Group Blog
 
All blogs
 
lOve-lOve ตอนที่ 14

เวรุตและโรสเช่ารถตระเวนออกเที่ยวกันเอง โดยดูจากแผ่นพับสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำที่ได้มาจากโรงแรม โรสช่วยดูเส้นทางและป้ายบอกทาง ทั้งสองแวะดูโรงงานผลิตร่มและพัดแฮนด์เมด จากการเพ้นท์สีเป็นรูปดอกไม้และวิวต่างๆ ก่อนจะไปเที่ยวที่น้ำพุร้อนสันกำแพงเป็นจุดหมายต่อไป

หนุ่มสาวซื้อไข่ไก่ชะลอมเล็กๆ เพื่อนำไปต้มในบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมเนียมนิยม แล้วจึงเช่าเสื่อมานั่งบริเวณที่ออกแบบเป็นทางน้ำจัดไว้ให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสแช่เท้าในน้ำแร่เพื่อสุขภาพ

เวรุตจุ่มขาลงไปแล้วแทบอยากจะยกขึ้นทันที เพราะน้ำนั้นร้อนเกินคำว่าอุ่นสบายไปมาก

"เป็นไงบ้างคะเว" หญิงสาวถามความเห็น เพราะยังมัวพับขากางเกงอยู่ ชายหนุ่มจำทน ทำเป็นไม่รู้สึกอะไร

"ถ้าผมบอกว่ามันร้อนมาก โรสจะเชื่อไหม" เวรุตยิ้มถามสบตา

"อย่ามาอำซะให้ยากค่ะ ถ้าร้อนจริงคุณคงไม่ทนอยู่หรอก" โรสทำหน้าไม่เชื่อ แล้วตั้งท่าจะจุ่มขาลงไป

"มันร้อนมากจริงๆ นะ" เวรุตยิ้มกว้างกว่าเดิมแล้วกุมมือหญิงสาวไว้ เพื่อจะเตือนเธอเป็นครั้งสุดท้าย

พอขาลงไปอยู่ใต้น้ำ โรสจึงรู้ว่ามันร้อนจริงๆ อย่างที่เขาว่านั่นแหละ หากแต่เสียงหัวเราะของชายหนุ่มทำให้เธออดรนทนต่อไป

"ผมบอกแล้วไม่เชื่อ" เวรุตรีบยกขาตัวเองขึ้น

"ผู้ชายอะไร ไม่มีความอดทนเสียเลย แค่นี้ก็ร้อน" โรสแกล้งว่าสบประมาทแล้วท้าทายต่อทั้งที่รู้สึกร้อนขาจนจะสุกอยู่แล้ว

"เอางี้ มาแข่งกันไหม ว่าใครจะทนได้นานกว่ากัน"

"ได้เลย ผมจะดูว่าคุณจะทนได้ซักกี่น้ำ" เวรุตรับคำท้า แต่พอเขาเอาเท้าลง โรสก็รีบยกขาตัวเองขึ้นว่างทับตักทั้งสองข้างเขาไว้

"โรส! กางเกงผมเปียกหมดแล้ว" ชายหนุ่มโวยวาย มองท่อนขาเปียกสีแดงเรื่อที่วางทับอยู่บนตัก โรสหัวเราะสะใจที่หลอกเขาได้

"เล่นแบบนี้ สงสัยต้องจัดหนักเสียแล้ว" เวรุตอุ้มหญิงสาว แล้วยืนขึ้นกลางลำน้ำ ที่ระดับน้ำสูงถึงเข่า

"นี่! ปล่อยฉันนะ คนอื่นมองกันใหญ่แล้ว" โรสอ้างชาวบ้านซึ่งดูบางตาเนื่องจากไม่ใช่วันหยุด เผื่อจะทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอายขึ้นมาได้บ้าง

"นี่เป็นเรื่องของเราสองคน ไม่เกี่ยวกับชาวบ้านซะด้วย" ชายหนุ่มตอบหน้าตาเฉย

"ปล่อยนะ ฉันจะปอกไข่ต้มให้ทาน" โรสต่อรอง

"ใครนะ? จะปอกไข่ต้มให้ใครทาน"

"ก็ฉันนี่ไง หรือคุณจะปอกเอง?" โรสตอบย้ำแสร้งไม่เข้าใจความหมาย

"ถ้า 'ฉัน' ปอก ผมไม่อยากทานอ่ะ" เวรุตต่อรองบ้าง หญิงสาวมองค้อนแล้วทุบอกเขาเบาๆ

"โรสจะปอกไข่ต้มให้ทานค่ะเว" โรสพูดใหม่ในแบบที่เขาอยากได้ยิน

"คงเป็นไข่ต้มที่อร่อยที่สุดในโลกเลยคราวนี้" เวรุตยิ้มสบตาแล้วปล่อยหญิงสาวกลับลงบนเสื่อ

โรสหันไปหยิบไข่ต้มขึ้นมา แต่แล้วก็ต้องโยนสลับมือไปมาเพราะร้อนเกิน พอปอกได้เนื้อไข่ก็ติดเปลือกเละเทะดูไม่น่าทานเอาเสียเลย

"ถ้าไม่กิน โกรธกันตายเลยนะคะ" หญิงสาวยื่นไข่ในมือให้

"มันจะกินได้เหรอโรส" ชายหนุ่มว่าล้อมองไข่ในมือที่เนื้อไข่ขาวตะปุ่มตะป่ำไปหมด คงเป็นไข่ต้มที่ขี้เหร่ที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา

"เอางี้ คนละครึ่ง" เวรุตแบ่งไข่ออกเป็นสองส่วน โรสช่วยเหยาะซอสลงบนไข่แดง เขาทานให้ดูก่อน แล้วจึงป้อนอีกครึ่งให้หญิงสาว

ทั้งสองยิ้มสบตากันเมื่อพบว่าไข่ขี้เหร่ร้อนๆ นั้น อร่อยกว่าที่คิดไว้มากมาย ก่อนจะผลัดกันปอกแบ่งกันทานจะหมดชะลอม






"เรากลับเข้าเมืองกันก่อนดีไหม คืนนี้ไปไนท์ซาฟารีหรือไปเดินเล่นที่ไนท์บาซาร์ดี" เวรุตถามความเห็น

"ไปเดินดูของดีกว่าค่ะ เผื่อมีอะไรดีๆ ไปตกแต่งออฟฟิตใหม่"

"โรสตกแต่งออฟฟิตไปถึงไหนแล้ว ผมยังไม่ได้เข้าไปดูเลยนะ"

"ดีแล้วค่ะ เห็นก่อนจะไม่เซอร์ไพรส์"

"พูดแบบนี้ ผมชักกลัวแล้วสิ สรุปงบให้ผมด้วยนะ"

"ค่ะ คิดว่าไม่เกินอาทิตย์หน้าคงเสร็จเรียบร้อยแล้ว"

"ทำงานเร็วขนาดนั้นเชียว"

"โรสก็แค่บอกพวกเขาว่า คุณต้องการให้เสร็จเร็วที่สุด โอทีไม่เกี่ยง"

"เธอนี่ร้ายจริงๆ" เวรุตเอื้อมไปเกาะกุมมือหญิงสาว

"พูดยังกับคุณไม่ร้ายอย่างนั้นแหละ" โรสวางมืออีกข้างทับมือใหญ่

"งั้นเราก็สมกันแล้วใช่ไหม" เวรุตหันมายิ้มสบตาเร็วๆ ก่อนหันกลับไปมองทาง โรสได้แต่ตอบรับในใจ แอบยิ้มออกไปนอกหน้าต่าง




ทั้งสองกลับเข้าโรงแรมเพื่อล้างหน้าล้างตา แล้วจึงออกไปทานขันโตก ซึ่งเป็นอาหารชุดพื้นเมืองของชาวเหนือ ภายในร้านอาหารบรรยากาศลานนา พร้อมชมการแสดงฟ้อนเล็บไปด้วย หลังจากอิ่มเรียบร้อยแล้วจึงตั้งใจจะออกไปเดินเล่นกันที่ไนบาซาร์ ซึ่งเป็นร้านรวงขายเสื้อผ้า ของตกแต่ง และของที่ระลึก ตลอดแนวถนนที่จัดให้มีเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น

เวรุตวนรถอยู่หลายรอบกว่าจะหาที่จอดได้ ทั้งสองต่างคิดว่ามันเป็นสถานที่ที่น่ากลัวไม่น้อย เพราะลานจอดนั้นอยู่ในพื้นที่บ้านร้าง ค่อนข้างมืด และมีรถจอดอยู่ไม่กี่คัน ไม่แน่ใจว่าเจ้าของบ้านใช้ทำเป็นที่จอดรถเองหรือมีผู้บุกรุกเพื่อทำการค้า

"แน่ใจเหรอคะเว ว่าจะจอดตรงนี้" โรสมองไปรอบๆ สถานที่ดูวังเวงชอบกล

"ก็ไม่มีที่อื่นแล้ว ไม่มีอะไรหรอกน่าโรส คนอื่นเขาก็จอดกัน" เวรุตว่าปลอบ

"ตามใจค่ะ"

ทั้งคู่ลงจากรถ แล้วจับมือกันเดินออกไปจนพ้นเขตประตูรั้ว จึงพบว่ามีชายหนุ่มเดินมาเก็บค่าจอด ทำให้รู้สึกดีขึ้นว่าเขาคงใช้สถานที่ประกอบอาชีพกันทุกคืน

หลังจากเดินเล่นกันเพลินเป็นเวลากว่าสองชั่วโมง และได้ข้าวของติดไม้ติดมือมาพอสมควร หนุ่มสาวเดินคุยกันมาตลอดทางเพื่อจะกลับไปเอารถ ในช่วงสี่ทุ่ม ปรากฏว่ารถคันอื่นๆ หายไปหมดแล้ว รวมทั้งคนเฝ้าที่หน้าประตูด้วย เหลือเพียงรถของทั้งสองจอดอยู่คันเดียว

โรสกุมมือชายหนุ่มแน่น โดยปราศจากคำพูด เขารู้ว่าเธอกลัวบรรยากาศรอบตัวเพียงใด ไม่น่าเชื่อว่าจะมีบ้านเก่าทิ้งร้างแบบนี้อยู่กลางเมือง ทำเอาเวรุตเสียความมั่นใจไปบ้าง แต่ก็ไม่แสดงออก ทั้งสองเดินมาจนถึงตัวรถ ใส่ข้าวของที่อยู่ในมือไว้บนเบาะหลังหมดแล้ว เตรียมจะเปิดประตูให้โรสขึ้นนั่ง จู่ๆ แสงไฟสีเหลืองจากหน้าต่างบานนึงในบ้านหลังนั้นก็สว่างพรึบขึ้น และมีเงาของใครบางคนยืนอยู่ตรงนั้นด้วย โรสกรี๊ดขึ้นทันที โผเข้ากอดชายหนุ่ม

"รีบไปกันเถอะโรส" เวรุตว่าพลางรีบเปิดประตูออกให้หญิงสาวขึ้นนั่ง ทั้งที่ไม่รู้ว่าเงานั้นคืออะไร และเขาก็ไม่อยากรู้เสียด้วย ชายหนุ่มรีบอ้อมไปเปิดประตูฝั่งคนขับ แล้วสตาร์ทรถเคลื่อนออกจากบริเวณบ้านร้างนั้นทันที

"เงาที่เห็นต้องเป็นผีแน่ๆ เลยค่ะเว" โรสพูดขึ้นเมื่อรถแล่นอยู่ถนนบนพลุกพล่านไร้ความน่ากลัวแล้ว

"โรสตั้งใจจะพูดให้ผมกลัว หรือพูดให้ตัวเองกลัวกันแน่" เวรุตว่าล้อ

"นั่นน่ะสิคะ" หญิงสาวนึกขำตัวเอง แล้วชวนเปลี่ยนเรื่อง

"พรุ่งนี้ไปเที่ยวไหนกันดีคะ"

"เดี๋ยวอาบน้ำแล้ว เรามาช่วยกันเช็คสถานที่กับเส้นทางอีกทีดีกว่านะ"

"แล้วคุณไม่มีธุระอะไรแล้วเหรอคะพรุ่งนี้" โรสถามอย่างรู้ทัน

"ผมโทรไปเลื่อนเป็นปีหน้าแล้วล่ะ"...

"คนเจ้าเล่ห์" ...




โรสนอนคว่ำอยู่บนเตียงกำลังเลือกดูสถานที่ท่องเที่ยวผ่านพีซีแท็บเล็ทคู่ใจอยู่เพลินๆ เวรุตก็ทิ้งตัวลงมาข้างๆ บนที่นอนนุ่ม

"ขอดูบ้างสิ" ชายหนุ่มคว้าคอมมาถือไว้ในมือหน้าตาเฉย

"คุณนี่ไร้มารยาทจริงๆ" โรสขึ้นไปนอนคว่ำอยู่บนหลังชายหนุ่มแล้วเกยคางไว้บนไหล่เขา เพื่อดูหน้าจอไปด้วยกัน

"ดูจากเส้นทางแล้ว พรุ่งนี้เราน่าจะขึ้นดอยปุยก่อน แล้วก็ลงมาไหว้พระที่ดอยสุเทพ แล้วค่อยไปพระตำหนักภูพิงค์"

"แล้วช่วงบ่ายล่ะคะ"

"ขึ้นดอยอินทนนท์ดีไหม ระหว่างทางคงเที่ยวได้อีกสองสามที่"

"เราไปไร่สตรอเบอร์รี่ด้วยได้ไหมคะ"

"ไว้ไปวันอาทิตย์ดีกว่า จะได้ซื้อกลับไปฝากที่บ้านด้วยดีไหม"

"อืม โอเคค่ะ"

"เอาล่ะ จบรายการเที่ยวแล้ว" เวรุตพลิกตัวกลับ ในจังหวะที่โรสกำลังจะขยับออก เขารวบกอดร่างบางจนลงมานอนแนบอยู่กลางอกกว้าง

"อย่าทำบ้าๆ โดยที่คุณก็ไม่มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองนะคะเว" โรสว่าเตือนสติ

"ผมยังไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย" เวรุตพลิกตัวอีกครั้ง หญิงสาวก็กลับมาอยู่ใต้ร่างเขาทันที

"ฉันไม่ใช่..." ริมฝีปากบางถูกประกบลงทันที ก่อนที่คำพูดทักท้วงจะหลุดออกมา ความอ่อนหวานดูดดื่มทำให้ทั้งสองหลุดเข้าสู่ภวังค์ไปชั่วขณะ

"ผมรู้ว่าผมจูบโรส ไม่ใช่ลี่" เวรุตถอนริมฝีปากออก แล้วพูดให้หญิงสาวหายข้องใจ

"นอนได้หรือยังคะ พรุ่งนี้จะออกไปเที่ยวแต่เช้าไม่ใช่เหรอ" โรสเปลี่ยนเรื่องด้วยใบหน้าเรื่อ

"กู๊ดไนท์ครับโรส" เวรุตโน้มลงหอมที่หน้าผากอีกครั้ง เอื้อมไปปิดไฟ แล้วทิ้งตัวลงนอนรวบกอดร่างบางจนแผ่นหลังแนบชิดแผ่นอกกว้าง

"กู๊ดไนท์ค่ะ" โรสเกาะกุมมือชายหนุ่มด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจ แล้วหลับไปในเวลาอันรวดเร็ว




หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรมแล้ว โรสและเวรุตก็ออกไปเที่ยวตามสถานที่ที่ตั้งใจไว้

"อากาศบนนี้หนาวจังเลยนะคะ" โรสห่อไหล่ในผ้าคลุมที่เพิ่งซื้อมาเมื่อคืน

"บรรยากาศอย่างนี้สิ เหมาะกับการฮันนีมูนสุดๆ" เวรุตว่าล้อแล้วโอบรอบไหล่หญิงสาว ขณะเดินชมร้านรวงขายสินค้าแฮนด์เมดของพวกชาวเขา

"บ้า คุณนี่ไม่โรแมนติกเอาซะเลย" โรสว่าเหน็บแล้วแอบยิ้มขำ

"ตรงไหน" ชายหนุ่มกระเซ้าถาม

"ตรงที่พามาฮันนีมูนบนดอยนี่ไงคะ"

"อ้าว ผมก็นึกว่าโรสจะดีใจ ที่ได้มาเยี่ยมญาติ"

"นี่แน่ะ! เยี่ยมญาติ" โรสโอบแขนไปรอบเอวชายหนุ่มแล้วหยิกเข้าให้



พอเดินเล่นบนดอยปุยจนทั่วแล้ว ทั้งสองก็ขับรถลัดเลาะลงมาที่ดอยสุเทพ แต่ครั้นเห็นทางขึ้นวัดแล้วก็ต้องถอดใจ เพราะคงต้องใช้พลังงานมิใช่น้อย โชคดีที่มีลิฟท์กระเช้าไว้บริการ หลังจากไหว้พระและเวียนเทียนรอบพระธาตุร่วมกันแล้ว หนุ่มสาวก็ผลัดกันโพสท่าถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกจากกล้องในมือถือ


"ต๊าย! หล่อนดูนั่นสิ นั่นไฮโซหนุ่มเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พาเมียมาเที่ยวที่นี่ด้วยเหรอ" หญิงสาวนางหนึ่งเอ่ยทักให้เพื่อนๆ ในกลุ่มสามสี่คนหันไปดู

"ใครอ่ะ จี๊ด" สาวร่างบางระหง สวยโดดเด่นที่สุดในกลุ่มถามด้วยความสนใจ

"คุณเวรุต เจ้าของบริษัท Way2Win ที่ทาบแกไปเป็นพรีเซนเตอร์คอนโดหรูนั่นไง" จี๊ดตอบเพื่อนสาวระดับซุปตาร์เต็งหนึ่งของเมืองไทย

"จริงอ่ะ! งานนี้พลาดไม่ได้เลยนะพีช" เพื่อนอีกคนเชียร์ด้วยความตื่นเต้น

"ก็จริงน่ะสิ แต่เสียดายว่ะ เพิ่งมีเจ้าของไปหมาดๆ นี่เอง" จี๊ดทำท่าเสียดายซะเต็มประดา

"ของมีกรรมสิทธิ์แบบนี้ มันเปลี่ยนมือกันได้ซะด้วย" พัดชารู้สึกถูกใจชายหนุ่มตั้งแต่แรกเห็นราวได้ทำบุญร่วมกันมาแต่ชาติปางก่อน พรหมลิขิตจึงบันดาลชักพาให้ได้มาพบกันใต้ร่มกาสาวพัสตร์แห่งนี้ และโดยไม่ใส่ใจถึงบาปบุญคุณโทษ หญิงสาวเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่ซึ่งกำลังถ่ายรูปร่วมกันอยู่อย่างมาดมั่น เพราะเชื่อว่าตนนั้นกินขาดในเรื่องรูปลักษณ์

"ยัยพีชมันเอาจริงว่ะ" เพื่อนๆ ต่างมองตามอย่างลุ้นระทึก เพราะรู้ว่าพัดชานั้นไม่เคยพลาดในสิ่งพึงประสงค์


"สวยครับ เดี๋ยวลงไปข้างล่างแล้วรับรูปที่ทางออกได้เลยนะครับ" ช่างถ่ายภาพมืออาชีพบอกกล่าวเวรุตและโรส เมื่อทั้งสองตกลงใช้บริการถ่ายรูปของช่างประจำในบริเวณวัด ที่คอยชักภาพสวยๆ ให้นักท่องเที่ยวเก็บไว้เป็นที่ระลึก

"สวัสดีค่ะ คุณเวรุต" เสียงหญิงสาวที่เข้ามาใหม่เอ่ยทัก

"สวัสดีครับ" เวรุตหันมองสาวสวยตรงหน้าแล้วทักกลับ ทั้งที่ยังนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าเธอเป็นใคร

"จำพัดชาได้ไหมคะ" หญิงสาวถอดแว่นกันแดดออกแล้วส่งยิ้มหวาน ไม่สนใจคนที่ยืนข้างๆ ชายหนุ่มซักนิด เวรุตนิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะนึกออกว่าเธอเป็นดาราละครหลังข่าวซึ่งกำลังดังและมาแรงอยู่ในขณะนี้

"ครับ" เวรุตตอบรับสั้นๆ

"พัดชาเพิ่งจะรับเป็นพรีเซนเตอร์ให้บริษัทคุณ ต่อไปคงมีโอกาสได้ร่วมงานกันอีกมากนะคะ" หญิงสาวเอ่ยอ้างทั้งที่เพิ่งรู้จากเพื่อนสาวเมื่อครู่ หากแต่คิดว่างานนี้ตนคงไม่พลาดแน่

"ยินดีครับ นี่ราดา ภรรยาผม" เวรุตแนะนำ

"สวัสดีค่ะ" พัดชายิ้มทักด้วยสีหน้าและน้ำเสียงหวานใส หากแต่แววตานั้นกลับส่อความรู้สึกตรงข้าม

"สวัสดีค่ะ" โรสยิ้มตอบแบบขอไปที เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่จริงใจ

"ไหนๆ มาเจอกันแล้ว ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกด้วยกันหน่อยนะคะ" พัดชาว่าแล้วส่งสัญญาณให้ตากล้องคนเดิม

"จะไปไหนล่ะที่รัก" เวรุตรีบคว้าแขนโรสไว้ ให้มาเข้ากล้องด้วยกัน เพราะรู้ดีว่าต้องตกเป็นข่าวคาวแน่ หากถ่ายรูปคู่กับพัดชาสองต่อสอง ซึ่งเขาก็ไม่ชอบตกเป็นข่าวเสียด้วย

พัดชาตั้งใจยืนเอียงหันเข้าหาชายหนุ่มจนหน้าอกเบียดชิดกับต้นแขน และเกาะกุมมือเขาไว้ราวกับสนิทสนมกันมาช้านาน

"แฟนคลับคุณมาโน่นแล้ว ผมกับภรรยาขอตัวก่อนนะครับ" เวรุตว่าเมื่อเห็นกลุ่มวัยรุ่นซึ่งมุงดูกันอยู่ซักพักแล้ว ตั้งท่าจะเข้ามาขอถ่ายรูป

"แล้วพบกันนะคะ" พัดชาว่าด้วยแววตาและน้ำเสียงสื่อความหมายไปให้ชายหนุ่ม ก่อนจะหันไปสนใจกลุ่มแฟนๆ




"คนเมื่อกี้เป็นใครคะเว" โรสถามเมื่อทั้งสองนั่งอยู่ในรถเพื่อไปยังจุดหมายต่อไป

"เขาเป็นนางเอกละครหลังข่าว กำลังดังเลยตอนนี้ โรสไม่รู้จักเหรอ"

"คอละครต้องยกให้ยัยลี่ค่ะ โรสไม่ค่อยได้สนใจติดตาม"

"ตัวจริงสวยไม่เบาเลยทีเดียว" เวรุตออกความเห็น

"อีกหน่อยได้ร่วมงานกัน คงสวยวันสวยคืนกว่านี้อีกค่ะ" โรสว่าประชดซะงั้น

"เป็นอย่างนั้นได้ก็ดีนะ คอนโดเราจะได้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า" ชายหนุ่มทำไม่รู้ไม่ชี้ กุมมือบางขึ้นจูบทำให้หญิงสาวอารมณ์ดีขึ้นมาได้

การท่องเที่ยวกินลมชมวัง ดื่มด่ำไปกับอากาศบริสุทธิ์บนยอดดอยที่สูงที่สุดในเมืองไทย จึงเป็นไปอย่างชื่นมื่นตลอดการเดินทาง...





















Create Date : 04 กันยายน 2554
Last Update : 7 กันยายน 2554 16:59:32 น. 17 comments
Counter : 393 Pageviews.

 
เฮ้อ ยามรัก ไข่ต้มไม่ยักกะติดคอนิ


โดย: Pa_Stang วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:19:36:59 น.  

 
ยามชัง ปาศีรษะก็แตกใช่ไหมคะ


โดย: Kim-Ha วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:19:40:51 น.  

 
ไข่อะไรหนอทำศีรษะแตก หินเป็นไข่ รึไข่เป็นหิน


ซึมลึกไงไม่รู้คะ สงสัยเมาสถิติ ลมยังออกหูอยู่เลยคะ รึเข้าวัยทองแข่งกะนักแสดงหลังข่าวของน้องคิมก็ไม่รู้นะคะ


โดย: Pa_Stang วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:20:03:26 น.  

 
อายุแค่นี้เขาเรียกวัยสะสมทองค่ะ

บางทีถึงบ้านแล้วเรื่องที่อื่นต้องโยนกองไว้นอกประตูค่ะ ไม่งั้นจะเครียดสะสม


โดย: Kim-Ha วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:20:15:39 น.  

 
มีดารารับเชิญด้วย บรื้อ



โดย: Pa_Stang IP: 202.91.19.169 วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:22:00:18 น.  

 
เหตุการณ์นี้ของจริงค่ะ แต่คนที่ไปประสบมาเป็นพี่สาวกะฝาชี ที่ไปจอดรถด้วยกัน แถมขากลับพี่สาวไม่ยอมไปด้วย ปล่อยให้ฝาชีน้องไปเอารถคนเดียวอีก


โดย: Kim-Ha วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:22:04:07 น.  

 
ทำเหรียญกล้าหาญให้ด้วยรึเปล่าคะน้องคิม เป็นพี่ หึหึ หลายคนฉุดก็ไม่ไป บรื้อ ขนลุก


แฟนพันธ์แท้หาย


โดย: Pa_Stang วันที่: 5 กันยายน 2554 เวลา:17:21:57 น.  

 
แค่กลับมาเผาพี่สาวใหญ่เลยค่ะ หาว่าไม่ยอมไปเป็นเพื่อน อิอิ

คงติดซ้อมขึ้นคอนฯใหญ่กันอยู่มั้งคะ

คืนนี้ไม่รู้ฟีลจะมาหรือเปล่า


โดย: Kim-Ha วันที่: 5 กันยายน 2554 เวลา:18:57:51 น.  

 
แค๊กๆๆๆ ไข่ต้มติดคอ
รึว่าสำลักความหื่น เอ้ย! ความหวานกันแน่หว่า


คุณชายเว กะคุณหนูกุหลาบไปซื้อของที่ไนท์บาซาร์ก็ไม่บอกอ่ะพี่หญิง
เผื่อไปซื้อตามร้านบรรดาญาติๆ ของน้อง...จะได้โทรบอกให้เค้าลดให้ 50%

แหล่งทำมาหากินเก่าของน้องค่ะ ไปเป็นแม่ค้าอยู่ที่นั่นเป็นปี ก่อนจะเร่ร่อนมาทะเลต่ออ่ะค่ะ

น้องรู้แล้วว่าบ้านโบราณเป็นที่ให้จอดรถได้น่ะ อยู่ตรงไหน...เพราะเวลาผ่านน้องก็รู้สึกขนลุกเหมือนกันค่ะ บรึ๊ยยยย
(แต่น้าชายของน้อง แกก็เอารถไปจอดที่นั่นบ้างเป็นบางครั้ง...เคยถามแก ก็บอกไม่มีอะไรนะคะ...สงสัยเจ้าที่คงจะเลือกต้อนรับเฉพาะนักท่องเที่ยวอ่ะค่ะ )



โดย: Wonderfulmoon วันที่: 5 กันยายน 2554 เวลา:22:16:26 น.  

 
ยังงี้ว่างๆ ต้องพาน้องกันกะนู๋แกรนด์ไปเที่ยวบ้างเน้อ คนพื้นที่เก่าต้องรู้ลึกกว่าพี่หญิงแน่นอน ไม่กล้าสาธยายมากเพราะจำได้เลือนๆ รางๆ

บ้านหลังที่ว่าพี่หญิงก็ยังไม่เห็นกะตาตัวเอง ถ้าได้กลับไปอีก คงต้องมองๆ หาหน่อยแล้ว ว่าน่ากลัวสมคำร่ำลือป่ะ


โดย: Kim-Ha วันที่: 5 กันยายน 2554 เวลา:23:45:51 น.  

 
พี่ไม่ตาม ไม่ถามหานะคะ บ้านที่ว่านะแบบว่ากลัวใจเจ้าลูกช้าง กลัวมานมาไปดู...ของจริง


โดย: Pa_Stang วันที่: 6 กันยายน 2554 เวลา:4:07:45 น.  

 
เม้นท์ซะเกือบเช้า เพิ่งนอนหรือเพิ่งตื่นคะเนี่ย

ที่อยู่ในเรือนนั้นอาจเป็นคุณหลวงที่รอพี่ตังค์อยู่ก็ได้นะคะ


โดย: Kim-Ha วันที่: 6 กันยายน 2554 เวลา:9:56:17 น.  

 
เก็บเอาไว้เป็นพล็อตเรื่องใหม่ดีไหมคะ อิอิ เมื่อเช้านั่งคิดไปคิดมาได้ไอเดียบรรเจิดอีกแล้วค่ะ จาเขียนไม่จบซักเรื่องก็งี้แหละค่ะ


โดย: Kim-Ha วันที่: 6 กันยายน 2554 เวลา:9:58:19 น.  

 
เมื่อคืน ไม่ใช่สิเมื่อเช้า การบ้านร้อนๆเพิ่งออกจากเตา เลยแวะเข้าเรือนก่อนนอน ทำงานต้องทำตาโตๆ แล้วก็เดินไปเดินมาเข้าไว้ ไม่งั้น

คืนนี้อาจงีบยาว เลยแอบเลาะรั้วเรือนเชื่อไว้ก่อนคะ


โดย: Pa_Stang วันที่: 6 กันยายน 2554 เวลา:14:54:02 น.  

 
งีบได้เลยค่ะ เดี๋ยวน้องอยู่เวรให้ คืนนี้นอนน้องนอนดึกดื่นได้ค่ะ


โดย: Kim-Ha วันที่: 6 กันยายน 2554 เวลา:19:16:48 น.  

 
อืมมมม มือที่สามมาแระ

อากาศบนดอยคงไม่หนาวซะแล้ว^^


โดย: จุ๋ม IP: 127.0.0.1, 118.172.139.49 วันที่: 7 กันยายน 2554 เวลา:16:02:44 น.  

 
ยังค่ะคุณจุ๋ม เอาเก็บไว้หากินตอนต่อไป


โดย: Kim-Ha วันที่: 7 กันยายน 2554 เวลา:16:32:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kim-Ha
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




จิ้นกระจาย ^^


Smileymissmynovel@gmail.com






Friends' blogs
[Add Kim-Ha's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.