คอลัมน์..ด้วยรักและแบ่งปัน 1
คอลัมน์ : ด้วยรัก และ แบ่งปัน


ในช่วงที่มีภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง ประเทศไทยในบางจังหวัดกำลังประสบปัญหาฝนตกหนักและน้ำท่วมขัง ทำให้ประชาชนหลายพื้นที่ต่างได้รับความเดือดร้อนกันมาก เนื่องจากฝนที่ตกหนักนั้นมาจากอิทธิพลของลมมรสุมที่ผัดพ่านเข้ามายังประเทศ


จึงทำให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเด็กอ่อน เด็กเล็กและกลุ่มผู้สูงอายุ นับเป็นกลุ่มที่มักได้รับผลกระทบต่อสุขภาพได้ง่าย โดยเฉพาะโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ได้แก่โรคไข้หวัด เพราะหากป่วยเป็นไข้หวัดและไม่มีการดูแลสุขภาพที่ดี อาจส่งผลให้กลายเป็นโรคหลอดลมอักเสบและโรคปอดบวมได้ในที่สุด


ดร. ฟรัง เฟ็กเทเลอร์ แพทย์ชาวเยอรมัน ได้กล่าวไว้ว่า “เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงร่างกายของมนุษย์จะใช้เวลาในการปรับตัวประมาณ 2-3 สัปดาห์ และต้องรู้จักที่จะดูแลตนเองให้ถูกวิธีและมีการออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ เพราะจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้” ซึ่งได้สอดคล้องกับคำแนะนำของ นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย ที่ได้กล่าวว่า


“การออกกำลังกายช่วยสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกายและยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคไข้หวัด ซึ่งการออกกำลังกาย ควรเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิค เช่น การเดินเร็วๆ การวิ่งเหยาะ การขี่จักรยาน การเล่นกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง การรำมวยจีน เป็นต้น เพราะจะทำให้รู้สึกหายใจเร็วขึ้น โดยออกกำลังกายสัปดาห์ละ 5 วัน เพียงวันละ 30 นาที ก็เพียงพอที่จะเกิดภูมิคุ้มกันระบบทางเดินหายใจได้”


แต่ไม่ใช่เฉพาะแค่การออกกำลังกายอย่างเดียวแล้วจะทำให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงได้นะคะ คุณผู้อ่านต้องรับประทานอาหาร ที่มีประโยชน์ เน้นบริโภคผักให้หลากหลายชนิด ทั้งสด ลวก ต้ม ผัด และผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง มะกอกฝรั่ง องุ่น สัปปะรด และมะละกอ ค่ะ เพราะจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและยังช่วยเพิ่มอุณหภูมิความร้อนให้กับร่างกาย นอกจากนี้ดิฉันยังได้นำ “12 เคล็ดลับการดูแลสุขภาพแบบง่ายๆ” แต่ได้ผลดีเกินคาด ซึ่งเป็นวิชาทางแพทย์แผนจีน มาฝากอีกด้วยค่ะ!


1. ต้องหวีผมบ่อย ๆ
ใช้นิ้วทั้ง 10 นิ้ว หรือ หวีก็ได้ ทำการหวีผมบ่อย ๆ จะช่วยทำให้ตาสว่าง ทำให้รากผมแข็งแรง

2. ต้องถูใบหน้าบ่อย ๆ
ใช่ฝ่ามือ ถูหน้าบ่อย ๆ ให้เลือดมาเลี้ยงใบหน้า ทำให้ใบหน้าเปล่งปลั่ง ลบริ้วรอยเหี่ยวย่น

3. ต้องเคลื่อนไหวดวงตาบ่อย ๆ
บริเวณดวงตา เคลื่อนไหว มองไกล-มองใกล้ มองข้าง มองเข้าใน มองบน มองล่าง

4. ต้องดึงหู ดีดหู บีบหู ถูใบหูบ่อย ๆ
เป็นการกระตุ้นการไหลเวียเลือดบริเวณใบหู ช่วยป้องกันการเกิดเสียงดังในหู หูตึง เวียนศีรษะ

5. ต้องหมั่นขบฟันเสมอ
ขบเบา ๆ วันละหลายสิบครั้ง ช่วยทำให้ฟันแข็งแรง กระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย

6. ดันเพดานปากด้านบนด้วยลิ้นบ่อย ๆ
การใช้ปลายลิ้นกระตุ้นเพดานบนด้านหน้า เป็นการกระตุ้นจุดฝังเข็ม เพื่อเชื่อมพลังของเส้นลมปราณของร่างกาย และเป็นการกระตุ้นการหลั่งสารน้ำลาย

7. ต้องกลืนน้ำลายบ่อย ๆ
ควรฝึกกลืนน้ำลายบ่อย ๆ นอกจากเป็นการเคลื่อนไหวพลังบริเวณคอหอย แล้วยังช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารด้วย

8. ของเสียต้องหมั่นขับทิ้ง
อุจจาระ และปัสสาวะ ต้องหมั่นขับทิ้ง ไม่ควรเก็บสะสมไว้ในร่างกายนานเกินไป เพราะจะทำให้เกิดโรคของลำไส้ และโรคทางเดินปัสสาวะ

9. ต้องถูหรือนวดท้องบ่อย ๆ
ให้นวดท้องตามเข็มนาฬิกา ช่วยทำให้การขับถ่ายของเสียดีขึ้น ลดไขมันหน้าท้อง เสริมความแข็งแรงกล้ามเนื้อหน้าท้อง ป้องกันกระเพาะอาหารหย่อนยาน

10. ขมิบก้นบ่อย ๆ
ควรขมิบก้นวันละหลายครั้ง แม้ขณะทำงาน ยืน นั่ง นอน เป็นการป้องกันริดสีดวงทวารและป้องกันอาการท้องผูกได้

11. ต้องเคลื่อนไหวข้อทุกข้อ
ถ้าอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนาน ๆ โดยไม่เคลื่อนไหว จะทำให้การหดตัวของกล้ามเนื้อผิดปกติ ขาดความยึดหยุ่น ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย จึงต้องสร้างสมดุลของกล้ามเนื้อ

12. ถูผิวหนังบ่อย ๆ
ใช้ฝ่ามือถูตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น กล้ามเนื้อ ผิวหนัง มีความยึดหยุ่น มีความเปล่งปลั่ง


ทั้งหมดนี้เป็นเคล็ดลับการดูแลสุขภาพแบบง่ายๆ ที่สามารถปฏิบัติได้ทันทีที่บ้านของคุณผู้อ่านค่ะ แถมยังช่วยประหยัดเงิน ไม่ต้องไปสถานออกกำลังกายที่แพงลิบลิ่ว หรือสถาบันเสริมสุขภาพและความงาม คุณผู้อ่านทุกท่านก็ สวย หล่อและมีสุขภาพดีได้ค่ะ และดิฉันต้องขอลาคุณผู้อ่านทุกท่านไปฝึกทำตามคำแนะนำทั้ง 12 ข้อก่อนนะคะ เผื่อว่าจะสวยขึ้น(ฮา) แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดีค่ะ!

*********************************************

หมายเหตุ : เราเป็นคอลัมน์นิสต์ให้กับ หนังสือพิมพ์ของราชบุรี จึงนำบทความที่เราเขียนมาแบ่งปันเพื่อนๆจ้า



Create Date : 20 ตุลาคม 2554
Last Update : 20 ตุลาคม 2554 9:53:26 น.
Counter : 685 Pageviews.

11 comment
สาระดีมีรอบโลก 3

สวัสดีค่ะทุกท่าน  เมื่อฉบับที่ผ่านมา แมวขาว นำเสนอเรื่องราว  “เทศกาลแปลกประหลาดที่สุดในโลก”   ซึ่งผ่านไปแล้ว 5 เทศกาล ในฉบับนี้ทุกท่านจะได้พบกับอีก 5 เทศกาลประหลาดที่เหลือ มาติดตามกันเลยค่ะ.

6 .   แข่งขันไล่ล่าชีส  ที่เมืองกลอสเตอร์ เมืองชนบทในอังกฤษ ช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี จะมีการจัดแข่งขันเก็บชีส ผู้แข่งขันต้องเก็บชีสหนัก 8 ปอนด์และทำเป็นรูปวงล้อซึ่งปล่อยลงมาจากเนินเขาที่มีความเร็ว 70 ไมล์ต่อชั่วโมง โดยต้องเก็บให้ได้ก่อนที่ชีสจะตกลงไปถึงเชิงเขา

7 .  เทศกาล โกลาโช  ตั้งแต่ปี 1600 ที่เมืองคาสตริลโลเดมูร์เซีย ในประเทศสเปน จะจัด "ฉลองเทศกาลโกลาโช”  คือประเพณีการกระโดดข้ามเด็กทารก มีการจัดขบวนพาเหรดขึ้น แสดงเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งชั่วร้ายที่เข้ามาในเมือง เด็กทุกคนที่เกิดในปีที่แล้วจะถูกนำมานอนบนฟูก ชายที่แสดงเป็นสิ่งชั่วร้าย เรียกว่า เอลโกลาโช ก็จะกระโดดข้ามฟูก เพื่อเป็นการชำระล้างสิ่งชั่วร้ายออกไปจากตัวเด็ก

8 .  เทศกาลโต๊ะจีนลิง  จัดที่ลพบุรีในประเทศไทย เทศกาลนี้มีขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่พระรามที่ตบรางวัลให้กับหนุมานด้วยการมอบเมืองให้ปกครอง โต๊ะจีนจะประกอบไปด้วยอาหารสด ผักผลไม้หลายร้อยกิโลกรัม

9 .   เทศกาลหน่อไม้ฝรั่ง   ทุกเดือนพฤษภาคม ที่เมืองเอมไพร์ รัฐมิชิแกน มีการจัดเทศกาลหน่อไม้ฝรั่ง ซึ่งรัฐมิชิแกนเป็นผู้ผลิตหน่อไม้ฝรั่งมากที่สุดของประเทศสหรัฐ มีการจัดขบวนพาเหรด ผู้ร่วมงานจะแต่งตัวเป็นหน่อไม้ฝรั่ง มีการประกวดแต่งบทกวีเกี่ยวกับหน่อไม้ฝรั่ง มีการทำอาหารหลายชนิด รวมทั้งเบียร์ที่ทำมาจากหน่อไม้ฝรั่ง

10 .   เทศกาลอาบโคลน  เดือนกรกฎาคมในเกาหลีใต้ จะมี “เทศกาลบอร์ยอง” หรือเรียกว่า “เทศกาลอาบโคลน” ซึ่งเป็นดินโคลนจากทุ่งนาที่อยู่ไม่ไกลจากชายหาด โดยเป็นดินที่ไม่เหมาะต่อเกษตรกรรม แต่! ดินโคลนนี้ กลับเต็มไปด้วยแร่ธาตุ ซึ่งกลายมาเป็นแหล่งทำเงินให้กับผู้ผลิตเครื่องสำอาง แต่ละปีดินโคลนจะถูกขุดขึ้นมาและขนไปที่ชายหาด ให้นักท่องเที่ยวได้อาบเล่นอย่างสนุกสนาน



ครบทั้ง 10 เทศกาลแปลกประหลาด!  แต่ใช่ว่าโลกนี้จะมีเรื่องแปลกอยู่แค่นี้ เพราะโลกที่กว้างใหญ่ ยังมีอีกมากมาย ที่เราไม่เคยได้รู้ได้สัมผัส
ฉบับนี้ แมวขาว ต้องลาไปก่อน ขอให้ทุกท่านโชคดีนะคะ...เมี๊ยว  เมี๊ยว  หง่าว!






Free TextEditor

......................................................................................................

หมายเหตุ : บทความนี้ ผู้เขียนใช้นามปากกาว่า "แมวขาว" และได้เขียนลงในคอลัมน์ "สาระดีมีรอบโลก" ลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายหนึ่งของ จ. ราชบุรี ซึ่งเป็นการเขียนให้ฟรี (วิทยาทาน) ไม่มีค่าตอบแทนใดๆทั้งสิ้น
ผู้เขียนเห็นว่ามีประโยชน์ต่อผู้อื่นอีกมากมาย จึงนำมาลงในบล็อคส่วนตัวนี้ หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านไม่มากก็น้อยค่ะ.




Create Date : 10 มิถุนายน 2553
Last Update : 12 มีนาคม 2555 12:07:33 น.
Counter : 545 Pageviews.

0 comment
สาระดีมีรอบโลก 2


สวัสดีค่ะ แมวขาวกลับมาพบกับทุกท่านพร้อมสาระดีมีประโยชน์ในคอลัมภ์ “สาระดี..มีรอบโลก”  ในหนังสือพิมพ์เสียงประชาชน  สำหรับฉบับนี้แมวขาว จะพาทุกท่านบินลัดฟ้าไปพบกับ “ 10  เทศกาลแปลกประหลาดที่สุดในโลก”   ถ้าทุกท่านพร้อมแล้ว ตามแมวขาวมาเลยค่ะ.




1 .   สงครามมะเขือเทศ  เป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงที่สุดงานหนึ่งของโลก หลายเมืองในสเปนจะจัดงาน "ลาโทมาติน่า" แต่ที่โด่งดังที่สุดคือ เมืองบูญอล ในวันพุธสุดท้ายของเดือนสิงหาคมของทุกปี จะมีการแสดงดนตรี  การจุดพลุ ดอกไม้ไฟ ที่สำคัญมีมะเขือหนักกว่า 300,000 ปอนด์ถูกผู้ร่วมงานละเลงปาใส่กันอย่างสนุกสนาน




2 .   เทศกาลยูเอฟโอ    เมืองโรสเวลล์ รัฐเม็กซิโกของสหรัฐฯ กลายเป็นศูนย์กลางของคนที่เชื่อว่ามีมนุษย์ต่างดาว หลังจากในปี 1947 พบซากยานลึกลับในเมืองนี้ และงานเทศกาลจัดขึ้นช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี ซึ่งมีแฟนยูเอฟโอจากทั่วโลกมาชุมนุมกัน มีการประกวดแต่งชุดเอเลี่ยน มีการจุดพลุ ดอกไม้ไฟ รวมทั้งการเสวนาของแฟนพันธุ์แท้เรื่องยูเอฟโอ




3 .  แข่งขันอุ้มเมียชิงแชมป์โลก  ช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี เมืองซอนกายาวิ ประเทศฟินแลนด์เป็นสถานที่ "แข่งขันอุ้มเมียชิงแชมป์โลก" และสถิติโลกคือการอุ้มผ่านสิ่งกีดขวางระยะทาง 235.5 เมตรในเวลา 55 วินาที ส่วนรางวัลสำหรับผู้ชนะคือ  เบียร์น้ำหนักเท่ากับตัวภรรยาของพวกเขานั่นเอง.




4 .  เทศกาลวิ่งวัวกระทิง  หรือ “เทศกาลซานเฟอร์มิน”  ที่เมืองปามโปลน่าของสเปน ถนนจะถูกสร้างสิ่งกีดขวางไว้ คนที่ร่วมแข่งขันแต่งชุดพื้นเมืองสีขาว ผูกผ้าคลุมเอวและผ้าพันคอสีแดง รอสัญญาณเตรียมวิ่งหนีการไล่ขวิดของวัวกระทิงที่ถูกปล่อยออกมาบนถนน  การแข่งขันใช้เวลาเพียง 2-3 นาที แต่ละปีมีผู้บาดเจ็บเป็นร้อยและในบางปีมีผู้เสียชีวิตด้วย




5 .  สงครามปาผลส้ม   ที่เมืองอีเวรีย ประเทศอิตาลี ในระหว่างงานคาร์นิวาล 3 วัน และเทสกาลนี้ถูกจัดขึ้นในช่วงถือศีลบวช ชาวบ้านราว 3,000 คนมารวมตัวกันที่ลานกลางเมืองแห่งนี้ซึ่งที่มีประชากรไม่ถึง 25,000 คน

เทศกาลนี้จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงการสู้รบต่อต้านจักรพรรดิผู้กดขี่ข่มเหงในศตวรรษที่ 12 ซึ่งผู้ร่วมงานจะแต่งตัวเป็นฝ่ายนักรบ รอคอยขบวนกลุ่มอาสาสมัครที่แต่งตัวเป็นฝ่ายศัตรู โดยใส่ชุดอัดนวมและหมวกป้องกันยืนมาบนรถลาก ให้ผู้ร่วมงานหรือนักรบปาผลส้มใส่ ส่วนผู้ชมจะสวมหมวกหรือผ้าพันคอสีแดงเป็นสัญลักษณ์ว่าตัวเองไม่ใช่นักรบ



แหม ! น่าเสียดายเหลือเกินที่หมดพื้นที่ซะแล้ว แต่คุณผู้อ่านไม่ต้องกังวลนะคะ แมวขาวจะนำอีก 5 เทศกาลประหลาด มาให้อ่านจนครบอย่างแน่นอน ว่าแต่! จะมีเทศกาลของไทยติดอันดับบ้างหรือเปล่านะ?  

ถ้าทุกท่านอยากทราบต้องรอติดตามกันฉบับหน้านะคะ  ส่วนฉบับนี้ แมวขาว ลาไปก่อนค่ะ... เมี๊ยว  เมี๊ยว  หง่าว!







Free TextEditor

................................................................................................

หมายเหตุ : บทความนี้ ผู้เขียนใช้นามปากกาว่า "แมวขาว" และได้เขียนลงในคอลัมน์ "สาระดีมีรอบโลก" ลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายหนึ่งของ จ. ราชบุรี ซึ่งเป็นการเขียนให้ฟรี (วิทยาทาน) ไม่มีค่าตอบแทนใดๆทั้งสิ้น
ผู้เขียนเห็นว่ามีประโยชน์ต่อผู้อื่นอีกมากมาย จึงนำมาลงในบล็อคส่วนตัวนี้ หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านไม่มากก็น้อยค่ะ.



Create Date : 10 มิถุนายน 2553
Last Update : 12 มีนาคม 2555 12:11:49 น.
Counter : 427 Pageviews.

สาระดีมีรอบโลก 1


สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน

แมวขาวขอฝากตัวฝากใจกับท่านในคอลัมภ์ “สาระดี..มีรอบโลก”  ซึ่งรวมเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นสาระประโยชน์ มามอบให้ท่านในหนังสือพิมพ์เสียงประชาชน รับรองว่าเมื่อท่านได้ติดตามสาระกับแมวขาวแล้ว เหมือนกับท่านได้ไปทัวร์รอบโลกมาทีเดียวค่ะ.



พอเอ่ยคำว่ารอบโลก ทุกท่านคงทราบดีว่า ขณะนี้ทั่วโลกต่างตกอยู่ในสภาวะเศรษกิฐซบเซา ซึ่งเมืองไทยก็ประสบปัญหาอยู่เช่นเดียวกัน และเพราะพิษเศรษกิฐนี่แหล่ะค่ะ ที่ทำให้คนไทยหัวเราะและยิ้มน้อยลงไปทุกวัน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนไทยกำลังเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยมากขึ้นค่ะ
 เอ๊ะ!  จะเป็นไปได้อย่างไร?  จริงหรือนี่?   จริงสิคะ! เชิญตามแมวขาวมาเลยค่ะ.
เมื่อเวลาที่คนเราหัวเราะและยิ้ม ร่างกายจะหลั่งสารเอนโดร์ฟินออกมา หัวใจจะเต้นเร็วกว่าปกติ ทำให้มีการสูบฉีดโลหิต เหมือนกับว่าคุณได้ไปออกกำลังกายมา ที่สำคัญ ยังช่วยให้คุณมีปอดที่แข็งแรง อาการท้องอืด ท้องผูกก็น้อยลง ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายก็ดีขึ้น สำหรับผู้ที่เป็นหวัดเมื่อได้หัวเราะดังๆ ร่างกายจะปลอดโปร่งขึ้น อาการปวดเมื่อยและคัดจมูกทุเลาลงและค่อยๆหายไป



นั่นเพราะ...เวลาที่คุณป่วย เครียด ซึมเศร้า กล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายจะเกิดอาการตึง ระบบประสาทความคิดของสมองจะรวน เหมือนเครื่องยนต์ที่เกิดช๊อตขึ้นมาดื้อๆ   และพอคุณได้หัวเราะ เท่านั้นแหล่ะ..ระบบภายในร่างกายก็จะปรับสมดุลใหม่ (เหมือนเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนแบตเตอรี่มาใหม่) ระบบโลหิตหมุนเวียนดีขึ้น สมองก็ได้รับออกซิเจนเต็มที่ ทำให้เกิดพลังกายใจที่ดี
และคุณเชื่อไหมว่า…การหัวเราะเพียง 10 วินาที  เท่ากับ ได้ออกกำลังกายถึง  3 นาที  และถ้าหัวเราะต่อเนื่อง 5 นาที  เท่ากับ ได้เต้นแอโรบิกถึง 30 นาทีเชียวนะคะ..จะบอกให้!



เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว...จงรีบยิ้มและหัวเราะกันดีกว่าค่ะ  แมวขาวขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านใช้เสียงหัวเราะฝ่าฟันปัญหาเศรษกิฐไปให้ได้ค่ะและขอฝากข้อคิดไว้ว่า.....

จงยิ้มในยามเศร้าและผิดหวัง เพราะนั่นคือสิ่งท้าทาย
ดีกว่าปล่อยให้ร้องไห้ยามเสียใจ...ไปทุกวัน


ฉบับนี้ แมวขาว ลาไปก่อนค่ะ พบกันใหม่ฉบับหน้านะคะ สวัสดีค่ะ... เมี๊ยว  เมี๊ยว  หง่าว!






Free TextEditor

.....................................................................................................


หมายเหตุ : บทความนี้ ผู้เขียนใช้นามปากกาว่า "แมวขาว" และได้เขียนลงในคอลัมน์ "สาระดีมีรอบโลก" ลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายหนึ่งของ จ. ราชบุรี ซึ่งเป็นการเขียนให้ฟรี (วิทยาทาน) ไม่มีค่าตอบแทนใดๆทั้งสิ้น
ผู้เขียนเห็นว่ามีประโยชน์ต่อผู้อื่นอีกมากมาย จึงนำมาลงในบล็อคส่วนตัวนี้ หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านไม่มากก็น้อยค่ะ.





Create Date : 10 มิถุนายน 2553
Last Update : 10 มิถุนายน 2553 18:43:01 น.
Counter : 394 Pageviews.

0 comment

radakorn
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ

เจ้าของบล็อคนี้ชอบอ่านหนังสือทุกแนว จึงทำให้เขียนหนังสือและอีบุ๊กได้หลายแนวไปด้วย
งานเขียนในเวบนี้ เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียนได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ห้ามคัดลอกดัดแปลง เผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นอาจมีความผิด ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537

เพื่อนๆ สามารถเข้าชมใน Facebook ได้ค่ะ