• ~How To ตามสไตล์ไอ้หมูน้อย~
• ~Review + Preview [2016-2018]
• ~Review + Preview
• ~Review All About Hair : ว่ากันด้วยเรื่องของผม สีผม บำรุงผม จัดแต่งทรงผม
• ~Review Dietary โหมดอาหารเสริม
• Review เมื่อหมูเข้าคลินิก ความงามที่ทำเองไม่ได้ที่บ้าน
• >>> Color Swatch by Mhunoiii <<<
• Mhunoiii Event Update & แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์จ้า
• Mhunoiii's Health Diary กับการฟิตแอนด์เฟิร์ม ออกกำลังกาย และดูแลสุขภาพ แบบไอ้หมูน้อย
• Talking : โหมดไอ้หมูชวนคุย สาระความรู้ดีๆ เคล็ดลับโดนๆ เสนอหัวข้อพูดคุยกันมาได้นะจ๊ะ ^^
• mhunoiii ตะลอนทัวร์ กินๆเที่ยวๆสไตล์ไอ้หมูน้อยจ้า ^^
• ไดอารี่ของสองเหมียว"บัวลอย-ไข่หวาน" ไอ้ตัวแสบทั้งสอง เมี๊ยวๆ :3
• About Me "SraY or Mhunoiii"

Review <Video> : สองสาว Mhunoiii & Minipandaz เม้ามอยเรื่องเทคนิคการดูแลและจัดแต่งผม by Mod's Hair คลิปนี้สองสาวทราย mhunoiii และนิชา Minipandz จะมาเล่นตลกให้ชมกัน เอ๊ะ! ไม่ใช่ละ 555 จะมาเล่าให้สาวๆฟังถึงวิธีการดูแลเส้นผมของแต่ละคน รวมถึงเทคนิคการเซ็ตผมซึ่งเป็นครั้งแรกที่เราจะสลับกันทำผมให้เพื่อน อิอิ และจะมารีวิวผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่สองสาวใช้อยู่ตอนนี้คือยี่ห้อ Mod's Hair เป็นแฮร์แคร์จากญ๊่ปุ่นที่มีวางขายในเมืองไทยตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปเลย ขอบอกว่าใช้กันคนละสูตรแต่โดนใจในความสะอาดนุ่มลื่นเช่นเดียวกัน แต่ละสูตรจะเป็นอย่างไร และเรามีเคล็ดลับดูแลผมอย่างไรชมได้ในคลิปเลยค่า แต่ขอบอกว่ามันฮาจริงๆนะเป็นตัวเองกันสุดๆ 555   Create Date : 24 กรกฎาคม 2556     Last Update : 6 พฤษภาคม 2557 20:50:28 น. Counter : 1132 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Review : มาดูกันสีผมราสป์เบอร์รี่แดงม่วงอมชมพูสีใหม่ของเค้าได้แต่ใดมา by Schwarzkopf New Igora Royal สีผมล่าสุดรอบของทรายที่เพิ่งทำมาบอกเลยว่าแซ่บที่สุดในชีวิต เป็นโทนสีที่อยากทำมาน๊านนน นาน แต่ยังหายี่ห้อสีที่ให้สีต้องการไม่ได้ นั่นคือ "สีแดงโทนชมพู" โทนแดงทรายเคยทำมาหลายครั้ง แต่มันแดงอย่างเดียวไม่ระเรื่อชมพูๆนี่จิ ตามหาโทนชมพูมาแสนนาน จนได้รับคำเชิญจาก Schwarzkopf Professional ให้ไปทดลองทำสีผม กับผลิตภัณฑ์ทำสีผมตัวใหม่ล่าสุด New Igora Royal (สีอีโกร่ารอแยลใหม่) ซึ่งเค้าส่งชาร์ตสีมาให้ชมแล้วบอกว่ามีโทนชมพูด้วยยยย!!! อร๊ายยย รับคำแบบไม่ต้องคิด มาดูกันเลยค่าว่าสีผมใหม่นี้เค้าได้มาอย่างไร เอาสีผมที่ได้มายั่วให้ชมกันก่อน ฮี่ๆๆๆ โดนใจกันไหมจ๊ะ สีแซ่บสุดพลัง ขอทำสีแบบนี้ก่อนแก่ เดี๋ยวอายุเยอะๆแล้วค่อยทำสีธรรมชาติๆละกันเน๊อ Schwarzkopf Professional New Igora Royal สีอีโกร่ารอแยลใหม่ True Color in High depfinition ชาร์ตสีมีให้เลือกแบบจัดเต็มทุกเฉดทุกโทน เรียงตามชาร์ตสีแบ่งเป็นกลุ่มสีตามนี้จ้า Naturals, Golds, Chocolates, Reds, Absolutes Brown, Fashion Lights, Highlifts, Specialities และ Diagnosis ที่โดนสุดๆสำหรับเค้าคือเซตกลางล่าง นั่นคือสีในกลุ่ม Specialities แจ่มที่ซู้ดดดดด จุดเด่นของ Schwarzkopf Professional New Igora Royal (สีอีโกร่ารอแยลใหม่) สูตรใหม่นี้ คือ คุณสมบัติตามชื่อของเค้าที่ว่า True Color in High depfinition เป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้เม็ดสีเด่นชัดติดทนนานแบบ HD ด้วยขนาดพิกเมนต์ของเม็ดสีที่มีขนาดเล็กและมีความเข้มข้น สามารถซึมเข้าสู่เส้นผมได้แบบเส้นต่อเส้น จึงให้สีชัดได้สีจริง ให้สีสวยยาวนานจนกว่าจะถึงการทำสีผมรอบหน้าเลยทีเดียว เค้าบอกว่าสามารถปิดผมขาวได้ 100% เลยสำหรับเฉดสีธรรมชาติ และสำหรับสีแฟชั่นที่มีระดับ 5 เป็นต้นไปสามารถปิดผมขาวได้ถึง 70% จ้า ระดับสีผมที่เป็นตัวเลขเบอร์สีจะแสดงถึงระดับความสว่างของสี สังเกตง่ายๆถ้าเบอร์เลขยิ่งมากแสดงว่าสียิ่งเป็นโทนสว่าง จ้า มาดูสีในกลุ่ม Specialities กัน และสีที่เค้าและช่างทำผมลงมติร่วมกันนั่นคือ...... สีชมพูพาสเทล Rose เบอร์ 9.5-18 และ สีแดงม่วง Red Violet เบอร์ 0-89 นั่นเองคร๊าบบ ครั้งนี้ทรายได้ทำสีผมที่ Schwarzkopf Professional ASK Academy ซึ่งไม่ใช่ร้านทำผม ไม่ได้รับทำผมให้คนทั่วไป แต่เป็นสถานสำหรับเทรนด์ช่างผม เพื่ออัพเดทเทรนด์และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้กับช่างผมจากร้านทำผม ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของทาง Schwarzkopf Professional โดยผู้เชี่ยวชาญโดยตรงค่ะ วันนี้จึงได้ทำกับช่างผู้เชี่ยวชาญที่เป็นผู้สอนช่างผมอีกที่เยี่ยมไปเลย พี่อาท เป็นช่างที่ดูแลเลือกและผสมสีผมสวยๆให้กับทรายในวันนี้ค่ะ เริ่มต้นกันด้วยการแบ่งช่อผม ซึ่งพี่อาจจะทำไฮไลท์ครึ่งศีรษะล่างตั้งแต่หลังใบหูลงไป ให้เป็นสีชมพูแดงที่อ่อนกว่าครึ่งศีรษะบน จึงต้องทำการกัดสีผมครึ่งล่างให้อ่อนลงก่อน ก่อนทำการกัดสีจะใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่ช่วยปกป้องผมก่อนการฟอกสีลงให้ก่อนค่ะ ขั้นตอนการฟอกสีพี่อาทบอกว่าแค่ครึ่งศีรษะของทรายนี่ใช้ผงกัดสีไป 4 ซอง เพราะทรายผมยาวมากด้วยแต่ว่าเพื่อความเข้มข้นด้วย ซึ่งพี่อาทบอกว่าการกัดสีผมถ้าเรางกใช้ผงกันสีน้อยผสมให้เจือจาง แล้วใช้วิธีขยี้ๆให้ซึมเข้าผม การขยี้จะเปิดเกล็ดผมทำให้ผมพ้ง แห้งเสียมาก!!! แต่การใช้น้ำยาในปริมาณเข้มข้นแล้วลงให้ชุ่มๆป้ายลงบนผมแค่เบามือ ตัวน้ำยากัดสีจะค่อยๆทำปฏิกิริยากับผมเอง สีที่กัดสีจะอ่อนลงไวและผมไม่ค่อยเสียจ้า เป็นความรู้ที่ดีมากๆท่องจำไว้ห้ามงกลงให้ชุ่มและอย่าขยี้แรงๆผมจะได้ไม่พังค้าบ แต่เราสามารถเร่งให้เกิดปฎิกิริยากัดสีได้ไวขึ้นด้วยการห่อผมเป็นช่อๆ เมื่อห่อผมจะเกิดความร้อน ความร้อนนี่เองค่ะจะเป็นตัวการในการเร่งปฏิกิริยาให้เราจ้า เค้าใช้เวลาในการทิ้งน้ำยากัดสีผมไว้ประมาณ 40 นาที ดูจนสีผมอ่อนลงในระดับที่ต้องการค่ะ ครบเวลาก็ไปทำการล้างน้ำยากัดสีออกด้วยการฟอกแชมพู ถ้าเราพอใจกับสีแค่นี้ไม่ได้ทำสีต่อช่างจะลงครีมนวดตามให้เลย แต่ถ้าเราจะลงสีผมอื่นต่อ จะฟอกแค่แชมพูไม่ต้องลงครีมนวดค่า สระแล้วก็มาเป่าแห้งเตรียมลงสีขั้นต่อไป อั๊ยยะสีเหลืองแสบตามาก เห็นแล้วนึกถึงฝอยทอง 55 น่ากินไหมคร๊า สีผมเบอร์ที่เค้าจะทำคือสองกล่องนี้จ้า สีชมพูพาสเทล Rose เบอร์ 9.5-18 และ สีแดงม่วง Red Violet เบอร์ 0-89 ผสมออกมาให้สีแบบนี้ อร๊ายยยยหวานน่าหม่ำมากๆ จำนวนสีว่าใช้ไปกี่กล่องเค้าไม่ทราบน้าเพราะเห็นช่างผสมให้สองรอบอ่าจ้า ในสี สีชมพูพาสเทล Rose เบอร์ 9.5-18 จะมีการผสม สีแดงม่วง Red Violet เบอร์ 0-89 ลงไปด้วยนะฮับ เพื่อให้สีดูออกชมพูแดงมากขึ้น เพราะสีเดิมจะเป็นสีชมพูอมส้มพาสเทลๆ สีโทนสว่างหรือสีโทนแฟชั่นตั้งแต่ระดับ 5-6 ขึ้นไป ถ้าเราอยากได้สีที่ใกล้เคียงมากที่สุดจะต้องทำการกัดสีผม เพื่อให้สีผมอ่อนลงก่อนแล้วค่อยทำสีสีถึงจะสว่างสวยสมใจ แต่ผมที่จะกัดสีได้ควรเป็นผมที่มีสุขภาพแข็งแรงหน่อยน้า เพราะจัดเป็นการทำเคมีบนเส้นผมที่ค่อนข้างรุนแรงจ้า ขั้นตอนการลงสีผมเปลี่ยนมือจากพี่อาทมาเป็นพี่ทินค่ะ ตอนที่ทรายทำสีในห้องเดียวกันมีคนนั่งทำสีอยู่อีกสี่คน รวมทั้งห้องทำสีผมพร้อมกันถึงห้าชีวิต โดยปกติแล้วกลิ่นต้องอบอวลมาก แต่บอกเลยว่าสีรุ่นใหม่นี้ กลิ่นไม่ฉุนเลยยยยย ได้กลิ่นแค่จางๆทั้งๆที่ทำสีพร้อมกันเยอะมาก เค้าบอกว่าสูตรใหม่นี้มีการใช้นวัตกรรมใหม่ที่ทำให้กลิ่นของแอมโนเนีย ในตัวเดเวลลอปเปอร์มีกลิ่นลดลง ฉุนน้อยลงค่ะ ดีมากๆสำหรับเรื่องกลิ่น สาเหตุที่ปกติไม่ชอบเข้าร้านทำผมเพราะเรื่องกลิ่นนี่หล่ะค่า โชลมสีลงไปให้ชุ่ม จะเห็นว่าตอนกัดสีผม บริเวณด้านหลังถึงท้ายทอยช่างไม่ได้กัดสีเข้าไปจนถึงหนังศีรษะนะคะ โทนผมตรงด้านหลังจึงเป็นเฉดไล่โทนสีผมเดิมออกมาเป็นสีชมพูค่า ลงสีครึ่งศีรษะล่างด้วยสีชมพูพาสเทลเสร็จแล้วก็ทำการห่อฟรอยด์ไว้ แล้วเริ่มลงสีม่วงแดงที่ผมครึ่งบน สีผมครึ่งบนกับครึ่งล่างจะได้ไม่ปนกันจ้า ครึ่งศีรษะบนไม่ต้องทำการกัดสีเพราะระดับความสว่างของสีที่ทำ ใกล้เคียงกับระดับสีผมของทรายที่ค่อนข้างสว่างอยู่แล้วจ้า พี่ทินเริ่มลงโดยเว้นที่โคนแล้วลงสีมีถึงกลางผม สาเหตุที่เว้นบริเวณโคนไว้นั้นเพราะโคนผมอยู่ใกล้หนังศีรษะจะมีความร้อน ความร้อนจะไปเร่งปฏิกิริยาของการทำสีให้ติดไวมากขึ้น ดังนั้นถ้าผมปลายเป็นผมที่ผ่านการทำสีมาจะติดสีได้ช้ากว่า จงควรลงสีบริเวณโคนผมทีหลังเพื่อให้สีไม่ไปติดตรงโคนมากไป สีที่ได้จะออกมาสม่ำเสมอกับบริเวณปลายผมมากกว่าจ้า หลังจากทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีก็มาลงปลายและโคนผมต่อ ทีนี้ต้องเป็นช่างสองแรงแข็งขันช่วยกันเพราะผมเค้ายาวมากกก แหะๆ ต้องลงให้ไวสองข้างพร้อมๆกันเพื่อให้สีผมออกมาสม่ำเสมอ เมื่อลงช่อบนเสร็จเหน็บขึ้นไว้มาแกะช่อล่างที่ลงไว้ดู ว่าสีเริ่มออกหรือยัง โดยพี่ทินจะใช้หวีค่อยๆหวีเบาๆสางให้สีกระจายทั่วๆ สีเริ่มออกแล้วจ้าเป็นชมพูอมส้มนิดๆ เพราะพื้นผมเดิมที่กัดออกเป็นโทนเหลืองจ้า พี่ทินป้ายสีผมเติมเข้าไปอีกให้ชุ่มยิ่งขึ้น จะเห็นว่าเป็นการทำสีที่ลงสีให้เต็มที่จริงๆ การที่เราไม่งกสี จะทำให้ได้สีผมที่อิ่มและสม่ำเสมอกว่ากันมากๆค่า มาดูสีครึ่งศีรษะบนที่โคนผมออกสีแล้วอื้อหือ ออกกล้องแล้วเป็นสีแดงสะท้อนแสงกันไปเลย แรงจริงอะไรจริงฮี่ๆ ลงสีชุ่มทั้งปลายทั้งโคน สำหรับเค้าไม่แสบหนังศีรษะเลยจ้า เค้าว่าอีกหนึ่งข้อดีของการลงโคนทีหลังคือการลดระยะเวลา ที่สารเคมีจะสัมผัสลงหนังศีรษะโดยตรงด้วยหล่ะ หลังจากลงสีไว้ทั่วศีรษะก็ทิ้งไว้อีกแค่แป๊บเดียวไม่เกินสิบนาที ก็มาทำการล้างสีออกได้เลยจ้า รอบนี้ล้างให้สะอาดลงแชมพู แล้วตามด้วยครีมนวด ตัวบำรุงที่จะช่วยให้ผมนุ่มลื่นและสีติดทนยิ่งขึ้น เป็นสูตร Schwarzkopf Professional BC Color Freeze ที่ช่วยล็อคสีผมค่า เสร็จแล้ว เย้ๆๆ มาเป่าผมให้แห้งกัน มาแล้วสีผมในฝันของเค้า แจ่มจี้ดดดดจริงๆ มาดู Before & After กัน หลังทำสภาพผมดูเงาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีปลายแห้งเล็กน้อยเพราะก่อนทำปลายผมแห้งอยู่แล้ว เนื่องจากผมทรายผ่านการทำสีมาโดยตลอดค่า แต่โดยรวมผมนุ่มลื่นมากเลย ตัวทรีทเมนต์ที่ใส่หลังการทำสีแพ็คเกจสีชมพูขาวในเซ็ต Schwarzkopf Professional BC Color Freeze แจ่มจริงๆ เป็นขวดเล็กๆจำได้ว่ามีอยู่ในกรุที่บ้านเดี๋ยวจะไปค้นออกมาใช้ต่อ ดูโคนผมก่อนทำของเค้าซิ น่าเกลียดจริงๆเลยแอบอาย ปล่อยให้โคนดำยาวเฟื้อยฟ้ายมาได้ขนาดนี้ แต่หลังทำสีโคนและปลายสม่ำเสมอกันดีมากค่า นี่แหละเทคนิคการลงโคนผมทีหลังของช่างมืออาชีพ เทียบสีผมเค้ากับชาร์ตสีที่เลือกไว้ สีในร้านถ่ายมาแอบเพี้ยนไปนิดแต่ด้วยสีผมที่จัดจ้านมาก แดงสดๆแบบนี้กล้องจะจับสีมึนๆนิดนึงค่า ความเงาของผมหลังทำใกล้เคียงชาร์ตผมเลย ท๊าดา เห็นผมเต็มๆด้านในจะเป็นไฮไลท์สีอ่อนกว่าด้านนอกแบบนี้ ต้องขอบคุณพี่อาทและพี่ทินแห่ง Schwarzkopf Professional มากๆนะค้า ที่ช่วยทำสีผมสวยๆให้ในครั้งนี้ เป็นสีที่แซ่บที่สุดและประทับใจสุดๆค่ะ ขอบคุณคุณนุชชี่ Brand Manager คนสวย แห่ง Schwarzkopf Professional มากๆนะค๊า ที่ให้เกียรติทรายมาทดลองผลิตภัณฑ์ทำสีผมตัวใหม่ในครั้งนี้ กับ Schwarzkopf Professional New Igora Royal (สีอีโกร่ารอแยลใหม่) ทำให้ได้นำความรู้ใหม่ๆเทคนิคการทำผมดีๆและสีผมสวยๆมาฝากเพื่อนๆในบล็อคค่ะ มาดูสีผมจริงๆที่ถ่ายกับแสงธรรมชาติและใกล้เคียงสีจริงที่สุด เค้าขอตั้งชื่อสีนี้ว่า "สีราสป์เบอร์รี่" จะเป็นแดงอมม่วงที่มีไฮไลท์ชมพูๆ เป็นโทนที่สวยแปลกตามากปลื้มๆๆๆ มองจากด้านหน้าจะเห็นช่อไฮไลท์ แซมสลับกับสีผมด้านนอก เก๋มากๆ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่ได้ทำไฮไลท์ สีผมแจ่มจริงๆแดงเป็นแดงและจะเห็นว่าผมขึ้นเงาไม่ดูแห้งกระด้าง ถ้าถามว่าผมเสียไหม พูดสัจธรรมทั่วไปให้เข้าใจกันก่อนเลยน้า ว่าการทำเคมีทุกอย่างทำให้ผมเสียแน่นอนค่ะ แค่จะเสียมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมเดิมของเราว่าแข็งแรงแค่ไหน และผลิตภัณฑ์ทำผมที่ใช้มีคุณภาพดีแค่ไหน สำหรับทรายการทำสีครั้งนี้แม้จะมีการกัดสีผมด้วย แต่บอกได้เลยว่าผมโอเคมาก เงาและนุ่ม มีแค่แห้งปลายผม ซึ่งก่อนทำปลายผมก็แห้งอยู่แล้วเพราะผมยาวมากและทำสีบ่อย สำหรับสภาพผมหลังทำแบบนี้ทรายยังไม่เรียกว่าผมเสียค่ะ บำรุงหนักๆผมก็ยังคงนุ่มลื่นได้เหมือนปกติ สรุปว่าพอใจมากค่ะ หลังรักสีผมสีนี้หมดใจ ดีใจที่กล้าที่จะลองทำสักครั้งในชีวิต หลายคอาจจะรู้สึกว่าแรงไป แต่สำหรับเค้ามองว่าขึ้นอยู่กับหน้าที่การงาน ว่าเหมาะสมกับวัยและตำแหน่งทางสังคมหรือไม่ อย่างทรายทำงานเกี่ยวกับด้าน Beauty การที่กล้าจะลองอะไรใหม่ๆ ทำให้เราได้สนุก ได้ความรู้ ได้เทคนิคอะไรอีกมาก สนุกกับชีวิต การแต่งหน้า การแต่งตัวได้มากขึ้นค่ะ ดังนั้นแรงหรือไม่แรง ให้มองความเหมาะสมของตัวเราเป็นหลักจ้า ก่อนจบฝากไว้สำหรับคนที่ทำสีผมถ้าอยากให้สีผมสดสวยติดทนได้นานขึ้น แนะนำให้ลงทุนหาแชมพูสำหรับผมทำสีมาใช้ โดยเฉพาะในช่วงแรกหลังทำสี แนะนำให้ใช้แชมพูที่เป็นสูตร Sulfate-Free คือสูตรที่ไม่มีส่วนผสมของซัลเฟตค่ะ เพราะซัลเฟตคือสารเคมีที่ช่วยทำความสะอาดและทำให้เกิดฟอง ซึ่งแชมพูที่มีซัลเฟตจะให้ฟองเยอะๆทำให้เรารู้สึกว่าสระแล้วสะอาดดี แต่จริงๆแล้วการใช้แชมพูที่มีซัลเฟตเป็นประจำเป็นระยะเวลานานๆนั้นส่งผลเสีย เพราะสารซัลเฟตจะทำให้ความชุ่มชื่นตามธรรมชาติของเส้นผมถูกทำลายไป ทำให้ผมแห้ง หยาบกระด้าง และสำหรับผมทำสีก็จะทำให้สีซีดจางได้ไวค่ะ ดังนั้นในช่วงแรกหลังการทำสีควรเลี่ยงแชมพูที่มีซัลเฟตเพื่อคงสีผมเอาไว้ ซึ่งทรายได้แชมพู Schwarzkopf Professional BC Color Freeze ที่เป็นสูตร Sulfate-Free มาลองใช้ก่อนหน้าแล้ว ทางแบรนด์บอกว่าสำหรับสูตรนี้ฟองอาจจะไม่เยอะมาก และหลังสระอาจจะรู้สึกผมฝืดๆกว่าสูตรปกติเล็กน้อยเพราะมีสารเคมีน้อย แต่เมื่อเราใส่ครีมนวดหรือทรีทเมนต์บำรุงเข้าไปผมก็จะนุ่มลื่นเหมือนเดิมค่ะ สำหรับแชมพูสูตรนี้เค้าใช้ก็รู้สึกว่าให้ฟองเยอะใช้ได้เลยแค่ฟองไม่ได้ฟูมาก และก็ไม่ได้รู้สึกถึงความฝืดหลังสระเท่าไหร่เลย ที่โดนสุดๆคือ "กลิ่น" หอมมากกกกกก เป็นกลิ่นหอมหวานๆนุ่มๆอธิบายไม่ถูกแต่ละมุนมากจริงจัง ราคาแชมพูอาจจะสูงหน่อยขนาด 250ml อยู่ที่ประมาณสามสี่ร้อยบาท แต่ถ้าลงทุนทำสีผมมาแล้วลงทุนกับผลิตภัณฑ์ดูแลผมอีกซักนิด ก็จะช่วยยืดอายุของสีผมสวยๆให้อยู่กับเราได้นานยิ่งขึ้นจ้า ***การทำสีผมโทนแฟชั่น หรือการทำสีที่ใช้สีแม่สีผสมอย่างสีแดง น้ำเงิน การสระผมช่วง 5-6 ครั้งแรกหลังทำสีผมจะเกิดการตกของสีเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นช่วงแรกแนะนำว่าไม่ควรใส่เสื้อสีขาวหรือสีอ่อนๆจ้า เวลาผมเปียก สีผมจะตกใส่เสื้อผ้าได้ค่ะ ยิ่งหน้าฝนแบบนี้ทำสีแซ่บๆต้องระวังหน่อยฮับ ปิดท้ายกันไปด้วยภาพนี้ ข้อเสียเดียวของการทำสีผมแซ่บๆ คือ ต้องแต่งหน้าแทบทุกวันนั่นเองค่า ไม่งั้นสีผมแย่งซีนสุดๆ 555 ------------------------------------------------------------------------------- สำหรับเพื่อนๆที่สนใจทำสีผมหรือหาซื้อผลิตภัณฑ์ของ Schwarzkopf Professional สามารถหาซื้อได้ตามร้านซาลอนในเครือชวาร์สคอฟ เช่น ร้านชลาชล, คัตโตะ, ทูบีวัน, ลาโมน, แฮร์เทค, อาร์ทแฮร์, วีนัส, เค2002, แฮร์บิวด์ ฯลฯ สังเกตจากป้ายชวาร์สคอฟที่ติดหน้าร้านได้ค่ะ ขอบคุณ Schwarzkopf Professional สำหรับการเมคโอเวอร์สีผมในครั้งนี้นะคะ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปชมหรือสอบถามได้ที่ https://www.facebook.com/SchwarzkopfProfessionalThailand ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้าด้วยค่า XOXO   Create Date : 22 กรกฎาคม 2556     Last Update : 6 พฤษภาคม 2557 20:50:19 น. Counter : 49553 Pageviews.   19 comment Share Tweet

Review <Video> : แฮร์แคร์กลิ่นหอมฟุ้งให้ผมนุ่มลื่นจากญี่ปุ่นแบรนด์"Ma Cherie" [ในเครือ Shiseido จ้า] รีวิวผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมจากญี่ปุ่นในเครือ Shiseido ชื่อแบรนด์ Ma Cherie  มีวางจำหน่ายในร้านวัตสันจ้า ^^   Create Date : 05 มิถุนายน 2556     Last Update : 6 พฤษภาคม 2557 20:50:08 น. Counter : 1178 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Review : Pantene Pro-V Color & Perm Lasting Care แฮร์แคร์สำหรับผมทำสีและผมดัดสั้นๆคำเดียวว่า "เริ่ด" คำถามที่โดนถามบ่อยๆเลยคือเรื่องผม สาวๆหลายคนสงสัยว่าทรายดูแลผมอย่างไร เอาจริงๆตอบตรงๆเลยน้าว่าเป็นคนผมค่อนข้างสุขภาพดีอยู่แล้ว เป็นคนผมตรงมากกก ตรงธรรมชาติไม่ได้ยืดผม ที่เห็นเป็นลอนคือม้วนเอาไม่ได้ดัดจ้า แต่หนึ่งสิ่งที่ทำร้ายเส้นผมและทรายทำตลอดเรียกได้ว่าเสพติด คือการทำสีผม แหะๆ เคยทำสีแล้วมันหยุดมิได้ จะกลับไปผมดำมันก็ไม่ใช่ ผมสีดูเข้ากับตัวเองกว่ามว๊ากกก ดังนั้นเมื่อเลือกที่จะอยากทำสี จึงต้องดูแลเส้นผมด้วยเพราะผมผ่านเคมี รับประกันฟันธงยังไงก็ต้องเสีย แค่เสียมากหรือน้อยแค่นั้นเองจ้า ซึ่งวิธีการดูแลผมของทรายก็ตอบให้ตรงๆอีกเช่นกันว่าไม่ทำอะไรเลย 555 แค่สระผมใส่ทรีทเมนต์แค่นั้น แต่ประเด็นอยู่ที่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ทรายจะใช้แฮร์แคร์ในกลุ่มผมทำสีมาโดยเพราะตรงกับสภาพเส้นผมและช่วยให้สีผมติดทนค่ะ และแฮร์แคร์ที่จะมารีวิวในบล็อคนี้ก็ทำขึ้นมาเพื่อสาวผมทำสีและผมดัด ได้แก่ Pantene Pro-V Color & Perm Lasting Care แพนทีน โปร-วี คัลเลอร์ แอนด์ เพิร์ม ลาสติ้ง แคร์ เป็นแฮร์แคร์ไลน์ใหม่ล่าสุดของแพนทีนที่กำลังมีโฆษณาอยู่ในตอนนี้ค่ะ พรีเซนเตอร์คนสวยที่นับวันยิ่งสวยแซ่บหุ่นดีเวอร์ๆ ก็คือ สาวเจนี่-เทียนโพธิ์สุวรรณ ยิ่งเห็น TVC ยิ่งกรี้ด เจนี่เล่นพิลาทิสใต้น้ำ!!! สวยมากกกกก เฟิร์มมาก อยากได้หุ่นแบบนี้ เอาคลิปวิดีโอ TVC มาฝากกัน ปีนี้ปีทองของเจนี่จริงๆ สวย เริ่ด เป๊ะ เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงมากๆๆๆ นอกจากจะปลื้มเจนี่แล้วขอบอกว่าตั้งแต่แพนทีนส่งผลิตภัณฑ์ Pantene Pro-V Color & Perm Lasting Care มาให้ทดลอง ลองไปครั้งแรกก็กรี้ดเลย ปลื้มจริงอะไรจริง คือช่วยให้ผมนุ่มมากกกก ลื่นมากก ยิ่งใช้ต่อเนื่องยิ่งโดนใจ มาดูกันดีกว่าว่าตัวไหนที่ทรายถึงกับจัดให้เป็น Recommended Item !!! ------------------------------------------------------------------------------- Pantene Pro-V Color & Perm Lasting Care Shampoo แพนทีน โปร-วี คัลเลอร์ แอนด์ เพิร์ม ลาสติ้ง แคร์ แชมพู ขนาด 170 มล.  ราคา  69  บาท    ขนาด 320 มล.  ราคา  139  บาท    ขนาด 460 มล.  ราคา  159  บาท ------------------------------------------------------------------------------- Pantene Pro-V Color & Perm Lasting Care Conditioner แพนทีน โปร-วี คัลเลอร์ แอนด์ เพิร์ม ลาสติ้ง แคร์ คอนดิชันเนอร์ ขนาด 165 มล.  ราคา  69  บาท    ขนาด 320 มล.  ราคา  139  บาท    ขนาด 460 มล.  ราคา  159  บาท    ------------------------------------------------------------------------------- ข้อมูลผลิตภัณฑ์แชมพูและครีมบำรุงผม ปกป้องสีผมสวย และลอนผมดัดได้ยาวนานยิ่งขึ้น     ผมแห้งเสียจากสารเคมีทำให้เส้นผมสูญเสีย ***เอฟ-เลเยอร์ (F-Layer) ซึ่งเป็นเกราะคุ้มกันตามธรรมชาติ ดังนั้นทุกครั้งที่สระผม สีผมจึงถูกล้างออกอย่างง่ายดาย และลอนผมดัดก็คลายตัว สูตรโปร-วิตามิน พร้อม ลิควิด คริสตัล ซิสเต็ม (Liquid Crystal Shampoo System) เสมือนสร้างเกราะป้องกันชั้นใหม่ให้เส้นผม เหมือนแผ่นฟิล์มบางๆ ทำหน้าที่คล้าย เอฟ-เลเยอร์ จึงช่วยปกป้องสีผมจากการซีดจาง และลดการคลายตัวของลอนผมดัดจากการสระผม ให้สีผมสวยสดใส และลอนผมดัดอยู่ตัวได้ยาวนานยิ่งขึ้น     ครีมบำรุงผมสูตรเข้มข้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงและการปกป้องเมื่อใช้คู่กันเป็นประจำ ***เอฟ-เลเยอร์ (F-Layer) คือเกราะคุ้มกันตามธรรมชาติทำหน้าที่ปกป้องผม แต่ผมที่ผ่านเคมีมากๆจนแห้งเสีย สารเคมีจะเข้าไปทำให้ชั้นนอกสุดของเส้นผมเปิด เพื่อรับสีย้อมผมหรือน้ำยาดัดผมให้ซึมซาบผ่านผมชั้นนอกเข้าไป เส้นผมจะสูญเสียโปรตีนจนเกิดการทำลายโครงสร้างหลักของเส้นผม ทำให้ผมสูญเสียความชุ่มชื้น และ เอฟ-เลเยอร์ (F-Layer) แชมพูและครีมนวดบรรจุมาในขวดพลาสติกสีขาวทึบแสง หน้าตาจะคล้ายกันนะคะ แต่ฝาเปิดของแชมพูจะอยู่ด้านบน ส่วนฝาเปิดของครีมนวดจะอยู่ด้านล่าง ทรายมีแอบมึนหยิบผิดเหมือนกัน แหะๆ ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์และความรู้สึกเมื่อทดลองใช้ สำหรับแชมพูเนื้อสีขาวมุก เนื้อแชมพูเข้มข้น กลิ่นหอมออกแนวฟรุตตี้ไม่เหมือนแพนทีนตัวอื่นที่เคยใช้มา กลิ่นค่อนข้างชัดมากเอาว่าห้องน้ำกลายเป็นกลิ่นแชมพูเลย แต่กลิ่นที่เหลือติดผมไม่ได้ฉุนจ้า สระแล้วให้ฟองเยอะสะใจ ขยี้ให้เกิดฟองได้ง่าย ล้างแชมพูออกแล้วรู้สึกสะอาดดี ผมหลังล้างแชมพูสำหรับทรายผมค่อนข้างยาวมากจะรู้สึกว่าผมฝืดๆนิดๆนะคะ แชมพูตัวนี้ชอบที่กลิ่นและความรู้สึกสะอาด แต่เนื้อแชมพูที่ข้นๆแบบนี้ แอบทำให้ผมทรายมันไวนิดนึง เนื่องด้วยเป็นคนหนังศีรษะมันง่ายอยู่แล้ว จึงต้องใช้สลับกับแชมพูสำหรับผมมันค่ะ ครีมนวดมีเนื้อสีขาวเนื้อแน่นเข้มข้นกว่าเนื้อครีมนวดปกติแต่เนื้อก็ลื่นโชลมผมได้ง่าย กลิ่นฟรุตตี้แบบเดียวกับแชมพูแต่รู้สึกว่ากลิ่นอ่อนกว่าไม่ชัดเท่าแชมพูค่ะ วิธีการใช้นวดๆไปบนเส้นผมแล้วล้างน้ำออกไม่หมักทิ้งไว้ ครีมนวดตัวนี้เข้มข้นใช้ได้เลยทำให้ผมหลังสระที่ฝืดนิดๆนุ่มลื่นขึ้น แต่โดยปกติทรายจะเป็นคนที่ไม่ใช้ครีมนวด จะลงทรีทเมนต์หรือแฮร์มาส์กแทน ซึ่งรวบรัดขั้นตอนและได้รับการบำรุงผมที่เข้มข้นกว่าค่า อารมณ์สาวขี้เกียจนั่นเอง 555 สำหรับคนที่ผมไม่ได้เสียมากมายและดูแลผมสม่ำเสมอ จะเลือกใช้เป็นครีมนวดอย่างเดียวก็โอเคค่ะ ------------------------------------------------------------------------------- Pantene Pro-V Color & Perm Lasting Care Intensive Hair Mask แพนทีน โปร-วี คัลเลอร์ แอนด์ เพิร์ม ลาสติ้ง แคร์ อินเทนซีพ แฮร์ มาส์ก ขนาด 250 มล.  ราคา  162  บาท ------------------------------------------------------------------------------- ข้อมูลผลิตภัณฑ์อินเทนซีพแฮร์มาส์ก สูตรโปร-วิตามิน พร้อม ลิควิด คริสตัล  ซิสเต็ม ดูแลผมแห้งเสียจากสารเคมีอย่างล้ำลึก คุณภาพระดับมืออาชีพเพื่อการฟื้นบำรุงอย่างเข้มข้น เพิ่มสารฟื้นบำรุงเข้มข้นขึ้นอีก 40% เสมือนสร้างเกราะป้องกันชั้นใหม่ให้เส้นผม จึงช่วยปกป้องสีผมจากการซีดจาง และการคลายตัวของลอนผมดัดจากการสระผม สีผมสวยสดใส และลอนผมดัดอยู่ตัวได้ยาวนานยิ่งขึ้น บำรุงเส้นผมของคุณอย่างล้ำลึก ใช้อย่างน้อยสัปดาห์ละสองครั้ง   มาส์กบรรจุมาในกระปุกพลาสติกลักษณะฝาเปิดปิดตามในภาพ ข้อดีคือเปิดใช้ง่ายยิ่งเวลามือเปียกๆลื่นๆ ดีกว่าแบบฝาเกลียวเยอะ แต่ข้อเสียคือทรายซุ่มซ่ามทำหลุดมือตกกระแทกพื้น ฝากกระแทกเปิดออกมาส์กหกกระจายเลยจ้า เศร้าง่ะ เสียดาย ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์และความรู้สึกเมื่อทดลองใช้ เนื้อมาส์กสีขาวเข้มข้น แต่รู้สึกเหมือนเนื้อเหลวลื่นมือกว่าครีมนวด กลิ่นไม่รู้ทรายคิดไปเองป่าวมันออกแนวฟรอรัลมากกว่าฟรุตตี้ ต่างจากแชมพูและครีมนวดเล็กน้อย แต่กลิ่นหอมดี และกลิ่นติดผมดีด้วย มาส์กไว้นี่ทั้งผมและห้องน้ำฟอมฟุ้งเลย มาส์กตัวนี้ตามวิธีใช้ข้างกระปุกเค้าบอกว่าให้ใช้หลังครีมนวด โชลมไว้ 3 นาทีแล้วล้างออก ให้ใช้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง แต่ทรายชอบใช้มาส์กตัวนี้แทนครีมนวดแหละ แต่ต้องใช้แบบมีเทคนิคหน่อยนะค๊า พวกทรีทเมนต์หรือแฮร์มาส์กจะมีความเข้มข้นกว่าครีมนวด ถ้าเราใส่โชลมทั้งหัวรับประกันหัวมันเยิ้มแน่นอน ดังนั้นให้โชลมเฉพาะปลายผมถึงกลางผม เนื่องจากเป็นจุดที่จะแห้งเสียมากที่สุด สารอาหารไปบำรุงไม่เพียงพอ การโชลมแค่ปลายผมจะไม่ทำให้ผมมัน และไม่เกิดการสะสมของสารเคมีบนหนังศีรษะมากไปจ้า คือหลังสระผมก็โชลมมาส์กลงไปเลย บอกเลยว่าตัวนี้กรี้ดดดดดดดดดมาก คือลูบไปบนผมเปียกสัมผัสได้เลยว่าผมนุ่มลื่นปรื้ดๆๆๆ เอามือสางได้ทั้งๆที่ผมเปียกเลย หลังล้างออกแล้วเป่าผมให้แห้งอยากจะกรี้ดดังๆรักผมตัวเองมากมันทำให้ผมนุ่มๆลื่นๆ เหมือนโรคจิตเลยนั่งลูบผมตัวเองเล่นทั้งวัน 555 ก็มันลื่นจริงๆง่ะ ยกให้มาส์กตัวนี้เป็น Mhunoiii's Recommended Item ไปเลย โดนใจใช่เลย !!! ------------------------------------------------------------------------------- Pantene Pro-V 6 Week Color Protect Treatment Program แพนทีน โปร-วี 6 วีค คัลเลอร์ โพรเทค ทรีทเมนท์ โปรแกรม ขนาด 60 มล.  ราคา  179  บาท ------------------------------------------------------------------------------- ข้อมูลผลิตภัณฑ์ สูตรโปร-วิตามิน พร้อม ลิควิด คริสตัล แชมพู ซิสเต็ม •เสมือนสร้างเกราะป้องกันชั้นใหม่ให้ผม จึงช่วยปกป้องสีผมจากการซีดจางและการคลายตัว ของลอนผมดัดอยู่ตัวได้ยาวนานยิ่งขึ้น •โปรแกรมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อการปกป้องยาวนานถึง 6 สัปดาห์ •ใช้ทันทีหลังการทำสี หรือดัดผมเพื่อช่วยฟื้นบำรุง สุขภาพเส้นผมที่แห้งเสียจากการใช้สารเคมี วิธีการใช้ ใช้หลังจากครีมบำรุงผมโดยโชลมลงบนผมหมาด ทิ้งไว้ 3 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด ควรใช้สัปดาห์ละหนึ่งครั้งต่อเนื่องจนครบ 6 สัปดาห์ ***ควรใช้ทันทีหลังการทำสี หรือดัดผม เพื่อช่วยฟื้นบำรุงสุขภาพเส้นผมที่แห้งเสียจากการใช้สารเคมี ตัวนี้เป็นไอเท็มที่เก๋สุดของไลน์นี้ คือเป็นทรีทเมนต์บำรุงแบบพิเศษที่ต้องใช้ต่อเนื่อง สัปดาห์ละหนึ่งครั้งจนครบ 6 สัปดาห์ตามชื่อของเค้า 6 Week Color Protect Treatment Program ที่ควรเริ่มใช้ครั้งแรกทันทีหลังการทำสีหรือดัดผม ทรีทเมนต์จะมีขนาดเดียวคือ 60 ml บรรจุมาในหลอดพลาสติก ซึ่งทรายคาดว่าเค้าคำนวณมาแล้วว่าใช้ได้ประมาณ 6 ครั้งตามโปรแกรมที่วางไว้ ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์และความรู้สึกเมื่อทดลองใช้ เนื้อทรีทเมนต์สีขาวมีความเข้มข้นมากแต่เนื้อลื่นโชลมไปบนผมได้ง่าย กลิ่นตัวนี้อ่อนสุดในบรรดาแฮร์แคร์ในไลน์นี้จ้า ตามวิธีการใช้คือลงหลังครีมนวด หรือสำหรับทรายคือจะใช้ตัวนี้ลงหลังอินเทนซีฟมาส์ก โดยใช้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เนื้อทรีทเมนต์ช่วยให้ผมลื่น แต่ด้วยความว่าลงหลังมาส์กที่ทำให้ผมนิ่มลื่นอยู่แล้ว เลยไม่แน่ใจว่าลงเดี่ยวๆจะทำให้ผมนิ่มลื่นได้ขนาดไหนจ้า แต่ก็นะควรใช้ตามวิธี ลงหลังมาส์กหรือครีมนวดนี่แหละดีที่สุด ทรายโชลมให้ทั่วแล้วหมักไว้แป๊บนึง เค้าบอกให้ทิ้งไว้สามนาที แต่ปกติทิ้งไว้เกินตลอด แหะๆ หมักไว้ประมาณ 10-15 นาที หลังล้างออกแล้วเป่าผมให้แห้ง ผมนุ่ม นิ่ม และลื่นปรื้ดเลย ส่วนเรื่องการช่วยให้สีผมไม่ซีดจางด้วยทรีมเมนต์โปรแกรมตัวนี้ ทรายอาจจะตอบได้ไม่ชัดเพราะว่าทรายมาเริ่มใช้ทรีทเมนต์ตัวนี้ หลังจากที่ทรายทำสีมาเป็นเดือนแล้วอ่าค่ะ สีก็หลุดออกไปพอควรแล้วหล่ะ แต่หลังจากลองใช้ทรีมเมนต์ตัวนี้มา 2 ครั้ง สีผมโดยรวมก็ดูไม่ซีดนะ จุดเด่นคือเค้าช่วยเคลือบให้ผมขึ้นเงาวิ้งวับ แลดูสุขภาพดีกว่าเดิมจ้า สำหรับใครที่เพิ่งทำสีผมหรือดัดผมมาหมาดๆถ้าอยากคงสภาพให้ผมสวยได้นานๆ ก็น่าลองใช้เจ้าทรีทเมนต์โปรแกรมตัวนี้อยู่นะ ใช้แค่อาทิตย์ละหนึ่งครั้ง ช่วยยืดอายุสีผมหรือลอนผมดัด ถือเป็นไอเท็มที่น่าสนใจในราคาที่ไม่แพงเลยจ้า สรุปผลหลังการทดลองใช้ Pantene Pro-V Color & Perm Lasting Care แพนทีน โปร-วี คัลเลอร์ แอนด์ เพิร์ม ลาสติ้ง แคร์ หลังจากได้ทดลองใช้แพนทีนสำหรับผมทำสีและผมดัดแบบครบทั้งไลน์ กล้าพูดได้เต็มปากว่าประทับใจมาก สภาพผมดูดีจริงๆ จุดเด่นที่สุดของทรายคือผมนุ่มลื่น และขึ้นเงาวิ้งๆอย่างที่เห็นในภาพเลย (สภาพผมตรงๆในภาพเป็นผมที่ตรงธรรมชาติไม่ได้ยืดไม่ได้ไดร์จ้า) เรื่องสีผมเนื่องจากก่อนหน้านี้ทรายก็ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมสำหรับผมทำสีอยู่แล้ว เลยอาจจะตอบให้ได้ไม่ชัดเจนค่ะ ว่าเซ็ตนี้ช่วยให้สีผมติดทนนานได้ขนาดไหน ซึ่งในโฆษณาเค้าบอกว่าช่วยปกป้องผมเสียได้มากถึง 10 เท่า และปกป้องสีผมยาวนานถึง 6 สัปดาห์กันเลยทีเดียว ถ้าใครพึ่งทำสีหรือพึ่งดัดผมมาแล้วมองหาแฮร์แคร์ดีๆในราคาที่ไม่แพง ทรายก็แนะนำให้ลองใช้กันดูนะ ลงทุนไม่สูงแต่คุณภาพนี่เยี่ยมจริง เค้าปลื้ม โดยเฉพาะอินเทนซีฟแฮร์มาส์กรักสุดใจ ตอนทำหกนี่เศร้ามากโกยเท่าที่ได้เลยทีเดียว คอนเฟิร์มว่าตัวนี้ซื้อใช้ต่อแน่นอน ทั้งแม่และน้องสาวที่ได้ลองก็ตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆก็คือความรู้สึกส่วนบุคคลนะคะ ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างที่ต่างกัน เช่น สภาพความเข้มแข็งของผมเดิม ความถี่ของการทำเคมี สารเคมีที่ใช้ในการทำสีหรือดัดผม ความถี่ในการโดนความร้อน ฯลฯ ล้วนมีปัจจัยทำให้ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ให้ผลแตกต่างกันไปได้ การอ่านรีวิวเป็นส่วนหนึ่งของการหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อเท่านั้น คำว่าดีของแต่ละคนต่างกัน ถ้าไม่ลองใช้เองก็ตอบไม่ได้ค่ะว่าสำหรับเรานั้นดีหรือไม่ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผมก็เหมือนกันการเลือกใช้สกินแคร์ ถ้าเราเลือกตามสภาพปัญหาของเส้นผมเหมือนการเลือกตรงกับสภาพผิว ก็ย่อมให้ผลลัพธ์ในการดูแลได้ดีกว่าค่ะ หวังว่ารีวิวนี้จะให้ประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ ------------------------------------------------------------------------------- ขอบคุณแพนทีนมากค่ะที่ส่งผลิตภัณฑ์มาให้ทดลอง เซ็ตนี้โดนใจที่สุดจริงๆตั้งแต่เคยใช้แพนทีนมา สำหรับข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติมสามารถเข้าไปติดตามกันได้ที่ https://www.facebook.com/pantenethailand ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้าด้วยค่า XOXO   Create Date : 13 พฤษภาคม 2556     Last Update : 6 พฤษภาคม 2557 20:49:58 น. Counter : 11099 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Review : Dove Nourishing Oil Care มาแก้ปัญหาผมแห้งชี้ฟูกันจ้า ^^ สวัสดีค่ะสาวๆ บล็อคนี้มาว่ากันด้วยเรื่องของปัญหาผมแห้งชี้ฟู ปัญหาระดับชาติที่สาวๆหลายคนพยายามหาทางแก้กันอยู่ ไม่นานมานี้ Dove ได้ออกผลิตภัณฑ์แฮร์แคร์ตัวใหม่ที่เน้นแก้ปัญหานี้โดยตรงกันไปเลย กับผลิตภัณฑ์ Dove Nourishing Oil Care ที่ผสานส่วนผสมจากน้ำมันสกัดธรรมชาติ ซึ่งโดฟได้มีการท้าพิสูจน์ผลลัพธ์ผมนุ่มลื่น ไม่ชี้ฟู ด้วยการทดสอบ กับเครื่อง "ฟริซโซมิเตอร์ : Frizz-O Meter" เพื่อวัดระดับความแห้งของเส้นผม ที่จะจัดบูทขึ้นตามสถานีรถไฟฟ้า BTS & MRT ซุปเปอร์ และไฮเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศ ตลอดเดือน กุมภาพันธ์ – มีนาคม 2556 นี้ค่ะ เค้าได้ไปลองตรวจสภาพผมด้วยเจ้าเครื่อง "ฟริซโซมิเตอร์ : Frizz-O Meter" มาแล้วหล่ะ วันนั้นนั่งพี่วินแวนซ์ไป หัวกระเซิงเป็นทุน วัดออกมาลูกผมฟุ้งกระจุยกระจายเลย 555 ใครสนใจอยากรู้ว่าสภาพผมตัวเองแห้งชี้ฟูขนาดไหนพร้อมทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ช่วยลดการชี้ฟูจากโดฟก็ติดตามตารางจัดบูทกันได้ที่ www.facebook.com/HairTherapyThailand จ้า ------------------------------------------------------------------- ผมแห้ง ต่างจาก ผมเสีย อย่างไร? ผมแห้ง จะแห้ง หยาบกร้าน ไม่เงางาม ชี้ฟู และ จัดทรงยาก ในขณะที่ผมเสียจะมีอาการแห้งแตกปลาย และ ขาดหลุดร่วงร่วมด้วย  ผมแห้งเป็นอาการเริ่มต้นของผมเสีย ผมแห้ง มักจะเกิดจากปัจจัยภายในร่างกาย เช่น พันธุกรรม, อายุ และอาหาร แต่ผมแห้งเสีย มักจะเกิดจากปัจจัยภายนอก เช่นการทำร้ายผมในชีวิตประจำวัน หรือการจัดแต่งทรงที่มากเกินความจำเป็น รวมถึงมลภาวะด้วย ------------------------------------------------------------------- หลังจากไปตรวจสภาพผมแล้วทางโดฟได้ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่นี้มาให้ทรายลองทั้งเซ็ตเลย ชื่อของเค้าคือ Dove Nourishing Oil Care ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี นูทริ ออยล์  (Weightless Nutri Oil) ส่วนผสมจากน้ำมันธรรมชาติสามชนิด ได้แก่ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันจากเมล็ดอัลมอนด์และน้ำมันจากเมล็ดดอกทานตะวัน ที่จะช่วยเติมลิพิดหรือน้ำมันตามธรรมชาติ พร้อมด้วยสารบำรุงผมอื่นๆที่จำเป็น ทำให้เส้นผมกลับมานุ่มลื่นขึ้น พร้อมลดการชี้ฟู โดยไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะ ซึ่งเค้ามีผลิตภัณฑ์ในเซ็ตนี้ทั้งหมด 5 ชิ้น คือ 1. โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ ครีมแชมพู 340 มล. (129 บาท) และ 480 มล. (159 บาท) 2. โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ คอนดิชันเนอร์ 330 มล. (129 บาท) และ 460 มล. (159 บาท) 3. โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ เดลี่ ทรีทเม้นท์ คอนดิชันเนอร์  180 มล. (135 บาท) 4. โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ ทรีทเม้นท์ มาส์ก  200 ม.ล. (159 บาท) 5. โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ แอนตี้-ฟริซ เซรั่ม 40 ม.ล. (179 บาท) สำหรับทรายได้ทดลองใช้ โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ ครีมแชมพู คู่กับ โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ เดลี่ ทรีทเม้นท์ คอนดิชันเนอร์ ซึ่งตัวนี้เก๋มาก !!! เพราะเป็นครีมนวดผสมทรีทเมนต์ผสานสองพลังในหลอดเดียว บีบออกมาเป็นเนื้อครีมสองสีเหลืองขาว หัวบีบเหมือนหัวแต่งเค้กเลย เวลาใช้บีบสนุก 555 หลังการสระผมและใส่ครีมนวดผสมทรีทเมนต์ อย่าตกใจผมในภาพคือผมเปียกหมาดๆยังไม่แห้งจ้า ครีมนวดผสมทรีทเมนต์ตัวนี้เวิร์คน๊า นวดใส่ผมหลังสระ ผมนิ่มแบบรู้สึกได้เลยหล่ะ เป็นหลอดบีบใช้ง่ายดี กลิ่นหอมสไตล์โดฟเลย หลังสระกลิ่นติดผมฟอมฟุ้งเลยจ้า มาถึงตัวนางเอกของเราในเซ็ตนี้ นั่นคือ ---------------------------------------------------------------- “นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ แอนตี้-ฟริซ เซรั่ม” 40 ม.ล. (179 บาท) ---------------------------------------------------------------- เซรั่มเนื้อบางเบาสูตรพิเศษซึมซาบเข้าไปบำรุงผมอย่างล้ำลึก ทำให้เส้นผมกลับมานุ่มลื่น ลดการชี้ฟู แต่ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะ ด้วยขั้นตอนการกลั่นน้ำมันชั้นสูงเพื่อให้ได้โมเลกุลละเอียด ด้วยเทคโนโลยี นูทริ ออยล์ (Weightless Nutri Oil) ผสานอาณุภาพของน้ำมันสกัดธรรมชาติถึง 3 ชนิดได้แก่ 1. น้ำมันมะพร้าว มีคุณสมบัติช่วยจัดผมให้อยู่ทรง พร้อมทั้งกักเก็บความชุ่มชื้นอย่างได้ผล ทำให้เส้นผมคงความอ่อนเยาว์ได้อย่างยาวนาน 2. น้ำมันเมล็ดอัลมอนด์ ใช้บำรุงผิวและผม ช่วยให้ผมมีชีวิตชีวา หนานุ่ม และเปล่งประกายเงางามน่าสัมผัส ทั้งยังประกอบด้วยโอเมก้า 9 ซึ่งเป็นลิพิดชนิดหนึ่ง ถึง 78% สามารถฟื้นฟูสภาพเส้นผมได้ลึกถึงระดับเซลล์ ปรับสภาพเส้นผมที่แห้งอย่างรุนแรงให้กลับมานุ่ม ชุ่มชื่น มีสุขภาพดี 3. น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน น้ำมันจากเมล็ดดอกทานตะวันนั้นขึ้นชื่อในการทำให้เกิดความนุ่มลื่น อุดมไปด้วยโอเมก้า 6 ซึ่งเป็นลิพิดชนิดหนึ่ง สามารถใช้ช่วยบำรุงรักษาผิวหนัง และหนังศรีษะที่แห้งกร้านให้มีสุขภาพดีขึ้น นุ่ม ชุ่มชื้นขึ้นจนสัมผัสได้ ลักษณะทั่วไปของผลิตภัณฑ์ (เนื้อ และกลิ่น) ออยบรรจุมาในขวดพลาสติกสีขาวใส ตกไม่แตกจ้า (แอบทำตกไปสองทีละ 555) ด้วยความที่เป็นขวดใสไม่ควรวางโดนความร้อนและแสงแดดนะคะ จะทำให้ประสิทธิภาพเสื่อมไว เนื้อออยดูจากในขวดจะออกสีเหลืองๆเนอะ แต่พอกดออกมาในฝ่ามือแทบจะเป็นออยใสๆไร้สี เนื้อออยเหลวมากกกก ไม่หนืด ไม่เหนอะหนะเลย กลิ่นหอมอ่อนๆสไตล์โดฟ ให้กลิ่นติดผมจางๆค่ะ วิธีการใส่ใช้ครั้งละ 2-3 ปั๊ม ใส่ได้ทั้งขณะผมหมาดและผมแห้ง เน้นใส่ที่กลาง-ปลายผม โดยไม่ต้องล้างออกจ้า ทรายแสกกลางแบ่งผมเป็นฝั่งซ้าย-ขวา และลองใส่ โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ แอนตี้-ฟริซ เซรั่ม ในผมฝั่งซ้าย โดยใส่ขณะผมหมาด ลูบจากบริเวณกลางผมถึงปลายผม ไม่ใส่บริเวณโคนนะคะเพราะเค้าเป็นเนื้อแบบน้ำมันจะทำให้โคนผมมันเกินไปจ้า เซรั่มแม้จะเป็นเนื้อออยแต่คอนเฟิร์มให้เลยว่าซึมไวมากกกก เนื้อไม่หนัก แห้งซึมไปกับเส้นผมไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะเลย แต่ถ้าคนผมมันไม่แนะนำให้ใช้เยอะ เพราะอย่างไรออยกับผมมันถ้าใส่เยอะไปมันจะทำให้ผมลีบแบนได้ค่ะ ลูบๆแค่ปลายผมก็พอ หลังเป่าผมให้แห้ง ในเรื่องความชี้ฟูของผมทรายว่าสองข้างใส่กับไม่ใส่เซรั่ม ดูด้วยตาเปล่าแยกไม่ค่อย แต่ว่าเรื่องของความนุ่มลื่น ด้านที่ใส่เซรั่มตอนผมหมาด ลูบเอามือสางผมจะรู้สึกว่าผมนุ่มลื่นกว่าค่อนข้างชัดเลยจ้า ผมฝั่งขวาทรายใส่เซรั่มหลังจากเป่าแห้งแล้ว เทียบไม่ว่าจะใส่เซรั่มในขณะผมหมาดหรือผมแห้ง เซรั่มก็ซึมลงเส้นผมไวเช่นเดียวกัน แห้งดี ไม่เหนอะหนะค่า เซรั่มช่วยให้ผมนุ่มลื่นขึ้น หวีแล้วลื่นปรื้ดไม่สะดุด ผมไม่ฝืด สำหรับทรายอันนี้รู้สึกได้เลยจ้า ความรู้สึกหลังทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ สำหรับทรายที่ผมปกติเป็นคนผมตรงธรรมชาติ ปลายผมแห้งจากการทำสี และมีโคนผมค่อนข้างมันมากกกก ลองใช้ โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ แอนตี้-ฟริซ เซรั่ม แล้วรู้สึกชอบเลยค่ะ เป็นเซรั่มเนื้อออยที่ไม่เหนอะหนะ ซึ่งปกติคนที่โคนผมมันแบบทรายจะไม่ถูกกับเนื้อออย ตัวนี้ทำออกมาได้ดี และหลังใช้ทันทีจะรู้สึกผมนุ่มลื่นขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ปัญหาผมเสียหายไปได้ทันทีน๊า ต้องค่อยๆบำรุงและใช้ต่อเนื่องจ้า ตัวนี้ที่ใช้แล้วผมนุ่มลื่นทันทีเพราะว่าเค้าไปช่วยเติมน้ำมันผมตามธรรมชาติ (ลิพิด : Lipid) ที่มีหน้าที่รักษาความชุ่มชื่นให้เส้นผม เมื่อผมได้รับการเติมน้ำมันตามธรรมชาติแล้ว ผมจึงมีความชุ่มชื่นเพิ่มขึ้น ทำให้รู้สึกผมนุ่มลื่นขึ้นทันที และผมดูขึ้นเงาวิ้งๆมากขึ้นจ้า ด้วยราคาและสถานที่ซื้อที่หาง๊าย ง่าย มีตามห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อทั่วไปเลย จึงถึงว่าคุณภาพคุ้มเกินราคา 179 บาท ใช้ได้ทั้งผมเปียกและผมแห้ง รวมทั้งใช้พกพา ลูบเส้นผมระหว่างวันเมื่อรู้สึกผมเริ่มชี้ฟูได้ด้วยจ้า ***ผลิตภัณฑ์เซ็ตนี้เหมาะสำหรับคนที่มีผมแห้ง ชี้ฟู ขาดความชุ่มชื่น เนื่องจากเค้าจะช่วยเติมน้ำมันผมตามธรรมชาติทำให้ผมนุ่มชุ่มชื่นขึ้นจ้า ------------------------------------------------------------ ใครสนใจอยากไปลองประสิทธิภาพของ โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ แอนตี้-ฟริซ เซรั่ม สามารถไปลองเทส พร้อมตรวจความแห้งชี้ฟูของเส้นผมได้ ที่บูทของ "Dove Frizz-O Meter" แบบที่ทรายไปตรวจมาได้นะคะ ติดตามรายละเอียดวันเวลาตั้งบูท และสอบถามเพิ่มเติมต่างๆเกี่ยวกับ Dove ได้ที่ //www.facebook.com/HairTherapyThailand ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้าด้วยค่า XOXO ------------------------------------------------------------   Create Date : 27 มีนาคม 2556     Last Update : 6 พฤษภาคม 2557 20:49:42 น. Counter : 10608 Pageviews.   2 comment Share Tweet