Group Blog
 
All blogs
 
Q10 "คิวโตะ คาเรนซัง" เพราะเธอนั้นเป็นหุ่น...(ยนต์)




Title: Q10 / Kyuto
Genre: Romance
Episodes: 9 Viewership ratings: 10.9%
Broadcast network: NTV Saturday 21:00
Broadcast period: 2010-Oct-16 to 2010-Dec-11
Theme song: Honto no Kimochi by Takahashi Yu
Screenwriter: Kizara Izumi
Director: Kariyama Shunsuke, Sakuma Noriyoshi

(ที่มา : DramaWiki)

Smiley  Smiley   ซาโต้จังงงงงง    

ความจริงควรจะเป็น 'ทาเครุจัง' ใช่ไหมล่ะคะ แต่ระหว่างนามสกุลซาโต้ กับชื่อทาเครุ ชอบเรียก 'ซาโต้' มากกว่าน่ะคะ กับเพื่อนรุ่นพี่คอเกาหลีญี่ปุ่นคนหนึ่ง ถ้าเอ่ยถึง ซาโต้ เราหมายถึงซาโต้นี้แหละค่ะ ไม่มีซาโต้อื่น (ถึงจะมี ซาโต้ เรียวตะ ที่แสดงเป็น อ.คาวาโต้ เรื่อง Rookies เราก็คงไม่เพ้อถึงเขาแน่นอน)

มีรักแรกพบต่อกันมา (มีหลายแรกพบมาก) ตั้งแต่การรับบท ‘โอคาดะ ยูยะ’ เพื่อนร่วมแก๊ง ร่วมชั้น ร่วมทีมเบสบอลเดียวกัน ในซีรีส์สุดโปรด Rookies ซึ่งแทบไม่มีบทพูดเลย แต่เด่นเพราะหัวพังค์คาดผ้าโพกผมติดเม็ดกระดุม ต่อมาได้อยู่ในบทที่ขยับระดับความสำคัญขึ้นมาเป็น 'เพื่อนสนิท' ของพระเอกใน Bloody Monday 1-2 แล้วยังสร้างสีสันอย่างมากกับบท 'น้องชายพระเอก' (มาซูชิม่า ฮิโระ) เรื่อง Mei-chan no Shitsuji (คนรับใช้ของเมจัง) ทั้งหมดที่ดูมานั้น ยังไม่ถึงกับเป็นบทบาทเด่นฉายเดี่ยว พอมารับบท 'พระเอก' ของ Q10 เต็มเนื้อเต็มตัวแบบนี้ แม่ยกจะไม่ปลื้มได้อย่างไร



มีซาโต้เป็นพระเอก ถ้าเป็นเรื่องคนปกติธรรมดาคงหามาดูตั้งแต่ซีรีส์ออกมาใหม่ๆ แล้ว เพราะคิดถึงสุดที่รักคนนี้อยู่มากมาย (สุดที่รักก็มีให้คิดถึงอยู่หลายคนมาก) แต่ที่รั้งรอมานาน เนื่องจากพล็อตเรื่อง Q10 มันช่างไม่ใช่แนวเอาซะเลย พระเอกเป็นคน นางเอกเป็นหุ่นยนต์เนี่ยนะ จะอย่างไรก็ไม่มีทางดึงความสนใจไปได้ง่ายๆ เพราะในแง่ความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกนางเอกก็คงไม่มีทางซึ้งหรือลงเอย ถึงจะบอกว่า "Genre: Romance" ก็ไม่อยากจะเชื่ออยู่ดี ว่ามันจะโรมานซ์ไปได้อย่างไร ถ้าเป็นละครมนต์วิเศษสิ่งเหนือธรรมชาติยังอาจมีโอกาสเปลี่ยนเป็นคน แต่หุ่นยนต์เป็นเรื่องของสิ่งประดิษฐ์เป็นวิทยาศาสตร์ จึงไม่มีโอกาสจะโรมานซ์แบบคนๆ ตั้งแต่แรกเริ่มจนจบลงนั่นแหละ ซึ่งความจริงการดูซีรีส์ญี่ปุ่นไม่จำเป็นที่พระเอกนางเอกต้องคู่กันหรือรักกันก็พอได้ ดังนั้น นางเอกจะไม่มีชีวิตไม่ใช่คนคงไม่เป็นไร แต่เมื่อนึกถึงในแง่ของความรู้สึกนึกคิดที่หุ่นยนต์ไม่อาจจะมีได้ หรือหากจะมีก็ทำใจให้เชื่อได้ยากว่าเป็นไปได้บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ หุ่นยนต์ไม่มีชีวิต เมื่อไม่มีชีวิตย่อมไม่มีจิตใจและความรู้สึกด้วย ถ้าเป็นผีหรือเอเลี่ยนก็ว่าไปอย่าง ถ้างั้นก็หมายความว่าพระเอกจะต้องเป็นฝ่ายผูกพันความรู้สึกกับหุ่นยนต์ที่อยู่ใกล้ชิดฝ่ายเดียวน่ะซิ! เห็นลางความเหงาหงอยของพระเอกอยู่รำไร จึงไม่อยากดูอะไรที่ไม่ใช่คน



ตามประสาคนเงื่อนไขเยอะ (พิมพ์ตรงๆ คือ เรื่องมาก) จึงเห็น Q10 เป็นพล็อตเรื่องมีตำหนิ เช่นเดียวกับที่ไม่เคยนึกอยากชม Absolute Boyfriend มาจนถึงทุกวันนี้ แม้จะมีแผ่น DVD อยู่ในครอบครองมา 3 ปีแล้ว ที่จริงก็นึกไม่ออกเลยว่าไปจัดหาแผ่นเรื่องนี้มาจากไหน และเมื่อไหร่ สันนิษฐานว่าเพื่อนคงจัดมาแล้วเราก็ลืมจัดคืนไป

อีกเหตุผลหนึ่งสำคัญถ้าเป็นเรื่องสิ่งประดิษฐ์เทคโนโลยีล้ำยุคเช่นการมีหุ่นยนต์รูปร่างหน้าตาเป็นคนเนี่ย ถ้าไม่ใช่ยี่ห้อฮอลลีวู้ดคงทำใจให้เชื่อในความสมจริงกันได้ยาก ก็เหมือนกับการก่อการร้ายของ Bloody Monday ที่ไม่ได้เข้าลู่เข้าทางอันน่าเชื่อในเหตุและผลทั้งซีซั่น 1 และ 2 แต่ถ้าฮอลลีวู้ดทำเรื่องไฮท์เทคโนโลยีได้ ญี่ปุ่นเขาก็กล้าทำเพื่อจะทำให้ได้เหมือนกัน อาจได้มีดีเท่า อย่างน้อยก็มีก้าวแรกและก้าวต่อๆ ไป Mr.Brain เป็นตัวอย่างหนึ่งที่สามารถสร้างสรรค์ภาพสื่อถึงความเป็นวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี่ได้ดีมากๆ จนไม่กล้าจะเอ่ยว่ามันสู้ฮอลลีวู้ดไม่ได้ตรงไหน

แต่ Q10 ไม่ใช่ Mr.Brain (แล้วเปรียบทำไม) เทคโนโลียีหุ่นยังไงก็ไม่เชื้อไม่เชื่อว่าเหตุผลและความเป็นไปได้มันจะสมจริง รวมถึงกลไกการทำงานของเธอด้วย แต่ไม่รู้จะตั้งแง่ไปทำไมมากมาย ในเมื่อสุดท้ายก็ดูอยู่ดีเพราะมี ซาโต้ ทาเครุ

หยุดเพ้อ และเข้าเรื่องซะที



เพราะเธอนั้นคือหุ่น

ไม่ใช่หุ่นขี้ผึ้งนะคะ หุ่นยนต์ค่ะหุ่นยนต์

หุ่นยนต์ตนนี้เป็น ‘เธอ’ ที่ถูกทิ้งไว้ข้างถนน จากนั้นถูกโยนจมกองขยะเพราะกลุ่มวัยรุ่นที่ผ่านมาหลงคิดไปว่าเธอคือคนตาย

เธอถูกเก็บได้ เพราะมีคนเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นคนเป็น



อาจารย์ใหญ่โรงเรียนมัธยม ฟูจิโมโตะ มิจิโระ คือคนที่เขี่ยขยะเก็บเอาเธอขึ้นมา แต่พามาดูแลแล้วเธอก็ไม่ยักกะฟื้น ต้องหอบหิ้วมาไว้ที่โรงเรียนด้วยความตื่นตระหนก ร้อนถึง อาจารย์โองาวะ โฮอุ ที่ลากเอาอาจารย์ ยานางิ คุริโกะ มาร่วมรับรู้ลักษณะ 50/50 ระหว่างเป็นคนเป็น กับเป็นคนตาย ของเด็กสาวหน้าตาสวยน่ารักที่ไม่รู้มาจากไหน



สามคมช่วยกันพิศดูให้แน่ใจเธอเป็นอะไร เป็นคนตัวเป็นๆ หรือที่เห็นคือตายไปแล้ว หรืออีกทีสิ่งมีตัวตนนี้มิใช่คน! ระหว่างครุ่นคิดหาคำตอบ หุ่นยนต์สาวถูกทิ้งไว้ตามลำพัง แล้วเป็นบุญหรือกรรมของ ฟุไค เฮตะ (ซาโต้ ทาเครุ) ก็ไม่ทราบได้ เมื่อเขาเหลือบขึ้นไปเห็นเธอจากด้านหลังที่พักพิงหน้าต่างโผล่พ้นม่านออกมา ไม่รู้อะไรมาดลใจให้เฮตะขึ้นไปที่ห้องนั้น

.....

พบเธอ

แล้วก็เผลอใจไปแตะต้อง

บังเอิ๊ญเป็นปุ่มเปิดสวิตซ์ติดเครื่องยนต์ของเธอน่ะสิ สถานการณ์มันพาไป อารามตกใจเลยต้องตั้งชื่อให้ ตามการร้องขอคำสั่งตั้งชื่อใหม่ คิดอะไรไม่ออก บอกอะไรไม่ถูก ขอชื่อเหรอ คิวโตะไง! คิวโตะ ตามสัญลักษณ์ Q10 ที่เห็นปรากฏใต้ฝ่าเท้า

แล้วหุ่นยนต์สาวก็มีชื่อระบุตัวตน “คิวโตะ” (Maeda Atsuko)



ประหนึ่งสุนัขพบเจ้าของ เธอตามติด วุ่นวายให้เฮตะต้องได้รับความอับอายต่อหน้าเพื่อนฝูง เครื่องยนต์ล็อคแบบกอดติดหมับ หมดทางหนีต้องมียัยนี่แบกติดหลัง สุดท้ายแบตหมด เครื่องยนต์ดับ อุปกรณ์โผล่ อาจารย์ทั้งสามที่พยายามหาคำตอบจึงยิ่งกว่าแน่ใจ เธอใช่แล้ว เป็นหุ่นยนต์จริงๆ แต่ไม่รู้เธอทำอะไรได้บ้าง มาจากไหน มาทำไม เป็นของใครองค์กรลับใดที่จะกลายเป็นอันตรายหรือเปล่า เธอเป็นวิทยาการล้ำยุคที่เย้ายวนใจ หุ่นอะไรสร้างได้เหมือนคน เป๊ะ! ด้วยเหตุผลต่างๆ นาๆ (ซึ่งอย่าถามหาความสมเหตุสมผลที่จริงจัง) อาจารย์ทั้งสามขอตกลงใจเก็บเธอไว้ก่อน



ฟุไค เฮตะ จำต้องตกกระไดพลอยโจน กลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ร่วมรักษาความลับการค้นพบหุ่นยนต์ประหลาดล้ำยุคที่รูปร่างหน้าตาเหมือนคน เด๊ะ! (สวยน่ารักซะด้วย) เท่านั้นยังไม่พอ ยังต้องกลายเป็นผู้มีหน้าที่คอยดูแลหุ่นยนต์ตนนี้ตามที่อาจารย์ทั้งสามมอบหมายด้วย (เต็มใจหรือเปล่าไม่รู้ล่ะ)

เธอถูกส่งไปอาศัยอยู่ร่วมบ้านกับอาจารย์ โองาวะ ซึ่งมีแม่แก่อารมณ์ดี โองาวะ ชิเงะ ผู้รักเอ็นดูลูกชายอยู่มิเสื่อมคลายแม้ลูกชายจะอยู่ในวัยใกล้ขึ้นคานเต็มทีแล้วก็ตาม เธอดีใจเมื่อมีหุ่นยนต์เด็กผู้หญิงมาอยู่ร่วมบ้านและเต็มใจช่วยดูแลคิวโตะเป็นอย่างดี

เธอถูกจัดให้เป็นนักเรียนย้ายมาใหม่ เข้าไปเรียนร่วมชั้นเดียวกันกับผู้ดูแลจำเป็น คือ ฟุไค เฮตะ



แล้วนักเรียนหน้าใหม่ ที่เพิ่งได้ชื่อแซ่เต็มๆ เหมือนคนทั่วไป 'คิวโตะ คาเรน' ก็ได้มาเรียนร่วมชั้น มีโต๊ะเรียนเป็นที่นั่งข้างๆ ฟุไค เฮตะ ผู้แจ้งชื่อต่อหุ่นยนต์คิวโตะหลังการกดปุ่มสวิตซ์ และเธอรับรอง "สำเนาถูกต้อง" ในการเป็นเจ้าของหรือเจ้านายของเธอนั่นเอง

ห้องเรียนนี้ไม่ธรรมดา เพราะแต่ละคนย่อมมีปัญหาชีวิตแตกต่างกันไป



ยามาโมโต้ ทามิโกะ นักเรียนหญิงผมยาวเรียบร้อย แต่ที่เห็นผมสวยๆ เรียบร้อย มันเป็นของปลอม พอพ้นเขตโรงเรียนเมื่อไหร่ก็ได้เวลาสลัดวิกออก กลับเป็นตัวตนคนจริงที่มีหัวบ๊อบสั้นและย้อมสีสันเป็นผมสีแดง (แรงค่ะ) เพราะนอกเขตโรงเรียนเธอเป็นนักร้องสาวขาร็อคที่มีกีตาร์แบกติดหลัง..(อย่างเท่) อนาคตจะเป็นไรไหม ถ้าฝันใฝ่จะเป็นนักร้อง แทนที่จะมุ่งหน้าไปมีการศึกษาเพื่ออาชีพการงานที่มั่นคงกว่าอย่างที่คนทั่วไปเห็นว่าควรกระทำ

มันดูไม่สมจริงอย่างนะ ผมวิกยาวของเธอน่ะ เห็นชัดๆ ว่าเป็นผมจริงของเธอ ส่วนผมแดงที่ในเรื่องเป็นผมจริงเธอต้องใส่วิกแสดง ก็ทำไมไม่ให้เธอตัดผมจริงสั้นย้อมแดง แล้วใช้วิกผมยาวจริงๆ มันจะได้ไม่ดูขัดๆ กันยังไงก็ไม่รู้ เพราะผมวิกในเรื่องเห็นอยู่ชัดๆ ว่าเป็นผมจริง ส่วนผมจริงก็เห็นอยู่ว่าเป็นการใส่วิก (งงไหมล่ะคะเนี่ย)



นากาโอะ จุน นักเรียนชายผู้มีงานอดิเรกแสนรักคือการอ่านการ์ตูน ระดับอาการไม่ถือว่าติดอย่างธรรมดา แต่เข้าขั้นหลงใหลระดับจิต (ใครบางคนแถวนี้ก็เข้าข่ายหลงใหลการดูซีรีส์ระดับจิตเหมือนกัน) คิวโตะซัง ดันมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกันกับตัวการ์ตูนสุดรักของนากาโอะ เหมือนมี ‘ลูน่า’ เดินออกมาจากหนังสือการ์ตูนแบบนี้ พิษรักแรงอิจฉาที่นากาโอะมีต่อเฮตะจึงค่อนข้างแร้งงงง เพราะเฮตะเป็นเพื่อนเก่าคิวโตะ (ตามที่อาจารย์โองาวะกุเรื่อง) จึงได้อยู่ดูแลใกล้ชิด ตามติดกันเป็นเงา (เต็มใจซะที่ไหนกัน) จนใครๆ เขาก็รู้กันไปโดยปริยายว่า คิวโตะเป็นเด็กของใคร (ฉากที่เฮตะลองซ้อมพูดกับกระจกในห้องน้ำเพื่อจะห้ามไม่ให้นากาโอะมาคอยตามเฝ้าดูคิวโตะด้วยการท้าวแขนกับกระจก เก๊กหน้าขรึม เหลือกตา แล้วพูดว่า "อย่ายุ่งกับเด็กชั้น" จู่ๆ นากาโอะก็โผล่มา เฮตะตกใจแขนร่วงหน้าเกือบคะมำ ฮ่าฮ่า ตลกและน่ารักมากๆ )

ฟุจิโอกะ มาโกโตะ ใครจะฝันถึงอนาคตก็ฝันไป เพราะนากาโอะไม่มีอนาคตให้ต้องคิดฝัน แค่ค่าเทอมจะจ่ายที่เล่าเรียนอยู่ทุกวันยังไม่มี ฐานะยากจน พ่อแม่ทอดทิ้ง อนาคตมืดมน ปัจจุบันยังต้องลำบากอีกมากเพื่อดูแลตนเองและน้องชายที่อยู่กันลำพังสองคน

คุโบ ทาเคฮิโกะ ถ้าเจ็บเพราะจนอย่างฟุจิโอกะคงพอไหว ถ้าสับสนไม่รู้จะเอาไงกับชีวิตดีอย่างเฮตะคงไม่เป็นไร แต่ที่เจ็บหัวใจคือคุโบนั้นเจ็บกาย การเจ็บป่วยที่บางที วันพรุ่งนี้อาจเป็นวันที่มาไม่ถึง ไม่รู้ว่าการที่ต้องครุ่นคิดหาคำตอบจะเอายังไงดีกับชีวิตวันพรุ่งนี้และอนาคตต่อไป กับการที่ไม่ต้องครุ่นคิดอะไรเพราะอาจไม่มีประโยชน์อะไรที่จะคิดถึงมัน คิดกับไม่คิดอย่างไหนควรดีกว่ากัน

ฟุจิโนะ สึกิโกะ เธอเป็นสาวปริศนาที่ต้องไปหาคำตอบกันเอาเอง เพราะเธอปริศนาจริงๆ เธอกุมความลับของหุ่นยนต์คิวโตะตั้งแต่ต้นจนเปิดเผยแล้วในตอนจบ ก็ยังไม่เคลียร์เลยว่าเธอเป็นใคร อยู่ที่นี่ในโลกใบนี้ มีครอบครัวเป็นนักเรียนธรรมดา หรือมาจากไหน จะจากไปหรือเปล่าหรือจะอยู่ยาวถาวร สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าเธอ ...คนหรือเปล่าเนี่ย !!!?

เรื่องนี้มีบทบาทมากหน่อยในฐานะ 'สาวปริศนา' แต่ที่มาเล่นเป็นน้องสาวนางเอกเรื่อง Soredemo, Ikite ปี 2011นั้นแทบไม่มีบทบาทและไม่มีอะไรให้เป็นที่่จดจำเอาซะเลย



คาเกยาม่า ฮิซาชิ นักเรียนชายผู้รักการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านสื่อวิดิโอ ถ้าจะฝันถึงอนาคตก็ต้องทางนี้สิ อยากออกหาประสบการณ์การถ่ายภาพวิดิโอด้วยอิสระเสรี แต่หัวใจดันติดอยู่ที่เขาหลงรักสาวนักเรียนร่วมชั้น คาวาอิ เอมิโกะ

คาวาอิ เอมิโกะ นักเรียนหญิงคนเก่ง เป็นเด็กเรียนที่หน้าตาสวยน่ารัก แต่ขาดความมั่นใจในตนเอง (ตามบทคาวาอิเป็นคนสวยน่ารัก แต่นักแสดง ทากาฮาตะ มิตสึกิ ไม่ค่อยสวยถูกตาหรือน่ารักถูกใจผู้เขียนสักเท่าไหร่) เพราะเธอเป็นเด็กเรียนดี อนาคตต่อจากนี้การเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยระดับดีๆ ก็ย่อมทำได้ แต่เป้าหมายที่เคยมีกลับไม่ง่ายจะมุ่งไป เมื่อดันมีใจรักตอบ คาเกยาม่า ฮิซาชิ




เฮตะเองก็ใช่ว่าไม่มีปัญหา แม้มีครอบครัวอบอุ่นและได้รับความรักเต็มที่จากพ่อแม่แสนดีและพี่สาวที่น่ารัก แต่ตัวเฮตะกลับมีอาการเศร้านิดๆ ซึมหน่อยๆ คอยแอบแฝง ซึ่งเป็นผลมาจากที่เคยเจ็บป่วยมามากในอดีตและปัจจุบันถึงไม่ป่วยก็ยังคงต้องเฝ้าระวังสุขภาพ ชีวิตต้องการอะไร มีความหมายยังไง และจะเอายังไงดีกับมัน ยังคงไม่มีคำตอบ

หุ่นยนต์คิวโตะ ไม่มีชีวิต ไม่มีจิตใจ แต่ไม่รู้กลไกของเธอเริ่ดแค่ไหนจึงคิดเองเออเองได้พอควร พฤติกรรมของเธอไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา ไม่ได้ชี้ทางออก แต่มันช่วยทำให้คนที่ตกอยู่ในปัญหาเข้าใจถึงอะไรบางอย่าง และมองโลกมองตัวเองในแง่ดีขึ้น โดยไม่รู้ตัว หุ่นยนต์คิวโตะได้มีส่วนต่อเติมกำลังใจให้กับชีวิตวัยรุ่นวัยสับสนเหล่านี้ ส่วนที่เธอมาจากไหน มาจากใคร มีวัตถุประสงค์อะไรที่ปรากฏตัวขึ้นบนโลกใบนี้ ต้องไปติดตามกันเอาเองนะคะ



ซีรีส์สั้นๆ แค่ 9 ตอนเองค่ะ แต่มันให้ความรู้สึกเหมือนยาวนาน เข้าใจว่าที่เป็นเช่นนั้นเพราะซีรีส์สั้นๆ เรื่องนี้ ได้นำเสนอเรื่องราวของหลายชีวิต แม้ไม่ค่อยมีความเกี่ยวข้องไปด้วยกันมากนัก เช่น ความรักที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษาของคาวาอิและคาเกยาม่า ไม่ได้เกี่ยวพันกับชีวิตฝันรักนักดนตรีของยามาโมโต้ หรือความบ้าคลั่งการ์ตูนของนากาโอะ หรือชีวิตป่วยเป็นผักของคุโบ ตัวละครแทบไม่แสดงความสัมพันธ์สนิทใดมากไปกว่าการเข้าฉากเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน เรื่องของมิตรภาพระหว่างเพื่อนจึงดูไม่ลึกซึ้งนักแล้วก็ไม่อินด้วย ดังนั้นจะว่าเป็นซีรีส์แนวมิตรภาพระหว่างเพื่อนก็ไม่ใช่ จะว่าเป็นแนววัยรุ่นฝันใฝ่ก็ไม่เชิง มันออกแนวค้นหาตัวตนและจุดมุ่งหมายของชีวิตกึ่งๆ กับแนวความรักเสียด้วยซ้ำ แต่มันก็ไม่โดดเด่นในแง่ใดแง่หนึ่ง ซึ่งการดำเนินเรื่องไปด้วยความเป็นไปของตัวละครหลายๆ คน พร้อมๆ กัน จึงเหมือนได้ดูเรื่องราวหลายชีวิต ทำให้รู้สึกเหมือนมีเนื้อเรื่องที่ยาว ทั้งที่ก็มีแค่ 9 ตอน



ในเชิงบอกเล่าหรือการบรรยายเรื่องราว ตัวผู้เขียนเองต้องยอมรับว่าจับใจความสำคัญเน้นๆ จากเสียงความคิดความในใจของ ฟุไค เฮตะ ออกมาไม่ได้เลย เพราะในถ้อยความเหล่านั้นมันไม่ได้มีความคมวับหรือจับใจอะไร เป็นเสียงความในใจของเจ้าตัวที่ก็เหมือนยังไม่เข้าใจตัวเองหรือคนอื่นดีนัก คล้ายเป็นลักษณะของการครุ่นคิดคำนึงในสิ่งที่กำลังเรียนรู้ ทำความเข้าใจตัวเองและคนรอบข้างมากกว่า

จุดนี้ไม่รู้มันยากจะเข้าใจชัดๆ (ขนาดดูซับไทยแล้วนะ) หรือเป็นเพราะไม่มีสมาธิจะรับรู้แก่นสารของมัน เนื่องจากว่ามัวแต่เพลินกับเสียงหล่อๆ และจดจ่ออยู่กับการแสดง 'สายตา' ของซาโต้ ไม่รู้คนอื่นๆ คิดกันว่าไงนะคะ แต่ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าซาโต้เป็นนักแสดงคนหนึ่งที่แสดงออกมาทางสายตาได้ดี ซึ่งหากเป็นนักแสดงลักษณะนี้ คิดว่าเรื่องรูปร่างหน้าตาที่ไม่ได้ถึงกับเป็นคนที่สูงโปร่งหรือหล่อมากมายอะไร (170 ซม. กับหน้าดูกผอมๆ) ก็ไม่ใช่ปัญหาของการเป็นนักแสดงคุณภาพนิยมหรอกนะ จึงหวังว่าซาโต้ จะได้รับบทเด่นๆ ดีๆ ไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเป็นพระเอกก็ได้ แต่ขอให้เป็นบทดีๆ ที่สำคัญและน่าสนใจ และจะคอยติดตามผลงานอยู่เสมอ



น้องหนูมาเอดะ อัตสึโกะ หน้าตาเธอน่ารักดีค่ะ ยิ้มก็น่ารักด้วย ส่วนเรื่องฝีมือการแสดงนั้นคงต้องว่ากันเรื่องหน้า เนื่องจากผู้เขียนคิดว่าการเล่นเป็นหุ่นยนต์หน้าเรียบสนิทไร้อารมณ์ของเธอ มันไม่ได้ยากเย็นอะไรนักสำหรับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นนักแสดง ไม่เคยรู้จักเธอมาก่อนในเรื่องอื่นๆ (เว้นแต่จะจำไม่ได้) ดังนั้นจึงไม่มีความเห็นอะไรต่อเธอมากไปกว่านี้ แต่ชอบคิวโตะเวลายิ้มมากเลยค่ะ เพราะมันเป็นยิ้มแข็งๆ แบบหุ่น ตอนเธอยิ้มจะได้ยินเสียงเครื่องกลของเธอก่อนแชะนึง แล้วฉีกยิ้มกว้างทันที มุมปากเป็นมาตรฐานยิ้มแบบเท่าเดิมเป๊ะ ร้องไห้ก็น่ารัก คิวโตะถูกติดตั้งน้ำตาไว้ด้วย วิธีให้หยุดร้องไห้คือการกอด ที่เฮตะต้องทำใจไปซ้อมกอดเสาก่อนเพื่อจะกอดคิวโตะ พอทำใจได้ไม่ว่ายังไงก็ต้องกอดแล้วจะได้หยุดร้องไห้เสียที แต่พอหันขวับมา แบบคน เอาวะ! เอาไงก็เอา กอดก็กอด ปรากฏว่า ........... คิวโตะหยุดร้องไห้แล้ว เพราะคนที่เดินผ่านมาบังเอิญชนเธอจะล้มก็เลยช่วยกอดประคองไว้ หัวเราะเสียงดังมากเลยล่ะฉากนี้ กับหน้าตาเหวอของซาโต้ อุตส่าห์ทำใจแก้เขินอยู่ตั้งนานลุงคนนั้นปาดหน้าเค้กไปเห็นๆ

นอกจากยิ้ม ร้องไห้แล้ว คิวโตะยังแปลงเสียงได้ ล้อเล่นเป็น ชอบเสียงหุ่นยนต์ของเธอจริงๆ แล้วก็อาการเขินแบบหุ่นยนต์ จะได้ยินเสียงเครื่องเบาๆ เหมือนไขลานนิดนึงก่อน แล้วอาการเขินก็ออก น่ารักจริงๆ

ป้าฮิโรโกะ ป้าจะไม่งานชุกมากไปสักหน่อยหรือคะ หน้าป้าปรากฏหราอยู่หน้าจอเป็นประจำมาก อย่างสามเรื่องล่าสุดที่ดูป้าก็เล่นอยู่ในนั้นทุกเรื่อง! เป็นป้าที่น่ารักถึงจะสูงวัยก็ยังแอ๊บสดใสอาโนเนะได้อยู่นะคะ ชอบให้เล่นบทลักษณะนี้แหละ กับบทบาท Working Woman ที่เห็นกันใน Zenkai girl ดูจะไม่เข้ากับป้าเท่าไหร่ ต้องอารมณ์เบาๆ สบายๆ ติงต๊องนิดๆ ติสต์หน่อยๆ ดูจะเหมาะกับเธอมากกว่า Kisarazu Cat's eye เล่นเป็นครู เรื่องนี้ก็เล่นเป็นครูอีกแล้ว แต่คาแร็คเตอร์ต่างกันเยอะเลย

คาคุ เคนโตะ เคนโตะไปทำอะไรมา หน้าตาดูดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับตอนเล่นเป็นรุ่นน้องคนสนิท ของยามาโมโต้ ยูสุเกะ ในเรื่อง Tumbling คงเป็นเพราะทรงผมเปลี่ยน เพราะถ้าจะว่ายิ่งโตยิ่งดูดีก็คงไม่ได้ เนื่องจาก Tumbling ก็เป็นซีรีส์ปีเดียวกัน จะเห็นได้ว่ายูสุเกะที่ไปเล่นเป็นพระเอกเรื่อง Ouran High School Host Club
ก่อนจะติดตามป๋าทาคุยะไปดินแดนขั้วโลกเหนือยเพื่อถ่ายทำ Nankyoku Tairiku ก็หล่อไบรท์ขึ้นจนหน้างี้ขาวชมพู ไม่เชื่อไปเปิดดู Ouran ได้ ยังกะไม่ใช่ยูสุเกะที่เคยเห็นเมื่อก่อน หรือว่าไปฉีดโบท็อกซ์มาหน้าเลยใสเด้ง

น้องหนูเรนบุซัง เพิ่งดูเรื่องก่อนผ่านมากับ Zenkai Girl ที่ดูเป็นสาววัยทำงานสวยใสอ่อนไหวอาโนเนะ เรื่องนี้ดูเป็นเด็กมัธยมที่เงียบๆ เย็นชา ประสาคนกร้านร็อคนอกโรงเรียนที่ค่อนข้างออกแนวสันโดษ เปลี่ยนวัย เปลี่ยนบุคลิกบทบาท ก็สร้างความแตกต่างเป็นคนละคนได้ดีนะคะ



พูดถึงการเปลี่ยนเป็นคนละคน ซาโต้ ทาเครุ กับบท ฟุไค เฮตะ นี่ก็เปลี่ยนไปจากเรื่องอื่นเหมือนกัน ดูเด็กลง ใสมาก หล่อมาก น่ารักมาก (ฮ่าฮ่า อันนี้มันความชอบส่วนตัวแล้วล่ะ) ว่ากันตามความจริงคือ เล่นได้เป็นเด็กวัยรุ่นใสๆ สมวัยมัธยม มีความซึมนิดๆ เศร้าหน่อยๆ จากเหตุชีวิตที่ก็ไม่ได้เป็นปกติสมบูรณ์ เพราะเคยป่วย มีโรคประจำตัว เหมือนเป็นตัวปัญหาของครอบครัวในเรื่องการดูแลและค่าใช้จ่าย (โรคอะไรก็ไม่รู้เกี่ยวกับหัวใจ) แล้วเพื่อนข้างเตียงในวัยเด็กที่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทอย่างคุโบก็มีอาการทรุดลงไปให้เห็น คนหนึ่งป่วยจะตาย คนหนึ่งสบายดีแต่ไม่รู้จะมีวันป่วยกำเริบขึ้นมาเมื่อไหร่ อาการที่ดูเหมือนเหงาน้อยๆ รวมกับความตลกนิดหน่อยของเฮะตะนี่ชอบซะจริง



ชอบดวงตารียาวและโต(เกือบโปน) ของซาโต้ หึหึ ตาอีกแล้ว ลองว่าหลงเสน่ห์ดวงตานักแสดงรายไหนเข้าล่ะก็ รายไหนเป็นรายนั้น รักไม่มีวันจืดจางขึ้นมาเลยทีเดียว นอกจากหน้าผอมยาวที่มีดวงตารีโตสื่ออารมณ์ได้ดีในการแสดงแล้ว ยังแอบรักไฝเล็กๆ ของซาโต้มาแต่แรกแล้วด้วย หุหุ...อิหรอบนี้ไม่มีแน่กับรักสั้นๆ แต่รักฉันจะยืนยาวต่อซาโต้ทาเครุจัง ก็ชอบไปหมดซะทุกอย่างไม่ว่าจะอาการตกใจ อารมณ์หงุดหงิดที่ต้องคอยควบคุมความประพฤติอันเกิดมาจากสมองกลของคิวโตะ ตอนหึงเล็กๆ ก็น่ารัก ตอนเศร้านิดๆ ก็น่าชม เอาเหอะค่ะ ยกให้ผู้เขียนเหอะที่จะสรุปว่า ซาโต้ดี หล่อ เท่ น่ารักทุกประการทั้งปวง คิดว่าต่างกับบทใน Bloody Monday เยอะเลย เพราะเรื่องนั้นจะดูขรึมเท่ ไม่ดูเป็นเด็กๆ ใสๆ อย่างเรื่องนี้



เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องราววัยรุ่นใสๆ (หุ่นยนต์ก็หุ่นวัยรุ่นเหมือนกัน) เรื่องก็เลยออกมาโรแมนติกน่ารัก ที่กลัวว่าตัวเองจะเศร้ากับความรู้สึกผูกพันข้างเดียวของพระเอกฝ่ายเดียวที่มีความรู้สึกนึกคิด กลับไม่มากเท่าไหร่ เพราะความน่ารักช่วยกลบได้เหลือจะมิด แถมยังจบแฮปปี้เอนดิ้งด้วยกันทุกฝ่าย อย่างที่หวังไว้ให้เป็นเช่นนั้น ไม่ใช่จะโอ้อวดว่าเดาเก่งอะไรนะคะ แต่นั่นมันเป็นทางออกที่พอมองเห็นได้ง่าย และเป็นทางออกที่ดี แต่เรื่องนี้เหมือนมันไม่ใช่แค่ทางออกแต่ม้นเป็นเนื้อเรื่องที่ตั้งใจมาแต่แรกแล้วว่าจะให้เป็นเช่นนี้ จึงถูกใจใช่เลยค่ะ

เรื่องราวที่จบแฮปปี้เอนดิ้งไม่ว่ายังไงก็ต้องน่าสนใจกว่าเรื่องที่รู้อยู่แล้วว่าสุดท้ายนางเอกหรือพระเอกตาย หรือ ทางใครทางมัน จริงไหมล่ะคะ



บล็อกนี้คัดภาพมาฝากเยอะเลย ... ฝากตัวเอง (เป็นการสนองความต้องการส่วนตนขนานแท้) ทั้งที่มีภาพในใจอยู่แล้วว่าจะคัดเอาตอนไหนมาลงบล็อกบ้าง แต่พอเปิดขึ้นมา เห็นสีหน้าแวตาของซาโต้แล้วมันอดใจไม่ไหว ยังไงต้องตัด ตัด ตัด ตัด จนเหมือนดูซีรีส์เรื่องนี้เข้าไปตั้งสองรอบ แล้วจากที่คิดว่าจะเอามาไม่มาก ก็ดูจากจำนวนภาพที่โพตส์ลงเถอะค่ะ มันเป็นความประพฤติที่ไม่ได้ไปในทางเดียวกันกับความตั้งใจเลย ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วถือว่าชดเชยช่วงเวลาสองปีนี้ที่ไม่เคยแบ่งเวลาสำหรับความตั้งใจที่จะส่งซาโต้ ทาเครุ ขึ้นบล็อกในหมวดหมู่ "ดาวประดับใจ" ของตัวเองได้เลย เป็นความตั้งใจที่ค้างเติ่งเหมือนกับนักแสดงที่ชื่นชอบอีกหลายคนนั่นแหละ

ภาพช่วงสุดท้ายที่นำมาลงไม่ใช่ตอนจบของเรื่องนะคะ เป็นช่วงปลายเรื่องก็จริง แต่ยังอยู่ไกลตอนจบอีกพักใหญ่ ตั้งใจจะปิดบล็อกด้วยภาพนั้น เพราะมันเป็นฉากที่ชอบมาก โดยเฉพาะสายตาของซาโต้ที่เพ่งมองฝ่าความมืด ไปยังแสงสว่างที่ปรากฏใกล้เข้ามา ใคร ที่ไม่คิดว่าจะมาอยู่ตรงนี้ได้ และสองมือของเธอที่ยื่นส่งมาให้



ข้อดีๆ ของเรื่องนี้ที่จะลืมเลือนไม่กล่าวถึงไม่ได้

การเล่นมุมกล้อง หรือมันไม่ใช่ที่กล้องแต่เป็นการดัดแปลงทำภาพก็ไม่รู้ล่ะ ไม่รู้ศัพท์แสงในวงการของเขาในการถ่ายภาพกว้างๆ ยาวๆ โล่งๆ โค้งๆ ..ทำออกมาแล้วมันเท่ ได้ภาพบรรยากาศและวิวกว้างๆ อย่างสวยเลย คล้ายๆ การถ่ายพาโนราม่าแต่ว่ามันดันนูนๆ โค้งๆ ด้วยน่ะสิ แล้วก็การถ่ายจากมุมล่างขึ้นบนก็ให้ภาพอีกแบบนึง นี่ถ้านักแสดงแต่ละคนไม่ผอมเพรียวถ่ายภาพมุมนี้จะอืดเต็มจอเลยนะคะ มุมนี้ก็ใช้อยู่บ่อยเหมือนกัน ได้ภาพสวยแปลก ชอบมากค่ะ เก๋ดี

โทนสีของภาพ ชอบด้วยเช่นกัน แดดจ้า ฟ้าใส หรือบรรยากาศสีทองยามเย็นกับเสาไฟฟ้าแรงสูงที่โดดเด่นอยู่ท่ามกลางที่โล่งกว้าง เริ่ดมาก

สถานที่ถ่ายทำ วิวสวยค่ะ ชอบซีรีส์ญี่ปุ่นเพราะแบบนี้ด้วยแหละ ผืนน้ำ ทุ่งหญ้า ฟ้าใส ดาดฟ้ากว้าง บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย ดูดีจริงๆ

เนื้อเรื่องพอใช้ โรแมนติกดีสมกับที่แจ้งประเภทไว้ นางเอกน่ารัก พระเอกหน้าตาดี ฝีมือดีด้วย (อวยกันเข้าไป) ตัวประกอบพอไปวัดไปวาและเข้าใจได้ มุมกล้องเท่ ภาพกิ๊บเก๋ สีสันสวย บรรยากาศงาม สำหรับผู้เขียนแล้ว กับซีรีส์เรื่องหนึ่ง ไม่เรียกร้องอะไรมากไปกว่านี้ แค่นี้ก็ไหวจะชมแล้วค่ะ

















































Create Date : 17 ธันวาคม 2554
Last Update : 25 พฤษภาคม 2555 20:00:34 น. 9 comments
Counter : 21994 Pageviews.

 
เหอะๆภาพเยอะ แต่พอเรียงร้อยเป็นเรือ่งราวได้อยู่
แม้จะดูนานตั้งแต่ต้นปีแล้วก็ตาม
แต่จะให้เล่าความรู้สึกเรือ่งนี้

อืม...มันอธิบายเป็นรูปร่างไม่ถูก
ทั้งโหวง ทั้งเว้า ทั้งว้าเหว่
แล้วแน่นอน มันมีมินิปรัชญาอยู๋ในตัว
ก็งานเขียนอันเป็นสไตล์ของเจ๊อิซุมิ
คนเขียนบท ที่เคยเขียนใน
nobuta wo produce และ sexyvoice and robo
ก็มีอารมณ์ประมาณนี้

จะให้มองว่าดูง่ายก็ง่าย แต่ตีความเข้าใจนี้
ก็ต้องเรียกว่ายากสุดหิน
บอกไม่ถูกว่าซีรีย์ต้องการบอกอะไรเรา
แต่ถ้าเอาสัดส่วนของโนบุตะโวะโบดิวซ์
มาเสริม ก็คงจะบอกให้มีความเป็นตัวของตัวเอง
และสนุกกับการใช้ชีวิต
โดยที่ไม่ละทิ้งสังคมและสภาพแวดล้อมที่เราอยู่มั้ง

เสริมละกันว่าหนูหุ่นไกด์ดรอยคิวเทน
เธอคือสตาร์ตัวรวมศูนย์ของวงกรุ๊ปชื่อดัง
AKB48
ดังนั้นเรื่องการแสดง ก็ต้องพิสูจน์อีกสักหนอ่ย
เพราะบทหุ่นมันไม่ได้พัฒนาอะไรให้เห็นจนจบ
แล้วไอ้มุมเว้าๆโค้งๆ เรียกว่าฟิชนิ่งอาย
ก็ไม่ค่อยเห็นว่าใครเขาจะใช้กัน
แต่พอมาใช้กับเรื่องนี้ ที่พล็อกประหลาดแบบนี้มันได้ผลแหะ

แล้วหลายตัวละคร ก็ลืมไปจนไมได้ใส่ใจ
ก็ได้บล็อกท่านนี้แหละมาช่วยย้ำ
โดยเฉพาะครอบครัวของพระเอก จริงๆแล้วก็สำคัญอยู่นะ
เพราะคนเขียนบทเขาให้ความสำคัญเสมอในทุกๆเรือ่งที่เธอเขียน

ถ้าเป็นแฟนซาโต้คุง พลาดเรือ่งนี้ไปน่าเสียดายอย่างยิ่งเลย
จะได้เห็นฝีมืออะไรบางอย่าง ที่ไม่เคยเห็นจากเรื่องอื่นๆ

แฟนพลังโนบุตะพาวเวอร์ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน
เพราะนายเคนโตะมันก็สุดเท่ห์ ดีที่บทไม่ข่มพระเอกไปซะก่อน


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 17 ธันวาคม 2554 เวลา:15:23:46 น.  

 
เราจะดูเรื่องนี้(เมื่อวันหยุดยาวหน้ามาถึง)นะท่านPrysang
เราจะดู ซาโต้คุง ..
ทรงผมหยิกหัวพองๆแบบนี้
น่ารัก..
มว๊ากกก (ออกเสียงแบบพี่โน้ส อุดม ด้วยนะ) อุอุอุ ^^


โดย: nobuta เอง ^^ IP: 202.29.153.10 วันที่: 17 ธันวาคม 2554 เวลา:17:03:21 น.  

 
ได้เลยท่าน nobuta ซาโต้ เป็นบุคคลสาธารณะ สามารถผลัดๆ กันชม 555


โดย: prysang วันที่: 17 ธันวาคม 2554 เวลา:17:32:25 น.  

 
555 แบบว่าไม่อ้อมค้อม"อวย"ซาโต้เต็มพิกัด เข้าใจและเป็นกำลังใจให้ค่ะ อิอิ
เนื้อเรื่องตอนเปิดตัวคิวโตะที่บอกว่าเธอถูกทิ้งอยู่ข้างถนนและต่อมาไปอยู่ที่กองขยะ
อ่านถึงตรงนี้ก็นึกถึงเรื่องAir Doll เลยล่ะค่ะ ช่างคล้ายกันมากเลยค่ะ
เพียงแต่Air Doll เป็นช่วงเหตุการณ์ตอนใกล้จบน่ะค่ะ
คุณprysangบอกว่าหนังแนวหุ่นยนต์กับคนมันไม่ใช่แนวที่คุณprysangจะสนใจ
เลยทำให้เมินAbsolute Boyfriend
แต่จะบอกว่าAbsolute Boyfriend ทำให้คนดูซาบซึ้งได้จริงๆนะคะ
คือช่วงที่มะนาวเริ่มดูซีรีส์ญี่ปุ่นแรกๆ แบบใครให้เรื่องอะไรมาก็ดูทั้งนั้น
ประเภทของฟรีไม่มีขัด ตอนดูAbsolute Boyfriend ก็ดูแบบไม่ได้คาดหวังอะไร
แต่พอได้ดู โอ้ว!ซีรีส์เรื่องนี้เรียกน้ำตาเราได้มากขนาดนี้เชียวหรือ
พูดแล้วเหมือนเชียร์นะคะ แต่นั่นเป็นความรู้สึกของมะนาวจริงๆค่ะ
ในเมื่อคุณprysangได้เปิดมุมมองซีรีส์แนวนี้กับQ10 แล้ว
แล้วเก็บไว้ตั้ง3ปี ไนท์โตะมิเป็นสนิม หรือเชื้อราขึ้นแล้วเหรอคะ ฮี่ฮี่ แซวเล่นอ่ะค่ะ
มะนาวได้รู้จักซาโต้ ทาเครุครั้งแรกจากBloody Monday ค่ะ เห็นแล้วปิ๊งเลยค่ะ
ทั้งๆที่เรื่องนั้นก็มี มิอุระ ฮารุมะเป็นตัวนำด้วย แต่ก็ไม่ได้ดึงดูดใจเท่าซาโต้ค่ะ
และทั้งๆที่ซาโต้ก็เป็นแค่ตัวรองด้วย ก็ยังเด่นเตะตา ช่วยอวยค่ะ อิอิ
แล้วมาชอบมากๆตอนที่เป็นguest ในMR. BRAIN ตอนที่ 4อ่ะค่ะ
มะนาวว่าซาโต้แสดงออกทางสีหน้าแววตาได้ดีจริงๆค่ะ
ส่วนในRookies ซาโต้เด่นที่ทรงผมจริงๆค่ะ คือถึงจะมีดาราในเรื่องนั้นเยอะมาก
แต่ซาโต้ก็ไม่ได้ถูกกลืน และถึงแม้จะไม่ค่อยมีบทพูด
แต่สีหน้า แววตาที่ซาโต้แสดงออกมา ก็ทำให้โดดเด้งเตะตาได้ไม่ยาก
แล้วจะบอกว่าชอบดวงตายาวรีเกือบโปนของซาโต้ด้วยเช่นเดียวกันค่ะ
แล้วคุณprysangบรรยายซะอยากดูเลยค่ะกับอาการ
"หงุดหงิดที่ต้องคอยควบคุมความประพฤติและอาการหึงเล็กๆที่น่ารัก"
อ๊ายยย คงน่ารักนะคะ จินตนาการเริ่มบรรเจิดอีกแล้วยัยมะนาว อิอิ
อ่านจากที่รีวิวแล้วชอบบทของยามาโมโต้ ทามิโกะนะคะ
เพราะนักแสดงที่รับบทนี้ Renbutsu Misako หน้าตาน่ารัก และออกมาทางเรียบร้อย
ได้รู้จักเธอครั้งแรกจากเรื่อง Nanase Futatabi ของNHK อ่ะค่ะ
เรื่องนั้นเธอรับบทได้สมกับบุคลิกค่ะ คือเรียบร้อย นิสัยดี น่ารัก
แต่พอบอกว่าเรื่องนี้เธอรับบทที่ฉีกแนวจากบุคลิกเดิมๆ
เรียกความสนใจได้ทันทีเลยค่ะ แบบว่าอยากเห็นเธอแร๊งส์ส์ส์อ่ะค่ะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 182.53.44.125 วันที่: 18 ธันวาคม 2554 เวลา:9:18:03 น.  

 
วันก่อนเก็บแผ่นหนังลงกล่อง เพื่อทำพื้นที่ว่างของลิ้นชักใหญ่ใต้ทีวี (มันเยอะมว๊ากกก) เห็นอยู่นะคะคุณมะนาว Absolute boyfriend น่ะค่ะ ยังไม่ถูกจัดเก็บแพ็คลงกล่องแสดงว่าแอบมีความสนใจให้นิดนึง ไว้จะพิจารณา ขอลืมภาพลักษณ์ของหนูไอบุที่หลังๆ เล่นบทที่ไม่ค่อยชอบไปสักพักนึงก่อนค่ะ


โดย: prysang IP: 146.23.250.105 วันที่: 19 ธันวาคม 2554 เวลา:11:25:10 น.  

 
ชอบดูเรื่องนี้เหมือนกัน พระเอกหน้าแอบเหมือน คาเมะ นะนี้


โดย: Sahuiny IP: 101.109.57.187 วันที่: 27 มกราคม 2555 เวลา:21:25:12 น.  

 
เรื่องนี้ไม่ต้องบอกทาเคะจังก็แสดงดีอยู่แล้ว แต่ตอนแรกไม่ได้คาดหวังกับน้องอัตจัง ผู้ซึ่งเล่นเป็นคิวโตะเลย แต่พอดูๆ ไป น่ารักค่ะ ชอบตอน ก๊อง! ที่น้องเค้าเอาตัวหนังสือแบบเลียนเสียงในการ์ตูนมาช่วยแสดงสีหน้า อารมณ์ น่ารักมากเลยล่ะ แต่ก็นะเมื่อนางเอก หรือพระเอกเป็นหุ่นยนต์ ตอนจบก็มักจะออกแนวเศร้าตล๊อดดดด เสียน้ำตาตลอดดด T^T

ปล. สำหรับเรื่อง Absolute boyfriend แนะนำดูให้ถึง SP เลยนะคะ เป็นอะไรที่ซึ้งมากๆ ค่ะ


โดย: dreaminem IP: 203.146.136.113 วันที่: 11 เมษายน 2555 เวลา:15:00:44 น.  

 
เป็นอีกคนหนึ่งค่ะ ที่ชอบทาเครุ ซาโต้ แบบเกินพิกัดธรรมดา พ่วงด้วยหวานใจไม่เสื่อมคลาย ฮารุมะ มิอุระ ที่น่ารักมั่กมาก สำหรับเรื่อง Q10 ที่ดูเพราะชื่อชอบในตัวซาโต้ หาโหลดในเน็ตไม่ได้ ก็สั่งซื้อซะเลย เอาแบบสกรีนภาพด้วย แน่นอนว่าความกลมกล่อมของเนื้อหาไม่มีเลย ตัวละครทุกตัวดูขัดกับสถานการณ์ยังไงไม่รุ แต่ถ้าไม่คิดอะไร ถือเป็นเรื่องที่น่ารักมาก นักแสดงอย่างซาโต้ ก็ไม่ทำให้แม่ยกอย่างช้านผิดหวังเลยใจ ตัวนางเอกหุ่นยนต์ตอนแรกๆไม่ชอบเธอเลย เนื่องด้วยความริษยาส่วนตัวที่เธอดันเมาแล้วให้ซาโต้อุ้มกลับบ้าน (ทำไมต้องเป็นสุดที่รักของชั้นยะ!!) แต่สุดท้ายต้องยอมรับและยอมรัก เพราะเธอคนนี้ฝีมือการแสดงทางละครอาจยังไม่เด่นชัดเท่าฝีมือการแสดงบนเวทีก็จริง แต่เธอมีเสน่ห์ดี ยิ่งมองยิ่งเอ็นดู ไม่แปลกหากซาโต้จะมีใจให้เธอในชีวิตจริง (แต่อย่าเลยถ้าเป็นไปได้ มีแง่คิดในหลายมุมมอง ขอบคุณเจ้าของblog มีความสุขที่ได้เข้ามาอ่านค่ะ


โดย: จ๊ะเอ๋ IP: 27.55.11.151 วันที่: 18 พฤษภาคม 2556 เวลา:21:08:31 น.  

 
เป็นไปได้...อย่ารักสาวไหนเลยนะคุณซาโต้...ไม่งั้นฉันต้องร้องไห้เป็นปีๆแน่เลย...คริคริ


โดย: ทองดี IP: 171.96.34.36 วันที่: 18 มกราคม 2558 เวลา:2:24:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prysang
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]




จำนวนผู้ชม คน : Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add prysang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.