วันที่สอง
หลังจากเมื่อวานนี้ ผมได้พาไปกินข้าวหน้าปลาไหล และชมสีสันยามค่ำคืนที่ย่านซากาเอะ (Sakae) กันไปแล้ว สำหรับวันนี้เรายังอยู่ที่เมืองนาโกย่า เหมือนเดิม แต่วันนี้เราจะมาเที่ยวเจาะลึกเมืองนี้ให้มากขึ้น โดย ไฮไลท์สำคัญของวันนี้ มีทั้ง ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle), พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำท่าเรือนาโกย่า (Port of Nagoya Aquarium) และ ศาลเจ้า Atusa Jinga shrine ครับ แต่ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับเมืองนี้กันก่อนดีกว่าครับ
เมืองนาโกย่า (Nagoya)
เป็นเมืองหลวงของจังหวัด ไอจิ (Aichi) ถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคชูบุ และเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับสี่ของญี่ปุ่น (รองจากโตเกียว โยโกฮาม่า และโอซาก้า)
นอกจากนี้ นาโกย่ายังเป็นเมืองที่มีความสำคัญมากมายในหน้าประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ได้แก่
- เป็นฐานที่มั่นของโอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาวะ อิเอยาสุ ซึ่งทั้งสามเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในช่วงสงครามเซ็งโงะคุ
- เป็นจุดแวะพักของขบวนที่เดินทางระหว่างเกียวโตและเอโดะ (โตเกียว) ในอดีต
- เป็นศูนย์กลางของอุตสาหรรมใหม่ๆในภูมิภาค เช่น ทอฝ้าย ดินปืน
- เป็นศูนย์กลางการผลิตยุทโธปกรณ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เช่น เครื่องบินรบ คลังน้ำมัน อุปกรณ์ทางรถไฟ ทำให้เป็นอีกเมืองที่ถูกทำลายราบเป็นหน้ากลองในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เช่นเดียวกับอีกหลายเมืองของญี่ปุ่น
- รถยนต์ยี่ห้อสำคัญอย่าง โตโยต้า (Toyota) กำเนิดที่เมืองนี้
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเมืองนาโกย่า สามารถอ่านได้ที่นี่ครับ https://www.nagoya-info.jp/th/about/
การเดินทางภายในเมืองนาโกย่า
วิธีในการเที่ยวเมืองนาโกย่าที่สะดวกที่สุดก็คือ รถไฟใต้ดินซึ่งครอบคลุมสถานที่เที่ยวสำคัญเกือบทั้งหมด ถ้าหากจะเที่ยว Nagoya ใน 1 วัน และต้องขึ้น-ลงรถไฟใต้ดินบ่อยๆ ผมแนะนำให้ซื้อ Subway one day pass ซึ่งสามารถใช้ขึ้นรถไฟใต้ดินไม่จำกัดจำนวนเที่ยวได้ใน 1 วัน ในราคาเพียง 740 เยนครับ (ใครจะลอกแผนของผม แนะนำให้ซื้อใช้นะครับ)
สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองนาโกย่า
1. ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle)
สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1610 ตามคำสั่งของ โชกุนโทกุกาว่า อิเอะยาสุ (Tokugawa Ieyasu) ซึ่งเป็นโชกุนคนแรกของยุคเอโดะ (ในรูปข้างล่าง) และเป็นผู้รวบรวมแผ่นดินญี่ปุ่นให้เป็นปึกแผ่นหลังจากที่แตกแยกมาเป็นเวลานาน ใช้เวลาสร้าง 2 ปี แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1612 โดยมีวัตถุประสงค์เป็นฐานบัญชาการอีกแห่งหนึ่งรองจากโตเกียว นอกจากนี้ ปราสาทแห่งนี้ยังเคยเป็นที่ประทับชั่วคราวของสมเด็จพระจักรพรรดิในช่วงต้นยุคการปฏิรูปเมจิอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ตัวปราสาทหลังเดิมถูกทำลายลงอย่างราบคาบในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ปราสาทที่เห็นในปัจจุบันจึงเป็นปราสาทที่สร้างขึ้นใหม่บนฐานเดิมในปี 1959
ปราสาทนี้มี 7 ชั้น โดยชั้น 2-6 จะจัดแสดงความเป็นมาของปราสาทข้าวของเครื่องใช้ในอดีต และประวัติของเมืองนาโกย่า
อันนี้เป็นปลาโลมา (เค้าบอกว่าเป็น dolphin) เอาไว้ประดับยอดของปราสาท
ส่วนชั้นที่ 7 ของปราสาท เอาไว้ชมทิวทัศน์ของเมืองนาโกย่าครับ
ค่าเข้าชม: 500 เยน (มีตั๋วรวมปราสาทกับสวนโทกุกาว่า ราคา 640 เยน)
การเดินทาง: ลงสถานี Shiyakusho (M07)
2) สวนโทกุกาว่า (Tokugawa Japanese garden)
หลังชมปราสาทนาโกย่าเสร็จผมก็ได้ไปชมสถานที่อีกแห่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน (แต่หลายๆคนมักข้ามไปอย่างน่าเสียดาย) นั่นก็คือ สวนโทกุกาว่า (Tokugawa garden)
ประวัติของสวนนี้คือ หลังจากที่โชกุนโทกุกาว่า อิเอยาสุ รวบรวมญี่ปุ่นเป็นปึกแผ่นแล้ว ก็ได้ส่งลูกหลานไปปกครองแว่นแคว้นต่างๆ (เรียกว่า ไดเมียว) โดยโทกุกาว่า มิตสุโมโตะ (Tokugawa Mitsumoto) ก็เป็นหนึ่งในลูกหลานเหล่านั้น ท่านได้ครองแคว้นที่ชื่อว่า โอวาริ (Owari) ซึ่งปัจจุบันคือ จังหวัดไอจิ (Aichi) และรอบๆเมืองนาโกย่า
หลังจากที่โทกุกาว่า มิตสุโมโตะ ครองแคว้นอยู่ระยะหนึ่งก็เกษียณตัวเองไปพำนักตรงบริเวณที่ปัจจุบันเป็นสวนแห่งนี้ จนเมื่อท่านมิตสุโมโตะเสียชีวิต ที่พำนัก (รวมทั้งสวน) ก็ตกทอดอยู่ในตระกูลโทกกุกาวะสาย Owari จนกระทั่งในปี 1931 (หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง) สวนแห่งนี้ก็ถูกส่งมอบให้กับทางการเมืองนาโกย่า
ค่าเข้าชม: 300 เยน (สามารถซื้อตั๋วรวมกับปราสาทนาโกย่า ได้ในราคา 640 เยน)
การเดินทาง: ลงสถานี Ozone (M12) แล้วเดินไปอีก 15 นาที (มีป้ายชัดเจน)
3) พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำท่าเรือนาโกย่า (Port of Nagoya Aquarium)
เป็น aquarium ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับท่าเรือ Nagoya มีไฮไลท์ที่สำคัญคือ วาฬเพชฌฆาต (Orca-Killer Whale) และวาฬเบลูก้า (Beluga Whale) นอกนั้นก็เป็นการจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเหมือน Aquarium ทั่วๆไปครับ
โดยส่วนตัว ผมเป็นคนชอบดู aquariumและเคยไปมาหลายที่ทั่วโลก ในญี่ปุ่นก็เคยไปมาแล้วหลายที่แล้วครับ สำหรับที่นี่ก็ถือเป็นหนึ่งใน Aquarium ที่ผมชอบ (แม้จะไม่ใช่ที่สุดก็ตาม) ดังนั้น ถ้าใครมานาโกย่า ที่นี่ก็เป็นอีกที่ๆ ผมแนะนำครับ
ค่าเข้าชม: 2,000 เยน
การเดินทาง: ลงสถานี Nagoyako (E07)
4) ศาลเจ้า Atusa Jingu
หลังจากชม aquarium เสร็จแล้ว เราก็กลับมาเที่ยวแนววัฒนธรรมกันต่อ สถานที่สุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้ก็คือ ศาลเจ้า Atusa Jingu
เป็นศาลเจ้าที่สำคัญของทั้งศาสนาพุทธและศาสนาชินโต (ในญี่ปุ่นผสมกันจนแยกไม่ออก)เชื่อกันว่าเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้า Atusa no Ookami
ศาลเจ้านี้ใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่น รองจากศาลเจ้าอิเสะ (Ise) ในจังหวัดมิเอะ (Mie)
การไหว้ศาลเจ้า
ไหนๆเรามาเที่ยวศาลเจ้าแล้ว เรามาดูวิธีการเคารพศาลเจ้าให้ถูกวิธีตามแบบฉบับญี่ปุ่นกันหน่อยเพื่อความเป็นสิริมงคลครับ
1. ก่อนเข้าศาลเจ้า ต้องล้างมือชำระล้างสิ่งสกปรกก่อน โดยให้ใช้กระบวยตักน้ำล้างมือข้างซ้ายก่อนแล้วจึงล้างมือข้างขวา ท้ายสุดให้บ้วนปากเล็กน้อย (เอากระบวยเทน้ำลงมือแล้วค่อยเข้าปาก ไม่ใช่ใช้ปากกินน้ำจากกระบวยโดยตรงนะ)
2. การสักการะศาลเจ้ามีขึ้นตอนดังนี้ครับ
o โค้งคำนับ 2 ครั้ง
o ปรบมือ 2 ครั้ง
o อธิษฐาน
o โค้งคำนับอีก 1 ครั้ง
ค่าเข้าชม: เข้าฟรี
การเดินทาง: ลงสถานี Jingu Nishi (M27)
สำหรับการเที่ยวนาโกย่าในวันนี้ (และในทริปนี้) ก็จบลงเพียงเท่านี้
จริงๆนาโกย่ายังมีสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น พิพิธภัณฑ์รถยนต์ของโตโยต้า (Toyota Commerative Museum) และ พิพิธภัณฑ์รถไฟ (SCMAGLEV and railway park) แต่เนื่องจากเวลาเที่ยวมีจำกัด จึงจำเป็นต้องตัดออกไปอย่างน่าเสียดายครับ
ในตอนหน้า ผมจะนั่งรถไฟ 3 ชั่วโมง เพื่อไปเที่ยวเมืองสำคัญอีกแห่งในทริปนี้ก็คือ ทากายาม่า (Takayama) ซึ่งช่วงที่ไปตรงกับเทศกาลฤดูใบไม้ผลิของเมือง (Takayama Matsuri) อีกด้วย เรื่องราวจะเป็นยังไง ฝากติดตามด้วยนะครับ
ตอนอื่นๆ
ตอนที่ 1: เตรียมตัวเที่ยวภูมิภาคชูบุ
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sumatekso&month=10-07-2017&group=14&gblog=1
ตอนที่ 2: คืนแรกที่นาโกย่า
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=sumatekso&date=10-09-2017&group=14&gblog=3
ตอนที่ 3: นาโกย่า มหานครแห่งชูบุ
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=sumatekso&date=22-09-2017&group=14&gblog=4
ตอนที่ 4: เที่ยวสุดฟินที่ทากายาม่า
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=sumatekso&date=23-09-2017&group=14&gblog=5
ตอนที่ 5: ซื้อทัวร์เที่ยวชิราคาวาโกะ
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=sumatekso&date=24-09-2017&group=14&gblog=6
ตอนที่ 6: ชมสวนสวยและปราสาทแห่งโทยาม่า
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=sumatekso&date=26-09-2017&group=14&gblog=7
ตอนที่ 7: ชมกำแพงหิมะบนเส้นทางสายแจแปนเอลป์
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=sumatekso&date=28-10-2017&group=14&gblog=9
ตอนที่ 8: ปราสาทอีกาดำแห่งมัตสึโมโตะ
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=sumatekso&date=05-11-2017&group=14&gblog=10