"แมงเม่าของเมื่อวันวาน คือ เซียนหุ้นของพรุ่งนี้"
Group Blog
 
All Blogs
 
ข้าพเจ้ามาลองคิดๆดู....เจ้าหอปิซ่าคนรู้จักทั่วโลกเพราะว่า....

เมื่อวานนี้ข้าพเจ้าได้ไปดูหนังระดับมหากาพย์
"KINGDOM OF HEAVEN"
หนังสนุกมาก ทำให้นึกย้อนไปถึงปลายยุคมืดของยุโรป
ซึ่งเป็นยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา หรือเรเนอซองส์
และแล้วข้าพเจ้าก็นึกต่อไปถึง
หอเอนแห่งเมืองปิซ่าแบบกลอนพาไป
ข้าพเจ้าเลยมานั่งคิดเล่นๆ แบบชวนทะเลาะ เอ๊ยชวนติงต๊องว่า
หอเอนปิซ่าดังไปทั่วโลก จนถึงปัจจุบันนี้เพราะว่า

๑ กาลิเลโอขึ้นไปทดสอบ
ความเร็วในการตกสู่พื้นของวัตถุ
ซึ่งค้านกับความเชื่อของอริสโตเดิ้ล คนเลยรู้จักหอเอนปิซ่า

หรือว่า

๒ เพราะมันเอน ถ้ามันไม่เอน ป่านนี้คนทั่วโลกคงไม่รู้จัก
เคยอ่านเจอในขายหัวเราะ ?
ผู้รับเหมาสร้างหอเอนปิซ่า
โกงกินวัสดุ รากฐานของหอเลยไม่แข็งแรง
หอเลยเอียงจากการโกงกิน
พอหอเอียง คนก็เลยรู้สึกว่าแปลกๆน่าสนใจ
ซึ่งเป็นความดีเพียงประการเดียว
ของนักปั่นหุ้น เอ๊ยช่างรับเหมาสร้างหอเอน ฮาๆๆๆ

ข้าพเจ้ามาลองคิดๆดูให้มันเกี่ยวกับหุ้น

เรารู้จักหุ้นตัวนั้น เพราะว่า
นักวิเคราะห์ทำตัวเป็นกาลิเลโอ ทำการทดสอบหุ้นให้เราดู
เราเลยสนใจ
หรือว่า
เพราะราคามันเอนกันแน่หว่า
เราเลยสนใจมัน ฮาๆๆๆ

ถ้าพี่'จารย์แอนดี้และพี่'จารย์ท่านอื่นๆ จะช่วยต่อยอดความเอน
ข้าพเจ้าก็จะขอบคุณมากๆ



จากคุณ : endophine - [ 6 พ.ค. 48 08:45:19 ]

5555 เพราะมันแปลกแตกต่างนะครับ พี่เอ็นโด
เทียบกับหุ้น ถ้าราคายืนราคาเดียวซัก10ปี คนเห็นหรือซื้อพอสัมผัสไปนานๆก็ลืม แต่ถ้าราคาแกว่งตัวประเดี๋ยวลิ่งประเดี๋ยวฟอร์ร คนที่ได้และเสียก็จำได้ไม่รู้ลืม 5555

จากคุณ : aeaw - [ 6 พ.ค. 48 08:50:39 ]

พี่เอวี่คิดเหมือนผมหรือเปล่าครับ
ถ้าหอเอนปิซ่าไม่เอน
ป่านนี้ ก็คงไม่มีใครรู้จักมัน
ไม่มีใครสนใจหรอกว่า
กาลิเลโอเคยขึ้นไปทดสอบทางวิทยาศาสตร์
ดังนั้นคนสนใจหุ้นตัวไหน
ก็เพราะหุ้นมันโอนเอนไปมา
มากกว่าสนใจเพราะกาลิเลโอ เอ๊ยนักวิเคราะห์พูดถึงมัน
หรือที่เป็นไปได้มากๆก็คือ
พอกาลิเลโอ เอ๊ยนักวิเคราะห์พูดเสร็จ
ก็ส่งซิกให้ช่างรับเหมาก่อสร้างหอเอนปิซ่า ทำให้หุ้นมันเอน
หรือไม่ก็
ช่างรับเหมาหุ้น ส่งซิกให้นักวิเคระห์พูด
คนเลยไม่สนใจว่า
จริงๆแล้วหุ้นมันโอนเอนเพราะอะไร

จากคุณ : endophine - [ 6 พ.ค. 48 08:57:51 ]

ลึกซึ้งจริงๆ
ผมว่าในตลาดหุ้นคงเข้าข่ายทั้ง 2 แบบ แต่หากเป็นแบบแรกคือ จาดตึกโทรมๆเอียงกะเท่เร่แต่มีนักวิเคราะห์ขึ้นไปปล่อยบทวิเคราะห์ลงมา คนก็เลยมุงดูให้ความสนใจ แต่เพราะนักวิเคราะห์ขึ้นไปโยนบทวิเคราะห์บ่อยหลายครั้งแล้วก็ไม่ได้ข้อสรุปที่เป็นจริงออกมาซักที คนที่เคยเชื่อรุมดู พอเห็นบ่อยๆเลยเลิกเชื่อ กาลิเลโอในตลาดหุ้นเก่งแต่วิเคราะห์ราคาหุ้นอย่างเดียวคงไม่พอคงต้องวิเคราะห์เงินที่จะตามเข้ามาให้ความสนใจด้วยเพราะเงินเท่านั้นที่จะทำให้ความจริงเกิดขึ้น หากเงินน้อยก็ต้องใช้เวลานานหน่อยกว่าคนจะเชื่อ สรุปว่าผมจะดูทั้งตึก ดูทั้งกาลิเลโอและดูคนที่มุงดูเพิ่มเข้าไปด้วย :-)

จากคุณ : rockriverarms - [ 6 พ.ค. 48 09:03:50 ]

อะไรที่เกิดเองโดยไม่ได้ตั้งใจทำให้เป็นเช่นนั้น
มักเป็นที่นิยม
ตัวอย่าง
พระเครื่องบล็อคแตก หรือมีเหตุอะไรที่ทำให้พิมพ์
ทรงแตกต่างไปจากองค์อื่น และมีจำนวนน้อย
มักเป็นพิมพ์นิยม

ใบหุ้นของบริษัทที่ล้มหายไป ในวันข้างหน้าอาจมีค่าก็ได้

ผมชอบสะสมหุ้นที่หายาก มีจำนวนน้อย โดยคิดเอาเองแบบสะสมพระเครื่อง วันหนึ่งมันคงมีค่า (ฮือๆ ไม่มีคนมาซื้อต่อซักที)

จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 6 พ.ค. 48 09:15:44 ]

เห็นด้วยทุกประการครับ เฮียเคลี่

จากคุณ : aeaw - [ 6 พ.ค. 48 09:21:36 ]

อืมม์ ท่านพี่เคลี่ ช่างหาประเด็นได้ แจ่มจ๊าบดีแท้
ขอบคุณ ที่เชื้อเชิญร่วมเสวนา
ในทรรศนะของข้าพเจ้า
มันคงต้องใช้ 2 ประการร่วมกัน

ถ้าหอตรง กาลิเลโอ จะไปทดสอบมั๊ย
นี่เป็นคำถามที่ต้องคิด (คงไม่ เพราะไม่ก่อให้เกิด
สถานการณ์ที่น่าจดจำและกล่าวขาน)
แล้วถ้ากาลิเลโอทดสอบที่หอตรง คนจะจำมั๊ย (คนจำไม่ได้)

มนุษย์จะจำลักษณะที่เด่นเท่านั้น และจำได้ในระยะเวลา
อันสั้น เช่น คนอาจจำลกษณะเด่นของคนนั้นได้ ถ้า หัวล้าน ใส่แว่น มีหนวด มีไฝ ใครมีพวกนี้เขียนภาพล้อ
คนจะจำได้ทันที

ผมจึงเชื่อว่า นักวิเคราะห์ มีหลายคนการทำให้คนจำได้ ว่าวิเคราะห์แม่น ต้องให้ผลในเวลาอันสั้น ไม่ใช่ว่าวิเคราะห์ตัวนี้ดี แต่อีกปีค่อยขึ้น จะมีคนมานึกขอบคุณอยู่ไม่กี่คน

ตีเหล็ก ต้องตีตอนร้อน

ผมแอบเชื่อว่า ถึงนักวิเคราะห์พื้นฐานเองก็ตาม
บางครั้งต้องให้นักวเคราะห์ทางเทคนิกร่อนตะแกรง
ให้ว่าจะเอาตัวไหนมาเล่น ตัวไหนอยู่ในกระแส
ตัวไหนอยู่ขาขึ้น มีแววที่ฟันธงแล้ว
มหาชนต้องได้กันพอสมควร มีฮือฮา ว่าแม่น

จึงต้องใช้เส้นกราฟ ดูเริ่มดี มีพื้นปึ๊ก ไม่ใช่ขาลง==> เลือกมาวิเคราะห์ ว่าทำไมดี คนไม่ทิ้ง==>ควรมีสภาพคล่องพอสมควรไม่ใช่เทรดวันละ 100 หุ้น
วิเคราะห์ มีคนมาสะสม ==>เส้นกราฟดีขึ้นอีก ==>นักเก็งกำไรมาร่วม ==>หลายคนมาพูดถึงบทวิเคราะห์ (เฮ๊ย นี่ไงเขาวิเคราะห์ไว้ว่าดี) ===>โวลุ่มเริ่มมา ==>นักเล่นรายวัน มาช่วยอัด ===>โวลุ่มโต ===>นักเก็งกำไรทำให้สวิง

ตอนจบ แมงเม่าพึงเดินทางมาถึงพอดี โชคดีได้นิดหน่อย ได้บ่อยๆก้เล่นมากขึ้น
ได้เวลาขายถล่มจากราคาที่ขึ้นเกินพอดีทันที แหง่ก

จากคุณ : adrenaline - [ 6 พ.ค. 48 12:05:17 ]

วิเคราะห์ทางเทคนิค
ทำไม ทาทา ต้อง updrade curve จนเป็นปอดบวมขนาดนั้น

ทำไมละครอั้ม โฆษณาอั๊ม จึงมีหลุดหวิว หยิว เซ็กซี่ขนาดนั้น (ก่อนนี้ก็แบนๆเหมือนกัน)

ตอบ เพราะนักวิเคราะห์พื้นฐานเห็นว่า สองสาวนี้ขาขึ้นแน่
ต้องเพิ่มจุดเด่น ตู๊มๆๆๆเข้าไป ซึ่งได้ผลอย่างแรง

เกี่ยวกันป่าววะ
น่าสงสาร น้องตั๊ก จะมาทางนี้เหมือนกัน แต่
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ไม่เชียร์ว่ะ แถมอยาก
ทำตัว talk of the town ตอนฟ้องคนนำภาพไปโพสต์ในเน็ต แต่พลาดอย่างแรง เขาไม่สงสาร ยังซ้ำเติมอีก
เสีย เลยยยย

สู้ทำ talk of the town แบบลูกเกตอาบน้ำในตู้กระจก
ไม่ได้ คนจำได้ไปนานเลย
สรุป ลูกเกตุดัง แต่ นีเวีย ดับ

จากคุณ : adrenaline - [ 6 พ.ค. 48 12:20:10 ]

การทดสอบสมมติฐานเรื่องวัตถุเบาและหนักตกถึงพื้นด้วยความเร่งเท่ากัน และถึงพร้อมกันหากปล่อยจากระดับความสูงเดียวกัน นั้น กาลิเลโอไม่ได้ทำบนหอเอนเมืองปิซ่าครับ แต่เขาใช้วิธีกลิ้งก้อนหินลงมาตามเนิน
.
การค้นพบเรื่องแรงโน้มถ่วงของนิวตันนั้น ก็มิได้เกิดจากการถูกลูกแอบเปิ้ลตกกระทบศีรษะ แต่เกิดจากการตรัสรู้ขณะมองลูกแอปเปิ้ลร่วง
.
ทั้งหมดนี้ผมเอามาจากหนังสือ A Brief History of Time ของอาจารย์ Stephen Hawking

จากคุณ : ดอกมะลิซ้อน (ดอกมะลิซ้อน) - [ 6 พ.ค. 48 14:43:08 ]

เราใช้คำว่า ตรัสรู้ กับบุคคลทั่วไปด้วยหรือครับ คุณมะลิ

จากคุณ : adrenaline - [ 6 พ.ค. 48 15:56:26 ]

ผมคิดอยู่สองสามทีก่อนจะพิมพ์คำนั้นลงไปจริง ๆ ครับ คุณ adrenaline ความตั้งใจคือผมรู้สึกว่าการค้นพบทางวิทยาศาสตร์บางอย่างนั้นเป็นเรื่องที่ enlightment ในทำนองเดียวกับที่พระสมณโคดมหรือเจ้าชายสิททัตถะพบคำตอบของชีวิต
.
คือคำตอบหรือความรู้นั้นมาเอง "เมื่อนิ่งพอ" มิได้มาจากการใช้ตรรกกะจนหัวแตก หรือได้มาจากการทดลองค้นคว้าอย่างบ้าคลั่ง น่าแปลกที่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์หลายอย่างมีที่มาอย่างนั้นคือ "รู้ก่อน พิสูจน์ทีหลัง" ไม่ต่างจากความรู้ที่องค์พระศาสดาสอน ทฤษฎีสัมพันธภาพของไอน์สไตน์ก็เกิดขึ้นในทำนองนี้

จากคุณ : ดอกมะลิซ้อน (ดอกมะลิซ้อน) - [ 6 พ.ค. 48 17:08:29 ]

พี่เอนโด

สุดยอดครับ

ฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯ

ผมว่า การที่หุ้นขึ้น หรือ ลง ก็ มี เจ้า มือ เจ้าของ ช่วยกัน ส่งเสริม ทั้ง ขาขึ้น ขาลง ครับ

หาก เจ้า ของไม่ยินยอม หุ้น ก็ คงไปไหนไม่ได้ นะครับ

เจ้ามือ ก็ เล่นเทคนิคคอล

ลากไปขายไป ขาย ได้ราคา ห้าง ด้วยกำไร มาก

หรือ ทุบไป ซื้อไป ได้ของถูกบานเลย ของแบกะดิน

จากคุณ : samsam - [ 6 พ.ค. 48 22:11:28 ]

หาก เทียบความเอน คือ การ ไต่ระดับ ของราคา ทำนิวไฮ อยู่

เหล่านัก วิเคราะห์ ก็ จะมา เชียร์ กัน ใหญ่ ว่า ไม่มี แนวต้าน ให้ strong buy.....


ใน ทาง กลับกัน ตัวไหน ทำ new low

ก้อ จะ พูดตรงข้าม ว่า อย่าไปยุ่งกับ หุ้นประเภทนี้


ซึ่งหา รู้ ไม่ว่า หุ้นที่ ทำ new low อาจจะ กลายเป็น หุ้น ห่านทองคำ ทำ new high ในอนาคต ก็ ได้ ครับ

แล้ว วงจร มัน ก็ จะเป็น เช่นนี้ อยู่ร่ำไปๆ

จากคุณ : samsam - [ 6 พ.ค. 48 22:21:41 ]

ผมมีคำถามครับ

หินสองก้อนรูปร่างเหมือนกัน ความถ่วงจำเพาะเท่ากัน แต่ขนาดต่างกัน ถ้าทิ้งจากที่สูงพอ เช่นจากเครื่องบินที่บินขึ้นไปสูง ๆ

จะตกถึงพื้นพร้อมกันหรือไม่?

(โดนลูกชายถามมาอีกที 55555)

จากคุณ : ขุนอิน - [ 6 พ.ค. 48 22:01:35 ]

หิน 2 ก้อน นี่
มีชื่อมั๊ยครับ

เช่น หิน A หิน B
ถ้าคู่นี้ หิน B จะตกถึงพื้นช้ากว่าแน่นอนครับ

จากคุณ : adrenaline - [ 6 พ.ค. 48 22:06:17 ]

ตอบคำถามของพี่ขุนอินครับ หากปล่อยจากเครื่องบินลำเดียวกัน มันจะตกถึงพื้นพร้อมกันครับ แม้น้ำหนักจะต่าง เนื่องจากความเร็วเริ่มต้นสัมพัทธิ์กับความเร็วเปลือกโลกเท่ากัน และความเร่งที่เกิดจากแรงดึงดูดเท่ากัน ทั้งนี้ไม่นับปัจจัยเรื่องคุณสมบัติพิเศษของหินนะครับ เช่นหิน B ของคุณ adrenaline อาจจะตกช้าเพราะบินได้
.
โจทย์คำถามของหลานคงต้องการให้น้ำหนักต่างครับ

จากคุณ : ดอกมะลิซ้อน (ดอกมะลิซ้อน) - [ 7 พ.ค. 48 10:37:22 ]

เรื่องแรงเสียดทานจากอากาศล่ะครับ ว่ามีผลต่อวัตถุอย่างไร วัตถุที่มีมวลต่างกัน มีอัตราส่วนพื้นที่ผิวต่อมวลต่างกัน?

ผมยังหาคำตอบเจ๊ง ๆ ไม่ได้เลยอ้ะ

วันนี้ไปเที่ยว dream world มาเพิ่งกลับมาเลยมาถามต่อ แหะ แหะ

จากคุณ : ขุนอิน - [ 7 พ.ค. 48 20:18:18 ]

แรงเสียดทานอากาศเป็นแรงที่กระทำต่อวัตถุึโดยมีขนาดแปรผันตรงตามเนื้อที่ของผิวหน้าครับ ไม่ได้มีปัจจัยของมวลเข้าไปเกี่ยว เพียงแต่ขนาดของแรงที่เท่ากันอาจจะทำให้เกิดความหน่วงต่อวัตถุรูปร่างเหมือนกัน แต่น้ำหนักต่างกัน ได้ไม่เท่ากัน เนื้องจากขณะที่ตกลงด้วยความเร่งเท่ากันนั้น แรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อวัตถุ ต่างกัน จากการแปรผันตรงตามน้ำหนัก
.
ส่วนเรื่องหอเอนเมืองปิซ่า ตอนนี้ทางการอิตาลี่สามารถทำให้มันเอียงกลับได้ส่วนหนึ่งแล้วครับ จากการขุดดินใต้ฐานด้านตรงข้าม ข้อมูลนี้ผมได้จากสารคดีวิทยุบีบีซีภาคภาษาไทยเมื่อสองเดือนก่อน เรียกว่ายังเก็บไว้ทำมาค้าขายได้อีกนาน



จากคุณ : ดอกมะลิซ้อน (ดอกมะลิซ้อน) - [ 8 พ.ค. 48 09:33:12 ]

ตกลงหอเอน หรือหุ้นเอนไปทางกันแน่ ?????



จากคุณ : endophine - [ 17 พ.ค. 48 08:47:18 ]


Create Date : 26 กรกฎาคม 2548
Last Update : 26 กรกฎาคม 2548 14:54:58 น. 2 comments
Counter : 1794 Pageviews.

 
รูปข้างล่าง555dee


โดย: kol IP: 124.121.11.191 วันที่: 21 มกราคม 2551 เวลา:19:27:48 น.  

 
ที่เป็นการ์ตูนตลกดี


โดย: คนเก่ง IP: 58.9.140.108 วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:18:05:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมากเขียว
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




สวัสดีครับทุกท่าน...ผมหมากเขียวแห่งสินธร...จาก Head of Prop Trade สู่ Private Trader อิสรภาพที่รอคอย



สงวนลิขสิทธิ์ © พ.ศ.2553 โดย หมากเขียว™ ห้ามลอกเลียน ทำซ้ำ หรือคัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความที่เขียนโดยข้าพเจ้านอกจากจะได้รับอนุญาต

Copyright © 2010.All rights reserved. These articles and photos may not be copied, printed or reproduced in any way without prior written permission of Mhakkeaw™.
Friends' blogs
[Add หมากเขียว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.