All Blog
ตอนที่ 01 +++ ออกเดินทาง +++



ก๊อก... ก๊อก... ก๊อก... เสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าห้องนอนของหญิงสาว

“เข้ามาได้เลยค่ะ” เจ้าของห้องเอ่ยออกไปดังๆ

ชายหนุ่มคนหนึ่ง ผลักประตูเข้ามาเบาๆ มือซ้ายพยายามวาดแขนไปข้างหน้าเพื่อคลำทาง ในขณะที่มือขวาก็ถือไม้เท้า เคาะพื้นบอกจังหวะการเดินของตนเอง

“ก้อง มีอะไร ให้พี่ไปหาก็ได้ ไม่เห็นต้องลำบากมาด้วยตัวเองเลย แล้วนี่พีกลับไปแล้วหรอ” แก้วกัญญาบ่นน้องชายที่พยายามมาที่ห้องตนทั้งๆที่ตายังมองไม่เห็น

“กลับไปแล้วพี่แก้ว ก้องเข้านอนแล้ว แต่นอนไม่หลับ ก็เลยแวะเข้ามาคุยกับพี่แก้วน่ะ” ก้องบดินทร์ตอบพี่สาวของตน

“มีอะไรเหรอก้อง”

“พี่แก้ว อาทิตย์หน้าก้องต้องไปอเมริกาแล้วนะ”

“หมอที่โน่นเค้านัดวันมาแล้วหรอ” น้ำเสียงแก้วกัญญาเป็นกังวลเล็กน้อย

“ฮะ.. เพิ่งโทรมาบอกเมื่อหัวค่ำ ก่อนที่พีจะกลับน่ะ”

“แล้วก้องบอกแม่รึยัง”

“บอกแล้ว และแม่ก็เอาเอกสารของก้องให้พีไปทำวีซ่าให้แล้วด้วย”

“ดีแล้ววว ก้องไปรักษาตาแล้ว จะได้กลับมาเห็นพี่ในชุดเจ้าสาวไง”

“ก้องแค่อยากบอกพี่แก้ว พี่แก้วอย่าเลื่อนงานแต่งงานกับพี่ปอเลยนะ” น้ำเสียงของก้องบดินทร์อ่อนโยน แสดงถึงความห่วงใยที่มีต่อพี่สาวของตน

“เราคุยกันเรื่องนี้แล้วไงก้อง ตราบใดที่ก้องยังมองไม่เห็น พี่ก็จะยังไม่ยอมแต่งงานเด็ดขาด” น้ำเสียงแก้วกัญญาแข็งขัน

“แล้วพี่แก้วไม่สงสารพี่ปอหรอ รอมาตั้งหกปีครึ่งแล้วนะ”

“แล้วจะให้พี่ทิ้งก้องกับแม่ไปได้ไงล่ะ ปอเค้ารักพี่ ยังไงเค้าก็ต้องเข้าใจ”

“แต่ก้องไม่อยากเป็นต้รเหตุให้....”

“งั้นก้องก็ต้องไปรักษาเร็วๆสิ แล้วรีบหาย กลับมาดูเจ้าสาวแก้วกัญญาด้วยตาของก้องเองไง ไม่มีพี่กิ่งแล้ว พี่ก็เหลือแค่ก้องเป็นน้องคนเดียว พี่ต้องทำหน้าที่ดูแลแม่ดูแลก้องแทนพี่กิ่งด้วย ดังนั้น ก้องต้องหาย ต้องมองเห็นนะ พี่จะได้แต่งงานอย่างหมดห่วง”

“พี่แก้ว” ก้องบดินทร์โผเข้าหาพี่สาวของตน น้ำตาเอ่อคลออยู่ที่เบ้าตา ของดวงตาสองข้างที่มองไม่เห็น แต่สะท้อนความรักความห่วงใยที่พี่น้องมีต่อกันได้ดีกว่าตาดีๆเสียอีก

“ก้องเอ๊ยย” แก้วกัญญาประโลมน้องชายขี้แงของตน พูดจบก็ดึงร่างของน้องชายเข้ามาสวมกอดอย่างเบามือ ก้องบดินทร์ก็สวมกอดพี่สาวด้วยความรักเช่นกัน

“แล้วถ้าก้องไปแล้ว พี่แก้วไม่เหงาแย่หรอ”

“พี่ไม่ใช่เด็กแล้วนะ จะได้เป็นลูกแหง่ขี้เหงา ขี้อ้อนเหมือนเราน่ะ ที่พูดเนี่ย กลัวตัวเองจะเหงาอะดิ” พี่สาวกระเซ้าน้องชาย

“ก็... ไม่รู้ดิ คนไม่เคยไปเมืองนอกนี่นา”

“มีพีคอยดูแลก้อง พี่ค่อยไว้ใจได้หน่อย ว่าแต่ เรื่องที่บริษัทคุณพิพัฒน์ไม่มีปัญหาแน่นะ”

“ตอนนี้พี่เค้าถือหุ้นใหญ่อยู่น่ะพี่ เพราะเค้าได้หุ้นพี่ชายพิการของเค้ามาด้วย แต่พี่เค้าไม่ถนัดเรื่องพวกนี้ ก็เลยมอบหมายให้คุณทนายคนนั้น ที่เคยมาบ้านเราน่ะ ช่วยเป็นธุระเรื่องขายหุ้นบางส่วนไปซะ

“แล้วพีเค้าไม่เสียดายบริษัทของพี่เค้าหรอ”

“จะเสียดายทำไม ก็ขายหุ้นให้พี่ปอไง พี่ปอจะได้ควบรวมกิจการได้ง่ายๆ พีเค้ารอใช้เงินปันผลก็พอแล้วมั้ง เค้าบอกว่าจะเอาเงินที่ขายหุ้นบางส่วนมาลงทุนทำอะไรที่เค้าชอบดีกว่า”

“หรอ ก็ดีเนอะ แล้วพีเค้าอยากจะทำอะไรล่ะ” แก้วกัญญาเอ่ยถามก้องบดินทร์ที่ตอนนี้เลิกร้องไห้กอดพี่สาวแล้ว แต่เปลี่ยนมานอนหนุนตักแทน ให้พี่สาวลูบผมเล่น

“พีเค้ายังไม่รู้เลยพี่แก้ว เอาไว้ให้ก้องหายดีแล้วกลับมาก่อน ค่อยคิดอีกที

“อือ...” แก้วกัญญาตอบรับคำตอบของน้องชาย ที่แกล้งนอนหลับบนตักของพี่สาวไปแล้ว

“ไม่เอานะก้อง ลุกเดี๋ยวนี้เลย ไปนอนที่ห้องเราโน่น แน่ะ ยังไม่ลุกอีก” แก้วกัญญาใช้มือตีน้องชายเบาเพื่อกระตุ้นให้ก้องบินทร์ลุกออกจากตักของตน

“โห ขอนอนอีกหน่อยก็ไม่ได้ กำลังสบายเลยอะพี่แก้ว ตักพี่แก้วนิ้มนิ่มอะ”

“ไม่ต้องมาทำเสียงอ้อนเลย ไว้ไปอยู่อเมริกาแล้วค่อยไปอ้อนพีโน่น ไป กลับห้อง เดี๋ยวพี่ไปส่ง” แก้วกัญญาพยายามดึงก้องบดินทร์จนยอมลุกขึ้น แล้วพาน้องชายเดินไปส่งที่เตียงนอน




.....




.....




08.00 น. สนามบินสุวรรณภูมิ ในวันเดินทางของก้องบดินทร์กับพีรวิชญ์


“ป้าฝากก้องกับพีด้วยนะลูก ป้ารู้ ว่าป้าไว้ใจและเชื่อใจคนไม่ผิด พีต้องดูแลลูกของป้าได้” ฟองจันทร์กำลังฝากลูกชายคนเล็กให้คนที่ลูกชายรักช่วยดูแล

“ครับคุณป้า ผมจะดูแลก้องอย่างดีครับ ผมสัญญาครับ” พีรวิชญ์โผร่างโปร่งของตนเข้ากอดร่างท้วมของหญิงชราที่อ้าแขนรับรออยู่แล้ว

“ก้องมานี่ลูก” ฟองจันทร์เรียกก้องบดินทร์ที่ยืนใกล้ๆเข้าไปหาตน

“ก้อง เราน่ะ ไม่เคยต้องห่างแม่ไปนานๆ คราวนี้ไปรักษาตาที่เมืองนอกตั้งเดือนนึง ไปอยู่โน่น ต้องดูแลตัวเองดีๆนะ ถึงพีเค้าจะดูแลก้อง แต่ก็อย่ารบกวนเค้ามากนัก แล้วเราน่ะ ต้องคอยดูแลพีเค้าด้วยล่ะ เข้าใจมั้ยลูก”

“แหม ป้าฟองคะ น้องก้องตาบอดนะคะ ต้องให้น้องพีคอยดูแลสิคะ ถึงจะถูก จะให้น้องก้องไปดุแลน้องพีเค้าได้ยังไง ใช่มั้ยไอ้เจ๋ง” เสียงเจ๊ตุ่มดังขึ้น

“ใช่จ้ะป้า เจ๊ตุ่มพูดถูก พีอะ ต้องเป็นฝ่ายดูแลน้องก้องอะ ถูกแล้ว” เจ๋งเสริมทัพอีกคน

“พวกเราจะไปรู้อะไร เรื่องภายนอกอะใช่ พีเค้าต้องดูแลก้อง แต่เรื่องภายในใจน่ะ ก้อง ต้องหมั่นดุแลพีบ้าง” ฟองจันทร์ตวาดหลานทั้งสองเบาๆ

“โถป้าฟอง น้องพีน่ะ เค้าโตเมืองนอกนะคะ อยู่คนเดียวมาได้ตั้งหลายปี พีเค้าเก่งออกจะตาย ใช่มั้ยพี” ผึ้งพยายามช่วยเจ๊ตุ่มกับเจ๋งอีกทางหนึ่ง

“ครับพี่ผึ้ง” พีรวิชญ์ตอบแบบมึนๆ

“พี ป้ารู้ว่าพีน่ะเก่ง แต่ลึกๆแล้ว พีน่ะ คงจะเหงามาก ไม่งั้นคงไม่ไปตะลอนแข่งรถหรอก แล้วไปเที่ยวนี้ พี่จะต้องดูแลก้อง คงจะไม่มีเวลาไปแข่งรถแก้เหงาได้อีก ป้ารู้ ว่าก้องไปเป็นภาระให้พีไม่สามารถเป็นอิสระได้เหมือนเมื่อก่อน แต่พีมีก้องอยู่เป็นเพื่อน พีจะเข้มแข็ง และไม่เหงาใช่มั้ยลูก พี่เองก็เหมือนกับปอ ที่ตอนนี้เราน่ะไม่มีใคร เพราะพี่ชายเราก็ป่วยอยู่แบบนั้น แต่ป้าอยากให้พี่จำไว้เสมอ ว่าพียังมีก้อง มีพวกป้านะลูก” คำพูดของฟองจันทร์ทำให้ทุกคนนิ่งอึ้ง คำพูดของหญิงสูงวัยที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากมาย เคยบอบช้ำสาหัสจากการสูญเสียลูกสาวคนโตมาแล้ว แต่ทุกคนต่างคิดตรงกันว่าฟองจันทร์พูดถูก ว่าลึกๆแล้ว พีเป็นคนขี้เหงาเอามากๆจริงๆ

“ขอบคุณครับคุณป้า” พีรวิชญ์สวมกอดฟองจันทร์แน่นขึ้นไปอีก หญิงชราก็ลูบหลังชายคนรักของลูกชายสุดที่รักของตนเบาๆ ก่อนจะดึงมือของก้องบดินทร์ให้มาจับกับมือของพีรวิชญ์เอาไว้

“ดูแลกันและกันดีๆนะลูก ก้อง พี”

“แม่จ๋า” ก้องบดินทร์สวมกอดร่างท้วมของแม่ตนเสียแน่น กอดทั้งร่างท้วมของแม่ และร่างโปร่งสันทัดของพีรวิชญ์ด้วย คนทั้งสามต่างสวมกอกกันท่ามกลางสายตาตื้นตันของคนที่มองดูอยู่


เสียงประกาศเรียกดังขึ้น ได้เวลที่ทั้งคู่ต้องไปขึ้นเครื่องแล้ว พีรวิชญ์และก้องบดินทร์ จึงเลิกกอดกัน ก้องบดินทร์หันไปทางแก้วกัญญา พี่สาวที่กำลังคอยบอกลาน้องอยู่ ขณะที่พีรวิชญ์ ก็หันไปคุยกับปรมินทร์ที่มาส่งเช่นกัน

“ผมฝากบริษัทด้วยนะครับพี่ปอ”

“พีไม่ต้องห่วงนะ บริษัทของพี่พัฒน์กับพี่ปัท พี่จะดูแลให้อย่างดี”

“ผมขอโทษที่เป็นต้นเหตุให้พี่ต้องเลื่อนงานแต่งนะครับ”

“ไม่เป็นไรนี่ อย่างน้อย พี่ก็รู้ว่า พี่แก้วเค้าไม่ทิ้งพี่ไปแน่ๆ ถึงโน่นแล้ว มีอะไรก็โทรบอกละกัน”

“เอ่อ..พี่ปอครับ”

“ฮึ”

“ยังไง ผมฝากพี่ปอไปเยี่ยมพี่พัฒน์บ้างนะครับ ผมรู้ว่าพี่ไม่ถูกกัน พี่พัฒน์เองก็....”

“ไม่ต้องห่วงนะ ยังไง พี่ชายเราก้เคยเป็นพี่เขยของพี่ พี่จะหาเวลาไปเยี่ยมเค้าแล้วกัน”

“ขอบคุณครับพี่ปอ” พีรวิชญ์ยกมือไหว้ขอบคุณปรมินทร์ ขณะที่ปรมินทร์เองก็รับไหว้และใช้มือตบบ่าพีรวิชญ์เบาๆ ก่อนจะหันไปดูแก้วกัญญาที่กำลังบอกลาก้องบดินทร์อยู่

“ถึงโน่นแล้วโทรหาพี่เลยนะ เข้าใจมั้ย”

“รู้แล้วน่าพี่แก้ว ไม่ต้องห่วงก้องหรอก”

“แล้วพอไปหาหมอเรียบร้อยแล้ว หมอว่ายังไง ก้องต้องรีบโทรมาบอกพี่กับแม่ให้เร็วที่สุดเลยนะ”

“รับทราบครับ”

“แล้วเรื่องงง...”

“พอแล้วแก้ว เดี๋ยวน้องตกเครื่องพอดี ก้องไม่ใช่เด็กซะหน่อย” ปรมินทร์ท้วงแฟนสาว

“ก็แก้วเป็นห่วงน้องนี่ ก็มีกันแค่นี้.. เออก้อง...”

“แก้วเอ๊ยยยย ไม่เป็นไรลูก พีเค้าดูแลก้องได้” เสียงของฟองจันทร์ทำให้แก้วกัญญาเลิกกระวนกระวายได้บ้าง

“ค่ะแม่... พี”

“ครับพี่แก้ว”

“พี่ฝากก้องด้วยนะ”

“ครับ ผมสัญญาว่า ผมจะดูแลก้องให้ดีที่สุดครับ”

“ก้องไปแล้วนะพี่แก้ว” สิ้นเสียงก้องบดินทร์ แก้วกัญญาก็ดึงร่างแอบอวบของน้องชายเข้ามากอดเสียแน่นอย่างห่วงใยมากๆ ก่อนจะยอมคลายมือออกช้าๆ จากนั้น ทั้งก้องบดินทร์และพีรวิชญ์ ก็ไหว้ลาคนอื่นๆทุกคน

“ก้องฝากพี่แก้วด้วยนะครับพี่ปอ”

“ไม่ต้องห่วงนะก้อง พี่จะดุแลแก้วให้ดีที่สุดทุกๆวันเลย แล้วรีบกลับมานะ ไม่งั้นชุดเพื่อนเจ้าบ่าวที่ธันวาตัดไว้จะเป็นหมันวะก่อน” ปรมินทร์พูดติดตลก

“ทำไมล่ะครับ” ก้องบดินทร์ถามอย่างแปลกใจ

“ก็เราเลื่อนงานแต่งออกไปก่อน ถ้ามันนานเกินไป พี่ก็กลัวว่า ชุดมันจะคับไปซะก่อนน่ะสิ” คำพูดของปรมินทร์ทำให้คนอื่นๆพากันจินตนาการตามและก็หัวเราะร่วมกันอย่างมีความสุข

“งั้นก็เหมือนชุดเจ๊เลยน่ะสิ” เจ๋งแกล้งแว้งมากัดเจ๊ตุ่มอีกคน

“ไอ้เจ๋ง” เจ๊ตุ่มเงื้อมือจะตีเจ๋งแต่หนุ่มผิวดำรู้ทันรีบชิ่งหลบไปเสียก่อน

“ทุกคนครับ ก้องกับพี่ไปแล้วนะ” ก้องบดินทร์บอกลาเป็นครั้งสุดท้าย
“ไปก่อนนะครับทุกคน” พีรวิชญ์ก็บอกลาอีกครั้งเช่นกัน จากนั้น พีรวิชญ์ก็ค่อยๆจูงก้องบดินทร์เดินเข้าไปด้านในพื้นที่เฉพาะผู้โดยสารขาออก จนพ้นสายตาของคนอื่นๆ



.....




.....







บนเครื่องบิน


“เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าคุณซื้อตั๋วชั้นหนึ่งให้ผมน่ะ ไม่เห็นต้องฟุ่มเฟือยเลยนี่พี” ก้องบ่นให้พีฟัง

“ไม่แพงมากหรอกน่า คุณจะได้ไม่ต้องลำบากไง อย่าลืมสิก้อง ว่าคุณป่วยอยู่นะ”

“ก็แค่มองไม่เห็น ไม่ได้ป่วยหนักเป็นอะไรร้ายแรงซะหน่อย”

“แล้วคุณไม่ชอบหรอ นั่งสบายเป็นส่วนตัวแบบเนี้ย”

“ไม่ได้ว่าไม่ชอบ แต่มันเปลือง”

“ไม่เปลืองนักหรอกน่า ดีซะอีก จะได้เป็นส่วนตัวด้วย”

“พี นี่คุณคิดอะไรเนี่ย”

“เปล่า” น้ำเสียงของพีมีพิรุธชอบกล

“อย่ามาทำเสียงแบบนั้น ไม่เอาแล้ว เรียกพี่ๆแอร์ดีกว่า พี่ครับ....”

“อย่านะก้อง” พีเอามือของตนมาปิดปากก้องไม่ให้ตะโกน ก้องก็มีปฏิกิริยาตอบรับเหมือนจะในทันที ทำให้ชายหนุ่มเงียบเสียงลงไป มือที่ปิดปากก้องค่อยๆคลายออกช้าๆ พีเอามือข้างนั้นมาลูบหน้าตัวเอง แล้วยิ้มอย่างเขินๆ ขณะที่ชายหนุ่มที่ถูกมือปิดปากก็มีอาการไม่ต่างกันนัก ใบหน้าของก้อง เรื่อๆเป็นสีชมพูราวกับคนป่วยไข้

“มีอะไรรึเปล่าคะ” เสียงแอร์โฮสเตสสาวสวยดังขึ้น

“อ๋อ เปล่าครับ คือ เพื่อนผมเค้าหิวแล้วอะครับ” พีตอบยิ้มๆเห็นเขี้ยวได้ชัดเจน

“นี่คุณ” ก้องพยายามจะท้วง แต่ก็เงียบเสียงไปเอง

“เครื่องเพิ่งจะขึ้น ต้องรออีกซักพักนะคะ”

“ครับ” พีตอบเบาๆ แล้วส่งยิ้มให้พนักงานสาวที่เดินจากไป

“คุณบอกไปได้ยังไงว่าผมหิวอะพี เค้าไม่ขำผมแย่หรอ ผมอายเป็นนะ”

“ก็ไม่เห็นหน้าพี่เค้าจะขำตรงไหนนี่ คุณน่ะมองไม่เห็นซักหน่อย อย่าเดามั่วดิ”

“ก็... ช่างเหอะ ผมไม่อยากเถียงกับคุณแล้ว”

“หรอ แต่เมื่อกี้เนี้ย ใครไม่รู้ บ่นเป็นยายแก่เลย”

“ก็...” เมื่อเถียงไม่ได้ ก้องก็ทำหน้าหงุดหงิดใส่ตัวเอง แล้วแกล้งหันหน้าหนีพี

“ยาย .. อย่าเพิ่งงอนตาสิ โอ๋โอ๋ ตาขอโทษ ตาผิดไปแล้ว ยกโทษให้ตานะ” พีแกล้งอ้อนก้อง โดยการใช้ศีรษะอิงไหล่ แล้วถูไปมา

“พอได้แล้วคร้าบบบ ไม่งอนแล้ววว” ก้องหันมาตอบ ก่อนจะแอบยิ้มให้ตัวเอง

“งั้นเดี๋ยวตาไถ่โทษให้” พีหยิบหูฟังขึ้นมาครอบที่ศีรษะของก้อง จากนั้นก็เปิดเพลงให้ก้องฟัง

“อย่าแปลกใจ ที่ผ่านมานานเท่าไร กาลเวลาไม่อาจลืมหัวใจ
เปลี่ยนไปจากเธอ คงเป็นไปไม่ได้ เมื่อใจผูกพันมีแต่เธอ..................”

“เป็นไง เพลงนี้เพราะมั้ย”

“นี่มันเพลงของพี่แก้วกับพี่ปอเค้า เอาเพลงใหม่ดิ”

“เพลงใหม่หรอ งั้นก็เพลงนี้”

“ครั้งที่ใจ ต้องเจ็บ เจอคำไม่จริง เคยโดนทอดทิ้ง ด้วยคำ ที่หลอกลวง
ครั้งนี้ ไม่ยอม เป็นเหยื่อ ไม่อยาก เชื่อใคร อีกเลย รักนี้ ของเธอ ก็เลย ยังหวั่นใจ................”

“ไม่ใช่ใหม่ เจริญปุระ พีอะ นี่คุณแกล้งผมอีกแล้วนะ”

“ขอโทษครับ งั้นต้องฟังเพลงนี้” เพลงที่พีเลือกเปิด เป็นเพลงรอสายเรียกเข้าในโทรศัพท์มือถือของก้องเอง ซึ่งชายหนุ่มได้ยินแล้ว ก็หลับตานั่งฟังอย่างมีความสุข

“ว่ากันว่ารัก ทำให้คนเสียน้ำตา หากว่ารับเอารักเข้ามา ใจอาจสลาย
ถึงรู้อย่างนั้น ก็ยังอยากเสี่ยงไม่หาย อยากให้เธอ มาเป็นความหมาย ห้ามมันไม่ไหว

สั่งใจไม่ให้มันสั่น มันก็ไม่ฟังเท่าไหร่ ถามตัวเอง ถ้าช้ำปางตายจะทำยังไง ใจตอบว่ายินดี

ขอแลกทั้งใจแค่ได้รักเธอ ต้องเจออะไรก็ยอม ฉันพร้อมจะเจ็บ ฉันพร้อมจะตายเป็นไงเป็นกัน
เพราะมีหัวใจก็คงไร้ค่า หากไม่มีเธอในนั้น ต่อให้มันแหลกสลาย ก็ยอม”

“ขอบคุณมากนะพี” ก้องพูดเบาๆ ก่อนจะเผลอหลับไป



.......



.......




Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 5 พฤษภาคม 2553 21:27:05 น.
Counter : 467 Pageviews.

9 comments
  
สนุกมากเลยค่ะ มาแต่งต่อไวไวนะค่ะ อยากอ่านต่อแล้วว่าถึงอมริกาแล้วคุณพีจะดูแลน้องก้องยังไง รออ่านฉลองvalentine เลยนะค่ะ
โดย: aumaum IP: 203.144.144.165 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:57:59 น.
  
ตามมาจ้าาาา เขียนได้น่ารักดีค่ะ .. ชอบ

ขอบคุณนะคะ .. รออ่านตอนต่อไปจ้าาาา

คิดถึง .. ก้อง พี .. มากมายยยย
โดย: @sea IP: 124.121.62.186 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:41:26 น.
  
คิดถึงก้องพีร์จังเลย....ขอบคุณที่เขียนมาให้อ่านนะคะ
เป็นฟิคก้องพีร์ที่น่าติดตามค่ะ อยากอ่านตอนใหม่แล้ว ^_^
โดย: moonbeam IP: 75.56.202.217 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:4:06:10 น.
  
ลืม....วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์นี่
ก้องพีร์จะมีอะไรหวานๆ กันไหมนะ อิ อิ 0.o
( แอบเชียร์ให้มีทีเถอะ )
โดย: moonbeam IP: 75.56.202.217 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:4:09:43 น.
  
ตามมาอ่านแล้วค่า คุณบอลเขียนได้น่ารักมากๆ เลย

แก้วกัญญาก็ดึงร่างแอบอวบของน้องชายเข้ามากอดเสียแน่น/////แต่ขำตรงนี้อะ "ร่างแอบอวบ"


ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
โดย: bee boa IP: 203.172.124.10 วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:18:00:37 น.
  
รออยู่นะค่ะ

รีบมาต่อไวไวน๊าาาาาาา

เป็นกำลังใจให้คร้าาาาา
โดย: tonaor IP: 183.89.153.83 วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:22:15:41 น.
  
นึกถึงบรรยากาศในละครเลย
สนุกมาก ๆ ตามไปอ่านต่อดีกว่า
โดย: won2han IP: 58.8.98.84 วันที่: 28 เมษายน 2553 เวลา:16:08:41 น.
  
แต่งเก่งมากกกกกกกกกกกกกกกก

อ่านฟิคนี้ยัง ตกหลุมรักนายวองก็เล่สุดน่ารัก เข้าไปอ่านสิ แล้วเม้นให้ด้วยนะ นี่ีจะลิงค์//writer.dek-d.com/59278027/story/view.php?id=535473 เม้นให้ด้วยนะ
โดย: น้องนิวจร้า IP: 125.27.163.13 วันที่: 27 กรกฎาคม 2553 เวลา:15:36:30 น.
  
ชอบจังค่ะ เเต่งเก่ง
โดย: nave IP: 58.9.9.43 วันที่: 12 สิงหาคม 2553 เวลา:22:58:53 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Niramitr
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]



สาวก"รักแห่งสยาม"

New Comments