If I had 9 life i would..
 
 

วิธีการแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศล

วันนี้จะขอฝากญาติโยมไว้ การอุทิศส่วนกุศลและการแผ่ส่วนกุศลไม่เหมือนกัน การแผ่คือการแพร่ขยาย เป็นการเคลียร์พื้นที่แผ่ส่วนบุญออกไปเรียกว่า สัพเพสัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น เรียกว่าการแผ่แพร่ขยาย แต่การอุทิศให้เป็นการให้โดยเจาะจง ถ้าเราจะให้ตัวเองไม่ต้องบอก ไม่ต้องบอกว่าขอให้ข้าพเจ้ารวย ขอให้ข้าพเจ้าดี ขอให้ข้าพเจ้าหมดหนี้ "ทำบุญก็รวยเอง"

เราเป็นคนทำเราเป็นคนได้และการให้บิดามารดานั้นก็ไม่ต้องออกชื่อแต่ประการใด ลูกทำดีมีปัญญาได้ถึงพ่อแม่ เพราะใกล้ตัวเรา พ่อแม่อยู่ในตัวเรา เราสร้างความดีมากเท่าไหร่จะถึงพ่อแม่มากเท่านั้น เรามีลูก ลูกมีปัญญา พ่อแม่ก็ชื่นใจโดยอัตโนมัติไม่ต้องไปบอก


___________________________________________________


จากหนังสือกฎแห่งกรรมเล่ม ๖ เรื่อง การอุทิศส่วนกศล โดยพระธรรมสิงหบุราจารย์ //www.jarun.org/v6/th/lrule06p0101.html






 

Create Date : 23 ธันวาคม 2551   
Last Update : 23 ธันวาคม 2551 23:17:40 น.   
Counter : 791 Pageviews.  


เหตุใดต้องสวดพุทธคุณเท่าอายุเกิน๑

(สวดอิติปิโสเท่าอายุ+๑)

"อาตมาเคยพบคนแก่ ๑๐๐ กว่าปี มีคนเอากับข้าวมาให้ก็สวดอิติปิโส ภควา อรหัง สัมมาสัมพุทโธ ๑ จบ ให้ตัวเองก่อน ส่วนอีกจบหนึ่งให้คนที่นำมาให้ เสร็จแล้วให้ถ้วยคืนไป อาตมาจับเคล็ดลับได้ จะให้ใครต้องเอาทุนไว้ก่อน ถึงได้เรียกว่า สวดพุทธคุณเท่าอายุเกินหนึ่งไงเล่า"

จากหนังสือกฎแห่งกรรมเล่ม ๙ เรื่องทำดีนั้นแสนยาก โดยพระธรรมสิงหบุราจารย์
//www.jarun.org/v6/th/lrule09p0401.html



_____________________________________________________

ที่ว่าให้สวดเท่าอายุนี่ หมายความว่าอายุเท่าไหร่ ๒๐ ถ้าเราสวดแค่ ๑๐ เดียว มันก็ไม่เท่าอายุ สวดไปเนี่ยเท่าอายุก่อนนะมันคุมให้มีสติ แล้วก็เกินหนึ่งเนี่ยหมายความคนมักง่ายมักได้ คือมันมีเวลาน้อย ถ้าสวดเกินหนึ่งทำอะไรให้มันเกินไว้ เหมือนคุณโยมเนี่ยไปค้าขาย ยังไม่ได้ขายได้สักกะตังค์เลย จะเอาอะไรไปให้ทาน ยังไม่ได้ผลกำไรเลยต้องให้ตัวเองก่อนนะ นี่ต้องค้าขายต้องลงทุนนี่ ต้องลงทุนก็สวดไป แต่สวดมากเท่าไหร่ยิ่งดีมาก ได้มีสมาธิมาก แต่อาตมาที่พูดไว้คือคนมันไม่มีเวลา ก็เอาเกินหนึ่งได้ไหม เกินหนึ่งก็ใช้ได้นะ แต่ถ้าเกินถึง ๑๐๘ ได้ไหม ยิ่งดีใหญ่ ทำให้เกิดสมาธิสูงขึ้น

จากบทสัมภาษณ์ในรายการ "ชีวิตไม่สิ้นหวัง" ทางช่อง ๓




 

Create Date : 22 ธันวาคม 2551   
Last Update : 22 ธันวาคม 2551 17:18:54 น.   
Counter : 1288 Pageviews.  


บทสวดมนต์

  "อย่าลืมนะ ที่ลิ้นปี่ หายใจยาวๆ สำรวมเวลาสวดมนต์ นั้นน่ะได้บุญแล้ว"

 






กราบพระรัตนตรัย

     อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ)
    สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมั้ง นะมัสสามิ (กราบ)
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆังนะมามิ (กราบ)

 

นมัสการ (นะโม)

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (๓ จบ)

 

ไตรสรณคมน์ (พุทธัง ธัมมัง สังฆัง)

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตติยัมปิ ธัมมั้ง สะระณัง คัจฉามิ
ตติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

 

พระพุทธคุณ (อิติปิ โส)

อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ

วิชชาจะระณะสัมปันโน โลกะวิทู อะนุตตะโร

ปุริสะทัมมะสาระถิ เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติฯ

 

พระธรรมคุณ

สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก

เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ (อ่านว่า วิญญูฮีติ)

 

พระสังฆคุณ

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ

อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สะาวะกะสังโฆ

ญายะปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ

สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ

ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา

เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ

อาหุเนยโย* ปาหุเนยโย* ทักขิเณยโย*

อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง

ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ 


*อ่านออกเสียงว่า อาหุไนยโย ปาหุไนยโย ทักขิไณยโย โดยสรพเอ กึ่งสระไอ

 

พุทธชัยมงคลคาถา (พาหุง)

 

พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง

ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง

ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท

ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ

 

มาราติเรกะมะยุชฌิตะสัพพะรัตติง

โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง

ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท

ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ

 

นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง

ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง

เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท

ตันเตชะสา ภะวะตุเต ชะยะมังคะลานิฯ

 

อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง

ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง

อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท

ตันเตชะสา ภะสะตุเต ชะยะมังคลานิฯ

 

กัตตะวา กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา

จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ

สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท

ตันเตชะสา ภะวะตุเต ชะยะมังคะลานิฯ

 

สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง

วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง

ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท

ตันเตชะสา ภะวะตุเต ชะยะมังคะลานิฯ

 

นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง

ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยัโต

อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท

ตันเตชะสา ภะวะตุเต ชะยะมังคะลานิฯ

 

ทุคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สัทัฏฐะหะตถัง

พรัหมัง* วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง

ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท

ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ

 

เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา โย

วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ

โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญฯ

*พรัหมัง อ่านว่า พรัมมัง

 

มหาการุณิโก

 มะหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง

ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลังฯ ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง

นันทิวัฑฒะโน เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิ ชัยัสสุ ชะยะมังคะเล อะปะรา

ชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะพุทธานัง อัคคัปปัตโต

 ปะโมทะติฯ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต

จะ สุยิฏฐัง พรัหมะ**จาริสุ ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธี เต

ปะทักขิณา ปะทักขิณานิกัตตะวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณฯ

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะพุทธานุภาเวนะ

สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะธัมมานุภาเวนะ

สะทา โสตถี ภะวะตุ เตฯ

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะสังฆานุภาเวนะ

สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ

** พรัหมมะ อ่านว่า พรัมมะ

 

หลังจากสวดมันต์ตั้งแต่ต้นจนจบบทพาหุงมาหากาฯ แล้วก็ให้สวดเฉพาะบทพระพุทธคุณ หรือ อิติปิโส ให้ได้จำนวนเท่ากับอายุของตนเอง แล้วสวดเพิ่มไปอีกหนึ่งจบ ตัวอย่าง ถ้าอายุ ๓๕ ปี ต้องสวด ๓๖ จบ จากนั้นจึงค่อยแผ่เมตตา

 

พุทธคุณเท่าอายุ เกิน ๑ (อิติปิโสเท่าอายุ +๑)

อิติปิโส ภะคะวา อระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติฯ

 

บทแผ่เมตตา

 

สัพเพ สัตตา

สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

อะเวรา โหนตุ

จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

อัพยาปัชฌา โหนตุ

จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้พยาบาท เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

อะนีฆา โหนต

จงเป็นสุขเป็นเถิด อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ

งมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ

 

บทอุทิศส่วนกุศล (บทกรวดน้ำ)

 

อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่มารดา บิดา ของข้าพเจ้า

 ขอให้มารดา บิดาของข้าพเจ้า จงมีความสุข

อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าเจ้า

ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า จงมีความสุข

อิทัง เม คุรูปัชฌายาจะริยานังโหตุ สุขิตาโหนตุ คุรูปัชฌายาจะริยา

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ครูอุปัชฌาอาจารย์ของข้าพเจ้า

ขอให้ครูอุปัชฌาอาจารย์ของข้าพเจ้าจงมีความสุข

อิทัง สัพพะ เทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง

ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข

อิทัง สัพพะ เปตานังโหตุ สุขิตาโหนตุ สัพเพ เปตา

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เปตรทั้งหลายทั้งปวง

ขอเปรตทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข

อิทัง สัพพะ เวรีนังโหตุ สุขิตาโหนตุ สัพเพ เวรี

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เจ้าหรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง

ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวล จงมีความสุข

อิทัง สัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่สัตวทั้งหลายทั้งปวง

ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงมีความสุข
 

ที่มา หนังสือสวดมนต์ ทำกรรมฐานตามแบบหลวงพ่อจรัญ

สามารถดาวน์โหลดต้นฉบับหนังสือเล่มนี้ได้ที่ //www.jarun.org/v6/th/digitallibrary-book.html

เจ้าของบล๊อก พิมพ์เอง ไม่ได้ Copy มาวางแต่อย่างใด เพื่อจะได้อานิสงส์ผลบุญในการพิมพืเผยแผ่ อีกทางหนึ่งด้วย





 

Create Date : 18 ธันวาคม 2551   
Last Update : 19 ธันวาคม 2551 0:33:52 น.   
Counter : 629 Pageviews.  


ลำดับการสวดมนต์


1. กราบพระรัตนตรัย
2. นมัสการ (นะโม) ๓ จบ
3. สวดไตรสรณคมน์ (พุทธัง ธัมมัง สังฆัง)
4. สวดพระพุทธคุณ (อิติปิ โส)
5. สวดพระธรรมคุณ
6. สวดพระสังฆคุณ
7. สวดพุทธชัยมงคลคาถา (พางหุงฯ)
8. สวดมหาการุณิโก
9. สวดพุทธคุณเท่าอายุเกิน ๑ (อิติปิ โส เท่าอายุ+๑)
๑๐. แผ่เมตตา
๑๑. อุทิศส่วนกุศล (บทกรวดน้ำ)


จากหนังสือกฎแห่งกรรมเล่ม ๓ เรื่อง อานิสงส์ของการสวดพุทธคุณ โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
//www.jarun.org/v6/th/lrule03r0801.html



ตามที่เจ้าของบล๊อก ถือปฏิบัติมานั้นการสวดบทดังกล่าวจะสวดเฉพาะก่อนนอน เพราะว่า จริงๆ แล้ว ยังไม่ถึงขั้นปฏิบัติธรรม วัตรเช้า วัตรเย็น เนื่องจากสภาพทางโลกทำให้จิตใจยังไม่มั่นคงที่จะกระทำเป็นกิจวัตร (ยังมีขี้เกียจบ้าง ผลัดวันประกันพุ่งบ้าง)

แต่อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากลำดับการสวดมนต์ตามหลักปฏิบัติของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญแล้วนั้น ทุกวันพระหรือในวันที่จิตใจเบิกบานไม่เหนื่อยจากการทำงานหรือเรื่องทางโลกมากนัก เจ้าของบล๊อกก็จะเพิ่มบทสวดในส่วนของยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก ฉบับเดิม มาด้วย

ถามว่า การสวดมนต์แล้วได้อะไรเป็นสิ่งที่เราสามารถพิสูจน์ได้หรือไม่??

...คงยากแก่การพิสูจน์สำหรับคำถามนี้ มีแต่ผู้ที่สวดและถือปฏิบัตรเป็นกิจวัตรเท่านั้น จึงจะสามารถพิสูจน์คำตอบในสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวท่านเอง...


จะว่าไปแล้วเจ้าของบล๊อก นิสัยไม่ดี ขี้โกง ไม่สมควรได้รับผลบุญจากการสวดมนต์ด้วยซ้ำ เพราะว่าถ้าช่วงไหนมีความสุข ชีวิตราบรื่นมักจะขี้เกียจและผลัดวันประกันพรุ่ง เพื่อสวดมนต์บทต่างๆ ที่่ว่ามา แต่เมื่อคราที่ความทุกข์ยากมาเยือน ชีวติมืดมน หรือแม้แต่ช่วงที่จิตใจว้าวุ่น ขาดสมาธิ จนเกือบจะเสียสติ จึงได้คิดถึง การสวดมนต์...

แต่มันช่างเป็นเรื่องเหลือเชื่อเสียจริงๆ เพราะว่า ทุกครั้งที่รู้สึกแย่ ก็มักจะหันมาพึ่งบทสวดมนต์และการตั้งจิตอธิษฐาน

จิตใจจะสงบเยือกเย็น และทำให้มีสติที่จะคิดหรือพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราในขณะนั้น เข้าใจสิ่งที่ทำให้เราเป็นทุกข์ในขณะนั้น และสุดท้ายแล้ว ความว้าวุ่นก็จะค่อยๆ หายไป

เชื่อหรือไม่ว่า บางเรื่อง อาจเห็นผลภายได้ภายใน สามวัน เจ็ดวัน (ไม่ได้โฆษณาชวนเชื่อ ผู้ปฏิบัติได้เท่านั้นจึงจะสามารถพิสูจน์สิ่งที่เจ้าของบล๊อกบอก) แต่จงจำไว้ อย่างที่พระท่านสอนไว้ คือ อย่าสวดเพื่อหวังผลแก่ตัวเอง จงตั้งจิตแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศลแก่ มารดา บิดา ญาติ ครู อาจารย์ เทวดา เปรต เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลาย...ด้วยจิตบริสุทธิ์

เพียงเท่านี้ ผลบุญทั้งหมดก็จะกลับคืนมาแก่ท่าน

ขออนุโมทนาบุญ แก่ผู้ที่ผ่านทางมาอ่านและจำนำไปปฏิบัติ...และหวังว่าคงได้ผลเช่นเดียวกัน....





 

Create Date : 17 ธันวาคม 2551   
Last Update : 18 ธันวาคม 2551 0:37:30 น.   
Counter : 1204 Pageviews.  


สวดมนต์ถูกวิธีทำอย่างไร...

"เอาตำรามาดูกันก็ไม่ได้ผล แต่ดูตำราเพื่อให้ถูกวรรคตอนและให้คล่องปากแล้วจะได้คล่องใจ เป็นสมาธิ"


การวางจิต


เมื่อสวดมนต์ได้ถูกวรรคตอนเป็นสมาธิดีแล้วก็วางจิตให้ถูกต้อง

สวดมนต์เป็นนิจ อธิษฐานจิตเป้นประจำ (ลิ้นปี่)
อโหสิกรรมเสียก่อนและเราก็แผ่เมตตา (ลิ้นปี่)
มีเมตตาดีแล้ว ได้กุศลแล้วเราก็อุทิศเลย (อุณาโลม)


"แผ่ส่วนกุศลทำอย่างไร อุทิศตรงไหน ทำตรงไหน และวางจิตไว้ตรงไหนถึงจะได้ อย่าลืมนะ ที่ลิ้นปี่ หายใจยาวๆ สำรวม เวลาสวดมนต์นั้นน่ะได้บุญแล้ว ไม่ต้องเอาสตางค์ไปถวายองค์โน้นองค์นี้หรอก แล้วสำรวมจิต ส่งกระแสจิตที่หน้าผาก อุทิศส่วนกุศล..."
สวดมนต์เป็นนิจ (ลิ้นปี่)


"ลิ้นปี่ จะอยู่ครึ่งทางระหว่างจมูกถึงสะดือ"


".....อธิษฐานจิต หมายความว่า ตั้งสติสัมปัชชัญญะ ไว้ที่ลิ้นปี่ สำรวมกาย วาจา จิตให้ตั้งมั่นแล้ว จึงขอแผ่เมตตาไว้ในใจ สักครู่หนึ่งแล้วก็อุทิศให้มารดา บิดาของเรา ว่าเราได้บำเพ็ญกุศล ท่านจะได้บุญได้กุศลแน่ๆ เดี๋ยวนี้ด้วย ผมเรียนถวายนะ มิฉะนั้นผมจะอุทิศไปยุโรปได้อย่างไร...."
อธิษฐานจิตเป็นประจำ (ลิ้นปี่)


แผ่เมตตากับอุทิศ มันต่างกัน ทำใจให้เป็นเมตตาบริสุทธิ์ก่อนไม่อิจฉา ริษยา ไม่ผูกพยาบาทใครไว้ในใจ ทำใจให้แจ่มใส ทำใจให้สบาย คือ เมตตาแล้วเราจะอุทิศให้ใครก็บอกไป มันจะมีพลังสูง สามารถจะอุทิศให้ คุณพ่อคุณแม่ ของเรากำลังป่วยไข้ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บได้ เช่น วีโก้ บรูน ชาวนอร์เวย์ที่เคยมาบวชที่วัดนี้เป็นต้น..."
อโหสิกรรมก่อนแล้วค่อยแผ่เมตตา


"หายใจยาวๆ ตั้งกัลยาณจิตไว้ที่ลิ้นปี่ ไม่ใช่พูดส่งเดช จำนะ ที่ลิ้นปี่ เป็นการแผ่เมตตา จะอุทิศก็ยกจากลิ้นปี่ สู่หน้าผาก เรียกว่า อุณาโลมา ปจชยาเต..."แผ่เมตตา (ลิ้นปี่) อุทิศส่วนกุศล (อุณาโลม)

---------------------------------------------------------------------

จากหนังสือกฏแห่งกรรมเล่ม ๖ เรื่องการอุทิศส่วนกุศล โดยพระธรรมสิงหบุราจารย์ //www.jarun.org/v6/th/lrule06p0101.html
และหนังสือกฏแห่งกรรมเล่ม ๙ เรื่องวิธีแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศลโดย พระธรรมสิงหบุราจารย์ //www.jarun.org/v6/th/lrule09p0301.html




 

Create Date : 16 ธันวาคม 2551   
Last Update : 17 ธันวาคม 2551 23:55:07 น.   
Counter : 713 Pageviews.  


1  2  

SassyKate
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




SassyKate is a Sassy girl.

Dream what you want to dream, Go where you want to go, Be what you want to be, Because you have only one life and one chance to do all the things you want to do.
[Add SassyKate's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com