"แมงเม่าของเมื่อวันวาน คือ เซียนหุ้นของพรุ่งนี้"
Group Blog
 
All Blogs
 
************ อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง ************ โดย Arriba


ไม่ได้จะด่าใครคับ ประโยคนี้ผมไว้เตือนตัวเอง ในระยะหลังๆที่เล่นหุ้นครับ

ทำไมผมถึงต้องเตือนตัวเองอย่างนี้ ?
ผมมีเหตุผลครับ

1. เวลาเราได้ตังค์ เรามักนึกว่าเราเก่ง หารู้ไม่ หลายๆครั้งเราได้เพราะ "โชค" เราไม่ได้เก่งเลย เพื่อนผมบางคน ช่วงที่ผ่านมาได้เยอะครับ แล้วก็เปลี่ยนไป เริ่มเสียงแข็ง คิดว่าตัวเองเก่งมากๆ บอกให้คนรอบข้างถือ ยาวๆ โดยให้เหตุผลว่า ถือยาวๆยังไงก็กำไร ..... ผมคิดว่าอันตรายมาก

ที่ช่วงนี้ถือแล้วกำไรเพราะมันเป็นขาขึ้น หุ้นช่วงขาขึ้น ใครทนถือก็กำไรครับ ยกเว้นซวยจริงๆ ไปโดนเอาตัวแจ็คพอร์ต เข้าไป

มีผู้ใหญ่เคยบอกผมว่า คนจะหมดตัว คืนกำไรสู่สังคมอีกครั้งตอนช่วงขาลง เพราะว่าคิดว่าถือยาวยังไงก็รอด เอาความรู้สึกของช่วงขาขึ้นมาใช้กับช่วงขาลง


ดังนั้นสำหรับหุ้นที่ขาดทุนเยอะ การ "คัดลอส" ควรจะทำ และ หุ้นที่กำไร "คลายเครียดเรโช" เป็นสิ่งจำเป็นนะครับ

2.ระยะหลังๆ จากที่เริ่มได้เล่นหุ้นมานานขึ้น ได้มีประสบการณ์ และได้ฟังคำสอนจาก พี่คลายเครียด ผมได้ข้อสรุปมาข้อนึกคือ อย่าคิดว่าเราเป็น Gu Ru จริงๆแล้วเราเป็น Gu Mai Ru มากกว่า ....

ผมเองเรียนและฝึกฝนด้านการวิเคราะห์แบบเทคนิคมาครับ หลายครั้งที่ใช้แล้วได้ผล หลายครั้งที่พลาด ..

พอเทคนิคอย่างเดียวยังไม่ได้ผล ผมก็คิดว่า งั้นดูพื้นฐานดีกว่า ผมก็เริ่มถามๆจากผู้รู้ทางด้านพื้นฐาน ผลก็ยังไม่ดีดีอีก ผลของการเริ่มวิถี VI ของผลปรากฎว่า เข้าเนื้อครับ เซ็งเลย

งั้นต้องเป็นแบบลูกผสมเลยแล้วกัน ผมเริ่มดูพื้นฐานแล้วเอาเทคนิคจับจังหวะเข้าซื้อ .... ปรากฎว่าอาการดีขึ้นครับ ไม่เข้าเนื้อ แต่ว่ามักขายหมู ... อู๊ดๆๆๆ
เพราะเวลาหุ้นจะขึ้น หลายๆครั้ง มันขึ้นแบบไร้เหตุผล พื้นฐานก็บอกว่า Full Value แล้ว เทคนิคก็บอดว่า Super Over Brought แล้ว มันนน ก็ยังไปต่อ ...

เอ .................. แล้วทำไมมันเป็นอย่างนั้นละ ...??

อ้ออ "เจ้ามือ" นี่เอง
ปล. กลต บอกว่าจะจัดการเรื่องนี้โดยเด็ดขาด ก๊ากกก...กกก

คนลิขิตหรือจะสู้ ฟ้าลิขิต ฟ้าลิขิตหรือจะสู้เจ้ามือลิขิต(ในบางกรณี เจ้ามือก็สู้ฟ้าไม่ได้ครับ ฟ้าอาจส่งโบอิ้ง 2 ลำไปชนตึก)

ผมก็เริ่มดูครับ เริ่มอ่านพฤติกรรมเจ้ามือ เริ่มศึกษาว่าเราจะจับทาง จับวิธีของเจ้ามือได้อย่างไร
ก็เริ่มจับทางได้บ้างไม่ได้บ้าง เช่น หลังๆ ผมเริ่มจับได้ว่า เมื่อต้องการดันดัชนี หุ้นใหญ่จะใช้เป็นตัวดัน .. แล้วก็จะมีการสลับหุ้นใหญ่ขึ้นลงเป็นรอบๆ .. อย่างที่เราคงเห็นในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้

แต่ก็ยังเสี่ยงอีกนั่นแหล่ะ .... แล้วก็เดาทางได้ยาก หัวใจจะวาย ...

สรุป ตอนนี้ผมใช้ 3 วิธี แล้วนะครับ
1. พื้นฐาน
2. เทคนิค
3. เจ้ามือ

อืม แต่ก็ยังได้ๆเสียๆ เวลาเสียแรกๆจะบอกว่าตัวเองว่า เราใจร้อน เราไม่ระวัง ... แต่มาดูๆ เอ .. ตูก็ระวังดีแล้วนี่หว่า .. หลังๆชักโทษ ดวง .... สงสัย ตู ขาดบุญ บารมี นี่เอง

เอา เริ่มแล้วครับ ตักบาตร ทำบุญ .. ทำทาน

สรุป ตอนนี้ใช้มัน 4 ข้อเลย
มีข้อ 4. ทำบุญทำกุศล เอาบารมีมาเป็นเส้นแนวรับด้วย ...

แต่ก็ยังจิตใจตุ๊มๆต่อมๆ

จนมาช่วงหลังๆ ผมทำข้อ 5 ครับ คือ "อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง"
การประกันความเสี่ยงเป็นเรื่องจำเป็น อบ่าโลภมาก ถ้าได้ต้อง Let Profit Run อย่าโลภเล่นรอบ เพราะเราไม่เก่งกว่าเจ้ามือได้ทุกครั้งหรอกครับ อย่าโลภมาก

"ผมเลือกหุ้นดีครับ เข้าซื้อด้วยเทคนิค แล้วถือยาว พอได่กำไรพอควรแล้ว ต้องประกันความเสี่ยง"

ได้มากๆ ต้องรักษากำไร .... คลายเครียดเรโช เป็นหนึ่งทางเลือกที่ดีครับ

สรุป มาถึงวันนี้ ผมมีส่วนประกอบที่ต้องคำถึงถึงในการเล่นหุ้น 5 ข้อครับ
1. พื้นฐาน
2. เทคนิค
3. เจ้ามือ + ข่าว
4. บุญบารมี
5. การประกันความเสี่ยง ตัดขาดทุน รักษากำไร

ทุกวันนี้อาการของผมดีวันดีคืนครับ ก็คิดว่าจะทำไปเรื่อยๆครับ


นานๆผมจะโพสต์ที เพราะไม่ค่อยมีความสามารถอะไรเป็นพิเศษเหมือนคนอื่นๆเค้า

เพื่อนๆ ใครเล่นหุ้นแล้ว มีอะไรอยากจะแชร์กัน ก็โพสต์มาเลยครับ

จากคุณ : Arriba - [ 4 พ.ย. 46 12:54:04 ]


คุณอาริบา
ได้ทำคลายเครียดเรโชพวกเรือที่เจ้าของร่วมด้วยช่วยปั่นหรือยังครับ

สำหรับผม ที่ต้องหมั่นทำคลายเครียดเรโช
ก็เพราะว่าเข้าข่ายเป็นพวก "มืงไม่รู้"
ซึ่งไม่เคยฟังพวก"กูรู้"
ชี้เป้า ชี้กราฟ ชี้พื้นฐาน ชี้พื้นกระเบื้อง ชี้พื้นคอนกรีด
ผมก็ต้องเอามวยวัดแบบคลายเครียดเรโชเข้าสู้
กับพวกรายใหญ่ทั้งสำนักฝ่ายธรรมะเช่นต่างชาติ กองทุน
และรายใหญ่ฝ่ายอธรรม เช่นรายใหญ่ตามห้องค้า
(เหมือนลิเกเลยหวะ ฮาๆๆๆ)
ถ้าหุ้นของเราไม่มีต้นทุนได้มากเท่าไร
เราก็วัดใจ วัดดวงกับพวกรายใหญ่ได้มากเท่านั้น

ตัดแปะมาให้ดูซะหน่อยว่าทำไมผมไม่เครียดกับพอร์ตนี้
ก็เพราะ คลายเครียดเรโชมหภาคสูงมากกว่า ๓
พอร์ตนี้ผมเล่นแบบมั่วเลยครับ อยากซื้อตัวไหนซื้อ
อยากขายตัวไหนขาย

สำหรับความเห็นตลาดในขณะนี้
ผมขอตัดแปะจากทีวีไอมาให้ชาวสินธรอ่าน
เป็นความเห็นแบบมวยวัดเลยหละครับท่านผู้ชม


"ผมถือว่า ทุกคนที่เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นคือ
นักเล่นเกมล่าส่วนเกินทุนทั้งสิ้น
จะต่างกันตรงที่
แนวทางนักลงทุนก็คือ
การซื้อหุ้นไปตามกระแสเงิน
ที่หมุนเวียนอยู่ในบริษัทหรือผลประกอบการ
ส่วนแนวทางเก็งกำไรก็คือ
การซื้อหุ้นไปตามกระแสเงินที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์
ด้วยการซื้อตามข่าวลือ ข่าวปล่อย ข่าววงใน
และกราฟแท่ง กราฟเส้น
ที่ชี้ให้เห็นแรงกรรมแห่งความโลภและความกลัว

ช่วงนี้เกมล่าส่วนเกินทุนคึกสุดขีด
เพราะมีเงินก้อนใหม่ๆซึ่งทนดอกเบี้ยเงินฝากถูกๆไม่ได้
ตามเข้ามาเล่นเกมแบบเงินต่อเงิน
แรงกรรมแห่งความโลภ จึงสามารถเหวี่ยงราคาหุ้นไปมา
แบบไม่สนใจผลประกอบการเท่าไร

ตอนนี้ หุ้นไม่มีคำว่าดีหรือเน่า
มีแต่ขึ้นหรือลง
แล้วแต่ว่าคนจำนวนน้อยที่มีเงินมาก
(ต่างชาติ กองทุน เซียนหุ้นรายใหญ่)
จะเลือกหยิบไพ่สำรับไหนขึ้นมาเล่น
แล้วทำให้คนจำนวนมากที่มีเงินน้อยเล่นตาม

ดังนั้นในภาวะกระทิงดุ แนวทางการเล่นหุ้นแบบนักลงทุน
จะเสื่อมความนิยมลงไปบ้าง
เพราะคำว่าหุ้นดีหรือหุ้นเน่า
สำคัญน้อยกว่าคำว่าหุ้นขึ้นหรือหุ้นลงมาก

ซึ่งถ้าผมตามเล่นหุ้นแบบเก็งกำไรว่าขึ้นหรือลง
วิธีเดียวที่ผมคิดว่าจะเอาตัวรอดได้ก็คือ
ควบคุมปริมาณความโลภด้วยวิธีการทำคลายเครียดเรโช

แต่กับการเล่นเกมล่าส่วนเกินทุน
ด้วยการดูกระแสเงินที่หมุนเวียนอยู่ในบริษัท
ถ้าเราดูเป็น แล้วเอามาเทียบกับราคาหุ้นในตลาดให้เหมาะสม
ผมยังนึกไม่ออกเลยว่า เราจะเจ๊งหุ้นได้ไง
ที่สำคัญเราก็ไม่ต้องคอยจำกัดปริมาณความโลภ
เพราะเงินลงทุนของเรา
จะเหวี่ยงไปตามแรงกรรมของผลประกอบการ
ไม่ใช่แรงกรรมแห่งความโลภของผู้คนในตลาดหุ้น "

ความเห็นเพิ่มเติม
ในการเล่นเกมล่าส่วนเกินทุนยุคคึกสุดขีด
มีคนสองจำพวกที่จะเพิ่มปริมาณความโลภแบบไม่จำกัดคือ
เซียนหุ้น และแมลงเม่าหุ้น
เซียนหุ้นไม่จำเป็นต้องจำกัด ยิ่งโลภก็ยิ่งได้
ส่วนแมลงเม่าหุ้นจะไม่ยอมจำกัดความโลภเช่นกัน
เพราะแต่ละคนได้กลายเป็น"กูรู้ช่วงขาขึ้น"
แต่ที่ผมเห็นมาตลอดทุกยุคทุกสมัยเหมือนกับนิยายน้ำเน่าก็คือ
"กูรู้ช่วงขาขึ้น" จะกลายเป็นพวก"มืงไม่รู้ช่วงขาลง"
อย่างพร้อมเพรียง โดยมิได้นัดหมายกันไว้ ฮาๆๆๆ

จากคุณ : คลาย เครียด - [ 4 พ.ย. 46 14:20:45 ]


Create Date : 02 สิงหาคม 2548
Last Update : 2 สิงหาคม 2548 13:10:43 น. 0 comments
Counter : 814 Pageviews.

หมากเขียว
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




สวัสดีครับทุกท่าน...ผมหมากเขียวแห่งสินธร...จาก Head of Prop Trade สู่ Private Trader อิสรภาพที่รอคอย



สงวนลิขสิทธิ์ © พ.ศ.2553 โดย หมากเขียว™ ห้ามลอกเลียน ทำซ้ำ หรือคัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความที่เขียนโดยข้าพเจ้านอกจากจะได้รับอนุญาต

Copyright © 2010.All rights reserved. These articles and photos may not be copied, printed or reproduced in any way without prior written permission of Mhakkeaw™.
Friends' blogs
[Add หมากเขียว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.