ศีล ธรรมอันงามในเบื้องต้น


🌷 ศีล ธรรมอันงามในเบื้องต้น

พูดถึงศีลแล้ว โดยเฉพาะ “ศีล ๕” ใครว่าไม่สำคัญ?

อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ . . . .  เหล่านี้คือสิกขาบทห้าประการ
สีเลนะ สุคะติง ยันติ . . . . . . . . บุคคลย่อมไปสู่สุคติก็เพราะศีล
สีเลนะ โภคะสัมปะทา . . . . . . . ย่อมถึงพร้อมด้วยโภคะสมบัติก็เพราะศีล
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ . . . . . . . . ย่อมไปสู่นิพพานก็เพราะศีล
ตัสมา สีลัง วิโสธะเย . . . . . . . . เพราะฉะนั้นพึงชำระศีลให้หมดจด ฯ

จากพระบาลีพร้อมคำแปล เราจะเห็นว่า “ศีล ๕” นั้นไม่ธรรมดาเลย โดยเฉพาะ “นักบวช” หรือ “นักปฏิบัติธรรมกรรมฐาน” ทั้งหลาย เมื่อพูดถึง “ศีล ๕” สำหรับ “ชาวบ้านทั่วไป” นั้น เป็นเพียงแค่ “ข้อห้าม” เพราะกำลังจิตกำลังใจยังอ่อนแอ สืบเนื่องจากยังคลุกเคล้าตีโมงอยู่กับสังคมส่วน “นักบวช” หรือ “นักปฏิบัติภาวนา” นั้น เป็นงานสำคัญที่ต้อง “วิรัติ” ให้ได้

แต่ปัจจุบันกลับถูกมองข้ามความสำคัญของ “ศีล” ไปอย่างน่าเสียดายอย่างมาก เมื่อกล่าวถึง “ศีล สมาธิ ปัญญา” นักปฏิบัติธรรมคนรุ่นใหม่ กลับไปให้ความสำคัญกับข้อสุดท้าย คือ “ปัญญา” ที่ชอบอวดกันว่า ได้ “ปฏิบัติวิปัสสนา” จนศีล สมาธิ มีขึ้นได้เองโดยอัตโนมัติ

ถ้าลองได้ขาดพื้นฐานหรือรากฐานอันเป็นรากแก้ว คือ “ศีล ๕” เสียแล้ว ก็อย่าได้หวังว่าจะเกิด “วิปัสสนาปัญญา” เลย เพราะขาดสำนึกที่ถูกต้องว่าจะทำอย่างไร? ตนเองจึงจะมีพลังในการ “วิรัติ” ข้อห้ามเหล่านี้ให้ได้

การปฏิบัติจน “วิรัติ” แค่ “ศีล ๕” ได้นั้น มีความหมายที่ยิ่งใหญ่ในพระพุทธศาสนามากจริงๆ เพราะพระอริยเจ้าในชั้นต้นนั้น “ต้องมีศีล ๕ ที่บริสุทธิ์” เท่านั้น ไม่มีวันที่จะละเมิดเลย เพราะเป็นก้าวแรกที่สำคัญ ในการก้าวข้ามโคตรแบบไม่มีการย้อนคืนกลับมาอีกแล้ว

แต่ยังมีนักบวช หรือนักปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ในบางหมู่บางเหล่า มี “ศีล ๕” ที่ “วิบัติ” ย่อยยับคาตาโดยมีผู้ประสบพบรู้เห็น ไม่มีความละอายต่อบาป กลับใช้วิธีการสร้างภาพ โดยอาศัยบุคลิกลักษณะของตนที่น่าเชื่อถือ มีวาจาไพเราะ นุ่มนวล ชวนหลงใหล ให้เชื่อว่าตนเองมีภูมิรู้ภูมิธรรมขั้น “อริยะแต่งตั้งขึ้นเอง”

ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว หามีในตนเองไม่ เพราะ “ขาดความซื่อสัตย์ต่อตนเอง” อันเป็นพื้นฐานสำคัญ ในการ “รักษาศีล ๕” อันงามในเบื้องต้นให้บริบูรณ์ได้เลย และไม่มีภูมิรู้ ภูมิธรรม ที่ถูกต้องเที่ยงตรงต่อ “พระนิพพาน” อันจะมีมาในเบื้องหน้า

“นักปฏิบัติธรรมกรรมฐาน” คนรุ่นใหม่ กลับมองข้ามความสำคัญนี้ไปอย่างน่าเสียดายจริงๆ คนเราถ้าลองขาด “ความซื่อสัตย์ต่อตนเอง” อันมีความสำคัญเป็นเบื้องต้นเสียแล้ว ก็อย่าหวังมีความก้าวหน้าในภูมิรู้ ภูมิธรรม จากการ “ปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนา” ได้เลย เพราะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจาก “ศีล ๕” นั้น เมื่อเทียบกับ “อาบัติปาราชิก” ที่เป็นอาบัติหนักแล้ว มีเข้าไปตั้งไม่รู้กี่ข้อที่เกี่ยวข้องกับ “อาบัติปาราชิก” อันทำให้ขาดจาก “ความดีแบบถาวร”…

เจริญในธรรมที่สมควรแก่ธรรมทุกๆ ท่าน
พระภัทรสิทธิ์ อภินันโท



Create Date : 10 พฤษภาคม 2564
Last Update : 11 พฤษภาคม 2564 11:40:19 น.
Counter : 410 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ในความฝันของใครสักคน
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]



สารบัญ Blog ธรรมภูต - พระภัทรสิทธิ์



หน้าแรก Blog ธรรมภูต - พระภัทรสิทธิ์
All Blog