All Blog
ตอนที่ 13 +++ อย่าทะเลาะกัน +++




“ตุ่ม.... ตุ่มเอ๊ย..... ตุ่ม... หายไปไหนแต่เช้านะ” ฟองจันทร์บ่นหาหลานสาวข้ามเพศแต่เช้า


“ค้า....มาแล้วค่ะป้าฟอง แค่นี้ ต้องตะโกนซะดังด้วย” ตุ่มรีบเดินไปหาป้าของตนในครัว


“ก็ชั้นเรียกแล้วทำไมไม่ขานล่ะ เอ๊อ ... เรานี่ ไปดูสิพระมารึยัง จะได้ให้ยายแก้วมาตักบาตร”


“ทำไมป้าฟองต้องให้น้องแก้วตักบาตรทุกเช้าด้วยล่ะคะ นี่ก็เกือบอาทิตย์แล้วเนี่ย”


“ก็บ้านเรามันมีแต่เรื่องน่ะสิ ให้ยายแก้วใส่บาตรซะบ้าง งานแต่งจะได้ราบรื่น คราวก่อนโน้นก็ทีนึงแล้ว” ฟองจันทร์เอ่ยถึงเรื่องเมื่อเกือบเจ็ดปีก่อน ทำให้หญิงชราอดคิดถึงลูกสาวคนโตไม่ได้ น้ำตาเริ่มจะรื้นคลออยู่บนตาสองข้างของเจ้าของบ้าน จนในที่สุด ฟองจันทร์ก็ต้องปาดน้ำตา


“คุณป้าคะ... ไม่เป็นไรนะคะ ถ้าน้องกิ่งรับรู้ จะต้องยินดีกับน้องแก้วอยู่แน่ๆค่ะ”


“นั่นสินะ... กิ่งจะต้องอวยพรน้องอยู่แน่ๆ จะไปมีเรื่องได้ยังไงล่ะ ใช่มั้ย ก้องก็หายดีแล้ว เดี๋ยววันนี้ก็คงกลับมาถึง แล้วก็จะได้ลองชุดที่แม่ตัดให้” คำพูดของฟองจันทร์ทำให้ตุ่มอึดอัดและสะอึกน้ำลายตัวเอง จนหญิงสูงวัยสังเกตเห็น และมองมาด้วยสายตาจ้องจับผิด


“ไม่มีอะไรค่ะป้าฟอง แค่ดีใจที่น้องก้องกำลังจะกลับมาน่ะค่ะ จะได้มีคนช่วยจัดบ้านเพิ่มอีกแรง”


“เออ.. ก้องนี่ก็แปลก หายดีแล้ว แทนที่จะรีบกลับมาช่วยกันเตรียมงาน มะรืนนี้ขันหมากพ่อปอก็จะยกมาอยู่แล้ว น้องชายเจ้าสาวยังไม่กลับมาซะที แทนที่จะรีบกลับมาช่วยกันเตรียมบ้านไว้รับแขก นี่ถ้ามาถึงแล้วใส่ชุดที่ตัดให้ไม่ได้นะ เสียเวลาแก้กันแย่เลย ไปอยู่ที่โน่นเป็นเดือน จะอ้วนขึ้นรึเปล่าไม่รู้ ลูกคนนี้ยิ่งอ้วนง่ายอยู่ด้วย”


“ผอมลงต่างหากล่ะคะ” ตุ่มบ่นเบาๆแต่ฟองจันทร์ได้ยินแว่วๆ


“ว่าไงนะตุ่ม ก้องผอมลงหรอ แล้วเรารู้ได้ยังไงล่ะ”


“ก็เมื่อคืน... อ๋อ... เมื่อคืนนี้น้องก้องโทเข้ามาตอนคุณป้าขึ้นนอนแล้วน่ะค่ะ แล้วน้องก้องก็บอกว่าตัวเองผอมลง” ตุ่มรีบแกตัวทันควัน


“แล้วทำไมตุ่มไม่ไปปลุกป้าล่ะ เอ๊ออออ..เรานี่ ไม่ได้เรื่อง ก็ป้าเคยสั่งแล้วไง”


“ก็น้องก้องสิคะ ไม่ให้ปลุก เห็นว่าเดี๋ยวก็เจอกันแล้ว”


“นั่นสินะ เออ.. ไปดูสิไป ว่าพระมารึยัง นี่ให้เจ๋งขึ้นไปตามแก้ว ไม่เห็นลงมาซะที”


“มาแล้วค่ะแม่ ไปค่ะ ไปตักบาตรด้วยกัน พระมาแล้วคะ ให้เจ๋งนิมนต์คอยไว้แล้ว”


“อ้าวว...ตุ่มนี่ ป้าบอกว่าให้คอยดูพระไง ดูซิ นี่ดีนะ เจ๋งไปนิมนต์คอยไว้แล้ว เรานี่ ไม่ได้เรื่อง” ฟองจันทร์พูดจบก็ให้ลูกสาวประคองไปใส่บาตรที่หน้าบ้าน


“อ้าว.. กระเทยผิดอีก ก็ใครชวนคุยล่ะ” บ่นเบาๆก็ยกสำรับสำหรับใส่บาตรตามออกไปหน้าบ้านทันที ขณะเดียวกัน ก้องบดินทร์และพีรวิชญ์ก็ย่องลงมาจากบันไดพอดี


“จะไปใส่บาตรกันเหรอพี่ตุ่ม งั้นก้องออกไปใส่บาตรด้วยคนนะ”


“จะดีเหรอคะน้องก้อง ไหนว่าจะเวอร์ไพร้ส์ป้าฟองกับน้องแก้วไง”


“ก็เอาตอนใส่บาตรนี่แหละ .. ดีแล้ว”


“งั้นก็ได้ค่ะ งั้นให้พี่ออกไปก่อน แล้วค่อยตามออกไปนะคะ”


“พี่ตุ่ม.. เร็วหน่อยสิคะ หลวงพี่ท่านคอยนานแล้วนะ” เสียงแก้วกัญญาตะโกนออกมาจากรั้วหน้าบ้าน ก่อนที่เจ๋งจะเดินมาถึงแล้วช่วยยกสำรับอีกแรง หลังจากตุ่มกับเจ๋งออกไปซักพัก พีกับก้องก็ตามออกไปเช่นกัน



แก้วกัญญาและฟองจันทร์ใส่บาตรพระรูปแรกเสร็จก็ประนมมือขึ้นจรดหน้าผากแล้วอธิษฐานในใ




“อธิษฐานอะไรอยู่เหรอพี่แก้ว” เสียงชายหนุ่มเอ่ยถาม ดังมาจากในตัวบ้าน


“ก็อธิษฐานให้ก้องปลอดภัยกลับมาเร็วๆน่ะสิ” แก้วตอบเสร็จ ก็นึกได้ว่า เสียงที่เอ่ยถามช่างคุ้นหูนัก ฟองจันทร์เองก็เช่นกัน รู้สึกคุ้นหูมาก สองแม่ลูกจึงหันหน้ากลับไปมองที่ต้นเสียง เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งสวมเสื้อยืดสีขาว แขนสั้นเป็นสีเทา และสวมกางเกงยีนส์สีขาวยืนยิ้มอยู่ตรงประตูรั้ว


“ก้อง....” หญิงชราอุทานแล้วโผเข้ากอดร่างแอบอวบของลูกชายที่ยืนคอยอยู่ ก้องเองก็เช่นกัน ให้พีช่วยกะระยะห่างระหว่างตนกับแม่ไว้ก่อนแล้ว จากนั้นก็โผเข้าหาอ้อมกอดของมารดาด้วยจังหวะที่พอดี ฟองจันทร์สวมกอดลูกชายเสียแน่น แล้วก็พรมจูบกับหอมแก้มลูกชายคนเดียวโดยไม่เกรงใจพระรูปที่สองที่กำลังคอยรับบาตรอยู



“เป็นไงบ้างลูก แม่คิดถึงแทบแย่ แล้วนี่กลับมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ ไหนบอกว่าจะมาถึงช่วงบ่ายวันนี้ไง ดูซิ ผอมลงไปตั้งเยอะแน่ะ แล้วตาเป็นไงบ้าง มองเห็นแม่ชัดแล้วใช่มั้ย..”


“จ้ะแม่ ก้องชอบให้แม่ใส่เสื้อตัวนี้จังเลย” ก้องพูดจบ ฟองจันทร์ก็กอดก้องอีกครั้ง จากนั้น แก้วกัญญาที่ยืนคอยอยู่ก็เข้ามาสวมกอดน้องชายด้วยความคิดถึงอีกคน ผู้เป็นน้องชายสวมกอดพี่สาวเสียแน่นด้วยความห่วงใย และคิดถึง ก้องเหลือพี่สาวแค่คนเดียว ความหวังของก้องก็คือการเห็นพี่สาวได้มีความสุขกับคนที่รักเสียที หลังจากต้องผ่านห้วงเวลาแห่งความเจ็บปวดมานานถึงหกปีครึ่ง หลังจากการไปอย่างไม่หวนกลับของพี่สาวคนโต


“ไปอยู่โน่น เป็นไงบ้าง” แก้วคิดถึงน้องชายมาก แต่ไม่รู้จะถามอะไร


“ไม่ต้องห่วงหรอกพี่แก้ว พีเค้าดูแลก้องเป็นอย่างดี” ก้องตอบพี่สาว ซึ่งหันไปมองแล้วยิ้มให้พี


“แล้วตาของก้องเป็นไงบ้าง หายดีแล้วใช่มั้ย” แก้วถามน้อง แต่ก้องไม่พร้อมจะตอบ จึงได้แต่ยิ้มๆ


“เอ่อ.. พี่แก้วครับ ผมว่า พี่แก้วใส่บาตรก่อนดีมั้ยครับ หลวงพี่ท่าน.. ยืนคอยนานแล้ว” พีรีบแก้ไขสถานการณ์โดยเตือนแก้วให้รีบใส่บาตร


“จริงด้วยยายแก้ว มาเร็วลูก อย่าให้ท่านคอยนาน ขอโทษท่านด้วยนะเจ้าคะ”


“ไปก้อง ไปใส่บาตรด้วยกันกับแม่ดีกว่า..” แก้วเอ่ยปากแล้วจูงมือน้องชายไปใส่บาตรกับแม่


“มาก้องมาลูก มาใส่บาตรกับแม่ ไปอยู่โน่นตั้งนาน ไม่ได้ใส่บาตรกับแม่ตั้งนานแล้ว มานี่ลูก มาตักข้าวใส่ไปในบาตรหลวงพี่ท่าน” ฟองจันทร์ดึงมือก้องไปหาแล้วส่งขันข้าวให้ก้อง นักกายภาพบำบัดหนุ่มตักข้าวด้วยทัพพี แล้วพยายามจะใส่ลงไปในบาตรพระ ภาพที่ปกติพร่าเลือนจนชายหนุ่มมองไม่เห็นอยู่แล้ว กับพร่ายิ่งขึ้นด้วยแสงแดดที่แยงเข้าตา ก้องมองไม่เห็นว่าบาตรอยู่ตรงไหน ขณะกำลังจะเทข้าวลงไป ทัพพีก็เกิดเอียง ข้าวจะหกแหล่ไม่หกแหล่ ก้องพยายามรวบรวมสติให้นิ่งไว้ กระพริบตาถี่ๆ ท่ามกลางความแปลกใจของพี่สาวและแม่


“ก้อง เป็นไรลูก” ฟองจันทร์หันไปถามลูกชายด้วยความเป็นห่วง ก้องพยายามจะใส่บาตรให้ได้ แต่ก็วางทัพพีไม่ตรงกับตำแหน่งของบาตร ขณะที่กำลังจะพลาดนั้น มือข้างหนึ่งก็มากระชับมือของก้อง แล้วจับทัพพีร่วมกัน ใส่บาตรด้วยกัน


“มาก้อง ผมใส่บาตรกับคุณด้วย” พีเข้ามาช่วยก้องตักบาตร ฟองจันทร์ห็นแล้วก็ยิ้มชื่นใจ แต่แก้วกัญญากับแปลกใจและสงสัยขึ้นมา ว่าที่เจ้าสาวไม่เอ่ยถามอะไร แต่ก็รอจนตักบาตรเสร็จแล้วสังเกตเห็นพีจูงมือก้องเดินเข้าบ้าน ท่าทางดูแลมากเกินไปอย่างผิดสังเกต






“ก้อง ตาของเราน่ะ หายดีแล้วแน่หรอ” แก้งเอ่ยถามน้องชายทันทีที่เดินกลับเข้าในบ้าน


“คือ... ก้อง... เอ่อ...” ก้องตะกุกตะกักไม่ยอมตอบ


“เป็นไรแก้ว ทำไมถึงถามน้องยังงั้นล่ะลูก”


“ก็แก้วสงสัยน่ะสิคะแม่ ว่าตาของก้อง ยังไม่หาย ว่าไงก้อง บอกพี่มาสิ”


“คือ.....แม่... พี่แก้ว...”


“พี่แก้วครับ คือว่า..” พีพยายามจะช่วยก้องแก้ตัว แต่ก็นึกคำพูดไม่ออก


“พี่กำลังถามก้องอยู่นะ พีไม่ต้องช่วยก้องตอบ ว่าไงล่ะก้อง ก้องยังมองไม่เห็นใช่มั้ย”


“จริงเหรอลูก ก้อง.. ตาของก้องยัง... แล้วทำไม...”


“แม่.. พี่แก้ว ก้องขอโทษ คือ...” ก้องหันไปทางทิศที่พี่อยู่ พยายามหาคนช่วยพูดแทน


“คือยังงี้ครับป้าฟอง พี่แก้ว คือ หมอที่โน่นเค้าบอกว่า การผ่าตัดสำเร็จด้วยดีแล้ว แต่ที่ก้องเค้ายังมองไม่เห็นก็เป็นเพราะ.... เพราะ... เอ่อ... มันยังอยู่ในช่วงปรับสภาพน่ะครับ”


“จริงเหรอก้อง” ป้าฟองหันไปถามลูกชาย


“จ้ะแม่.. นี่ก้องก็เห็นอะไรขึ้นตั้งเยอะแล้วนะ ถึงจะพร่าๆมัวๆอยู่บ้าง”


“ก็แปลว่ายังไม่หายดี แล้วทำไมก้องต้องโกหกพี่ โกหกแม่ด้วย..”


“ก็....” เพราะอะไรไม่รู้ ก้องเกิดอยากมองเท้าตัวเองมากกว่าหน้าพี่สาว ถึงแม้จะมองไม่เห็นก็ตาม


“ก้องเค้าอยากให้พี่แก้วแต่งงานกับพี่ปอไงครับ เค้าไม่อยากให้พี่แก้วต้องเลื่อนงานแต่งออกไปอีก เพราะถ้าพี่แก้วรู้ว่าก้องเค้ายังไม่หายดีล่ะก็ พี่แก้วต้องไม่ยอมแต่งกับพี่ปอแน่ๆ” พีพูดแทน


“ใช่พี พี่จะยังไม่แต่งกับพี่ปอ ถ้าก้องยังไม่หาย แต่นั่นมันก็เรื่องของพี่ พี่เคลียร์กับพี่ปอได้”


“แล้วพี่แก้วไม่สงสารพี่ปอเค้าบ้างหรอ” จู่ๆก้องก็มีเสียงขึ้นมา
“พี่ปอเค้ารักพี่แก้วมาก เค้ารอพี่แก้วมาตั้งหกเจ็ดปี พี่แก้วไม่คิดถึงความรู้สึกของพี่ปอเค้าบ้างหรอ”


“ก้อง พี่ไม่ได้..”


“ก้องรู้ว่าพี่แก้วเป็นห่วงก้อง แต่ก้องก็ไม่อยากให้เรื่องของก้องไปทำลายความสุขของพี่แก้ว พี่แก้วทำเพื่อแม่ เพื่อพวกเรามามากแล้วนะ พี่แก้วยอมทิ้งพี่ปอก็เพื่อพวกเรา ยอมเลื่อนงานแต่งมาครั้งนึงก็เพื่อก้อง คราวนี้ ก้องจะไม่ยอมให้พี่แก้วทำเพื่อก้องอีก พี่แก้ว ก้องว่าถึงเวลาที่พี่แก้วจะต้องนึกถึงตัวเอง นึกถึงคนที่พี่แก้วรัก และเค้าก็รักพี่แก้วมาก และจะต้องอยู่กับพี่แก้วไปตลอดชีวิตได้แล้วนะ” นักกายภาพบำบัดหนุ่มพูดจบก็กลับไปนั่งข้างๆแม่เช่นเดิม


“ก้องลูก...” ฟองจันทร์กอดลูกชายอย่างห่วงใยแล้วหันไปมองหน้าลูกสาว บรรยากาศในบ้านเริ่มจะมาคุเล็กๆ ชายหนุ่มที่ไม่เคยขึ้นเสียงกับพี่สาวมาก่อน ถ้าไม่นับตอนที่ถูกพี่สาวตบหน้าครั้งนั้น กลับขึ้นมาเถียงให้พี่สาวทำเพื่อตนเอง แก้วเองก็รู้ว่าน้องรักและห่วงใย แต่จะให้ตัดใจแต่งงานทั้งๆที่น้องยังไม่หายดี ตนเองก็ทำใจลำบาก


“พี่แก้วครับ ผมว่าก้องเค้ามีโอกาสกลับมาเห็นเหมือนเดิมอีกครั้งแน่ๆครับ พี่แก้วไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ ยังไง ผมก็จะดูแลก้องให้ดีที่สุด” พีบอกกับพี่สาวของคนรัก


“จริงด้วยค่ะน้องแก้ว น้องก้องเค้ามีน้องพีดูแลอยู่แล้ว พี่ว่าน้องแก้วไม่ต้องเป็นห่วงน้องก้องหรอกนะคะ อย่าเลื่อนงานแต่งออกไปอีกเลยนะ”


“เดี๋ยวสายๆ ผมจะพาก้องเค้าไปหาหมอ เผื่อจะเป็นข่าวดี” พีบอกป้าฟอง


“จริงเหรอลูก ก้องจะหายดีใช่มั้ยลูก”


“จ้ะแม่ ก้องจะต้องหายดีแน่นอนจ้ะ” ลูกชายบอกผู้เป็นแม่แล้วยื่นหน้าไปให้แม่หอมฟอดใหญ่


“ขอบใจมากนะพ่อพี ที่ช่วยดูแลก้องแทนป้า”


“ครับป้าฟอง ก็ผมสัญญากับป้าฟองกับพี่แก้วแล้วไงครับ ว่าผมจะดูแลก้องให้ดีที่สุด”


“แหม..แหม..คุณป้าคะ ยังจะให้น้องพีเรียกคุณป้าว่าป้าอีกเหรอคะ ตุ่มว่านะ.. น้องพีน่ะ น่าจะเรียกป้าฟองว่าแม่ได้ตั้งนานแล้วนะ ใช่มั้ยไอ้เจ๋ง” ตุ่มหันไปทางเจ๋งเพื่อหาเสียงสนับสนุน


“นั่นสิน้องพี เรียกป้าฟองว่าแม่ได้แล้วมั้ง เรียกแบบที่พี่ปอเรียกไง”


“จะดีเหรอครับ คือผม....”


“ดีสิลูก ก็ป้า เอ้ย.. แม่น่ะ เห็นพีเหมือนลูกของแม่คนนึง แม่ถือว่าพีเป็นคนในครอบครัวของเราแล้ว พีก็ควรเรียกแม่ว่าแม่ได้แล้วนะลูก”


“ผมว่า... ผมยังไม่เรียกดีกว่าครับ” คำตอบของพี ทำเอาทุกคนหันมามองที่เดียวกันรวมทั้งก้องด้วย


“ทำไมล่ะคะน้องพี” ตุ่มถามเป็นคนแรกในคำถามที่ทุกคนอยากถามเช่นกัน


“ก็ผมเคยสัญญากับตัวเองเอาไว้ ว่าผมจะต้องทำให้ก้องกลับมามองเห็นเหมือนเดิมให้ได้ แล้วตอนนี้ ผมยังทำไม่สำเร็จ เอาไว้เมื่อไหร่ที่ก้องสามารถมองเห็นได้เหมือนเดิม วันนั้น ผมจะเรียกคุณป้าว่าแม่นะครับ” พีบอกกับทุกๆคน


“เอางั้นเหรอลูก งั้นก็ตามใจเราแล้วกัน แล้วเราล่ะแก้ว ว่าไง เรื่องงานแต่งน่ะ นี่ก็ใกล้วันแล้วนะ แม่ว่า ถึงแก้วอยากจะเลื่อนออกไปก่อน ก็คงไม่ทันแล้วล่ะมั้ง” ฟองจันทร์หันไปถามลูกสาว


“ก็.... แก้ว.... แก้วไปทำงานก่อนนะ” แก้วกัญญาบ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถาม เพราะใจหนึ่งก็อยากจะแต่งงานกับคนรัก แต่อีกใจก็อดห่วงน้องชายไม่ได้ หญิงสาวรีบเดินเข้าไปในบ้านเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน ด้วยสีหน้าที่เดาได้ยาก จึงไม่มีใครกล้าถามอีก


“งั้นพวกผมเข้าบ้านไปก่อนนะครับป้าฟอง เดี๋ยวจะต้องพาก้องไปให้หมอเช็กหน่อยน่ะครับ”


“ตกลงว่าให้หมอเช็กน้องก้องหรือเช็กหน่อยกันแน่ละพี” เจ๋งถามด้วยใบหน้ามึนๆงงๆ


“พอเลยไอ้เจ๋ง นี่โง่หรือแกล้งโง่กันเนี่ย ไปเถอะค่ะป้าฟอง เราก็เข้าบ้านกันบ้างดีกว่า” ตุ่มหันไปว่าเจ๋ง จากนั้นก็ชวนป้าฟองเข้าบ้าน แต่พอหันไปมอง ปรากฏว่าป้าฟอง พี และก้อง ต่างพากันเดินเข้าไปในบ้านกันแล้ว


“อ้าว... ไม่รอกันเลย เดินลิ่วไปโน่นแล้ว ... ป้าฟอง รอตุ่มด้วยสิคะ” ตุ่มตะโกนเรียกแล้วรีบแจ้นตามเข้าไปในบ้าน




...




...





“เป็นไรก้อง...” พีเอ่ยถามชายหนุ่มที่ยืนข้างๆหลังจากเดินออกมาจากห้องตรวจจักษุเวชกรรม


“ผมก็แค่... . พี ... ผมจะทำยังไงดี ผมจะทำยังไง” หยดน้ำไหลออกจากสองตาของนักกายภาพบำบัดหนุ่ม


“ก้อง... คุณฟังผมนะ คุณไม่ต้องทำอะไร เข้าใจมั้ย”


“แต่ผม... ผมกลัวนะพี ผมกลัว...” ร่างแอบอวบเข้าไปอิงไหล่ของชายหนุ่มคนรักที่สวมกอดร่างนั้นอย่างห่วงใย พลางปลอบอย่างอ่อนโยน


“ไม่ต้องกลัวนะก้อง.. ผมอยู่นี่แล้ว คุณมีผมอยู่นี่แล้วนะก้อง”


“พี...” ก้องกอดพีแน่นขึ้น พีเองก็กอดก้องแน่นเช่นกัน


“คุณว่าแม่คุณจะว่าไงบ้าง ถ้าได้ยินข่าว” พีเอ่ยถามก้อง


“ไม่รู้สิพี แต่เจ๊ตุ่มน่ะ ต้องกรีดร้องลั่นบ้านแน่ๆ”


“งั้น เรารีบกลับบ้านไปบอกป้าฟองกันเถอะ”


“ยังไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ ผมอยากดื่มชาก่อนน่ะพี ได้เวลาแล้วใช่ปะ”


“อยากดื่มชาหรอ งั้นก็ได้ ผมพาคุณไปที่คอนโดผมก่อน แล้วตอนเย็นผมค่อยไปส่งคุณที่บ้าน”


“งั้น ก่อนกลับ คุณช่วยแวะซื้ออะไรให้ผมหน่อยนะ”


“อะไรหรอก้อง”


“ผมอยากกินบะหมี่เกี๊ยวน่ะพี คุณช่วยแวะไปซื้อที่ร้านโปรดพี่ที ที่อยู่ใกล้ๆคอนโดเก่าพี่จอนหน่อยนะ” ก้องมองพีด้วยแววตาอ้อนๆ ถึงจะยังพร่ามัวอยู่ก็ตาม


“เอาแคบหมูเยอะๆด้วยปะก้อง.. แล้ว ถ้าเราซื้อเสร็จแล้ว เราค่อยโทรไปหาพวกทีกันนะ” พีบอกก้องแบบคนที่รู้ทันกันว่า ก้องต้องการแกล้งยั่วทีกับจอน




...




...




เย็นวันนั้น พีแวะซื้อบะหมี่เกี๊ยวไปหลายถุง และพาก้องกลับไปส่งที่บ้านป้าฟอง ขณะที่พาก้องเข้าไปในบ้านนั้น ก็ได้ยินเสียงบางอย่าง



“แก้วตัดสินใจแล้วนะค่ะแม่ แก้วจะเลื่อนงานแต่งงานออกไปก่อน รอจนกว่าก้องจะหาย”


“ได้ยังไงกันยายแก้ว งานแต่งก็เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว แล้วปอล่ะ ปอจะว่าไง”


“แก้วคุยกับปอแล้ว ปอเค้าไม่เห็นว่าอะไรเลย”


“ปอเค้าไม่ว่าอะไร เพราะเค้าพูดไม่ออกมากกว่ามั้ง อะไรกันยายแก้ว นี่งานแต่งนะลูก การ์ดก็แจกหมดแล้ว ไหนจะแขกผู้ใหญ่อีก โตแล้วนะลูก ทำไมทำอะไรเป็นเด็กๆอย่างนี้ล่ะ”


“แก้วรู้ค่ะ ว่ามันไม่ถูกต้อง แต่แก้วจะมีความสุขในงานแต่งของแก้วได้ไง ถ้าน้องชายของแก้วยังเป็นอยู่แบบนี้”


“ก็ในเมื่อรู้ว่าไม่ถูก แล้วจะยกเลิกงานแต่งทำไม แก้วต้องนึกถึงคนอื่นๆด้วยสิลูก” สองแม่ลูกกำลังทะเลาะกันเรื่องการยกเลิกงานแต่งของแก้วอย่างดุเดือด ตุ่มกับเจ๋งที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนตัวสั่นจนพีกับก้องเดินเข้ามาในตัวบ้าน


“แต่เรื่องงานแต่ง มันเป็นเรื่องของแก้วกับปอ... แล้ว....”


“อ๋อ... นี่แก้วหาว่าแม่เข้าไปวุ่นวายเรื่องงานแต่งของเราสองคนหรอ นี่.....”


“แก้วไม่ได้หมายความอย่างงั้น คือแก้ว....”


“อย่าทะเลาะกัน....” เสียงชายหนุ่มดังขึ้นขัดจังหวะการโต้เถียงของคนในบ้าน แต่คงเบาไปเพราะผู้เป็นแม่กับน้องสาวยังคงเถียงกันต่อไป




..




...



Create Date : 14 มิถุนายน 2553
Last Update : 14 มิถุนายน 2553 1:11:44 น.
Counter : 435 Pageviews.

11 comments
  
สนุกมากเลยคะ อ่านแล้วนึกไปถึงฉากตอนที่ก้องห้ามไม่ให้แม่ทะเลาะกับพี่แก้วเลย ความรักของพีที่มอบให้ก้องน่าชื่นชมจังเลย มีความสุขไปกับก้องด้วยจริงๆ แต่ก็แอบลุ้นนะคะว่าก้องจะมองเห็นหรือยัง คุณนิรมิตรใจร้ายจังไม่ยอมเฉลยให้หมดด้วย แต่ยังไงก็ขอบคุณที่มาต่อเรื่องราวก้องพี แล้วมาต่อตอนต่อไปเร็วๆนะคะเป็นกำลังใจให้คะ
รักก้องพี รักคนเขียน มากมาย
โดย: นา IP: 124.121.37.197 วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:7:36:10 น.
  

มารอลุ้นว่าน้องก้องจะมองเห็นเมื่อไหร่
เป็นกำลังใจให้คุณนิรมิตรน่ะค่ะ
โดย: ภัทร IP: 124.122.129.95 วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:9:45:00 น.
  
แวะมาเยี่ยมครับหนา

โดย: nuyect วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:12:32:35 น.
  
สนุกมากเลยค่ะ

ตอนต่อไปลุ้นให้น้องก้องมองเห็นนะคะ
ถึงจะไม่เท่าคนปกติ แต่เห็นแค่ช่วยตัวเองได้ก็ยังดี

สงสารน้องแก้วค่ะ รักน้องเหลือเกิน น่ารักมากเลย
โดย: ่jadja IP: 58.64.48.98 วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:15:23:25 น.
  
คุณนิรมิตร ทำให้นึกถึงตอนที่ก้องมองไม่เห็นเลยค่ะ

พี่กับพี่แก้วก้ทะเลาะกัน น้องก้องก็บอกว่า "อย่าทะเทาะกัน"

"ก้องมองไม่เห็นแล้ว"

หวังว่าตอนต่อไปน้องกองคงมองเห็นนะคะ

" ก้องมองเห็นแล้วครับ"

ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ จะเข้ามาติดตามตอนต่อไปค่ะ

อยากเห็นน้องก้องใส่ชุดแต่งงาน
โดย: polla IP: 115.67.141.105 วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:18:56:57 น.
  
มาลุ้นตัวโก่งด้วยคนค่ะ อยากให้น้องก้องมองเห้นเร็วจังค่ะคุณบอล จะรอต่อไปนะคะ
โดย: หนูมาซอย 3 IP: 124.121.113.172 วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:22:06:59 น.
  
มารอลุ้นให้น้องก้องหายไวๆ คุณพีจะได้มีความสุขมากกว่านี้

รออ่านตอนต่อไปอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้คนเขียน
โดย: tipjang วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:22:41:24 น.
  
ขอมารอลุ้นให้น้องก้องหายไวๆ ด้วยคนนะคะ อยากรู้ตอนต่อไปแล้วละจะเป็นอย่างไร ส่งกำลังใจไปหาคุณนิรมิตรเต็มๆ เลยนะคะ ได้รับหรือยัง ถ้าได้รับแล้วก็เขียนมาเร็วๆคนอ่านแอบลุ้นและรอคอยคะ

โดย: na IP: 124.121.107.65 วันที่: 18 มิถุนายน 2553 เวลา:20:22:41 น.
  
รออ่านตอนต่อไปอยู่นะ ขอให้น้องก้องหายซีทีเหอะ อยากให้ก้องพีได้สวีทกันเต็มเต็มบ้าง สงสารคุณพีแล้ว
รออ่านนะ
โดย: aumaum IP: 61.47.31.49 วันที่: 22 มิถุนายน 2553 เวลา:18:26:56 น.
  
ตามมาจากใน PKC ค่ะ ... ตามมาช้าไปนิด ต้องตามเก็บอีกหลายตอน

ขอบคุณสำหรับฟิคนะคะ
โดย: ชมพู IP: 203.185.131.97 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:43:39 น.
  
แต่งเก่งจังงงงงงงงงงงงง
โดย: น้องนิวจร้า IP: 125.27.163.13 วันที่: 27 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:50:27 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Niramitr
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]



สาวก"รักแห่งสยาม"

New Comments