"แมงเม่าของเมื่อวันวาน คือ เซียนหุ้นของพรุ่งนี้"
Group Blog
 
All Blogs
 
คุ้ยหาอดีต เพื่ออัดฉีดปัจจุบัน ภาค 2 ตามคำขอคุณ S - Sung

เมื่อวานหมอเอสซุง
ถามถึงเหตุการณ์หลังบิ๊กจิ๊วลดค่าเงิน
แล้วหุ้นรุ่งริ่ง เอ๊ยซีลลิ่งสามวันซ้อน
ผมลองไปคุ้ยๆดูเมื่อคืน
เจอไอ้เจ้าตัวที่ผมบอกไว้ว่า

ขึ้นจาก 10 สตางค์ ไปสูงสุดที่ 50 บาท ?????
ผมว่า ช่วงขึ้นช่วงนั้นเป็นฝีมือเฮดจ์ฟันด์
ที่มีพวกเซียนไต้หวัน ฮ่องกงเข้าผสมโรง
คือเงินของพวกเขาใหญ่ขึ้นเกือบห้าสิบเปอร์เซนต์ในทันที
คงกะจะดูดอีกรอบให้เงินเกลี้ยงประเทศไทยเลย

ที่ผมต้องร้องไห้ทั้งๆที่มีวอร์แรนท์ที่ขึ้นไป
น่าจะสี่ร้อยกว่าเท่า ก็เพราะว่า

ดันมีอยู่แค่ ๒๕๐ หน่วย ตามที่เขาไล่แจกให้
หลังติดดอยเอเวอร์เรสต์หุ้น spl ห้าร้อยหุ้น

เหตุที่ถือทนมาได้จาก จากสิบสตางค์จนถึงสามสิบกว่าบาท
ไม่ใช่เพราะเก่ง กล้าทนถือหรอก
ที่จริงก็คือ ลืมไปเลยว่ามีมันอยู่
ตอนมันเหลือสิบสตางค์
คิดดูแล้ว
ซื้อก๋วยเตี๋ยวได้ชามหนึ่งพอดี ฮาๆๆๆ
ก็เลยลืมมันไปเลย
มาดูอีกที เว้ยเฮ้ย มันขึ้นไปห้าเหวอะไรของมันวะ
สิบสตางค์ เป็นสามสิบกว่าบาท
จะเก็บไว้ทำซากอะไร
ก็เลยขาย หักกลบลบดอยตัวแม่แล้ว
ยังเหลือกำไรมาอีกนิดหน่อย ฮาๆๆ

บางทีผมก็ตามเล่นกับ"ไฟ"เหมือนกัน แต่แค่สนุกๆ
จะได้ไม่เบื่อเวลาติดตามหุ้นที่ตัวเองถือเป็นส่วนใหญ่
ซึ่งไม่ค่อยมีสภาพคล่องคอเลย

ตอนนั้น จำได้ว่า ได้แต่น้ำลายไหล
กัดฟัน ตามดูตาปริบๆ ทุกวัน
แต่ก็ไม่ได้ตามเข้าไปเล่น
เพราะมองไม่เห็นเหตุผลว่า
มันจะขึ้นไปได้ไง คัทลอสก็ไม่เป็น
ติดขึ้นมา ก็ตายหยังเขียด

คนคำนวณหรือจะสู้ฟ้าลิขิตจริงๆ
แต่ก่อนที่ฟ้าจะลิขิต ก็ต้องมีคนคำนวณมันมาก่อนฟ้า
ผมเคยอ่านเจอเมื่อสามสี่ปีก่อน
มีนักลงทุนท่านหนึ่ง ใจถึงกล้าวัดดวงคิงคอง
ว่าจะโดนปิดหรือเปล่า
ซื้อไว้ล้านหุ้นที่หุ้นละ 1 บาท
บังเอิญต้องไปต่างประเทศนานหลายเดือน
เลยไม่เคยติดตามดู
กลับมาเห็นราคาหุ้นคิงคองอีกที
ต้องตบหน้าตัวเองไปหลายๆครั้ง
ให้รู้ตัวว่า ไม่ได้ฝันไป แล้วก็ขายล้างบาง
กำไรไปแค่เจ็ดสิบเท่าตัว
นี่ผมโพสไป ยังนึกอิจฉาไปไม่หายเลย ฮาๆๆ

อ้อ ผมเริ่มต้นทะยอยสะสมหุ้นตัวบนในภาพ
ตอนนั้นยังตั้งซื้อได้ มีคนเคาะขายให้ตลอด
มาถึงทุกวันนี้
น้ำจิ้มจากหุ้นตัวนี้
ท่วมราคาหุ้นไปเรียบร้อยแล้ว ฮาๆๆๆ



ผมมีความเห็นว่า
นักลงทุนทุกคน

ต้องค้นหาตัวเองให้ได้ว่า
เหมาะกับการเล่นหุ้นวิธีไหน

ผมไม่เคยชื่อว่า มีวิธีการเล่นหุ้นวิธีไหน
จะเหมาะกับจริตและนิสัย
ของคนทุกคนได้

ถ้าสมมติให้การเล่นหุ้นเป็นการเล่นเก้าเก
ถ้าผมอ่านไต๋คู่ต่อสู้ไม่ได้
ผมก็จะประเมินค่าไพ่ตัวเองให้ออก
ถ้าถือตองคิงอยู่ หมอบให้โง่ซิ

ตอนคนขาย tnl
ที่ราคาต่ำกว่าพาร์สิบบาท(ตอนนี้พาร์หนึ่งบาท)
ผมลองอ่านค่าไพ่ตัวเองแล้ว
ถึงไม่รู้ไพ่คนที่ทิ้ง ธนูลักษณ์
ผมก็กล้าตาม เพราะมองไม่เห็นเหตุผลเลยว่า
บริษัทจะเจ๊งได้ไง
ที่ขาดทุนมหาศาลเป็นสิบบาทต่อหุ้น
เกิดจากลดค่าเงินบาทล้วนๆ
ปีต่อมา ธนูลักษณ์ประกาศผลกำไร สิบสองบาทต่อหุ้น !!!!!!

ใครบอกว่าอย่าซื้อเฉลี่ยหุ้นขาลง
ผมไม่เคยเชื่อเลย
ผมจะกัดฟันรอ รอ รอ เฉลี่ยขาลง
เมื่อเขาขายให้
ในราคาส่วนลดจากสินทรัพย์ที่มีอยู่จริงๆมากกว่าครึ่ง

ธนูลักษณ์ ห้าร้อยสุดท้าย
ได้ขายทิ้งไปที่ ร้อยยี่สิบบาท ก่อนแตกเป็นพาร์หนึ่งบาท
ความมหัศจรรย์ของหุ้นดี
มันท่วมมูลค่าศูนย์ของหุ้นเน่าจริงๆ
ไม่ได้โม้ ฮาๆๆๆ



อันนี้ผมตามสุดยอดเซียนเหนือเซียนที่เก็บตัวเงียบๆ
ท่านเจ้าสัวเก็บหุ้นตัวนี้ที่ราคา
ห้าถึงสิบบาทจากพาร์สิบบาท
แล้วเอาไปขายให้ ICC ที่สิบสามบาทจากพาร์หนึ่งบาท
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ลืมลบข้อมูลบางอันทิ้ง
ขอลบออกก่อน

ความคิดเห็นที่ สอง ขอใช้ภาพนี้แทน



จากคุณ : คลาย เครียด - [ 1 เม.ย. 48 10:06:54 ]

ขอบคุณครับ เฮีย

เฮีย มี หุ้น ห่านทองคำ มากมาย เลยครับ

สุดยอด ๆ ครับ นับถือ

จากคุณ : samsam - [ 1 เม.ย. 48 10:11:39 ]

คุณแซมมี่
ผมเชื่อว่า เราจะต้องรู้เราให้ได้ก่อน
สำคัญที่สุด สำคัญกว่ารู้เขาด้วย
เล่นหุ้นมานานๆ
ในที่สุดผมก็ยอมรับกับตัวเองว่า
เป็นได้แค่มนุษย์หุ้นเท่านั้น
ไม่มีความสามารถจะเป็นเซียนหุ้นแม้แต่นิดเดียว
พอรู้เรา
ก็เลยไม่กล้าทำแบบเซียนหุ้น
ที่โลภได้ไม่จำกัด ยิ่งโลภก็ยิ่งได้

บางคนอาจจะแปลกใจ
ถามอะไร ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเลย
ไม่ว่าจะถามเรื่องปัจจัยพื้นฐาน หรือเท็คนิค
แต่ทำไมถึงอยู่ได้ ?????

ความจริงแล้ว
หุ้นมันมีวัฏจักรรอบใหญ่ๆอยู่เสมอ
ถ้าสะสมเงินได้ในช่วงวัฏจักรขาขึ้นใหญ่ของหุ้น
แบบแรงกรรมแห่งความโลภและความกลัวของตลาดฯพาไป
หรือแรงกรรมของผลประกอบการพาไป ก็ตาม

ถ้าเราบริหารความโลภให้กับเงินที่ได้มา ให้ดีๆ
อย่ายอมให้มันหายไปในช่วงวัฏจักรขาลงใหญ่
แค่นี้เราก็อยู่ได้ตลอดกาลในตลาดหุ้น
นอกจากว่าไทยจะเป็นอาร์เจนติน่า
ก็ตัวใครตัวมัน ฮาๆๆๆ

สำหรับสำนักเท็มเปิ้ลบ๊อกซิ่ง
รู้เขา ยังสำคัญน้อยกว่ารู้เรามาก

"รู้เขา รู้ยังไงก็รู้ไม่จริงร้อยเปอร์เซนต์
แต่รู้เรา เรารู้ได้แน่นอน
ถ้ารู้เราไม่ได้
ก็อย่าเล่นหุ้นเลยว่ะ
กลับไปเป็นชาวเกาะดีกว่า ฮาๆๆ

จากคุณ : คลาย เครียด - [ 1 เม.ย. 48 10:24:47 ]

ดีครับ มาแอบตามอ่านประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของชาวเรา หุ หุ หุ

อ่านข้อคิดของเฮียคลาย เครียด ทีไร อดนิยมไม่ได้ทุกที เฮียมีสิ่งหนึ่งที่เป็นข้อคิดให้ทุกคนควรจะปฏิบัติตามครับ

นั่น ก็ คือ วินัย หรือภาษาฝรั่งว่า Discipline ซึ่งจริง ๆ แล้วจะใช้คำว่า วินัย อย่างเดียวไม่พอจริง ๆ เพราะว่า จริงแล้ว Discipline ที่เฮียมีอยู่ถือว่าเป็น Professional Discipline ถ้าแปลตรง ๆ เรียกว่า วินัยของความเป็นมืออาชีพ

กล่าว คือ ภาษาไทย ฟังดูแล้วเหมือนจะเป็นอะไรที่เป็นทางก๊านน ทางการ แต่จริง ๆ แล้ว มันไม่ได้ทางการอย่างนั้นนะครับ (ผมรู้ว่าเฮียแอบจะท้วงว่าตัวเองเป็นแค่มนุษย์หุ้น ไม่ใช่มืออาชีพ) แต่ที่ผมจะบอก คือ เฮียมีความรับผิดชอบในตัวเอง หรือสิ่งที่ตัวเองรับผิดชอบสูงมาก (ในที่นี้คือ การลงทุน) ต้องใช้เวลาอย่างมากในการควบคุมตัวเองว่า ตัวนี้ซื้อ รอ ขาย ไม่ซื้อ เพื่อที่จะไม่รอ อะไรอย่างนี้หน่ะครับ ซึ่งคนส่วนมากชอบปล่อยให้เป็นไปตาม "แรงกรรมแห่งความโลภและความกลัว" ที่เฮียนิยามขึ้นมา

ประกอบกับการที่เฮียสร้างบรรทัดฐานให้ตัวเอง (หลังจากผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ) ว่า เราจะเดินตามเส้นนี้ (Line) นั่นเอง ทำให้การลงทุนของเฮียสามารถหลุดออกจากตลาดนี้ได้ แต่มากที่สุดคือ สู้กับตัวเอง และแนวทางการลงทุน ภายใต้ข้อจำกัด คือ เงินลงทุน กะความรับผิดชอบต่อครอบครัว

นับถือจริง ๆ ครับ อยากให้พวกเราทำได้อย่างเฮียได้บ้างสักนิดก็ยัง (หมายถึงแมงเม่ารุ่นใหม่อย่างผมนะครับ) คือ หาแนวทางที่ดีที่สุด (ที่ทำกำไรสูงสุดหลักจากหักการขาดทุนไปแล้วนะ) ให้กับตัวเอง แล้วเดินตามแบบแผนนั้น (แต่ผมว่าหลายคนก็หาเจอแล้วแหล่ะ แต่ผมยัง)

ดังนั้น ขอเรียนรู้ต่อไปนะครับ นับถือ นับถือ

จากคุณ : Bo@Home - [ 1 เม.ย. 48 11:00:58 ]

คุณโบ้
คนที่เป็นเซียนหุ้นได้
ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะตัวจริงๆ
ที่คนอื่นๆไม่มีทางมีได้ครับ
ไม่ว่าจะฝึกยังไงก็ไม่มี

ในโลกนี้มีมาราดอนน่า เปเล่ ซีดานได้แค่คนเดียว
ส่วนคนอื่น อย่างเก่งก็เตะหาเงินไปตามฝีมือตัวเอง
ซึ่งก็ถือว่าพอเลี้ยงชีพได้
ถ้าฝืมือแค่เล่นทีมปาหัง
มัวแต่ฝันเฟื่องว่าจะได้เล่นแมนยูฯ
ผมว่า ต้องรอชาติหน้าตอนบ่ายๆ
สำหรับผม ก็พอใจเล่นให้ทีมปาหัง
ส่วนใครมีความสามารถจะเล่นให้แมนยู
ก็เป็นเรื่องความสามารถเฉพาะตัวจริงๆ

อ้อ ถ้าฝีมือตกชั้นเล่นให้ทีมปาหังไม่ได้
เราก็ต้องยอมเล่นฟุตบอลสโมสร ถ้วย ก. ฮาๆๆๆ

วอร์แรนท์ที่ผมยกมาให้ดู
ทำให้ผมเชื่อว่า
คุณมัดลีย์กรุ๊ป สามารถทำเงินจากสี่หมื่นเป็นสิบล้าน
ในเวลาแค่สี่ปี
เป็นความสามารถส่วนตัว
ที่มีเพียงบางคนเท่านั้นที่จะทำได้
ผมยังไม่เคยทำได้เลย

จากคุณ : คลาย เครียด - [ 1 เม.ย. 48 11:18:24 ]

ครับเฮียผมเองก็เลิกหวังที่จะเล่น แชมป์เปี้ยนลีก แล้วครับ กลับมาเป็นกองเชียร์ ตอดเล็กตอดน้อย แล้วไปทำสิ่งที่เราถนัดจริง ๆ ดีกว่าครับ หุ หุ หุ

แต่ยังไงก็นับถือจริง ๆ นะ จา บอก ห้ายยย

ผมยังไงก็ไม่ใช่เซียน
แล้วคงไม่ใช่เซียนตลอดไป

แต่แอบหวัง จะมีบริษัทฯในตลาดกะเค้าบ้างเหมือนกัน

มีเมื่อไหร่ จะแอบมาแจกหุ้น ระดับพรีเมียร์ลีกให้พวกพี่ ๆ ในนี้จริง ๆ ด้วยนะ(ควันหลงวันลวงโลก ฮา)

จากคุณ : Bo@Home - [ 1 เม.ย. 48 11:19:38 ]

ช่วงนั้นเจ้า KK เหลือ 1 บาท
มีข่าวว่าจะถูกปิดกิจการ
แต่ดันรอดตัวออกมาได้ (ได้ข่าวว่าเส้นใหญ่)
ขนาดตัวใหญ่ๆ อย่าง CMIC, GF ยังไม่รอดเลย
SPL ก็ 1 บาทกว่ามั้ง

จากคุณ : S-sung - [ 1 เม.ย. 48 12:51:25 ]

หมอเอสซุง
ตอนนั้นมีรอดแค่สองบริษัทครับ
คิงคอง กับบางกอกอินเวสท์เม้นท์
บางกอกอินเวสท์เม้นท์
ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นเอไอจีไฟแนนซ์
ถอนตัวออกจากตลาดไปหลายปีแล้ว
ผมยังเหลือใบหุ้นเก็บไว้ดูเล่นเหมือนกัน
แต่ตัวนี้ผมเล่นแล้ว ผลโดยรวมยังกำไรอยู่
แม้จะมีของที่ระลึกเหลือเป็นวอลเปเปอร์ก็ตาม ฮาๆๆ
คนที่ทำงานในสองบริษัทนี้
คืนวันก่อน ที่ทางการประกาศผลให้อยู่ต่อหรือไม่
พนักงานนอนไม่หลับไปตามๆกัน

คนรู้จักกันมาสิบห้า สิบหกปีใน bic
บอกว่า นาทีชี้เป็นชี้ตาย
ตอนกระทรวงการคลัง ประกาศให้เปิดกิจการต่อ
พนักงานบางคนร้องไห้ออกมาทันทีที่รู้ผล
ที่คิงคองมีการเปิดแชมเปญในบริษัท

เวลาผ่านไปเร็วเหมือนติดปีก
เผลอปั๊บเดียว คนไทยลืมหมดแล้วว่า
ชีวิตเคยลำบากมายังไง เมื่อหกเจ็ดปีก่อน
บัตรเครดิตรูดกันสนุกสนาน
เปลี่ยนมือถือ เปลี่ยนรถกันเป็นว่าเล่น
เดือนที่แล้ว ใช้ไฟฟ้าสูงสุดตั้งแต่ตั้งประเทศไทยมา
โดยที่ภาคการผลิตไม่ได้เติบโตตามการใช้ไฟฟ้า

เผลอบ่นตามประสา คนไม่เคยเปลี่ยนมือถือมาสามปีแล้ว

เรื่องวิธีคลายความเครียดที่คุณดับเบิ้ลเอ็มถามมา
ผมลองนึกย้อนหลังดู
ผมใช้วิธีนอนหรือนั่งเฉยๆ เป็นวันๆ

บังเอิญตอนวัยเด็ก จนวัยเริ่มจะรุ่น
ผมมีโรคประจำตัวที่แปลกประหลาดคือ
เวลาไม่สบาย
จะต้องอาเจียรตั้งแต่เช้าจรดดึก
โดยที่ไม่มียาอะไรช่วยได้เลย
แม้แต่ยานอนหลับก็ช่วยไม่ได้
ดังนั้นตั้งแต่เช้าจรดดึก
ผมจะต้องนอนทรมานอยู่เฉยๆทั้งวัน
เพื่อรอเวลาจะลุกขึ้นมาอาเจียรรอบต่อไป
เพื่อให้หายอึดอัด
อาเจียรเสร็จก็นอนต่อ รออาเจียรรอบใหม่
จะต้องอาเจียรอยู่ไม่น้อยกว่าหกเจ็ดครั้งขึ้นไป
จนอาเจียรออกมาเป็นน้ำย่อยในกระเพาะ
แล้วก็หายป่วยไปเอง
มันก็เลยกลายเป็นว่า
ผมใช้วิธีนั่งหรือนอนเฉยๆ
เป็นวิธีคลายเครียดไปอย่างไม่รู้ตัว
เพื่อรอวันเวลาที่แสนทรมาน ให้ผ่านพ้นไปเอง
ผมโชคดีมากๆ ที่ไม่เคยคิดจะใช้เหล้าดับความทุกข์

กาลเวลามันจะช่วยเยียวยาทุกอย่าง
คนที่เคยจะเป็นจะตายเพราะแฟนทิ้ง
บางคน พอผ่านไปนานๆ
หวนกลับไปคิดถึงตอนนั้น
ยังต้องนึกหัวเราะตัวเอง
ไม่เชื่อก็ลองถามคุณแอน แอ่นแอ้นดู ฮาๆๆๆ

ขอชื่นชมวิธีคลายเครียดของคุณดับเบิ้ลเอ็มครับ
เป็นทางออกที่ดีมากๆเลย
ได้ทั้งกุศล ได้ทั้งสมาธิ
สำหรับผม ระยะหลังๆ(ก่อนแต่งงาน) เริ่มเหลวไหล
คลายเครียดด้วยวิธีที่ไม่มีทางหายเครียดได้จริงๆ
ก็ไปตามสถานที่ที่เสี่ยฟิชชี่ชอบไปนั่นแหละครับ
แต่ก็ได้เห็นอีกแง่มุมมืดของสังคม
เอามาใช้กับหุ้นก็คงพอได้
คือไม่มีใครจะจริงใจกับเราหรอก
มีแต่คนที่จริงใจกับเงินของเราเท่านั้น
คนที่จริงใจกับเรา ก็คือคนที่ไม่สนใจกับเงินของเรา
หุ้นส่วนชีวิตที่ผมเคาะซื้อมาได้
จึงเป็นหุ้นตัวที่สำคัญมากที่สุดจริงๆ ฮาๆๆๆ

จากคุณ : คลาย เครียด - [ 1 เม.ย. 48 14:34:04 ]


Create Date : 26 กรกฎาคม 2548
Last Update : 26 กรกฎาคม 2548 14:30:57 น. 0 comments
Counter : 944 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมากเขียว
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




สวัสดีครับทุกท่าน...ผมหมากเขียวแห่งสินธร...จาก Head of Prop Trade สู่ Private Trader อิสรภาพที่รอคอย



สงวนลิขสิทธิ์ © พ.ศ.2553 โดย หมากเขียว™ ห้ามลอกเลียน ทำซ้ำ หรือคัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความที่เขียนโดยข้าพเจ้านอกจากจะได้รับอนุญาต

Copyright © 2010.All rights reserved. These articles and photos may not be copied, printed or reproduced in any way without prior written permission of Mhakkeaw™.
Friends' blogs
[Add หมากเขียว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.