"แมงเม่าของเมื่อวันวาน คือ เซียนหุ้นของพรุ่งนี้"
Group Blog
 
All Blogs
 
---- หุ้น กับ การขับรถในกทม. ---- โดย ชาเขียว

หลายๆ คนคงเคยขับรถในกทม. นะครับ (สำหรับคนที่ไม่เคย ลองมาขับเล่นดูก็ได้ครับ มันมาก เหมือนเล่นหุ้นเลย)
ในชั่วโมงเร่งด่วน รถติดมากๆ เวลาเราขับตามเลนของเรามาเรื่อยๆ บางครั้งเราจะสังเกตว่า "เอ๊ะ! เลนข้างๆ ทำไมมันวิ่งฉิวจังเลย เลนเราเรอะก็ต้วมเตี้ยมเหลือเกิน" อย่ากระนั้นเลย ตบสัญญาณ รีบหาทางเบียดเข้าเลนที่ว่านั้นทันที แต่กว่าจะวัดใจแย่งที่ในเลนนั้นมาได้ ก็มีรถไม่ยอมเราผ่านไปไม่น้อย .... (ตัดมาที่ตลาดหุ้น) .... "เอ๊ะ! หุ้นของเรา ทำไมมันนิ่งแบบนี้ อีกตัวมันวิ่งขึ้นเอาๆ " อย่ากระนั้นเลยเปลี่ยนตัวเล่นมันซะเลย รีบมาซื้อหุ้นวิ่งขึ้นเอาๆ ตัวนั้น .... (ตัดฉับ (ฟังเสียงแล้วเสียวจริงๆ) มาบนถนน) ... หลังจากที่เปลี่ยนเลนมาได้ "อ้าว เอ๊ะ ทำไมไอ้ที่มันวิ่งฉิวๆ เมื่อกี้เริ่มชะลอแล้วล่ะ แถมจอดเอาซะดื้อๆ แต่ไอ้เลนที่เราเพิ่งจากมา ไหงวิ่งซะล่ะ เสียสุนัขเลยมั้ยเนี่ย" ... (ตัดไปตลาดหุ้นอีกแล้ว) .... "เฮ้ย ไอ้ที่ขึ้นเอาๆ เมื่อกี้นี้ไหงมันหยุดวิ่งล่ะนั่น แถมเริ่มสาละวันเตี้ยลงๆ อีกต่างหาก ยิ่งกว่านั้น ไอ้ตัวที่เราขายไปเพื่อมาซื้อตัวนี้ วิ่งฉิวเลย ... มันเกิดอะไรขึ้น!!!".....
คำถาม: ใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ทั้งบนถนนและในตลาดฯบ้างยกมือขึ้น? ... ผมว่ายกมือกันใหญ่เลยใช่หรือเปล่าครับ
คำอธิบาย:
บนถนน: เวลาที่เลนไหนว่าง คนที่เห็นว่าว่างก็จะรีบเปลี่ยนเลนไปเลนที่ว่าง ถ้าเราเป็นคนแรกๆ ที่เปลี่ยน ก็โอเค แต่ถ้าไม่ใช่ เราเป็นคนหลังๆ เมื่อคนเค้าเปลี่ยนมาเลนนี้มากๆ เข้า เลนนี้ก็มีรถมากขึ้น ก็จะชะลอตัว และก็ติดเป็นธรรมดา ส่วนเลนที่เราจากมา ในตอนแรกรถเคลื่อนที่ได้ช้า แต่พอรถในเลนช้านี้เปลี่ยนไปเลนใหม่มากๆ เข้า ก็ทำให้มีที่ว่างแล้วก็วิ่งฉิว
หุ้น: หุ้นตัวไหนที่ขึ้นแรงๆ (อาจจะมีข่าว) คนที่รับข่าวก่อน ก็จะซื้อก่อน พอราคาขยับ คนก็แห่กันมาซื้อ พอขยับจนถึงจุดๆ หนึ่ง ก็ต้องมีการขายทำกำไร หรือระบายความเสี่ยง (อะไรก็แล้วแต่) ก็ทำให้ราคาลดลง ส่วนหุ้นที่เราเคยถืออยู่แล้วมันไม่วิ่ง พอเราเปลี่ยนตัวไป (ซึ่งมีคนอื่นคิดเหมือนกันเปลี่ยนตัวไป) ซึ่งก็จะทำให้ราคาลดลง และถ้าหุ้นตัวนั้นพื้นฐานดี หรือมีสตอเบอร์รี่ พอราคามันนิ่งๆ หรือลดลง คนที่เห็นคุณค่าก็จะเข้ามาซื้อ มันก็เลยขึ้นบ้าง
สรุป:
ดังนั้น สิ่งที่เราควรจะต้องทำก็คือทำการบ้าน
บนถนน: เราอาจฟัง จ.ส. 100 ทำให้รู้ว่าถนนที่เราใช้สภาพเป็นอย่างไร มีอุบัติเหตุที่เลนไหนหรือไม่ รวมกับประสบการณ์ที่เคยขับเส้นนี้บ่อยๆ ทำให้เรารู้ว่าช่วงไหนควรอยู่เลนไหน ช่วงไหนมีซอย ช่วงไหนมีที่กลับรถทำให้เราหลีกเลี่ยงที่จะติดได้
หุ้น: ศึกษาข้อมูลของบริษัทให้ดี รวมถึงแนวโน้มของบริษัท และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ข่าว (ที่เราจะต้องวิเคราะห์แล้ว ไม่ใช่ข่าวลือ) รวมทั้งประสบการณ์ที่เล่นหุ้นกลุ่มนี้มา จะทำให้เราทราบว่าช่วงไหนต้องหนี ช่วงไหนต้องเก็บ

ขอให้รวยๆ ครับ ขออย่าให้ตลาดเจอปิดถนนเหมือนตอนเอเปคเลย สาธุ!

เพิ่มเติมอีกหน่อยครับ
หลังจากที่เราวิเคราะห์แล้ว (จากประสบการณ์ จาก จ.ส. 100 จากการที่เรามองไปข้างหน้าไกลๆ) เห็นว่าเลนที่เราวิ่งเป็นเลนที่ดี ก็วิ่งเลนนั้นไปเถอะครับ ในทำนองเดียวกัน ถ้าหุ้นที่เราวิเคราะห์แล้ว อ่านงบฯ แล้ว ดูผลประกอบการแล้ว ฟังโบรกเกอร์วิเคราะห์แล้ว ดูเทคนิคแล้ว เห็นว่าดี จงเชื่อมั่นในตัวเองครับ และในทางกลับกัน ถ้าวิเคราะห์ (ฟัง จ.ส. 100 ดูพฤติกรรมรถข้างหน้า) แล้วว่าเลนที่วิ่งอยู่มีอุบัติเหตุข้างหน้า ถึงแม้มันจะยังวิ่งอยู่ ก็หาทางเปลี่ยนเลนเถอะครับ เหมือนกับหุ้น ถ้าเราดูแนวโน้มแล้วว่า ต่อไปภายภาคหน้า บริษัทนี้แย่แน่ๆ ถึงแม้ว่าราคามันจะยังวิ่งอยู่บ้าง ก็เปลี่ยนตัวมาหาตัวที่ดีกว่าเถอะครับ

จากคุณ : ชาเขียว - [ 1 พ.ย. 46 02:44:04 ]


เห็นด้วยเลยครับ ผมก็รู้สึกอย่างนี้มาก่อนเหมือนกัน
1. การที่เลนไหนจะวิ่ง หรือไม่วิ่ง เราควบคุมไม่ได้เลย หน้า
ที่ของเราคือขับรถ (หรือซื้อหุ้น ถือหุ้น ขายทำกำไร/ทิ้ง)
ด้วยการตัดสินใจของเราเอง จะคิดว่า "ทำไมไม่เป็นอย่าง
นี้" หรือ "ทำไมเลนนี้มันไม่วิ่งเหมือนเลนนั้น" ไม่เคยเกิด
ประโยชน์อะไรเลย

2. การหาข่าว เป็นสิ่งสำคัญมาก บางทีการฟัง จส100 หรือ
สวพ91 ก็ไม่ได้ข่าวที่เกิดขึ้นจริงๆบนถนน อุบัติเหตุเกิดตั้ง
นานแล้วเพิ่งจะมีคน "แจ้งข่าว" (หรือประโคมข่าวในตลาด)
ให้ได้รู้ทั่วไป เมื่อนั้น ใครๆก็รู้กันหมดแล้ว เรียกได้ว่าอาจ
จะช้าเกินไป

3. บางที พวกที่ "แซง มุด แล้วเข้าไปตัดปาดหน้า" กลับได้
ประโยชน์ คือเวลาขับรถไปแล้วเลนเรามีอุบัติเหตุข้างหน้า
เราก็รีบเปลี่ยนเลน ไปยังเลนข้างๆที่ไม่มีอุบัติเหตุ แต่คน
อื่นที่อยู่เลนเรา กลับขับไปในเลนเดิม แซงๆๆๆ แล้วไปปาด
หน้าเข้าเลนข้างๆ (ที่เราเพิ่งเข้ามา แต่ตอนนี้เขาแซงเราไป
แล้ว) ผลก็คือเขาสามารถไปได้เร็วกว่าคนอื่น เฮ้อ... เบื่อ
จริงๆ แบบนี้ ในตลาดก็เหมือนๆกัน

สุขสันต์วันสุดสัปดาห์ครับ


จากคุณ : มือเก่าหัดขับ - [ 1 พ.ย. 46 07:07:24 ]


ก็เคยเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ครับ
แต่สังเกตว่า ส่วนใหญ่จะไปติดในถนนที่เราไม่ค่อยได้วิ่ง
เพราะไม่รู้กระแส เลนรถ ยกตัวอย่างเส้นพระประแดง
ถ้าเป็นคนที่วิ่งทุกวัน เค้าจะรู้ว่า ช่วงนี้จะมีกลับรถ ให้ชิดซ้าย
ช่วงนี้จะมีรถจอดให้ออกขวา หรือว่า ข้างหน้ากลับรถ 3 เลน
ให้อยู่ซ้ายสุด
ผมขับไปทางนั้นหลายที แต่จำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็เลยติดบ้าง ฉลุยบ้าง
คงเหมือนเล่นหุ้นแหละครับ ถ้าคอยสังเกต พฤติกรรมหุ้นทุกวัน
ก็จะรู้แนวทางว่า ช่วงนี้ คนเทขายทำกำไร ช่วงไหนคนเข้าซื้อ ถ้าหากว่ารู้แนวทางอย่างนี้แล้วก็จะลดความเสี่ยงลงไปได้เยอะครับ

วิธีที่ผมชอบใช้ก็คือ เวลาขับรถ...ถ้าเป็นแบบเลน 2 เลนคู่คี่กันไป คือสลับกันวิ่ง ผมก็จะอยู่เฉยๆ เพราะเลนนั้นวิ่งได้ไม่นาน ก็ถึงตาเลนเราแล้ว แต่ถ้าเป็นแบบเลนเราติดอยู่เลนเดียว ผมก็จะเข้าแทรกโดยต้องแอบมองไปข้างหน้าว่ามันติดอะไร ถ้าเรารู้เหตุผลว่า อ๊อ ติดเพราะมีไอคนเห็นแก่ตัว มันกลับรถในที่ห้ามกลับ ผมก็จะออกทันที ส่วนถ้าติดมันทุกเลน เพราะปิดถนน ผมยอมหาที่จอดรถ หาข้าวกิน กาแฟกิน ซักพัก แล้วค่อยลงไปวิ่งต่อดีกว่า ไม่งั้นเหนื่อย...

จากคุณ : อาหนิว (อาหนิว) - [ 2 พ.ย. 46 15:42:31 ]


Create Date : 02 สิงหาคม 2548
Last Update : 2 สิงหาคม 2548 13:05:53 น. 0 comments
Counter : 534 Pageviews.

หมากเขียว
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




สวัสดีครับทุกท่าน...ผมหมากเขียวแห่งสินธร...จาก Head of Prop Trade สู่ Private Trader อิสรภาพที่รอคอย



สงวนลิขสิทธิ์ © พ.ศ.2553 โดย หมากเขียว™ ห้ามลอกเลียน ทำซ้ำ หรือคัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความที่เขียนโดยข้าพเจ้านอกจากจะได้รับอนุญาต

Copyright © 2010.All rights reserved. These articles and photos may not be copied, printed or reproduced in any way without prior written permission of Mhakkeaw™.
Friends' blogs
[Add หมากเขียว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.