Group Blog
 
All Blogs
 

หากินกับเซลล์ต้นกำเนิด

ผมไม่ได้เขียนบล็อกที่นี่นานมากครับ อยากเขียนตลอดนะครับ แต่บางทีก็ยุ่งบ้าง ไปเขียนที่อื่นๆ แล้วก็ทำแล๊ปตลอดเพราะอยากจะเรียนจบเร็วๆ
สังคมไทยรับไม่ได้กับคำวิจารณ์ ไม่ว่าจะถูกหรือผิด ก็ไม่ควรวิจารณ์ แต่วันนี้ ต่อจากนี้ผมอยากเขียนวิจารณ์เรื่อง "กระบวนการหากินกับเซลล์ต้นกำเนิดในเมืองไทย" ซึ่งผมค่อนข้างเป็นห่วงนะ สิ่งที่ผมเขียนเป็นมุมมองของผมคนเดียว ความคิดเห็นส่วนตัวซึ่งอาจมีผิดบ้างถูกบ้าง โปรดอ่านอย่างมีวิจารณญาณครับ

ถ้าผู้อ่านได้ติดตามข่าวสารจากโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพิ์ วารสาร และอินเตอร์เน็ต คงเคยได้ยินได้อ่านเรื่องเซลล์ต้นกำเนิดอยู่เนืองๆ ทั้งเรื่องการรักษา ต่อต้านความแก่ และเก็บเซลล์ต้นกำเนิดให้ลูก ผมขอสรุปธุรกิจที่เกี่ยวกับเซลล์ต้นกำเนิดในบ้านเราที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด ดังนี้ครับ

-ธนาคารเซลล์ต้นกำเนิด
-เครื่องสำอาง
-ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
-การรักษาทางการแพทย์
-การแพทย์ทางเลือก
และอื่นๆ


ตอนแรกนี้ไม่ขอลงรายละเอียดเยอะครับ เกริ่นเอาไว้ก่อนว่า อาจจะเขียนแรงจนกระทบหลายฝ่าย ผมขอเริ่มเรื่องธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดในบางมุมมองครับ

เมืองไทยมีธุรกิจเก็บเซลล์ต้นกำเนิดเกิดขึ้นหลายเจ้า ผลประกอบการก็เติบโตเป็นล่ำเป็นสัน ถามว่ามีประโยชน์อะไรบ้างในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด ปัจจุบันคงไม่ทราบตอบได้ว่าในอนาคตจะได้ใช้หรือไม่ เพราะยังไม่มีการทดลองที่น่าเชื่อถือเพียงพอ แต่ก็นั่นแหล่ะคนที่อยากเก็บ มีเงินเยอะก็คงไม่ได้สนใจมาก ซื้อความหวังไว้ไม่ได้เสียหายอะไร ขนหน้าแข้งไม่ร่วง

แล้วทำไมคนไทยบางส่วนถึงเชื่อว่าเซลล์ต้นกำเนิดมันคือยาวิเศษ
ส่วนหนึ่งผมคิดว่าเป็นเพราะสื่อสนใจทำข่าวเรื่องการรักษาโดยใช้เซลล์ต้นกำเนิด ลองสังเกตไหมครับ หนังสือพิมพิ์ชอบพาดหัวข่าวเรื่องการรักษาโรคโดยใช้เซลล์ต้นกำเนิด หรือไม่ก็มีคอลัมน์เรื่องการใช้เซลล์ต้นกำเนิดในการรักษาผู้ป่วยในโรคต่างๆ ทั้งๆที่คนที่ให้ข่าวนั้นอาจจะไม่ได้ทำอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการก็ได้ แล้วข่าวทางลบ เช่น ปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเข้าไปในผู้ป่วยแล้วเกิดเนื้องอก เช่น ที่ประเทศรัสเซีย ไม่เคยมีใครพูดถึงดอกครับ

สาเหตุที่สองคือการโฆษณาทั้งในสื่อต่างๆและอินเตอร์เน็ต ดูเหมือนเราไม่ค่อยได้ควบคุมเลย อย่างเช่นถ้อยคำที่ใช้โฆษณาในเว็บไซต์ของธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดของบางเจ้านั้นอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดและตัดสินใจใช้บริการนั้นๆได้ง่าย เช่น
"ขอบคุณครับ คุณพ่อคุณแม่ ที่มองการณ์ไกล เก็บเซลล์ต้นกำเนิดไว้ช่วยชีวิตหนูในข้างหน้า"
ถ้าหากผมเป็นพ่อที่มองถึงสุขภาพในอนาคตก็คงอยากจะทำอะไรเพื่อลูกถ้าไม่ลำบากนัก

ประการที่สามนั้นเป็นเรื่องความเห็นส่วนตัวที่ผมคิดว่า หน่วยงานของประเทศ อาทิเช่น สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ไม่ควรมีส่วนได้ส่วนเสียกับภาคเอกชน และเป็นผู้ให้ทุนแก่บริษัทในการทำวิจัยในคน
ข้อความจากเว็บไซต์ของธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดรายหนึ่งเขียนไว้ว่า

"ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ ได้แก่ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่ ซึ่งให้การสนับสนุนด้านการทำวิจัยเพื่อการนำเซลล์ต้นกำเนิดไปใช้ในการรักษา"
"บริษัท....มิความภูมิใจอย่างยิ่งที่ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์ ประเทศไทย ให้ความไว้วางใจเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท"


คำพูดเหล่านี้คงเพิ่มความน่าเชื่อถือได้ไม่น้อยสำหรับผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อบริการ

หมายเหตุ
หุ้นบุริมสิทธิ ความหมาย [-บุริมมะสิด] (กฎ) น. หุ้นที่กําหนดให้ผู้ถือหุ้นมีสิทธิพิเศษเหนือผู้ถือหุ้นสามัญ เช่น มีสิทธิได้รับส่วนแบ่งผลกําไรก่อนผู้ถือหุ้นสามัญ. (อ. preference share). อ้างอิงจากราชบัณฑิตยสถาน


ทำไมหน่วยงานนี้เป็นผู้ให้ทุนแก่บริษัท...ที่ตัวเองถือหุ้นอยู่
เช่น โครงการการใช้ Peripheral Blood Stem Cells ในการรักษาโรคแทรกซ้อนในระบบ เส้นเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน ให้แก่บริษัท ....จำกัด จำนวนเงิน 3,150,000 บาท และโครงการนวัตกรรมการเพิ่มจำนวนสเต็มเซลล์จากเลือดในสายสะดือ ให้แก่บริษัท....จำกัด จำนวนเงิน 2,100,000 บาท
ถ้าทำสำเร็จแล้วจะเกิดประโยชน์อะไรแก่ประชาชนคนไทย อันนี้ผมหาข้อมูลเป้าหมายของการทดลองไม่เจอว่าทำเสร็จแล้วจะเอาไปใช้กับคนทั่วไปหรือว่าเฉพาะการบริการของบริษัทเท่านั้น


ผมจำได้ว่ามีการมอบรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ให้กับธนาคารเซลล์ต้นกำเนิด (ผมอาจำผิดนะครับ) ข้อความจากเว็บไซต์ของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวไว้ว่า
"นวัตกรรม" คือ สิ่งใหม่ที่เกิดจากการใช้ความรู้และความคิดสร้างสรรค์ที่มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม ผมคิดว่าธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดไม่สมควรได้รับรางวัลนี้ เนื่องจาก
-ไม่ได้เป็นความรู้ที่ใหม่ หรือที่สร้างสรรค์และเกิดประโยชน์เพียงพอที่จะได้รางวัล
-ท่านรู้ได้อย่างไรว่าจะเกิดประโยชน์จริงๆ ในอนาคต
-ถ้าสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ มีส่วนร่วมกับบริษัท และทำการมอบรางวัลให้แก่บริษัทเอง มันดูแปลกๆ อยู่ไม่น้อย



ผมเขียนขึ้นมาเพียงเพื่ออยากให้ลองคิดกันเล่นๆครับ คนไทยทุกคนเสียภาษี ผู้อ่านทำงานแล้วช่วยกันเสียภาษีให้รัฐบาลเพื่อให้ชีวิตคุณและสังคมรอบข้างดีขึ้น แต่ถ้ามีการนำเงินไปใช้อย่างไม่เหมาะสมก็ควรมีการท้วงติงตามเหตุผล
ผมได้เงินทุนมาเรียนก็เอามาจากภาษีทุกคนนะครับ ผมคิดว่าการช่วยเผยแพร่ความรู้ และตรวจตราเรื่องบางเรื่องที่ผมได้ร่ำเรียนมาน่าจะช่วยให้บ้านเมืองน่าอยู่ยิ่งขึ้น ให้ระบบทุนนิยมคงอยู่อย่างมีจริยธรรมและยั่งยืน มีอีกหลายอย่างที่เราเป็นเด็กตัวเล็กๆ ทำอะไรไม่ได้มาก แต่อย่างน้อยก็ได้เล่าความนึกคิดให้คนอื่นได้รับรู้ ถ้าข้อมูลผิดพลาดไปก็น้อมรับผิดครับผม




 

Create Date : 18 มิถุนายน 2552    
Last Update : 18 มิถุนายน 2552 23:38:27 น.
Counter : 340 Pageviews.  


weerapong_rx
Location :
London United Kingdom

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




อยู่เมืองกรุงไกลนาเพื่อตามล่าฝัน
Friends' blogs
[Add weerapong_rx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.