• ~How To ตามสไตล์ไอ้หมูน้อย~
• ~Review + Preview [2016-2018]
• ~Review + Preview
• ~Review All About Hair : ว่ากันด้วยเรื่องของผม สีผม บำรุงผม จัดแต่งทรงผม
• ~Review Dietary โหมดอาหารเสริม
• Review เมื่อหมูเข้าคลินิก ความงามที่ทำเองไม่ได้ที่บ้าน
• >>> Color Swatch by Mhunoiii <<<
• Mhunoiii Event Update & แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์จ้า
• Mhunoiii's Health Diary กับการฟิตแอนด์เฟิร์ม ออกกำลังกาย และดูแลสุขภาพ แบบไอ้หมูน้อย
• Talking : โหมดไอ้หมูชวนคุย สาระความรู้ดีๆ เคล็ดลับโดนๆ เสนอหัวข้อพูดคุยกันมาได้นะจ๊ะ ^^
• mhunoiii ตะลอนทัวร์ กินๆเที่ยวๆสไตล์ไอ้หมูน้อยจ้า ^^
• ไดอารี่ของสองเหมียว"บัวลอย-ไข่หวาน" ไอ้ตัวแสบทั้งสอง เมี๊ยวๆ :3
• About Me "SraY or Mhunoiii"

Review : Tsubaki Oil Extra Intensive Damage Care แชมพูครีมนวดสูตรออยล์บำรุงล้ำลึกแต่ไม่ทำให้ผมลีบแบน โคนผมมันแต่ปลายแห้ง.....ใครเจอปัญหาเดียวกันยกมือขึ้น! เป็นปัญหาที่น่าเบื่อมากเนอะ ไม่รู้จะเลือกใช้แฮร์แคร์แบบไหนดี เลือกแบบทำความสะอาดดีปลายผมก็แห๊ง แห้ง พอเลือกแบบบำรุงดีโคนผมก็มั้น มัน....ความพอดีอยู่ที่ไหน??? แต่ๆๆๆบล็อคนี้มีทางออกให้กับแฮร์แคร์จากญี่ปุ่นที่เค้าเพิ่งออกสูตรใหม่ เป็นสูตรที่ช่วยฟื้นฟูผมแห้งเสียแบบล้ำลึก โดยที่ทำความสะอาดผมและหนังศีรษะได้ดี ไม่ทำให้ผมมันหรือลีบแบน เคลมมาได้น่าตื่นเต้นจะทำได้จริงแค่ไหนไปพิสูจน์กัน "ซึบากิ" แฮร์แคร์แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นที่เราคุ้นกันดี สมัยก่อนเห็นคนไทยไปหิ้วมาจากญี่ปุ่นกันเยอะ แต่ตอนนี้บ้านเราก็มีขายละ ราคาพอกันไม่ต้องเหนื่อยหิ้วละเนอะ แบรนด์นี้เค้าโด่งดังมากในเรื่องช่วยให้ผมนุ่มลื่น ซึ่งตอนนี้เค้าได้ออกไลน์ใหม่ชื่อว่า Tsubaki Oil : ซีบากิ ออยล์ ที่ยังเน้นคงในเรื่องจุดเด่นของการบำรุงผมที่แห้งเสียได้อย่างล้ำลึก ด้วยส่วนผสมของออยล์ที่สกลัดจากพึชธรรมชาติ แต่จุดเด่นที่เพิ่มมาคือการที่เค้าเคลมมาว่า สามารถทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะได้เยี่ยม โดยที่ไม่ทำให้เส้นผมและหนังศีรษะมัน ไม่ทำให้ผมลีบแบน ดังนั้นคนผมมันง่ายก็สามารถใช้ได้ โดยเค้ามีให้เลือกด้วยกัน 2 สูตร สีชมพู : Tsubaki Oil Extra Moisture Balance Care สำหรับทุกสภาพเส้นผม เพื่อมอบความชุ่มชื่นให้เส้นผมและหนังศีรษะ สีเหลือง :  Tsubaki Oil Extra Intensive Damage Care สำหรับผมแห้งเสีย ชี้ฟู จัดทรงยาก เพื่อฟื้นบำรุงผมเสียจากการทำเคมี ด้วยสภาพผมที่ผ่านการทำสีมาแบบโชกโชนของเค้านั้น แน่นอนว่าต้องใช้เป็นสูตรสีเหลือง Tsubaki Oil Extra Intensive Damage Care แชมพูเป็นขวดใส ส่วนครีมนวดเป็นแบบขวดขุ่น ขนาด 450 ml  เป็นขวดแบบหัวปั๊มหยิบจับใช้งานง่ายดี ราคาขวดละ 350 บาท มีจำหน่ายเฉพาะใน Tops Supermarket จ้า ส่วนผสมหลักคือออยล์ที่เห็นสกัดจากพืชธรรมชาติ ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ น้ำมันจากดอกคามิลเลีย หรือ ดอกซึบากิ ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งก็คือที่มาของชื่อแบรนด์นั่นเอง ผสมผสานกับน้ำมันจาก ดอกไฮเปอร์ริคัม , ดอกคาโมมายล์, ดอกหูเสือ (Saxifrage) และ เมล็ดถั่วเหลือง ด้วยคุณสมบัติของออยล์สามารถทำความสะอาดได้ล้ำลึกถึงรูขุมขน หลักการคิดง่ายๆคล้ายการใช้คลีนซิ่งออล์ล้างเมคอัพนั่นแล ออยล์สามารถทำละลายออยล์ด้วยกันได้ดีกว่า จึงช่วยขจัดคราบมันบนเส้นผมและหนังศีรษะได้ดีโดยไม่ทำให้รู้สึกแห้ง แต่จะช่วยบำรุงผมที่แห้งเสียให้ชุ่มชื่น เงางาม และนุ่มลื่นขึ้น สำหรับแชมพูเป็นสูตร NON-SILICONE คือไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน ซึ่งปกติแล้วซิลิโคนจะทำหน้าที่เคลือบเส้นผมทำให้ผมนุ่มลื่นขึ้น แต่เป็นการเคลือบแค่ภายนอกซึ่งล้างออกได้ยาก จึงสามารถสะสมและทำให้เกิดการอุดตันที่หนังศีรษะได้ ส่งผลให้หนังศีรษะและเส้นผมมันง่าย ลีบแบน กลิ่น/เนื้อของผลิตภัณฑ์ และความรู้สึกหลังใช้ แชมพู : เนื้อใสไม่มีสี มีความข้นปานกลาง ตีกับน้ำขึ้นฟองได้ง่าย เมื่อสระลงเส้นผมจะเกิดเป็นฟองนุ่มๆเนื้อละเอียดขยี้ละเพลิน  ให้ฟองกลางๆไม่มากไม่น้อยไป ล้างฟองออกจากผมได้ไม่ยาก  กลิ่นหอมมากกกก เป็นกลิ่นสไตล์ฟลอรัลแต่ให้ความรู้สึกสดชื่นดีนะไม่หวานเลี่ยน หลังสระมีกลิ่นติดผมเบาๆ กลิ่นอยู่ได้ประมาณวันนึง สำหรับวันปกติที่ไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม เค้าสระแค่รอบเดียวก็สะอาดแล้ว แต่ถ้าเซ็ตผมจะสระสองรอบ หลังล้างออกรู้สึกแชมพูสามารถล้างคราบมันที่โคนผมได้ดีนะสบายหัวดี แม้จะไม่มีซิลิโคนแต่เค้าว่าด้วยส่วนผสมของออยล์ผมก็นุ่มไม่แพ้กัน ตอนที่ผมเปียกน้ำจับดูก็ไม่รู้สึกว่าผมฝืดฮะ นุ่มขึ้นนิดนึงด้วย ครีมนวด : เนื้อสีขาวขุ่นมีความข้นกลางๆคือไม่หนืดไปไม่เหลวไป เกลี่ยบนผมได้ง่าย พอนวดลงไปสักแป๊บจะค่อยๆซึมลงผมจนไม่เห็นเนื้อสีขาว วิธีการใช้ครีมนวดให้ได้ผลคือหลังสระให้บีบน้ำในผมออกให้หมาดที่สุด น้ำจะได้ไม่ไปทำละลายความเข้มข้นของครีมนวด และครีมนวดควรใช้ลงแค่กลางถึงปลายผมที่ผมมีความแห้งเสียเท่านั้น ถ้าลงที่โคนด้วยนอกจากอุดตันแล้วยังทำให้ผมมันเยิ้มง่ายอีกด้วย ตามคำแนะนำคือชโลมลงบนผมไว้ประมาณ 1-3 นาทีแล้วค่อยล้างออก เค้าเองจะใส่ครีมนวดลงผมแล้วให้มือนวดๆไม่รู้คิดไปเองป่าวแต่รู้สึกว่ามันจะบำรุงได้ดีขึ้น ตอนที่นวดลงไปสัมผัสได้เลยว่าผมจะนุ่มและลื่นขึ้น แบบเอามือสางได้เลยจากผมพันๆกัน  แค่สางเบาๆก็รูดมือออกได้จนสุดปลาย ให้ฟิลดี๊ดี ส่วนกลิ่นเหมือนกับแชมพูแต่หอมยิ่งกว่า กลิ่นชัดกว่า ตอนที่ใช้นี่หอมฟุ้งทั้งห้องน้ำเลย ผลการทดลองใช้ ขอเกริ่นบอกก่อนว่าผมเค้าผ่านการฟอกมาร่วมสิบครั้ง เคยทำสีอ่อนม้ากกกก ฟอกจนเกือบจะขาว แต่สีผมปัจจุบันเค้าลงสีเข้มโทน Dark Ash ทับ สภาพผมเลยดูเหมือนจะสุขภาพดีขึ้น แต่ปลายก็แห้งมากอยู่ดี แหะๆ หลังใช้ Tsubaki Oil Extra Intensive Damage Care โดยสระหนึ่งรอบ ลงครีมนวดที่กลางถึงปลายผม แล้วทำการเป่าให้แห้งด้วยไดร์แค่นั้น ไม่ได้เซ็ตผม หรือหนีบผม ผลลัพธ์ได้ตามภาพเลย ผมดูตรงและเรียงเส้นมากขึ้น (แต่ผมเค้าตรงธรรมชาติอยู่แล้วนะ) สัมผัสเรื่องความนุ่มลื่นแตกต่างจากบีฟอร์แน่นอนโคนถึงกลางผมลื่นปรื้ดดด ปลายแห้งๆก็นุ่มลื่นขึ้นแต่ก็ไม่ได้นุ่มขนาดผมที่โคนอ่านะ ต้องเข้าใจว่าความโชกโชนของการทำเคมีมันต่างกัน แหะๆ ถ้าปลายเยินแบบขั้นสุดมีการแตกปลายแล้วก็ต้องอาศัยการเล็มทิ้ง แล้วบำรุงไปเรื่อยๆสภาพถึงจะดีขึ้น ถ้าหวงผมไม่เล็มเลยยังไงปลายก็ไม่สวยขึ้น เทียบเรื่องความชี้ฟูผมทิ้งตัวดีขึ้นดูได้จากความตรง แต่ก็ไม่ได้ดูฟีบแบน เอามือสางๆโคนก็ดูพองมีวอลลุ่มนะ ส่วนเรื่องของความมัน...ภาพซ้ายคือไม่ได้สระผมมาสองวันดูความเยิ้มสิคะยังกะผมใส่แว็กซ์ ส่วนภาพกลางหลังใช้แล้วเป่าแห้ง สะอาด สบาย เบาหัวเลย และภาพขวาคือผ่านไปหนึ่งวันใช้ชีวิตเอาท์ดอร์ซะส่วนใหญ่ โคนผมก็มันขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่เค้าพอใจนะ ปกติเยิ้มกว่านี้ ตรงรอยแสกเค้าว่าไม่ค่อยมันขึ้นเท่าไหร่ จะดูมันขึ้นนิดหน่อยตรงกรอบหน้า อันนี้ส่วนนึงมาจากการที่เค้าเป็นคนทาครีมบำรุงเยอะด้วยทำให้เลอะไปโดนโคนผมได้ แถมเทคนิคให้อีกนิดสำหรับคนที่ผมมันมากๆไม่ควรสระผมไปเกินไป และไม่ควรใช้น้ำร้อนสระผม เพราะจะทำให้หนังศีรษะแห้งลง เมื่อหนังศีรษะแห้งร่างกายเราจะยิ่งผลิตน้ำมันมาเคลือบหนังศีรษะมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ความชุ่มชื่นที่มีอยู่น้อยระเหยออก ดังนั้นการใช้แฮร์แคร์ที่ให้ความชุ่มชื่นได้ดีด้วยก็จะช่วยลดปัญหาความมันได้จ้า สรุปผลความพอใจ รู้สึกถึงความต่างได้ตั้งแต่ใช้ครั้งแรก ฟิลตอนที่ใช้ดีงามแชมพูฟองละเอียดครีมนวดไม่ข้นมาก แต่ให้ความชุ่มชื่นดีกลิ่นหอมถูกจริต ผลลัพธ์หลังใช้ผมนุ่มลื่นดีสางง่ายขึ้นเงามากขึ้น ปลายผมนุ่มขึ้นในระดับนึง แต่อย่างที่บอกว่าความแห้งเสีย ไม่ได้บำรุงให้หายในการใช้แค่ไม่กี่ครั้ง ต้องลดปัจจัยที่ทำร้ายเส้นผมอย่างการทำเคมี การใช้ความร้อนเซ็ตผม การใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรง ควบคู่กับการบำรุงผม และอย่าลืมหมั่นเล็มปลายที่แห้งเสียทิ้งด้วยนะจ๊ะ จุดเด่นที่สุดคือเป็นสูตรออยล์ที่เน้นการบำรุงแต่คนผมมันแบบเค้าก็ใช้ได้ ไม่ทำให้โคนผมมันไวกว่าปกติ ผมดูมีวอลลุ่มดี แต่ถ้าวันที่จะเซ็ตผมแนะนำว่าใช้ครีมนวดน้อยลงนิดก็จะเซ็ตง่ายขึ้น อย่างเค้าผมตรงใช้แล้วผมตรงมากขึ้นเวลาม้วนผมลอนจะคลายไวนิดนึงฮะ ขอให้คะแนนความพอใจโดยรวมไปที่ 4.5/5 เป็นแฮร์แคร์ที่เหมาะกับการใช้ประจำวัน แต่สำหรับปลายผมแห้งรุนแรงแบบเค้า การใช้ทรีทเมนต์เนื้อข้นๆแบบที่เป็นกระปุกสลับใช้บ้างผมจะฟื้นตัวไวขึ้นจ้า สุดท้ายสำหรับใครที่ผมปกติไม่ได้แห้งเสียมากมาย สูตรสีชมพู Tsubaki Oil Extra Moisture Balance Care จะเหมาะกว่าเน่อ หวังว่าบล็อคนี้จะเป็นประโยชน์กัน ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้าค่า ----------------------------------------------------------------------------- Disclaimer : Sponsored Content by Tsubaki ***All opinions are my own Information : www.facebook.com/tsubakithailand   Create Date : 29 พฤศจิกายน 2559     Last Update : 9 ธันวาคม 2559 4:55:58 น. Counter : 16352 Pageviews.   1 comment Share Tweet

Review : AloEX แชมพูและสเปรย์เซรั่มจากสารสกัดสมุนไพรธรรมชาติที่ช่วยลดปัญหาผมร่วง สวัสดีค่ากลับมาพบกันในหมวดของเส้นผมอีกครั้ง กับปัญหาผมที่ทำให้ใครหลายคนเกิดความนอย์ขั้นสุดยิ่งกว่าผมเสีย นั่นก็คือปัญหาผมร่วงนั่นเองงงงง!!! ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเมื่อเจอปัญหาผมร่วงจะทำให้ขาดความมั่นใจและส่งผลต่อบุคลิคภาพได้สุดๆ เพราะจากการร่วงจะค่อยๆนำไปสู่ผมบางและหนังศีรษะล้านได้...โอยขนลุก ดังนั้นก่อนจะปัญหาจะลุกลามเราก็ควรเริ่มหาทางป้องกันกันตั้งแต่เนิ่นๆนะฮะ สาเหตุของผมร่วงมีมากมายหลายสิ่ง หลักๆก็คือเรื่องของกรรมพันธุ์และฮอร์โมน ซึ่งอันนี้ต้องทำใจก็ได้ส่งทอดมาจากคุณพ่อคุณแม่อ่าเนอะ แต่ปัจจัยภายนอกสารพันสิ่งที่เราต้องเจอทุกวันก็ทำให้ผมร่วงได้มากเลย ไม่ว่าจะเป็นการทำเคมี ดัด ยืด ย้อม , การใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม , การปล่อยให้หนังศีรษะชื้นจนเป็นเชื้อราหนังศีรษะ , โคนผมที่มันมากเกินไป ฯลฯ แต่ทั้งหมดทั้งปวงที่กล่าวมาจะเห็นว่าสาเหตุคือการที่เราไปทำร้ายหนังศีรษะนั่นเอง เมื่อหนังศีรษะไม่แข็งแรงก็จะส่งผลถึงรากผมซึ่งก็คือที่มาของปัญหาผมร่วง ดังนั้นไม่ว่าจะผมร่วงด้วยสาเหตุใดก็ตาม การดูแลพื้นฐานที่สำคัญที่สุดก็คือการทำความสะอาดหนังศีรษะ ด้วยการเลือกใช้แชมพูที่ออกแบบมาเพื่อคนที่มีปัญหาผมร่วงโดยเฉพาะ ซึ่งจะนำมารีวิวให้ชมกันในบล็อคนี้ค่ะ มีทั้งแบบคลิปและแบบ Text เลย --------------------------------------------------------------------------------------------------------- AloEX Shampoo & Hair Serum Spray ------------------------------------------------------------------- รายละเอียดผลิตภัณฑ์ เป็นยาสระผมและเซรั่มสำหรับคนที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง หนังศีรษะไม่แข็งแรง ส่วนผสมสกัดจากสมุนไพรไทยหลากหลายชนิด ได้แก่ มะกรูด อัญชัน ว่านหางจระเข้ เทียนกิ่ง สำมะงา มะรุม โสมไทย ประคำดีควาย ใบไผ่ และ ใบบัวบก ที่มีคุณสมบัติดังนี้ - ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้สามารถลำเลียงโปรตีน และสารอาหารไปเลี้ยงรากผมเต็มที่ ทำให้เส้นผมงอกใหม่ได้ไวขึ้น - ดูดพิษความร้อน ลดอุณภูมิหนังศีรษะอันเป็นสาเหตุให้รากผมอ่อนแอผมหลุดร่วง ด้วยสารสกัดจากพญาเย็น - เพิ่มโปรตีน(amino acid) ให้รากผมและเส้นผม จากสารสกัดเมล็ดพืช,หัวว่าน และโสม - เพิ่มความชุ่มชื่นและสร้างความหนาแน่นให้รากผม ด้วยสารสกัดจากว่านนานาชนิด (Pure Hyaluronic Acid) - ลดอาการคัน ความมันและอาการอักเสบของผิวหนัง ด้วยสารสกัด Curcumin จากสมุนไพรเข้มข้น - ให้ความรู้สึกเย็นสบาย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเข้าผิวหนังและแห้งไว เพราะสกัดด้วยอณูละเอียด - ปราศจากน้ำหอม และสารปรุงแต่งที่ไม่จำเป็น เช่น สารลดประจุ ที่ใช้ในแชมพูทั่วๆไป จึงปลอดภัยแม้หนังศีรษะที่บอบบางแพ้ง่าย AloEX Shampoo ---------------------------------------------------- แชมพูสารสกัดจากสมุนไพร ให้รากผมและหนังศีรษะแข็งแรง ช่วยลดอาการผมร่วงและปัญหารังแค ขนาด 200ml ราคา 595 บาท รายละเอียดส่วนผสม ใช้สารลดแรงตึงผิวในกลุ่มที่อ่อนโยนคือ Sodium Cocoamphoacetate Sodium Cocoyl Glutamate  และ Sodium Cocoyl Isethionate ซึ่งสารประกอบอินทรีย์ที่ได้จากน้ำมันมะพร้าว ไม่มีส่วนผสมของซัลเฟต ซิลิโคน น้ำหอม และสารกันเสีย ลักษณะเนื้อและกลิ่น เป็นแชมพูใสมาในรูปแบบของขวดปั๊มใช้งานง่าย เนื้อแชมพูมีความข้นหนืดแต่ตีขึ้นฟองได้ง่าย ให้ฟองในระดับปานกลาง ไม่มากไม่น้อยไป ขจัดน้ำมันและสิ่งสกปรกบนหนังศีรษะได้ดี ฟองล้างน้ำออกได้ง่าย หลังสระจะรู้สึกเย็นๆสบายหนังศีรษะดี กลิ่นเป็นกลิ่นจากสมุนไพรธรรมชาติเลยเพราะเค้าไม่ใส่น้ำหอม ซึ่งจัดว่าเป็นกลิ่นที่ดีงามมากกกก...ชอบเป็นการส่วนตัว เป็นกลิ่นหอมเย็นอ่อนๆให้ความรู้สึกสดชื่นดี กลิ่นติดผมเล็กน้อย ด้วยความที่แชมพูเน้นส่วนผสมจากธรรมชาติมากๆ ไม่มีส่วนผสมพวกซิลิโคนที่ไปเคลือบผมให้นุ่มลื่น(แต่อุดตันดีนักแล) เลยทำให้ฟิลตอนที่สระจะรู้สึกฝืดๆ อย่างเค้าผมยาวและเป็นผมทำสีนี่แทบสางมิออกเลย แหะๆ ดังนั้นเทคนิคการใช้ของเค้าคือใช้ AloEX Shampoo สระเฉพาะที่โคนผม เพื่อทำความสะอาดหนังศีรษะให้เกลี้ยงเพราะเค้ากำจัดน้ำมันส่วนเกินได้ดี๊ดี แล้วบริเวณกลางถึงปลายผมก็ใช้แชมพูสำหรับผมทำสีโดยเฉพาะเอา ก็จะได้คลีนทั้งโคนผมและบำรุงสีผมได้พร้อมๆกัน แต่สำหรับแฟนเค้าที่ผมสั้นสามารถใช้สระทั้งหัวได้เลย ลองถามดูนางก็บอกว่ารู้สึกฝืดตอนที่สระเหมือนกัน แต่สำหรับผู้ชายความรู้สึกฝืดๆแบบนี้ก็ให้ฟิลที่สะอาดดี โดยหลังล้างแชมพูออกพอเป่าแห้งผมก็นุ่มลื่นปกติไม่ได้รู้สึกว่าผมแห้งแต่อย่างใดฮะ AloEX Hair Regrowth Serum Spray ----------------------------------------------------  เซรั่มสเปรย์สำหรับฉีดลงบนหนังศีรษะช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรง ลดอาการผมร่วง อาการคันหนังศีรษะ รังแค ช่วยกระตุ้นให้เกิดการงอกใหม่ของเส้นผม ให้ผมดกดำ ขนาด 120ml ราคา 990 บาท ส่วนผสมเป็นสารสกัดจากสมุนไพรล้วนๆไม่มีน้ำหอม จึงมีความอ่อนโยนสามารถใช้ได้ทุกวัน วันละ 2-3 รอบ ลักษณะเนื้อกลิ่น และวิธีการใช้ เซรั่มเนื้อใสมีความเหลวแบบน้ำเปล่าไม่เหนียวเหนะหนะ กลิ่นอ่อนๆมีความเป็นสมุนไพรเบาๆ ส่วนตัวเค้าว่าไม่หอมแต่ก็ไม่ได้เหม็นชอบกลิ่นแชมพูมากกว่า มาพร้อมหัวสเปรย์ที่ให้ฝอยละเอียดและฟุ้งมาก กดที่เดียวได้พื้นที่ในวงกว้าง จะเวิร์คมากสำหรับคนผมสั้นพ่นไม่กี่ทีก็ทั่ว แต่ถ้าผมยาวจะทำให้โคนผมค่อนข้างเปียกในวงกว้าง อย่างเค้าจะชอบใช้หลังสระผมมากกว่า แต่จริงๆสามารถพ่นได้ทั้งตอนผมเปียก และระหว่างวันตอนผมแห้งโดยไม่ต้องล้างออก หลังพ่นให้ใช้นิ้วมือนวดๆที่หนังศีรษะจะเป็นการช่วยกระตุ้น ให้เซรั่มซึมซาบลงไปและทำให้ระบบหมุนเวียนโลหิตทำงานดีขึ้น สรุปความรู้สึกหลังทดลองใช้ ส่วนตัวเค้าไม่มีปัญหาผมร่วงอยู่แล้วหลักๆเลยส่งให้แฟนทดลองใช้ เพราะแฟนเค้ามีปัญหาผมร่วงอย่างหนักเลยในช่วงปีที่ผ่านมา บอกเลยว่านางลองมาเยอะมากกับแชมพูสำหรับผมร่วง พอให้ลองตัวนี้ฟีดแบ็คคือสามารถลดผมร่วงได้จริง ตอนที่สระคือสางผมแล้วมีผมติดมือออกมาน้อยๆ แต่ที่ดีงามโดดเด่นขึ้นมากว่าแชมพูตัวอื่นๆที่เคยใช้คือเรื่องของกลิ่น เพราะปกติแชมพูสำหรับผมร่วงก็จะเน้นเรื่องอ่อนโยนไม่ใส่น้ำหอมอยู่แล้ว ทำให้หลายตัวมีกลิ่นแบบยา แต่ตัวนี้เป็นสารสกัดจากสมุนไพรที่ให้กลิ่นแบบหอมอ่อนๆ เวลาสระจึงให้ความรู้สึกที่สุนทรีกว่ามาก และตอนสระจะรู้สึกเย็นเบาๆ เพราะเค้ามีส่วนผสมที่ช่วยลดอุณหภูมิหนังศีรษะเลยทำให้รู้สึกสบายหัว เอาว่าให้ฟิลที่ดีตอนใช้และให้ผลลัพธ์ในเรื่องลดการร่วงได้โอเคเลย และในจุดที่ชอบเหมือนกันก็คือการลดความมันหนังศีรษะ เค้าเองเป็นคนหนังศีรษะมันง่ายมากกกสระเช้าบ่ายก็เริ่มมัน แต่พอใช้แชมพูตัวนี้คืออยู่ได้ประมาณ 2 วันเลย แต่อย่างที่เล่าไปข้างต้นว่าใช้แล้วผมจะฝืดๆตอนสระ เลยต้องแท็กทีมใช้คู่กับแชมพูสำหรับผมทำสีอีกตัวนึง แล้วลงทรีมเทนต์เข้มข้นช่วยเอาผมถึงจะนุ่มลื่นขึ้น เพราะผมเค้าผ่านสมรภูมิการฟอกสีและทำสีมาหนักหน่วงอ่านะ แต่ล่าสุดแบรนด์แจ้งมาว่าเค้าปรับสูตรแชมพูใหม่ด้วย มีการเพิ่ม Argan Oil ลงไปซึ่งช่วยให้ผมลื่นและไม่พันกันมากขึ้น และมีการปรับค่า pH ให้ใกล้เคียงผิวเราคือ 5.5 จึงทำให้อ่อนโยนมากขึ้น แต่อาจจะทำให้ปริมาณฟองน้อยลงกว่าเดิมหน่อยฮะ ส่วนสเปรย์จุดเด่นคือเนื้อที่บางเบาแบบน้ำ แห้งไวไม่เหนอะหนะ ใช้ง่ายลงได้ทั้งตอนผมเปียกและแห้ง แต่ลงเฉพาะโคนนะไม่พ่นที่ผม เรื่องการลดผมร่วงและกระตุ้นผมงอกใหม่อาจจะไม่ได้ใช้ยาวนานขนาดที่วัดผลได้ แต่ทางแบรนด์แจ้งมาว่าในแชมพูที่ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผมได้ดี เพราะเค้าใส่เซรั่มลงไปแทนส่วนผสมที่เป็นน้ำเลย จากสูตรเดิมมีอยู่ 28% เค้าได้ทำการปรับสูตรใหม่ใส่เซรั่มเพิ่มเป็น 40% ดังนั้นการใช้เซรั่มร่วมกันจะช่วยเสริมประสิทธิภาพทำให้เห็นผลได้ชัดเจนไวขึ้น โดยสามารถฉีดได้บ่อยเท่าที่ต้องการ ยิ่งบ่อยยิ่งดีฮะ แต่อย่างเค้าที่ไม่มีปัญหาผมร่วงที่เค้าชอบคือ ตัวสเปรย์ช่วยเรื่องลดอาการคันหัวเวลาเจออากาศร้อนได้ดีเลย เหมือนช่วยให้ความชุ่มชื่นแก่หนังศีรษะเลยบรรเทาอาการคันหรือระคายเคืองได้ด้วยฮะ ก็ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะที่อ่อนโยน ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ที่เห็นผลในเรื่องลดการหลุดร่วงของเส้นผม ซึ่งเอาจริงๆก็สามารถใช้ได้ทุกคน ไม่จำเป็นต้องใช้เฉพาะคนที่ผมร่วงฮะ แต่อย่างไรก็ตามคนที่มีปัญหาผมร่วงนอกจากดูแลตัวผลิตภัณฑ์แบบนี้แล้ว ก็ต้องสังเกตตัวเองในด้านอื่นด้วยว่ามีปัจจัยอะไรที่ทำให้ผมร่วงหรือไม่ และถ้ามีอาการร่วงมากแบบผิดปกติแนะนำว่าพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง จะได้ทำการรักษาอย่างถูกวิธีควบคู่กันไปก็จะดีที่สุดจ้า ----------------------------------------------------------------------------- Disclaimer : Sponsored Content by AloEX ***All opinions are my own Information : www.aloexhair.com www.facebook.com/AloExOfficial   Create Date : 08 ตุลาคม 2559     Last Update : 10 ตุลาคม 2559 14:47:47 น. Counter : 4882 Pageviews.   2 comment Share Tweet

Review : Lucido-L Argan Oil บำรุงผมให้นุ่มลื่นพลิ้วไม่เหนอะหนะด้วยอาร์แกนออยล์ในราคาสบายกระเป๋า สวัสดีค่าห่างหายจากหมวดเส้นผมไปนาน ได้ฤกษ์กลับมารีวิวแล้ว เย้! เพราะเค้ามีไอเท็มลูกรักโดนใจตัวใหม่ที่ใช้แล้วปลาบปลื้มมากกเลยขอนำมารีวิวให้ชมกัน ถ้าพูดถึงน้ำมันบำรุงผมที่เป็นกระแสที่สุดของยุคนี้แน่นอนว่าไม่พ้นอาร์แกนออยล์ เพราะเป็นน้ำมันสกัดจากพืชที่ได้ชื่อว่ามีสารอาหารอลังการล้นเหลือมาก สามารใช้บำรุงได้หมดตั้งแต่ผมยันผิว แต่ที่จะรีวิวคือสำหรับใส่ผมเท่านั้นนะจ๊ะ ซึ่งถ้าใครเคยใช้อาร์แกนออยล์อยู่จะรู้เลยว่าราคามันแพงเว่อร์วังมาก แต่ที่จะนำมาฝากกันบอกเลยว่าราคาน่าคบหาสุดๆและคุณภาพก็ดีงามไม่แพ้ตัวแพงๆเลย กับแบรนด์ Hair Care & Hair Styling ชื่อดังจากญี่ปุ่นที่เราคุ้นกันดี LÚCIDO-L นั่นเอง LÚCIDO-L ARGAN OIL hair treatment oil ทรีทเมนต์ใส่ผมชนิดไม่ต้องล้างออก ด้วยส่วนผสมของอาร์แกนออยล์ช่วยให้ผมนุ่มลื่นดุจแพรไหม เปล่งประกายดูมีมิติ และให้ความรู้สึกที่เบาสบายดุจขนนก ---------------------------------------------------------------------------- ขนาด 60 ml ราคา 330 บาท หาซื้อได้ที่ร้าน Watsons ทุกสาขาค่า ***ตอนนี้มีโปรลดราคาอยู่ด้วยเหลือขวดละ 295 บาท ถึงวันที่ 21 กันยายนนี้เท่านั้นนะฮร้า อยากบอกเค้าเคยสอยออยล์ตัวนี้มาจากญี่ปุ่นเมื่อสองปีก่อนแหละ แต่น้องสาวยึดไปเรียบร้อยเลยยังไม่ได้เล่นเลย แล้วได้มารู้ทีหลังว่าออยล์ตัวนี้ดังมากกก ได้รับราวัล Cosme Award ของญี่ปุ่นถึง 2 ปีซ้อน โถๆๆมีของดีในมือแต่น้องได้ลองใช้ก่อนซะงั้น ไม่เป็นไรๆ ตอนนี้ไม่ต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปสอยละ เพราะวางขายบ้านเราเรียบร้อย ทำราคามาดีด้วยพอๆกะที่นู่นเลย ส่วนผสมที่เป็นจุดขายของออยล์บำรุงผมตัวนี้ก็คือ อาร์แกนออยล์ แต่ว่าจะไม่ใช่แบบเพียวๆ 100% นะฮะ ซึ่งส่วนตัวเค้าเคยลองแบบเพียว แม้เทียบกับออยเบสหลายๆตัวอาร์แกนออยล์จะจัดเป็นออยล์ที่เนื้อเบามากแล้ว แต่ออยแบบเพียวๆเวลาเอามาใส่ผมเค้าว่าเนื้อมันยังข้นไป ยิ่งเมื่อต้องอยู่ในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบบ้านเรานะ เค้าใช้ละผมอย่างฟีบเลย แต่ด้วยลักษณะที่เป็นเนื้อเบลนแบบนี้คือเค้าออกแบบมาแล้ว ว่าช่วยบำรุงผมให้พลิ้ว นุ่มลื่น โดยที่ไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์หลักของเค้าเลยว่าเป็นออยล์ที่ให้สัมผัสบางเบาดุจขนนก ถือว่าเค้าจับจุดได้ดีมากนะเพราะหลายคนที่ไม่กล้าใช้ออยล์บำรุงผม ส่วนใหญ่มีสาเหตุหลักๆคือกลัวว่าผมจะเหนียวแล้วดูลีบแบนนี่หล่ะเนอะ -------------------------------------------------------------------------------- ARGAN OIL คืออะไร ? เล่าให้ฟังกันนิดเนอะเผื่อใครยังไม่รู้จักว่าคืออะไร อาร์แกนออยคือน้ำมันที่สกัดจากผลของต้นอาร์แกน ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีความอึดถึกทนสามารถอยู่รอดและเจริญเติบโต ในสภาพแวดล้อมที่เป็นทะเลทรายได้ สกิลการเอาตัวรอดสูง แต่ๆๆมีความโฮโซตรงที่ต้นอาร์แกนจะขึ้นเฉพาะที่ประเทศโมรอคโกเท่านั้น! คือมีคนเคยพยายามเอาไปปลูกที่อื่น นางก็งอกได้นะแต่ไม่ยอมออกผลซะนั่น น้ำมันที่ได้จากผลอาร์แกนจัดว่ามีสารอาหารสารพัดสารพัน ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน A , E ( วิตามิน E มีสูงกว่าน้ำมันมะกอกถึง 3 เท่า) กรดไขมันโอเมก้า 6, 9 และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยมอีกด้วย จึงได้ชื่อว่าเป็น "ทองคำแห่งโมรอคโก" สามารถนำมาใช้บำรุงได้หมดตั้งแต่เส้นผม ผิวหน้า ผิวตัว เล็บ ความแต่งต่างของ ARGAN OIL ใน LÚCIDO-L ทางแบรนด์บอกมาว่าถือเป็นครั้งแรกที่มีการนำผลอาร์แกน มาผ่านกระบวนการสกัดด้วยแรงดันสูง เทียบเท่าแรงดันระดับน้ำทะเล 10,000 เมตร ทำให้เนื้อออยล์ที่ได้มีอนุภาคขนาดเล็กกว่าอาร์แกนออยล์ที่สกัดแบบปกติ ทำให้เนื้อออยล์สามารถกระจายตัวบนเส้นผมได้รวดเร็ว เข้าไปเคลือบเส้นผมโดยไม่จับตัวเป็นก้อน จึงให้สัมผัสนุ่มลื่น และให้ความเงางามเป็นธรรมชาติโดยไม่ทำให้ผมดูมัน ลักษณะเนื้อและกลิ่น ออยล์เป็นแบบขวดปั๊มใช้งานง่าย เวลาใช้กดออกมาประมาณ 1-2 ปั๊มก่อน แนะนำว่าอย่ากดทีละเยอะๆ เพราะออยล์มีลักษณะเนื้อแบบเหลวใส เอียงมือนิดเดียวออยล์ไหลตามมือแล้ว ถ้าปั๊มออกมาเยอะจะไหลหกได้นะฮะ เนื้อออยล์บางเบามากจริงๆอยากให้ลืมออยล์บำรุงผมแบบเดิมๆที่เคยใช้กัน ซึมดีถึงขั้นว่าลองวอร์มเนื้อออยล์วนๆในมือถ้าถูวนเพลินไป ออยล์สามารถซึมเข้ามือได้หมดเลย ดังนั้นหลังใช้ออยล์บำรุงผมตัวนี้ ไม่จำเป็นต้องล้างมือเลยเพราะไม่ทิ้งความเหนอะหนะฮะ ส่วนเรื่องกลิ่นอันนี้บอกเลยว่าเป็นสิ่งที่เลิฟมากกกกก กลิ่นดีสุดๆใส่ละผมหอมละมุนมาก เป็นกลิ่นสไตล์ Fruity Floral ท็อปด้วยกลิ่นแอปเปิ้ลกับพีช กลิ่นกลางเป็นมะลิ ลิลลี่ กุหลาบ และปิดท้ายด้วยไวท์มัสก์และแอมเบอร์ หอมแบบสดชื่นมีเจือความหวานเล็กๆแต่ไม่หวานเลี่ยน ใส่ละฟินกะกลิ่นผมตัวเองชอบจับผมขึ้นมาดมเล่น 555 วิธีการใช้ สำหรับการใช้ออยล์บำรุงผมเราจะใช้บำรุงเฉพาะที่กลางถึงปลายผม ไม่ใส่ลงไปที่โคนผมนะฮะ ออยล์จะช่วยบำรุงฟื้นฟูผมที่แห้งเสียแตกปลายขาดง่าย กลับมาเป็นประกายเงางามนุ่มลื่นมากขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องผมร่วงเน่อ ปริมาณที่ใช้กะเอาตามความยาวและความหนาของผม ผมสั้นก็ 1-2 ปั๊ม ผมยาวอย่างเค้าประมาณ 3-4 ปั๊ม โดยสามารถใช้ได้ในหลายขั้นตอนไม่ว่าจะเป็นหลังสระ ผมที่ตอนผมยังหมาดเพื่อช่วยบำรุงผมและช่วยป้องกันความร้อนจากการไดร์ผม หรือจะใช้ก่อนการจัดแต่งทรงผมด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้าก็ได้เช่นกัน และหลังจากจัดแต่งทรงแล้วก็สามารถใส่ออยล์เพื่อให้ผมดูเป็นประกายมากขึ้นได้ด้วย แต่ถ้าใส่หลังจัดแต่งทรงแนะนำว่าไม่ควรใส่เยอะไปฮะ 1-2 ปั๊มพอแล้ว เดี๋ยวจะทำให้ทรงที่จัดไว้ดูคลายตัวได้ เพราะก่อนจัดแต่งเราก็ใส่ออยล์ลงไปแล้วอ่านะ ส่วนตัวเค้าชอบใส่เยอะหน่อยตอนผมหมาด 3-5 ปั๊มได้เลยเพราะผมเค้าผ่านการฟอกสีมาอย่างโชกโชน ปลายผมจะแห้งมว๊ากก ใส่ออยล์บำรุงเข้าไปยังไงก็ซึมวาบได้หมด แต่ถ้าตอนผมแห้งจะใช้แค่นิดเดียวเพราะธรรมชาติเค้าตรงมาก ออยล์จะบำรุงให้ผมทิ้งตัวมากขึ้น ถ้าใส่เยอะไปผมเค้าจะยิ่งตรงทำให้ดูฟีบๆได้ ------------------------------------------------------------------------------------- ความรู้สึกหลังทดลองใช้ เค้าใช้ต่อเนื่องมาเป็นเดือน ใช้ซะเพลินนี่หมดไปครึ่งขวดละ ต้องรีบเอามารีวิวก่อนจะหมดขวด 555 ผลการใช้เค้าถ่ายเทียบให้ดูชัดๆไปเลย โดยสระผมใส่ทรีทเมนต์ทุกสิ่งเหมือนกัน แต่ผมครึ่งหนึ่งจะใส่ออยล์ก่อนทำการเป่าผม อีกครึ่งจะไม่ใส่ ผลลัพธ์ตามภาพเลยชัดเจนมากฮร่ะ ผมด้านนี้ใส่ออยล์บำรุงตอนผมหมาด สัมผัสได้ตั้งแต่ตอนผมหมาดเลยว่าสามารถสางผมออกได้ คือปกติเวลาผมเปียกถ้าผมทำสีมากๆจะเก็ทเนาะว่ามันสางมิได้ ผมจะเกาะตัวเป็นก้อนมาก แหะๆ แต่พอใส่ออยล์ปุ๊บจะค่อยๆสางได้ และเมื่อเป่าแห้งผมจะเรียงเส้นสวยงามตามภาพเลย นี่เค้าเป่าแห้งเฉยๆนะไม่ได้ไดร์หรือว่าหนีบผม แต่บอกก่อนว่าผมเค้าเป็นผมตรงธรรมชาติด้วยมันเลยทิ้งตัว แต่เรื่องความเรียงเส้นและนุ่มลื่นนี่ออยล์ช่วยได้จริงๆ และนี่คือผมอีกด้านที่ไม่ได้ใส่ออยล์ ทำทุกอย่างเหมือนกันเป๊ะเป่าผมพร้อมกันทั้งหัว สภาพโดยรวมมันก็ตรงอยู่หล่ะแต่ดูสภาพปลายผมซิฮร้า มีความฝอยและชี้ฟู ดูแบบนี้อาจไม่ชัดมากดูรูปถัดไปแล้วจะตะลึง แตกต่างพอมิเคอะ555 ด้านที่ใส่ออยล์ผมดูมีสกุลรุนชาติกว่ากันมาก ลดความชี้ฟูได้เยอะเลย ตรงปลายผมสังเกตได้ชัดสุดเนอะ แต่เรื่องของผมแตกปลายที่มันแหกออกเป็นหลายแฉกแล้ว เค้าแนะนำให้เล็มทิ้งบ้างอะไรบ้าง ออยล์ไม่ใช่กาวมันประสานรอยแตกไม่ได้เนาะ แต่ถ้าเล็มทิ้งแล้วบำรุงเรื่อยๆมันจะแตกปลายน้อยลงจริงๆฮะ พอๆเลิกๆทนกะสภาพผมไม่ได้ขอลงออยล์อีกด้านก่อนนะ อันนี้ลงบนผมแห้งเลยจะเห็นว่าไม่ได้ทำให้ผมดูมันแต่ผมจะดูเงาขึ้น และตอนเอามือสางสัมผัสมันแตกต่างจริงๆนะลื่นขึ้นเยอะไม่ค่อยระคายมือละ555 ใส่ทั่วแล้วมาอวดความพลิ้วเป็นไงล่าๆผมดูเง๊าเงาเนอะ  นี่ขนาดเป่าแห้งเฉยๆนะถ้าไดร์จะเรียงเส้นกว่านี้อีก อันนี้ลองเทสใส่กับผมม้วนลอนผมจะนุ่มลื่นและเรียงตัวมากขึ้น แต่ด้วยความที่ผมเค้าค่อนข้างตรงมาก พอใส่ออยล์เลยจะทำให้ลอนคลายตัวนิดนึงฮะ ถ้าใครผมตรงเหมือนกันแนะนำให้ใส่ก่อนทำการม้วนจะเวิร์คกว่า แต่ถ้าคนผมหยักโศกหรือผมแห้งมากๆใส่หลังจัดทรง หรือใส่ระหว่างวันที่รู้สึกว่าผมแห้งๆได้เลยจะช่วยลดการชี้ฟูได้ดีจ้า สรุปว่าเป็นออย์ลูกรักอีกหนึ่งตัวที่ใช้แล้วซื้อซ้ำแน่นอน ใส่แล้วผมหอมม๊ากกก นุ่มลื่นพลิ้วและเบาสบายสมคำเคลมจริงๆ และดีงามที่ราคาด้วยสามร้อยต้นๆเอาอยู่ กดใช้ได้แบบไม่ต้องกลัวเปลือง แต่ในเรื่องการบำรุงผมที่แห้งเสียต้องทำความเข้าใจในระดับนึงเนอะ อย่างผมฟอกสีทำสีมาตลอดแบบเค้าแกนผมโดนเคมีทำลายซ้ำๆหลายรอบ มันไม่สามารถกลับไปเป็นผมแบบก่อนทำสีไม่ได้อยู่แล้ว แต่การบำรุงผมให้ดีด้วยการเลือกใช้แชมพูครีมนวดที่เหมาะกับเส้นผมแล้ว การใช้ออยล์ก็เป็นอีกหนึ่งในเคล็ด(ไม่)ลับที่จะช่วยให้ผมเราดูสุขภาพดีขึ้นได้ฮะ หวังว่าบล็อคนี้จะเป็นประโยชน์กันนะค้า ใครใช้อยู่หรือลองใช้แล้วรู้สึกยังไงก็มาแชร์ให้ฟังกันบ้างน้า ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงด้วยค่า อ๊ะๆอย่าเพิ่งไป อ่านจบแล้วอยากลองกันใช่ม้าๆ Ludido-L ใจดีฝากมาแจกด้วยถึง 10 รางวัล ไปร่วมสนุกกันได้ที่ Facebook : Mhunoiiifanpage ตั้งแต่วันนี้ถึงเที่ยงคืนวันที่ 8 กันยายน 2559 นะคร้าบ ----------------------------------------------------------------------------- Disclaimer : Sponsored Content by LÚCIDO-L ***All opinions are my own Information : https://www.facebook.com/LUCIDO.L.Thailand/   Create Date : 26 สิงหาคม 2559     Last Update : 2 กันยายน 2559 21:45:36 น. Counter : 17143 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Review : PANTENE PRO-V TOTAL DAMAGE 10 Daily Intensive Conditioner กู้ผมเสียให้นุ่มสวย!  ผมแห้งเสีย แตกปลาย ชี้ฟู ขาดง่าย ปัญหาใหญ่กวนใจสาวๆแบบเรา ยิ่งสาวที่ชอบทำเคมีไม่ว่าจะ ยืด ดัด ย้อม ทำสี แน่นอนหนีปัญหาเหล่านี้ไม่พ้น บล็อคเลยมีผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ช่วยจัดการปัญหาผมเสียทั้งหลายทั้งแหล่มาฝากกัน ได้แก่  PANTENE PRO-V TOTAL DAMAGE 10 หลายคนเริ่มรู้สึกคุ้นๆว่า เอ๊ะ!เหมือนเพิ่งเห็นเค้ารีวิวไปในบล็อคก่อนหน้า ใช่แล้วคร้าบบล็อคก่อนหน้าเป็นรีวิวเจาะลึก Pantene Pro-V BB Crème ซึ่งได้อัพเดทแชมพูกับครีมนวด PANTENE PRO-V TOTAL DAMAGE 10 ไปคร่าวๆแล้ว แต่รีวิวนี้มีไอเท็มเด็ดที่เค้าลองแล้วปลาบปลื้มจะเป็นอะไรตามไปชมกันเลยจ้า  คู่ขวัญที่จะรีวิวให้ชมกันก็คือ PANTENE PRO-V TOTAL DAMAGE 10 SHAMPOO และ DAILY INTENSIVE CONDITIONER ----------------------------------------------------------------------------- ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่เหมาะกับผมเสียแบบขั้นสุด ด้วยการเข้าไปช่วยฟื้นฟูเส้นผม หยุดสัญญาณผมเสีย ด้วยคุณประโยชน์ 10 ประการดังนี้ •    ช่วยป้องกันผมแตกปลาย •    ช่วยให้ผมดูแข็งแรงไม่เปราะขาด  •    ผมเรียบลื่น •    รู้สึกผมชุ่มชื้น •    ผมเงางาม •    ผมจัดทรงง่าย  •    ผมไม่พันกัน •    ผมไม่ชี้ฟู  •    ป้องกันผมจากความร้อน •    ผมนุ่ม PANTENE PRO-V TOTAL DAMAGE 10 SHAMPOO ขนาดและราคา 340 มล. 119 บาท , 480 มล.159 บาท , 670 มล. 219 บาท  ----------------------------------------------------------------------------- แชมพูรุ่นล่าสุดนี้มีการปรับสูตรใหม่ ด้วยเทคโนโลยี Karatin Damage Blocker (KDB) ที่ช่วยดูแลและฟื้นฟูเส้นผมจากการถูกทำร้าย และที่เด็ดสังเกตเห็นชัดสุดคือเค้าได้เปลี่ยนกลิ่นใหม่แล้ว เป็นกลิ่นแนวฟรุ้ตตี้แนวหวานๆขนมๆดูกลิ่นในขั้นต่างๆซะก่อน น่ากินซะ! 555 กลิ่นแรก (Top Note): แอ๊ปเปิ้ลแดง สตรอเบอร์รี่ป่า และราสเบอร์รี่ กลิ่นกลาง (Middle Note): พีช ดอกมะลิ และดอกฟรีเชีย กลิ่นพื้นฐาน (Base Note): ขนมหวาน วนิลา และครีมมี่ มัคก์ แชมพูสีขาวมุกเนื้อข้นตีให้เกิดฟองง่าย เมื่อขยี้ไปบนผมให้ฟองที่นุ่ม ระหว่างสระสามารถเอานิ้วสางผมที่พันกันออกได้เลย แต่อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผมแต่ละคนด้วยนะฮะ ผมเค้าไม่ได้เสียมากแค่แห้งปลายสางได้สบายๆ สามารถชะล้างคราบมันบนหนังศีรษะได้ดี สระรอบเดียวความมันก็เกลี้ยงละ หลังสระไม่ทำให้รู้สึกว่าผมฝืดมากไป กลิ่นแชมพูหอมติดผมชัดมากกกก แค่สระผมกลิ่นในห้องน้ำนี่หอมฟุ้งเลย เค้าว่ากลิ่นใหม่สดชื่นดีกลิ่นชัดกว่าเดิมด้วย PANTENE PRO-V TOTAL DAMAGE 10  DAILY INTENSIVE CONDITIONER ขนาดและราคา 180 มล. 129 บาท ----------------------------------------------------------------------------- ครีมนวดผมสูตรเข้มข้นสำหรับผมแห้งเสียมากเป็นพิเศษ โดยสามารถใช้แทนคอนดิชันเนอร์ปกติได้เลย กลิ่นหอมสไตล์ฟรุตตี้ชัดเจนแบบเดียวกับแชมพู ปลายหลอดเป็นหัวบีบแบบหัวบีบครีมแต่งหน้าเค้ก เวลาบีบออกมาจะได้เป็นเกลียวสวยงาม   เปรียบเทียบเนื้อ DAILY INTENSIVE CONDITIONER กับครีมนวดสูตรปกติ จะเห็นว่าเนื้อจะเข้มข้นกว่ามาก บีบออกมาแล้วเป็นเส้นไม่เหลวหรือไหลลงตามมือ เมื่อนวดไปบนผมเปียกหลังสระ เนื้อครีมนวดเข้มข้นเคลือบและยึดเกาะไปบนเส้นผมได้ดี ขณะที่นวดสัมผัสได้เลยว่าผมนุ่มและลื่นขึ้นสามารถเอามือรูดสางผมได้จนสุดปลายไม่มีพันกัน เทคนิคเค้าคือหลังสระบีบผมจนน้ำหยดออกเกือบหมดเอาแบบหมาดๆ แล้วค่อยนวดด้วยครีมนวดเข้มข้นจะทำให้ครีมนวดติดบนเส้นผมได้เต็มที่กว่าผมเปียกๆ นวดโดยเน้นแค่กลางถึงปลายผม เพราะเค้าโคนผมมัน ถ้านวดใกล้โคนผมจะมันไวมาก เน้นนวดๆตรงปลายที่แห้งๆ นวดทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที แล้วล้างน้ำออกจนกว่าจะเกลี้ยงดี การล้างครีมนวดให้เกลี้ยงสำคัญมาก!!! การล้างไม่เกลี้ยงเป็นสาเหตุของสิวได้เลยนะเออ ความรู้สึกหลังทดลองใช้ หลังใช้ทันทีสังเกตว่าแค่เป่าแห้งผมจะเรียบนุ่มลื่นขึ้นมากกก แต่บอกก่อนว่าเค้าเป็นคนผมตรงมากอยู่แล้วเน่อ ที่รู้สึกชัดสุดคือความลื่น นั่งลูบผมตัวเองแล้วฟิน  อันนี้พิสูจน์ด้วยคุณแฟนนางลูบแล้วช่วยคอนเฟิร์มให้ได้555 ตัวนี้ แนะนำให้ใช้สำหรับคนที่ผมแห้งเสียมากๆ เพราะช่วยฟื้นฟูได้ไว แต่ถ้าผมไม่ได้แห้งเสียมากแล้วใช้ตัวนี้ต่อเนื่องติดๆกัน ผมจะทิ้งตัวมากไปทำให้เซ็ตผมยากม้วนผมไม่ค่อยอยู่ เลยใช้จนผมดีขึ้นแล้วสลับใช้กับครีมนวดสูตรปกติผมจะไม่ลีบแบนค่ะ สรุปส่วนตัวเค้าชอบที่ใช้แทนครีมนวดได้เลย เป็นการบำรุงเข้มข้นทุกครั้งที่สระซึ่งง่ายกว่าการใช้มาส์ก ซึ่งต้องใช้ควบคู่กับครีมนวดและนวดทิ้งไว้ ตัวนี้จึงสะดวกกว่า และด้วยลักษณะที่เห็นหลอดจึงบีบใช้สะดวก และพกพาง่าย เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับสาวที่กำลังท้อใจในผมเสีย ที่คุณภาพดี เห็นผลชัดเจนหลังใช้ และราคาไม่สูงเกินเอื้อมค่ะ  สุดท้ายแถมเทคนิคให้ว่าการดูแลผมไม่ยากแค่เลือกผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับสภาพเส้นผม รู้จักปกป้องเส้นผมจากความร้อน ถ้าอยากทำเคมีให้เลือกที่คุณภาพดี บำรุงผมเป็นประจำ เล็มปลายที่แห้งแตกทิ้งบ้างแค่นี้ทุกคนก็มีผมสวยสุขภาพดีได้แล้วจ้า ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้าด้วยคร้าบ  XOXO ---------------------------------------------------------------------------- Disclaimer : Sponsored Content by PANTENE Thailand Information : //www.pantene.co.th https://www.facebook.com/pantenethailand   Create Date : 29 มกราคม 2558     Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2558 2:22:17 น. Counter : 6726 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Review : Pantene Pro-V BB Crème อั๊ยยะ! ตอนนี้เส้นผมก็มีบีบีใช้แล้วนะเออ พูดถึง "BB  Crème" เราก็นึกออกได้แค่เมคอัพชิมิ แต่บล็อคนี้อยากป่าวประกาศมากๆว่าโลกเราล้ำไปเรื่อยๆ เพราะตอนนี้มี บีบีครีมสำหรับใส่ผม แล้วนะฮร้า!!!! กับแบรนด์สุดคุ้นเคย Pantene นั่นเอ๊ง ถ้าอยากรู้ว่าบีบีใส่ผมคืออะไร? ช่วยเรื่องอะไร? ดีงามไหม? บล็อคนี้มิควรพลาดไปชมกันเลยค่า PANTENE PRO-V TOTAL DAMAGE CARE 10 BB CRÈME for Hair แพนทีน โปร-วี โททัล แดมเมจ แคร์ 10 บีบี ครีม --------------------------------------------------- ขนาด 135 ml ราคา 199 บาท  หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป บีบีครีมสำหรับผมขวดนี้แพนทีนเค้าเกิดแรงบันดาลใจจากบีบีครีมที่ใช้ทาหน้านี่หล่ะ ที่ขวดเดียวสารพัดประโยชน์ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นทั้งเมคอัพและบำรุงไปในตัว Pantene จึงได้แรงบันดาลใจ ออกบีบีครีมสำหรับผมที่มีประโยชน์หลากหลาย ไม่ว่าจะช่วยให้ผมสวยงามจัดทรงง่ายพร้อมทั้งบำรุงผมเสียไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูเส้นผมหยุดสัญญาณผมเสีย ด้วยคุณประโยชน์ 10 ประการดังนี้ฮะ •    ช่วยป้องกันผมแตกปลาย •    ช่วยให้ผมดูแข็งแรงไม่เปราะขาด •    ผมเรียบลื่น •    รู้สึกผมชุ่มชื้น •    ผมเงางาม •    ผมจัดทรงง่าย •    ผมไม่พันกัน •    ผมไม่ชี้ฟู •    ป้องกันผมจากความร้อน •    ผมนุ่ม เอาจริงๆมันก็คือ ลีฟออนแบบไม่ต้องล้างออก ที่เป็นทั้ง styling & damage repair benefits โดยสามารถใช้ได้ทั้งตอนผมหมาดๆและผมแห้ง สามารถใช้เติมระหว่างวันได้จ้า รายละเอียดส่วนผสมพร้อมข้อมูลเพิ่มเติมจากทางแบรนด์ •    ไซโคลมีไตโคน (Cyclomethicone) ควอตเตอร์เนียม-80 (Quaternium-80) และโพรพีลีน ไกลโคล (propylene glycol) จับตัวเป็นเนื้อซิลิโคน มอบความนุ่มลื่นและช่วยควบคุมการชี้ฟูของเส้นผม •    เคชันนิค เซอร์เฟซแทนท์ (Cationic Surfactants) และ แอลกอฮอล์ไขมัน (Fatty Alcohols) ช่วยให้ผมอยู่ตัว ไม่ชี้ฟู อย่างมีประสิทธิภาพ •    ควอตเตอร์เนียม-80 (Quaternium-80) สารปรับสภาพผมที่ได้จากน้ำมันมะพร้าว และวิตามินที่ต้องพบในแพนทีนเลยก็คือ "Panthenol และ Panthenyl Ethyl Ether" หรือโปรวิตามินบี 5 นั่นเอง ขาดไม่ได้เลยเพราะนี่คือที่มาของชื่อแบรนด์นะฮร้า ซึ่งเป็นวิตามินที่ช่วยให้เส้นผมแข็งแรงมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น แถมปิดห้อยท้ายมาด้วยวิตามินอี Tocopheryl acetate ซึ่งช่วยเรื่องความชุ่มชื่นเช่นกัน เจ้าบีบีครีมนี้จะอยู่ในไลน์ของ PANTENE PRO-V TOTAL DAMAGE 10 เป็นไลน์ที่ได้รับความนิยมเพราะช่วยแก้ปัญหาผมเสียให้สาวๆมาแสนนาน โดยเฉพาะสาวๆที่ปัญหาผมแตกปลาย ถือว่าออกแบบมาเพื่อสาวผมเสียจริงๆ ซึ่งตอนนี้เค้าได้ทำการปรับสูตรใหม่แล้วนะฮะ อัพเดทเวอร์ชั่นเรียบร้อย อิอิ ไม่ใช่แค่การเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุง แต่เค้าได้ทำการ "ปรับกลิ่น" ใหม่เลยด้วย! นี่แอบลุ้นนะเพราะเค้าเคยใช้แพนทีนมาแล้วแทบทุกรุ่น กลิ่นดั้งเดิมเค้ามันออริจิเป็นเอกลักษณ์มาก อยากรู้เลยว่ากลิ่นใหม่จะเป็นไง ก่อนจะไปลองเล่นบีบีครีมขอเคลียร์สภาพหัวเรื่องความสะอาดนิดนึงนะฮะ555 ถ่ายรีวิวได้จังหวะผมไม่สระมาสามวันพอดี จัดไปค่ะลองแพนทีนโปรวีสูตรใหม่ไปเลย ว่ากันด้วยเรื่องกลิ่นที่เค้าเพิ่งเปลี่ยนใหม่กันก่อน สำหรับเค้าถ้าเทียบกับกลิ่นเดิมกลิ่นใหม่ดูวัยสะรุ่นกว่านะ อิอิ เป็นกลิ่นแนวขนมๆเหมือนเยลลี่ฟรุตตี้อะไรประมาณนั้น รายละเอียดที่ทางแบรนด์ให้มาเฮ้ยเริ่ดค่ะเหมือนน้ำหอมเลยคือ มีการแบ่งเป็นกลิ่น Top / Middle / Base Note เลยนะ ---------------------------------------------------------------------- กลิ่นแรก (Top Note): แอ๊ปเปิ้ลแดง สตรอเบอร์รี่ป่า และราสเบอร์รี่ กลิ่นกลาง (Middle Note): พีช ดอกมะลิ และดอกฟรีเชีย กลิ่นพื้นฐาน (Base Note): ขนมหวาน วนิลา และครีมมี่ มัคก์ ---------------------------------------------------------------------- จมูกยังไม่เพี้ยนบอกแล้วเป็นกลิ่นแนวขนมใช่จริงๆด้วยใช้แล้วรู้สึกหิวของหวาน555 ซึ่งกลิ่นใหม่นี้ไม่ใช่เปลี่ยนแต่เค้ายังทำให้กลิ่นมันชัดและติดทนขึ้นด้วย สระผมลงครีมนวดทีหอมทั้งห้องน้ำเลย ดมจากขวดไม่เท่าไหร่ แต่ตอนเอามาแชมพูมาสระเอาครีมนวดมานวดลงบนผมคือกลิ่นชัดมาก แม้ล้างน้ำออกหมดแล้วดมได้เลยกลิ่นจะติดที่ผมแม้หลังการเป่าแห้ง แบรนด์บอกมาว่าถึงขั้นหอมติดหมอนด้วยนะ แต่ของเค้าหมอนมันเน่าเลยดมแยกกลิ่นลำบากนิดนึง กร๊ากกกกอายจุง เรื่องกลิ่นถือเป็นความชอบส่วนบุคคนเนอะเค้าเองชอบกลิ่นใหม่ ชอบตรงความเฟรชเวลาสระและกลิ่นที่ติดผมได้ยาวนานขึ้นจ้า ทำการสระผมใส่ครีมนวดเรียบร้อย ฟองแชมพูสูตรใหม่จะไม่ฟ่อดมาก ปริมาณฟองเบาๆล้างออกง่ายเค้าว่าสูตรนี้ล้างแล้วรู้สึกสะอาดดี ครีมนวดเข้มข้นเหมือนเดิม นวดแล้วผมนุ่มขึ้นจริงๆกลิ่นติดผมมากกกก เค้าเองเป็นคนโคนผมมันปลายผมแห้งจากการทำเคมีบ่อยๆ เวลาใส่ครีมนวดจะเน้นกลางถึงปลายผมไม่ไปยุ่งกะโคนฮะ ขนาดและราคาแชมพู 340 มล. 119 บาท , 480 มล.159 บาท , 670 มล. 219 บาท ขนาดและราคาครีมนวด 335 มล. 119   บาท , 480 มล. 159  บาท , 670 มล. 219 ส่วน BB Crème สำหรับผมขวดเป็นพลาสติกสีขาวทึบแสง มีหัวปั๊ม ใช้งานง่าย เนื้อผลิตภัณฑ์ไม่สัมผัสกับอากาศให้เสื่อมสภาพนะจ๊ะ ไซส์ใหญ่เบิ้มขนาด 135ml ถ้าอนาคตทำขนาดไซส์พกพาออกมาด้วยจะเริ่ดมาก ลักษณะเนื้อบีบีเป็นสีขุ่นๆเนื้อเหลวซึมเข้าเส้นผมดีมากกกก เทสทั้งผมเปียกและแห้งซึมไวไม่ต่างกันที่ปลื้มคือไม่ทำให้รู้สึกเหนะหนะ เพราะเค้าเป็นเนื้อแบบ Water-Based ซึ่งเค้าชอบมากตรงที่ หลังทาให้ซึมลงผมหมดที่มือไม่เหลือความมันความเหนอะนี่แหละ เชื่อว่าหลายคนเป็นเหมือนกันบางทีใส่ลีฟออนบำรุงผมเสร็จ ต้องหาที่ล้างมือเพราะมันจะหนึบๆมันๆบนมือเป็นอะไรที่น่ารำคาญเนอะ ส่วนกลิ่นเป็นแนวฟรุตตี้แบบเดียวกับแชมพูครีมนวดแต่ในบีบีกลิ่นจะบางเบากว่า อ้อและหลายคนอาจงงว่าจะปรับสีเหมือนบีบีสำหรับผิวหรือเปล่า Pantene BB crème เค้าไม่มีส่วนผสมของสารย้อมสีจึงซึมได้ดี และไม่ปกปิดสีผมเรา และขอบอกว่าผลิตภัณฑ์นี้นำเข้ามาจากฝรั่งเศสนะฮะ หลังสระเช็ดผมหมาดๆก็เอาบีบีครีมกดมาพอประมาณตามความยาวผม เค้าผมยาวใช้เองประมาณ 2-3 ปั๊ม นวดๆเข้าไปช่วงกลางถึงปลายผม ลงบีบีครีมเรียบร้อยก็ทำการเป่าให้แห้ง ขั้นตอนนี้แนะนำนะเพราะผมที่ยังหมาดจะได้ซึมซาบการบำรุงได้ดีกว่า และบีบียังช่วยปกป้องเส้นผมจากการโดนความร้อนไม่ว่าจากไดร์  ที่รีด ที่ม้วน ได้ด้วย ทุกขั้นตอนที่ผมต้องสัมผัสความร้อนนี่ตัวการทำผมเสียชั้นดีเลย บำรุงก่อนเพื่อป้องกัน ไม่ใช่โดนความร้อนจนแห้งเสียแล้วค่อยมาทาบำรุงนะจ๊ะ เค้าโชคดีเป็นคนผมตรงธรรมชาติไม่ต้องไดร์ผมแค่เป่าแห้งผมก็ตรงเป๊ะได้ ซึ่งเค้ามีเทคนิคที่ได้จากช่างผมหลายท่านมาอยู่ทริกนึง ถ้าอยากเป่าผมให้เรียบลื่นสวยเรียงเส้นและทำให้ผมเสียน้อยสุด คือการใส่ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมตอนผมหมาดแล้วทำการเป่าในทิศทางชี้ลง จากโคนจรดปลายเป่าแบบให้ลมร้อนผ่านผิวเส้นผมด้านนอก การเป่าแบบคว่ำไดร์แบบนี้จะทำให้เกล็ดผมไม่กระเจิงเหมือนที่เราเป่าย้อนขึ้นลงไปมา ดีกว่าการจ่อไดร์เข้าหาเส้นผมโดยตรงมากกกก อันนั้นผมโดนทำร้านเต็มๆนะ และหลังเป่าลมร้อนให้ปิดท้ายด้วยลมเย็นเสมอเพื่อปิดเกล็ดผม หลังเป่าแห้งผมสังเกตได้เลยผมจะเรียบลื่นขึ้น ไปลองใช้วิธีนี้กันดูน้า หลังเป่าแห้งหรือระหว่างวันที่รู้สึกว่าผมแห้งขึ้น สามารถชโลมบีบีครีมลงไปซ้ำได้เลยเอาว่าบ่อยตามต้องการ แม้จะนวดลงบนผมแห้งก็สามารถซึมได้ไวไม่เหนอะ ไม่เชื่อต้องลองๆ แต่ถ้าใครม้วนผมด้วยแกนไอรอนระหว่างวันถ้าเติมบ่อยไป ผมจะได้รับความชุ่มชื่นมาลอนผมจะเหี่ยวไวขึ้นนะฮะอันนี้เตือนไว้ก่อน ท๊าดา....สภาพเส้นผมหลังใช้ PANTENE PRO-V TOTAL DAMAGE CARE 10 ครบเซ็ต แชมพู ครีมนวด และบีบี (ลงสองรอตอนผมหมาดและผมแห้ง) ผมขึ้นเงาฟรุ้งฟริ้งสวยงาม ปลายที่แห้งดีขึ้นแต่ก็ไม่หายไปหมด แหม่กว่าจะเสียทำเคมีตั้งมาก ไอ้ปลายที่พังแล้วมันกู้คือมิรอดนะจ๊ะ แนะนำว่าเล็มๆปลายผมออกไปบ้างแล้วบำรุงต่อเนื่องผมก็จะกลับมาสวยงามได้ดังเดิมเน่อ อวดความพลิ้วไหวของเส้นผมแม้จะเป็นผมตรงมากถึงมากที่สุด แต่ใช้แบบครบขั้นตอนก็ไม่ทำให้ผมหนักเกินไป It's Amazing! อยากจะพูดด้วยน้ำเสียงญาญ่า555 กลิ่นหอมติดผมได้ใจเอาว่าเดินผ่านคนข้างๆได้กลิ่น อิอิ สรุป......เค้าชอบตรงเนื้อสัมผัสที่บางเบาแต่ช่วยให้ผมชุ่มขึ้นโดยไม่ทิ้งความเหนะหนะ แต่อย่างไรก็ตามใครโคนมันง่ายแบบเค้าเวลาบำรุงผมใดๆเลี่ยงโคนไว้ก็ดีฮะ หลังทาบีบีครีมลงไปผมจะนุ่มลื่นขึ้นทันตาดี จากสางลำบากมันจะสางปรื้ดๆได้ง่ายขึ้น และสุดท้ายคือโดนใจตรงราคา 555 ราคาน่าคบกดใช้บ่อยๆได้ไม่เสียดายกะตัง เย่! --------------------------------------------------------------------------------------- ขอบคุณ PANTENE THAILAND มากนะค้า มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆส่งมาให้ได้ลองก่อนตลอดเลย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถไปชมหรือสอบถามได้ที่ //www.pantene.co.th https://www.facebook.com/pantenethailand ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้าด้วยคร้าบ   Create Date : 15 ตุลาคม 2557     Last Update : 27 ตุลาคม 2557 1:07:16 น. Counter : 8883 Pageviews.   1 comment Share Tweet