Group Blog
 
All blogs
 
Yankee Bokou ni Kaeru เมื่อยูทากะปะทะฮายาโตะ ตำแหน่งซีรีส์สุโค้ยย์แห่งปี ไร้เงื่อนไข ยกให้เลย




สุโค้ยย์ที่สุด

เพราะมันเป็นอะไรที่.....น่ารักสุดๆ ในสามโลก



ปกติมีหนุ่มเดียวคนนี้ลำพัง ก็..'โอเว่อร์!' ผิดปกติธรรมดามากโขอยู่แล้ว

แต่ยังมีเขาคนนี้



นั่นทำให้เว่อร์ได้อีก

แล้วยังมีเธอคนนี้



จะหาได้ที่ไหนอีก ที่จะมี อิชิฮาระ ฮายาโตะ , ทาเคโนะอุจิ ยูทากะ ,ชิโนฮาระ เรียวโกะ รวมอยู่ในเรื่องเดียวกัน นี่จึงเป็นการ 'รวมดารา' ที่ถูกใจที่สุดในบรรดาซีรีส์ทั้งหลายที่ดูผ่านมาในปีนี้ และต้องถือเป็นการรวม 'สามพลังเสียง' เพราะตัวผู้เขียนนั้นชอบเสียงพูดของทั้งสามคนมากๆ โดยเฉพาะเสียงของฮายาโตะ

ดังนั้น บล็อกนี้ อย่าว่ากัน ถ้าจะเขียนอะไรที่มัน 'เว่อร์เกินไป'

ดูเรื่องนี้จบ ถูกใจ จึงไปค้นหาดูชื่อมือเขียนบท พบเจอชื่อ Izumi Yoshihiro เป็นผู้เขียนบทคนเดียวกันกับ Rookies ที่ยังคงปลื้มอยู่มิรู้หาย (ยังฟังเพลง Kiseki ของ Green อยู่ทุกวัน) และยังเป็นผู้เขียนบท Nankyoku Tairiku เรื่องล่าสุดของป๋ายะที่ยังไม่ได้ดูแต่ได้ยินเขาร่ำลือด้วยล่ะ ส่วนผู้เขียนบทร่วมอีกคนคือ Iino Yoko ไม่เคยรู้จักผลงานของเธอเลย



Yankee Bokou ni Kaeru เป็นซีรีส์ปี 2003 ฮายาโตะเกิดในปี 1987 ดังนั้น ตอนที่แสดงเรื่องนี้ ก็เพิ่งมีอายุ 16 ขวบ ยังเป็น 'ฮายาโตะน้อย' อยู่เลย ตอนแรกคิดว่าจะเป็นแค่บทตัวประกอบกิ๊กก๊อกท่ามกลางเด็กวัยรุ่นนักเรียนทั้งหลาย แต่เอาเข้าจริงมีบทบาทโดดเด่นสำคัญไม่น้อยเลย ทั้งยังเป็นบทที่ถูกจัดมาเปิดเรื่องครอบครองตอนแรก เอาความเด่นไปแบ่งกันกินแค่สองคนกับคุณพี่ยูทากะ (ตอนนั้นยังไม่แก่ แต่ถ้าเป็นตอนนี้ต้องเรียกป๋า “ป๋ายู” เพราะป๋าแก่กว่าป๋าทาคุยะเสียอีก)

เป็นซีรีส์ที่ TBS กับ HBC (Hokkaido Broadcasting) ได้ร่วมกันสร้างขึ้นโดยอ้างอิงมาจากเรื่องราวของโรงเรียนแห่งหนึ่งในฮอกไกโด "Hokusei Yoichi High " โรงเรียนแห่งแรกในญี่ปุ่นที่ยอมรับนักเรียนที่เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียนอื่นๆ ทั่วประเทศให้เข้ามาเรียน



โยชิโมริ ชินยะ ( ทาเคโนะอุจิ ยูทากะ) อดีต 'เด็กมีปัญหา' ที่ไม่ต่างจากเหล่าบรรดานักเรียนในโรงเรียนนี้ เคยถูกไล่ออก เคยได้รับโอกาส ได้รับการอบรมสั่งสอน ขัดเกลา จนมุ่งหน้าไปสู่ความสำเร็จทางการศึกษาและกลับมาเป็นครูที่ Hokusei Yoichi เรื่องราวของซีรีส์จะติดตามการเป็นครูของโยชิโมริที่ได้เอาใจใส่ดูแล ประคับประคองให้นักเรียนของตนผ่านพ้นปัญหาและเติบโตไปสู่โลกภายนอก โรงเรียนแห่งนี้ ไม่มีความประนีประนอม ไม่มีการโกหก มีแต่ความจริงใจ ความเขื่อใจ พร้อมจะให้อภัยในความผิดพลาดและให้โอกาส



เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเด็กนักเรียนคนใหม่เดินทางมาถึง

ยูอิจิ โทรุ (อิชิฮาระ ฮายาโตะ) กับมาดนั่งคาบบุหรี่หลังพิงเสาอยู่ที่แอร์พอร์ต ไม่ต้องบอกก็รู้ ท่าทีอย่างนั้น กับเสื้อผ้าหน้าผมอย่างนี้ 'เด็กมีปัญหา' ชัวร์! ไลท์เตอร์ในมือไม่ติด เขาจึงเอ่ยปากถามยืมกับชายหนุ่มแปลกหน้าในชุดวอร์มสีแดงที่เดินผ่านมา มีไลท์เตอร์ให้ยืมหรือเปล่า แต่ชายคนนั้นบอกว่าเขาเลิกบุหรี่แล้วตั้งแต่ตอนอายุ 18 ปี นอกจากไม่ให้ยืม ยังยึดไลท์เตอร์จากมือโทรุไปอีก (หาเรื่องกันนี่หว่า) มัวลีลาเต๊ะท่าเป็นผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน แถมยังเอ่ยปากตำหนิสั่งสอน 'แม่' ของเด็กหนุ่มที่ไม่มีปัญญาจะห้ามปรามลูกชายได้ พูดมากนัก ชายคนนั้นก็เลยถูกเด็กมันทำแสบด้วยการยัดข้อหาขโมย ขณะที่กำลังโดนข้อหา 'สูบบุหรี่ในที่สาธารณะ' อยู่หลัด ๆ ชายหนุ่มชุดแดงถูกเจ้าหน้าที่ล็อคตัวไป เพราะเผลอไผลเสียท่าทำตัวเอง บวกกับการโดนลูกเล่นใส่ร้ายของเด็กแสบ

“You’re good , Kanno Tooru”

นั่นคือคำพูดที่ออกจากปาก แต่ที่ออกจากสายตาคือ ฝากไว้ก่อนเถิดเจ้าเด็กเวร

โทรุ ประหลาดใจ เมื่อชายแปลกหน้ารู้จักชื่อของเขา ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ชื่อปลอมที่เขาต้องใช้ เพราะพ่อไม่อยากให้มีชื่อร่วมสกุล 'คันโนะ โทรุ'



ซวยชะมัด!! โยชิโมริต้องถูกคุมตัวติดแหงกกับข้อหาสูบบุหรี่ในที่ห้ามสูบอย่างน่าโมโห เขารู้จักว่าเด็กคนนั้นเป็นใครเพราะในคู่มือการเตรียมสอน มีรูปถ่ายและรายชื่อของนักเรียนทุกคนที่เขาจะมาเป็นครูผู้ช่วยประจำชั้น และเขาก็จดจำนักเรียนได้แล้วทั้งหมด Damn it! ให้เขาหลุดจากข้อหาตรงนี้ไปได้ก่อนเถอะ 'คันโนะ โทรุ' เขาจะต้องสั่งสอนเจ้าเด็กบ้านั่น ให้รู้สำนึก

โทรุถูกพาไปเยี่ยมชมโรงเรียน จากหน้าตาบ่งบอก เขาไม่ได้เต็มใจมาและไม่มีความพึงพอใจใดต่อโรงเรียนแห่งนี้ เมื่อถูกพาไปยังหอพัก โทรุได้รู้แล้วว่า ชายแปลกหน้าเป็นใครเพราะรูปที่ติดบอร์ดไว้พร้อมคำบอกเล่าของเจ๊ผู้ดูแลหอพัก โมโมเอะ (ชิโนฮาระ เรียวโกะ)

เวรล่ะสิ เล่นงานใครไม่เล่น ไปเล่นกับคนเป็นครูเข้าแล้ว

หลังจากนั้น เมื่อโยชิโมริมาถึงในตอนค่ำ แค่ได้ยินเจ๊โมโมเอะ เรียกชื่อโยชิโมริอย่างดีอกดีใจ โทรุก็เผ่นแน่บทันที แต่ไม่รู้จะไปหลบซ่อนที่ไหน อารามตื่นตกใจก็วิ่งโผไปโผมาจนป๊ะหน้ากับครูเข้าจนได้ โยชิโมริก็ตื่นตัวเส้นโมโหโป่งพองตั้งแต่ได้ยินโมโมเอะตะโกนดุโทรุที่วิ่งตึงตังเสียงดังอยู่ข้างบนแล้ว




ออกฝีเท้าทันที พบหน้าสบตา ไล่ตะครุบกันเหมือนแมวไล่จับหนู โทรุจนมุมในห้องน้ำที่เพื่อนนักเรียนโข่ง โอโคมุระ คาสุโตะ (Nagai Masaru) กำลังนั่งแช่อ่างอยู่ แต่แล้วการณ์กลับตาลปัตร คำพูดคำนึงของครูที่ตะครุบตัวโทรุคว่ำหมอบอยู่กับพื้น เกิดเป็นแรงฮึดให้โทรุดิ้นหลุด แล้วลุกขึ้นมาหันไปเตะครู…เต็มแข้ง ครูยกมือป้องกองติดมุมอยู่ในห้องน้ำที่นักเรียนคาสุโตะรีบหันหลังให้เพื่อหลบลายสักยากูซ่าบนแผ่นหลังให้พ้นสายตาครู คาสุโตะเป็นนักเรียนใหม่ที่เดินทางมาถึงแอร์พอร์ตและโมโมเอะไปรับมาพร้อมกันกับโทรุนั่นเอง

โยชิโมริไม่ได้โกรธเคืองที่โทรุถึงกับกล้าเตะเขาที่เป็นครู แต่ครูงง ! งง …อะไรของมันวะเนี่ย จากที่เห็นๆ อยู่ว่าโทรุกลัวเขาจึงวิ่งหนีหัวซุน แต่อยู่ๆ ก็หันมาใช้กำลังอย่างนักเลงตัวร้ายด้วยความฉุนเฉียวฉับพลันราวกับโกรธจัดที่อยู่ๆ ไม่รู้เกิดจากอะไร อารมณ์โมโหขาดแบบนี้มันคืออะไรกัน ครูงงครับท่าน

โทรุ เป็นเด็กมีปัญหาไม่เบาอย่างไม่ต้องสงสัย วันรุ่งขึ้นเขาฉุนขาดอีกครั้ง กับคำพูดคำนึงคำเดียวกันที่ทำให้เงามืดโฉบสายตา และพุ่งลงมาจากชั้นบน พร้อมฉวยเก้าอี้ติดมือแล้วเขวี้ยงมันไปกลางวงข้าวที่นักเรียนร่วมหอพักกำลังกินอาหารเช้ากันอยู่พร้อมหน้า จากนั้นเขาก็วิ่งหนีออกไปในเช้าวันที่เป็นวันปฐมนิเทศนักเรียนใหม่

นี่คือ นักเรียนเจ้าปัญหาคนแรกที่โยชิโมริต้องรับมือ ยังไม่ทันได้เข้าพิธีปฐมนิเทศ ยังไม่ทันได้เป็นครูกับเขาสักวันก็ต้องปวดหัวตื๊บ! ยังไม่ทันจะอะไรๆ สักอย่างเลย ก็ 'งานเข้า' (เพราะเจ้าโทรุตัวแสบ)




โทรุเป็นเด็กที่พ่อไม่ต้องการ แม่เอามาปล่อยทิ้ง ครอบครัวร้าวฉานที่ประคับประคองการหย่าขาดเอาไว้เพียงเพื่อรักษาหน้าตาในสังคม เนื่องจากพ่อของโทรุเป็นผู้ประกาศข่าวชื่อดัง (คงประมาณลุงสรยุทธ) การขาดความอบอุ่นที่กลายเป็นแรงขับให้ทำเรื่องร้ายๆ และนั่นเป็นเหตุให้แม่ก็ทนความร้ายกาจของเขาไม่ได้ แต่เด็กร้ายๆ คนนี้ ตอนที่ยืนอยู่กลางห้องนอนในหอพักเหลียวมองเตียงสองชั้นและเพื่อนร่วมห้องที่ได้รับการแนะนำ

สีหน้าแววตาไม่ผิดกับการเป็นนกน้อยที่หลงรัง ( น่ารักน่าสงสารมั่กๆ )

ถ้าจะถามหาปัญหาของนักเรียนแต่ละคนในแต่ละตอนที่สนุกๆ ก็มีตอนแรกของฮายาโตะนี่แหละที่สนุกและชอบมากถึงมากที่สุด จริงๆ นะคะ ไม่เกี่ยวกับสมมติฐานการให้คะแนนว่าเป็นเรื่องของฮายาโตะเลยจริงๆ (น่าเชื่อม๊ากก) เด็กหนุ่มโทรุที่หนีออกจากหอพัก กับครูโยชิโมริที่ติดตามไล่หลังไปจนทัน และทำตัวเป็นแมวไล่จับหนูกันอีกครั้ง มันทั้งน่ารักน่าขำแล้วก็น่าเศร้าด้วย แค่ตอนแรกก็เรียกทั้งเสียงหัวเราะและน้ำตาเอาไปซะก่อนใครๆ แล้วจะทำให้หลงรักพวกเขาทั้งคู่ ( อิอิ )




ครู : เธอไม่มีเงินเลยจริงๆ เหรอ
นักเรียน : ไม่มีเลยสักเยน
ครู : ใครจะโง่อย่างนี้นะ หนีออกมาได้ยังไงโดยที่ไม่มีเงินติดตัวเลยน่ะ
นักเรียน : งั้นเหรอ งั้นทำไมยังตามผมมาโดยที่ไม่พกกระเป๋าตังค์มาด้วยนี่นะ โง่ชะมัด!
ครู : หยุดๆ อย่าทะเลาะกันเลย ฉันหิว
นักเรียน : แล้วใครเริ่มก่อนล่ะ

นักเรียนหนีมาโดยไม่มีเงิน ครูที่ตามมาก็ไม่มีเงินเหมือนกัน สรุป โง่พอกันทั้งคู่

ลำบากสิทีนี้ ไม่มีค่ารถเดินทาง ไม่มีเงินจะกินข้าว โทรุชูนิ้วโป้งส่งสัญญาณโบกรถบรรทุก โยชิโมริคอยติดตามไปไม่ห่าง เมื่อครูไม่ยอมเลิกตาม สองคนก็ตะลอนๆ ไปด้วยกันเงียบๆ เพราะโยชิโมริไม่ค่อยเหมือนครูทั่วไปกระมัง (ความจริงไม่ใช่ไม่ค่อยเหมือน แต่ไม่เหมือนคนเป็นครูเลยสักนิด) หลังจากไปด้วยกันไกลสุดกู่จากฮอกไกโดจนถึงโตเกียว หิวจนแสบท้อง ก็สุมหัวตุกติกหาเงินมาได้เพื่อหาอะไรมายาไส้เอาแรง แต่หลังจากกินกันเสร็จโทรุก็ยังดื้อดึง

“ไม่ต้องเป็นห่วงผมอีกต่อไปแล้ว ผมขอร้องล่ะ ปล่อยผมไปคนเดียว”



แต่พอคนเป็นครูยอมทำอย่างนั้นง่ายๆ ยอมปล่อยให้ไป ไม่ขัด ไม่ห้ามสักคำ ทั้งยังให้เงินที่เหลือทอนมาจากค่าอาหารยัดใส่มือโทรุ แถมด้วยคูปองใบหนึ่ง ถึงปากจะบอกครู “ปล่อยผมไปคนเดียว” แต่เมื่อครูไม่ห้ามและต้องไปคนเดียวแล้วจริงๆ สายตาที่มองครู เหมือนคนใจหาย ครูจะไม่ตามมาอีกแล้วเหรอ ช่างปล่อยกันไปง่ายดายเสียจริง (เป็นครูจริงหรือเปล่าเนี่ย) แล้วโทรุก็ต้องหันหลังจากไปอย่างเดียวดายเป็นครั้งแรก (เพราะที่ผ่านมาหนึ่งวันหนึ่งคืนมีครูคอยอยู่ด้วยตลอด)

โทรุหนีมาไกล ก็เพื่อกลับไปที่บ้าน เขายืนมองประตูบ้านอยู่ไกลๆ ไม่กล้าเข้าไป จนได้ยินเสียงแม่เปิดประตูออกมา โทรุแอบมอง คงเป็นสัญชาตญาณความเป็นแม่ลูกนั่นเอง ที่ทำให้แม่ชะงักและเหลียวมาเห็น มองหน้าสบตากัน โทรุอยากขอกลับมาบ้าน หรืออยากพูดอะไรไม่มีใครรู้ เพราะแม่หลบสายตาก้มหน้าหนี เพียงแค่นี้ก็ตอกย้ำความเข้าใจ แม่ยินดีจะจ่ายเงินค่ากินอยู่ให้โรงเรียนเพื่อแลกกับการให้เขาไปให้พ้นๆ แม่ไม่ต้องการเขา

โทรุหันหลังให้บ้าน ให้แม่ที่ยืนอยู่ แล้ววิ่งเตลิดไปตามลำพังในยามโพล้เพล้ที่แสนเศร้า จนไปมีเรื่องกับจิ๊กโก๋ ถูกซ้อมทิ้งไว้อยู่ริมกองขยะใต้สะพาน ควักกระเป๋าออกมาดูยังมีเงินติดอยู่และคูปองยู่ยี่ใบนั้น โทรุเห็นลายมือยุกยิกเขียนไว้

“กลับมา, จะรออยู่ที่นี่”




ที่ร้านอาหารที่เดิมก่อนแยกกัน โทรุกลับมา เพียงเพื่อจะพบว่า 'เขา' ไม่ได้อยู่ที่นั่น โทรุเชื่อว่าในโลกนี้ไม่มีใครที่เชื่อใจได้ และมันก็เป็นเช่นนั้น ร้านที่ปราศจากเงาของโยชิโมริเป็นข้อพิสูจน์ ครูคนนั้นมันเป็นจอมโกหก เขาไม่ได้อยู่ที่นั่น ความน่าเวทนาของเด็กน้อยผู้เคว้งคว้าง นั่นคือความผิดหวังที่ปรากฏอยู่ในดวงตา ก่อนจะขยี้คูปองโยนทิ้งแล้วระบายอารมณ์ผ่านแข้งขา เตะป๊าบเข้าให้กับอะไรสักสิ่งที่อยู่ไม่ไกลเท้า
แต่เสียงโครมครามที่ก่อขึ้นนั่นเอง ทำให้โทรุได้พบว่า ในโลกนี้ยังมีใครสักคนที่ต้องการ และรอคอยเขาอยู่




“เพียะ!” เสียงฝ่ามือของครูอันโด (Yo Kimiko) ตบลงมาบนหน้าของครูโยชิโมริอย่างแรง เธอโกรธที่เขาตามโทรุหายไปสองวันสองคืน โดยไม่มีติดต่อกลับให้รู้ความเป็นไปเลยสักนิด (ก็ไม่มีตังค์โทรอ่ะค่ะ) โทรุผู้เป็นนักเรียนยืนหน้าตาเหรอหรากับสถานการณ์ของครูๆ ตรงหน้า ครูอันโดตบแล้วเดินหนีเข้าห้องไม่พูดอะไรสักคำ เพราะเธอโกรธเกินกว่าจะพูดอะไรออกมาได้นั่นเอง ส่วนครูอิวาซากิ ( Harada Yoshio ) ได้แต่หัวเราะขำ เพราะเห็นหน้างงๆ ของโยชิโมริที่ตามเอานักเรียนคืนมาได้ และคงจะคาดหวังคำชมเชยจากครูอันโดที่เคารพรัก แต่กลายเป็นโดนตบซะหน้าหัน

มันมีฉากกินใจอยู่แล้วหลายฉาก ทั้งตอนที่โทรุมองแม่ตอนกลับไปที่บ้าน ตอนที่โทรุเปิดประตูร้านเข้าไปแล้วไม่พบครูโยชิโมริ ตอนที่โยชิโมริยิ้มอย่างดีใจและติดจะมีขำเล็กๆ ด้วยเมื่อพบว่า ในที่สุด โทรุเลิกดื้อดึงแล้วยอมกลับมาหาเขา สีหน้าและร้อยยิ้มของยูทากะในตอนนั้นแสดงออกมาได้โดนใจสุดๆ

แต่นั่นคือเรื่องของบุคคล ถ้าจะพูดกันถึงความเป็นโรงเรียนที่มีเจตนาแน่วแน่จะแก้ไขกล่อมเกลาพฤติกรรมเหล่านักเรียนไม่เอาไหนที่เหลือเดนไม่เป็นที่ยอมรับจากโรงเรียนอื่นๆ มาไว้รวมกันที่นี่ งานปฐมนิเทศผ่านไปแล้วโดยไม่มีนักเรียนโทรุกับครูโยชิโมริ แต่เมื่อพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนนี้ งานปฐมนิเทศจึงจัดขึ้นเหมือนเดิมทุกประการทั้ง ผอ.โรงเรียนทำพิธิเปิด ครูที่นั่งร่วมพิธีเป็นแถว (แม้ไม่ครบครันทั้งคณะ) และผู้เข้ารับการปฐมนิเทศมีเพียงโทรุเป็นนักเรียนเพียงคนเดียวกลางโถงห้องประชุมใหญ่ที่ยืนเด๋อด๋าหน้าตาตื่นๆ กับการปฐมนิเทศเดี่ยวของตน โดยมีครูโยชิโมริยืนทำหน้าสงบเสงี่ยมอยู่ข้างๆ หนึ่งประการของการปฐมนิเทศ คือ เมื่อครูหรือนักเรียนแต่ละคนแนะนำตัว ต้องกล่าวคำพูดอะไรบางอย่างออกมา อะไรก็ได้ที่อยู่ภายในใจ




no one can ever be trusted , I thought.
and I still believe that.
But, may be that not true.
That's what I'm starting to think now.

"ผมคิดว่า ไม่มีใครที่สามารถเชื่อใจได้ และก็ยังเชื่ออย่างนั้น
แต่ นั่นอาจไม่จริงก็ได้ นั่นคือสิ่งที่ผมเริ่มคิดอยู่ตอนนี้"


ก่อนที่จะพูดประโยคหลัง โทรุลอบมองไปยังครูโยชิโมริแว่บหนึ่ง

noone can ever be trusted , I thought
That's ten year ago
now, I think trusting someone is the only thing I can do

ผมคิดว่า ไม่มีใครที่สามารถเชื่อใจได้ นั่นเป็นเมื่อสิบปีก่อน
ตอนนี้ ผมคิดว่า การเชื่อใจใครสักคนเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ผมทำได้


โทรุเหลียวมองครูโยชิโมริเมื่อเขาพูดคำว่า “เมื่อสิบปีก่อน” สิ่งที่โทรุรู้สึกเราก็เป็นที่เข้าใจได้โดยไม่ต้องมีคำพูดใด




นั่นเป็นเพียง episode แรก ที่ทำให้ติดใจเรื่องนี้เข้าอย่างจัง หลังจากนั้นลูกรักของแม่ (แม่ยก) อิชิฮาระ ฮายาโตะ ก็ถูกลดบทบาทลงไปประมาณสามสี่ตอน เพราะแต่ละตอนมันก็เป็นปัญหาแต่ละเรื่องของนักเรียนแต่ละคน

โยชิโมริ เป็นครูผู้ช่วยของครูประจำชั้น อิวาซากิ จะเปรียบความป๊อบในหมู่นักเรียนของครูอิวาซากินั้นก็อาจถือเป็นเบอร์หนึ่งของโรงเรียน ครูที่สามารถซื้อใจนักเรียนได้ และ 'เอาอยู่' ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนแบบไหน เช่นเดียวกับที่ในอดีตก็เคยเอาโยชิโมริได้อยู่เหมือนกัน ครูอิวาซากิอาจดูเป็นครูห่ามๆ แต่เขาเป็นครูที่เด็กนักเรียนรักและไว้เนื้อเชื่อใจ แต่อยู่ๆ ครูอิวาซากิก็ล้มป่วยกระทันหันต้องเข้าโรงพยาบาลและไม่มีท่าทีจะฟื้น เมื่อครูประจำชั้นที่เคารพรักล้มลง คนที่เสียใจที่สุดก็คือเหล่าหนักเรียนห้อง 3C ห้องบ๊วยที่หากไม่ใช่ครูอิวาซากิ เป็นครูคนอื่นอาจจะ 'เอาไม่อยู่' ในคณะครูจึงไม่มีใครคิดว่าครูหน้าใหม่อย่าง โยชิโมริจะเอาอยู่และสู้ไหว แต่ด้วยความตั้งใจอันแรงกล้า ซึ่งเป็นผลมาจากความรู้สึกภายในที่ครูอิวาซากิเคยเป็นครูของเขาในอดีต โยชิโมริจึงดึงดันทุกวิถีทางที่จะขอเป็นครูประจำชั้นห้อง 3C แทนครูอิวาซากิระหว่างที่ยังไม่ฟื้นและกลับมาสอนได้

การกระทำของเขา ถูกนักเรียนมองเป็นการ 'เทียบชั้น' และพยายามเข้ามา 'แทนที่' ปัญหาการรวมหัวต่อต้านครูอย่างรุนแรง ชนิดที่สไตร์เกือบยกชั้นจึงเกิดขึ้น ที่เหลือหัวโด่เด่อยู่ในห้องไม่กี่คนก็มีที่โดดเด่นเสมอ (ในใจฉัน) เช่น โทรุ ผู้กลายเป็นลูกรักของครูโยชิโมริไปแล้ว หลังจากทั้งสองคนถูกลงโทษกักบริเวณและการทำงานหนักในฟาร์มวัวร่วมกัน โทรุเป็นนักเรียนคนแรก ที่เรียกโยชิโมริว่า 'เซนเซย์' แบบเต็มปากเต็มคำ แม้หลังจากนั้นเขาจะกลับมาเรียกชื่อ 'โยชิโมริ' ราวกับเป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันก็ตาม คำว่า 'เซนเซย์' ที่ได้ยินเป็นครั้งแรกจากปากของนักเรียน และคำเรียกนี้มาจากการยอมรับนับถือด้วยใจจริง คำนั้นของโทรุ ทำให้โยชิโมริอดไม่ได้ต้องแอบลอบยิ้มอย่างมีความสุข แล้วอย่างนี้จะไม่เรียกว่าโทรุเป็นลูกรักของครูโยชิโมริได้อย่างไร (รักนะตัวแต่ไม่แสดงความลำเอียงเมื่ออยู่ในชั้น)




น้ำท่วมทุ่งอีกละ จะบอกว่าในห้องก็เหลือโด่เด่อยู่ไม่กี่คน เช่น โทรุ คาสุโตะ อดีตยากูซ่าภรรยาหอบลูกหนีผู้หันหลังให้วงการยากูซ่าหันหน้ามาเรียนและหวังจบออกไปหางานการอื่นทำเพื่อตามทวงลูกสองภรรยาหนึ่งกลับคืน คาสุโตะอายุมากกว่าครูบางคนอีก จึงเป็นผู้ใหญ่หน้าโหด ที่รักสันโดษและไม่สุงสิงกับใคร ความตั้งใจมั่นต่อการเรียนและการจบออกไป บวกกับการเป็นนักเรียนหน้าใหม่ที่เพิ่งย้ายมาพร้อมกับโทรุ ทำให้คาสุโตะ ไม่ได้เกรงกลัวการแปลกแยกจากเด็กนักเรียนคนอื่นหากไม่ร่วมต่อต้านโยชิโมริ เขาไม่รู้ว่าครูอิวาซากิดีเลิศแค่ไหน เพื่อจะเรียนจบให้ได้ เขาไม่อยากมีปัญหากับครู และครูโยชิโมริก็ไม่ใช่ปัญหาของเขาด้วย

การซื้อใจใครสักคนเป็นเรื่องยาก แต่การจะซื้อใจเด็กนักเรียนที่สไตรท์ เกือบยกชั้น และหยามน้ำหน้ากันด้วยการสไตรท์เฉพาะคาบเรียนของเขาแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆ เพราะกว่าจะผ่านเรื่องนี้มาได้ โยชิโมริก็ต้องใช้ความทุ่มเทสุดกำลังจนหมดไปตั้งสองตอน แล้วก็มีทั้งปัญหาการกลั่นแกล้งที่ทำให้เด็กนักเรียนคนหนึงถึงขั้นพยายามฆ่าตัวตาย ปัญหาเด็กนักเรียนที่ขาดความมั่นใจ ไม่เข้าสังคมและไม่ปริปากพูดคุยกับใคร ปัญหาการสูบบุหรี่ ความสัมพันธ์หนุ่มสาววัยเรียนที่เกิดเป็นการตั้งครรภ์ ทางเลือกระหว่างอนาคตทางการศึกษาและความรับผิดชอบในการกระทำ ปัญหาการไม่เป็นที่ยอมรับ ภาพลักษณ์ติดลบที่ไม่อาจลบล้างหรือเรียกศรัทธาจากครอบครัวที่รักได้อีก และสุดท้ายคือปัญหาหนักหน่วงที่สุดคือการสูบกัญชาที่ระบาดขึ้นในโรงเรียน




ซีรีส์เรื่องนี้สร้างอารมณ์มาหลอกกันด้วยความขำๆ น่ารักของยูทากะกับฮายาโตะในตอนแรกเท่านั้น สองตอนต่อมาในเรื่องของการต่อต้านครู บางทีก็คิดว่า เอ๊ … เด็กนักเรียนจะศรัทธาครูอิวาซากิจนเกิดความรู้สึกต่อต้านอะไรกันขนาดนั้น มันดูเหมือนเป็นการ์ตูนไปสักหน่อย แต่หลังจากนั้นมาเรียกได้ว่าแต่ละปัญหาค่อนข้างสมจริงขึ้น ตอนที่ประทับใจอีกตอนคงเป็นการกลั่นแกล้งและฆ่าตัวตาย มันไม่ได้ยืดเยื้อยาวนานดึงอารมณ์อยู่กับการกลั่นแกล้งต่างๆ แต่มันโดดเด่นมากๆ ที่อารมณ์ของคนเป็นครู

ฉากในห้องเรียนฉากนั้นมันเยี่ยมจริงๆ แม้นักเรียนจะร่วมแสดงทั้งห้อง แต่ก็เหมือนยูทากะเล่นคนเดียวด้วยระยะเวลาที่นานเอาเรื่อง จากความต่อต้านวุ่นวายที่ไม่สงบจัดการให้อยู่ในความสงบ จากการที่ไม่ฟังทำให้ทุกคนหยุดและนิ่งฟัง จากการที่ปิดปากสนิทให้เปิดปากสารภาพ จากการโต้เถียงที่ทุ่มเถียงกลับไปอย่างรุนแรง จากการที่ไม่ยอมรับผิดให้ยอมรับว่าผิด และเป็นการยอมรับด้วยสำนึกผิดจากใจจริงด้วย แม้แค่การเพิกเฉยกับการที่รู้ว่าเพื่อนถูกแกล้ง มันก็เป็นความผิดแล้ว การมองดูแล้วแค่เห็นใจ โดยไม่ทำอะไรเลย “เห็นใจนะ” แต่ “ช่วยไม่ได้นี่” มันไม่ใช่ความความจริงใจที่จะพูดออกมาจากปากได้โดยไม่รู้สึกละอาย

ผู้เขียนประทับใจฉากนี้มาก มันเป็นฉากที่ดีที่ราวกับว่ายูทากะแกคงจะโกยพลังมาจากทุกอณูเซลล์เพื่อที่จะใส่อารมณ์ออกมา ยูทากะเล่นฉากนี้ทำให้แอบคิดอยู่ขำๆ ว่า ระหว่างเส้นเสียงในคอ กับเส้นเลือดในสมอง น่ามีอะไรแตกได้สักอย่าง (ฮ่าฮ่า) ผู้เขียนเทียบชั้นฉากนี้ได้ กับฉากปราศรัยยุบสภาของป๋ายะ ในเรื่อง Change แต่ฉากนั้นมันนิ่งๆ ค่อยๆ คล้อยตามและอินไปกับมัน แต่ฉากนี้มันเป็นความดุเดือดทางอารมณ์ที่เริ่มจากการระอุเบาๆ แล้วร้อนขึ้นๆ เดือดปุดๆ แล้วค่อยเย็นลง และมันกลายเป็นความสมเหตุสมผลที่มิตรภาพของห้อง 3C ได้เริ่มก่อตัวขึ้น หลังจากที่มันเคยเป็นสังคมแบบตัวใครตัวมัน ดูอย่างโทรุ ผู้เดียวที่แปลกแยกเพราะเขายอมรับโยชิโมริแล้วตั้งแต่วันก่อนเปิดเทอม ไม่เคยสุงสิงพูดกับใคร ง่วนอยู่แต่กับหนังสือในมือ (น่าจะไม่ใช่หนังสือเรียน) ยังต้องวางหนังสือลงเพื่อร่วมในเหตุการณ์ ‘สังคายนาหมู่’ ครั้งนี้ คาสุโตะผู้เป็นอดีตสมาชิกยากูซ่าหน้านิ่ง ยังปรากฏความรู้สึกเสียใจออกมาผ่านใบหน้า เพราะคาสุโตะเป็นหนึ่งในคนที่รู้ดีว่าเพื่อนถูกกลั่นแกล้ง เห็นใจอย่างมาก แต่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย




มีความหลากหลายวิธีในการแก้ปัญหา กับปัญหาของโทรุในตอนแรก โยชิโมริมีอารมณ์ขี้เล่น เป็นกันเอง และอดีตที่คล้ายคลึงกันกับการเป็นลูกที่ถูกขับออกจากบ้าน หรือการเป็นนักเรียนที่หนีเตลิดออกจากหอพัก โดยมีครูคอยติดตามด้วยความเป็นห่วงอย่างจริงใจ จนนำเขากลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้

กับปัญหาการสไตรท์ต่อต้าน โยชิโมริมีความดิบ เถื่อน ห่าม และลูกบ้าอย่างที่นักเรียนคาดไม่ถึง และอย่างที่บอกไปคือไม่มีการประนีประนอม หรือไว้หน้านักเรียนคนไหน ไม่ว่าจะมีกี่คนที่สไตรท์เขาก็จะลากคอเด็กพวกนั้นกลับมาเรียนให้ได้ แต่กับปัญหาการกลั่นแกล้งจนเกิดเป็นการฆ่าตัวตายซึ่งเป็นพฤติกรรมขมขื่นในใจที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้าในอดีตและเลิกไป การถูกกลั่นแกล้งเป็นการกระตุ้นซ้ำจุดอ่อน ให้ลงมือกระทำอีกครั้ง กับปัญหานี้สิ่งที่ครูโยชิโมริเป็น มันไม่ใช่ความห่าม แต่ผู้เขียนคิดว่ามันเป็นความดุดันที่ไม่ว่านักเรียนคนไหนที่ว่าแน่ก็ไม่กล้าหือ ต่อให้ไม่มีความเคารพก็ต้องสยบและฟังในสิ่งที่ครูต้องการจะพูด

กับปัญหาของเด็กที่ขาดความมั่นใจ กลัวการถูกคาดหวังและไม่เชื่อใจคนอื่น โยชิโมริได้แสดงถึงความอ่อนโยนที่จะปลอบประโลมและดึงนักเรียนออกมาจากโลกแคบๆ ของตัวเอง สอนให้รู้จักเชื่อใจคนอื่น มันเหมือนกับโยชิโมริได้ผ่านความเป็นดราม่าแบบการ์ตูนมาเป็นดราม่าชีวิตจริงๆ จากครูใหม่หมาดที่ไม่คุ้ยเคยกับการเป็นครูแล้วต้องมาเผชิญกับปัญหาต่างๆ ที่หนักๆ การเรียนรู้ก่อให้เกิดประสบการณ์และพัฒนาการ ความดุเดือดเลือดร้อนแบบ “ข้าเจ๋ง” ที่ค่อยๆ เพลาลงในช่วงกลางๆ และกลายเป็นความสุขุมเยือกเย็นมากขึ้นในช่วงหลังๆ




I meant to work hard in front of the students for their sake.
But after all, all I did was show off.
the one standing in front of them is me.
I proudly thought.
I didnot notice at all what they needed.

"ผมตั้งใจทำงานหนักต่อหน้านักเรียนเพื่อประโยชน์ของพวกเขา
แต่ทั้งหมดที่ผมทำมันคือการโชว์ออฟ
หนึ่งเดียวที่ยืนหยัดอยู่ตรงหน้าพวกเขาคือผม ผมคิดอย่างภูมิใจ
ผมไม่ได้สังเกตรู้เลยว่า พวกเขาต้องการอะไร"


แต่ทั้งหมดที่รวมกันออกมาเป็นครูโยชิโมริมันทำให้อินกับคำว่า 'จิตวิญญาณของการเป็นครู' ซึ่งต้องยกเครดิตทั้งหมดให้กับการแสดงแบบ 'ได้ใจ' ของยูทากะ รางวัล Best Actor ก็เป็นเครื่องการันตีในฝีมือ




ถูกใจยิ่งต่อมาคือปัญหา 'เครียด เศร้า สูบบุหรี่' เหตุผลที่ชอบเพราะโทรุกลับมาโดดเด่นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ใช่ซะที่ไหนล่ะ เป็นเพราะตอนนี้มันดีจริงน่ะค่ะ เป็นการแก้ปัญหาแบบ “ผู้ชายๆ” ชอบมากเลยตอนที่โยชิโมริพาเด็กๆ ตัวปัญหามานั่งคุยกันอย่างเปิดใจ แล้วยังต้องพาทั้งสามคนไปดูแลระหว่างการถูกลงโทษ สามคนคือ ฮิเดโอะ (Hayami Mokomichi พระเอก Tokyo Tower) คาสุโตะ และโทรุ

สำหรับโทรุก็อย่างที่รู้กันคือมีความสัมพันธ์ทางใจกับครูโยชิโมริมาแต่ต้น การสร้างปัญหาขึ้นครั้งนี้ ไม่ต้องรอให้ครูพูดให้มากความก็ได้สำนึกผิดอยู่แล้วอย่างจริงใจ มองหน้าครูและเอ่ยปากก่อนใคร

“ผมขอโทษ”

การเรียกผู้ปกครอง เป็นอีกครั้งกับความห่วงใยจริงจังที่ครูโยชิโมริมีต่อลูกศิษย์รักโทรุ แล้วมันช่วยให้เห็นว่าโยชิโมริก็เป็นคนธรรมดา ใช่ว่าทุกอย่างที่เขาคิดทำและคิดไม่ทำจะเป็นวิธีที่ดีเสมอไป เพื่อตัวโทรุเอง ครูอันโดต้องยื่นมือเข้ามา เพราะปัญหาระหว่างโทรุกับครอบครัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องใช้ความอ่อนโยนใจเย็นเข้าช่วย การปล่อยโยชิโมริจัดการตามลำพัง อาจไม่ได้ทำให้เรื่องดีขึ้น แล้วยังมีปัญหาของคาสุโตะกับอดีตภรรยาที่โยชิโมริต้องรับรู้เพื่อสอดส่องสภาพจิตใจ ครูคนนี้จึงค่อนข้างมีภารกิจยุ่งเหยิง

“ขอโทษนะโทรุ ช่วยรออยู่นี่สักพักก่อนนะ
เสร็จจากเรื่องคาสุโตะแล้ว เราจะไปที่อพาร์ตเมนท์ของฉันกัน”


โทรุมองตามหลังครู ชั่งใจ… ร้องเรียก

“โยชิโมริ ..”
“หือ”
“เสร็จจากเรื่องเขาแล้ว ผมอยากคุยด้วย”
“อืม ได้สิ เรามีเวลาคุยกันได้ทั้งคืนเลย”


โห …ชอบมากค่ะฉากนี้ แม้โทรุได้ตกหลุมรักครูมานานตั้งแต่วันที่เขาพบว่าครูรออยู่จริงๆ วันนั้น วันที่ลูกผู้ชายนายโทรุซ่อนหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นกับชามอาหารอย่างหมดอาย ความพยศที่พ่ายแพ้ต่อความจริงใจของครูอย่างหมดรูป จนยอมเปิดปากทำไมเขาถึงทำเรื่องร้ายๆ จนแม่ส่งตัวมาที่โรงเรียนนี้ ทำไมเขาถึงอารมณ์ร้ายฉับพลันจนลุกขึ้นมาเตะครูและเขวี้ยงเก้าอี้ใส่เพื่อนๆ วันนั้น แต่นั่นมันด้วยอารมณ์ของคนแพ้ที่เก็บไม่ไหวจนต้องพรั่งพรูระบายใจ ซึ่งนี่ต่างกัน นี่คือโทรุที่เติบโตขึ้น โทรุที่ยอมรับสภาพปัญหาของครอบครัว และโทรุที่ไตร่ตรองพร้อมมั่นใจ “ผมอยากคุยด้วย” ปัญหาของเขาที่อยากเปิดใจให้ครูที่เขาเชื่อใจช่วยรับฟัง

มันเป็นฉากที่รู้สึกดีมากๆ เลย



ปัญหาเรื่องการสูบกัญชาระบาด ผู้เขียนรู้สึกว่ามันนำเสนอออกมาในแง่ของการเป็นครูได้ดีมากๆ ครูที่ต้องประชุมระดมสมองกันเพื่อจะหาวิธีแก้ปัญหา โดยต้องไม่หลงลืมจุดยืนของการเป็นโรงเรียนนี้ โรงเรียนที่ยอมรับเด็กมีปัญหาเข้ามา และหากที่นี่ยังปฏิเสธพวกเขา ก็ไม่เหลือที่ใดอีกแล้วในประเทศนี้ที่จะยอมรับพวกเขาไว้ได้ เจตนารมณ์อันมุ่งมั่นของโรงเรียนนี้คืออะไร เพื่อใครที่ต้องยืนหยัด นั่นเป็นสิ่งที่ครูต้องคิดและไตร่ตรองหาทางออกที่ดีที่สุด มันเหมือนวิกฤติใหญ่ของโรงเรียนที่จะต้องร่วมกันฟันฝ่าไปให้ได้

ความจริงแล้ว เรื่องของครูในเรื่องนี้ มันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวมาตลอด ครูคนอื่นๆ อาจไม่ได้เป็นครูประจำชั้น 3C ที่ต้องชนกับปัญหาของนักเรียนตัวเองโดยตรง แต่ไม่ได้หมายความว่าพระเอกของเรื่องนี้เป็นครูคนเก่งที่ทุ่มเทอยู่คนเดียว ตรงกันข้ามครูโยชิโมริเหมือนเป็นไก่อ่อน ที่ต้องมีครูอาวุโสอื่นๆ คอยช่วยฟูมฟัก เขามีครูอิวาซากิที่นอนเปื่อยอยู่โรงพยาบาลเป็นแบบอย่างของครูที่จริงใจและเป็นหนึ่งในคนที่เคยร่วมกันสร้างเขามา และเขามีครูอันโด ครูคนสำคัญที่สุดที่ทำให้เขามีวันนี้ได้ วันที่ได้เรียนจบและกลับมาเป็นครูที่โรงเรียนนี้ ครูอันโดที่เคยติดตามโยชิโมริไปไกลถึงโอซาก้า เหมือนที่โยชิโมริติดตามโทรุไปไกลถึงโตเกียว ถึงแม้เธอจะบอกว่า เราไม่ใช่ครูกับลูกศิษย์อีกต่อไป เราเป็นเพื่อนร่วมงานกัน แต่ในทางการกระทำนั้นแตกต่าง เพราะครูอันโดก็ยังเป็นเหมือนครูเหมือนแม่ของโยชิโมริอยู่นั่นเอง เหมือนเป็นคนที่ถือสายป่านตัวครูโยชิโมริเอาไว้ คอยผ่อน คอยดึงให้อยู่ในลู่ทางของการเป็นครูที่ดี รู้จักใช้เหตุผลและควบคุมอารมณ์ความรู้สึกส่วนตนให้พอเหมาะพอควร ยังคงเฝ้ามองอย่างห่วงใยและคอยเป็นกำลังใจให้เขา




ครูยาชิกิ เท็ตสึจิ ( ไอบะ มาซากิ ) ก็เป็นครูคนใหม่เช่นกัน เขาเป็นครูอีกแบบหนึ่งที่แตกต่างไปจากครูโยชิโมริ นั่นคือการเป็นครูตามแบบแผน ยึดมั่นในกฏระเบียบของโรงเรียนและถือตนเป็นครู เป็นผู้ใหญ่กว่า จึงเข้าใจนักเรียนและเชื่อถือคนเป็นนักเรียนได้น้อยกว่าที่โยชิโมริมีความเข้าใจ และครูยาชิกิก็จะเป็นครูอีกคนที่ต้องเรียนรู้ประสบการณ์และพัฒนาตนให้เป็นครูที่ดีไปด้วยกัน

ผู้เขียนชอบฉากการพูดคุยกันในห้องพักครู การสุมหัวคิด การประชุมปรึกษาหารือกันทั้งอย่างเป็นกันเองในกลุ่มครูเล็กๆ และอย่างเป็นทางการของบรรดาครู ผู้ดูแลหอพักทั้งหมด สิ่งเหล่านี้แหละที่ผู้เขียนรู้สึกชอบมากกว่าเรื่องของความเป็นเพื่อนหรือมิตรภาพท่ามกลางเหล่านักเรียนเสียอีก ซึ่งจะว่าไปก็แทบไม่ได้เน้นเรื่องของมิตรภาพเลย เจาะจงไปในแต่ละปัญหาของนักเรียนและการหาวิธีแก้ไขของครูมากกว่า

มีนักแสดงเป็นจำนวนมาก ซึ่งบางคนก็จนใจจะไล่ชื่อมาได้หมดนะคะ แต่พยายามเก็บหน้ามาหมด อาจจะมีละเว้นไปบ้าง ก็…ตามนั้นค่ะ มันมีความจำเป็นที่ต้องสงวนพื้นที่ไว้สำหรับหน้าตาของฮายาโตะน้อยและยูทากะหนุ่ม (ตอนนี้แก่แล้ว) นักแสดงคนอื่นๆ ใช่ว่าจะไม่มีบทบาทนะคะอย่าเข้าใจผิด เพียงแต่ …..ด้วยเหตุผลเดียวกัน ท่านก็จะเห็นแต่หน้าของฮายาโตะกับยูทากะอันเป็นเจตนารมณ์แน่วแน่ของผู้เขียนที่จะเก็บไว้เชยชมเอง (ฮิฮิ ใครหมั่นไส้ อย่าได้แคร์)




เขียนไปเขียนมาก็เกือบจะลืมกล่าวถึงเธอ เจ๊ชิโนฮาระ เรียวโกะ รับบทเป็น โมโมเอะ ผู้ดูแลหอพัก หรือจะเรียกว่าแม่บ้านรองก็ได้ เพราะแม่บ้านใหญ่นั้นคือแม่ของเธอเอง โมโมเอะเป็นซิงเกิ้ลมอมมีลูกสาวอยู่กับตัวหนึ่งคน นอกจากดูแลเด็กในหอพัก ทำอาหารเช้าเย็น ข้าวกล่องกลางวันแล้ว โมโมเอะยังเป็นเจ้าหน้าที่ร้านค้าในโรงเรียน และเป็นพนักงานขับรถด้วย (เธอวาไรตี้มาก) บทบาทของเธอจะ เป็นแบบโผล่มาเรื่อยๆ ไม่โดดเด่นอะไรนัก ความสัมพันธ์กับครูโยชิโมริไม่มีอะไรหวานแหวว ( ตามสไตล์ซีรีส์ญี่ปุ่น) จะเป็นเหมือนเพื่อนสนิทกันมากกว่า แค่ฉากแรกที่สองคนเจอหน้ากันด้วยความดีอกดีใจ บอกได้ทันทีอย่างนี้คือ 'เพื่อนกัน' และในอดีตก็พอเดาเอาเองว่าคงเคยเรียน เคยมีชีวิตที่นี่เหมือนักน ซีรีส์ญี่ปุ่นของเขาจะเก่งในแง่การสร้างความเข้าใจในความสัมพันธ์ของตัวละครโดยไม่ต้องลงลึกรายละเอียด





Gukuzen ลูกสาวเจ้าพ่อขอเป็นครู แม้ชื่อจะติดหูและถือได้ว่า “ดัง” ก็เคยรู้สึกสนใจบ้างแต่ไม่จริงจังจนถึงขั้นหามาดูซะที แม้จะได้ชื่อว่ามีนักแสดงวัยรุ่นที่โด่งดังขึ้นมาหลายคนก็ตาม แต่เมื่อได้ดูเรื่องนี้ไปไม่กี่ตอน Gukuzen ก็เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่มีชื่อเข้าลิตท์ว่าจะต้องดูให้ได้

เหตุผลหรือคะ

ดูยูทากะในเรื่องนี้แล้ว มันเชื่อได้ว่า นี่แหละครู อาจจะเถื่อนๆ ห่ามๆ ไปบ้าง นั่นก็เป็นเพียงเรื่องของบุคลิกคน แต่เรื่องหัวใจของความเป็นครูมันเต็มร้อย ในแง่ของปัญหาเด็กๆ ที่เป็นผู้ชาย ความเป็นผู้ชายด้วยกันและโตกว่า มันเหมือนมีพลังอย่างหนึ่งที่ให้ดื้อแค่ไหน เด็กๆ ก็ยังมีที่สุดจุดหนึ่งให้ไม่กล้า 'ลองของ' การเคยเป็นเด็กมีปัญหามาก่อน มันเหมือนมีจุดของการเชื่อมจิตใจเข้ากับนักเรียนได้ในระดับหนึ่ง เข้าใจจิตใจพวกเขา และประสบการณ์ของการเป็นนักเรียนที่ได้รับจากครูในอดีต ก็เหมือนจะทำให้รู้อยู่แก่ใจดีว่า การเป็นครูต้องเป็นอย่างไร ดังนั้น Gukuzen จึงน่าสนใจมากๆ เมื่อครูเป็น ‘ผู้หญิง’ และต้องมาจัดการกับเหล่านักเรียนชายร้ายๆ ทั้งหลาย ที่น่าจะอนุมานเอาได้ว่า คงจะเห็นครูผู้หญิง เป็นความหน่อมแน้ม ไม่มีพิษสง หรือมีอะไรที่ต้องเกรงกัน น่าจะเป็นเรื่องยากอยู่เหมือนกันที่จะได้มาซึ่งการยอมรับนับถือ

ซีรีส์เรื่องนี้ อาจไม่ได้เพอร์เฟ็คต์ในทุกๆ ด้าน นักเรียนก็หน้าแก่ การแต่งกายแบบฟรีสไตล์ก็เหลือเกิน พฤติกรรมก็เหลือเชื่อว่าพวกเขาทำตัวกัน “ตามสบาย” อย่างนั้นกันได้จริงๆ ในห้องเรียน แต่มันเป็นสิ่งที่มองข้ามไหว เพราะความเด่นในการแก้ปัญหาของครูๆที่ช่วยกลบเกลื่อนได้ เป็นชีรีย์ที่ชอบมากที่สุดเรื่องหนึ่งในปีนี้ เป็นปีของยูทากะอีกเช่นเคย หลังจากปีก่อน ก็เป็นยูทากะเช่นกัน กับเรื่อง Nagareboshi ที่ควงคู่มากับนักแสดงหญิงคนโปรดอย่าง อุเอโตะ อายะ เขาเป็นนักแสดงที่เข้าถึงความเป็นตัวละครในบทบาทที่ได้รับดีจริงๆ เลยนะคะผู้ชายคนนี้




สุดท้ายขอเอ่ยถึงเขาคนนี้

ทาเคโนะอุจิ ยูทากะ ชอบยูทากะมากขึ้นทุกครั้งเมื่อได้ชมผลงานของเขา จากที่คิดว่าเรื่องเก่าๆ คงจะไม่ตาม เห็นทีจะพลาดกันยาก Beach Boys เป็นเรื่องที่อยากดูขึ้นมาอย่างแรง Ruri no Shima , Rondo , Tomorrow เรื่องเหล่านี้วิ่งเข้าลิตท์รอชมกันเป็นทิวแถว

ขอบคุณ มิตร “เที่ยงวัน” ที่ได้เข้ามาส่งข้อความหลังไมค์พร้อมคลิปโฆษณาของยูทากะอย่างเต็มอิ่ม

ขอบคุณ มิตร “please34” ผู้เป็นหนึ่งในแฟนๆของป๋ายู และเข้ามาแวะเวียนคอยให้กำลังใจ

ขอบคุณ สหายบล็อกทุกท่าน คุณ Chanpanakrit , คุณ มะนาวเพคะ , คุณ Nobuta wo produce สำหรับทุกการติดตาม สละเวลามาอ่านและเป็นกำลังใจ

ขอบคุณทุกคนที่แวะเวียนผ่านมา แม้ว่าท่านจะไม่ได้ให้คอมเมนท์ก็ไม่เป็นไร มิต้องกังวล

ขอบคุณ และ สวัสดีปีใหม่ 2555 ขอให้มีความสุขความเจริญ กินดี อยู่ดี สุขภาพแข็งแรงนะคะ

























ข้อมูลจาก DramaWiki

Titile : Yankee Bokou ni Kaeru / Drop-out Teacher Returns to School
Genre: Human Drama Episodes: 10
Screenwriter: Iino Yoko, Izumi Yoshihiro
Director: Imai Natsuki, Mishiro Shinichi, Kato Arata,
Broadcast network: Oct - Dec 2003 Friday 22:00 , TBS
Music: Endo Mikio / Theme song: "Aozora no Hate" by Okuda Miwako

Recognition :

39th Television Drama Academy Awards: Best Actor



Create Date : 07 มกราคม 2555
Last Update : 10 มกราคม 2555 19:40:07 น. 15 comments
Counter : 6410 Pageviews.

 
ทักทายยามเช้า


โดย: devilmanb วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:10:31:14 น.  

 
ตำแหน่งซีรีย์สุโค้ยแห่งปี
..โดยไม่มีเงื่อนไข

เป็นตำแหน่งที่อ่านแล้วถูกใจดีจริงๆค่ะ

nobuta ขอคอมเม้นท์แบบเบาๆบ๊องๆก่อนนะคะ รายละเอียดยิบย่อยและคำคอมเม้นท์ที่แสนวิเศษ เชื่อว่าเดี๋ยวคุณมะนาวเธอจะตามมา(เธอเป็นคนที่วิจารณ์และแตกประเด็นได้เก่งดีทีเดียว ว่ามั้ยคะ^^)

ยู ยู
ยูทากะ
ฮา ฮา
ฮายาโตะ!!!
ยูทากะ
ฮายาโตะ
ยูทากะ!!ฮายาโตะ!!
วี๊ดดดดดด
บู๊ม!
(แฮ๊กก ขอnobuta พักเช็ดน้ำลายนิดนึงนะคะ )
ยูทากะ ผู้ชายที่ดูอบอุ่น
ฮายาโตะ กับผมทรงนี้ และ เสื้อลายสก๊อต...ผ่านค่ะ^^
โอมาก


โดย: nobuta wo produce วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:12:23:09 น.  

 
อยากดูจังเลยค่ะ


โดย: เก่ง (keng_toshi ) วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:23:57:12 น.  

 
555 แล้วซีรีส์เรื่องนี้ ก็เป็นซีรีส์ที่ถูกใจแม่ยกที่ซู๊ดดดด สินะคะ
จะไม่เป็นได้ยังไงเนอะคะ ก็มีตั้งสามพลังดึงดูด ฮายาโตะ ยูทากะ เรียวโกะ
ไม่เป็นซีรีส์สุโค่ยยยยแห่งปีไม่ได้แล๊ว อย่างนั้นต้องช่วยอวยด้วยคนแล้วค่ะว่า
ฮายาโตะเรื่องนี้ น่ากินมว๊ากกกกกกกกกก ละอ่อนของแท้เลย
โดยเฉพาะทรงผม ยกนิ้วโป้งให้สองนิ้วเลยค่ะ ถูกใจคนติดตามแม่ยกคนนี้ที่ซู๊ดดดเลยค่ะ
ลูกรักของคุณprysang คนนี้ ทำผมทรงนี้รับกับใบหน้าม๊ากมากค่ะ
ส่วนยูทากะ จะบอกว่าป๋าขา ทรงผมสั้นเกรียนแบบนี้ ป๋าเท่มากค่ะ
ได้ใจยัยมะนาวไปเล๊ยค่ะ ส่วนชิโนฮาระ เรียวโกะ แหะๆคนนี้ขอผ่านค่ะยังไม่ปลื้ม
แถมติดจะเขม่นเธอด้วยซ้ำไปค่ะ เพราะดูเธอมาแค่2เรื่องคือเรื่อง" Gift "ของป๋ายะ
กับ"Haken no Hinkaku"เรื่องแรกรำคาญ ส่วนเรื่องหลังหมั่นไส้ค่ะ
(กระซิบๆจะบอกคุณprysang ว่าเรื่อง" Gift "ป๋ายะ อ๊ายยยไม่อยากพูด
ฮายาโตะก็ฮายาโตะเถอะ เจอป๋ายะลุคนั้น มีหนาวค่ะจะบอกให้)

เรื่องนี้เมื่ออ่านรีวิวจบ ต้องบอกว่าถูกใจเนื้อเรื่องมากที่สุดเลยค่ะ
แล้วยิ่งเชื่อมือ เมื่อบอกว่าเป็นของTBSค่ะ (หุหุ ละเว้นHBCไว้ในฐานที่เข้าใจ)
โดยเฉพาะดราม่าเข้มข้น ค่ายนี้ไม่ค่อยทำให้ผิดหวังค่ะ
จึงชอบซีรีส์ของค่ายนี้มากที่สุดเลยค่ะ(จะอวยค่ายว่างั้นเถอะ)
ขนาดแค่ปูพื้นเปิดเรื่องก็เข้มข้นขนาดคุณprysang แบ่งพื้นที่ให้ตั้ง1ใน3แน่ะค่ะ
แต่ก็เข้าใจนะคะว่าทำไมถึงแบ่งพื้นที่ให้ขนาดนั้น ก็ลูกรักเป็นตัวเปิดเรื่องนี่นะคะ อิอิ
แต่บทเปิดเรื่อง มะนาวว่าดีนะคะ เล่นกับความล้มเหลวเรื่องการไว้เนื้อเชื่อใจ
โทรุคงเจออะไรมาเยอะ ตอนเปิดใจถึงได้บอกว่า
"ผมคิดว่า ไม่มีใครที่สามารถเชื่อใจได้ และก็ยังเชื่ออย่างนั้น
แต่นั่นอาจไม่จริงก็ได้ นั่นคือสิ่งที่ผมเริ่มคิดอยู่ตอนนี้"
และประทับใจค่ะกับการที่โรงเรียนแสดงออกว่าให้ความสำคัญกับนักเรียนมากขนาดไหน
ขนาดมีแค่คนเดียวที่ยังไม่ได้รับการปฐมนิเทศ ก็ยังไม่ละเลย
ยังจัดขึ้นให้เหมือนเดิมทุกประการ ตรงนี้นะคะจะแตกต่างจากเรื่องGukuzen ค่ะ
เพราะGukuzen ไม่ให้ความสำคัญกับนักเรียนเหลือขอเลยค่ะ ติดจะรังเกียจด้วยซ้ำไปค่ะ
แต่ครูที่มีหัวใจเป็นครูนี้คิดว่าน่าจะคล้ายๆกันนะคะ ทั้งครูโยชิโมริกับครูคุมิโกะ(Gukuzen)
เพราะคงรักและหวังดีกับลูกศิษย์เหมือนๆกัน และคงทุ่มเทใจให้กับลูกศิษย์เหมือนๆกัน
อย่างของGukuzen นี้จะเด่นชัดมากค่ะในเรื่องนี้ ประเภทลูกศิษย์ข้าใครอย่าแตะ
ถึงแม้ลูกศิษย์แต่ละคนก็นะ จะไม่มีเรื่องสักวันจะได้ไหม
ของGukuzen นี้ ครูคุมิโกะ จะทำตัวเหมือนพี่สาว เด็กนักเรียนก็จะเรียกเธอแต่"ยาคุมิๆ"
โดยไม่เคยเรียกเธอว่าเซนเซย์เลยค่ะ แต่เราก็รู้ว่าเจ้านักเรียนเหลือขอพวกนั้น
ยอมรับเธอเป็นคุณครูของพวกเขาค่ะ ส่วนเรื่องนี้ที่ให้โทรุยอมเรียกครูโยชิโมริว่า
"เซนเซย์"ก็เป็นการแสดงออกถึงการยอมรับนับถือที่ชัดเจนดีค่ะ
ส่วนประเด็นปัญหาในโรงเรียนที่ครูโยชิโมริต้องเผชิญ ดูแล้วน่าจะเป็นศึกหนักนะคะ
ทั้งนักเรียนถูกกลั่นแกล้ง จนพยายามฆ่าตัวตาย
มะนาวว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ของโรงเรียนทุกแห่งเลยนะคะ
การปล่อยปละละเลยเรื่องนี้ นำมาสู่โศกนาฏกรรมมานักต่อนักแล้ว
แต่ดูว่าเรื่องนี้ ครูโยชิโมริน่าจะเอาอยู่นะคะ
เพราะขนาดคุณprysang บอกว่าประทับใจกับฉากนี้มาก
ยูทากะคงเปล่งประกายการแสดงซีนอารมณ์ แบบปลดปล่อยออกมาหมดแม็ก
ประเภทแสดงเสร็จล้มพับ หมดพลังแผ่หราลงไปเลย
คุณprysang เทียบฉากนี้กับการแสดงของป๋ายะใน Change ตอนปราศรัยยุบสภา
แต่พอมะนาวอ่าน มะนาวนึกถึงเรื่องนี้ค่ะ
Soredemo, Ikite Yuku / Even so, We will be living on
ตอนที่เอตะกระโดดถีบนางเอกอ่ะค่ะ แหะๆไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
พออ่านปั๊บ นึกถึงฉากนี้ของเอตะเลยค่ะ ส่วนเรื่องนักเรียนสูบบุหรี่
555 ปัญหาโลกแตก ขนาดบ้านเรารณรงค์กันหนักขนาดนี้ ขนาดมีกม.ควบคุม
ยังเอาไม่อยู่เลยค่ะ สถิติล่าสุดของการสูบบุหรี่ก็พุ่งสูงขึ้นในกลุ่มเด็กวัยรุ่นและผู้หญิงค่ะ
แล้วที่ญี่ปุ่นซึ่งเราเห็นสูบบุหรี่กันเยอะมาก เสนอให้เห็นทั้งในหนังและในซีรีส์
การมาควบคุมเรื่องนี้คงจะยาก แต่ก็ดีนะคะที่อย่างน้อยซีรีส์เรื่องนี้
ก็ไม่ปล่อยปละละเลยกับปัญหานี้ นำมาเสนอพร้อมทั้งวิธีแก้ปัญหา
ที่คุณprysang บอกว่าถูกใจ เพราะเป็นการแก้ปัญหาแบบ"ผู้ชายๆ"
ส่วนดราม่าของฮายาโตะ ดูแล้วบทโทรุนี้คงจะเด่นไม่น้อยนะคะ
เพราะได้แสดงสีหน้าหลากหลายอารมณ์ให้แม่ยกได้ชื่นใจ
จนจะชื่นชมไม่ไหวอยู่แล้ว อิอิแซวเล่นค่ะ
มะนาวว่าฉากที่โทรุแอบมองบ้านและแม่ คงจะสะเทือนใจสุดๆนะคะ
เพราะเป็นที่ๆเขาคิดถึงและอยากอยู่ แต่ก็รับรู้ว่าที่นั่นเป็นที่ๆไม่ต้องการเขา เศร้าค่ะ
ซีรีส์เรื่องนี้ถึงคุณprysang จะบอกว่าไม่ได้เพอร์เฟ็คต์ในทุกๆ ด้าน แต่น่าดูจริงๆค่ะ

ขอนิ๊ดหนึ่งนะคะ
มะนาวเห็นภาพฮายามิ โมโคมิจิแว๊บหนึ่งและเห็นภาพเทปเป โคอิเกะอีกหน่อยหนึ่ง
ช่างน่าสงสารจริงๆที่ต้องมาแสดงเรื่องเดียวกับฮายาโตะ555
แต่เข้าใจค่ะเพราะคุณprysang บอกไว้แล้วว่า
"ท่านจะเห็นแต่หน้าของฮายาโตะกับยูทากะ
อันเป็นเจตนารมณ์แน่วแน่ของผู้เขียนที่จะเก็บไว้เชยชมเอง"
555เข้าใจสุดซึ้งค่ะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 182.53.44.78 วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:9:38:57 น.  

 
55 คุณมะนาว คุณโนบุตะ มาแซวกันก็ไม่ว่า เพราะก็ยอมรับอยู่แล้วอย่างออกนอกหน้าว่าอวยจริง อะไรจริง นี่ก็ว่าจะเพลาๆ เรื่องการลงรูปลงบ้างแล้วนะคะ ช่วงท้ายปีดูซีรีส์แต่ของนักแสดงที่ชื่นชอบ แล้วก็อดใจไม่ได้ ต้องอัดรูปลงอย่างหนุกหนานเอาใจตัวเอง

ถึงแม้จะสงสารเทปเป้กับฮายามิ แต่สองหนุ่มจะต้องเข้าใจค่ะ เพราะเส้นทางพระเอกในดวงใจนั้น มันไม่ได้ถูกเชิดชูกันได้ง่ายๆ 555

อ่านจากคุณมะนาวเล่า นั่นใช่เลยค่ะ เหตุผลที่อยากดู Gukuzen เสียจริงๆ เพราะในฐานะครูผู้หญิงของเด็กผู้ชาย แล้วที่สำคัญไม่ใช่ครูแก่อาวุโสด้วย ดูคุณครูยูทากะแล้ว จึงอยากจะรู้จักครูในเรื่อง Gukuzen มากจริงๆ

แล้วก็ ... ถ้าจะมีใครสักคนพอจะเขย่าบัลลังก์วังทองของป๋ายะในใจ prysang ให้สะเทือนได้ ในรุ่นราวคราวเดียวกันนี้ ก็คงจะมีป๋ายูคนเดียวนี่แหละ ที่เป็นศัตรูตัวอันตราย เผลอเมื่อไหร่ นอกใจตลอด 555



โดย: prysang วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:13:00:47 น.  

 
ถ้าคลั่งป๋ายูอย่างหนัก Beach Boy คงเป็นทางออกสำหรับท่านแล้วละครับ
เพราะจะได้พ่อหนุ่มโซริมาจิกับหนูฮิโรสุเอะ
เป็นของแถมด้วย และยูกาตะท่านเป็นทรงที่ดูดีที่สุดในภาคนี้

แค่ชุดอาบน้ำของสองหนุ่ม อกล่ำๆหนุ่มบึ้กๆ
ก็ไม่ไหวจะเคลียร์แล้ว

แต่ผิดกับเรื่องนี้นะครับ เพราะเป็นเรื่องที่
ผู้เขียนคนนี้
ดูไปสองตอน บอกตามตรงว่าไม่ชอบเอาสักเลย
ครูแยงกี้พอเข้าใจได้ แต่ประเด็นมันหน่อมแหน๊มไปสักหนอ่ย
ดูแล้วไม่ได้หลงรักตัวละครยูกาตะเอาสักเลย
แถุมตอนท้ายอะไรก็ไม่รู้ เหมือนละครเด็กอนุบาล
ในโกคุเซนยังมีสไตล์พาเพลินของมัน
แต่เรื่องนี้ เหมือนเหมารวมไปสักทุกอย่าง
มีนักเรียนยากูซ่าสักลายมังกรอะไรนั้นด้วย

ส่วนดีที่สุดเรือ่งนี้สำหรับข้าพเจ้าคงเป้นน้องแว่นมั้งครับ
ตามมาตั้งแต่ Swing Girl แต่กว่าจะมาอีกที
เธอก็เกือบจะท้ายเข้าให้เเล้ว
แม้แต่ชิโนฮารา บทก้ไม่เด่นให้เอียงตามองไปได้เลย


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:13:31:04 น.  

 
GTO=GREAT TEACHER ONIZUKA

GTY=GREAT TEACHER YOSHIMORI


โดย: nobuta wo produce วันที่: 10 มกราคม 2555 เวลา:18:30:05 น.  

 
GTO ก็ดูแล้วนะคะ แต่ไม่ปลื้มค่ะ
แต่เวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูนน่ะชอบมาก
การ์ตูนพระเอกหล่อค่ะ แต่พอออกมา
เป็นละคร อืม ก็คงหล่อของเค้าแล้วล่ะ
เพียงแต่หล่อของเค้าไม่ใช่หล่อแนวเรา (อิอิ)

ตามท่าน Chanpanakrit ว่า
อย่างนี้ต้องหาสไตล์พาเพลิน
ของ Gokuzen มารับชม


โดย: prysang วันที่: 11 มกราคม 2555 เวลา:18:13:28 น.  

 
ว้ายๆ เห็นชื่อคุณยูทากะแล้วไม่เข้ามาไม่ได้ค่ะ ฮ่าๆ ตามมาช่วยผลักช่วยยกค่ะ

ตอนได้ยินเรื่องนี้ครั้งแรกเนี่ยนึกถึง GTO ก่อนเลย เพราะคงติดภาพที่คุณยูกับคุณทาคาชิใน Beach boy ช่วงนั้นหน้าสองคนนี้จะลอยมาแบบแพคคู่ตลอดเลยค่ะ ฮ่าๆเนื้อเรื่องก็ดูคล้ายกัน แล้วหลังๆมานี้ยังมาตอกย้ำกันด้วย Boss อีกค่ะ ลืมไม่ลงจริงๆ

แต่ดูเหตุผลของคุณ prysang แล้วคงต้องยกให้ค่ะ มีคนในเรื่องนี้ให้ยกตั้งหลายคนหนิคะ ฮ่าๆ สำหรับเราเรื่องนี้ให้ความรู้สึกเรื่อยๆค่ะ อารมณ์บางเบา แต่บางครั้งความสุขในการดูละครก็อยู่ที่คนแสดงใช่มั้ยคะ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้สำหรับเราก็สนุกแน่นอนค่ะ ฮ่าๆ

เราก็ชอบดูละครของคุณทาคุยะเหมือนกันค่ะ ป๋ายูกะป๋ายะเนี่ยเป็นตำนานจริงๆเลยนะคะฝีมือนี่ไม่ต้องพูดถึง คงเป็นเพราะความเท่ห์แบบอบอุ่น เลยมัดใจสาวๆไว้แน่น

คุณprysang ไม่ชอบ GTO หรอคะ เพราะจริงๆเราว่าคุณทาคาชิเป็นอีกคนที่ดูเท่ห์และอบอุ่นเหมือนกันค่ะ เราเพิ่งดู Good Life~Arigato, Papa. Sayonara~ ไปเลยทำให้กลับมานึกถึงคุณทาคาชิอีกรอบแต่ยังไงก็สู้ป๋ายูที่อยู่บนหิ้งไม่ได้ค่ะฮ่าๆ

คอมเม้นต์แต่ละครั้งไม่มีสาระเลยค่ะมีแต่เรื่องหนุ่มๆ อับอายค่ะๆ ไปดีกว่า
คุณ prysang สู้ๆนะคะ ติดตามสม่าเสมอค่ะ


โดย: please34 IP: 203.229.101.75 วันที่: 14 มกราคม 2555 เวลา:13:01:30 น.  

 
555
ถึงแม้นท่านไม่ค่อยปลื้ม โอนิซือกะเซนเซย์เท่าไหร่ก็มิเป็นไรค่ะ

อย่างไรเราก็คอเดียวกัน ^^

เราจะได้ไม่แย่งกันไงคะ
555


โดย: nobuta wo produce วันที่: 14 มกราคม 2555 เวลา:19:03:24 น.  

 
แต่ว่า ยูทากะ เราขอปลื้มด้วยคนนะคะ
(มักมากจังเลยเนาะ nobuta เนี้ย โฮะโฮะโฮะ)


โดย: nobuta wo produce วันที่: 14 มกราคม 2555 เวลา:19:05:24 น.  

 
555 มิเป็นไรดอก
ดาราเป็นบุคคลสาธารณะ
ผลัดๆ กันชม


โดย: prysang วันที่: 14 มกราคม 2555 เวลา:19:26:09 น.  

 
whoah this weblog is magnificent i like studying your posts. Keep up the great work! You already know, lots of individuals are searching round for this information, you can aid them greatly.
Ray Ban Clubmaster //www.spftransfer.com/


โดย: Ray Ban Clubmaster IP: 94.23.252.21 วันที่: 4 สิงหาคม 2557 เวลา:2:07:37 น.  

 
I was recommended this website by my cousin. I am not sure whether this post is written by him as no one else know such detailed about my trouble. You are wonderful! Thanks!
Nike Air Max 1 //www.permira.com/services.aspx


โดย: Nike Air Max 1 IP: 94.23.252.21 วันที่: 12 สิงหาคม 2557 เวลา:8:17:22 น.  

 
t5WoME Fantastic article.Thanks Again. Will read on...


โดย: crorkzz com IP: 94.23.252.21 วันที่: 10 มิถุนายน 2558 เวลา:8:35:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prysang
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]




จำนวนผู้ชม คน : Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add prysang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.