จะสุขหรือทุกข์ ไม่ใช่อยู่ที่คนอื่นทำ แต่อยู่ที่เราเลือก
Group Blog
 
All blogs
 
Vietnam Day 4 - Perfume Pagoda

29 พฤศจิกายน 2009
Day 4 Perfume Pagoda

  Day trip ของวันนี้จะไป Perfume Pagoda หรือ เจดีย์หอม วันนี้รถตู้มารับพวกเราตรงเวลาอีกเช่นเคย กลายเป็นว่าพวกเราไม่ตรงเวลาซะนี่ เนี่ยเพราะวันแรกทำให้พวกเรากะเวลาผิดไปหมด
  วันนี้เพื่อนร่วมทริปของเรารวมกันมี 8 คน มีพวกเรา 4 คน อีก 2 เป็นฝรั่งชายหญิง อีกคนเป็นผู้หญิงเวียตนาม อีกคนเป็นผู้ชายกลางคนดูเหมือนเป็นคนจีน ไม่ก็ไต้หวัน

  นั่งรถไปประมาณชั่วโมงกว่าๆ แวะพักกลางทางร้านเดียวกับเมื่อวาน ก็เลยแวะดื่มกาแฟอีกครั้ง
  เนื่องจากวันนี้คนน้อย ที่นั่งเหลือเยอะ ฉันก็เลยไปนั่งด้านหลังสุดกับพี่ตุ่ม แต่วันนี้รถดูเหมือนจะวิ่งเร็ว ข้างหลังมันกระเด้งกระดอนไปมา

  ไกด์บอกว่า โปรแกรมวันนี้ คือจะนั่งเรือชมธรรมชาติ แล้วก็เดินขึ้นเขาประมาณ 4 กม. ไปไหว้พระในหุบเขา จริงๆก็มีบริการ cable car ด้วยเป็นของรัฐบาล แต่ก็แนะว่าให้เดินขึ้นเขาละกัน เพราะถ้านั่ง cable car ไป ไปถึงแล้วก็ต้องรอคนอื่นๆอยู่ดี แล้วตอนขากลับลงมา ค่อยมากินอาหารกลางวันกัน แล้วนั่งเรือลำเดิมกลับ
  ไปถึงแล้ว ไกด์ให้พวกเราเข้าห้องน้ำอีกครั้งก่อนลงเรือ ไม่อยากจะบ่นเลยว่า ห้องน้ำที่นี่ กลอนใช้ไม่ได้อีกแล้ว ต้องให้คนข้างนอกช่วยดันประตูให้ มันเป็นอะไรกันนักหนากับกลอนประตูนี่

  ไกด์บอกให้ซื้อหมวกไปด้วย เพราะมีแดด เรือไม่มีหลังคา ฉันเห็นแต่ งอบ ไม่มีหมวก จะซื้อก็รู้สึกไม่สะดวกตอนเอากลับ ไม่ซื้อละกัน ว่าจะเอาซื้อแจ็กเก็ตมาคลุมหัวละกัน
  เรือที่นี่ไม่เหมือนเรือที่เมื่อวานนั่ง เมื่อวานดูจะเป็นเรือไม้ วันนี้จะเป็นเรือแบบไฟเบอร์ผสมซักกะอย่างละมั้ง ดูเบากว่าเมื่อวาน อ้อ วันนี้คนพายคนเดียว แต่นั่งกัน 5 คน คนพายเป็นหนุ่มน้อยดูเหมือนอายุประมาณ 17-18 ปี

ท่าเรือที่ฮาลองบก กับหนุ่มนักพาย

ขี้นจากเรือแล้วจ้า

  ลำธารก็ใส ข้างล่างเป็นสาหร่ายเต็มไปหมด บรรยากาศดีจริงๆ สบายๆ คนเราก็แปลกแหะ ให้นั่งเรือแบบมีมอเตอร์วิ่งเร็วๆก็ไม่เอา ชอบแบบนี้ ให้คนพายเรือไปเรื่อยๆ
  ประมาณเกือบชั่วโมงเรือก็มาจอดที่ท่า ต่อไปก็เป็นทางเดินขึ้นเขา

บันไดทางเดินขึ้นเขา

  ขึ้นไปได้สัก 400-500 เมตร ไกด์ก็ชี้บอกว่า เดี๋ยวร้านอาหารร้านนี้แหละที่จะมากินข้าวกลางวันกันหลังจากลงมาจากเขา (อยู่ที่นี่กินอาหารกลางวันประมาณ บ่ายโมงกว่าๆ หรือบ่ายสองทุกวัน) แล้วก็แนะนำใหม่ว่า ขึ้น cable car ละกันเพราะต้องทำเวลา อ้าวซะงั้น แล้วตอนแนะนำดันแนะนำอีกแบบ ไอ้เราก็เตรียมตัวเดินเต็มที่
  ปรากฏว่า ขาขึ้น นั่ง cable car กันทั้งหมด แต่ขาลง ฝรั่งหนุ่มสาวคู่นั้นจะเดินลงมา

cable car

  ค่าตั๋วขึ้น cable car ไปกลับราคา 70,000 ด่อง ตอนอยู่ใน cable car ไกด์บอกว่า ถ้าเขาพาคนตะวันตกมา มักจะเดินขึ้นลง แต่ถ้าเป็นแทบพวกเอเชีย ถ้าให้ปีนขึ้นเขา มักจะบ่นกัน ก็เลยให้ขึ้น cable car ซะ
แหม พูดงี้ เนี่ยแสดงว่าตัวเราเหมือนคนตะวันตกนะเนี่ย เรื่องเที่ยว เรื่องลุยชอบอยู่แล้วอ่ะ
  ออกจาก cable car จะเดินลงไปในวัดถ้ำ (Huong Tich Grotto) ภายในถ้ำมีกลิ่นของธูป อันนี้ละมั้งเป็นที่มาของชื่อ Perfume Pagoda ในถ้ำจะมีพระพุทธรูปของพระพุทธเจ้า เจ้าแม่กวนอิม ท่านกวนอู แล้วก็อีกหลายองค์

ทางลงหน้าวัดถ้ำ

ด้านหน้าวัดถ้ำ

  ตำนานเล่าสืบกันมาว่า ถ้ำนี้ถูกค้นพบกว่า 2 พันปีที่แล้ว แต่ชาวบ้านเริ่มนำแท่นบูชา มาประดับ และก่อสร้างเป็นเจดีย์ ในปี 1575
  ไกด์ก็พยายามอธิบาย เริ่มตั้งแต่ประวัติของเจ้าชายสิทธัตถะกันเลยทีเดียว ฉันฟังบ้างไม่ฟังบ้าง ที่นี่ไม่ค่อยได้ถ่ายรูป ดูเหมือนไกด์พยายามบอกว่า ที่เห็นนี้ไม่ใช่เป็นเพียงรูปปั้น

บริเวณภายในวัดถ้ำ

บริเวณรอบๆวัดถ้ำ

  อยู่ที่นี่ได้สักประมาณ 10 นาที ไกด์ก็ให้พวกเราออกกันมาล่ะ
  เขาให้รีบเดินกลับไปที่ cable car บอกว่าให้รีบลงมา เพราะถ้าช้าสัก 5 นาที จะเป็นช่วงปิดตอนเที่ยง ต้องรออีก 1 ชั่วโมง

  พอดีพวกเรากำลังง่วนกับการถ่ายรูป เขาเดินมาตามแล้วก็เร่งให้รีบไปขึ้น cable car (เป็นไกด์ที่ดุจัง)
  หลังจากลงจาก cable car ก็มานั่งรอ 2 หนุ่มสาวฝรั่งที่กำลังเดินลงมาจากเขา พวกเรารอที่ร้านอาหาร สักพักคู่นั้นก็ลงมา ถือว่าทำเวลาได้ดีทีเดียว พวกเราปรบมือให้กำลังใจกันใหญ่

  อาหารกลางวันมื้อนี้ ก็เป็นข้าว และ กับข้าว มีผักบุ้งผัด ปลา เต้าหู้ ปอเปี๊ยะทอด(เย็นไป ไม่อร่อย) เนื้อผัดพริกหยวก ถือว่ารสชาด ok เลยทีเดียว ดีกว่ามื้อไหนๆที่กินมา ไม่น่าเชื่อบนเขาจะทำกับข้าวได้ ok ดี
  วันนี้ ฉันกินน้ำมากเลย น้ำที่เตรียมมาขวดเดียวไม่พอ วันนี้กินไปทั้งหมด 3 ขวด ก็แปลกทั้งๆที่อากาศก็ไม่ร้อน

  เสร็จสรรพ ไกด์พาไปเดินวัด ใกล้ๆกับที่ร้านอาหาร เจดีย์ตรงนี้มีความสวยงาม ส่วนใหญ่ postcard ของ perfume pagoda ก็จะเป็นเจดีย์แห่งนี้แหละ




  เดินเที่ยวซักพัก ก็ได้เวลากลับ ลงไปนั่งเรือลำเดิม ระหว่างอยู่ในเรือ ไกด์ขอให้พวกเราช่วยทำแบบสอบถามให้ด้วย แถมมีการขอร้องกึ่งบังคับช่วยให้เขาได้คะแนนดีๆหน่อย เพราะมันมีผลต่อเงินเดือนของเขา ที่ว่าแกมบังคับก็แหม ให้ทำตอนอยู่ในเรือเนี่ย ถ้าไม่ให้คะแนนดีๆ คงได้ลงจากเรือซะตอนนี้เลยละมั้ง

  ไกด์บอกว่า ถ้าจะให้ทิปกับคนพาย ให้ถึงฝั่งก่อน ถึงจะให้ อย่าเพิ่งให้บนเรือ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
  สุดท้าย พวกเรา 4 คน ให้คนละ 10,000 ด่อง ก็น่าจะ ok นะเพราะทั้งวันก็รับพวกเราแค่เจ้าเดียว ไกด์บอกว่า ขึ้นกับช่วงเทศกาล ถ้าเป็นช่วงตรุษจีน จะมีเรือเป็น 1000 ลำ รับส่งนักท่องเที่ยวเลยทีเดียว ว๊าวว

  ขากลับนี้ รถตู้จะวิ่งรวดเดียวไปส่งถึงโรงแรมเลย ไม่แวะพักที่ไหน แต่ไอ้รถคันนี้ แอร์มันแปลกๆ เดี๋ยวติดเดี๋ยวดับ ฉันนั่งข้างหลังสุดด้วย รถกระโดดมาก ถนนที่เวียตนามขนาดเป็น highway ก็ยังต้องปรับปรุงอีกเยอะเหมือนกัน
  ถึงโรงแรมประมาณ 6 โมงเย็น วันนี้เดินไปร้านอาหาร ตอนแรกว่าจะไปกินร้านอาหารตรงข้ามกับร้านวันแรกที่กิน เห็นหน้าร้านมีรูปเป็นอาหารเวียตนาม แต่พอเข้าไปดูเมนู เหมือนจะมีแต่ เค้ก เบเกอรี่ ก็เลยเปลี่ยนมากิน pizza ละกัน

  สั่งพิซซ่า ถาดใหญ่ 1 ถาด หน้าซีฟู้ด กับสลัด 1 จาน ก็กินพอได้ เสร็จสรรพก็ไปเดิน night market กันต่อ
  ก่อนไป ขอไปแวะ super market กันก่อน แต่เออ มาที่นี่หลายวัน ที่นี่ยังไม่ค่อยเห็นร้าน mini market อย่าง 7-11 เหมือนบ้านเรา

  เมียงมองว่าจะซื้อขนมไปฝากน้องๆ แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่อยากเสี่ยง ไม่รู้จะซื้ออะไรดี สุดท้ายไปเดิน night market ว่าจะซื้อของที่ระลึกร้านเดิมละกัน
  สุดท้ายก็ซื้อ พวงกุญแจ รูปสาวเวียดนามละกัน พวกนี้ไปฝากน้องๆผู้หญิง ส่วนน้องๆผู้ชายก็เอากาแฟเวียดนาม G7 ไปกินกันละกัน

  วันนี้เดินดูเรื่อยๆ เพราะเมื่อวานก็เพิ่งเดินไปแล้ว ไม่รู้จะซื้ออะไร แต่ก็เดินไปจนสุดแล้ววกกลับมา กลับโรงแรมดีกว่า



Create Date : 21 ธันวาคม 2552
Last Update : 27 ธันวาคม 2552 22:07:51 น. 0 comments
Counter : 1241 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

susanjoan
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




    ข่าวท่องเที่ยว

    ข่าวไลฟท์สไตล์

Friends' blogs
[Add susanjoan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.