Group Blog
 
All blogs
 
Unubore Deka ตำรวจบ้า.. รักอนาถกับสาวอาชญากร ..."If you marry me, I won't arrest you."



Title : Unubore Deka / Conceited Detective
Tagline (romaji): Anata o Boku to Kekkonsuru no Kei ni Shosu.
Tagline (English): I sentence you to marry me.
Genre: Suspense love comedy Episodes: 11
Broadcast network: TBS 2010-Jul-09 to 2010-Sep-17 Friday 22:00
Screenwriter: Kudo Kankuro Producer: Isoyama Aki
Director: Kudo Kankuro, Yoshida Ken, Doi Nobuhiro, Kaneko Fuminori


Theme song: NaNaNa (Taiyo nante Iranei) byTOKIO



Insert song: Ichiban Kirei na Watashi o by Nakashima Mika



MIKA NAKASHIMA - ichiban kirei na watashi wo - ดูคลิปทั้งหมด คลิกที่นี่


การจับคู่กันของ นางาเสะ โทโมยะ และ นากาชิม่า มิกะ ... ทั้งที! ไม่ดู ไม่ได้แล้ว

เป็นไงมาไง ไม่คิดว่าจะมาเจอกันได้นะคะสองคนนี้ แต่เมื่อเขาและเธอเจอกันแล้ว ถึงชื่อเรื่องจะมีคำว่า Detective ที่ไม่ค่อยจะอยู่ในตัวเลือกแรกๆ สักเท่าไรในช่วงนี้ หรือแม้บทบาทของโทโมยะที่เคยรับชมผ่านมาค่อนข้างจะเริ่มเป็นความจำเจ ไม่มีอะไรน่าสนจสักเท่าไร แต่โทโมยะได้คู่กับมิกะ มันน่าดึงดูดใจก็ตรงนี้แหละ

นากาชิม่า มิกะ ที่เคยโผล่หน้าวับๆ แวมๆ ในซีรีส์เรื่อง Ryusei no Kizuna (สายสัมพันธ์แห่งดาวตก) แล้วเกิดคำถามขึ้นในใจทันที ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร? เพราะติดอกติดใจใบหน้าเก๋ๆ ของเธอ ยิ่งได้รู้ว่าเธอคือนักร้องผู้ขับขานบทเพลงที่ติดอกติดใจนักหนา ถึงทุกวันนี้ก็ยังอยู่ใน Play list ที่เปิดฟังอยู่ทุกๆ วัน กับเพลง ORION (เพลงประกอบซีรีส์ Ryusei no Kizuna) ยิ่งรู้สึกชอบผู้หญิงคนนี้มาก จนต้องตามไปดูหน้าเก๋ๆ ของเธอต่อในภาพยนตร์เรื่อง Na Na ซึ่งอาการแพ้สาวร็อคก็กำเริบเช่นเดิม มิกะกับคาแร็คเตอร์สาวพังก์ร็อคสุดเท่ที่เย็นชา โอ้ ...ผู้หญิงคนนี้ ใบหน้าและดวงตาของเธอได้ใจมาก

ใช่แล้วล่ะค่ะ นอกจากจะชอบใบหน้าของเธอมากแล้ว สิ่งที่ชอบมากที่สุดอีกอย่างก็คือ ดวงตาคมที่ดูมืดๆ คล้ายกับมีความลึกลับในแบบของเธอ



เสนห่ของของดวงตาที่มองเมื่อไหร่ จะเหมือนเห็นดวงตาโดดเด่นขึ้นมาก่อนใบหน้า ยิ่งถ้าเธอเขียนขอบตาดำๆ หนาๆ โอ้..ตาสวย สุโค่ย นักแสดงอีกคนนึงที่เคยเขียนถึงลักษณะนี้ (คือเห็นดวงตาโดดเด้งออกมาก่อนใบหน้า) คือ คาเมนะชิ คาสึยะ (คาเมะ)

เอาล่ะ เลิกเพ้อถึงมิกะ และมาเข้าเรื่อง Unobore Deka กันสักที ซึ่งต้องขอย้ำกันอีกครั้ง เพราะชอบโทโมยะ เพราะชอบมิกะ และเห็นว่าเป็นการจับคู่พระเอกนางเอกที่เหมาะสมกัน ยิ่งโทโมยะตัวสูงใหญ่และมิกะนั้นตัวเล็กๆ บางๆ คู่กันแล้วดูน่ารักจริงจัง เมื่อชอบพระเอกนางเอกเป็นเรื่องหลัก ความสำคัญของพล็อตเรื่องจะกลายเป็นรองทันที

ขอคัดสำเนา จากบทเล่าที่เกริ่นนำแต่ละตอนโดยเสียงเล่าของ คุณพ่อโยโซะ (Tsukikage Yozo) พ่อของ อุนุโบเระ ที่แสดงโดย ลุงนิชิดะ โตชิยูกิ (Tiger & Dragon, Jikou Keisatsu) อดีตนายตำรวจที่หันมาเอาดีด้านการเขียนนิยาย และนิยายที่เขาเขียนก็ไม่ได้หากินไกลที่ไหน ก็เขียนเรื่องแนวสืบสวนสอบสวนแต่ละคดีที่มีรักรันทดของลูกชายเป็นจุดจบอันน่าอนาถนั่นเอง



เขาเป็นตำรวจที่สถานีตำรวจเซตะงายะโดริ
มีชื่อเล่นว่า อุนุโบเระ

ธรรมชาติของเขาเป็นคนที่โดนจูงใจไปหาความรักได้ง่าย
และด้วยคุณสมบัตินี้ ทำให้เขาสามารถแก้ไขคดียากๆ ได้โดยบังเอิญ
แต่ทว่า สิ่งที่เขากำลังรอคอยอยู่ก็คือ ........'หัวใจของเธอ'




ตามดิกชันนารี Koujien
'อุนุโบเระ' หมายถึง หลงตัวเองและอวดดี

ฮีโร่ของเรื่องนี้ มั่นใจในเสน่ห์แบบผู้ชายของตัวเองมากเกินไป
แต่เขาไม่ได้ระลึกถึงความสามารถที่แท้จริงของเขาในฐานะ 'ตำรวจ'
ด้วยเหตุนี้ เขาถึงมีชีวิตชายโสดที่น่าเศร้า ภายใต้ชื่อของ 'อุนุโบเระ'




เขาคือตำรวจชั้นยอดที่มีความสามารถเป็นเลิศ
แต่กลับไม่สามารถหายจากอาการอกหักได้
เขาตกหลุมรักผู้หญิงคนแล้วคนเล่า
แม้ว่าพวกเธอจะแตกต่างกัน ทั้งอาชีพ อายุ บุคลิกภาพ
แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเธอมีเหมือนกันก็คือ
พวกเธอเป็น 'อาชญากร'




หัวใจของเขายังคงปวดร้าวต่อไป
ที่ต้องเลือกระหว่าง ความรักและหน้าที่

อ๊ะ .. วันนี้ก็เช่นกัน ความรู้สึกของเขาไม่ได้รับการยอมรับ
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ?

เพราะว่าเขาคือ 'อุนุโบเระซัง'




ทั้งสองคนนี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นคู่รักนิรันดร์
แต่รักหวานได้เดือนเดียว

เพียงข้ามคืน เขาก็ถูกเธอทิ้งอย่างไร้เยื่อใย
ขณะที่ สาวเจ้าพบรักใหม่และได้แต่งงาน
สามีเธอ เซย์กิ เป็นตำรวจ สน.เดียวกัน
ส่วนคู่หูของสามีเธอ ก็คือ ตาเนี่ย! (อุนุโบเระ)




ผลตอบแทนในการพยายามจัดการสังคมอันยุ่งเหยิง
ที่ตำรวจคนนี้ต้องการ มีเพียงอย่างเดียว ...'ความรัก'

ชื่อของเขาคือ อุนุโบเระ
คืนนี้ อาจเป็นอีกครั้ง ... ที่น้ำตาจะหลั่งทั่วโตเกียว




หนึ่งเดียวผู้ทนทุกข์ กับความพ่ายแพ้ต่อรักก็คือลูกผม
'เจ้าอุนุโบเระ' สถิติแห่งรัก ชนะ 0 แพ้ 6
แพ้แบบหมดรูป

คนเดียวที่เข้าสเป็คลูกผมตอนนี้ อาจเป็นผู้หญิงคนนี้




นักล่าสาวงามที่หาไม่ได้แล้วในศตวรรษนี้
(ผมไม่ใช่นักล่าสาวงามนะ!)

ขออภัย ผู้ต้องคำสาปทำนายหารัก
อุนุโบเระ ตามจีบสาวคนเดียวกับพ่อตัวเอง
ตอนนี้เขาจะต้องเข้าพิธีดูตัว
ผู้ชายคนนี้นี่ ..........................................




แม้คู่ดูตัวของเขาก็ยังกลายเป็นคนร้าย
เขาช่างเป็นคนโชคร้ายจริงๆ
ลูกชายผมเอง 'อุนุโบเระ'

ความรักของเขาถูกทิ้งขว้างตั้งแต่ต้นจนจบ
ด้วยความพยายามของนักเขียนหน้าใหม่
ผมเอง นำเรื่องเขามาเขียน

น่าแปลกที่นิยายเรื่องนี้
ถูกนำมาเป็นละครทีวี
ออกอากาศขณะเวลา พักดื่มชา
คือนนี้ก็ได้เวลาละคร
ขอเชิญคุณชมละคร
'ตำรวจจอมเพี้ยน'




ไม่อยากจะเชื่อเลย
เนื่องจากเป็นตอนสุดท้ายแล้ว
คนขอให้บรรยายเร็วๆ ... ขอเถอะ!
คนแก่ก็มีจังหวะของตัวเองนะ

พร้อมเริ่มหรือยัง

ผลตอบแทนในการพยายามจัดการสังคมอันยุ่งเหยิง
ผู้ชายสองคนที่ร่วมปล้นธนาคาร
ได้ถูกปล่อยตัวจากคุกแล้ว
...................




นั่นแหละค่ะ คือ อุนุโบเระ นายตำรวจดวงชะตาอาภัพรัก ที่จำเพาะเจาะจงต้องไปตกหลุมรักสาวที่สุดท้ายก็กลายเป็นอาชญากรซะทุกคนแบบไม่ต้องมีลุ้นให้เมื่อยตุ้ม






บาร์ I am I เป็นสถานที่ที่อุนุโบเระ (Nagase Tomoya) ค้นพบและใช้เป็นที่สุมหัวบอกเล่าระบาย ให้หายอึดอัดคับข้องใจใน 'รัก' ตั้งแต่ระยะแรกพบสบตา ระยะก้าวหน้าที่มักหลงคิดไปเองว่าสาวเจ้าเธอมีใจให้รักตอบ ระยะระแวงสงสัย 'เธอ' เกี่ยวพันโยงใยกับคดีที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของตนซึ่งกำลังสืบสวนอยู่หรือเปล่า และระยะสุดท้ายเมื่อต้องการรักโดยปราศจากเงื่อนไข ไม่ว่ายังไงต้องขอแต่งงานให้ได้แม้ว่าเธอ เธอ เธอ และเธอ ฯลฯ จะกลายเป็นอาชญากรในแต่ละตอนจบอย่างอนาถ ต้องเยียวยาปลอบใจกันไป และตกสู่ห้วงรักหลุมใหม่ในตอนหน้า

สุมหัวกับใครบ้าง?

พวกหนุ่มๆ ที่ตั้งต้นเป็นกลุ่มอุนุโบเระ (หลงตัวเองและอวดดี) มีสมาชิกด้วยกัน 5 คน



อุนุโบเระ (Nagase Tomoya) นายตำรวจที่อกหักรักคุด 'ตลอดเวลา' นับจากที่ถูกสาวสวยนาม 'ริเอะ'(Nakashima Mika) ทอดทิ้งอย่างไม่ไยดี เธอแค่จากไปง่ายๆ ด้วยการหายไป ไม่มีร่ำลา และเมื่อปรากฏตัวอีกครั้ง เธอได้แต่งงานอยู่กินกับนายตำรวจ 'เซย์กิ' (Arakawa Yoshiyoshi) ที่เพิ่งย้ายมาเป็นคู่หูนักสืบของอุนุโบเระ รันทดอะไรกันขนาดนี้ ตอนอยู่กับเขาเธอปล่อยผมยาวทำหัวสีแดง แต่งหน้าจัด ตาดำ ปากแดงแจ๋ สวมใส่เสื้อผ้าแนวเซ็กส์ซี่ แล้วนี่อะไร เธอทิ้งเขากับอพาร์ตเมนท์สุดหรูที่ซื้อมาหวังจะได้ใช้ชีวิตด้วยกัน ไปแต่งงานกับนายตำรวจหัวเกลี้ยง หน้ากลม ตัวสั้น อยู่กันในห้องเช่าเล็กๆ เธอตัดผมสั้น ย้อมผมสีดำ ไม่แต่งหน้าหนาแต่ว่ากลายเป็นหน้าสวยใสธรรมชาติเหมือนเด็ก เสื้อผ้าเรียบร้อย ลายดอกสีหวาน สวมผ้ากั้นเปื้อนขลิบระบาย ทำอาหารให้สามี มีข้าวกล่องติดมือมากินที่สถานีตำรวจทุกวัน



เมื่ออดีตคนรักเก่า กลายเป็นศรีภรรยาแสนดีของเพื่อนตำรวจคู่หูคนใหม่ ชีวิตมันทำไมต้องชีช้ำกันขนาดเน้...

ที่น่าอนาถยิ่งกว่าสาวเจ้าไปมีชีวิตครอบครัวที่ท่าทางจะไปด้วยดี คือตั้งแต่ถูกริเอะทิ้ง อุนุโบเระ ก็เกิดมีอาการภูมิแพ้อย่างหนึ่งนั่นคือ แพ้สาวอาชญากร เป็นต้องไปตกหลุมรักสาวที่สุดท้ายกลายเป็นคนร้ายทุกคน จนใจต้องยื่นข้อเสนอจะเลือกใบทะเบียนสมรสที่รอการลงชื่อ หรือจะเลือกหมายจับ หากไม้หนึ่งไม่สำเร็จ ยังมีไม้สอง จะเลือกสวมแหวน หรือจะเลือกใส่กุญแจมือ ส่วนผล ก็ไม่ต้องคาดเดาเช่นกัน บอกอยู่แล้วไง 'รักอนาถ กับสาวอาชญากร'



ฮอนโจ ซาดาเมะ ( Ikuta Toma) หนุ่มไร้บ้านผู้อาศัยร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่เป็นที่ซุกหัวนอน มีความฝันใฝ่อยากเป็นดารา แม้หน้าตาไม่ให้แต่ใจรักซะอย่าง ใครจะทำไม ที่บอกว่าหน้าตาไม่ให้ไม่ใช่ไม่หล่อ หล่อน่ะหล่อแต่แอคติ้งบนใบหน้ามันเยอะไป ใครเห็นหน้าเมื่อไหร่ เป็นต้องรู้สึกรำคาญ แล้วอย่า ...อย่าให้เปิดปากพูด พูดเมื่อไหร่เป็นได้แสดงความอ่อนด้อยทางปัญญาออกมาชัด แต่แล้วผู้กำกับเกย์ก็ให้โอกาสแก่ด้วยการหยิบยื่นบทบาทให้ ( หลังจากที่ซาดาเมะเล่นแต่บทเป็นศพคนตาย) เมื่อนิยายที่พ่อของอุนุโบเระเขียนจากชีวิตรักอนาถของลูกชายจนกลายเป็นหนังสือขายดีและถูกนำมาสร้างเป็นละครทีวี ซาดาเมะจึงฟลุ้คได้เล่นเป็นตัวละครนำในบทของนายตำรวจอุนุโบเระ สมาชิกร่วมก๊วนหนุ่มโสด ที่บาร์ I am I นั่นเอง



มัตสึโอกะ เซย์ชิโร่ (Kaname Jun) หนุ่มเชฟร้านขนมหวาน ที่ใช้การทำขนมหวานเป็นสะพานในการหลีสาว เขามักจะหิ้วกล่องขนมหวานมาฝากเพื่อนสมาชิกอุนุโบเระที่บาร์ I am I เสมอ ถึงจะหล่อ หน้าตาดี มีฝีมือการทำขนมเป็นเลิศ แต่ก็นั่นแหละ เซย์ชิโร่ยังเป็นหนุ่มโสด ไม่มีแฟนดีๆ เป็นตัวเป็นตนสักคน



อานาอิ เคอิจิ (Yahagi Ken) หนุ่มช่างภาพ โสดเช่นกัน แถมยังเอ๋อๆ ไม่หล่ออีกต่างหาก การล่าสาวสวย จึงน่าจะลำบากกว่าใครอื่น



คุริฮาชิ มาโกโตะ (Bando Mitsugoro) อาจารย์ที่ตั้งตนเป็นปรมาจารย์ด้านความรัก เขียนหนังสือ และทำรายการทีวี แก่วัยแต่หัวใจเด็กหนุ่ม เป็นคนที่หนุ่มๆ ในก๊วนจะชอบขอคำปรึกษาหารือด้านความรัก ซึ่งการวิเคราะห์ก็ไม่ได้เข้าคุ้งเข้าแควสักเท่าไร



โกโร่ (Shoji Yusuke) บาร์เทนเดอร์ประจำร้าน ที่มีวิจารณญาณด้านผู้หญิงเป็นเลิศ จึงมักจะวิเคราะห์สาวๆ ที่หนุ่มๆ บอกเล่าได้ถูกต้องบ่อยครั้ง

เรโกะ มาม่า ( Morishita Aiko ) ไม่รู้เธอเป็นใคร เข้าใจว่าเป็นเจ้าของบาร์ I am I เพราะเธอจะยืนอยู่ด้านในของเคาท์เตอร์บาร์ เช่นเดียวกับโกโร เพื่อสนทนากับลูกค้า และรับจดออเดอร์ด้วย แต่การสนทนาของเธอจะไม่ใช่การพูดคุย เพราะเธอจะคุยด้วยปากกาในมือที่เขียนลงไปบนแผ่นกระดาษแทน ตามท้องเรื่องบอกว่าเธอเจ็บคอ จึงใช้เขียนแทนเปิดปาก ซึ่งว่าก็ว่าเถอะนะ มุกนี้ของมาม่าไม่เห็นมันจะฮาตรงไหน

ซีรีส์เรื่องนี้ ต้องขอใช้คำว่าใช้นักแสดงดีดี 'คับคั่ง' แม้มีโทโมยะแล้ว ยังลงทุนถึงขั้นใช้ อิคุตะ โทมะ , คานาเมะ จุน

รวมถึงการใช้นักแสดงรับเชิญในแต่ละตอนดคี ตัวอย่างเช่น สาวๆ ระดับดีกรีนางเอก



คาโต้ ไอ (Kato Ai / IWGP, Majo Saiban, Kami no Shizuku)
อาโออิ ยู (Aoi Yu / Osen , Tiger & Dragon)
โทดะ เอริกะ (Toda Erika / Code Blue, Ryusei no Kizuna,Liar Game)
โคยูกิ (Koyuki / Engine, Loundry, Kimi Wa Pet)



ส่วนรุ่นใหญ่ที่รู้จักแบบคุ้นหน้าคุ้นตา

ป้าฮิโรโกะ (Yakushimaru Hiroko/ Zenkai Girl ,Tiger & Dragon, Kisarazu Cat's Eye)
ป้าเคียวโกะ (Koizumi Kyoko / Yasashii Jikan , Kisarazu Cat's Eye)
ป้าคานาโกะ (Higuchi Kanako / Atsu-Hime (ท่านแม่ของท่านหญิงอัตสึ))
อิชิดะ ยูริโกะ (Ishida Yuriko / Pride , Strawberry on the Shortcake)

ใช้นักแสดงขนาดนี้ แต่เรตติ้งก็ยังตกต่ำอย่างน่าใจหาย ดูแล้วมันมีจุดหนึ่งที่ผู้เขียนต้องทำการตรวจสอบ Wikipedia หลังดูจบทันที

ใช่หรือไม่ ?

โอ ... แม่เจ้า ทำนายแม่นขนาด!

มันใช่เลย



Kudo Kankuro นักแสดง ผู้เขียนบท และผู้กำกับคนนี้ คือคนเดียวกันกับผู้เขียนบท Kisarazu Cat's Eye / Tiger & Dragon / Ikebukuro West Gate Park (IWGP) ส่วนอีกเรื่องที่เคยดูของผู้เขียนบทท่านนี้คือ Ryusei no Kizuna แต่สำหรับเรื่องหลังนี้ นึกความความคล้ายคลึงในสไตล์การดำเนินเรื่องไม่ออกแล้วค่ะ เรื่องที่นึกถึงอย่างจริงจังขณะดูคือ Kisarazu Cat's Eye กับ Tiger Dragon ส่วน IWGP ที่นึกถึงไม่ใช่เพราะการดำเนินเรื่องที่สะดุดใจ แต่เป็นเพราะมีโทโมยะ กับแขกรับเชิญ คาโต้ ไอ ชวนให้นึกไปถึง และก็เริ่มรู้สึกว่าการสร้างบุคลิกบ้าบอของตัวละคร และลักษณะการพูดคุย ความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดูวุ่นวายก็มีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง

ไม่ได้ตั้งใจจะเป็นแฟนละครของคุณคุโดะเขาหรอกนะคะ (อ่านว่า คุโดะ หรือคุโด้ ก็ไม่รู้หรอกนะ) แต่บังเอิญได้ดูหลายเรื่องจนเหมือนเป็น นี่ถ้าบอกว่าเป็นผู้เขียนบทคนเดียวกันกับเรื่อง Jikou Keisatsu ด้วย รับรองเชื่อสนิท แต่เช็คดูแล้ว Jikou ไม่ใช่ผลงานของคุณคุโดะเค้าค่ะ แต่มันก็เป็นสไตล์การดำเนินเรื่องบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน ถ้าไม่นับว่ามีลุงนิชิดะ โตชิยูกิ ที่แสดงเป็นพ่อของอุนุโบเระ ร่วมแสดงใน Jikou ด้วย



นี่คือคำชมเชยที่เอ่ยไว้เมื่อครั้งรีวิว IWGP

สำหรับซีรีย์เรื่องนี้ก็ยังคงชอบมากอีกเช่นเคย สนุกและมันส์มาก บางช่วงก็น่ากลัว ดูแล้วให้ความรู้สึกเหมือนการ์ตูนแนวเด็กผู้ชายที่เคยอ่านสมัยเด็กๆ เนื้อเรื่องชวนติดตาม แต่สำหรับคนที่ไม่นิยมเรื่องวัยรุ่นยกพวกตีกันก็อาจจะไม่ชอบก็ได้ แต่เราว่าสนุกดีนะ ชอบการเขียนบทของซีรีย์ญี่ปุ่น อย่างที่ชอบพูดอยู่เสมอคือ ซีรีย์แต่ละเรื่องจะมีความเป็นตัวของตัวเอง

นี่คือคำดีดีที่เอ่ยถึง Kisarazu Cat's eye

เป็นอีกหนึ่งซีรีย์ติสท์แตกแหวกแนวของผู้เขียนบทที่มีชื่อว่า คุโดะ คังกุโร่ (Kudo Kankuro) ซึ่งนานๆ ครั้งๆ ชื่อของผู้เขียนบทถึงจะติดอยู่ในความจดจำนำมากล่าวนิยมชมกันได้เต็มปากเต็มชื่อสักที ก็เพราะติดใจในรูปแบบการนำเสนอที่แปลกที่ไม่เหมือนใคร แม้บางคนอาจรู้สึกว่ามันน่าเบื่อแต่ส่วนตัวแล้วชอบของแปลก



ไม่ได้เขียนอะไรไว้มากนักกับเรื่อง Ryusei no Kizuna (ที่คาดว่าจะเป็นดราม่าหนักแต่ผิดคาด) ถึงจะจำไม่ได้ว่ามี 'จังหวะการเล่า' อย่างที่คุณ Chanpanakrit คอมเมนท์บอก ก็ขอยกมาสักหน่อย

มันทั้งสนุก ตื่นเต้น และแทรกมุขตลกๆ เพียบเลยค่ะ โดยเฉพาะตอนที่พี่น้องสามคนสุมหัวกันหลอกต้มคนอื่น จะฮาเป็นพิเศษ

ไม่ได้เขียนอะไรเลยถึง Tiger & Dragon

แต่ก็จำได้ว่าเป็นซีรีย์มึนงง ที่ชอบมากกับการเล่าราคุโกะ การผสมผสานที่ลงตัวไปด้วยกันระหว่างเนื้อเรื่องละคร กับเรื่องเล่าราคุโกะที่สุดประหลาด

แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับ Unubore Deka กันละคะ ทำไมมันดูไม่โอเคเท่า เมื่อเทียบกับซีรีส์ญาติพี่น้องที่เป็นผลงานของคุโดะเหล่านี้ การพยายามหาคำตอบ ต้องเทียบกับเรื่องที่คล้ายคลึงกันมากที่สุด เริ่มตั้งแต่ดีกรีความเป็นซีรีส์(จิต)ป่วย นั่นก็คือ Kisarazu Cat's eye



สมาชิกแคทส์ กับ อุนุโบเระ มีหนุ่มๆ เพี้ยนๆ 5 คนเหมือนกัน
สมาชิกแคทส์ กับ อุนุโบเระ สุมหัวที่บาร์เหมือนกัน มีประโยคพูดและท่าประจำก๊วนเหมือนกัน พวกอุนุโบเระจะชูมือสะบัดแล้วร้อง "เฮ่ เฮ่ เฮ่" ของก๊วนแคทส์จำคำพูดเต็มๆ ไม่ได้ แต่ท่าคือล้อมวงกอดคอกัน แล้วร้องอะไรสักอย่างที่มีคำว่าแคทส์ด้วย

ภารกิจหลักของเหล่าแคทส์ คือ การขโมย ที่ห้าหนุ่มซ่า บ้า และเพี้ยน จงใจก่อเป็นวีกรรมในแต่ละตอนเพื่อเป็นความทรงจำส่งท้ายชีวิตของบุซซัง เพื่อนที่กำลังป่วยเป็นมะเร็งและจะมีชีวิตต่อไปไม่นาน ส่วนภารกิจหลักของหนุ่มอุนุโบเระคือการไขคดีของสาวๆ อาชญากร แต่คดีมันก็ไม่เด่นนักหรอกคะ เพราะไปทำให้เด่นเป็นหลักอยู่ที่การขอแต่งงานของอุนุโบเระ แม้หนุ่มๆ อุนุโบเระอีก 4 คน จะมีเอี่ยวกับสาวๆ แต่ละคดีบ้าง แต่ก็ไม่มากนักและไม่ได้เป็นตัวหลักของตอนนั้นๆ แต่อย่างใด เพราะยังไงโทโมยะก็ตกหลุมรักและเป็นคนฉกซีนปิดฉากท้ายด้วยวิธีการเดิมๆ อยู่ดี



การสมาคมคบค้าของหนุ่มๆ ทั้งห้าที่บาร์ I am I ดูจะมีมากจนแย่งซีนการไขคดีในแต่ละตอนที่น่าจะทำอะไรๆ ให้น่าสนใจได้มากกว่า การเอาฮาเรื่องการขอแต่งงานของอุนุโบเระเป็นที่ตั้ง แล้วจบลงด้วยการรับประทานแห้วให้บ่อน้ำตาแตก ซบบ่าซบไหล่ใครสักคนที่อยู่ใกล้แถวนั้น (ส่วนใหญ่จะเป็น คุณพ่อโยโซะที่มาติดตามการทำงานในฉากสำคัญของลูกชายเพื่อเอาไปเขียนนิยาย) แรกๆ มันก็ขำดี แต่หลังๆ มันชักแป้ก! ก็เล่นไม่เปลี่ยนมุกเลยทั้งเรื่อง

ลองนึกเปรียบกับ Tiger Dragon แม้ว่าจะจบลงด้วยการเล่าราคุโกะทุกครั้ง แต่อย่างน้อยเนื้อหาของเรื่องเล่าราคุโกะมันก็ไม่เหมือนกัน เนื้อเรื่องมันยังดำเนินไปเรื่อยๆ ส่วนอุนุโบเระการมีคดีให้แก้ทุกตอน มันเป็นรูปแบบที่ซ้ำอยู่แล้วแม้ว่าคดีจะต่างกัน การลงท้ายด้วยการเสนอทางเลือกให้อาชญากรสาวอย่างเดียวกันทั้งหมดนั้น มันเลยดูเป็นความไม่จริงจังและไม่จริงใจด้วย ซึ่งถ้าไปเปรียบกับเรื่องของชาวแคทส์ล่ะก็ มันอาจจะดูไม่จริงจังเหมือนกัน แต่กลับสัมผัสได้ถึงความจริงใจ ทั้งในความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนที่บางคนอาจเบื่อ ไม่อยากจะทำเรื่องบ้าๆ อีก แต่ก็ไม่กล้าพูด ถ้าหากเลิกไร้สาระหันไปเอาจริงเอาจังกับชีวิตของตัวเอง บุซซัง เพื่อนที่กำลังจะตายก็คงจะเหงา ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการทอดทิ้งกัน แล้ววิธีการที่พวกแคทส์นำเงินที่ได้จากการขโมยมาใช้แก้ไขบางอย่างที่มีสาระประโยชน์ในแต่ละตอน มันก็ดูเป็นความจริงใจอยู่ลึกๆ เหมือนกัน

เรื่องของแคทส์ ใช้แขกรับเชิญมาร่วมสร้างสีสันด้วยเหมือนกัน เช่นเดียวกับอุนุโบเระ (ที่มากมายซะเหลือเกิน แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องเรตติ้งอย่างน่าแปลก)



เรื่องของแคทส์ มีการใช้การเต้นเป็นสิ่งหนึ่งในการสร้างความฮา แต่ความฮาของการเต้นยตไซมตไซ (ถ้าจำไม่ผิด) มันถือเป็นวัฒนธรรมเก่าแก่ของท้องถิ่นคิซาราสึ เป็นการฮาอย่างน่ารัก (ไม่เชื่อลองหามาดู คุณอาจจะหลงรักยตไซมตไซ) แต่การเต้นของก๊วนอุนุโบเระมันไม่ได้ฮาอะไรนัก แม้ว่าการที่โทโมยะเต้น แรกๆ มันก็ฮาดีที่ผู้ชายตัวสูงๆ หุ่นยากูซ่าหน้าหล่ออย่างนั้นมาเต้นโยกย้ายส่ายสะโพก แต่พอตอนหลังๆ ก็ชักหนักข้อ ทั้งท่ากางขาโก่ง บิดก้นสะบัด มันดูน่าเกลียดเกินกว่าจะดูน่ารัก ยิ่งตอนเต้นลูบเป้าแบบไมเคิล แจ็คสันด้วย ฮือ ฮือ โทโมยะจัง เค้ารับม่ายด้ายยยย

ในแคทส์ บทสนทนาพูดคุยเล่นมุกระหว่างเพื่อนที่พูดถึงพวกผู้หญิง จำรายละเอียดไม่ได้แล้วค่ะว่ามีอะไรแบบโต้งๆ เหมือนในอุนุโบเระหรือเปล่า รู้สึกว่าในอุนุโบเระมันออกจะโจ่งแจ้งน่ะค่ะ อย่างที่พูดออกมาเลยชัดเจน "นมใหญ่" "นมโต" ไม่มีใช้คำอื่นมิดเม้นเป็นคำแทน ซึ่งก็อาจจะเป็นที่ซับไทยเองก็ไม่รู้นะคะ ร่องอกร่องใจก็ถ่ายไปเลยดูมๆ (จำไม่ได้ว่า Saru Lock ก็ประมาณนี้หรือเปล่านะ) บางมุกก็ออกจะแรง อย่างตอนที่ป้าคานาโกะเป็นแขกรับเชิญ ฉากบนเตียงที่พยายามทำให้ฮา แต่ไม่ยักฮา ความจริงแล้วไม่ค่อยเห็นฉากอย่างนี้ในซีรีส์ญี่ปุ่นนักด้วยล่ะมั้ง อิอิ เลยรู้สึกไม่คุ้นเคย เพราะป้าแกแก่แล้วด้วย โทโมยะไปกุ๊กกิ๊กกับแกด้วยท่าทางอย่างนั้น ....ก็เลย อี๊ .....



ยกคำกล่าวถึง Kisarazu cat's eye มาอีกสักท่อน

.....ดำเนินเรื่องแบบย้อนไปย้อนมา คนละอย่างกับการวกไปวนมานะคะ เพราะไม่ได้วกวนในเนื้อหาแต่ย้อนกลับไปและดึงกลับมาไปในการตัดต่อภาพและเชื่อมต่อเหตุการณ์ เป็นช่วง "ต่อเวลา" (ที่หายไป) ที่ทำได้อย่างฮาๆ แบบแยบคาย รับรองว่า ..ไม่มีทางเดาทางถูก และแม้จะคุ้นเคยกับช่วงต่อเวลาในทุกๆ ตอนที่ว่านั้นแล้วก็ยังไม่มีเบื่อราวกับว่านั่นเป็นช่วงเวลาที่รอคอยว่าเกิดอะไรขึ้นในอีกด้านหนึ่งระหว่างนั้น (อธิบายยากซะจริง) บางครั้งเรื่องก็ดำเนินไปจนถึงสุดตอนของมันแล้ว เพลินจนลืมไปว่ายังมีช่วงต่อเวลาที่จะย้อนสิ่งเล็กสิ่งน้อยที่หายไปแต่มีผลกระทบไม่น้อยต่อความเป็นไปที่ดำเนินมา Kisarazu Cat's eye สนุกตรงช่วงต่อเวลานี้อย่างหนึ่ง ส่วนอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญจะเป็นสิ่งอื่นใดไปไม่ได้เลย นอกจาก "ตัวละคร" ซึ่งก็ไม่ได้มีคนไหนหล่อลากไส้ลากดิน ก็หน้าตาธรรมดาพื้นๆ นักแสดงญี่ปุ่นนี่แหละ แต่ว่าชอบทุกคน ....

หากเที่ยบกับ Unubore Deka ถือว่าคล้ายคลึงกันมาก ช่วง 'ต่อเวลา' ที่หายไปของ Kisarazu cat's eye ก็คล้ายๆ กับ ช่วงไขคดีของอาชญากรแต่ละรายนั่นแหละ ที่จะย้อนไปถึงว่าอาชญากรก่ออาชญากรรมอย่างไร แต่วิธีย้อนของแคทส์มีเสน่ห์น่าสนใจ เพราะจะคาดไม่ถึงว่ามันเพี้ยนมาเป็นอย่างนี้ได้เพระเหตุเพี้ยนใด แล้วมันก็ฮาค่ะ แต่ในอุนุโบเระ เรารู้อยู่แล้วว่าใครทำ และวิธีที่ก็กระทำก็จะสื่อออกมาบ้างแล้วระหว่างนั้นจึงไม่ต้องคาดเดานัก เหลือแค่เหตุจูงใจของการกระทำที่ต้องรอดูเท่านั้น คดีที่ไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถืออยู่แล้ว ยิ่งเบาโหวงไปกันใหญ่ เช่น ฆ่าเพื่อนลูกเพราะอิจฉาลูกสนิทกับเพื่อน เผาบ้านคนวอดทีละหลังๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากอาจารย์เก่าผู้เขียนหนังสือที่คนในบ้านหลังนั้นๆ เลยกำหนดการส่งคืน คนรับใช้ฆ่านายจ้างที่ลักลอบได้เสียกันเพราะคำขอร้องของคุณนายที่เป็นภรรยาให้สามีได้ตายด้วยน้ำมือคนที่รัก .. อืม .. ไม่เห็นจะค่อยเข้าใจเหตุและผลของมันเลยค่ะ

การขโมยของเหล่าแคทส์เพื่อก่อวีกรรมไว้อาลัยแด่บุซซังนั้น ก็ไม่ได้เป็นเหตุเป็นผลที่สมควรเหมือนกัน แต่อย่างน้อยก็เดาไม่รู้ว่าที่บังเอิญขลุกขลักหรือสำเร็จได้เพราะมีเหตุอะไรซ่อนอยู่จนกว่าจะย้อนไปย้อนมาในรายละเอียดการกระทำของสมาชิกแคทส์แต่ละคน และตอนจบก็ไม่รู้ด้วยว่าพวกเขาจะนำเงินที่ได้มาไปทำอะไร ส่วนอุนุโบเระนั้นหลังตอนที่สามก็แน่ใจได้ว่าเขาจะเริ่มตกหลุมรักสาวคนร้ายและลงเอยด้วยการขอแต่งงานทุกครั้ง



ถามว่า ทำไมต้องเปรียบเทียบกับ Kisarazu cat's eye ซะมากมาย?

ก็มันเป็นสไตล์ที่เหมือนกันซะมากมายนี่คะ แต่เป็นความเหมือนที่มีความต่างอย่างที่บอกกล่าว

ต่างอีกหนึ่งประการที่นึกออก คือ อารมณ์ลึกๆ ของตัวละคร

ก๊วนอุนุโบเระ พวกเขาเป็นคนรู้จักผ่านมาพบกันที่บาร์ I am I จนกลายเป็นความคุ้นชินสนิทและคบหากัน ทุกคนเอาใจช่วยอุนุโบเระ และมีบทบาทในคดีด้วย (บางครั้ง)

ก๊วนแคทส์ พวกเขาเป็นเพื่อนที่เกิดและเติบโตในเมืองเดียวกัน เรียนโรงเรียนเดียวกัน มีชีวิตผูกพันกันมาตลอดทั้งวัย ในความเป็นเพื่อน พวกเขาไม่ได้แค่ผ่านมาพบเพื่อพูดคุยกันหลังจากว่างเว้นในชีวิตประจำวัน แต่พวกเขาเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตด้านเฮ ที่ไม่แค่พูดคุยแต่จะลงมือทำเรื่องเฮๆ ด้วยกันเสมอ



พวกแคทส์ ทำความบ้าคล้ายกับหวังจะให้เป็นเรื่องกลบเกลื่อนความเศร้า ความเฮฮาของมันบางครั้งก็สะท้อนถึงความเหงาลึกๆ ของคนใกล้ตายอย่างบุซซัง การตายของออสซีคนบ้าประจำถิ่นคิซาราสึยังแฝงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชุมชนที่มีความเศร้าอยู่ลึกๆ กับการที่คิซาราสึจะไม่มีออสซี่เหมือนอย่างเคยเป็น แต่อุนุโบเระไม่เห็นอะไรมากไปกว่าการพยายามเข็นความฮา แม้แต่ความสัมพันธ์พ่อลูก ระหว่างอุนุโบเระกับพ่อก็ไม่มีอะไรลึกๆ เหมือนที่บุซซังกับพ่อของเขามีอยู่ภายใต้พฤติกรรมเพี้ยนของทั้งคู่

การพยายามจะเข็นแต่ความฮา ถ้าคนดูเป็นคนเส้นตื้น (อย่างผู้เขียน) มันก็ฮาใช้ได้นะ แม้เนื้อเรื่องมันจะขาดสีสัน ซ้ำซากและน่าเบื่ออย่างไม่น่าเชื่อ จนถึงกับ อยากให้ผ่านช่วงท้าย ที่โทโมยะจะสวมใส่ชุดสูทสีขาวออกมาเต้นพบปะกับสาวอาชญากรและสรุปคดี และลงท้ายด้วยการขอแต่งงาน ซึ่งจะต้องมีท่าบิดก้นเพื่อสลัดเครื่องดักฟังออกจากการรับรู้ของเพื่อนตำรวจ 'ทุกครั้ง' มันจำเจอยู่อย่างนี้ทั้งหมด ยกเว้นตอนสุดท้ายที่ยังพอมีให้ลุ้นกับมิกะบ้าง

ถ้าไม่ได้ความรั่วหลุดรุ่ยของนักแสดงแต่ละคน โดยเฉพาะคนที่ถึงขั้นหลุดโลกอย่างโทโมยะ โทมะ โยชิโยชิ และความเป็นตาแก่ที่น่ารักสุดๆ ของคุณพ่อโยโซะ (นิชิดะ โตชิยูกิ) ช่วยพยุงความเฮฮาบ้าบอเอาไว้ ให้ผู้เขียนได้มีโอกาสหัวเราะอยู่เนืองๆ (บางจังหวะก็มีปล่อยก๊ากด้วย ) ซีรีส์เรื่องนี้จะเหลืออะไรให้จดจำบ้างก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่สถาบัน prysang.bloggang ก็ยังมีรางวัลปลอบใจมอบให้เพียบเลยนะ



นางาเสะ โทโมยะ รางวัล ไ-อ้ บ้-า ดีเด่น เพราะไม่มีใครบ้าได้เท่านี้อีกแล้ว



อิคุตะ โทมะ รางวัล นักแสดงสมทบยอดเยี่ยม เพราะเล่นตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ เล่นเป็นศพตายยันพระเอกตัวเป็นๆ โลดแล่นอยู่ในความฝัน ในความทรงจำบอกเล่าอดีต ปัจจุบันที่เป็นไป และในจินตนาการอันละเมอเพ้อพก เห็นคนหน้าตาหล่อๆ อย่างโทมะต้องเล่นออกมาให้ดูเป็นหน้าโง่ๆ แล้ว รู้สึกเหนื่อยแทนพ่อประคุณเค้าจริงๆ เล้ย เผลอๆ เล่นเยอะกว่าโทโมยะอีกนะเนี่ย (หวังว่าค่าจ้างคงคุ้ม)



คานาเมะ จุน รางวัล นักแสดงสมทบยอดแย่ หน้าตาไม่ให้แล้วยังไม่มีส่วนช่วยใครในการสร้างความฮาเล้ย ไม่ได้ทำอะไรนักนอกจากออกมานั่งอยู่ที่บาร์แล้วพูดๆๆๆ ขอร้องเหอะ จุนไปเล่นบทอะไรที่มันเครียดๆ ดุๆ หน้าตาจริงจังจะดีกว่า เอาหล่อๆ มาดแมน มาเข็นทางนี้ เสียของหมด ยิ่งตอนสุดท้ายนะ หือ .. ไม่อยากจะพูด ทำไมถึงทำกับจุนอย่างนี้ได้ (ดูรูปเอาเหอะ)



นากาชิม่า มิกะ รางวัลนักร้องหญิงยอดเยี่ยม ชอบเสียงร้องเพลงของเธอจริงๆ ชอบบทเพลงของเธอ Ichiban Kirei na Watashi o อยากได้เพลงนี้มากๆ ชอบมากกว่าเพลง ORION ในเรื่อง Ryusei no Kizuna อีก กำลังพยายามหาที่โหลดอยู่ค่ะ นักร้องเวลาพูดเสียงปกติแล้วจะฟังเป็นเสียงที่มีเสน่ห์มากเลยนะคะ นักแสดงหญิงคนอื่นๆ ที่ชอบเสียงของเธอ ก็มี อายะ อุเอโตะ ( Attention please) จูริ อุเอโนะ (โนดาเมะ) แล้วก็เสียงยานๆ ของเจ๊ ชิโนฮารา เรียวโกะ ( Unfair, moon lover)

รางวัลชมเชย เพลงและดนตรีประกอบ

การให้เสียงดนตรีประกอบ ในแต่ละจังหวะความฮา การปรากฏตัว ความเศร้ารันทด (ที่ไม่ได้เศร้า) ความน่าสงสาร (ที่ไม่ได้น่าสงสาร ) หรืออะไรต่างๆ มันเหมาะเจาะลงตัวและเอื้อต่อความเป็นไปของตัวละครในขณะนั้นดีค่ะ ซึ่งซีรีย์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ดูเหมือนจะทำเรื่องของดนตรีประกอบเหล่านี้ได้ดี ซึ่งคิดว่าละครไทยของเราน่าจะพัฒนาตรงส่วนนี้จะดีมากเลยค่ะ เรื่องของการใช้ดนตรีประกอบให้มันเข้ากัน ไม่มากไป ไม่น้อยไป อย่างเช่นจังหวะตื่นเต้นบางประการเล็กน้อยก็ใช้เสียงดนตรีโอเว่อร์ประหนึ่งหนังแอคชั่นที่กำลังจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง อย่างนั้นก็มากไป มันให้ความขัดใจมากกว่าที่อารมณ์จะคล้อยตาม เรื่องนี้เรื่องโทนสีของภาพไม่สังเกตเห็นว่ามีอะไรโดดเด่น แต่นั่นก็เป็นจุดหนึ่งที่อยากให้ละครไทยของเราพัฒนาเรื่องของการใช้โทนสีที่เข้ากับอารมณ์ของละครและการตัดต่อภาพ วิธีการเล่าเรื่อง ที่ไม่ใช่แค่การใช้คนมาแสดงเรื่องราวตามลำดับเนื้อเรื่องไป หรือทำสีเทาๆ เมื่อเป็นการคิดย้อนอดีตแค่นั้น แต่ก็นั่นแหละ คงเป็นเพราะละครไทยเราไม่ค่อยมีเนื้อหาประหลาดๆ ที่จะมาใช้พลิกแพลงวิธีการเล่าเรื่องให้น่าสนใจด้วยกระมัง เอาเถอะ แม้จะบ่นๆ อยู่ตลอด แต่ก็ยังดูละครไทยอยู่เรื่อยๆ นะ อนาคตนี่ก็รอดู 'รักเกิดในตลาดสด' ที่นำกลับมารีเมกอีกครั้ง



เพลง NaNaNa (Taiyo nante Iranei) ของวง ToKio ที่ขับร้องโดยโทโมยะเองก็เป็นเพลงจังหวะสนุกๆ ที่ฟังเพลิน และอยากโหลดไว้ฟังเหมือนกันค่ะ (กำลังพยายามหาที่โหลดอยู่เช่นกัน) จะว่าไป เพิ่งเคยเห็นโทโมยะกับสมาชิกวง Tokyio ด้วยกัน และนอกจากเรื่อง My husband เพิ่งเคยเห็นโทโมยะถือไมค์ร้องเพลง ก็ตอนดู MV เพลง NaNaNa ที่อยู่ท้ายแผ่นดีวีดีนี่แหละ (อิคุตะ โทมะ เป็นพระเอก MV) ถึงโทโมยะจะแก่แล้ว แต่ความเท่ไม่เป็นสองรองใครนะเนี่ย มาดแบบนักร้องก็ยังโอเคอยู่ คนตัวสูง หน้าหล่อเข้มนี่ได้เปรียบตลอด ตอนดู Unubore Daka ก็คิดอยู่เรื่อยๆ ว่า 'ฉันอยากเห็นโทโมยะเล่นบทเป็นคนปกติจังเลย' ขอย้ำ ... 'คนปกติ' ที่เหมือนคน ไม่แหกหน้าแหกตา และแหกปากร้องเหนือพฤติกรรมทั่วไปของมนุษย์ ที่เรียกได้คำเดียวว่า "โอเว่อร์" ก็เลยนึกอยากดูเรื่องนี้ขึ้นมา Miporin no Ekubo ด้วยหวังใจว่าโทโมยะ จะเล่นเป็นคน 'ปกติ'



โทโมยะ นางาเสะ กับ เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ จับคู่นักแสดงคนโปรดได้อย่างนี้ น่าตื่นเต้นยินดีกว่า โทโมยะ นางาเสะ กับ มิกะ นากาชิม่า อีกนะคะ น่าสนใจมากๆ แต่มันไม่มีซับไทย ซับอังกฤษก็พอไหว แต่ต้องรอตอนมีใจฝักใฝ่

Unubore Deka ได้มอบความสุขพิเศษให้อย่างหนึ่งนั่นก็คือได้เห็น นากาชิม่า มิกะ แต่งหน้าสวยในชุดแต่งงานสีขาวเข้าพิธีวิวาห์กับโทโมยะ นางาเสะ ผู้ชายคนนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังในการจับคู่กับนางเอกแต่ละคนเลย (มีแต่สาวๆ น่ารัก ที่ไม่มีความรู้สึกแอนตี้)





ส่วนสองหนุ่มโทโมยะ กับ โทมะ ก็ดูหน้าตาเข้ากันได้ดีเมื่ออยู่ในละคร อย่างนี้น่าจับเล่นเป็นพี่เป็นน้องตัวกวนด้วยกันสักเรื่อง คงน่าสนใจไม่น้อยเลย



ขอบคุณ ข้อมูล :

Dramawiki (//wiki.d-addicts.com/Unubore_Deka)



Create Date : 07 ธันวาคม 2554
Last Update : 25 พฤษภาคม 2555 0:58:18 น. 9 comments
Counter : 7865 Pageviews.

 
ส่วนตัวติดภาพของโทโมยะในมาดยาคูซ่าแบบต๊องๆตลอดเลยค่ะ เรื่องนี้เห็นว่ามีเต้นท่าฮาๆด้วย น่าหามาดุจังค่ะ
ส่วนมิกะนั้นเป็นผู้หญิงที่เปลี่ยนลุคส์ไปตามเสื้อผ้า-หน้าผมจริงๆนะคะ
เรื่องนี้ดาราคับคั่งดีจริง
ดูรีวิวผ่านๆ
มีเด็กในสังกัดของเราด้วย(อีกแระ ฮี่ฮี่)
โทมะ อิคุตะ น่ะค่ะ


โดย: nobuta wo produce วันที่: 7 ธันวาคม 2554 เวลา:15:29:50 น.  

 
แก้ไขเม้นท์ข้างบนนิดนึง

น่าหามาดู
มิใช่
น่าหามาดุ

อิอิ พิมพ์รีบเกิ๊น


โดย: nobuta wo produce วันที่: 7 ธันวาคม 2554 เวลา:15:31:46 น.  

 
"รักอนาถ กับสาวอาชญากรรม"
ใครเป็นคนคิดชื่อนี้ครับ ช่างตอบโจทย์ซีรีย์ได้ดีจริงๆ
ทำให้ชื่อ "ตำรวจสุดเพี้ยนกับอาชญากรสาวสุดเลิฟ"
ที่ข้าพเจ้าตั้ง เชยตั้งตายไปเลย

แสดงว่าคิดเห็นเหมือนกันว่า ซีรีย์เรื่องนี้
มันออกจะเล่นจนเลอะเทอะเปรอะเวลา
แม้ลายเซ็นต์ของลุงคุโด้ที่เขียนบท
จะชัดเจนในวิธีการ จนโดดเด่นรู้เลยว่า
ต้องเป็นงานของเฮียแกแน่
(ตามแบบTiger Dragon และRyusei no Kizuna)
ส่วนKisarazu cat's eye ยังไม่ได้ดู เลยไม่รู้ว่าเลิศซักแค่ไหน

แต่เรือ่งก่อนๆที่ว่า สูตรมันโอเคลงตัว
แต่กับในUnubore Deka มันไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ
ทั้งๆที่พล็อกฆาตกรรมนี้ ผมว่าใช้ได้เลยนะ
ซับซ้อน และดูเค้าเป้นไปได้ แต่ซีรีย์
ก็เล่าอะไรเลอะเทอะ จนเสียส่วนที่เป็น
ซีรีย์สืบสวนไปหมด
นางาเซะ ก็บทตลกสุดเค้นจนไม่เป็นธรรมชาติไป

แต่ถ้าปลื้มมิกะเป็นการส่วนตัว เรื่องนี้่
เธอเล่นได้เป้นชิ้นเป้นอันที่สุดแล้ว
(น่าจะมีความสัมพันธืในใจกับลุงคุโด้เขา
เพราะหลายคนตามมาจากRyusei no Kizuna)


และเพลงปิดเรือ่ง Ichiban Kirei na Watashi o
ก็กลับมาในแนวแจ๊สเปียโนที่หายไปนาน
ถือเป็นการเรียกศรัทธางานเพลงได้อีกครั้ง


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 7 ธันวาคม 2554 เวลา:18:29:37 น.  

 
Theme song: NaNaNa (Taiyo nante Iranei) byTOKIO
Insert song: Ichiban Kirei na Watashi o by Nakashima Mika

กรี๊ดดด ในที่สุดก็โหลดอยู่ในครอบครองแล้วทั้งสองเพลง ดีใจโพด เพลงของมิกะ ได้กลายเป็นริงโทนใหม่แน่นอน



โดย: prysang วันที่: 7 ธันวาคม 2554 เวลา:19:02:43 น.  

 
//myvi.ru/ru/videodetail.aspx?video=48d62e76da4e4181b1d0a537389b3844&ap=0

ลิงค์ MV เพลง NaNaNa ที่โทมะเล่นเป็นพระเอก MV ค่ะ


โดย: prysang วันที่: 7 ธันวาคม 2554 เวลา:19:13:12 น.  

 
อ่านเนื้อเรื่อง เรื่องนี้แล้วเพลียใจจริงๆ
ตั้งแต่ชื่อ"อุนุโบเระ"ที่แปลว่า หลงตัวเองและอวดดีแล้ว
แถมมาเห็นสีหน้าท่าทางของโทโมยะที่แปะให้ดูแล้ว
สงสัยหนังเรื่องนี้คงจะหาความสมจริงได้ยาก
แล้วให้สงสารตาโทโมยะ ที่หนีไม่พ้นบทบาทบ้าๆบวม
ที่เป็นเครื่องหมายการค้าของตัวเองไปซะที
สงสัยประเภทแบบ ใครคิดจะสร้างซีรีส์แนวนี้
แบบหน้าโทโมยะคงลอยมาเป็นเบอร์แรกๆแน่ๆเลย
กรรมเวรของตานี่จริงๆ น่าฉงฉาน
เรื่องนี้ดูท่าว่าจะเดินตามรอยที่พ่อเป็นคนเล่าสินะคะ
เพราะบอกว่าพ่อเป็นตำรวจที่หันมาเอาดีกับการเขียนนิยาย
ที่มีตัวเดินเรื่องคือชีวิตรักรันทดของลูกชายตัวเอง
ได้อ่านแค่ตรงนี้ ก็เรียกความน่าสนใจได้แล้วล่ะค่ะ
แถมพอบอกว่ามีมิกะ นากาชิม่า เป็นนางเอก
ต้องบอกว่าความน่าสนใจพุ่งสูงปรี๊ดเลยค่ะ
เพราะชอบเธอคนนี้จากNanaมากเลยค่ะ
แบบว่าพอนึกถึงมิกะ ก็จะนึกถึงภาพ นานะห้าวลอยมาเลยค่ะ
เรื่องนั้นนะคะ มะนาวว่าเสื้อผ้าหน้าผมของเธอเป๊ะมากเลยค่ะ
ดูเป็นสาวร็อคที่เท่มาก แต่ไม่รู้ทำไมเรื่องนั้น
เธอถึงได้ผอมมากขนาดนั้น แขนงี้เล็กนิดเดียว
คุณprysangบอกว่าชอบดวงตาของเธอ
สำหรับมะนาวนะคะ มะนาวชอบคิ้วของเธอจังค่ะ ดูบางดีจัง
แต่ดูแล้วไม่น่าเกลียด ติดจะเก๋ด้วยซ้ำไปค่ะ
แล้วจะว่าไปที่จริงข้อเสนอของอุนุโบเระนี้น่าสนใจนะคะ
จะเลือกทะเบียนสมรสหรือจะเลือกหมายจับ
จะเลือกสวมแหวน หรือจะเลือกใส่กุญแจมือ
แล้วข้อเสนอดีขนาดนี้ ทำไมสาวเจ้ายังไม่เลือก
ก็ต้องบอกอุนุโบเระแล้วว่า ไปกระโดดน้ำตายซะเถอะไป๊
จะอยู่ไปให้"น้ำตาจะหลั่งทั่วโตเกียว"ไปทำไม
ได้อ่านบทของโทมะแล้วตลกดีจังเลยค่ะ ตอนอ่านถึงที่บอกว่า
"หน้าตาไม่ให้แต่ใจรัก"นั่งนึกค้านในใจว่าใครว่าโทมะหน้าตาไม่ให้
แล้วก็อ๋อ "อย่างเยอะ"นี่เอง อยากดูจังเลยค่ะว่า
โทมะจะแสดงบท "อย่างเยอะ"นี้เป็นยังไง
แล้วขำจังเลยค่ะที่บอกว่าซาดาเมะเล่นแต่บทเป็นศพคนตาย
555 ผกก.ฐานกรุณาสินะคะ ให้นอนนิ่งๆอย่างเดียว
แล้วนอนนิ่งๆอย่างเดียวซาดาเมะยังทำหน้าอย่างเยอะอยู่ไหมคะ555
แถมบอกว่าอย่าได้เปิดปากพูดเชียว
พูดเมื่อไหร่เป็นได้แสดงความอ่อนด้อยทางปัญญาออกมาเมื่อนั้น
555 มะนาวว่าบทนี้น่าสนใจกว่าบทอุนุโบเระอีกนะคะ
อ๊ายยยยย อยากดูโทมะเล่นบทนี้จังค่ะ
แล้วดูท่าว่าดรีมทีมของอุนุโบเระนี้ จะเป็นที่รวมของมนุษย์ที่ไม่ปกตินะคะ
ส่วนguestแต่ละตอนนี้ น่าจะเรียกแขกได้นะคะ
แต่คุณprysang บอกเรทติ้งตกต่ำจนน่าใจหาย
ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากบทที่ไม่แข็งแรง และซ้ำซากสินะคะ
แม้ว่ามีguest ระดับนี้ก็ยังเอาไม่อยู่
เลยกลายเป็นซีรีส์ที่น่าเศร้าของมิกะ นากาชิม่า ไปสินะคะ
ส่วนตาโทโมยะช่างเถอะ แกมีซีรีส์เล่นเรื่อยๆ
ไม่เหมือนมิกะที่นานๆจะมีซีรีส์ออกมาสักเรื่อง ก็ยังแป๊กอีก น่าสงสารจริงๆ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 101.109.183.47 วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:15:48:18 น.  

 
ถ้าใครเป็นแฟนโทมะ ดูเรื่องนี้บอกได้คำเดียวว่า สุดคุ้ม เลยล่ะค่ะ คุณมะนาว


โดย: prysang วันที่: 17 ธันวาคม 2554 เวลา:14:14:20 น.  

 
อ๊าาา เรื่องนี้เคยดู เป็นอะไรที่ฮามาก โทโมยะและโทมะบ้าบอมากกก ดูแล้วน่ารักไม่เครียดดีค่ะ อิอิ


โดย: dreaminem IP: 203.146.136.113 วันที่: 11 เมษายน 2555 เวลา:14:51:52 น.  

 
Hi, I log on to your new stuff daily. Your humoristic style is witty, keep up the good work!
louis vuitton borse //www.boano.com/form/img/nalv.asp


โดย: louis vuitton borse IP: 94.23.252.21 วันที่: 12 สิงหาคม 2557 เวลา:16:17:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prysang
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]




จำนวนผู้ชม คน : Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add prysang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.