแล้วอ่ะ

  โบกมืออำลาหลวงพระบาง เตรียมตัวนั่งรถตียาว 9 ชั่วโมงกลับเวียงจันทน์
  พอมาถึงท่ารถ เอ.. เจ้าหน้าที่บอกว่า รถคันนี้แหละที่จะไปเวียงจันทน์ มีคันเดียว
  พวกเราก็เมียงมอง อือม.. เนี่ยเหรอ รถ VIP ดูมันโกโรโกโส ยังไงชอบกล

รถ VIP (เหรอเนี่ย)

  สอบถามแล้วปรากฏว่า เนี่ยไม่ใช่ VIP แต่เป็นรถธรรมดา รถ VIP จะมีแค่รอบเช้า แล้วรถธรรมดาเนี่ย ราคา 100,000 กีบ โอ๊ย โดนลาวหลอกซะแล้ว เพราะซื้อตั๋วมาในราคา 115,000 กีบ เอาซะแล้ว แล้วบนรถ เราจะเจอไรบ้างเนี่ย

  เริ่มแต่แรกเลย แม้คุณจะมีตั๋วที่บอกหมายเลขที่นั่งก็ตามที แต่พอขึ้นไปปุ๊บ ก็จะมีป้าที่ไหนไม่รู้ นั่งที่ของเราอยู่ก่อนแล้ว บอกกี่ทีก็ไม่ยอมไปซะที ต้องให้คนท้องถิ่นช่วยพูดให้
  ข้อสอง พอคนเริ่มนั่งกันเต็มทุกที่นั่งแล้ว จะมีที่นั่งเสริมทันที เป็นเก้าอี้พลาสติกวางเรียงอยู่ตรงกลางรถ (โอ๊ย ไอ้นวัตกรรมแบบนี้เนี่ย เคยเห็นในเมืองไทยเมื่อ 20 ปีที่แล้วนี่นา)

  ข้อที่สาม พอรถออกไปได้สักพัก ปิดไฟมืดตื๋อ พร้อมกับเสียงเพลงที่ดังเหมือนอยู่ในผับอย่างไงอย่างงั้น (มันจะเปิดดังๆทำไมฟะ) แต่เนื้อเพลงเป็นเพลงลูกทุ่ง
  ด้วยเหตุที่เสียงเพลงบรรเลงเนี่ยแหละ ทำให้ไม่สามารถหลับได้เลย เพราะพอเริ่มจะเคลิ้มๆหลับซักนิด เสียงเพลงก็ดังขึ้นมา กวนรูหูเยี่ยงนัก

  สลับกับเส้นทางที่คดเคี้ยวเลี้ยวลด ซ้ายทีขวาที ใครหลับลงก็เก่งโคตรแล้ว หลับๆตื่นๆ ดูดาวไปละกัน
  ข้อที่สี่ การบริการผู้โดยสาร หลังจากออกจากท่ารถมาประมาณ 2 ชั่วโมง มีแวะให้เข้าห้องน้ำกัน ตอนแรก ก็พยายามมองๆหาห้องน้ำอยู่ไหนหว่า แต่ที่ไหนได้ เห็นผู้หญิงประมาณ 3-4 คน นั่งเด็ดดอกไม้ข้างทางซะนี่

  ข้อที่ห้า ระหว่างทางเนื่องจากหนทางคดเคี้ยวเลี้ยวลด อาจมีผู้โดยสารไม่ชินทาง เกิดอาเจียนขึ้นมา เด็กรถก็เลยถือถุงพลาสติกพยายามเดินแจกผู้โดยสาร พร้อมกับบอกว่า

  “ถุงยางมั๊ยครับ”
  เอามายื่นให้พี่แหม่ม พี่แหม่มบอกว่า
  “ไม่ใช้ค่ะ”
  ฮา เข้าไป

  พอเที่ยงคืน ก็มีแวะให้กินข้าวเหมือนกัน คุ้นๆว่าร้านนี้เนี่ยมาแวะพักแล้วนี่นา ตอนระหว่างทางจากวังเวียงไปหลวงพระบางอ่ะ


Create Date : 16 กันยายน 2551
Last Update : 19 กันยายน 2551 23:54:49 น. 4 comments
Counter : 780 Pageviews.

 
อยากกลับไปอีกจังเลย นี่อ่ะ 2 โปรแกรมฮ็อตที่เราพลาดเลย รอกลับไปใส่บาตร ก่ะ ไปวัดเชียงทอง

วันนั้น ดันใส่ขาสั้นก่ะเดินเล่น เฉยๆ จะเข้าไปตามอย่างฝรั่งก้อทำใจไม่ได้ฮ่วย
ขอบคุณที่มารีวิว ให้ดู นะคะ


โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:21:57:21 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ เพราะอยากไปเที่ยวหลวงพระบาง

วัดสวยมากกกกกกก


โดย: fulgurant วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:23:27:00 น.  

 
ลาวเป็นประเทศที่ใฝ่ฝันอยากไปมากที่สุด
ยิ่งได้เห็นภาพในหนังยิ่งอยากไปค่ะ
พี่น้องคนลาวใจดีมาก ๆ คบแล้วมีความสุข
สบายใจไม่ถือตัว ประทับใจหลายอย่าง
หากมีโอกาสอยากไปสัมผัสสักครั้ง

ขอบคุณที่เก็บภาพงาม ๆ มาฝากกันค่ะ
ไว้ว่าง ๆ จะแวะมาชมภาพอีกนะคะ


โดย: roslita วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:2:59:33 น.  

 
อยากตักบาตรข้าวเหนียวบ้างจัง


โดย: vanillahome วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:17:17:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

susanjoan
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




    ข่าวท่องเที่ยว

    ข่าวไลฟท์สไตล์

Friends' blogs
[Add susanjoan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.