All Blog
ตอนที่ 10 +++ เห็น +++






“คุณสวมมันไว้นะก้อง” พีรวิชญ์ถอดสร้อยนกหวีดเส้นโปรดของตนไปคล้องบนคอของก้องที่นอนอยู่บนเตียงรถเข็น รอพยาบาลเข็นเข้าห้องผ่าตัดที่อยู่ใกล้ๆในตอนเช้าของวันเสาร์


“นี่มัน...” ก้องบดินทร์สัมผัสสร้อยเส้นนั้นและรู้ทันทีว่าเป็นอะไร


“คุณเก็บสร้อยเส้นนี้ไว้นะ มันคือเครื่องรางประจำตัวของผม”


“จะไหวเหรอพี เจ้าของเดิมเคยเดี้ยงมาก่อนเนี่ยนะ”


“เอาน่า อย่างน้อยตอนผ่าตัดคุณจะได้รู้สึกว่ามีผมอยู่ใกล้ๆไง”


“แล้วถ้าผมเป่าแล้ว คุณจะได้ยินรึเปล่าพี”


“ได้ยินสิ”


“เสียงนกหวีดเนี่ยนะหรอ”


“ไม่ใช่.. เสียงหัวใจของคุณต่างหากล่ะ ที่ร้องเรียกผมตลอดเวลา”


“คร้าบบบบบ” ก้องพูดจบปุ๊บ พยาบาลก็เข็นเตียงของก้องเข้าห้องผ่าตัดทันที นักกายภาพบำบัดหนุ่มกระชับสร้อยเส้นนั้นไว้แน่น ขระที่พีก็เฝ้ามองจนประตูห้องผ่าตัดปิดลง





ชายหนุ่มนั่งเฝ้าหน้าห้องผ่าตัดด้วยความกังวล เหลียวมองประตูห้องเป็นระยะๆสลับกับมองไปที่นาฬิกาข้อมือที่รัดอยู่บนข้อมือข้างขวาข
องตนเอง เกือบจะเที่ยงแล้ว แต่ก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง เพราะความเป็นห่วงคนรักที่กำลังผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาอยู่ข้างในห้องผ่าตัด พีรวิชญ์จึงทานอะไรไม่ลงตั้งแต่เช้า ได้แต่เฝ้ารอและภาวนาให้การผ่าตัดครั้งนี้สำเร็จด้วยดี



เวลาผ่านไปพักใหญ่ๆ เพื่อนสนิทของชายหนุ่มก็มากันพร้อมหน้า ทั้งธีรศิลป์นักธุรกิจหนุ่มอดีตพระเอกชื่อดัง และขจรคนรักของธีรศิลป์ นักบัญชีหนุ่มผู้เป็นกำลังใจสำคัญให้ธีรศิลป์สามารถฝ่าวิกฤตมาได้เมื่อหลายปีก่อน คล้ายๆกับตนเองกับก้องบดินทร์ในตอนนี้ ที่เป็นกำลังใจให้กันและกันเพื่อจะฝ่าฟันปัญหาไปด้วยกัน ทั้งพีรวิชญ์และก้องบดินทร์ต่างก็ผ่านปัญหาหนักๆร่วมกันมาแล้ว เหลืออีกปัญหาเดียว คือตาที่มองไม่เห็นของก้องบดินทร์ กับโอกาสครั้งสำคัญที่จะทำให้ตาคู่นั้นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง และความหวังทั้งหมด ก็รออยู่ในห้องผ่าตัดเบื้องหน้า



“ไม่ต้องห่วงนะพี หมอเค้ายืนยันมาแล้วนี่ ว่าตาของก้องจะกลับมามองเห็นได้อีกแน่ๆ” ทีเอ่ยปากบอกกับเพื่อนรุ่นน้องที่เดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องผ่าตัด


“ผมว่าพีหาอะไรทานก่อนดีมั้ย ท่าทางจะยังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เช้า นี่ก็เที่ยงกว่าแล้วด้วย” จอนบอกกับพีด้วยความห่วงใย กลัวจะไม่สบายเสียก่อน


“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่หิว รอคุณหมอออกมาก่อน ไม่รู้ป่านนี้การผ่าตัดจะเป็นยังไงบ้าง” พูดไม่ทันขาดคำ ไฟสัญญาณผ่าตัดที่ติดอยู่หน้าห้องก็ดับลง บอกให้รู้ว่า การผ่าตัดสิ้นสุดลงแล้ว ชายหนุ่มทั้งสามหันไปมองที่หน้าประตูห้องพร้อมกัน สักพัก ประตูก็เปิดออกมา นำหน้ามาด้วยคุณหมอ จักษุศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พีรวิชญ์รีบเข้าไปหาทันทีแล้วถามถึงอาการและผลการผ่าตัดดวงตาของก้องบดินทร์เป็นอย่า
งแรก หมอได้แต่ยิ้มแล้วตอบว่าต้องรออีกหนึ่งสัปดาห์ถึงจะเปิดผ้าปิดตาออกได้ จากนั้น บุรุษพยาบาลก็เข็นเตียงของผู้ป่วยออกมาเพื่อย้ายกลับไปที่ห้องพักตามเดิม ร่างอวบนิดๆที่นอนหลับอยู่บนนั้นมีผ้ากร็อซปิดอยู่ที่ตาทั้งสองข้าง หลับไม่ได้สติ พีรวิชญ์รีบผละจากหมอแล้ววิ่งไปที่เตียงนั้นทันที ค่อยๆเกาะขอบเตียงรถเข็น กุมมือของคนเจ็บที่นอนไม่ได้สติ แล้วเดินตามไปที่ห้องพัก ทีกับจอนก็เดินยิ้มตามหลังไปห่างๆ ทั้งหมอและพยาบาลที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็เดากันไปต่างๆนานา บ้างก็เดาถูกว่าพีกับก้องคงจะเป็นคู่รักกัน แต่ก็มีหลายคนที่คิดไปว่าอาจจะเป็นพี่น้องหรือเพื่อนรักที่สนิทกันมากๆ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้สึกว่าพฤติกรรมของชายหนุ่มผิวค่อนข้างเข้มที่แสดงต่อคนเจ็บบนเตียงน่ารัง
เกียจแต่อย่างใด คงเป็นเพราะสังคมอเมริกันยอมรับเรื่องความรักแบบนี้ได้ง่ายกว่าสังคมไทย พีจึงกล้าแสดงความรักที่มีต่อก้องออกมาอย่างเปิดเผย รวมทั้งจอนกับทีเองก็เช่นกัน



...



...




“ว่าไงนะพี หมอเค้านัดเปิดตาให้ก้องเมื่อไหร่นะ” เสียงหญิงสาวดังผ่านปลายสายโทรศัพท์ทางไกลถึงเมืองไทยที่พีเพิ่งจะโทรไปหา


“อาทิตย์หน้าครับพี่แก้ว หมอเค้าบอกว่าต้องรอให้ตาของก้องฟื้นตัวเองตามธรรมชาติก่อนน่ะครับ แล้วพอเปิดตามา ก้องก็น่าที่จะเห็นได้เป็นปกติอะครับ” พีตอบแก้วกัญญาที่ถือสายโทรศัพท์คุยอยู่ในอีกซีกโลก


“แก้วถามพีด้วยนะลูก ว่าก้องจะฟื้นรึยัง แม่จะได้คุยด้วย” ฟองจันทร์ที่ยืนอยู่ข้างแก้ว ฝากให้แก้วถามพีว่าก้องจะตื่นรึยัง


“แล้วก้องใกล้จะฟื้นรึยังพี” แก้วกัญญาถามพีรวิชญ์


“หมอเค้าบอกว่า อีกซักชั่วโมงนึงอะครับพี่แก้ว นี่ผมกะว่าเดี๋ยวจะลงไปหาอะไรทาน แล้วจะซื้ออะไรมาฝากก้องด้วย ตื่นมาคงบ่นหิวแย่เลย”


“หรอ งั้นถ้าก้องตื่นแล้ว พีช่วยโทรเข้ามาที่บ้านได้เลยนะ”


“แล้วที่นั่นจะไม่ดึกเกินไปหรอพี่แก้ว ผมว่าเอาไว้ค่ำๆผมโทรไปอีกทีก็ได้ ให้ป้าฟองได้พักก่อน” พีบอกกับแก้วในขณะที่หญิงสาวเหลียวมองนาฬิกาที่บ้านตัวเอง ดึกมากแล้วอย่างที่พีบอกจริงๆด้วย เพราะเป็นห่วงสุขภาพของผู้เป็นแม่เช่นกัน แก้วจึงเห็นชอบกับความคิดของพี


“งั้นตอนค่ำพีโทรมาใหม่แล้วกันนะ จ้ะ หวัดดีจ้ะ” แก้ววางสายโทรศัพท์แล้วหันไปคุยกับฟองจันทร์ รวมทั้งตุ่มกับเจ๋งที่ยืนอยู่ไม่ห่างมากนัก


“พีเค้าบอกว่าไงบ้างล่ะแก้ว ก้องจะฟื้นเมื่อไหร่ แล้วตา ตาของก้องจะหายมั้ย” ฟองจันทร์ถามลูกสาวถึงอาการของลูกชายคนเล็กด้วยความเป็นห่วงอย่างมาก


“ใจเย็นๆก่อนค่ะแม่ พีเค้าบอกว่าอาทิตย์หน้าถึงจะรู้ ว่าก้องจะหายมั้ย แต่ตอนนี้ แก้วว่าแม่ให้พี่ตุ่มพาขึ้นไปนอนก่อนดีกว่านะ ดึกมากแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้า ทางนู้นเค้าจะโทรกลับมา แล้วแม่ค่อยคุยกับก้องนะ”


“งั้นเหรอแก้ว ถ้างั้น ไปตุ่ม พาป้าไปนอนที พรุ่งนี้เช้าค่อยคุยกับก้อง นี่ถ้าไม่ติดว่าไม่ค่อยสบายนะ จะตามไปดูแลก้องเองแล้วเนี่ย”


“โถ.. ค่ะคุณป้า ไม่ต้องห่วงน้องก้องหรอกค่ะ มีน้องพีดูแลอยู่ทางโน้น ป่านนี้จะอ้วนขึ้นอีกรึเปล่าก็ไม่รู้ เผลอๆ ชุดที่ป้าฟองตัดไว้ให้น้องก้องใส่ในงานแต่งน้องแก้วคงจะคับซะก่อนล่ะมั้ง” ตุ่มพูดหยอกล้อให้คนแก่มีอารมณ์ขันขณะที่ประคองฟองจันทร์เดินเข้าห้องนอน


“เออ จริงสิ ดีนะที่ตุ่มเตือน ป้าว่าจะตัดเผื่อพีเค้าด้วยอีกชุดนึง แก้วว่าดีมั้ยลู” ฟองจันทร์หันกลับมาถามลูกสาว ที่กำลังช่วยเจ๋งปิดประตูหน้าต่างบ้าน


“ก็ดีสิคะแม่ แต่อย่าให้หล่อเกินหน้าเกินตาปอล่ะกัน” แก้วตอบยิ้มๆ


“แหม...กลัวเจ้าบ่าวตัวเองจะไม่หล่อที่สุดในงานล่ะสิ” ตุ่มพูดไปหัวเราะไป
“แล้วป้าฟองอย่าลืมแก้ชุดของตุ่มให้สวยๆด้วยนะคะ พอน้องก้องไม่อยู่ กับข้าวก็เหลือเยอะ ตุ่มก็เลยอ้วนขึ้นมาอีกแล้วเนี่ย สงสัยป้าฟองต้องขยายช่วงเอวให้อีกแล้วล่ะมั้งคะ”


“ก็กินจุอย่างเจ๊เนี่ยนะ ตัดชุดให้เจ๊ชุดเดียว เอาผ้าไปตัดให้พี่แก้วได้สามชุดเลยล่ะมั้ง” เจ๋งแซวเจ๊ตุ่ม


“หุบปากไปเลยไอ้เจ๋ง ถึงชุดชั้นจะใช้ผ้าเปลือง ก็ดีกว่าแกแหละย่ะ ดำจนไม่รู้จะตัดชุดสีอะไรให้ดี”


“ใครจะไปขาวเหมือนเจ๊ล่ะ ใส่อะไรก็ดูดีไปหมด นี่ถ้าประกวดธิดาช้างเค้ารับกระเทยด้วยนะ เจ๊ชนะแน่นอน”


“เออ.. เจ๊ก็ว่างั้น ว้ายยยย...ไอ้เจ๋ง มาหลอกด่าชั้นอีกแล้ว เดี...”


“พอได้แล้วค่ะทั้งสองคน พี่ตุ่มคะ พาแม่ไปนอนได้แล้วค่ะ เจ๋งก็เหมือนกัน รีบล็อกบ้านเร็วๆเข้า ดึกแล้ว” หลังจากนั้น ทุกคนในบ้านก็พากันไปเข้านอนในยามดึกสงัด ขระที่อีกซีกโลก กำลังเป็นเวลาเริ่มต้นของภาคบ่ายเท่านั้นเอง




.....




.....





ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ วันนี้เป็นวันเปิดผ้าปิดตาของก้อง นักกายภาพบำบัดหนุ่มนอนรออย่างตื่นเต้นอยู่บนเตียง ในห้องพักส่วนตัวแสนสบายราวกับโรงแรมของโรงพยาบาลชั้นนำประจำรัฐที่พีรวิชญ์เลือกสรร
ให้เป็นพิเศษสำหรับคนรักที่เสียสละเพื่อช่วยชีวิตเค้าจนตัวเองต้องตาบอด ถ้าก้องบดินทร์เปิดตาขึ้นมาแล้วมองเห็นได้ คงจะชอบใจมากแน่ๆ สีเขียวอ่อนของห้องนี้ คล้ายกับสีบ้าน สีห้องนอนของก้องไม่ต่างกันมากนัก การตกแต่งภายในที่เจ้าของไข้แอบมาจัดแจงด้วยตนเองนั้น ก็คล้ายคลึงกับห้องนอนก้องและห้องนอนในคอนโดของพีรวมกัน ผสมกันได้อย่างกลมกลืน นักแข่งรถหนุ่มแอบหวังอยู่ในใจว่า เมื่อก้องเปิดตาขึ้นมาเห็นจะต้องชอบใจห้องนี้แน่นอน แค่นึกเห็นภาพก้องยิ้มอย่างมีความสุขอีกครั้งที่ได้กลับมามองเห็น และเห็นห้องที่ตนบรรจงจัดให้อย่างเต็มที่แล้วล่ะก็ ความอิ่มใจปลาบปลื้มใจก็ซ่านบนใบหน้าของชายหนุ่มอย่างเห็นได้ชัด



“ยิ้มอะไรอะพี” จอนเอ่ยถาม เมื่อสังเกตเห็นพียิ้มไม่หุบ


“เปล่าจอน แค่ดีใจที่วันนี้ก้องจะมองเห็นแล้ว”


“เวอร์ไปมั้ง ดูหน้าดิ แดงเชียว” ทีแซวบ้าง


“สงสัยคงกำลังลุ้นอยู่มั้งที”


“ลุ้นอะไรเหรอจอน”


“ก็ลุ้นว่า น้องก้องเค้าจะชอบห้องนี้รึเปล่าน่ะสิครับ พีเค้าแอบจัดห้องนี้อยู่สองวันเชียวนะ”


“แล้วคุณไปแอบรู้มาได้ไงอะจอน ผมเป็นเพื่อนมันแท้ๆ มันยังไม่บอกผมเลย”


“ก็ผมแอบเห็นตอนที่พีเค้าจัดห้องอยู่น่ะสิ ตอนแรกก็ว่าจะช่วย แต่ผมเห็นสีหน้ายิ้มกริ่มผิดผกติของเค้า ก็เลยเปลี่ยนใจ ปล่อยพีเค้าจัดของเค้าคนเดียวดีกว่า เหมือนกับคุณตอนนั้นไง ตอนที่คุณขะมักเขม้นจัดห้องเก่าของผมที่คอนโดแปดพันเก้าน่ะ”


“คอนโดแปดพันเก้าหรอ พูดแล้วก็คิดถึงเหมือนกันเนอะ คุณว่ามั้ยจอน”


“ป่านนี้ใครไปอยู่แทนผมแล้วก็ไม่รู้ ไว้ถ้าเรากลับเมืองไทยอีก เราแวะไปเยี่ยมคนอื่นๆกันบ้างนะที” จอนเอ่ยปากชวนทีกลับไปเยี่ยมเพื่อนๆที่คอนโดเก่าซึ่งทีก็พยักหน้าเห็นด้วย


“คุยอะไรกันอยู่หรอครับ” เสียงนุ่มๆแผ่วๆดังขึ้นมาจากเตียงผู้ป่วย


“ตื่นแล้วเหรอก้อง ดีใจมั้ย วันนี้คุณจะได้เปิดตาแล้วนะ” พีกุมมือคนรักขึ้นมาแล้วคุยด้วยอย่างอารมณ์ดี มีความหวังและแจ่มใสเป็นพิเศษ จนทีกับจอนแอบยิ้มดีใจไปด้วย


“ถ้าผมมองเห็น ผมก็จะได้ไม่เป็นภาระของคุณหรือของใครอีก”


“ก้องงงงง... คุณไม่ได้เป็นภาระของผมซะหน่อย”


“ไม่เป็นก็ได้ ผมแค่อยากบอกว่า ถ้าผมกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง ผมก็จะได้เห็นคนที่ผมอยากจะเจออีก รวมทั้งคนที่ผมอยากจะพบหน้าด้วย”


“ใครบ้างล่ะ” พีเอ่ยถาม


“ก็มีแม่ พี่แก้ว พี่ตุ่ม พี่เจ๋ง พี่ผึ้ง แล้วก็พี่ปอ อ้อ.. แล้วผมก็อยากเห็นหน้าพี่ทีกับพี่จอนด้วย อยากรู้ว่าพี่ทีจะยังหล่อเหมือนเมื่อตอนที่ผมเคยดูละครของพี่เค้ารึเปล่า” ก้องแกล้งตอบโดยข้ามชื่อของใครคนหนึ่งไป ซึ่งคนๆนั้นก็ลุกลี้ลุกลนรอให้ก้องเอ่ยชื่อแต่ก้องก็ไม่ยอมเอ่ยเสียที


“แค่นี้เหรอก้อง แล้วมีใครอีกรึเปล่าล่ะ” พีคะยั้นคะยอรอคำตอบ


“ไม่มีแล้วแหละ คนที่ผมอยากพบหน้ามากที่สุดมีแค่นี้แหละ ทำไมหรอ” ก้องแกล้งยิ้มขำ


“ก้องอะ คุณ... ก้อง..” พีรู้ว่าก้องแกล้งตน จึงได้แต่ถอนหายใจเซ็งเล็กน้อย


“อะ มีอีกคนก็ได้ ... อืมมมม.. คุณธันวาแฟนพี่ผึ้งไง พี่เค้าช่วยเหลือพี่แก้วไว้ตั้งเยอะ”


“ก้องงงง... คุณจะ.. เฮ้ออออ”


“ผมไม่จำเป็นต้องอยากเห็นหน้าคุณนี่พี หน้าคุณลอยอยู่ในสมองผมตลอดเวลาอยู่แล้ว แค่นึกถึง เขี้ยวของคุณก็จะทิ่มหน้าผมแล้วเนี่ย”


“หรอครับ.. แล้วในมโนภาพของคุณ ผมหล่อปะ”


“ไม่เลยซักนิด ผมว่าผมหล่อกว่าคุณอีก”


“ครับ พ่อคนหน้าหล่อ หน้าหวาน หน้าบึ้ง แถมยังแอบอวบอีกด้วย”


“นี่คุณหาว่าผมอ้วนเหรอพี”


“เปล่าซะหน่อย ผมก็แค่ กลัวคุณจะเป็นอย่างพี่ตุ่มน่ะ” พีพูดพลางหัวเราะ ก้องก็ร่วมขำด้วยคน รวมทั้งจอนกับทีด้วย จนกระทั่งหมอเดินเข้ามาเพื่อเปิดตาให้ก้อง ทุกคนถึงได้เงียบและรอหมอพูด


“เดี๋ยวหมอจะเปิดผ้าปิดตาให้ จากนั้นคุณก็ค่อยๆเปิดตาช้าๆนะ” หมอพูดเป็นภาษาอังกฤษแต่ทุกคนฟังแล้วก็เข้าใจที่หมอพูด รวมทั้งก้องที่พยักหน้าตอบหมอด้วย




ค่อยๆเปิดผ้าปิดตาช้าๆ ช้าๆ จนผ้านั้นหลุดออกจากใบหน้าของก้อง ดวงตาสองข้างยังคงปิดสนิท นักกายภาพบำบัดหนุ่มค่อยๆขยังเปลือกตาขึ้นช้าๆเบาๆ กระพริบตาเล็กน้อย จนกระทั่งลืมตาทั้งสองข้างออกมาได้ชัดเจน



“เป็นไงบ้างก้อง” เสียงพีดังขึ้นข้างกายก้อง ชายหนุ่มหันศีรษะไปทางต้นเสียง พยายามกระพริบตาก่อนจะเพ่งมองร่างนั้นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น แต่ภาพที่เห็นเป็นเพียงเงาตะคุ่มเลือนรางไม่ชัดเจนของคนคุ้นเคย ก้องพยายามมากขึ้น เพ่งมองอีกครั้ง ภาพเริ่มจะพร่าเลือนเห็นเส้นสีจางๆลางๆแต่ก็ไม่ค่อยชัดเจนอยู่ดี


“เป็นยังไงบ้าง มองเห็นรึยัง” จักษุศัลยแพทย์เจ้าของไข้เอ่ยถามก้อง


“พี... พี...” ก้องร้องหาพีพร้อมกระชับมือของคนรักไว้แน่น


“ผมอยู่นี่ก้อง ผมอยู่นี่”


“ผมมองไม่เห็นน่ะพี มันพร่าไปหมดเลย” คำพูดของก้องทำเอาทั้งพี ที และจอนต่างสะเทือนใจไปตามๆกัน ความหวังที่ตั้งไว้พลันสลายลงไปทันที


“ไม่เป็นไรนะก้อง ไม่เป็นไรนะ” พีบอกก้อง พร้อมหันไปทางคุณหมอ ที่ค่อยๆเข้ามาประคองก้องไปยังห้องตรวจอีกครั้ง โดยมีพีตามเข้าไปด้วย หมอใช้เวลาตรวจสักพักก็อนุญาตให้พีพาก้องเดินออกมาข้างนอกได้ ก้องรับไม้เท้าที่พยาบาลส่งมาให้ แล้วใช้ช่วยนำทางเดินอย่างที่เคยทำ อย่างไรก็ตาม ตาที่เคยมืดสนิทก็ยังมองเห็นอะไรเลือนๆได้บ้าง ไม่ถึงกับบอดเสียทีเดียว


“หมอเค้าว่าไงบ้างพี” ทีเอ่ยถามเพื่อนรุ่นน้อง


“หมอเค้าบอกว่าตาของก้องไม่เป็นไร ยังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดเลย ว่าทำไมก้องถึงยังเห็นไม่ชัด เค้าว่า.. อาจอยู่ระหว่างช่วงปรับสภาพ คงต้องรออีกระยะ แต่ระหว่างนี้ ต้องให้ก้องใส่แว่นไว้ก่อน กันกระจกตาเทียมมีปัญหาน่ะ”


“ใส่แว่นหรอ งั้นก็เหมือนกับคุณเลยสิจอน อย่างนี้ก็แปลว่า เราจะมีโนบิตะเพิ่มขึ้นอีกคนดิพี”


“ ที คุณก็พูดเล่นไปได้ ดูหน้าน้องก้องสิ คงจะผิดหวังน่าดู” จอนเอ่ยปาก


“ไม่เป็นไรหรอกครับพี่จอน เดี๋ยวมันก็คงดีขึ้น ผมแค่แอบเสียดายมากกว่า”


“เสียดายอะไรหรอก้อง” พีเอ่ยถาม


“ก็เสียดายที่ผมไม่ได้เห็นห้องที่คุณแอบจัดน่ะสิพี ผมรู้นะ ว่าคุณตั้งใจจัดมาก”


“แล้วคุณไม่...”


“ไม่หรอก อย่างน้อยคุณก็อยู่เคียงข้างผม ผมยังมีคุณ เรายังมีกันและกันไง” ก้องยิ้มตอบพี แต่พีเดาเอาว่า ถึงก้องจะยิ้มอย่างสบายใจ แต่ในใจลึกๆคงแอบร้องไห้เสียใจอยู่แน่ๆ


“ก้อง.. งั้นคุณรู้รึเปล่า ว่าผมจัดห้องเป็นยังไง”


“อธิบายไม่ถูกอะพี ไว้ถ้าผมหายจริงๆแล้ว ผมจะจัดให้คุณดูก็แล้วกันนะ ผมว่า .... ตอนนี้เรากลับบ้านพี่ทีก่อนเถอะ ผมหิวข้าวแล้ว หลังจากนั้น ทั้งสี่คนก็พากันกลับบ้านของอดีตพระเอกหนุ่มชื่อดัง




.....



.....





“ว่าไงนะ ก้องจะกลับเมืองไทยเลยเหรอลูก” แม่ของทีอุทานออกมาอย่างตกใจ


“นั่นน่ะสิ เมยังไม่มีโอกาสพาก้องเที่ยวเลยนะ”


“ผมขอโทษจริงๆนะครับคุณป้า เม แต่ผมคิดถึงแม่ คิดถึงพี่แก้ว คิดถึงทุกคนที่โน่น อีกสิบวันก็จะถึงงานแต่งพี่แก้วแล้ว ผมไม่อยากให้พี่แก้วต้องเลื่อนงานแต่งออกไปอีก”


“แล้วก้องบอกพี่แก้วรึยังล่ะ ว่า....” จอนเอ่ยถาม


“ยังเลยครับพี่จอน ผมแค่ให้พีจองตั๋ว แล้วโทรบอกทางโน้นว่า กำลังจะกลับน่ะครับ”


“แล้วทางโน้นเค้าไม่ถามเหรอ” ทีเอ่ยถามบ้าง


“ผมบอกไปว่า เรียบร้อยดี ไม่ต้องห่วงอะครับ”


“แล้วถ้าก้องกลับไปแล้ว แม่เค้ารู้ เค้าจะไม่เสียใจเหรอลูก”


“ก็....อย่างน้อยก็ดีขึ้นกว่าเดิมไงครับ แล้วหมอก็ยังบอกด้วยว่า ตาของผมอาจจะกลับมามองเห็นได้เหมือนเดิม ตอนนี้ผมก็ดีขึ้นเยอะแล้วด้วย ไม่แน่นะครับ อาจจะกลับไปทำงานได้ด้วยซ้ำ”


“แต่ก้อง... คือว่า...” พีพยายามจะพูดบางอย่าง


“พีเค้าก็จะยังดูแลผมอยู่นี่ครับ ผมว่า แม่เค้าคงไม่เป็นไรหรอก” ก้องพยายามจะเข้มแข็งให้ทุกคนได้เห็น ถึงแม้ว่าในใจของตนจะเจ็บปวดอยู่บ้างก็ตาม พีเห็นอย่างนั้นแล้ว จึงตัดสินใจคว้ามือไปจับสร้อยคอของตนที่สวมอยู่บนคอของก้อง


“อะไรอะพี นี่มัน.... ก็สร้อยคอนกหวีดของคุณที่ให้ผมไว้ไม่ใช่หรอ”


“ก้อง.... ผมจะบอกคุณว่า ผมอยู่กับคุณเสมอ ผมรู้ว่าคุณเข้มแข็ง ไม่ว่าจะเป็นไงก็ตาม ผมจะดูแลคุณให้ดีที่สุด อย่างที่ผมสัญญาไว้กับคุณไง”


“เราจะไม่ทอดทิ้งกัน ... ผมรู้พี ผมรู้...” ชายหนุ่มทั้งสองสวมกอดเพื่อปลอบโยนกันและกันอย่างอบอุ่น ท่ามกลางสายตาของคนรอบข้างที่อิ่มสุขกับความรักของทั้งสองคน


“คุณเห็นใช่มั้ยก้อง ว่า...”


“ว่าคุณไม่มีทางทิ้งผม คุณเป็นคนรักษาสัญญา เห็นสิพี ถึงผมจะไม่เห็นด้วยตานะ แต่ผมเห็นด้วย...” ก้องดึงมือของพีมาจับที่หัวใจของตนและหัวใจของพี จากนั้น พีก็แอบจุ๊บมือของก้องเบาๆหนึ่งครั้ง เรียกเสียงวี้ดวิ้วจากเจ้าของบ้านได้ทีเดียว



.....



......







Create Date : 05 พฤษภาคม 2553
Last Update : 5 พฤษภาคม 2553 21:28:07 น.
Counter : 446 Pageviews.

14 comments
  
ดีใจจริงๆ เลย ได้อ่านแล้ว
มีความสุขมาก
แต่ก้อแอบเศร้าตามเลย
รู้สึกสงสารน้องก้อง

ขอบคุณที่มาต่อตอนใหม่
แล้วจะรอตอนต่อไปนะคะ
โดย: na IP: 124.121.32.222 วันที่: 6 พฤษภาคม 2553 เวลา:7:51:11 น.
  
ขอบคุณมากนะคะ เขียนเก่งจังเลย

รอตอนต่อไปด้วยคนคะ อย่าพึ่งหยุดเขียนนะคะ

รัก พี+ก้อง แม้วัน เวลา จะผ่านไป
โดย: หวานหวาน IP: 125.26.155.125 วันที่: 6 พฤษภาคม 2553 เวลา:19:47:46 น.
  
สงสารน้องก้อง แต่ก็อิ่มใจกะความรักของพีกะก้อง
ขอให้กลับมามองเห็นเร็ว ๆ น้า
ดีใจมากมายมาต่อฟิคแล้ว อิอิ
โดย: won2han IP: 58.8.106.250 วันที่: 7 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:24:32 น.
  
เข้ามาอ่านอีกรอบก็ยังกินใจอยู่เลย
สงสัยจะเป็นแฟนพันธ์แท้ ก้อง+พี @ คุณนิรมิตร แล้วละ
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ
โดย: na IP: 124.121.33.224 วันที่: 8 พฤษภาคม 2553 เวลา:6:20:47 น.
  
สงสาร 2 หนุ่มจังเลย
เอาใจช่วยให้ก้องกลับมามองเห็นไวๆ
เสียดายแทนคุณพี อยากให้ก้องได้เห็นห้องที่ตนเองจัด


รออ่านตอนต่อไป เอาใจช่วย 2 หนุ่ม
โดย: tipjang IP: 58.8.50.47 วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:59:18 น.
  
แอบน้ำตาซึมสงสารน้องก้องจัง แต่ก็ตื้นตันในความรักของคุณพี หวานได้ไม่สร่างซาจริงๆเลยทั้งสองหนุ่มทั้งคนแต่ง...จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ
โดย: หนูมา IP: 115.67.135.123 วันที่: 11 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:06:57 น.
  
คิดถึง ก้องกะพีจัง รอตอนต่อไปนะคะ
รักมากมายคะ
โดย: ฟ้า IP: 124.121.36.252 วันที่: 13 พฤษภาคม 2553 เวลา:3:47:49 น.
  
มีความสุขกะความรักของพีกะก้อง
ขอให้กลับมามองเห็นเร็ว ๆ
รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ คุณนิรมิตร

ขอเป็นกำลังใจให้มาต่อตอนต่อไป
เร็วๆ นะคะ
โดย: na IP: 124.121.88.141 วันที่: 16 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:39:04 น.
  


ช่วงนี้คอมมีปัญหานิดหน่อยครับ

แถมกำลังวุ่นวายกับตารางสอนนิดหน่อยด้วย..


รออีกซัก 2-3วัน แล้วกันนะ

โดย: นิรมิตร (Niramitr ) วันที่: 16 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:35:07 น.
  
นานแค่ไหนก็จะรอค่ะ ขอบคุณที่มาบอกกล่าวนะคะ
โดย: หนูมา IP: 124.121.119.250 วันที่: 19 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:25:17 น.
  
ในสถานการณ์บ้านเมืองที่เป็นอย่างนี้
ถ้าได้อ่านฟิคดีๆ ของคุณนิรมิตรมาปลอบใจ
คงมีกำลังใจขึ้นมากนะคะ
จะรอนะ
โดย: na IP: 124.121.37.151 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:7:56:25 น.
  
รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ
เขียนได้ดีมากเลย
อ่านไป น้ำตาคลอไป
555...
โดย: ning IP: 202.29.24.193 วันที่: 25 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:33:27 น.
  
รออ่านตอนต่อไปค่ะ
ลุ้นๆๆ อิอิ
โดย: นุ้งไอซ์ปลาทอง IP: 183.89.168.128 วันที่: 26 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:04:14 น.
  
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดหวานกันจังงงงงงงงงงงงงงงงงงงง-///-
โดย: น้องนิวจร้า IP: 125.27.163.13 วันที่: 27 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:30:20 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Niramitr
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]



สาวก"รักแห่งสยาม"

New Comments